ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

::: MAGAZINE ONLINE SERIES ZONE :::ห้องหนังสือ วรรณกรรม ละคร => นิตยสารออนไลน์ => ข้อความที่เริ่มโดย: nanajung ที่ มีนาคม 24, 2008, 04:47:44 AM

หัวข้อ: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ มีนาคม 24, 2008, 04:47:44 AM
ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อหัวข้อว่าไรเหมือนกันนะคะเนี่ย เพราะที่อยากคุยก็ มีทั้งงานเขียนของไทย ซึ่งนานะจังมีความรู้น้อยมาก เพราะส่วนมากอ่านวรรณกรรมแปลแนวสืบสวนสอบสวนซะส่วนใหญ่ แล้วก็ การ์ตูน นี่อ่านเยอะมาก ไงก็มาร่วมเสวนาแบ่งปันนะคะ รู้สึกบอร์ดนี้จะมี นักอ่านและ นักเขียนเยอะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ มีนาคม 24, 2008, 04:53:18 AM
อันนี้ ไปหาเจอมาค่ะ ชื่อหัวข้อว่า  คิดว่าผลงานนักเขียนท่านใดถูกนำมาสร้างเป็นละครมากที่สุดค่ะ


คุณกฤษณา ก็เยอะนะคะ ที่เคยสร้างละครแล้วก็มี

เลื่อมสลับลาย, ลายหงส์, เรือมนุษย์, ชลธีพิศวาส, เพลงบินใบงิ้ว, น้ำเซาะทราย, ดอกหญ้า, ดวงตาสวรรค์, สวรรค์เบี่ยง, เมียหลวง, ข้ามสีทันดร, สะพานข้ามดาว, สาปสวาท, น้ำผึ้งขม, ระฆังวงเดือน, ชิงช้าดอกบานชื่น, หน้าต่างบานแรก, พระจันทร์หลงเงา, ความรักแสนกล, ชาวกรง, กิ่งมัลลิกา, เวิ้งระกำ, กระเช้าสีดา, บ่วงดวงใจ, เนื้อนาง, เข็มซ่อนปลาย, ปีกทอง, ฝันกลางฤดูฝน, ฝ้ายแกมแพร, เพชรในเรือน, พลอยพราวแสง, เดือนครึ่งดวง, เพลิงบุญ, ถ่านเก่าไฟใหม่, เสื้อสีฝุ่น, หลงไฟ, ลานลูกไม้, วิมานไฟ, คาวน้ำค้าง, บาดาลใจ, ป่ากามเทพ, พฤกษาสวาท, ทรายย้อมสี, ไฟในทรวง, ฯลฯ

 
จาก นริมา 


.......

ของทมยันตี ก็มี

ทวิภพ, คู่กรรม, ถนนสายหัวใจ, อุ้มบุญ (เป็นพล็อต ไม่ได้เขียนเป็นนิยาย), เดชแม่ยาย, พ่อม่ายทีเด็ด, บิ๊กเสี่ย, พ่อครัวหัวป่าก์, พ่อปลาไหล, อุบัติเหตุ, อตีตา, รักลวง, นางเอก, เถ้ากุหลาบ, รัศมีจันทร์, กฤตยา, พิษสวาท, แก้วกลางดง, คุณหญิงนอกทำเนียบ, พี่เลี้ยง, คำมั่นสัญญา, ดาวเรือง, ร่มฉัตร, กษัตริยา, ค่าของคน, ในฝัน, แผลหัวใจ, ประกาศิตเงินตรา, เงา, ดั่งดวงหฤทัย, เลือดขัตติยา, เมียน้อย, ใยเสน่หา, รอยลิขิต, แต่งกับงาน, แรงรัก, โสมส่องแสง, รอยอินทร์, ล่า, สะพานดาว, สายใจ, สายรุ้ง, สิ้นสวาท, สุดหัวใจ, อย่าลืมฉัน, ไอ้คุณผี, ฯลฯ
 
จาก นริมา 

.......

