ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

::: HIEROLGY ZONE :::มุมเล่าเรื่อง => มุมเล่าละครพื้นบ้าน => ข้อความที่เริ่มโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 06, 2010, 08:16:51 PM

หัวข้อ: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 06, 2010, 08:16:51 PM
กันย์ก็ชอบเรื่องนี้มากมาย ได้แผ่นมาเป็นชาติแต่ดูยังไม่เคยจบเลยแหะๆที่จริงดูนานแระแต่ก็ลืมไปหมด ช่วงนี้ว่างๆ(หรอ?)

เลยอยากมาเล่าเรื่องนี้ในบอร์ดบ้างอะไรบ้างอ่า^^

ปล.ถ้าจำไม่ผิดนะ ในแผ่นกันย์อาจโดนตัดบ้าง เพราะว่าตอนดูเมื่อก่อนรู้สึกว่ามันมากกว่านี้ไรเงี๊ยแบบจำได้ว่าดูคราวก่อน(นู้น)ก็รู้สึกเหมือนมันโดนตัดล่ะ ไงจะหาข้อมูลตรงที่ขาดหายไปให้นะคะ^^

~มโหสถชาดก~


(http://img693.imageshack.us/img693/3327/title1s.jpg)




http://www.youtube.com/v/FgoGvs7mFo8?fs=1&hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash





(http://img18.imageshack.us/img18/4985/m028.jpg)    (http://img107.imageshack.us/img107/3900/m032d.jpg)
มโหสถ(โต)                                                                                                     มโหสถ(เด็ก)

(http://img87.imageshack.us/img87/9168/m029.jpg)
พระเจ้าวิเทหราช แห่งมิถิลานคร

(http://img265.imageshack.us/img265/7783/m030.jpg)    (http://img192.imageshack.us/img192/9173/m031w.jpg)
เศรษฐี สิริวัฒกะ(พ่อ) แห่งหมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคาม                                                            นางสุมนาเทวี(แม่)

(http://img195.imageshack.us/img195/8664/m033o.jpg)
บัณฑิตทั้งสี่แห่งมิถิลานคร

(http://img177.imageshack.us/img177/6739/m020.jpg)     (http://img215.imageshack.us/img215/1974/m019.jpg)
เสนกะ                                                                                                           กามินท์

(http://img177.imageshack.us/img177/3001/m018.jpg)     (http://img694.imageshack.us/img694/1234/m027.jpg)
ปุตกุสะ                                                                                                          เทวินทะ




ราชบุรุษทั้งสี่แห่งมิถิลานคร

(http://upic.me/i/qw/tv9rq.jpg)           (http://upic.me/i/xr/r37vn.jpg)
ไชยันต์                                                                                                         มารุต

(http://upic.me/i/cq/sz6sc.jpg)            (http://upic.me/i/xi/a2y1e.jpg)
ราเมธ                                                                                                           วิรุณ




ตัวละครอื่นๆ

(http://upic.me/i/x9/fw43r.jpg) (http://upic.me/i/p0/ors2u.jpg) (http://upic.me/i/o5/uqhai.jpg)
กมลา - อินทิรา - มาลาตี  (เด็กๆบ้านมโหสถ)

(http://upic.me/i/sz/av7xr.jpg) (http://upic.me/i/hw/h7hvw.jpg) (http://upic.me/i/xy/jjrh0.jpg)
แม่หมอ - อับดุล - แม่เมตตา (คนรับใช้บ้านมโหสถ)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ เมษายน 06, 2010, 08:35:03 PM
ขอต้อนรับนักเล่ามือใหม่อีกคนค่ะ เข้ามาปาดกระทู้ และปักหมุดให้ด้วย อิอิ  :icon_evil:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ เมษายน 06, 2010, 08:37:54 PM
ว้าวๆๆๆๆ  :-\ รอให้พี่กันย์มาเล่าเร็วๆ   :icon_rolleyes:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 06, 2010, 09:16:41 PM
ปล.อาจจะอธิบายยาวยืดเป็นวาไปหน่อยนะคะ เพราะไม่อยากทิ้งรายละเอียดไป มันสำคัญต่อการใช้ปัญญาของมโหสถ^^ (เกี่ยว?) มือใหม่หัดเล่าน๊า แหะๆ :'(



ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมโหสถ ทรงจุติลงมาในครรภ์ของนางสุมนาเทวี
มาเป็นบทเสภาเลยทีเดียวว่า ครั้งนั้น สัตตดุสิต(ไม่แน่ใจนะคะฟังไม่ถนัดโทษน๊า>o<) ผู้สถิตพิมานหรรษา จึงถึงซึ่งกาลเวลา ลงมาจุติโดยพลัน
(http://img522.imageshack.us/img522/7109/mhs001.jpg)


พรั่งพร้อมทั้งเหล่าเทพบุตร เรวรุษตามมาจากสวรรค์นับได้ถึงหนึ่งพัน สร้างสรรค์ปัญญาบารมี
(http://img532.imageshack.us/img532/8884/mhs002.jpg)


พระเจ้าวิเทหราชทรงพระสุบินว่า ที่มุมพระลานหลวงทั้ง ๔ มุม มีกองเพลิง ๔ กองประมาณเท่ากำแพงใหญ่ลุกโพลง ในท่ามกลางกองเพลิงทั้ง ๔ นั้น มีกองเพลิงเล็กกองหนึ่งขนาดประมาณเท่าหิ่งห้อย ลุกโพลงล่วงเลยกองเพลิงทั้ง ๔ ลุกสูงขึ้นไปจนจดประมาณอกนิฏฐพรหมโลก ส่องแสงสว่างไปทั่วจักรวาล สิ่งที่ตกบนพื้นแม้มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดก็สามารถมองเห็น ทั้งเทวดา ทั้งมาร ทั้งพรหมมาบูชากองไฟนั้น ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น มหาชนเที่ยวอยู่ในระหว่างเปลวเพลิง ก็มิได้ร้อนแม้สักว่าขุมขน
(http://img641.imageshack.us/img641/8004/mhs003.jpg)
(แคปมาแค่นี้นะคะแอบขี้เกียจนิดนุงอิอิ ความจริงมีพวกเทวดานางฟ้ามาดูโปรยดอกไม้ มีน้องช้างมาหมอบกราบด้วย)


รุ่งเช้าพระเจ้าวิเทหราชก็นำความฝันมาปรึกษาแก่ราชบัณฑิตทั้งสี่
ท่านเสนกะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทำนายทายทักก็กล่าวว่า อันพระสุบินนั้นเป็นศุภมงคลที่ล้ำเลิศ พระองค์จะทรงจำเริญด้วยศุภักดิ์สวัสดิ์พิพัฒน์มงคลยิ่งแล้วพระเจ้าค่า
ท่านกามินท์ก็เสริมอีกว่า คนอื่นจะเกิดเป็นบัณฑิตคนที่ห้า เหนือกว่าข้าพระองค์ทั้ง4ซึ่งเป็นบัณฑิตทำให้หมดรัศมี เพราะบัณฑิตทั้งสี่ก็เปรียบเสมอดวงไฟทั้ง4กอง จะเกิดบัณฑิตคนที่ห้าเสมือนกองไฟท่ามกลาง
(http://img29.imageshack.us/img29/8180/mhs004.jpg)


ราชบัณฑิตปุตกุสะ ขยายความอีกว่าอันพระเพลิงนั้นย่อมจะรู้ทั่วไปว่าเป็นของร้อนสามารถแผดเผาแม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดเพลิงเองแต่พระเพลิงในพระสุบินนั้นปราศจากลักษณะที่กล่าว แต่กลับให้ความสว่างไสวร่มเย็นเป็นสุขแก่ปวงชน อุปมาเหมือนเป็นนิมิตหมายแห่งปรีชาญาณและจะยังประโยชน์ให้แก่ปวงชนทั่วไป
พระเจ้าวิเทหราชได้สดับก็ยินดียิ่งจึงทรงถามต่อ.. แล้วบัดนี้บัณฑิตผู้นั้นอยู่แห่งใดท่านอาจารย์พอจะบอกเราได้หรือไม่
กามินท์ จึงกราบทูลว่า วันนี้อาจจะเป็นวันที่มหาบัณฑิตคนนั้นถือปฏิสนธิในครรภ์มารดาหรือไม่ก็อาจจะคลอดจากครรภ์มารดาแล้วก็ได้พระเจ้าค่า
(http://img149.imageshack.us/img149/3074/mhs005.jpg)


มาที่บ้านเศรษฐีสิริวัฒกะ
เศรษฐีตื่นเต้นถามว่าลูกเป็นหญิงหรือชายเมื่อรู้ว่าเป็นลูกชายก็ดีใจใหญ่ แม่เมตตาก็เล่าว่าเด็กคนนี้คลอดง่ายเหมือนไหลอกมาจากท่อน้ำ โบราณว่าเด็กคลอดแบบนี้จะ บุญหนักศักดิ์ใหญ่โตขึ้นเป็นเจ้าคนนายคน
ขณะนั้นอับดุลก็วิ่งโวยวายขึ้นมาว่าเกิดเรื่องใหญ่ เพราะมีเด็กที่คลอดในวันเดียวกันนี้ถึง1000คนในหมู่บ้านนี้สร้างความประหลาดใจให้กับ...เศรษฐีสิริวัฒกะยิ่งนัก
(http://img9.imageshack.us/img9/6301/mhs006.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 06, 2010, 09:28:26 PM
องค์ท้าวสักกะเทวราชประทับอาสน์เลเล็งเห็นผลองค์พระโพธิสัตว์บัดดลแล้วเดินสายศลกลใน
ใคร่ประกาศศักดาอานุภาพ ให้ทราบทั่วไปไกลใกล้ แห่งองค์มโหสถทรงชัย ปรากฏสืบในโลกกา
องค์ท้าวศักกะอธิราชเอามโหสถ(ยา)ใส่มือเด็กน้อยไว้ก่อนไปไม่วายแอบหยอกแม่นมให้กลัวเล่นอีกตะหาก(แต่กันย์ไม่ได้ตัดแปะมาด้วย อิอิ)
ทายซิว่าเด็กน้อยคนนี้คล้ายใครน๊า คุ้นๆ 55+
(http://img10.imageshack.us/img10/6473/mhs007.jpg)


แม่หมอจึงออกมาถามว่านายท่านจะไปเยี่ยมนายหญิงกับลูกมั้ย แต่เศรษฐีก็ว่าเอาไว้ก่อนไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อน แต่ทันใดนั้นโรคปวดหัวเรื้อรังของสิริวัฒกะก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง
ขณะนั้นเองนางสุมนาเทวีที่หลับอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงเด็กเรียก ท่านแม่ๆ นางจึงตื่นขึ้นมาดู ก็พบกับยาในมือลูกน้อยจึงเรียกแม่หมอ แต่ก็ได้ยินเสียงเด็กเรียกท่านแม่อีกครั้งก็แปลกใจ จึงตั้งใจฟัง เสียงเด็กน้อยบอกให้นางให้โอสถแท่งนั้นรักษาอาการของท่านพ่อและคนอื่นๆเถิด
(http://img19.imageshack.us/img19/5136/mhs008.jpg)


นางสุมนาเทวีจึงเอายามโหสถไปรักษาสามีจนหายขาดจากอาการปวดหัวเรื้อรังมา7ปี เศรษฐีบอกว่าจะใช้โอสถแท่งนี้รักษาบุคคลทั่วไปตามประสงค์ของบุตรเรา
นางถามเรื่องตั้งชื่อบุตร สิริวัฒกะว่า บุตรของเรากำเนิดขึ้นมาถือแท่งโอสถมาด้วย จึงให้นามว่า "กุมารมโหสถ"
(http://img210.imageshack.us/img210/3856/mhs009.jpg)


องค์กษัตริย์ได้เรียกบัณฑิตทั้ง4มาเรื่องที่พวกเขาได้ทำนายศุภนิมิตของพระองค์ไว้มาจนบัดนี้ได้7ปีแล้ว จึงว่า มหาบัณฑิตคนที่5ของข้าคงจะเติบโตพอที่จะฉายแววอันใดมาได้บ้างแล้วกระมัง
พระองค์บอกว่าจะส่งราชบุรุษออกไปสืบดู พวกท่านจะว่าอย่างไร ราชบัณฑิตทั้งสี่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วก็จำใจบอกว่าเป็นดำริอันชอบแล้ว
พระองค์จึงสั่งให้ราชบุรุษไปสืบหาราชบัณฑิตคนที่ห้าแล้วกลับมารายงานให้พระองค์ทราบโดยเร็วที่สุดท่ามกลางความหวาดระแวงของบัณฑิตทั้ง4ว่าเด็ก7ขวบจะมีหน้ามีตาเหนือกว่าพวกตน
(http://img340.imageshack.us/img340/1677/mhs010.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 06, 2010, 09:30:05 PM
ขอต้อนรับนักเล่ามือใหม่อีกคนค่ะ เข้ามาปาดกระทู้ และปักหมุดให้ด้วย อิอิ  :icon_evil:

ขอบคุณค่ะ^^

ว่าแต่เล่าเรื่องนี่โคตรเหนื่อยเลยแฮะ รู้ซึ้งจริงๆ

เด๋วไว้มาเล่าให่ไปทำพรีเซ้ต์ก่อนวอกแวกมานานแสน55+
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ เมษายน 06, 2010, 09:55:45 PM
ขอต้อนรับนักเล่ามือใหม่อีกคนค่ะ เข้ามาปาดกระทู้ และปักหมุดให้ด้วย อิอิ  :icon_evil:

ขอบคุณค่ะ^^

ว่าแต่เล่าเรื่องนี่โคตรเหนื่อยเลยแฮะ รู้ซึ้งจริงๆ

เด๋วไว้มาเล่าให่ไปทำพรีเซ้ต์ก่อนวอกแวกมานานแสน55+


มาเล่าต่อเร็วๆนะคะ ตอนนี้อาการหนูยัง  :icon_mad: เครียดมาก อยากเล่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 06, 2010, 10:39:26 PM
ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก   :icon_question:
ตกใจหมดเลยพี่กันย์

มโหสถชาดก  กาฬกะไว้ว่าจบอิเหนาจะเล่าเรื่องนี้ต่อซะหน่อย (แต่ยังไม่ได้ซื้อ)
เข้ามาเจอกระทู้มโหสถ  กาฬก็ เง้ออออ  :icon_redface:

แต่ไม่เป็นไรค่ะ  เราได้พี่กันย์มาเป็นผู้เล่าเรื่องอีกคนนึงแล้ว 
ซื้อแผ่นมาจากไหนอ่ะคะ แล้วคุณภาพโอเคป่ะ  กาฬจะได้ไปเปรียบเทียบกับที่กาฬจะซื้อว่า ที่ไหนดีกว่า


คุณติ๊ก หล่อมากกกกกกก ใสกิ๊ง   >:D



รูปเพิ่งขึ้น  หนึ่ง มาฬิศร์ เหมาะสมแล้วกับบทมโหสถ  แถมการแต่งหน้าก็เนี๊ยบได้อีก 
ภาพสวยจริงๆ พี่กันย์  น่าเอาไปใช้อย่างอื่นได้อีกนะ  คิกคิก  แผนชั่วร้าย  :'(
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: Moon ที่ เมษายน 07, 2010, 08:03:15 AM
ชอบมากๆเลยค่ะพี่กันย์ มาต่อไวๆนะคะ   :icon_question: 
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ เมษายน 07, 2010, 01:13:38 PM
กรี๊ดดดดดด แวะมาให้กำลังใจน้องกันย์ ด้วยคนจ้า ขอบอกว่าเรื่องนี้ชอบมากๆ
ที่อย่างลงตัวหมดทั้งนักแสดงบท และองค์ประกอบอื่นๆ เป็นละครจักรๆวงศ์ๆในดวงใจอีกเรื่อง
ขอบอกว่า เรื่อง นี้ เป้ฯ ละครจักรๆวงศ์เรื่องเดียวที่ได้รับรางวัลมากที่สุด แถมชนะ สายโลหิต
ที่มีการมอบรางวัลในปีนั้นด้วย แต่ก่อนไม่ซีจีแต่เชื่อไหมว่าฉากหลัง ของมโหสถ พี่ลอร์ด
เป็นคนทำ และได้รับรางวัลด้วยล่ะ จำชื่อรางวัลไม่ได้ เกี่ยวกำกับศิลปืหรือไรเนี่ยแหละ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 07, 2010, 01:15:44 PM

ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก   :icon_question:
ตกใจหมดเลยพี่กันย์

มโหสถชาดก  กาฬกะไว้ว่าจบอิเหนาจะเล่าเรื่องนี้ต่อซะหน่อย (แต่ยังไม่ได้ซื้อ)
เข้ามาเจอกระทู้มโหสถ  กาฬก็ เง้ออออ  :icon_redface:

แต่ไม่เป็นไรค่ะ  เราได้พี่กันย์มาเป็นผู้เล่าเรื่องอีกคนนึงแล้ว 
ซื้อแผ่นมาจากไหนอ่ะคะ แล้วคุณภาพโอเคป่ะ  กาฬจะได้ไปเปรียบเทียบกับที่กาฬจะซื้อว่า ที่ไหนดีกว่า


คุณติ๊ก หล่อมากกกกกกก ใสกิ๊ง   >:D

อ้าวจิงดิ!!งั้นกาฬเล่าแทนพี่เรยดีมั้ย? (คิกๆโบ้ยเฉย ฮ่าๆ) ก็กาฬเล่าเก่งดีนี่นา ใจจริงก้ำกึ่งอยู่ระหว่างสองเรื่องว่าจะเล่า เรื่องนี้ หรือ มิติมหัศจรรย์ดี แต่สุดท้ายเลือกเรื่องนี้ดีกว่าเพราะมีแค่สองแผ่นดีวีดีเอง(คิดว่าคงโดนตัดมั่งล่ะ) อีกอย่างเรื่องโน้นพี่บอยปริญญาแกเสียแล้วพี่มะกล้าเล่าแฮะแต่ก็อยากเล่านะ-*- (อินี่หลายใจ)

เรื่องแผ่นหรอ ของพี่แผ่นแย่มากอ่ะ แผ่นแรกกระตุกเยอะมั่กเลย แต่ก็พอดูรู้เรื่องอ่ะนะ ส่วนแผ่นสองนี่ค่อยดีหน่อยใช้ได้
แต่พี่ว่าภาพไม่เห็นชัดเลยอ่ะกาฬโคตรๆ เลยคิดว่าไม่น่าใช้ในกาลอื่นได้น่ะ หุหุ


ปล.กาฬว่าเด็กน้อยทารกที่เป็นหนูน้อยมโหสถเป็นคนเดียวกะน้องที่แสดงเป็นน่าเอ็นดูเรื่องเทพศิลป์มะ? แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้พี่โคตรปลื้มพิ้งกี้ กะเก้(?) มากกกสองพี่น้องแทกทีมกันแสดงแม้บทไม่เด่นแต่โคตรน่ารักอ่ะ >:D



ชอบมากๆเลยค่ะพี่กันย์ มาต่อไวๆนะคะ   :icon_question: 
รอแปปนะคะเด๋วไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนจะมาต่อให้ทันทีเลยจร้า
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 07, 2010, 01:18:52 PM
กรี๊ดดดดดด แวะมาให้กำลังใจน้องกันย์ ด้วยคนจ้า ขอบอกว่าเรื่องนี้ชอบมากๆ
ที่อย่างลงตัวหมดทั้งนักแสดงบท และองค์ประกอบอื่นๆ เป็นละครจักรๆวงศ์ๆในดวงใจอีกเรื่อง
ขอบอกว่า เรื่อง นี้ เป้ฯ ละครจักรๆวงศ์เรื่องเดียวที่ได้รับรางวัลมากที่สุด แถมชนะ สายโลหิต
ที่มีการมอบรางวัลในปีนั้นด้วย แต่ก่อนไม่ซีจีแต่เชื่อไหมว่าฉากหลัง ของมโหสถ พี่ลอร์ด
เป็นคนทำ และได้รับรางวัลด้วยล่ะ จำชื่อรางวัลไม่ได้ เกี่ยวกำกับศิลปืหรือไรเนี่ยแหละ


ว้าววจริงหรอคะ? ไม่เคยรู้มาก่อนว่าชนะสายโหตด้วย สุโค่ยๆ :icon_idea:

ความจริงนักแสดงนำเรื่องนี้น่ะ ไม่มีใครที่กันย์ปลื้มเลยสักคน(เมื่อก่อนไม่ได้ชอบพี่ติ๊กด้วยเพราะเซงมาตั้งแต่เป็นคู่แข่งพระเสาร์แระ อิอิ)
แถมอันนี้อารมณ์ตอนดูที่เค้านำมาฉายอีกรอบตอนเย็นอ่ะนะ แบบช่วงนั้นเบื่อพี่มาฬิรมากกกและไม่เคยชอบนางเอกคนนี้เลยเพราะละครธรรมดาเธอเล่นเป็นนางร้ายเยอะมั้ง แต่เรื่องนี้เปลี่ยนความคิดจากที่ไม่ชอบจากเบื่อเป็นชอบ และชอบมากๆ ชอบดู ชอบฟังเค้าพูดกัน ชอบทุกอย่างที่เป็นเรื่องนี้เลย แม้แต่บทพูดเถียงกันไปมาของเหล่าสี่บัณฑิตยังไม่รำคาญเลยเหอะ
แต่เป็นแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะ เรื่องอื่นก็ยังแอนตี้เหมือนเดิม แหะๆ(กรรม-*-)  (แต่จำรอบแรกที่ฉายไม่ยักได้แฮะ สงสัยตอนนี้สนใจแต่การ์ตูนมั้ง ฮ่าๆ)

เลยแบบพอเห็นเค้าฉายอีกรอบก็ชอบมากอยากได้เก็บไว้เพราะคราวนั้นได้ดูมั่งไม่ได้ดูมั่งTT
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 07, 2010, 04:04:57 PM


อ้าวจิงดิ!!งั้นกาฬเล่าแทนพี่เรยดีมั้ย? (คิกๆโบ้ยเฉย ฮ่าๆ) ก็กาฬเล่าเก่งดีนี่นา ใจจริงก้ำกึ่งอยู่ระหว่างสองเรื่องว่าจะเล่า เรื่องนี้ หรือ มิติมหัศจรรย์ดี แต่สุดท้ายเลือกเรื่องนี้ดีกว่าเพราะมีแค่สองแผ่นดีวีดีเอง(คิดว่าคงโดนตัดมั่งล่ะ) อีกอย่างเรื่องโน้นพี่บอยปริญญาแกเสียแล้วพี่มะกล้าเล่าแฮะแต่ก็อยากเล่านะ-*- (อินี่หลายใจ)

เรื่องแผ่นหรอ ของพี่แผ่นแย่มากอ่ะ แผ่นแรกกระตุกเยอะมั่กเลย แต่ก็พอดูรู้เรื่องอ่ะนะ ส่วนแผ่นสองนี่ค่อยดีหน่อยใช้ได้
แต่พี่ว่าภาพไม่เห็นชัดเลยอ่ะกาฬโคตรๆ เลยคิดว่าไม่น่าใช้ในกาลอื่นได้น่ะ หุหุ


ปล.กาฬว่าเด็กน้อยทารกที่เป็นหนูน้อยมโหสถเป็นคนเดียวกะน้องที่แสดงเป็นน่าเอ็นดูเรื่องเทพศิลป์มะ? แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้พี่โคตรปลื้มพิ้งกี้ กะเก้(?) มากกกสองพี่น้องแทกทีมกันแสดงแม้บทไม่เด่นแต่โคตรน่ารักอ่ะ >:D


โอ๊ะ!!!  ม่ายยยยยย  ม่ายๆๆๆ  ไม่รับโบ้ยค่ะ
พี่กันย์เล่าแล้ว  ต้องเล่าต่อค่ะ  555+

ที่กาฬไปหาดู  มันมีแผ่นเดียวอ่ะ  สงสัยถ้าเงินออกต้องลองซื้อมาดูก่อนแล้วว่ามันจะใช้ได้มั้ย
น่าเสียดายจริงๆ ไม่สามารถใช้ในการอื่นได้

ปล.  กาฬก็พยายามมองอยู่ตั้งแต่เมื่อวานแฮะ  ว่าเด็กน้อยนี่คือใคร  แต่นึกไม่ออก  ตกลงว่าเป็นยักษ์จิ๋วน่าเอ็นดูเหรอคะ 
อยากเห็นพิงกี้กับเก้อ่ะ  เล่นเป็นอะไรน้า   เรื่องนี้นักแสดงเยอะมาก  ชอบอ่ะ  ในแต่ละตอน  จำได้ว่าเคยเรียนมโหสถชาดกในบทเรียนด้วย  เค้าคัดมาเฉพาะช่วงที่มโหสถเด็กๆ อ่ะ
กาฬก็เพิ่งมาดูรู้เรื่องตอนที่เอามาฉายรอบหลังนี่แหละ 

นางเอกเรื่องนี้   คุณศิขรินธารใช่ป่ะ    เค้าได้เล่นเป็นนางเอกของละครจักรๆวงศ์ๆ ก่อนที่จะไปเล่นเป็นนางร้ายป่ะคะ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ เมษายน 07, 2010, 09:32:32 PM


อ้าวจิงดิ!!งั้นกาฬเล่าแทนพี่เรยดีมั้ย? (คิกๆโบ้ยเฉย ฮ่าๆ) ก็กาฬเล่าเก่งดีนี่นา ใจจริงก้ำกึ่งอยู่ระหว่างสองเรื่องว่าจะเล่า เรื่องนี้ หรือ มิติมหัศจรรย์ดี แต่สุดท้ายเลือกเรื่องนี้ดีกว่าเพราะมีแค่สองแผ่นดีวีดีเอง(คิดว่าคงโดนตัดมั่งล่ะ) อีกอย่างเรื่องโน้นพี่บอยปริญญาแกเสียแล้วพี่มะกล้าเล่าแฮะแต่ก็อยากเล่านะ-*- (อินี่หลายใจ)

เรื่องแผ่นหรอ ของพี่แผ่นแย่มากอ่ะ แผ่นแรกกระตุกเยอะมั่กเลย แต่ก็พอดูรู้เรื่องอ่ะนะ ส่วนแผ่นสองนี่ค่อยดีหน่อยใช้ได้
แต่พี่ว่าภาพไม่เห็นชัดเลยอ่ะกาฬโคตรๆ เลยคิดว่าไม่น่าใช้ในกาลอื่นได้น่ะ หุหุ


ปล.กาฬว่าเด็กน้อยทารกที่เป็นหนูน้อยมโหสถเป็นคนเดียวกะน้องที่แสดงเป็นน่าเอ็นดูเรื่องเทพศิลป์มะ? แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้พี่โคตรปลื้มพิ้งกี้ กะเก้(?) มากกกสองพี่น้องแทกทีมกันแสดงแม้บทไม่เด่นแต่โคตรน่ารักอ่ะ >:D


โอ๊ะ!!!  ม่ายยยยยย  ม่ายๆๆๆ  ไม่รับโบ้ยค่ะ
พี่กันย์เล่าแล้ว  ต้องเล่าต่อค่ะ  555+

ที่กาฬไปหาดู  มันมีแผ่นเดียวอ่ะ  สงสัยถ้าเงินออกต้องลองซื้อมาดูก่อนแล้วว่ามันจะใช้ได้มั้ย
น่าเสียดายจริงๆ ไม่สามารถใช้ในการอื่นได้

ปล.  กาฬก็พยายามมองอยู่ตั้งแต่เมื่อวานแฮะ  ว่าเด็กน้อยนี่คือใคร  แต่นึกไม่ออก  ตกลงว่าเป็นยักษ์จิ๋วน่าเอ็นดูเหรอคะ 
อยากเห็นพิงกี้กับเก้อ่ะ  เล่นเป็นอะไรน้า   เรื่องนี้นักแสดงเยอะมาก  ชอบอ่ะ  ในแต่ละตอน  จำได้ว่าเคยเรียนมโหสถชาดกในบทเรียนด้วย  เค้าคัดมาเฉพาะช่วงที่มโหสถเด็กๆ อ่ะ
กาฬก็เพิ่งมาดูรู้เรื่องตอนที่เอามาฉายรอบหลังนี่แหละ 

นางเอกเรื่องนี้   คุณศิขรินธารใช่ป่ะ    เค้าได้เล่นเป็นนางเอกของละครจักรๆวงศ์ๆ ก่อนที่จะไปเล่นเป็นนางร้ายป่ะคะ

อยากเห็นนางเอก  :icon_frown:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 07, 2010, 09:44:35 PM

อยากเห็นนางเอก  :icon_frown:

หัศจารีย์ ในมณีนพเก้า ไง 
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ เมษายน 07, 2010, 10:46:51 PM

อยากเห็นนางเอก  :icon_frown:

หัศจารีย์ ในมณีนพเก้า ไง 

หัศจารีย์ก็คนเดีวกับยักษ์ในน้ำใจแม่อ่ะสิ

แต่ก็อยากเห็นแบบว่าอีกลุคหนึ่งอ่ะค่ะแบบอินเดียคงจะสวยน่าดู
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 07, 2010, 10:50:11 PM

อยากเห็นนางเอก  :icon_frown:

หัศจารีย์ ในมณีนพเก้า ไง 

หัศจารีย์ก็คนเดีวกับยักษ์ในน้ำใจแม่อ่ะสิ

แต่ก็อยากเห็นแบบว่าอีกลุคหนึ่งอ่ะค่ะแบบอินเดียคงจะสวยน่าดู

ไม่ค่อยต่างจากเรื่องมณีนพเก้าเท่าไหร่หรอก  แต่ก็สวยอยู่นะ  พี่ชอบบทอมราเทวีมาก
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ เมษายน 07, 2010, 11:18:16 PM

อยากเห็นนางเอก  :icon_frown:

หัศจารีย์ ในมณีนพเก้า ไง 

หัศจารีย์ก็คนเดีวกับยักษ์ในน้ำใจแม่อ่ะสิ

แต่ก็อยากเห็นแบบว่าอีกลุคหนึ่งอ่ะค่ะแบบอินเดียคงจะสวยน่าดู

ไม่ค่อยต่างจากเรื่องมณีนพเก้าเท่าไหร่หรอก  แต่ก็สวยอยู่นะ  พี่ชอบบทอมราเทวีมาก

สงสัยตอนนั้นเด็กเกินไปอ่ะ จำไม่ได้แล้วรอพี่กันย์มาเล่าต่อ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ เมษายน 09, 2010, 12:05:50 PM
ที่หมู่บ้าน ปาจีนยวมัชฌคาม เด้กน้องทั้ง1000คนก็เติบโตมาเต็มหมู่บ้าน โดยมีมโหสถซึ่งเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกันเป็นเสมือนศูนย์กลางของกลุ่มเด็กหล่านั้น
(http://img188.imageshack.us/img188/5626/mhs011.jpg)


ระหว่างนั้นก็มีฝนตกฟ้าร้องเกิดขึ้นมโหสถมองเห็นผู้คนมากมายหาที่หลบฝนจึงออกความคิดให้เด็กๆทั้งพันคนไปขอกษาปจากพ่อแม่มาคนละ1กษาปณ์ซึ่งแม้เป็นเงินเพียงน้อยนิดแต่เมื่อมารวมกันก็มากถึง1000 กษาปณ์เลยทีเดียว
และนำเงินจำนวนนี้มาสร้างศาลาคุ้มแดดคุ้มฝนเป็นเสมือนศาลาเอนกประสงค์ ซึ่งนอกจากจะเป็นที่เล่นที่กินและที่พักสำหรับคนที่ผ่านไปมาแล้ว ยังจัดสร้างห้อง วินิจฉัยคดีด้วย ทั้งมโหสถยังเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง
(http://img186.imageshack.us/img186/4467/mhs012.jpg)


ปล.อ้าวลืมเซฟรูปที่แคปไว้มาด้วยง่ะ-*- วันนี้มาแอ่วบ้านแม่ (รูปอยู่บ้านป้า) เดี๋ยวไว้กลับบ้าน โหยคงค่ำๆนู่นนนยังไม่ได้เรียงรูปเลยเอาไว้มาต่อพรุ่งนี้ละกันเนอะ^^
พอดีรูปสองรูปนี้มันเหลือจากคราวก่อนที่ลงไม่หมดอ่าแล้วอัพลงเว็บเรียบร้อยเลยสบายไป

เอางี๊แก้ตัวๆ เอารุปพิ้งกี้ กะเก้มาฝากจร้า^o^  น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก >:D
พิ้งกี้แสดงเป็นอินทิรา เด็กรับใช้บ้านมโหสถ  ส่วนเก้แสดงเป็น..ไม่แน่ใจว่าชื่อลักษณ์ หรือราม ง่ะ หรือชื่ออื่นหว่า??เด๋วไปหาคำตอบมาให้ แต่แสดงเป็นเพื่อนสนิทกะมโหสถจร้า
ดูเรื่องนี้ กะดูเรื่องมิติมหัศจรรย์ หลงรักเก้ตอนเด็กเข้าเต็มเปาเลย>o< :icon_evil:

(http://img52.imageshack.us/img52/2136/m022.jpg)  (http://img51.imageshack.us/img51/540/m023o.jpg)


ปล.2.มาอัพเดทรายชื่อ ราชบัณฑิตทั้ง4 แห่งมิถิลานครแล้วนะคะ หน้าแรก

(http://img707.imageshack.us/img707/5267/m024.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: Vincent ที่ เมษายน 10, 2010, 05:09:09 PM
เพิ่งเข้ามาเห็น สู้ๆนะค่ะจะคอยติดตาม  ;D  ;D   ;D
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: sk ที่ เมษายน 30, 2010, 01:50:39 PM
มาต่อไวไวนะคะพี่กันย์ รอลุ้นอยู่ค่ะ

หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: Vincent ที่ มิถุนายน 26, 2010, 02:17:00 PM
มีมโหสถด้วย มาเล่าต่ออีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: tunyada ที่ สิงหาคม 28, 2010, 02:39:55 AM
เมื่อไหร่จะมาเล่าอีกค่ะคอยนานจังหรือคนเล่าไม่ว่าง :icon_exclaim: :-X
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ กันยายน 24, 2010, 10:45:29 PM
ดีค่ะ^^ ขอโทษที่ทำให้รอนานมากกก นะคะ แบบว่าคนอัพไม่ค่อยว่าง และก็แอบขี้เกียจบ่อยๆ
มาอัพคราวนี้ไม่รู้อีกทีเมื่อไหร่ หุหุ แต่ไงจะพยายามอัพให้จบนะคะ



ต่อจากตอนที่แล้ว....


ทั้งบิดามารดาของมโหสถรู้สึกภาคภูมิใจในตัวกุมารน้อยมากที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ดำเนินการควบคุมการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์จน(เกือบ)แล้วเสร็จ
ในขณะเดียวกันเหล่าราชบุรุษได้ออกเดินทางค้นหามหาบัณฑิตตามพระกระแสรับสั่งของท้าววิเทหราช จนมาถึงหมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคาม
ก็ได้พบกับศาลาหลังใหญ่โตวิจิตรงดงาม ก็แปลกใจไถ่ถามชาวบ้านจึงได้รู้ความว่าศาลาแห่งนี้ควบคุมและออกแบบการก่อสร้างโดยเด็กน้อยที่อายุเพียง7ขวบเท่านั้น
ราชบุรุษไชยันต์จึงถามว่า ศาลาใหญ่โตขนาดนี้คงใช้เงินไม่น้อย ช่างบอกว่าใช่ แต่มโหสถให้เด็กๆไปขอเงินพ่อแม่มาคนละหนึ่งกษาปณ์ รวมได้ถึงพันกษาปณ์มาว่าจ้างให้พวกเขาก่อสร้างศาลานี้
ทำให้ไชยันต์ค่อนข้างปักใจเชื่อว่ากุมารน้อยผู้นี้ต้องเป็นบัณฑิตคนที่5ที่มหาราชทรงให้ค้นหาเป็นแน่
(http://upic.me/i/25/mhs013.jpg)






มหาราชเมื่อรู้ว่าพบบัณฑิตน้อยแล้วก็ดีใจสั่งให้ราชบุรุษไปรับตัวมาโดยเร็วแต่ว่า...
ราชบัณฑิตทั้งสี่กลับทูลทัดทานไว้ก่อนโดยให้เหตุผลว่าการสร้างศาลาเท่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นยังไม่สมควรได้ชื่อว่าบัณฑิตหรอกใครๆก็ทำได้ทั้งนั้น
เหล่าราชบุรุษแย้งว่าถ้าท่านได้ไปเห็นศาลานี้ด้วยตาของท่านเองท่านจะไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น
แต่ราชบัณฑิตทั้งสี่ก็ว่าการก่สร้างแค่นี้ไม่ควรจะนำมาตัดสินว่าเด็กคนนั้นเป็นมหาบัณฑิตที่ตามหาถ้าเชื่อเร็วอาจจะเป็นเหมือนการคบเด็กสร้างบ้านควรรอดูไปก่อน
มหาราชเห็นชอบด้วยและคิดว่าน่าจะมีเหตุอื่นๆอีกให้รู้ว่าเด็กคนนี้คือมหาบัณฑิตที่พระองค์ตามหาจริงๆ
(http://upic.me/i/ii/mhs014.jpg)






ในวันหนึ่งขณะที่มโหสถกำลังเล่นสนุกอยู่กับเพื่อนๆนั้น ก็ได้เกิดเหตุ มีหญิงสาวสองคนวิ่งไล่แย่งทารกกันเข้ามาในเขตหมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคาม
เพื่อนๆบอกให้มโหสถไม่ต้องสนใจอยู่เล่นกันต่อตามประสาเด็กเถิด แต่ว่ามโหสถกลับปฏิเสธ และเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องราว
(พิ้งกี้ออกฉากแรกน่ารักมากกกกก>o<)
(http://upic.me/i/oa/mhs015.jpg)






นางทั้งสองต่างคนก็ต่างอ้างว่านางเป็นแม่ของเด็ก คนหนึ่งอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นผีร้าย อีกคนก็ว่าอีกฝ่ายเป็นนางยักษ์
ขณะนั้นเองพระเจ้าวิเทหราช เสด็จประพาสที่หมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคามกับเหล่าราชบุรุษ เพื่อมาทอดพระเนตรศาลาเอนกประสงค์และว่าที่มหาบัณฑิตน้อยด้วยองค์เอง
เมื่อมาถึงก็ต้องแปลกพระทัยที่เห็นมีผู้คนมากมายเข้าไปในศาลาเอนกประสงค์ที่มโหสถสร้างขึ้น จึงเสด็จเข้าไปดู
(http://upic.me/i/v1/mhs016.jpg)







และในที่นั้เองพระเจ้าวิเทหราชก็ได้พบกับมโหสถน้อยที่กำลังจะไต่สวนว่าความกรณีของหญิงสาวสองคนที่อ้างตนเป็นมารดาทารกน้อย
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์คาดเดากันไปต่างๆนานาในหมู่ชาวบ้านว่าใครเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็ก บางคนก็เชื่อหญิงที่ถูกกล่าวกาว่าเป็นผีร้าย บางคนก็เชื่อหญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนางยักษ์
มโหสถจึงเอ่ยขึ้นว่า ว่าจงอย่าตัดสินอะไรเพียงแค่ได้พบหรือได้ฟังเป็นครั้งแรก แล้วมโหสถก็ให้นางทั้งสองเล่าให้ฟังทีละคน
(http://upic.me/i/z9/mhs017.jpg)





เริ่มจากนางที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีร้าย(เสื้อเขียว)
นางเล่าว่าเรื่องเกิดเมื่อเช้านี้ ในระหว่างที่นางกำลังเดินทางมาที่นี่ อากาศร้อนจึงได้หยุดพักดื่มน้ำล้างตัวที่ลำธาร(ในชาดกเป็นแหล่งน้ำที่สระโบกขรนีใกล้ๆศาลาฯ)โดยวางลูกไว้บนแท่นหินใกล้ๆ
ในระหว่างนั้นเองก็มีนางยักษขีนีตนหนึ่งจะจับลูกนางจะกินเป็นอาหาร แต่นางหันมาเจอก่อนจึงร้องขอให้ปล่อยลูกของนาง แต่หากนางยักษ์ไม่ปล่อยซ้ำจะกินเป็นอาหาร
นางจึงร้องเอะอะโวยวายให้คนช่วย พอดีที่มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งผ่านมาแถวนั้นเข้ามาดู นางยักษ์กลัวจึงรีบจำแลงกายเป็นมนุษย์และพาลูกของนางวิ่งหนีมาที่นี่
(http://upic.me/i/8y/mhs018.jpg)