ของ ว.วินิจฉัยกุล

แก้วราหู, คนเหนือดวง, มณีร้าว, หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น, รัตนโกสินทร์, สองฝั่งคลอง, นิรมิต, บ้านของพรุ่งนี้, บ้านพิลึก, ความลับของดาวมรกต, ทะเลแปร, เมืองโพล้เพล้, สงครามเงิน, ละครคน, เรือนนพเก้า, เรือนไม้สีเบจ, เรือนมยุรา, แต่ปางก่อน, จากฝันสู่นิรันดร, เศรษฐีตีนเปล่า, นางทิพย์, น้ำใสใจจริง, เส้นไหมสีเงิน, คุณชาย, เคหาสน์ภูต, ทานตะวัน, เยี่ยมวิมาน, มายา, ผ้าทอง, ฟ้าต่ำ, เพลงพรหม, ไร้เสน่หา, แม่พลอยหุง, ดอกแก้วการะบุหนิง, นาคราช, วงศาคณาญาติ, วิมานมะพร้าว, เบญจรงค์ห้าสี, ปลายเทียน, ปัญญาชนก้นครัว, หนุ่มทิพย์, ปาก, ฯลฯ
 
จาก นริมา   

......

งานของคุณชูวงศ์ ก็เยอะนะค่ะ
ขายสดหรือขายผ่อน , พี.อาร์.หมายเลขหนึ่ง , ตามรักตามล่า , ม่านบังใจ , พริกกะเกลือ , ดอกรักริมทาง , ทัณฑ์กามเทพ , เงาใจ , ตำรับรัก , ซากุระสีชมพู , นักข่าวหัวเห็ด , ก็ว่าจะไม่รัก
มายา-เสน่หา อลเวง , ฆาตกรกามเทพ , สื่อสยุมพร , เงาอโศก , มณีมรณะ , น้ำตาลใกล้มด , สุดสายป่าน , พระจันทร์แดง , แรงอาถรรพณ์ , เทพบุตรในฝัน , จำเลยรัก , ฝันเฟื่อง , หยดหนึ่งของความรัก , ฟ้ามีตะวัน หัวใจฉันมีเธอ , ป.ล. ด้วยรักและเข้าใจ , สวรรค์ชั้นนี้ยังมีรัก , สร้อยเสน่ห์ เล่ห์พิศวาส , เหมือนเราจะรักกันไม่ได้ , ดอกรักกลางพงหนาม , พระเอกในความมืด

 
จาก ลงยา   


Credit : http://www.sakulthai.com/webboard/Questionv.asp?GID=2462
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มีนาคม 24, 2008, 07:57:45 AM
โอ๊ะโอ! มาตอบเป็นคนแรกเลยเหรอเนี่ย ความจริงก็ยังไม่รู้จะคุยอะไรเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพราะไม่มีเรื่องจะคุยนะคะ แต่เพราะมันมีเยอะมากกกก...จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดีอ่ะค่ะ

พอดีอ่านลิสต์นิยายของอาจารย์ว. วินิจฉัยกุลของนานะจัง เห็นไม่มีเรื่อง "หลงเงา" ก็เลยจะมาเพิ่มชื่อให้อ่ะค่ะ ประทับใจนิยายเล่มเดียวจบเรื่องนี้ไม่เคยลืมเลย นับตั้งแต่อ่านครั้งแรกเมื่อหลายๆๆ ปีมาแล้ว แต่เห็นไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ กลัวใครๆ จะลืมเรื่องนี้กัน