เมื่อนาง(เสื้อเขียว)เล่าจบก็เกิดเสียงวิจารย์เซ็งแซ่ว่างนางอาจจะโกหก หรือบางคนที่เข้าข้างนางก็คิดว่านางพูดจริง มโหสถจึงไถ่ถามว่านางมีพยานในที่นี้หรือไม่ว่านางเป็นใครมาจากไหน
นางตอบว่านางเป็นคนตำบลอุตตรยวมัชฌคาม นางเดินทางมาหาญาติที่นี่ แต่บังเอิญเมื่อมาถึงญาติของนางก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว นางเตรียมตัวจะพาลูกกลับบ้านแต่ก็ได้เจอนางยักษ์มาแย่งลูกไปก่อน
(http://upic.me/i/t2/mhs019.jpg)






มโหสถจึงให้ผู้อ้างตนเป็นแม่อีกคนเล่าบ้าง นางที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนางยักษ์(เสื้อส้ม) เล่าว่า นางเป็นชาวอุตตรยวมัชฌคาม
ได้เดินทางมากับพ่อค้าเร่เพื่อจะมาตามหาญาติของนางที่นี่จนใกล้ถึงหมู่บ้านปาจีนฯจึงได้พักผ่อนก่อนที่จะเดินทางต่อ
และในคืนนั้นเองในขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน อยู่ๆนางผีร้ายก็ออกอาละวาดฆ่าคณะเดินทางตายหมด นางจึงพาลูกหนีไป แต่ทว่านางผีร้ายก็ยังคงติดตามไม่เลิก
สุดท้ายนางจึงตะโกนก้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ในแถบนั้น
ผีร้ายเมื่อเห็นชาวบ้านเข้ามามากมายก็แปลงกายเป็นมนุษย์ และอ้างว่าลูกของนางเป็นลูกของตน นางจึงหอบลูกวิ่งหนีมาจนถึงที่นี่
(http://upic.me/i/5p/mhs020.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ กันยายน 24, 2010, 10:52:18 PM
 :icon_evil: :icon_evil: :icon_evil: :icon_evil: :icon_evil:

ว้าว มาเล่าต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ กันยายน 24, 2010, 10:54:31 PM
คิดว่าลืมกระทู้นี้ไปซะแล้ว
 :icon_evil:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ กันยายน 24, 2010, 11:10:19 PM
เมื่อฟังนางคนที่สองเล่าจบชาวบ้านก็ต่างพากันงุนงงในเรื่องเล่าของทั้งสองฝ่ายไม่รู้ฝ่ายไหนพูดจริงฝ่ายไหนพูดเท็จ จึงขอร้องให้มโหสถช่วยตัดสินความว่าใครเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็ก
มโหสถจึงถามว่านางทั้งสองจะยอมรับในคำตัดสินของเขาหรือไม่ (เพื่อให้สิทธิขาดในการตัดสินใจแก่ตน)  นางทั้งสองก็รับปาก
ดังนั้น มโหสถจึงใให้ส่งทารกน้อยมาวางไว้ใกล้ๆตน และสั่งให้นางคนหนึ่งจับขาของทารกน้อยไว้ ส่วนอีกคนหนึ่งห้จับแขนของทารกไว้
และสั่งว่า "ให้พวกท่านจงแย่งทารกกันเอาเอง ใครที่ดึงเด็กไปได้ก็ถือว่าเป็นมารดาที่แท้จริง"
องค์วิเทหราชได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจพร้อมส่ายพระพักตร์อย่างผิดหวัง และตรัสกับเหล่าราชบุรุษว่าคงพาพระองค์มาผิดที่แล้วกระมัง
(http://upic.me/i/24/mhs021.jpg)








นางทั้งสองจึงต้องจำใจออกแรงดึงทารกน้อยมาเป็นของตนเอง ครั้นถูกดึงไปมาทารกน้อยก็ร้องไห้จ้าด้วยความเจ็บ
จนในที่สุดมารดาของเด็กทนไม่ไหวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ระงมของลูกน้อยจึงจำต้องปล่อยให้นางยักษขิณีดึงลูกของตนไปฝ่ายเดียว
ส่วนนางก็ร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนักเอาแต่อ้อนวอนว่าอย่าทำร้ายลูกของนางเลย
(http://upic.me/i/1z/mhs022.jpg)







ดังนั้นนางยักษ์จำแลงก็รีบอ้างสิทธิความเป็นมารดาเจ้าของทารกที่แท้จริง แต่มโหสถกลับพูดให้หยุดก่อน และกล่าวว่า
"นางคนที่ปล่อยมือจากทารกต่างหากคือมารดาที่แท้จริง ตามธรรมดาคนเป็นแม่ทุกคนย่อมจะใจอ่อนไม่อาจทนเห็นลูกของตนต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดได้ นางจึงยอมปล่อยมือจากทารก
ส่วนนางที่ไม่ยอมปล่อยมือจากทารกและดึงทารกไปได้แท้จริงแล้วคือนางยักขินีเพราะดวงตาของเจ้าแดง ไม่มีเงา ไม่มีความสะทกสะท้านและท้ายที่สุดไม่มีความสงสาร"
 องค์วิเทหราชทรงได้สดับดังนั้นก็ได้คิดและนึกชื่นชมในการวินิจฉัยคดีความของมโหสถ
(http://upic.me/i/1f/mhs023.jpg)








ในระหว่างนั้นเองนางยักขินีก็ได้คว้าเอาตัวทารกน้อยวิ่งหนีออกไป ท้าววิเทหราชรับสั่งให้ราชบุรุษทั้ง4เข้าไปขวางนางยักษ์ไว้
เกิดการต่อสู้ขัดขืนแย่งทารกกันขึ้น !!!
(http://upic.me/i/hd/mhs024.jpg)








นางยักษ์ก็นิมิตกายให้ใหญ่ขึ้น ฝูงชนแตกฮือกันออกไปด้วยความกลัว เหล่าราชบุรุษต่างช่วยกันต่อสู้กับยักษ์อย่างเต็มความสามารถใช้มีดฟันตามร่างกายนางยักษ์จนได้รับบาดเจ็บ
และในที่สุดนางก็คลายมือปล่อยเด็กให้ล่วงหล่นลงไป แต่ทว่าองค์วิเทหราชก็ทรงรับเด็กทารกน้อยนั้นไว้ได้ และส่งคืนให้มารดาที่แท้จริงอย่างปลอดภัย
(http://upic.me/i/sf/mhs025.jpg)







เมื่อราชบุรุษเห็นว่าทารกน้อยปลอดภัยแล้วก็คิดจะสังหารนางยักขินีตนนี้เสีย แต่ว่ามโหสถน้อยก็มาห้ามไว้ก่อน โดยกล่าวว่า ...
"ช้าก่อน! ข้าคิดว่าการให้โอกาสดีกว่าการตัดโอกาส การฆ่านางยักษ์ตนนี้นั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกท่าน แต่การให้ชีวิตใหม่กับนางจะไม่เป็นการดีกว่าหรือ"
ได้ยินดังนั้น เหล่าราชบุรุษจึงยอมรามือไว้ชีวิตนางยักษ์
(http://upic.me/i/36/mhs026.jpg)







นางยักษ์จึงกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้งมโหสถจึงกล่าวว่า..
"แม้นชาติก่อนเจ้าจะกระทำบาปไว้ จึงต้องเกิดมาเป็นนางยักขินี มาบัดนี้เจ้าก็ยังหาได้เข็ดหลาบกลับคิดก่อกรรมทำเข็ญอีก นับแต่นี้เจ้าจงตั้งมั่นอยู่ในศีลห้าอย่าได้คิดเบียดเบียนผู้ใดอีก"
นางยักษ์ว่าได้คิด จึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าตาสว่างแล้วบัณฑิตน้อย ขอบใจที่เจ้าได้ให้ชีวิตใหม่แก่ข้า นับจากนี้ข้าจะตั้งหมั่นอยู่ในศีลในธรรมไม่เบียดเบียนชีวิตผู้ใดอีกแล้ว"
กล่าวจบนางยักษ์ก็จากไปอย่างสงบ
(http://upic.me/i/98/mhs027.jpg)








องค์มหารราช(หรือพระเจ้าวิเทหราช)กลับเมืองก็ทรงเล่าความตามที่พบเห็นให้ราชบัณฑิตทั้ง4ฟัง
แต่ราชบัณฑิตทั้ง4ก็ยังแย้งได้ว่า "การตัดสินว่าใครเป็นนางยักษ์ใครเป็นมนุษย์นั้นดูได้ไม่ยาก เพราะธรรมดานางยักษ์ย่อมมีลักษณ์นิสัยผิดจากคนทั่วไป ตาแดง ไม่กระพริบ เงาไม่มี ไม่สะทกสะท้าน สังเกตแค่นี้ก็ตัดสินได้ง่ายไม่จำเป็นต้องทำอย่างอื่นให้มากความ แล้วถ้านางยักษ์ไม่ยอมรับซะอย่างมโหสถก็ตัดสินไม่ได้
มหาราชจึงตรัส ว่า "หมายความว่าพวกท่านยังไม่เห็นด้วย"
ปุตกุสะเสริมว่า "เด็กคนนี้ควรแสดงปัญญาให้เป็นที่ประจักษ์ให้มากกว่านี้ เพราะเรื่องแค่นี้ยังไม่สมควรที่จะได้รับคำว่าบัณฑิต"
ดังนั้นพระเจ้าวิเทหราชจึงต้องยอมฟังราชบัณฑิตทั้ง4 โดยมีเหล่าราชบุรุษมองราชบัณฑิตทั้ง4อย่าง....(ดูเอาเอง-*-)
(http://upic.me/i/4o/mhs028.jpg)







-------------------------------จบตอน บุตร---------------------------------
 



ปล.อาจเล่าไม่ได้ดีเท่าไหร่ แบบอยากส่คำพูดของตัวละครลงไปด้วยเพราะมัน คมมาก และเป็นคำพูดที่ดี ไพเราะ สุภาพฯลฯ  ฟังแล้วรู้สึกดี^^
ปล.2 พี่ติ๊กหล่อเนอะ^o^ เท่ห์ค่อด>o<!!  มโหสถน้อยก็น่าร๊ากกก พิ้งกี้ก็น่ารัก(สังเกตแอบยัดรูปพิ้งกี้ใหญ่55+) เก้ก็หล่อแต่เด็ก อ๊ายๆๆๆ>///< เรื่องนี้กันย์หลงรักเด็กอ่ะ








(http://upic.me/i/47/tobecon2.jpg)
เจอกันในตอนใหม่(เมื่อไหร่ไม่รู้-*-)
พี่กบสวยมากกก
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ กันยายน 24, 2010, 11:35:03 PM
ปล.3 เพิ่งไปเจอเพลงไตเติ้ล แบบค่อนข้างสมบูรณ์มาเมื่อวาน อัพไว้หน้าแรกแล้วนะคะ  (กันย์ชอบเพลงแบบนี้จังเลยอ่า ฟังตั้งหลายรอบ)^^


เอาความรู้เพิ่มเติมเรื่องนี้มาฝากค่ะ ความจริงน่าจะมาแต่แรกแล้ว แต่แบบว่าตอนนั้นไม่ได้คิด-*-
เลยรวบมาตอนนี้ละกัน และจะมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ เมือ่เล่าถึงตอนนั้นๆจบนะคะ
v
v
v


ในอดีตกาล มีพระราชาพระนามว่า วิเทหะ เสวยราชสมบัติในกรุงมิถิลา แคว้นวิเทหะ มีบัณฑิต ๔ คน ชื่อ เสนกะ, ปุกกุสะ, กามินทะ และเทวินทะ บัณฑิตเหล่านี้เป็นผู้ถวายอนุศาสนอรรถธรรมแด่ พระเจ้าวิเทหราช นั้น

ในวันพระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิ พระเจ้าวิเทหราชทรงพระสุบินว่า ที่มุมพระลานหลวงทั้ง ๔ มุม มีกองเพลิง ๔ กองประมาณเท่ากำแพงใหญ่ลุกโพลง ในท่ามกลางกองเพลิงทั้ง ๔ นั้น มีกองเพลิงเล็กกองหนึ่งขนาดประมาณเท่าหิ่งห้อย ลุกโพลงล่วงเลยกองเพลิงทั้ง ๔ ลุกสูงขึ้นไปจนจดประมาณอกนิฏฐพรหมโลก ส่องแสงสว่างไปทั่วจักรวาล สิ่งที่ตกบนพื้นแม้มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดก็สามารถมองเห็น ทั้งเทวดา ทั้งมาร ทั้งพรหมมาบูชากองไฟนั้น ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น มหาชนเที่ยวอยู่ในระหว่างเปลวเพลิง ก็มิได้ร้อนแม้สักว่าขุมขน

พระราชาทรงเห็นพระสุบินนี้แล้วก็ทรงหวาดสะดุ้ง เสด็จลุกขึ้นประทับนั่ง ทรงจินตนาการอยู่จนอรุณขึ้นว่า เหตุการณ์อะไรหนอจะเกิดขึ้นแก่เรา รุ่งเช้าเมื่อบัณฑิตทั้ง ๔ มาเฝ้าแล้วทูลถามถึงสุขไสยาว่า ข้าแต่สมมติเทพ พระองค์บรรทมเป็นสุขหรือ

พระราชาตรัสตอบว่า ท่านอาจารย์ความสุขจะมีแก่เราได้อย่างไร ในเมื่อเราได้ฝันเห็นอย่างนี้ แล้วทรงตรัสเล่าเรื่องความฝันของพระองค์ให้บัณฑฺตทั้งสี่ได้รับฟัง

ลำดับนั้น เสนกบัณฑิตทูลว่า ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์อย่าได้ตกพระหฤทัย พระสุบินนั้นเป็นมงคล ความเจริญจักมีแด่พระองค์

เมื่อมีพระราชดำรัสถามว่า เพราะเหตุไร จึงทูลว่าข้าแต่มหาราช บัณฑิตที่ ๕ อีกคนหนึ่งจักเกิดขึ้น ครอบงำพวกข้าพระองค์ซึ่งเป็นบัณฑิตทั้ง ๔ ทำให้หมดรัศมี พวกข้าพระองค์ทั้ง ๔ คน เหมือนกองเพลิง ๔ กอง บัณฑิตที่ ๕ จักเกิดขึ้น เหมือนกองเพลิงที่เกิดขึ้นในท่ามกลาง บัณฑิตนั้นย่อมไม่มีผู้เสมอทั้งในโลกทั้งเทวโลก

พระเจ้าวิเทหราชตรัสถามว่า ก็บัดนี้บัณฑิตนั้นอยู่ที่ไหน

เสนกบัณฑิตทูลพยากรณ์ราวกะเห็นด้วยทิพยจักษุเพราะกำลังแห่งการศึกษาของตนว่า บัณฑิตนั้นจักคลอดจากครรภ์มารดาในวันนี้

พระราชาทรงระลึกถึงคำแห่งเสนกบัณฑิตนั้นนับแต่นั้นมา  


บ้านทั้ง ๔ คือ บ้านชื่อทักขิณยวมัชฌคาม ๑ ปัจฉิมยวมัชฌคาม ๑ อุตตรยวมัชฌคาม ๑ ปาจีนยวมัชฌคาม ๑ ตั้งอยู่ที่ประตูทั้ง ๔ แห่งกรุงมิถิลา

ในบ้านทั้ง ๔ นั้น เศรษฐีชื่อ สิริวัฒกะ อยู่ในบ้านชื่อปาจีนยวมัชฌคาม ภรรยาของเศรษฐีนั้นชื่อ สุมนาเทวี วันนั้นพระมหาสัตว์จุติจากดาวดึงส์พิภพ ถือปฏิสนธิในครรภ์แห่งนางสุมนาเทวี ในเวลาที่พระราชาทรงพระสุบิน เทพบุตรอีกพันหนึ่งก็จุติจากดาวดึงส์พิภพมาถือปฏิสนธิในตระกูลแห่งเศรษฐีใหญ่น้อยในบ้านนั้นนั่นเอง ฝ่ายนางสุมนาเทวี เมื่อเวลาล่วงมาได้ ๑๐ เดือน ก็คลอดบุตรมีผิวพรรณวรรณะดุจทองคำ

ขณะนั้น ท้าวสักกเทวราชทอดพระเนตรดูมนุษยโลก ก็ทรงทราบว่าพระมหาสัตว์คลอดจากครรภ์มารดาแล้ว ทรงคิดว่า ควรเราจะทำพระพุทธางกูรนี้ให้ปรากฏทั้งในโลกทั้งเทวโลก ในเวลาที่พระมหาสัตว์คลอดจากครรภ์มารดา จึงเสด็จมาด้วยอทิสมานกายไม่มีใครเห็นพระองค์ วางแท่งโอสถแท่งหนึ่งที่หัตถ์แห่งพระมหาสัตว์นั้น แล้วเสด็จกลับไปยังทิพยพิมานแห่งตน

พระมหาสัตว์รับแท่งโอสถนั้นกำไว้ ก็เมื่อพระมหาสัตว์คลอดจากครรภ์นั้น ความทุกข์มิได้มีแก่มารดาแม้สักหน่อยหนึ่ง คลอดง่ายคล้ายเทน้ำออกจากหม้อฉะนั้น นางสุมนาเทวีเห็นแท่งโอสถในมือของบุตรนั้น จึงถามว่า พ่อได้อะไรมา

บุตรนั้นตอบมารดาว่า โอสถจ๊ะแม่ แล้ววางทิพยโอสถในมือมารดา กล่าวว่า ข้าแต่แม่ แม่จงให้โอสถนี้แก่พวกคนที่เจ็บป่วยเถิด

นางสุมนาเทวีมีความร่าเริงยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงบอกแก่สิริวัฒกเศรษฐีผู้สามี ก็เศรษฐีนั้นป่วยเป็นโรคปวดศีรษะมา ๗ ปี ได้ยินดังนั้นก็มีความร่าเริงยินดี คิดว่ากุมารนี้เมื่อเกิดแต่ครรภ์มารดาก็ถือโอสถมา ทั้งพูดกับมารดาได้ในขณะที่เกิดนั่นเอง โอสถที่ผู้มีบุญเช่นนี้ให้คงจักมีอานุภาพมาก คิดฉะนี้แล้วจึงถือโอสถนั้นฝนที่หินบด แล้วเอาโอสถหน่อยหนึ่งทาที่หน้าผาก โรคปวดศีรษะที่เป็นมา ๗ ปีก็หายไป ดุจน้ำหายไปจากใบบัวฉะนั้น ท่านเศรษฐีนั้นมีความดีใจว่า โอสถมีอานุภาพมาก

เรื่องพระมหาสัตว์ถือโอสถมา ก็ปรากฏไปในที่ทั้งปวง บรรดาผู้เจ็บป่วยทั้งหลายนั้นต่างก็พากันมาที่บ้านท่านเศรษฐีเพื่อขอยา ฝ่ายท่านเศรษฐีก็ถือเอาโอสถหน่อยหนึ่งฝนที่หินบด ละลายน้ำให้แก่คนทั้งปวง เพียงเอาทิพยโอสถทาสรีระเท่านั้น ความเจ็บป่วยทั้งปวงก็สงบ มนุษย์ทั้งหลายได้ความสุขแล้วก็สรรเสริญว่าโอสถในเรือนท่านสิริวัฒกเศรษฐีมีอานุภาพมากแล้วกลับไป

ในวันตั้งชื่อพระมหาสัตว์ ท่านมหาเศรษฐีคิดว่า เราไม่ต้องการนำเอาชื่อบรรพบุรุษมาเป็นชื่อบุตรของเรา บุตรของเราจงชื่อโอสถ เพราะเมื่อเขาเกิดถือโอสถมาด้วย แต่นั้นมาจึงตั้งชื่อพระมหาสัตว์นั้นว่า มโหสถกุมาร เพราะอาศัยคำที่เกิดขึ้นว่า โอสถนี้มีคุณมาก โอสถนี้มีคุณมาก ด้วยประการฉะนี้

ลำดับนั้น ท่านเศรษฐีได้มีความคิดว่า บุตรของเรามีบุญมาก จักไม่เกิดคนเดียวเท่านั้น ทารกทั้งหลายที่เกิดพร้อมกับบุตรของเรานี้จะต้องมี จึงให้ตรวจตราดู ก็ได้ข่าวพบทารกเกิดวันเดียวกัน ๑ พันคน จึงให้เครื่องประดับแก่กุมารทั้งหมด และให้นางนม ๑ พันคน ให้ทำมงคลแก่ทารกเหล่านั้นพร้อมกับพระโพธิสัตว์ทีเดียว ด้วยคิดว่า ทารกเหล่านี้จักเป็นผู้ปฏิบัติบำรุงบุตรของเรา นางนมทั้งหลายตกแต่งทารกแล้วนำมาบำเรอพระมหาสัตว์  


พระโพธิสัตว์เล่นอยู่ด้วยทารกเหล่านั้น จนเมื่อเจริญวัยมีอายุได้ ๗ ขวบ มีรูปงามราวกะรูปทองคำ เมื่อพระโพธิสัตว์เล่นอยู่กับทารกเหล่านั้นในสนามกลางหมู่บ้าน

วันหนึ่งเมื่อเขาเหล่านั้นกำลังเล่นกันอยู่ เมฆฝนก็ตั้งเค้าขึ้น พระมหาสัตว์ผู้มีกำลังดุจช้างสาร เห็นเมฆตั้งขึ้นก็วิ่งเข้าสู่ศาลาหลังหนึ่ง พวกทารกอื่นวิ่งตามไปทีหลังพระมหาสัตว์ ก็เหยียบเท้าของกันและกันพลาดล้มถึงเข่าแตกเป็นต้น พระโพธิสัตว์จึงคิดว่า ควรทำศาลาเป็นที่เล่นในสถานที่นี้ เราทั้งหลายจักไม่ลำบากอย่างนี้ จึงแจ้งแก่ทารกเหล่านั้นว่า พวกเราลำบากด้วยลม ฝน และแดด พวกเราจักสร้างศาลาหลังหนึ่งในที่นี้ ให้พอเป็นที่ยืนนั่ง และนอนได้ ท่านทั้งหลายจงนำกหาปณะมาคนละหนึ่งกหาปณะ ทารกเหล่านั้นก็กระทำตามนั้น

พระมหาสัตว์ให้เรียกนายช่างใหญ่มากล่าวว่า ข้าแต่พ่อท่านจงสร้างศาลาในที่นี้ แล้วได้ให้กหาปณะพันหนึ่งแก่เขา นายช่างใหญ่รับคำรับกหาปณะพันหนึ่งแล้ว ปราบพื้นที่ให้เสมอขุดหลักตอออกแล้วขึงเชือกกะที่ พระมหาสัตว์เห็นวิธีขึงเชือกของนายช่าง จึงกล่าวว่า ท่านผู้เจริญท่านอย่าขึงเชือกอย่างนี้จงขึงให้ดี

นายช่างกล่าวว่า นาย ข้าพเจ้าขึงตามวิชาที่ข้าพเจ้าเรียนมา การขึงอย่างอื่นนอกจากนี้ข้าพเจ้าไม่รู้

พระมหาสัตว์กล่าวว่า แม้เพียงเท่านี้ก็ไม่รู้ ท่านจักรับทรัพย์ของพวกเราทำศาลาได้อย่างไร จงนำเชือกมาเราจักขึงให้ท่าน

แล้วจึงให้นำเชือกมาแล้วก็ขึงด้วยตนเอง เชือกที่พระมหาสัตว์ขึง ได้เป็นประหนึ่งพระวิสสุกรรมเทพบุตรขึง และแล้วพระมหาสัตว์ได้กล่าวกะนายช่างว่าท่านสามารถขึงเชือกได้อย่างนี้ไหม

ไม่สามารถ นาย

ถ้าเช่นนั้นท่านสามารถทำตามความเห็นของเราได้ไหม

สามารถ นาย

พระมหาสัตว์จัดแบ่งที่ศาลาให้เป็นส่วนๆ คือ ห้องสำหรับหญิงอนาถาคลอดบุตรห้องหนึ่ง ห้องสำหรับสมณพราหมณ์ผู้อาคันตุกะมาพักห้องหนึ่ง ห้องสำหรับคฤหัสถ์ผู้อาคันตุกะมาพักห้องหนึ่ง ห้องสำหรับเก็บสินค้าของพวกพ่อค้าผู้อาคันตุกะมาพักห้องหนึ่ง ทำห้องเหล่านั้นทั้งหมดให้มีประตูทางหน้ามุข ให้ทำสนามเล่น ที่วินิจฉัยแม้โรงธรรมอย่างนั้นๆ

เมื่อศาลาแล้วเสร็จก็ให้เรียกช่างเขียนมาเขียนรูปอันน่ารื่นรมย์ โดยตนเป็นผู้สั่งการเอง ศาลานั้นก็งดงามเปรียบด้วยเทวสภาชื่อสุธรรมา

แต่นั้น พระมหาสัตว์ดำริว่าเพียงเท่านี้ ศาลายังหางามไม่ ควรสร้างสระโบกขรณีด้วยถึงจะงาม จึงให้ขุดสระโบกขรณี ให้เรียกช่างอิฐมา ให้สร้างสระโบกขรณีให้มีคดลดเลี้ยวนับด้วยพัน ให้มีท่าลงนับด้วยร้อย โดยความคิดของตน สระโบกขรณีนั้นดาดาษด้วยปทุมชาติ ๕ ชนิด เป็นราวกะว่านันทนโบกขรณี

ให้สร้างสวนปลูกต้นไม้ต่างๆ ทั้งไม้ดอกและไม้ผลริมฝั่งสระนั้น ดุจอุทยานนันทนวัน และใช้ศาลานั้นแหละเริ่มตั้งทานวัตร เพื่อสมณพราหมณ์ผู้ประพฤติธรรม และผู้เดินทางที่จรมาเป็นต้น การกระทำของพระมหาสัตว์นั้นได้ปรากฏไปในที่ทั้งปวง มนุษย์เป็นอันมากได้มาอาศัยศาลานั้น พระมหาสัตว์นั่งในศาลานั้น กล่าวสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ สิ่งที่ถูกและผิด แก่ผู้ที่มาแล้วๆ เริ่มตั้งการวินิจฉัย กาลนั้นได้เป็นเสมือนพุทธุปบาทกาล  


ฝ่ายพระเจ้าวิเทหราช เมื่อเวลาล่วงไปได้ ๗ ปี ทรงระลึกได้ว่า บัณฑิตทั้ง ๔ กล่าวแก่เราว่า บัณฑิตที่ ๕ จักเกิดขึ้นครอบงำพวกเขา บัณฑิตคนที่ ๕ นั้นบัดนี้อยู่ที่ไหน จึงโปรดให้อำมาตย์ ๔ คนไปสืบเสาะหาทางประตูทั้ง ๔ ด้านให้รู้สถานที่อยู่แห่งบัณฑิตนั้น

อำมาตย์ผู้ออกไปทางประตูอื่นๆ ไม่พบพระมหาสัตว์ อำมาตย์ผู้ออกไปทางประตูด้านปราจีนทิศ นั่งที่ศาลาคิดว่า ศาลาหลังนี้ต้องคนฉลาดทำเองหรือใช้ให้คนอื่นทำ จึงถามคนทั้งหลายว่า ศาลาหลังนี้ช่างไหนทำ คนทั้งหลายตอบว่า ศาลาหลังนี้นายช่างไม่ได้ทำเอง แต่ได้ทำตามวิจารณ์ของมโหสถบัณฑิตผู้เป็นบุตรของสิริวัฒกเศรษฐี ด้วยกำลังปัญญาแห่งตน

อำมาตย์ถามว่า ก็บัณฑิตอายุเท่าไร

คนทั้งหลายตอบว่า ๗ ปีบริบูรณ์

อำมาตย์นับปีตั้งแต่วันที่พระราชาทรงเห็นพระสุบิน ก็ทราบว่า บัณฑิตนั้นคือผู้นี้เอง สมกับพระราชาทรงเห็นพระสุบิน จึงส่งทูตไปทูลพระราชาว่าขอเดชะ บุตรของสิริวัฒกเศรษฐีในบ้านปาจีนยวมัชฌคาม ชื่อมโหสถบัณฑิตอายุได้ ๗ ปี ให้สร้างศาลา สระโบกขรณี และอุทยานอย่างนี้ๆ ข้าพระบาทจะพาบัณฑิตนี้มาเฝ้าหรือยัง

พระราชาทรงสดับประพฤติเหตุนั้น มีพระหฤทัยยินดี รับสั่งให้หาเสนกบัณฑิตมาตรัสเล่าเนื้อความนั้นแล้วดำรัสถามว่า เป็นอย่างไร ท่านอาจารย์เสนกะ เราจะนำบัณฑิตนั้นมาหรือยัง

เสนกบัณฑิตนั้นเป็นคนตระหนี่ จึงทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า บุคคลไม่ชื่อว่าเป็นบัณฑิตด้วยเหตุเพียงให้สร้างศาลาเป็นต้น ใครๆ ก็ให้สร้างได้ ข้อนั้นยังเป็นการเล็กน้อย

พระราชาทรงสดับคำของเสนกบัณฑิตก็ทรงนิ่งอยู่ ทรงส่งทูตของอำมาตย์กลับไปพร้อมกับสั่งว่าอำมาตย์จงอยู่ในที่นั้นพิจารณาดูบัณฑิตไปก่อน อำมาตย์ได้ฟังพระราชดำรัสนั้นก็ยับยั้งอยู่ที่นั้น พิจารณาดูบัณฑิตต่อไป

---------------------------------


หัวข้อเรื่อง"บุตร"


ยังมีสตรีคนหนึ่งพาบุตรไปสระโบกขรณีของมโหสถบัณฑิต เพื่อล้างหน้า เอาบุตรอาบน้ำแล้วให้นั่งบนผ้าสาฎกของตน ตนเองลงล้างหน้า ขณะนั้น มียักขินีตนหนึ่งเห็นทารกนั้นอยากจะกิน จึงแปลงเพศเป็นสตรีมาถามว่า แน่ะสหายทารกนี้งามหนอ เป็นบุตรของเธอหรือ

ครั้นสตรีมารดาทารกนั้นรับว่าเป็นบุตรของตน จึงกล่าวว่า ฉันจะให้ดื่มนม

เมื่อสตรีมารดาทารกอนุญาตแล้ว ก็อุ้มทารกนั้นให้เล่นหน่อยหนึ่งแล้วพาทารกนั้นหนีไป สตรีมารดาทารกเห็นดังนั้น จึงขึ้นจากน้ำวิ่งไปโดยเร็ว ยึดผ้าสาฎกไว้กล่าวว่า เอ็งจะพาบุตรข้าไปไหน

นางยักขินีกล่าวว่า เจ้าได้บุตรมาแต่ไหน นี้เป็นบุตรของข้าต่างหาก

หญิงทั้งสองทะเลาะกันเดินไปถึงประตูศาลา มโหสถบัณฑิตได้ฟังเสียงนางทั้งสองทะเลาะกัน ให้เรียกเข้ามาถามว่า เรื่องเป็นอย่างไรกัน นางทั้งสองก็แจ้งให้ทราบเรื่องนั้น มโหสถบัณฑิตฟังความนั้นแล้ว แม้รู้ว่า หญิงนี้เป็นยักขินีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนัยน์ตาไม่กระพริบ นัยน์ตาแดงและไม่มีเงา จึงกล่าวว่า เธอทั้งสองจักยอมรับคำวินิจฉัยของเราหรือไม่ เมื่อคนทั้งสองรับแล้ว จึงขีดรอยที่แผ่นดิน ให้ทารกนอนกลางรอยขีด ให้ยักขินีจับมือทารก ให้หญิงผู้เป็นมารดาจับเท้า แล้วกล่าวว่า แกทั้งสองคนจงฉุดคร่าเอาไป ทารกนั้นจักเป็นบุตรของผู้ที่สามารถดึงเอาทารกไปได้

นางทั้งสองก็คร่าทารกนั้น ทารกนั้นเมื่อถูกคร่าไปด้วยความเจ็บปวดก็ร้องไห้จ้า หญิงมารดาได้ฟังเสียงนั้น ก็เป็นเหมือนหัวใจจะแตก ปล่อยบุตรยืนร้องไห้อยู่

มโหสถบัณฑิตถามมหาชนว่า ใจของมารดาทารกอ่อน หรือว่าใจของหญิงไม่ใช่มารดาอ่อน

มหาชนตอบว่า ใจของมารดาอ่อน

มโหสถบัณฑิตจึงถามมหาชนว่า บัดนี้เป็นอย่างไร หญิงผู้คร่าทารกไปได้ เป็นมารดา หรือว่านางผู้สละทารกเสีย เป็นมารดา

มหาชนตอบว่า นางผู้สละทารก เป็นมารดา

มโหสถกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านทั้งหลายรู้หรือว่านางนี้เป็นคนขโมยทารก

มหาชนตอบว่า ไม่ทราบ

มโหสถจึงกล่าวว่า นางนี้เป็นยักขินีคร่าเอาทารกไปเพื่อกิน

มหาชนถามว่า รู้ได้อย่างไร

มโหสถตอบว่า รู้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะยักขินีนัยน์ตาไม่กระพริบ นัยน์ตาแดง ไม่มีเงา และปราศจากความกรุณา ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ถามหญิงนั้นว่า แกเป็นใคร

ยักขินีตอบว่าข้าพเจ้าเป็นยักขินี

พระมหาสัตว์ซักต่อไปว่า เจ้าจะเอาทารกนี้ไปทำไม

ยักขินีตอบว่า เอาไปกิน

พระมหาสัตว์กล่าวว่า แน่ะนางอันธพาล แต่ก่อนเอ็งทำบาปจึงเกิดเป็นยักขินี แม้บัดนี้ก็ยังจะทำบาปอีก โอ เอ็งเป็นคนอันธพาล กล่าวดังนี้แล้ว ให้ยักขินีตั้งอยู่ในเบญจศีล แล้วปล่อยตัวไป ฝ่ายหญิงมารดาทารกกล่าวว่า จงมีอายุยืนนานเถิดนาย ชมมโหสถบัณฑิตแล้วพาบุตรหลีกไป  



Thanks: http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7959
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ กันยายน 25, 2010, 09:57:35 AM
มาแล้วๆๆๆ มาอัพเพิ่มอีกนะคะ ช่องจ๊ะทิงจาก็มีนะ แต่ดูไม่ทันพึ่งติดต่อเคเบิ้ล จบไปซะและ
ก็ต้องอาศัยกระทู้นี้อย่างเดียว  :icon_sad:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ กันยายน 25, 2010, 10:00:11 AM
สู้ๆ นะคะ  พี่กันย์
ภาพสวยจัง  เห็นแล้วอยากดูอีกอ่ะ  เพราะจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว
แต่ตอนแย่งบุตรกันนี่ กาฬเคยดูในทีวี
คนที่เล่นเป็นมโหสถตอนเด็กชื่ออะไรอ่ะ 
พิงกี้น่ารัก  ติ๊กก็เท่ห์จริงๆ ด้วยแหละ  อ๊ากกกกกกกกก
 :)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: tunyada ที่ กันยายน 30, 2010, 08:52:14 PM
i wii wait na na :icon_idea:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ กันยายน 30, 2010, 10:10:39 PM
ตอนต่อไปรอหน่อยนะคะ
ตอนนี้กันย์ยังไม่ว่างอ่า
ต้องเร่งปั่นต้นฉบับ แฮะๆ แถมยังหาทางไปตามหาหัวใจอยู่^o^

ชื่อน้องคนที่แสดงเป็นมโหสถตอนเด็กชื่อ ด.ช.สหรัฐ กาญจนรักษ์  จ้า
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 24, 2010, 06:55:11 PM
"ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ"
 (จริงๆในเรื่องมันไม่มีชื่อตอนหรอก แต่เราอยากตั้ง อิอิ ในชาดกมันบอกว่าตอน คนเตี้ยชื่อโคฬกาฬ แต่ในละครนอกจากเตี้ยแล้วยังอัปลักษณ์อีกเลยใช่ชื่อนี้ละกันนะคะ^^)


ปล.กันย์อาจเล่าแบบว่าตามใจฉันหน่อยนะคะ แบบบางทีอาจมีภาษาพูด ความเห็นต่างๆสอดแทรกเข้าไปบ้าง เพราะพยายามจะเล่าให้ละเอียดขึ้นจากเดิมที่โคตรย่อ เหอๆ แต่ก็นะกันย์เล่าไม่เก่ง เอาเป็ฯว่าจะพยายามเล่าให้เข้าใจมากที่สุดละกันนะคะ ^o^



มีชายอัปลักษณ์คนหนึ่งมีนามว่า"โคฬกาฬ"ทำงานเก็บเงินมาถึง7ปีจึงได้ภรรยาที่งดงามดุจนางฟ้าชื่อว่าทีฆตาหลามาเชยชม


เช้าวันนี้ก็อีกเช่นกัน โคฬกาฬตื่นมาล้างหน้าล้างตาก่อนจะตะโกนเรียกภรรยาของตนซ้ำไปมา "ทีฆตาหลาภรรยาแห่งข้า เช้าแล้วเจ้ายังไม่ตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารให้สามีของเจ้าหรอกหรือ"
แต่ครั้นเมื่อเดินเข้าไปหมายเรียกซ้ำ ก็ถูกภรรยาปาภาชนะดินเผาใส่จนเกือบหลบไม่ทัน ก่อนที่นางจะออกมาโวยวายอย่างขัดใจเมื่อถูกสามีเรียกใช้
"โคฬกาฬแม่เรียกแล้วยังไม่โผล่หัวออกมาอีกหรอ!" ทีฆตาหลาเรียกด้วยเสียงอันดังจนโคฬกาฬที่หลบพายุอารมณ์สาวอยู่ก็โผล่ค่อยๆโผล่หน้าและตัวออกมาขอโทษนาง
(http://image.ohozaa.com/i/d8e/pm021.jpg)
เรื่องกลับกลายเป็นทีฆตาหลาบ่นต่อว่าสามีที่ไม่ได้เรื่องฉอดๆก่อนจะไล่ให้ไปหุงหารอาหารให้ตนกินแทน
 จนโคฬกาฬต้องพูดอ่อยๆอย่างจำยอมว่า "ข้าต้องหุงให้เจ้าเพราะว่าข้าเป็นสามีเจ้า"  แต่ก็ไม่วายถูกภรรยาสุดสวยบ่นๆๆๆ "อย่าช้า ข้าหิว ห้ามสกปรกฯลฯ" โคฬกาฬก็ได้แต่พูด จ้าๆๆขานรับคำสั่งอย่างเดียว




ด้วยความทุกข์ใจ(และกาย)โคฬกาฬจึงไปปรึกษาทุกข์กับเพื่อน เมื่อเห็นภรรยาเพื่อนคอยดูแลเอาใจใส่ผู้เป็นสามีทุกอย่างก็เกิดให้อาภัพในโชคชตาของตนเปรยว่า
"ข้าสู้อุตส่าห์ทำงานหนักมา7ปีเพื่อให้ได้นางมา แต่นางกลับใช้ข้าราวกับข้าเป็นทาสของนาง"
เพื่อนจึงว่า นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าทำตัวเป็นทาสของนางต่างหาก โคฬกาฬว่าไม่รู้จะทำเช่นไร เพื่อนของเขาหัวเราะพร้อมพุดทีเล่นทีจริงว่า "ง่ายๆเจ้าก็ยกเมียเจ้าให้กับข้า"
แต่เมือ่เห็นสีหน้าโกรธขึ้งของโคฬกาฬจึงบอกว่าข้าล้อเจ้าเล่น และแนะนำให้โคกาฬ..เลิกกลัวนางซะและบอก(สั่ง)ให้นางทำสิ่งที่ควรทำ..
(http://image.ohozaa.com/i/fcc/fm022.jpg)




ด้านมโหสถ
อับดุลมาตามเมตตาว่านายหญิงเรียกใช้ เมื่อเมตตาไปถึง นางสุมนาเทวีก็บอกให้เมตตาจัดเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของต่างๆของตนและมโหสถเพื่อเตรียมเดินทางไปเยี่ยมท่านแม่ของนางในอีกหมู่บ้านในอีกสองสามวันที่จะถึงนี้
(http://image.ohozaa.com/i/111/qm023.jpg)



โคฬกาฬไปบอกกับนางทีฆตาหลาว่าตนประสงค์จะไปเยี่ยมแม่ของตน ทีฆตาหลาว่า"ไปเยี่ยมแม่เจ้าแล้วมันธุรกงการอะไรของข้า"(เสียงดุเชียว)
โคฬกาฬ "มันต้องธุรของเจ้าแน่ เพราะข้าเป็นสามีแห่งเจ้า เจ้าต้องไปเยี่ยมบิดามารดาของข้า!!"คราวนี้โคฬกาฬไม่ยอมแพ้ง่ายๆให้นางอีกแล้ว(?)
ทีฆตาหลา "ข้าไม่ทำ!"( เสียงดุมว๊ากกก><) โคฬกาฬเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ "แต่เจ้าต้องทำ!!" ข้าไม่ทำเจ้าอยากทำก็เจ้าก็ทำเองสิ ไหนๆก็ทำไปเยี่ยมบิดามารดาของเจ้าแล้วเจ้าก็ทำเผื่อข้าด้วยแล้วกัน นางทีฆตาหลาบอกอย่างหน้าตาเฉยไม่หยี่ระแม้แต่น้อยที่โคฬกาฬสั่งเสียงดุ
(http://image.ohozaa.com/i/a55/km024.jpg)