นอกเหนือจากผลงานดังๆ ของอาจารย์ที่ใครๆ ก็รู้จักกันดีแล้ว อย่างเรือนมยุรา นิรมิตร มายา ก็อยากจะแนะนำให้อ่านผลงานของอาจารย์ ที่อาจจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยอ่ะค่ะ เพราะว่าดีๆ ทั้งนั้น ไม่แพ้ผลงานที่ดังๆ ของอาจารย์เลย นอกจาก "หลงเงา" ที่เราชอบแล้ว ก็ยังชอบ "บ้านพิลึก" เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่อาจารย์เขียนได้น่ารักและตลกมาก ไม่ทราบว่านานะจังกับน้องๆ ได้อ่านเรื่องนี้หรือยังคะ อ่านสนุกมากเลยค่ะ

แล้วพอดีไปเจอประวัติและผลงานของอาจารย์แบบละเอียดเลย ในเว็บวิชาการดอทคอม เนื่องจากว่าตอนนี้เข้าไปอ่านเรื่องที่อาจารย์เล่าเรื่องคนอ. ในเว็บนี้อยู่ ก็เลยเอาลิงค์มาแปะให้ค่ะ เผื่อใครอยากจะรู้จักอาจารย์เพิ่มขึ้น

http://mail.vcharkarn.com/vcafe/31627/3

ถ้าเป็นนิยายไทย ตอนนี้อาจารย์ว. วินิจฉัยกุล เป็นนักเขียนโปรดที่สุดของเราค่ะ แต่ว่าถ้าแก่ๆ กว่านี้ก็อาจจะเพิ่ม กฤษณา อโศกสิน อีกคน เท่าที่เคยอ่านของกฤษณาฯ มาบ้าง เรารู้สึกว่า เป็นนิยายแนว realism และผู้ใหญ่มากๆ อย่างเรื่องที่ดังๆ ของเธออย่าง "เมียหลวง" ตอนทำเป็นละครดูเหมือนเป็นนิยายแนวผัวๆ เมียๆ แบบที่บ้านเราชอบ แต่ไปอ่านในหนังสือนี่คนละเรื่องเลย ค่อนข้างผู้ใหญ่มากๆ มีเหตุผลมาก และเนื้อเรื่องจะไม่ค่อยหวือหวา อ่านแล้วรู้สึกหนักเลย เหมือนไม่ใช่อ่านนิยาย แต่คิดว่าถ้านักอ่านผู้ใหญ่น่าจะชอบเรื่องแนวของกฤษณาฯ นะคะ แต่ว่าเธอก็แต่งหลายแนว ไม่ใช่แนวผู้ใหญ่อย่างเดียว เพราะเรื่องที่ดังมากๆ เรื่องหนึ่งของกฤษณาฯ ก็คือ สวรรค์เบี่ยง ที่กำลัง remake อยู่ แต่เราเฉยๆ อ่ะค่ะ เรื่องนี้

อ้อ! อีกนิดนะคะ มีใครชอบเข้าร้านหนังสือมือสองมั่งมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มีนาคม 24, 2008, 08:21:18 AM
อีกนิดของอีกนิดนะคะ อาจารย์ว. ท่านก็ชอบเขียนเรื่องแนวเหนือจริงแฟนตาซี ในนามปากกา "แก้วเก้า" คล้ายเจเค. โรว์ลิ่งเหมือนกันนะ เพียงแต่ท่านเป็นแฟนตาซีแบบไทยๆ ย้อนยุคไปอยุธยาโน่น

ยังเคยคิดว่าหนังสือแนวแฟนตาซีอย่าง "เรือนมยุรา" ของท่านนี่ ถ้าเขียนหรือแปลเป็นภาษาอังกฤษ หรือว่าถ้าท่านเพิ่งมาเขียนเอาตอนนี้ ตอนที่โลกาภิวัตน์หรืออินเตอร์เน็ตกำลังเฟื่องสุดๆ นี่ มีสิทธิ์ดังทั่วโลกแบบแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้เหมือนกันนะ

ความสามารถในการเขียนของท่าน เราว่าเหนือกว่าเจเค. ด้วยซ้ำ ท่านอาวุโสกว่าเจเค. ด้วย ไม่เชื่อก็ดูลิสต์ผลงานของท่านดิ่ นับไม่ถ้วน ที่น่าทึ่งคือ ท่านไม่ได้แค่เขียนเยอะ แต่ยังเขียนดีและเขียนเก่งมากด้วย ได้ทั้งความสนุกบันเทิงและสาระ