"เจ้าต้องทำเพราะเจ้าเป็นภรรยาข้า!!"โคฬกาฬสั่งเสียงเด็ดขาด(จริงๆ)
(http://image.ohozaa.com/i/fdd/um025.jpg)
แต่สุดท้ายโคฬกาฬก็ต้องทำให้นางกินก่อนอยู่ดี(-*-) นางนั่งสั่งให้โคฬกาฬรีบทำขนมอย่างสบายใจและนั่งกินอย่างมีความสุข
ส่วนโคฬกาฬก็ต้องทำโรตีให้นางกินจนอิ่มก่อนถึงจะสามารถทำให้พ่อแม่ตนเองได้(ทีหลังเพราะเมียสั่ง==")...(เอ็นดูจริงๆ)
v

v

v
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 24, 2010, 07:09:51 PM


โคฬกาฬกลับไปปรับทุกข์กับสหายอีกครั้ง สหายของโคฬกาฬรู้สึกไม่พอใจที่เขายอมเมีย(อยู่ได้)จึงต่อว่าว่า สหายทำเช่นนี้เมื่อไหร่จึงจะสำเร็จ สหายทำเช่นนี้(ต่อไป)เห็นทีจะต้องตกเป็นทาสของนางตลอดทั้งชาติ
"แล้วจะให้ข้าทำเช่นไร"โคฬกาฬถามอย่างอ่อนใจ
สหายต้องเข้มแข็งและเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นสหายจะไม่มีวันทำสำเร็จ!! เพื่อนโคฬกาฬแนะนำ  ให้เขาต้องคิดหนักยิ่งขึ้น...ถึงวิธีการกำราบเมีย(หรอ?-*-)
(http://image.ohozaa.com/i/83a/um026.jpg)




โคฬกาฬนวดขาให้เมีย(น่านนว่าแล้ว==")อย่างเอาใจก่อนจะเอ่ยขอร้องเมียดีๆ(เพราะๆ)"นางผู้เป็นภรรยาแห่งข้า นางผู้ประเสิรฐ ได้โปรดไปทอดขนมเพื่อไปเป็นบรรณาการให้แก่บิดามารดาแห่งข้าสักครั้งเถิด"
"ไม่ได้ และข้าก็ไม่ทำด้วย"ทีฆตาหลากล่าวอย่างไม่ใยดี(สักนิด)
"นางมีฆตาหลานางผู้ประเสริฐ ข้าได้เฝ้าอ้อนวอนนางอยู่อย่างงี๊มาสามวันสามคืนแล้ว หากนางยังปฏิเสธ ข้าก็จะอ้อนวอนอยู่อย่างงี๊ตลอดไป"โคฬกาฬยังคงอ้อนวอนต่อไป(-*-)จนนางทีฆตาหลารำคาญจึงลุกหนีออกไปข้างนอก
(http://image.ohozaa.com/i/04d/wm027.jpg)



โคฬกาฬยังไม่ยอมแพ้ ตามนางออกไปพลางอ้อนวอนให้นางไปเยี่ยมบิดามารดาเป็นเพื่อนตนเพราะตั้งแต่แต่งงานมานางยังไม่เคยไปเยี่ยมบิดามารดาขอวตนเลยสักครั้ง
"ก็ได้ แต่เจ้าต้องรับปากกับข้าก่อนว่าครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น"ทีฆตาหลาบอกด้วยต้องการตัดรำคาญ
"ก็ได้จ้า ข้าขอรับปากว่าจะรบกวนนางเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นจ้า" โคฬกาฬบอกด้วยความดีใจ เพราะว่าในที่สุดแล้วนางก็ยอมไปกับเขา แม้จะไปเพราะความรำคาญก็ตามทีเถิด (โคฬฯคิดอย่างน่าสมเพชมากอ่ะ)-*-
(http://image.ohozaa.com/i/2f7/am028.jpg)






ด้านมโหสถอีกครั้ง
นางสุมนาเทวีและมโหสถกำลังเตรียมเดินทางไปเยี่ยมบิดามารดา เศรษฐีสิริวัฒกะฝากให้อับดุล(ลุงหัวล้าน)ดูแลภรรยาและลูกชายของตนด้วย
เมตตาจึงแซวอับดุลว่าลำพังตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอดจะดูแลนายหญิงและนายน้อยได้ยังไง
อับดุลฮึดบอก "นาร๊ายนารายณ์อย่าดูถูกนะแม่เมตตา" "ชั้นน่ะหรอดูถูก"เมตตาพยายามเถียง แต่ถูกเศรษฐีสิริวัฒกะปรามไว้ด้วยเกรงว่ากว่าจะไปถึงก็ค่ำเสียก่อน
(http://image.ohozaa.com/i/752/9m029.jpg)


นางสุมนาเทวีก้มลงเตะเท้าสามีแล้วนำมาแตะที่หน้าผากตนให้เป็นศิริมงคลก่อนเดินทาง
พ่อลูกร่ำลากัน เศรษฐีสิริวัฒกะบอกให้มโหสถดูแลแม่(สุมนาเทวี)แทนตนด้วย มโหสถตอบรับอย่างรู้ความ "ไม่ต้องห่วงหรอกท่านพ่อลูกจะดูแลท่านแม่อย่างดีที่สุด" สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ผู้เป็นพ่อแม่ยิ่งนัก
แล้วทั้งหมดก็พากันเดินทางออกจากบ้านไป โดยมีพวกแม่หมอ สาวใช้ และเด็กๆผู้หญิงในบ้านติดตามไปด้วย
(http://image.ohozaa.com/i/2ee/rm030.jpg)

หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 24, 2010, 07:32:56 PM

ทีฆตาหลาเดินทางไปบ้านพ่อแม่สามีอย่างสบาย เดินกินลม ชมนกชมไม้เหมือนมาเที่ยวสวนพฤษาชาติ (ชีลั๊นลาสุดๆอ่า-*-)
ทิ้งให้สามีเดินขนของเพียงลำพังอยู่ด้านหลัง โดยที่โคฬกาฬเรียกขอร้องให้เดินช้าลงหน่อยแต่นางก็หาฟังไม่  "ทีฆตาหลาได้โปรดเดินให้ช้าลงหน่อยเถอะจ้า"ตะโกนเข้าไปทั้งที่ถือของพะรุงพะรัง=="
(http://image.ohozaa.com/i/5c7/6m031.jpg)



ทีฆตาหลาหยุดเดินด้วยความรำคาญก่อนตวาด!สามี "ก็ไหนเจ้าอยากจะไปเยี่ยมบิดามารดาของเจ้าแล้วเจ้าเดินช้าอย่างงี๊แล้ววันนี้จะถึงมั้ย?!"
โธ่ทีฆตาหลา ถ้าอยากห้ข้าเดินเร็วๆเจ้าก็ช่วยแบ่งเบาภาระช่วยข้าถือของบ้างสิจ๊ะ โคฬกาฬบอกว่า(อย่างสุภาพ)ว่าถ้าอยากให้เดินเร็วๆก็ต้องมาช่วยตนถือของบ้าง
"มันกงการอะไรของข้า ข้าลงมือปรุงอาหารให้แล้วยังจะเอาอะไรอีก ข้าเดินมาอย่างงี๊ก็เหนื่อย ผิวพรรณข้าก็เสียอย่าบ่นให้ข้าได้ยินอีกนะไม่งั้นข้าจะไม่ไปกะเจ้า!!" นางยื่นคำขาด ให้โคฬกาฬจำต้องแบกต่อไป...
(http://image.ohozaa.com/i/0c6/4m032.jpg)



ทั้งสองเดินทางมาเรื่อยๆจนมาถึงแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง ทีฆตาหลาก็เป็นกังวลและเกิดความขลาดที่จะข้ามแหล่งน้ำนั้นจึงสั่งให้โคฬกาฬลองข้ามไปดูว่าน้ำลึกหรือตื้น
(http://image.ohozaa.com/i/b47/um033.jpg)



โคฬกาฬได้ยินก็ตกใจพร้อมทั้งถามว่า ถ้าเกิดเขาจมน้ำตายไปนางไม่กลัวเป็นม่ายหรือ แต่กลับถูกนางขู่กลับเสียงดัง "นี่เจ้าจะข้ามหรือไม่ถ้าไม่ข้าก็จะกลับ!!"
โคฬกาฬจึงจำต้องทำตามคำสั่งเมียอย่างจำใจ แต่เมื่อลงไปได้นิดหน่อยก็รีบวิ่งกลับขึ้นมาด้วยควาามขลาดกลัว ทีฆตาหลามองสามีตนอย่างไม่สบอารมณ์
(http://image.ohozaa.com/i/d3a/rm034.jpg)



ในบริเวณใกล้ๆนั้นเอง มีชายเข็ญใจคนหนึ่งชื่อทีฆปิฏฐิ หาปลาอยู่แหล่งน้ำแห่งนี้กำลังนั่งพักอยู่ก็เกิดได้ยินการโต้เถียงของทั้งสองเข้า และเมื่อทีฆปิฏฐิเห็นทีฆตาหลามีรูปโฉมงดงามก็ให้เกิดความต้องใจใหลหลง
(http://image.ohozaa.com/i/e07/jm035.jpg)

หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ ธันวาคม 24, 2010, 07:43:16 PM
วันนี้พี่กันย์มาอัพมโหสถต่อแล้ว 
 ;)
ตอนนี้กาฬก็เคยดูเหมือนกัน  คุณกบสวยมากกก 
แล้ววันนี้จะจบตอนนี้มั้ยน้า
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 24, 2010, 07:53:25 PM
ทีฆปิฏฐิจึงเดินเข้าไปถามไถ่ ว่าท่านทั้งสองต้องการจะข้ามแม่น้ำไปฝั่งโน้นใช่หรือไม่
เมื่อทีฆตาหลาได้เห็นชายแปลกหน้ารูปงามก็ให้ต้องใจและเขินอายโดยที่โคฬกาฬไม่ทันเห็น
(http://image.ohozaa.com/i/ef6/zm036.jpg)



เมือ่รู้ว่าทั้งสองต้องการจะข้ามแหล่งน้ำนี้ไป ทีฆปิฏฐิจึงหลอกว่าแหล่งน้ำนี้ลึกมากทั้งยังมีฝูงปลาและจระเข้ที่ดุร้ายถ้าไม่ค้นชินอาจจะเอาชีวิตมาทิ้งก่อนข้ามไปถึงฝั่งนู้นเอาได้ เมื่อทั้งสองสามีภรรยาได้ยินดังนั้นก็ต่างหวาดกลัว
(http://image.ohozaa.com/i/d07/wm037.jpg)



ทีฆปิฏฐิได้ทีก็โม้ต่อว่าตนนั้นคุ้นเคยกับสัตว์นำในที่นี้ดี และเสนอตัวพาทั้งสองข้ามฟากไป แต่มีข้อแม้ว่าสามารถพาข้ามฟากได้เพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น
ด้วยความรักเมีย(==") โคฬกาฬจึงบอกให้ชายจรจัดพาภรรยาของตนข้ามไปก่อน
(http://image.ohozaa.com/i/40f/dm038.jpg)




ด้านพระเจ้าวิเทหราช
ทรงไถ่ถามเรื่องมโหสถจากราชบุรุษทั้งสองที่เข้ามารายงานบอกว่าตอนนี้มโหสถได้เดินทางไปเยี่ยมญาติฝ่ายมารดากับมารดา โดยมีท่านไชยยันต์กับท่านมารุตคอยตามดูอยู่ห่างๆ
(http://image.ohozaa.com/i/d77/wm039.jpg)
(><!คนหล่อออกแล้ว) :o




ด้านโคฬกาฬก็ปล่อยให้ชายแปลกหน้าอุ้มภรรยาตนเองเดินข้ามฟากไปโดยหารู้ไม่ว่า
ทั้งสองกำลังจะสวมเขาให้ตนอยู่ ซึ่งนางทีฆตาหลาและหนุ่มแปลกหน้าต่างก็ส่งสายตาว่ามีใจให้กันโดยไม่ปิดบัง
(http://image.ohozaa.com/i/3e6/5m040.jpg)



ปล.ตอบกาฬรหัสย์ : ไม่จบจ่ะ เพราะเหนื่อยละ555+ เด๋วไว้มาต่อแต่ตอนนี้คงไม่จบง่ายๆเพระามันยาวอ่ะ มีรายละเอียดคำพูดคำถามของมโหสถเยอะและที่สำคัญพี่ยังแคปไม่จบเลย คึคึ
เด๋วขอเวลาไปแก้ปัญหาคอมเล่นโดดๆค้างๆก่อน

*แต่เอาน่ากันย์ไม่ชอบปล่อยให้คนอ่านค้างนานหรอก (หรอ?) อย่างน้อยก็จนกว่าจะจบตอนแหละเนอะ^^
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 31, 2010, 10:32:05 AM

ทีฆตาหลาเห็นชายแปลกหน้าถอดถอนใจก็ถามด้วยความสงสัย ทีฆปิฏฐิจึงตอบว่าที่ถอนใจเพราะเสียดาย
ว่านางที่มีรูปงามทำไมถึงได้มาเป็นภรรยาของชายผู้มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ได้  นางทีฆตาหลาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกซ้ำใจในคำพูดเยินยอของชายพเนจรยิ่งนัก
(http://image.ohozaa.com/i/e52/sm041.jpg)





ทีฆปิฏฐิเห็นได้ทีจึงเกลี้ยกล่อมทิ้งสามีอัปลักษณ์ของนางไปซะ แล้วตนจะเป็นคนดูแลนางเอง พร้อมคุยโม้ว่านางจะต่อไปว่า นางพร้อมด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณข้าทาสบริวาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาจะหามาให้นางเอง
ทีฆตาหลาได้ยินดังนั้นก็ให้ลังเลใจ(หรือแสร้งเล่นตัวก็ไม่รู้-*-) อีกทั้งนางเองก็รู้สึกถูกใจชายหนุ่มพเนจรคนนี้แต่แรกเห็นด้วยเช่นกัน
(http://image.ohozaa.com/i/65f/bm042.jpg)






ทีฆตาหลาจึง(แสร้ง)บอกด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่านางเป็นหญิงที่มีสามีแล้วเกรงว่าเขาจะเลี้ยงดูนางไม่จีรังยั่งยืน
แต่ทีฆปิฏฐิก็ยืนยันหนักแน่นว่าตนนั้นได้เฝ้าเดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อหวังเพียงเจอใบหน้าของนาง และขอให้นางอย่าปฏิเสธความรักของตนเลย
(http://image.ohozaa.com/i/9c0/jm043.jpg)






ส่วนด้านโคฬกาฬก็รอชายพเนจรอยู่นาน รอแล้วรออีก เดินไปมาอย่างเป็นกังวลคิดจะข้ามน้ไปเองหลายครั้งไปหาก็ขลาดกลัววิ่งขึ้นบกแทบไม่ทัน
ชายแปลกหน้า ได้ทีเห็ฯนางเอียงอายจึงคาดคั้นว่าตกลงนางจะเอาไง และบอกว่าถ้านางตกลงก็จงให้ตนกินอาหารในภาชนะของนาง แต่ถ้าไม่ตกลงตนก็จะข้ามฟากไปรับสามีอันอัปลักษณ์และโง่เขลามาให้
(http://image.ohozaa.com/i/8f9/im044.jpg)


.


.


.

แล้วในที่สุดทีฆตาหลาก็ตัดสินใจนำอาหารที่เตรียมมาให้แม่สามีให้ชายแปลกหน้ากิน
ส่วนด้านโคฬกาฬในที่สุดก็ทนรอไม่ไหวอีกต่อไปจึงตัดสินใจลุยน้ำไปเพียงลำพังตามทั้งสองไปเองจนได้(ในที่สุดก็หายกลัวตายสักที! สงสัยกลัวเมียหายมากกว่า คึคึ^^)
(http://image.ohozaa.com/i/e0f/4m045.jpg)





เมื่อโคฬกาฬข้ามมาถึงก็จึงพบว่าความจริงนั้นน้ำไม่ได้ลึกมากอย่างที่คนจรบอก แถมพอขึ้นฝั่งมาก็พบกับข้าวปลาอาหารของตนที่เตรียมไว้ให้พ่อแม่ก็ถูกกินจนหมด!!
จึงได้รู้ว่าไอ้คนจรและเมียรักร่วมกันหลอกลวงตน จึงได้เดินตามหาคนทั้งคู่ด้วยความแค้นใจ!!!
(http://image.ohozaa.com/i/8dd/rm046.jpg)

หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ ธันวาคม 31, 2010, 11:16:31 AM
ด้านมโหสถและคณะก็เดินทางแวะพักรายทาง โดยมีป้าหมอ และเด็กๆผู้หญิง อินทิรา(พิ้งกี้) มาลาตี(เด็กตัวเท่าพิ้งกี้)และ กมลา(พี่ใหญ่สุด)แบกคนโฑหม้อน้ำมาเพื่อหวังหาแหล่งน้ำตักบริโภค
แม่หมอก็เดินไปฮัมเพลงไปจนอินทิรา(พิ้งกี้)บ่นว่าให้แม่หมอหยุดร้องเพลงเสียทีเพราะรบกวนสมาธิการจำทางไปยังแหล่งน้ำ ด้วยเดินมาตั้งไกลแล้วยังไม่เจอแปล่งน้ำสักทีจนอินทิราเริ่มกังวล
(http://image.ohozaa.com/i/8e1/2m047.jpg)
พิ้งกี้น่ารักมว๊ากกกก ขอ(พื้นที่รูป)เยอะหน่อยแหอะ><




ทันใดนั้นเองอินทิราก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินมาจึงบอกป้าหมอให้ลองถามทางไปแหล่งน้ำกับคนทั้งสองดู
แม่หมอพยายามเรียกทั้งสองให้หยุดเพื่อไต่ถามแต่ทั้งสองก็ทำตัวมีพิรุธไม่ยอมหยุดให้ถามสักทีจนแม่หมอต้องดึงรั้งแขนพวกเขาเอาไว้
(http://image.ohozaa.com/i/41e/mm048.jpg)




แม่หมอก็รีบเอ่ย(แกมบังคับ)ถามว่านี่บอกหน่อยได้ไหมว่าแถวนี้มีแหล่งน้ำใช่หรอไม่ ทีฆตาหลาจึงบอกตัดรำคาญไปว่าเดินไปทางข้างหลังนี่อีกไม่นานก็ถึง พร้อมทั้งรีบบอกให้ชายหนุ่มรีบไปก่อนที่คนถ่อยจะตามมาทัน
ป้าหมอเห็นท่าทีแปลกๆของชายหญิงคู่นี้ก็งงว่าทั้งสองจะรีบอะไรหนักหนาก่อนจะพาเด็กๆไปหาแหล่งน้ำต่อ
(http://image.ohozaa.com/i/703/hm049.jpg)





ป้าหมอก็บ่นว่าทำไมคนแถวนี้ถึงแล้งน้ำใจถามอะไรไม่ค่อยยอมตอบ  แล้วอีกไม่นานทั้งสี่ก็เจอกับโคฬกาฬ อินทิราเห็นจึงว่า ดูโน่นเดินขโยกเขยกมาเชียว
ป้าหมอก็รีบรั้งชายค่อมไว้แล้วพยายามจะถามเรื่องแหล่งน้ำโคฬกาฬไม่ยอมบอก(ด้วยพิษรักแรงหึง)จึงบอกว่าตนต้องรีบไปเมียรักกับชายชู้
ป้าหมอและเด็กๆต่างพากันตะลึงแปลกใจว่าหน้าตางี๊ยังมีวาสนามีเมียกะเค้า โอ้พระเจ้า!!
(http://image.ohozaa.com/i/631/5m050.jpg)





เด็กๆได้ยินป้าหมออุทานก็แย้งว่าชายค่อมบอกว่าเมียเค้ามีชู้นะจ๊ะป้าหมอ   แม่หมอจึงได้คิดพร้อมกับว่าก็สมควรอยู่หรอกหน้าตาก็ขี้เหร่ แต่เอ๊ะหรือจะเป็นคู่เมื่อกี๊ท่าทางลุกลี๊รุกรน
พอดีกับที่ชายค่อมเดินไปไม่ไกลก็ได้ยินคพูดนี้เข้าจึงย้อนกลับมาหา ป้าหมอว่าอาจจะเป็นชายหญิงคู่เมื่อกี๊เพระาดูท่าทางมีพิรุธเหมือนหนีใครมา  โคฬกาฬจึงรีบถามว่าเห็นทั้งสองคนไปทางไหน
(http://image.ohozaa.com/i/944/8m051.jpg)




มาลาตีบอกว่าเมียของท่านกับชายชู้ไปทางโน้นแล้วรีบๆตามไปเถิด
อินทิราพูดต่อว่า สงสัยแต่ว่าเมื่อตามไปเจอแล้วนางจะยอมกลับไปกับท่านหรือเปล่าน่ะสิ
โคฬกาฬได้ยินดังนั้นก็รีบไปตามหาโดยทันที  ทิ้งให้แต่ละคนเปรยอย่างสังเวชใจว่า น่าสมเพช(ป้าหมอ) น่าเห็นใจ(พิ้งกี้) น่าสงสาร(มาลาตี) น่าเวทนา(กมลา)
(http://image.ohozaa.com/i/38f/jm052.jpg)




ขอเบรกแปป ตอนนี้กะลังเซงจับจิตเมือ่มาเปิดดูลิสที่เล่าเรื่องทิ้งไว้ในโน้ตเพจครึ่งหลังมันหายไป!!!โฮกกกT[]T!!! ลืมเซฟได้ไงฟระเนี่ยตรูTT^TT รอก่อนนะคะขอจรลีไปทำใจแปป  :icon_mad:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~ ตอนคนอัปลักษณ์ที่ชื่อโคฬกาฬ
เริ่มหัวข้อโดย: sk ที่ ธันวาคม 31, 2010, 11:30:05 AM
ไม่รู้จะเม้นว่าไรดี เอางี้ มาเม้นให้กำลังใจแล้วกัน พี่พิงกี้น่ารักมากมาย 555++
สู้ๆนะค่ะพี่กันย์ ตามอ่านเสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มกราคม 11, 2011, 11:18:35 AM
ด้านชายชู้หญิงแพศยา(ของโคฬกาฬ)ก็พากันเดินแกมวิ่งหนีโคฬกาฬจนทีฆตาหลาสะดุดกับตอไม้จนขาเพลง ทั้งสองจึงหนีได้ช้าลง อีกทั้งทีฆตาหลาบ่นว่าเดินไม่ไหวจึงได้นั่งพักรายทาง
ชายพเนจรเกรงว่าโคฬกาฬจะตามาทันจึงกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง แต่ทีฆตาหลาบอกว่า ต่อให้ตามทันแต่ข้าไม่ไปด้วยซะอย่าง อีกอย่างถึงมันพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าหน้าตาอัปลักษณ์อย่างมันจะเป็นสามีข้า!(พูดได้สวยเริ่ดเชิดหยิ่งสุดๆเหอะ!)
(http://image.ohozaa.com/i/ca1/lm053.jpg)



แต่แล้วโคฬกาฬก็ตามมาทันจนได้(แถมเห็นภาพบาดตาบาดใจประคมประหงมกัน) จึงตะโกนออกไปด้วยโมหะ "ไอ้ชายชั่วหญิงเลวตายซะเถอะมึง!!"
แล้วเขวี้ยงฉมวกไปยังทั้งสองปักฉึกบนต้นไม้ระหว่างทั้งสองคน(ที่หลบทัน)พอดี  ทั้งสองตกใจมากจึงรีบพากันหนีต่อไป(ใครจะไปคิดว่าไอ้หงอเมียจะเอาจริงและหึงโหดปานนั้นคึคึ^^)
(http://image.ohozaa.com/i/0c6/vm054.jpg)




ทั้งสองหนีมาท่ามกลางการไล่ล่าของโคฬกาฬจนมาเจอขบวนเกวียนของมโหสถและมารดา
จึงคิดจะอาศัยขบวนเกวียนนี้หนีโคฬกาฬให้พ้น
(http://image.ohozaa.com/i/f6b/9m055.jpg)




มโหสถและมารดาที่กำลังนั่งพักอยู่ก็ตกใจเมื่ออยู่ๆมีชายหญิงคู่หนึ่งร้องโวยวายเสียงดังขอให้ช่วยด้วยๆ มันจะฆ่าข้าๆๆ!!
โดยมีชายอัปลักษณ์วิ่งไล่ตามคนทั้งคู่มาก่อนจะพุ่งฉมวกโจมตีอีกครั้ง และคว้ามีดขึ้นมาขู่ทำร้ายหญิงโฉดชายชั่ว
พระนางสุมนาเทวีสั่งให้สีนิลกับอับดุลช่วยกันจับโคกาฬไว้  โคฬการถูกรุมจับดิ้นขัดขืนให้ปล่อยข้าๆข้าจะฆ่ามัน!!
(http://image.ohozaa.com/i/79a/vm056.jpg)





เมื่อเหตุการสงบ(โคฬกาฬถูกจับแล้ว)นางสุมนาเทวีก็ถามไถ่ถึงเรื่องราวความเป็นมา
ชายพเนจรรีบกล่าวอ้างว่า เขาและภรรยากำลังจะไปเยี่ยมญาติที่หมุ่บ้านถัดไป แต่อยู่ๆชายอัปลักษณ์ผู้นี้ก็มาอ้างตนว่าเป็นสามีของภรรยาของเขา
 โคฬกาฬเอ่ยขึ้นอย่างโมโห "มันโกหก! นางผู้นี้เป็นภรรยาของข้า ข้าสู้อุตส่าห์ทำงานมา7ปี เก็บเงินเก็บทองกว่าจะได้นางมาเป็นภรรยา ถ้าพวกท่านไม่เชื่อลองถามนางดูสิ!!" ทีฆตาหลาทำหน้าตาลำบากใจ(?)
(http://image.ohozaa.com/i/846/hm057.jpg)




นางสุมนาเทวีจึงหันไปถามทีฆตาหลา "แล้วนางล่ะ นางจะว่ายังไง" ทีฆตาหลาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอย่างน่าสงสารก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู๊>o<
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าไม่เคยเห็นชายอัปลักษณ์เช่นนี้เลยในชีวิตของข้า~ (ตอนท้ายมีเสียงสั่นเหมือนทั้งกลัวและขวัญเสีย โอ้ววเอารางวัลตุ๊กตาทองไปเรย55+) 
โคฬกาฬตีโพยตีพาย "ไม่จริงๆ!นางแพศยานางกล้าพูดกล้าทำเช่นนั้นไปได้ยังไงเต็มปากเต็มคำ นางโกหก!!"
(http://image.ohozaa.com/i/d54/mm058.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มกราคม 11, 2011, 12:03:22 PM

ทีฆตาหลาจึงเหล(?><!)ต่อไปด้วยท่าทีน่าสงสาร(แบบกรรมของคนสวย) ข้านั่งอยู่กับสามีสุดที่รักของข้าอยู่ๆชายอัปลักษณ์ผู้นี้ก็เข้ามาฉุดกระชากลากถูกตัวข้า! ยังไม่พอยังมาอ้างตัวว่าเป็นสามีของข้า ข้ากลัวเหลือเกิน!!  ทีฆปิฏฐิหรือชายพเนจรก็แสร้งเล่นละครทำทีทรุดนั่งลงไปปลอบนาง ไม่เป็นไรไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้หรอก
พระนางสุมนาเทวีมองดูทั้งคู่ก็ให้สงสารและกล่าวเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำพูด(ปด)ของทั้งคู่ นั่นสินางผู้มีรูปโฉมอันงดงาม....ย่อมเลือกชายผู้มีรูปโฉมงดงามเสมอกันเป็นคู่ครองจริงมั้ย?มโหสถลูกแม่...
(http://image.ohozaa.com/i/c00/9m059.jpg)




มโหสถจึงตอบมารดาด้วยความคิดแบบเด็กฉลาดชาติเจริญว่า ลูกยังไม่สามารถจะตอบได้แน่ชัดจนกว่าจะสอบถามทีละคนจนแน่ชัดเสียก่อนท่านแม่
โคฬกาฬเมื่อได้ยินชื่อมโหสถก็ดีใจ รีบว่า ข้าเคยได้ยินชื่อมานานแล้ว พ่อหนูจงให้ความยุติธรรมแก่ข้าด้วยเถิดพ่อบัณฑิตน้อย ได้โปรดเถิด!! โคฬกาฬอ้อนวอน(สุดตัว)
มโหสถจึงกล่าวอย่างเป็นกลาง ความจริงเป็นอย่างไรข้าย่อมตัดสินไปตามนั้นอยู่แล้ว
(http://image.ohozaa.com/i/fdf/ym060.jpg)




ด้านราชบุรุษของพระเจ้าวิเทหราช ไชยันต์กับมารุต(ที่นามสกุลดัสกร)ได้ติดตามคอยฟังข่าวมโหสถอยู่ห่างๆ เมื่อรู้ว่ามโหสถไปเยี่ยมญาติฝ่ายมารดา
 ถึงคิดติดตามไปคอยให้ความช่วยเหลือ เผื่อมีเหตุเพทภัยอะไรจะได้ช่วยเหลือทัน
(http://image.ohozaa.com/i/815/0m061.jpg)




กลับมาที่มโหสถทำการสอบปากคำ(?)ทีฆปิฏฐิก่อนว่า ท่านชื่ออะไร ท่านทำงานอยู่กินกับภรรยาของท่านมานานเพียงใด
ทีฆปิฏฐิคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบว่าสองปี มโหสถจึงถามต่อ แล้วภรรยาท่านชื่ออะไรล่ะ "ชื่อสกุลตะลาจ๊ะ"
สกุลตะลา..เอาล่ะทุกคนจำเอาไว้ว่าทีฆปิฏฐิผู้อ้างว่าเป็นสามีของนางบอกว่านางชื่อสกุลตะลา แล้วบอกให้ป้าหมอพาทีฆปิฏฐิออกไปและพาชายอีกคนเข้ามาแทน
(http://image.ohozaa.com/i/db8/tm062.jpg)




ด้านโคฬกาฬและทีฆตาหลาที่นั่งรอการตัดสินอยู่อีกด้าน..
ทีฆตาหลาภรรยาแห่งข้า ข้าทำผิดอันใดฤา เจ้าถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้...? โคฬกาฬถามเสียงอ่อนเสียงหวาน (แล้วไอ้คนที่มันโมโหเลือดขึ้นหน้าจะฆ่าชายโฉดหญิงชั่วเมื่อกี๊มันหายไปไหนหว่า?)
ทีฆตาหลาหันไปมองอย่างสมเพชก่อนตอบด้วยน้ำเสียง ดุ!+กระทบกระเทียบ!!+รังเกียจสุดฤทธิ์!!!
 ใครเป็นภรรยาเจ้าดูสารรูปตัวเองก่อนเถอะ! อย่าว่าแต่เป็นสามีของข้าเล๊ยยย หน้าอย่างเจ้าไม่สมควรเป็นสามีของใครทั้งนั้น!!
โคฬกาฬหน้าเสียก่อนว่า โธ่~แม่นางทีฆตาหลาทำไมเจ้าถึงพูดกับข้าเช่นนี้ล่ะ  (ยัง- ยังไม่วายทำเสียงอ่อนเสียงหวานอ้อน เฮ้อ-*-)
(http://image.ohozaa.com/i/b1f/am063.jpg)




ทำไมข้าจะพูดไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องมาเรียกชื่อข้าด้วย! เจียมเนื้อเจียมตัวเองซะบ๊างงง!! (ตรงนี้พูดเสียงเพ้อๆหวานๆ>>)สามีแห่งข้าจะต้องรูปงามกล้าหาญเช่นบุรุษผู้นั้นต่างหาก ว่าพลางชี้มือไปทางทีฆปิฏฐิที่โดนสอบสวนด้านนู้นก่อนจะเอ่ยต่อ  เท่าที่ข้าทนอยู่กับเจ้ามาจนถึงป่านนี้ข้าก็ทุกข์แสนทุกข์แสนจะทรมาน! หน้าตาก็อัปลักษณ์ โง่เขลาเบาปัญญา!!(<<กระแทกแดกดันสุดฤทธิ!>>)สกปรกโสโครก!!!!(sheยี๊สุดๆ><)  ในเมื่อเจ้าปล่อยให้ข้าข้ามน้ำมากับบุรุษผู้นั้นข้าก็จะไปกับเขา นางกล่าวอย่างไม่อายและไม่แคร์(สื่อ) ทั้งที่เห็นว่ามีลุงอับดุลนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
(http://image.ohozaa.com/i/ead/dm064.jpg)




โธ่~ทีฆตาหลาข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยข้าผิดไปแล้ว ข้าจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะเลี้ยงดูนางให้ดีที่สุด โคฬกาฬยังไม่วายทำเสียงอ่อนหวานออดอ้อน อ้อนวอนสุดฤทธิ์เช่นกัน=="   เลี้ยงดูตัวเองซะก่อนเถอะ!ไม่ต้องมาห่วงคนอื่น หัดดูสารรูปตัวเองซะก่อน!! นางก็ยังคงสติลแดกดันต่อหาใจอ่อนไม่! ทันใดนั้นทีฆปิฏฐิก็เดินเข้ามา นางก็ยิ้มเฉ่งต้อนรับ(กริยาท่าทางพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้า-*-)  เป็นไงบ้างสามีแห่งข้า(พูดเสียงหวานนนน) ทีฆปิฏฐิตอบว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว  ถ้างั้นเราก็ไปกันได้แล้วน่ะสิ นางถามอย่างดีใจ
ยัง!ยังไปไม่ได้ให้พ่อมโหสถติดสินเสียก่อน ป้าหมอบอกพร้อมเรียกให้เจ้าค่อมตามตนไปให้มโหสถสอบปากคำเป็นรายต่อไป
(http://image.ohozaa.com/i/635/ym065.jpg)



                                              -โปรดติดตามต่อไป-      

หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ มกราคม 11, 2011, 12:14:52 PM
 :icon_confused:  :icon_confused:

ฮาบทบรรยายของพี่กันย์มากเลยอ่ะ  ได้ฟีลสุดๆ 

อ้างถึง
นางก็ยังคงสติลแดกดันต่อหาใจอ่อนไม่!

ชอบมากประโยคนี้  กาฬว่าพี่กันย์มาถูกทางแล้วล่ะ  ค้นพบหนทางของตัวเองสุดๆ
 :icon_idea:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ มกราคม 13, 2011, 11:08:55 PM
กบตอนนั้นสวยจริงๆ

พี่กันย์มาเลาต่อเร็วๆนะอยากรู้จุดจบของตอนนี้

สู้ๆคะพี่  V(n___n )
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มกราคม 17, 2011, 05:12:12 PM
ป้าหมอบอกให้พ่อค่อมตอบไปตามตรงไม่ต้องโกหก
โคฬจึงตอบว่า ข้าชื่อโคฬกาฬ ส่วนภรรยาข้าชื่อทีฆตาหลา เมื่อได้ยินคำตอบทุกคนก็ต่างมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
 อ้าวก็ไหนชายเมื่อตะกี๊นี้บอกว่านางชื่อสกุนตะลาไง  นางสุมนาเทวีเอ่ยถาม 
(http://upic.me/i/7p/3m066.jpg)






โคฬทำหน้าสงสัย  อินทิราจึงด่วนสรุป ถ้าเช่นนั้นก็เห็นได้ชัดแล้วเจ้าค่ะนายหญิงว่าใครคือสามีของนาง
แต่มาลาตีกลับออกความเห็นแย้งขึ้นว่า การที่บอกชื่อไม่เหมือนกันก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่บอกก่อนจะถูกเสมอ  จริงรึเปล่าพี่กมลา? พร้อมหันไปหาตัวช่วยสนับสนุน
กมลาจึงตอบว่า มันก็มีสิทธิถูกและก็มีสิทธิผิดทั้งสองคนนั่นแหละนะ แต่อยู่ที่ว่าใครจะเป็นคนถูกเท่านั้นเอง
(http://upic.me/i/6u/9m067.jpg)







มโหสถจึงถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า ตกลงภรรยาของท่านชื่อทีฆตาหลาแน่ใช่หรือไม่  โคฬกาฬรีบตอบ ถูกแล้วนางน่ะชื่อทีฆตาหลา ข้าสู้ทำงานมาตั้งเจ็ดปีเพื่อจะไถ่ถอนนางมาเป็นภรรยา(ย้ำอีกแระ)แล้วข้าจะลืมชื่อนางได้อย่างไรกัน (เราว่ามโหสถซ้ำในจุดนี้แล้วแหละพ่อคู๊ณณณ)
มโหสถจึงหันไปบอกให้ป้าหมอไปตามทั้งสองคนนั้นมาที่นี่   
(http://upic.me/i/rt/8m068.jpg)







-ด้านพระเจ้าวิเทหราช-
ราชบัณฑิตทั้งสี่ได้พากันมาเข้าเฝ้า   พระเจ้าวิเทหราชเห็นจึงถามว่าท่านอาจารย์มีธุระอะไรกับข้าหรือ
เสนะกะจึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจว่า ขอเดชะองค์มหาราช ขณะนี้ทางไพศาลีก็เริ่มคลี่คลายแล้วแต่เหตุใดพระองค์ยังทรงมีความกังวลพระทัยอะไรอยู่อีกหรือพระเจ้าค่ะ
(http://upic.me/i/26/tm069.jpg)






พระเจ้าวิเทหราชจึงว่า ข้าเฝ้าคิดถึงบัณฑิตน้อยผู้นั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะข้ามีความเชื่อมั่นว่าถ้าหากได้เค้ามาเป็นมหาบัณฑิต กรุงมิถิลาของเราต้องเจริญกว่านี้เป็นแน่
สิ่งที่ได้ยินทำให้บัณฑิตที่งสี่มองหน้ากันอย่างแบบ..พูดเรื่องนี้อีกแล้วตูไม่แคล้วจะต้องตกงาน=="
พระเจ้าวิเทเห็นเหล่าบัณฑิตทำหน้าเจื่อนๆไปก็ว่าต่อไปอย่างถนอมน้ำใจ(คนแก่)ว่า ข้าไม่ได้หมายความว่าจะมองข้ามความสำคัญของท่านที่งสี่ไปพวกท่านอยู่กับข้ามานานย่อมรู้ใจข้าดี ว่าข้าชื่นชมและนิยมเลี้ยงคนฉลาด ข้ามั่นใจว่ายิ่งมีคนฉลาดในบ้านเมืองเรามากเท่าไหร่ กรุงมิถิลาของเราก็จะย่อมเจริญมากขึ้นเท่านั้น!
(http://upic.me/i/0o/1m070.jpg)







เทวินทะจึงให้เหตุผลว่าเท่าที่ผ่านมา เด็กน้อยผู้นั้นก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าคือคนที่พระองค์ทรงนิมิตแต่อย่างใด (หรออออ แล้วไอ้ที่ศาลาเอนกประสงค์กะเรื่องยักษ์นั่นพวกท่านฉลาดเท่ามั้ยล่ะ?แหมชริ กันย์ขอแขวะหน่อยเหอะหมั่นไส้ ฮ่าๆ)  พระเจ้าวิเทหะราชรับสั่งแย้งว่า แต่ราชบุรุษทั้งสี่ของข้ากลับมีความเชื่อมั่นว่าต้องใช่เด็กน้อยผู้นั้นแน่!
กามินท์จึงอ้างอีกว่า ขอเดชะองค์มหาราช ว่า.. ท่านมารุต ท่านไชยันต์ ท่าราเมทธ และท่านวิรุณ ถนัดทางการสู้รบจะมารู้เรื่องลึกซึ้งดีไปกว่าพวกข้าพระพุทธเจ้าได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ(ใส่น้ำเสียงกระแนะกระแหนสุดฤทธิ์><)
พระเจ้าวิเทหราชทรงทำหน้าหนักใจ ปุตกุสะเห็นดังนั้นจึงรีบ(ประจบ)ว่า ขอเพียงให้องค์มหาราชทรงสบายพระทัย ข้าพระพุทธเจ้าคิดว่าให้คอยดูแลเด็กน้อยอีกซักพักแล้วค่อยมาตัดสินพระทัยกันใหม่เถิดพระเจ้าค่ะ
(http://upic.me/i/wn/pm071.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มกราคม 17, 2011, 05:36:27 PM
หลังจากนั้นพวกเหล่ามหาบัณฑิตทั้งสี่ก็มาปรึกษากัน
ปุตกุสะต่อว่า ถ้าวันนั้นท่านเสนะกะทำนายเลี่ยงไปซักนิดพวกเราก็ไม่ต้องมาลำบากกันเช่นนี้  เสนะกะทำหน้าหนักใจแล้วเปรยขึ้นว่า ข้าเองก็คิดไม่ถึง สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
กามินท์เห็นเพื่อนๆทุกข์ใจจึงตัดบทว่าในเมื่อมันพลั้งไปแล้วก็ช่างมันเถอะ เพราะเราแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ต่อไปก็อยู่แต่ว่าเราอย่าให้มันพลาดพลั้งอย่างงี๊อีกก็แล้วกัน
(http://upic.me/i/23/bm072.jpg)





เทวินทะก็รีบสนุบสนุนกามินท์ว่าพวกท่านอย่าเพิ่งวิตกกังวลไปนักเล๊ย   กามินท์ก็รีบเสริมต่อไปว่า คงจะไม่มีเรื่องคดีเกิดขึ้นมากมายที่จะให้ไอ่เด็กคนนั้นมันมาตัดสินความหรอกจริงมั้ย แฮ๊ะๆๆ(หัวเราะร้าย) และในเมือ่ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาอีก ต่อให้มันฉลาดปราดเเปรี่องสักเพียงใดมันก็เท่านั้น จริงมั้ย? (ดูมีความสู๊ขขขหารู้ไม่ว่าคู่แข่งกำลังได้ตัดสินคดีอยู่ เหอๆ)
(http://upic.me/i/lc/ym073.jpg)






-ด้านมโหสถ-
ชายสองคนนี้แต่งก็อ้างตัวเป็นสามีของนาง ทั้งตัวนางเองและชายผู้อ้างว่าเป็นสามีต่างยินยอมพร้อมใจจะให้ข้าตัดสินก็หมายความว่าท่านทั้งสามจะอยุ่ในความชี้ขาดของข้าใช่หรือไม่?  มโหสถกล่าวเพื่อให้พวกเขายืนยันในคำตอบและคำพูดของตนอีกครั้งเพื่อแสดงถึงสิทธิขาดในการตัดสิน  ทีฆปิฏฐิและทีฆตาหลาตอบรับพร้อมกัน(อย่างมั่นใจ!)โดยมีโคฬกาฬที่พยักหน้ายอมรับในการตัดสินของมโหสถด้วยกัน
มโหสถจึงหันไปถามนางว่า ถ้าเช่นนั้นนางชื่ออะไร?...
(http://upic.me/i/fb/km074.jpg)





นางตอบอย่างมั่นใจว่า "ข้าชื่อทีฆตาหลา" ทีฆปิฏฐิทำหน้าตกใจ ส่วนคนที่เหลือก็พากันแปลกใจซุบซิบกันใหญ่
(http://upic.me/i/h3/tm075.jpg)


มโหสถจึงถามต่อว่า แล้วชายที่นางอ้างว่าเป็นสามีของนางชื่อว่าอะไร?...