แล้วนิยายหลายเรื่องของท่านต้องเก็บข้อมูลเยอะมาก มันน่าทึ่งมากว่าท่านมีเวลาเขียนงานเยอะขนาดนี้ได้ไง แสดงว่าท่านต้องอัจฉริยะและเขียนเร็วมาก (อย่างเจเค. เขียนแฮร์รี่ 7 เล่มยังใช้เวลาตั้ง 17 ปี) เพราะท่านยังชอบเขียนเรื่องที่ตัวเอกมีตัวจริงด้วย อย่างราตรีประดับดาว รัตนโกสินทร์ เรื่องหลังนี่เป็นเรื่องบรรพบุรุษของท่านเอง

ที่เปรียบเทียบท่านกับเจเค. ไม่ได้จะบอกว่าใครด้อยหรือเหนือกว่าหรอกนะคะ แต่เพราะว่าทั้ง 2 คนเป็นนักเขียนโปรดสุดของเราอ่ะค่ะ เจเค. เองก็น่าทึ่งหยอกเมื่อไหร่ ถึงจะเขียนแค่แฮร์รี่เรื่องเดียว แต่ก็มีตั้ง 7 ตอน แต่ละตอนหนาๆ ทั้งนั้น แล้วเนื้อเรื่องยังลึกลับซับซ้อนหักมุมโน่นนี่ตลอดเรื่อง เขียนเรื่องเดียวก็จริง แต่เหมือนเขียนเป็นสิบๆ เรื่องเลย แค่คิดพล็อตก็เหนื่อยแล้วเรื่องแฮร์รี่นี่น่ะ สุดยอดพล็อตจริงๆ ไม่แพ้กิมย้งเหมือนกัน พูดถึงกิมย้งแล้ว คราวนี้ก็ครบเซ็ตนักเขียนโปรดของเราเลยค่ะ ไทย ฝรั่ง จีน พูดเหมือนกับจะไปกินบุฟเฟต์นานาชาติยังไงยังงั้น ความจริงหนังสือก็ไม่ต่างอะไรกับอาหารนะ ก็อาหารสมองไง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ควรอยู่ในปัจจัย 4 ด้านสมองและจิตใจเหมือนกัน

รู้สึกจะไม่นิดนะคะ แฮ่ะแฮ่ะ โทดที
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ มีนาคม 24, 2008, 11:17:36 AM
เอ่อ......................

เหมือนกันค่ะ   ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี   เพราะนักประพันธ์  ชอบหลายคนมาก
จำไม่ได้แล้วว่าอ่านของใครเรื่องไหนบ้าง   แต่ถ้าเอ่ยชื่อ จะบอกได้เลยว่าอ่านหรือยังไม่อ่าน

เดี๋ยวมาทีละเรื่องค่ะ   ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนดี

แต่ถ้าจัดอันดับนิยายในดวงใจ

1.เพชรพระอุมา  - พนมเทียน
2.ศิวาราตรี  - พนมเทียน
3.สุขอบจักรวาล  - จุฑารัตน์
4.สุริยวรรมัน  - ทมยันตี
5.ปลายเทียน  - แก้วเก้า

.............
............
............

(อีกเยอะแยะ)


เรื่องที่พี่นานะกล่าวมา  ที่กาฬอ่านแล้วก็มี

สวรรค์เบี่ยง (ตอนที่อ่านนั้น  ยังไม่ค่อยเข้าใจคาวีเท่าไหร่เลย)

ทวิภพ (ชอบแม่มณีมากๆ เลยค่ะ  แล้วก็ชอบแม่ของคุณหลวง ท่านดูอบอุ่น วิถีการดำเนินชีวิตของไทยในสมัยก่อน ไม่ต้องแก่งแย่ง ไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะมีทำให้ชีวิตมีความสุข อ่านแล้วก็อยากกลับไปอยู่ในยุคนั้นบ้างจัง)

คู่กรรม (ถ้าเป็นคู่กรรม ภาค 2 ที่ช่อง 3 ทำ เฮ้อออ  ดูแล้วทำใจ  จับให้โดนัทคู่กับแดนจนได้  แต่ในหนังสือ  อ่านแล้วอยากกินกุ้งแม่น้ำเผากับสะเดาลวกมากเลย  รู้สึกว่า เป็นเรื่องที่ อังศุมาลิน เพิ่งมารู้ตัวว่ารักเมื่อสายไปแล้ว  แต่ทมยันตีก็ถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาได้ดีทั้ง 2 ภาคนะคะ  นำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาเชื่อมโยงกัน  ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเหตุการ์ 14 ตุลา  สมัยนั้น กลุ่มนักเรียนนักศึกษาให้ความสำคัญทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ  ไม่เหมือนสมัยนี้ สนใจแต่ดาราแฟชั่น [ตัวเองก็เป็น :-[])

เถ้ากุหลาบ (ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เหมือนกัน  ลืมหมดแล้ว  จำได้แต่ว่านางเอกตาย)

รัศมีจันทร์ (เรื่องนี้เกี่ยวกับอียิปต์  รู้สึก บทบาทของ เอลยา จะสำคัญกว่า รัศมีจันทร์เสียอีก  จำเนื้อเรื่องโดยละเอียดไม่ได้แล้ว  จำได้แต่ว่าตอนหลัง  รัศมีจันทร์หนีไปกับพระเอก  ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัศมีจันทร์จะต้องบริสุทธิ์ ไม่แต่งงาน  ทางการยอมปล่อยไป  แต่บอกว่า ถ้ามีลูกสาวต้องให้ลูกกลับมารับตำแหน่งรัศมีจันทร์แทน)

กฤตยา (นี่ก็เกี่ยวกับอาถรรพณ์ของอียืปต์  จำไม่ได้แม่นอ่ะ  แต่ก็ชอบ)

คำมั่นสัญญา (ภูมิใจนำเสนอค่ะ   ดูละครเวอร์ชั่น กบ-บรู๊ค  ร้องไห้ใหญ่เลย :'(  พอเอาหนังสือมาอ่าน  ยิ่งหลั่งน้ำตาเป็นฌาปนกิจคาเมะ(เผาเต่า :-X) เลยทีเดียว  ร้องไห้ตั้งแต่ครึ่งเล่มยันจบเล่ม  ตอนที่น้องดากำลังจะต้องแต่งงาน  คืนนั้น ร้องเท่าไหร่ไม่สน แต่ต้องอ่านให้จบให้ได้  ตื่นมาตาบวมตุ่ย)

ร่มฉัตร (เรื่องนี้ยังอ่านไม่จบ  เพราะไม่ได้อ่านต่อ  แต่ตอนนั้นก็ร้องไห้เหมือนกัน  ตอนที่แม่ของวาดตาย)

กษัตริยา (อ่านมาหมดทั้ง 3 ภาคแล้ว  แก้วกษัตริยา  แก้วกัลยาแห่งแผ่นดิน  อธิราชา  ร้องไห้หมดอีกตามเคย  ชีวิตของทั้ง 3 พระองค์)

ในฝัน (อันนี้อ่านเพื่อเอาความงดงามอย่างเดียวเลย  เพราะไม่เข้าใจเกมกลทางการเมืองเลยซักนิด  อ่านแล้วตามไม่ทันทมยันตีเลยค่ะ   แต่ก็ยังหลั่งน้ำตากับจดหมายของเจ้าชายโอริสสาวัฒนา และดอกหยาดฝน)

โสมส่องแสง (เจ้านางรอยคำเลอสรวง)

รอยอินทร์ (เจ้ารอยอินทร์ล