ทีฆตาหลาหน้าเสียเพราะไม่รู้ว่าชายพเนจรนั้นชื่อว่าอะไร มโหสถจึงถามย้ำมว่าชายผู้นี้ชื่อว่าอะไร นางนิ่งคิด สุดท้ายก็ตอบว่าชะชื่ออ..รามจ้า (หรือชื่อ)รามจักร(เนี่ยแหละได้ยินไม่ถนัด)(แต่เธอก็ยังคงมั่นใจในความสวย?ยิ้มบอกอย่างมั่นใจว่าต้องชื่อนี้แน่ๆ=_=")
(http://upic.me/i/jw/sm076.jpg)




มโหสถจึงบอกชายผู้นั้นว่า ท่านบอกนางซิว่าเมื่อครู่ท่านบอกพวกเราในที่นี้ว่าท่านชื่ออะไร
ชายผู่นั้นทำตาโตไม่กล้าบอกหันไปมองหน้าโคฬที่ทำหน้า(ว่ากุ)ชนะโว้ยยตอบ
(http://upic.me/i/x1/hm077.jpg)


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มกราคม 17, 2011, 06:09:25 PM


มโหสถจึงสรุปว่า "ทีนี้ก็เป็นอันรู้แล้วว่าใครคือสามีของนางที่แท้จริง  นางคือสิทธิ์ขาดของโคฬกาฬ เพราะเค้าได้ทำงานมาถึงเจ็ดปีถึงได้เงินครบมาไถ่ตัวนางไป
ฉะนั้นนางควารจะซื่อสัตย์ต่อเค้าถึงแม้เค้าจะหน้าตาอัปลักษณ์เพียงใดก็ตาม"

(http://upic.me/i/ue/pm078.jpg)





"ส่วนท่าน!(ทีฆปิฏฐิ)นางที่มีสามีแล้ว ท่านไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับนางเพราะเป็นการผิดทั้งทางโลกและทางธรรม"
ทั้งสองทำหน้าเสียละลายใจโดยเฉพาะนางทีฆตาหลาที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อสามีของนาง
(http://upic.me/i/1h/em079.jpg)





โคฬกาฬรีบประจบ(?) "บัณฑิตน้อยมโหสถ ข้าได้ยินชื่อท่านมานานแล้ว เพิ่งจะมาประจักษ์สายตาแก่ข้าวันนี้นี่เอง พ่อผู้เจริญ ขอให้เป็นที่พึงพาแก่ผู้ยากไร้ด้วยเถิด"
(http://upic.me/i/p3/4m080.jpg)


-------------จบตอน!!คนอัปลักษณ์ที่ชื่อ โคฬกาฬ-----------









-ด้านพระเจ้าวิเทหราช-
จะว่าอย่างไรท่านอาจารย์ มโหสถตัดสินคดีนี้ทีนี้หมาะสมที่จะมาเป็นราชบัณฑิตประจำราชสำนักของข้าแล้วหรือยัง?
พระเจ้าวิเทหราชเอ่ยถามบัณฑิตทั้งสี่ เมื่อได้ยินข่าวจากราชบุรุษทั้งสองว่ามโหสถว่าคลี่คลายคดีได้อีกแล้ว
เสนะกะอ้ำอึ้งตอบ เอ่อ..ขอเดชะมหาราช ยังไม่เห็นสมควรพระเจ้าค่ะ!! (ยังจะดื้อเถียงเด๋วร้องเพลงคนดื้อดึงให้ฟังซะเลยนิ==")
(http://upic.me/i/o6/5m081.jpg)





วิรุณได้ยินดังนั้นก็รีบท้วงถึงเหตุผล...ท่านอาจารย์ท่านมีเหตุผลเช่นไร ในเมื่อท่านไชยยันต์และท่านมารุตก็ได้ประจักษ์แก่สายตาถึงสองครั้งสองหนแล้ว
กามินท์จึงอ้างว่า..เหตุผลสำคัญของพวกข้าก็คือว่า ข้าไม่ต้องการให้องค์มหาราชถูกดูถูกดูหมิ่นหยียดหยามจากแคว้นเพียงเพราะไอ้เด็กธรรมดาๆคนนั้นเพียงคนเดียวที่พวกท่านพยายามจะยกย่อง!ให้เป็นมหาบัณฑิต!!(พูดกระแทกแดกดันสุดฤทธิ์)   ฝ่ายราชบุรุษมองพวกราชบัณฑิตทั้งสี่อย่างเอือมๆ
(http://upic.me/i/e1/fm082.jpg)





ไชยันต์อดไม่ได้จึงว่า ท่านอาจารย์คงลืมไปแล้วกระมังว่าบัณฑิตน้อยผู้นี้ ท่านอาจารย์เสนะกะเองเป็นผู้ทำนายจากพระสุบินนิมิตขององค์มหาราชเอง
กามินท์(สอดขึ้นมาทันทีว่า) แต่การทำนายนั้นอาจจะมีข้อผิดพลาดหนึ่ง หรือไม่ก็อาจจะยังหาตัวเด็กคนนั้นไม่พบอีกหนึ่ง
มารุตยืนยันว่า แต่การที่ข้าได้พบกับมโหสถ ข้าก็มีความมั่นใจว่าเขาคือมหาบัณฑิตผู้ซึ่งองค์มหาราชกำลังทรงต้องการตัวอยู่
(http://upic.me/i/uw/3m083.jpg)





ราเมธก็กล่าวปิดท้ายอย่างสวยงามว่า.. หากท่านอาจารย์ยังไม่แน่ใจล่ะก็ คราวต่อไป ข้าจะขอแนะนำให้ท่านอาจารย์ได้ไปเห็นด้วยตาตนเอง คงจะดีกว่ากระมัง




พวกราชบัณฑิตทำหน้าตาไม่พอใจ ผิดกับพระเจ้าวิเทที่ทรงคิดว่าเหล่าราชบุรุษพูดได้ถูกใจนัก!
(http://upic.me/i/s3/pm084.jpg)




==============================To be Con.==============================



ตอนหน้าพระอินทร์(?)จะจำแลงกายลงมาให้มโหสถได้แสดงปัญญาต่อหน้าพระเจ้าวิเทหราชและราชบัณฑิตและราชบุรุษทั้งสี่ได้ประจักษ์พร้อมๆกันค่ะ รอก่อนนะคะ^^
ส่วนตอนนี้ราชบุรุษทั้งสี่ก็ปรากฏชื่อออกมาครบแล้ว ได้แก่....

(http://upic.me/i/qw/tv9rq.jpg)           (http://upic.me/i/xr/r37vn.jpg)
ไชยันต์                                                                                                         มารุต

(http://upic.me/i/cq/sz6sc.jpg)            (http://upic.me/i/xi/a2y1e.jpg)
ราเมธ                                                                                                           วิรุณ

อัพเดทหน้าแรกให้แล้วนะคะพร้อมด้วยเด็กๆและตัวละครอื่นในเรื่องก็จะทะยอยอัพเดทให้ถ้ารู้ชื่อที่แท้จริง อิอิ ความจริงเมื่อก่อนกันย์เคยจดไว้แล้วมันหายไปแล้วอ่า(ทิ้งนานเกิ๊น)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:37:32 PM

^
^
^
^
จากตอนที่แล้วที่ราชบุรุษแนะนำให้ท่านอาจารย์ออกไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง(จะได้ไม่หงำเหงือกอยุ่แต่ในวัง..อ่าไม่ใช่แระ ต่อๆๆ-*-)



แล้วพระเจ้าวิเทหราช และเหล่าราชบุรุษ รวมถึงเหล่าราชบัณฑิตก็ออกนอกวังมาด้วยกัน
ในระหว่างเส้นทางก็หันไปถามพระอาจารย์ทั้ง4ว่า เป็นอย่างไรบ้างท่านอาจารย์ที่ได้ออกมาดูราษฏรโดยใกล้ชิดเช่นนี้
กามินท์กระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนตอบรับว่าเรียบร้อยดีพระเจ้าค่ะ
ข้าก็ชอบมากนะที่ได้ออกมาอย่างงี๊จะได้เห็นว่าราษฏรของข้าอยู่กันอย่างไร สุขหรือทุข์แค่ไหน องค์มหาราชว่าต่อไป แต่ในทางกลับกันเหล่าราชบัณฑิตต่างมองหน้ากันเจื่อนๆ(ความจริงตรูไม่ได้อยากมาเล๊ยยเหอะ!-*-)
(http://upic.me/i/v4/am085.jpg)
แล้วพระเจ้าวิเทฯก็ทรงม้าไปเรื่อยๆพวกนั้นก็ตามเสด็จ





ในระหว่างนั้นมโหสถอยู่ที่ศาลาเอนกประสงค์ กำลังรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้าน
พระเจ้าวิเทหราชและราชบัณฑิตก็มาถึงที่นั่น พวกราชบัณฑิตเห็นผู้คนมากมายมาให้มโหสถรักษาก็อึ้งปนตกใจ(คู่แข่งคนนี้น่ากลัวกว่าที่คิด เก่งค่อดๆว่างั้น!)
เด็กน้อยผู้นี้มีความสามารถทางการแพทย์ด้วยหรือข้านึกไม่ถึงเลย องค์มหาราชเอ่ยถามขึ้น
(http://upic.me/i/5g/dm086.jpg)



ภาพตัดไปที่ชายพ่อค้าผู้หนึ่งขี่เกวียนวัวมาที่ตลาดของหมู่บ้านปาจีนยวมัชฌคาม แต่อยู่ๆวัวของเขาก็เกิดหยุดเดินเอาดื้อๆเหมือนหนักอะไรซักอย่าง
ชายผู้นั้นพยายามบังคับให้วัวเดินแต่ก็ทำไม่สำเร็จจึงหันหลังไปดูว่าหนักอะไร ก็พบกับบุรุษแปลกหน้า(องค์ท้าวสักกะเทวราชจำแลงกาย)ที่มาเกาะท้ายเกวียนของเขาจึงไล่ให้ลงจากรถตัวเองซะ
(http://upic.me/i/a0/bm087.jpg)




โธ่นายอย่าไล่ข้าไปไหนเลยข้าตามนายมาด้วยความจงรักภักดีแท้ๆ ชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้น
555+จงรักภักดี เจ้าน่ะหรอจะจงรักภักดีกะข้า ผิดไปล่ะมั้ง ก็ข้าเป็นเพียงแค่คนธรรมดาข้าไม่ใช่ราชาครองแคว้นครองนคร เจ้าจะมาจงรักภักดีกะข้าได้ยังไง เหอๆๆพ่อค้าเอ่ยขันๆ
นาย(เสียงนุ่มๆ) คนเราน่ะ ย่อมขึ้นอยู่กับชะตาต้องกันต่างหาก ข้านั้นเมือ่ได้พบนายครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาในความงามสง่าของท่านที่ดูมีสง่าราศีกว่าบุคคลอื่นที่ข้าเคยพบ
ลุงไพโรจน์(?)เริ่มชักจะคล้อยตามแหมมีคนมาชมออกขนาดนั้น"เช่นนั้นเชียวเรอะ?"
(http://upic.me/i/4w/qm088.jpg)




ถ้ามีใครบอกว่านายคือราชาผู้ครองไพฑูรย์(?)สมบัติ ข้าก็ต้องเชื่อ
อื้ออหึหึหึหึ^^นี่เจ้าพูดจากใจจริงเรอะ? พ่อค้าถามอย่างถูกใจที่มีคนมายกยอ
โธ่นายข้ารู้สึกเช่นไรข้าย่อมพูดออกไปเช่นนั้น ขอเชิญนายนั่งตามสบายเถิด ได้โปรดให้ข้าบังคับม้าแทนท่านเถิด เพราะว่าท่าทางอย่างท่านไม่เหมาะที่จะทำอะไรเอง
ลุงไพโรจน์ เฮ้ยพ่อค้าบ้ายอจึงพูด อื้มก็ดีเหมือนกันนะ ข้าเองก็เมื่อยแขนเมื่อยขามานานแล้วเหมือนกัน เอาสิเอ๊า แล้วก็ยื่นสายบังเหียนให้ชายแปลกหน้าส่วนตนก็ไปนั่งบนเกวียน
แผนลวงสำเร็จแล้ว!  น็อกซ์!!(อ้าวไม่ใช่แฮร์รี่หรอกหรอ?อิอิ^^)
(http://upic.me/i/py/2m089.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 12:01:14 AM
หยุดก่อนทาสของข้า พ่อค้าบอกเมื่อมาถึงตลาดของหมู่บ้านปาจีนฯแล้วพร้อมบอกประสงค์ว่าจะไปซื้อของหน่อย
องค์อินทร์จำแลงก็แสร้งทำเป็นอาสาจะไปซื้อของให้ ให้พ่อค้านั่งพักตามสบาย แต่..
ไม่ได้ๆๆขืนให้เจ้าไปซื้อให้เจ้าก็เอาของข้าไปน่ะสิ ข้าน่ะเป็นคนฉลาดและก็รอบคอบนะ(หรอออ) ฮ่าๆข้าจักต้องไปซื้อเอง เจ้ารออยู่ที่นี่แหละ! พ่อค้าบอกก่อนจะลงไปซื้อของด้วยตนเองตามความคิดฉลาดๆของตน-*-
(http://upic.me/i/2y/mm090.jpg)






ตัดมาที่พระเจ้าวิเทหราชต่อ

เด็กน้อยผู้นี้มีความสามารถด้านการแพทย์ด้วยหรือ ข้านึกไม่ถึงจริงๆ<<<คำถามเดิม
กามินท์ทำหน้าคิดหนักก่อนจะชักแม่น้ำทั้งห้ามาตอบ เอ่อมหาราช อันอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นเรื่องข๊องกำลังใจ มันอยู่ที่กำลังใจพระเจ้าค่ะ(เน้นเชียว)
ถ้าเกิดว่าผู้ป่วยนั้นมีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวผู้ที่รักษา อาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นก็จะหายไปเป็นธรรมดาพระเจ้าค่ะ
(http://upic.me/i/dv/1m091.jpg)



วิรุณอดไม่ได้เถียงขึ้นมาว่า ท่านอาจารย์ อันธรรมดาผู้ที่มีความสามารถทำให้ผู้อื่นเชื่อถือศรัทธาได้นั้นย่อมจะมีคุณสมบัติเป็นพิเศษ(ท่านอาจารย์ทำน้าอึ้งๆเอ๋อๆ)
ราเมธเสริมเข้าไปอีกว่า ยิ่งเป็นเช่นนี้ด้วยแล้วย่อมแสดงให้เห็นว่า เค้าต้องเป็นนักปราชญ์คนที่ห้าตามพระสุบินนิมิตที่ท่านอาจารย์เสนากะได้ทำนายเอาไว้จริงๆ (โอ้เหตุผลเยี่ยมจริงๆ!! ท่านอาจารย์ทั้งหลายทำหน้า..บรรยายไม่ถูกตามรูป4เลย^^)
(http://upic.me/i/v4/2m092.jpg)




เสนากะยิ้มก่อนหัวเราะหึหึ(ตามแบบฉบับตัวอิจฉา)
ท่านราเมธ ข้าน่ะเข้าสู่มัชฉิมวัยแล้ว ไอ้เรื่องทำนายทายทักต่างๆมันย่อมผิดพลาดไปบ้าง(หรอ?ที่ตอนทำนายนั่นมันตั้งแต่มโหสถถือกำเนิดแล้วไม่ใช่?แถมตอนนั้นยังยกยอตัวเองว่าทำนายแม่นซะด้วยสิ-*-)
กามินท์รีบเสริมว่า รึบางทีท่านเสนากะอาจจะทำนายไม่ผิด เพียงแต่ว่าเรายังหาบัณฑิตน้อยในพระสุบินนิมิตไม่พบเท่านั้น
ปุตกุสะรีบแก้ตัว(?)เสริมต่อ ข้าว่าต้องเป็นไปตามประการหลังตามที่ท่านกามินท์กล่าวเป็นแน่!!
(http://upic.me/i/yz/8m093.jpg)




มารุตทนไม่ไหว(ในความแหลสดของ) ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์อย่าลืมสิว่าพวกข้าได้ออกเดินทางไปตามทิศทั้งสี่ ตามที่ปรากฏในพระสุบินนิมิตขององค์มหาราชแต่ก็หาได้พบเด็กน้อยคนใดที่มีคุณลักษณะอันสมควรที่จะได้เป็นบัณฑิตยิ่งกว่าพ่อหนูน้อยมโหสถคนนี้
อย่ามาทุ่มเถียงกันอยู่เลย เรายังมีเวลาอีกตั้งมากมายที่จะพิสูจน์ความเป็นบัณฑิตของเด็กน้อยผู้นี้(หันไปทางมโหสถรักษาชาวบ้าน) องค์มหาราชตัดบทด้วยไม่อยากเห็นคนในมาเถียงกันเอง(มันดูไม่งามมั้ง แหมไอ้เรารึมันส์ดีออก55+)
(http://upic.me/i/3j/rm094.jpg)




Kunnaphat Talk: อ๊ากกกกไมเปิดหน้าแรกมโหสถไม่ได้อ่า>o<!!!แงๆๆT^T
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ มีนาคม 13, 2011, 12:59:04 PM
เข้ามาให้กำลังใจ น้องกันย์ ภาพชัดมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 02:42:26 PM
เมื่อคืนแอบเซงที่คอมอืดๆรวนๆ แถมเข้าหน้าแรกมโหสถไม่ได้แล้วยังทำหน้าเพจเสียอีก=*=
โอเคมาต่อกันดีกว่า^^

ทางด้านพ่อค้าก็ไปซื้อของ ท้าวสักกะเทวราชจพแลงก็แอบมองดูท่าที ในขณะที่ ป้าหมอ ป้าส่าหรี กมลา มาลาตี อินทิรา
ส่วนป้าส่าหรีก็แอบปิ๊งพ่อค้าจนเดินเหม่อไปเหยียบเท้าของอินทิราเข้าให้ จนเด็กน้อยโวยวาย
กมลาแซวว่า แหมป้าส่าหรี พอห่างหูห่างตาป้าหมอเข้าหน่อยล่ะก็เที่ยวชายหูชายตาซะทั่วเชียวน๊า
ช่ายยย ฮ่าๆๆ แล้วเด็กๆก็พากันหัวเราะขำ
(http://upic.me/i/g0/wm095.jpg)




อินทิราเหลือบไปเห็นพ่อค้ามองมาทางส่าหรีก็แซวขึ้น " ป้าส่าหรี เค้ามองป้าส่าหรีด้วย"
ส่าหรี อุ๊ยยเค้ามองข้าด้วยยยยยย (พูดเสียงดีใจ ที่จะได้ลงจากคานแล้ว)
ฝันไปล่ะมั้งเค้าหรอจะมามองป้า มาลาตีว่า   ช่ายฮ่าๆๆ เด็กๆร่วมประสานเสียงหัวเราะอีกครั้ง    ป้า: เอ๊ะเด็กพวกนี้นี่!!
 แล้วเด็กๆก็ว่าจะกลับแต่ป้าส่าหรีไม่ยอมให้กลับยื้อกันไปมาจนคนมองทั่ว
แล้วพ่อค้าก็เข้ามาหาใกล้ๆจนส่าหรีเขินม้วน
(http://upic.me/i/6c/lm096.jpg)
"ท่านป้า"พ่อค้าทักส่าหรีหันขวับหุบยิ้ม เด็กๆ ว๊ายยย555+ท่านป้า555+
พ่อค้าว่าต่อ คือว่าชั้นน่ะอยากจะทราบว่าเมืองอุตรยวมัชฌคามน่ะไปทางไหน  ส่าหรีมองโกรธๆและเมินหนี "กลับ!"





ขณะนั้น  องค์ท้าวสักกะเทวราชเมิ่อเห็นได้ช่องก็ขึ้นควบเกวียนของพ่อค้าออกไป

องค์เทพบิดรเห็นคนสัญจรมากมายไปมา
จึงขับรถไปเร็วไวหนักหนา
ด้วยเดชเดชาเกินกว่ามนุษย์ใด
เป็ฯที่สังเกตทุกวัยทุกเพศหันมองทั่วไป
เที่ยวชี้บอกกันดูนั่นเห็นไหม
จนความรู้ไปของเจ้าของเกวียน
(http://upic.me/i/47/im097.jpg)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 02:47:57 PM
ในขณะที่องค์มหาราชก็กำลังมองดูการรักษาของมโหสถอยู่ เมื่อชายคนหนึ่งที่ได้รับการรักษาจากมโหสถเดินออกมา เสนกะก็รั้งตัวมาถาม
เอ่อช้าก่อนสหาย ท่านรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ
สบายขึ้นเลยล่ะท่าน ท่านมโหสถทั้งเก่งและฉลาด    จะเรียกเค้ามาถามให้ตอกย้ำ(ความเก่งของคู่แข่ง)ทำม๊ายยเหอๆๆ-*-
(http://upic.me/i/d7/im098.jpg)



ในขณะที่พ่อค้าเหลือบไปเห็นว่าเกวียนถูกขโมยก็รีบวิ่งตาม ปากก็ร้องตะโกนว่าช่วยด้วยๆๆๆหมอนั่นมันขโมยรถฉันไปช่วยด้วยๆ!!
องค์มหาราชเห็นดังนั้นจึงได้สั่งให้ราชบุรุษออกไปช่วย
(http://upic.me/i/x6/sm099.jpg)



แต่ทว่าสี่ราชบุรุษไม่อาจขัดขวางบุรุษ/โจร/นิรนามผู้นี้ได้ ต่างถูกโจมตีกลับอย่างหมดท่ากันทุกคน ด้วยอิทธิฤทธิ์ที่ยากจะหยั่งถึงขององค์เทวา(จำแลง)
(http://upic.me/i/49/am100.jpg)

ปล.กันย์ชอบตอนนี้มากมาย บทบรรยายน้อยดี กรั่กๆๆ (ความจริงอยากใส่ภาพการต่อสู้มากกว่านี้แต่กลัวว่ามันจะเป็นภาพที่ยาวเว่อร์เกิ๊นน-*-
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 03:01:59 PM
พ่อค้ามาถึงก็โวยวาย ไอ้ขโมยลงมาเดี๋ยวนี้เอาเกวียนของข้ามา แต่ก็เกือบถูกตบปลิ้น(?) เจ้าขโมยของข้ามา!!(ยังไม่เลิกโวย-*-)
เราขโมยของเจ้าเมื่อไหร่ล่ะ รถของเราต่างหาก องค์อินทร์จำแลงเอ่ยขึ้นเสียงนุ่มๆ
พ่อค้าได้ยินดังนั้นจึงโวยต่อ นี่ๆๆพี่น้องทั้งหลายสหายทั้งหลาย รถคันนี้เป็นของข้า ไอ้เจ้า ชายผู้นี้มันขโมยของข้ามาเป็นพยานให้ข้าด้วยรถของข้าจริงๆ
(http://upic.me/i/18/cm101.jpg)




บุรุษนิรนามยิ้มเยาะก่อนว่า  ไหน ใครคนไหนมันจะบังอาจเป็นพยานให้กับเจ้า ในเมื่อทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าข้าเป็นผู้บังคับม้าอยู่ในขณะนี้เจ้าต่างหากล่ะที่วิ่งมาตู่ว่ารถของข้าเป็นของเจ้า
พ่อค้า เฮ้ย!ๆๆไอ้หน้าขี้โกง! ขี้โกง!!! รถของข้าแท้ๆมาตู่ว่าเป็นรถของเจ้าปัดโธ่เว้ย พี่น้องทั้งหลายเป็นพยานให้ข้าได้
แต่ก็ไม่มีใครสามารถเป็นพยานให้พ่อค้าได้ จนพ่อค้าเหลือบมาเห็นส่าหรีเข้าจึงเรียกถามนางให้เป็นพยาน แต่ส่าหรีก็ไม่รู้เรื่องเพระาไม่เห็นว่าเกวียนนั้นเป็นของเขาหรือไม่
(http://upic.me/i/o7/6m102.jpg)





ตัดมาที่นางสุมนาเทวีที่กำลังแต่งสีเติมตาอยู่ที่บ้าน และเมตตาก็เข้ามา ถามหาป้าหมอกับแม่ส่าหรีว่ามารึยังกับสาวใช้คนหนึ่งที่นั่งอยู่เมื่อได้รับคำตอบว่ายังไม่มา ก็เข้าไปบ่นกับนายหญิงว่าทั้งสองพาเด็กสามคนไปเถลไถล
นายหญิงจึงว่า นานๆได้ออกไปตลาดทีนึงก็เถลไถลอย่างงี๊แหละ เออนี่เจ้าเมตตาเจ้าเห็นมโหสถมั้ย? ท่านบิดาตามหาตั้งแต่เช้าแล้ว
เมตตาหันไปถามสาวใช้อีกคน นางตอบว่า อยู่กับเด็กๆที่ศาลาริมน้ำโน่นแน่ะเจ้าค่ะ ให้ไปตามให้มั้ยเจ้าคะ
นางสุมนาเทวีบอกว่าจะไปด้วยและสั่งให้เมตตาเฝ้าบ้านไปซะ!
(http://upic.me/i/0x/mm103.jpg)




เมื่อผู้เป็นแม่มาถึงก็เจอกับศึกจ้องตา เฮ้ย!การเจอกันระหว่าง ท้าวสักกะเทวราชจำแลงและมโหสถน้อย 
ทั้งสองยิ้มให้กันเล็กๆก่อนที่มโหสถจะเอ่ยถาม
(http://upic.me/i/7l/5m104.jpg)



ท่านทั้งสองมีเหตุวิวาทอันใด
พ่อค้ารีบวิ่งเข้าไปหา พ่อหนูน้อยข้าน่ะเคยได้ยินคำร่ำลือว่าท่านน่ะเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด..และเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมได้โปรดช่วยข้าด้วยเถอะไอ้ชายผู้นี้มันหลอกลวง หลอกลวงจริงๆ
ขอมาเป็นทาสข้า แล้วถือโอกาสตอนที่ข้าเผลอลักขโมยรถม้าข้าไปน่ะ ได้โปรดเถอะ

(http://upic.me/i/e9/bm105.jpg)
                           แหมพี่ติ๊กหล่อได้อีก><! ไมเมื่อก่อนไม่เคยเห็นความหล่อนี้หว่า?-*-
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 03:13:46 PM
ท้าวสักกะเทวราชแปลง เฮอะๆน่าขัน เจ้าลองดูสารรูปตัวเจ้า แล้วหันมามองข้า แล้วลองถามทุกๆคนในที่นี้ดูซิว่าใครสมควรที่จะเป็นทาสใครสมควรที่จะเป็นนาย
เมื่อสารรูปสู้เค้าไม่ได้ก็หันมาโวยต่อ ฮึ่ยยๆๆทำไมหน้าด้านอย่างงี๊ โกหกจริงๆขี้ตู่!!
(http://upic.me/i/z5/um106.jpg)





ในขณะนั้นเอง กามินท์ก็(รีบแสลน*หน้า)ว่า ทอดพระเนตรเห็นรึยังล่ะพระเจ้าค่ะว่าคดีเนี๊ยะมองแต่ภายนอกก็ตัดสินพระทัยได้เลยว่าใครเป็นใคร บุรุษหนุ่มผู้นั้นท่าทางสง่างามองอาจยิ่งนักไม่อยู่ในวรรณกษัตริย์ก็วรรณพราหมณ์นักรบ มีหรือพระเจ้าค่ะที่จะมาขอเป็นทาสชายผู้นั้น
(http://upic.me/i/83/sm107.jpg)



*แสลน = เสนอหน้า+แส่+แหลๆ (บัญญัติศัพท์ โดย กันย์ณภัทรเอง^^)




เสนกะ(แสลนอีกคน) ถูกแล้วพระเจ้าค่ะ ข้าพระองค์คิดว่าจะทรงเสียเวลาเปล่าๆนะที่จะทรงจะเสด็จมาฟังคำวินิจฉัยง่ายๆอย่างงี๊ ข้าพระองค์คิดว่าเสด็จกลับมหาราชวังดีกว่าพระเจ้าค่ะ
แต่องค์มหาราชว่า ข้าอยากจะฟังก่อนว่ามโหสถวินิจฉัยว่าอย่างไร (คนนี้ก็มาเสียงนุ่มๆหล่ออีกคน>//<!) เป็นอันจบข่าวว่าต้องดูต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้55+
(http://upic.me/i/hz/2m108.jpg)





มโหสถ เอาล่ะในเมื่อท่านทั้งสองยอมให้ข้าเป็นผู้วินิจฉัย ข้าก็จะขอผู้ใดผู้หนึ่งในที่นี้เป็นผู้อาสาขับรถ จะมีท่านผู้ใดอาสาการนี้บ้าง
 "ข้าเอง!" เสียงหนึ่งดังขึ้นแล้ว ไชยันต์ก็ก้าวออกมา
(http://upic.me/i/d7/sm109.jpg)





เจ้าของรถย่อมจะไม่ปล่อยรถของตนเอง ท่านจงเการถของท่านไป ใครปล่อยก่อนผู้นั้นย่อมไม่ใช่เจ้าของรถ เอาล่ะเกาะรถของท่านได้แล้วมโหสถเอ่ยขึ้นต่อเมือ่ได้ผู้ขับเกวียนแล้ว
องค์มหาราชแอบทำหน้าผิดหวังนิดหน่อยเมือ่ได้ยินเช่นนั้นจากปากของว่าที่ราชบัณฑิตคนที่ห้าแห่งราชสำนัก
พ่อค้าบ่น รถของข้าแท้ๆเล๊ยยยย ไม่น่าเล๊ยยอยากจะมีทาสกะเค้า
(http://upic.me/i/or/pm110.jpg)




          ทิ้งให้ค้าง แล้วชิ่ง!!...............

.

.

.

.

.

ดีมั้ย?^^


หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ มีนาคม 13, 2011, 03:36:31 PM
ไม่ดี!!!

ต่อด่วนค่า  แอบติดตามความเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะ

 :icon_evil:


*แสลน = เสนอหน้า+แส่+แหลๆ (บัญญัติศัพท์ โดย กันย์ณภัทรเอง^^)



 :icon_confused:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ มีนาคม 13, 2011, 08:40:36 PM
อย่าชิ่งแบบนี้สิคะ  :-X
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: augustle ที่ มีนาคม 13, 2011, 09:28:43 PM
รีบๆกลับมานะค้าาาา อย่าให้รอนานน้าาาา :-[
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 09:46:36 PM
อ่ะนะล้อเล่นน่า
พอดีเค้าอยากเล่าอีกเรื่องมากกว่าน่ะเลยไปเปิดไว้ก่อน(ขาดใจตาย)
มาต่อกันดีกว่าเนอะ^^





มโหสถออกคำสั่งให้ไปได้! ไชยันต์ก็ออกรถไปทันที
 ท่ามกลางเสียงเชียร์ และการดูถูกของเหล่าบัณฑิต ไห๊น ไหน ไหน! พวกท่าน(ราชบุรุษ)ว่ามโหสถผู้นี้สติปัญญาหลักแหลมยิ่งนัก หึ! มีบัณฑิตในโลกนี้คนไหนบ้างที่เค้าทำเช่นนี้ 555+
ข้าบอกได้เพียงอย่างเดียวก็คือว่า เด็กผู้นี้ต้องการจะเล่นแบบเด็กๆก็เท่านั้นแหละ555+กามินท์เยาะเย้ย
ปุตกุสะจึงเสริมว่า นี่ท่านดูนั่นสิ! แทนที่จะห้ามปรามเด็กท่านไชยันต์น่ะกลับทำตัวเป็นเด็ก กลับไปคราวนี้เห็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งราชบุรุษกันใหม่เสียแล้ว555+
(http://upic.me/i/ev/cm111.jpg)





เกาะรถไปด้วยวิ่งไปด้วยพ่อค้าก็โอดครวญ โอ้ยๆๆไม่ไหวแล้วๆ แฮ่กๆ แต่องค์อินทร์จำแลงกลับทำท่าทางสบายๆไม่ทุกข์ร้อนอันใดเลยแถมยังวิ่งสบายๆ(เหมือนเหาะ)อีกด้วย
 สุดท้ายพ่อค้าก็ทนวิ่งตามไม่ไหว จึงได้ปล่อยมือกลิ้งตกลงไป
รถชั้น! โอยยย...พ่อค้าคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา
(http://upic.me/i/yb/4m112.jpg)







ทั้งหมดกลับมที่มโหสถอีกครั้ง ซึ่งมีพ่อค้าเหนื่อยหอบอยู่คนเดียว ส่วนอีกคนไม่มีแม้แต่เหงื่อ
(http://upic.me/i/4h/qm113.jpg)






องค์อินทร์จำแลงพูดทวงสิทธิ์ขึ้น ข้าเป็นผู้ชนะ รถม้านี้ต้องเป็นของข้า!...
พ่อค้า(ยังจะเถียง) ไม่ใช่ แฮ่ก มันของๆข้า!!
(http://upic.me/i/zw/wm114.jpg)



หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: sk ที่ มีนาคม 13, 2011, 09:55:26 PM
555++ พี่กันย์เล่าสนุกอะ ศัพท์บัญญัติอิอิ คิดได้งัยเนี้ย
มโหสถต้องรู้อยู่แล้วแน่นอน ว่าคือองค์อินทร์จำแลง คริคริ ปัญญาบารมีเยอะมากมาย อิอิ
รอนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:04:15 PM
มโหสถจึงกล่าวขึ้นว่า บุรุษผู้นี้ถึงแม้จะเกาะรถไว้นานเท่าไหร่ก็ตามแต่ในที่สุดก็ต้องปล่อยมือตกลงมาบุรุษผู้นี้จึงเป็นเจ้าของรถที่แท้จริง
ลุงพ่อค้าเหนื่อยหอบแต่พอได้ยินคำวินิจฉัยแล้วก็อึ้ง และยิ้มออกท่ามกลางความสงสัยของผู้คนที่มุงดูและเหล่าบัญฑิตที่ยืนทำหน้าเอ๋อ(แดก)อีกรอบ
(http://upic.me/i/30/om115.jpg)




ส่วนบุรุษผู้นี้เกาะรถมากับเขาได้โดยตลอด ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ไม่มีแม้แต่เพียงเม็ดเหงื่อ ไม่หวั่นเกรง และไม่กระพริบตา บุรษผู้นี้จึงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
จบผลวินิจฉัยของมโหสถ เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็ พูดกันเซ็งแซ่ว่า หายักษ์? อีกแล้วหรอ? ว้ายยักษ์อีกแล้ว
ครั้งที่แล้วยักษ์ตัวเมีย หวายคราวนี้ยักษ์ตัวผู้!! ป้าส่าหรีอุทาน
(http://upic.me/i/jh/8m116.jpg)





เมื่อองค์อินทร์จำแลงหันหลังไปมอง ผู้คนที่มุงดูต่างถอยหนีห่าง พระองค์จึงหันมาพูดต่อ
เด็กน้อยผู้นี้มีสติปัญญาหลักแหลมและรอบคอบยิ่งนักสามารถวินิจฉัยความได้ชัดเจนและถูกต้อง สมควรที่จะได้รับการยกย่องเกียรติยศให้แพร่หลายสืบไป
เหล่ามหาบัญฑิตก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เหล่าราชบุรุษก็ต่างยิ้มเยาะถูกใจที่ราชบัณฑิตทั้ง4ถูกหักหน้า
(http://upic.me/i/bq/qm117.jpg)
แล้วองค์อินทร์จำแลงก็เดินจากไป แต่มโหสถกลับวิ่งตามออกไปด้วย ให้องค์มหาราชมองตามอย่างแปลกใจ

ส่าหรีอุทานลั่น ว๊ายนายน้อยวิ่งตามยักษ์ไปแล้ว!






ช้าก่อนท่าน!  มโหสถวิ่งตามมาจนทัน
เรียกเราด้วยเหตุใด องค์อินทร์จำแลงเอ่ยถามอย่างใจดี    ท่านคือท้าวสักกะเทวราช ราชาแห่งเทพใช่หรือไม่
 ถูกแล้ว เรานึกไม่ผิดเลยว่าท่านย่อมแยกแยะได้ถูกต้อง
ถ้าเช่นนั้นเพราะเหตุใดพระองค์จึงทรงทำเช่นนี้มโหสถเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เรามาเพื่อประกาศปัญญาของท่านให้แพร่หลายสืบไปน่ะสิ บัณฑิตน้อย  ถ้าเช่นนั้นขออย่าได้ทรงทำเช่นนี้อีก เพระาเหตุใดพระองค์ก็คงจะทรงทราบ
(http://upic.me/i/gr/5m118.jpg)
 
แล้วท้าวสักกะเทวราชก็คืนร่างเดิมยิ้มให้ก่อนจากไป มโหสถไหว้เคารพ องค์มหาราชเดินตามมาทันเห็นแสงวิบๆก็แปลกใจสงสัย





จบ!!  หมดสต็อคที่เรียงไว้แล่ว-*- เรื่องนี้เรียงภาพยากอ่า เหนื่อยด้วย-*-  อาจอัพอืดนิดนุงนะคะ^^
คราวหน้า เหล่ามหาบัณฑิตทั้ง4 วางแผนกำจัดมโหสถ(แกล้งด้วย)โดยนำปัญหาไปให้แก้พร้อมกันถึง3ปัญหา แล้วก็มโหสถจะได้แสดงปัญญาเป็นที่ประจักษ์ด้วยค่ะ แต่ว่า รอก่อนน๊า^^
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:36:50 PM
คร้า จะเฝ้ารอติดตาม
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: Vincent ที่ มีนาคม 15, 2011, 07:10:16 PM
รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: augustle ที่ มีนาคม 15, 2011, 09:29:21 PM
สนุกมากค่ะ มาต่อไวไวน้าาาค้าาาา :icon_idea:
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่อง ~มโหสถชาดก~
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ มีนาคม 22, 2011, 04:30:31 PM


ถ้ามีใครบอกว่านายคือราชาผู้ครองไพฑูรย์(?)สมบัติ ข้าก็ต้องเชื่อ


ไอศูรย์สมบัติ ค่ะ  พี่กันย์   :icon_sad: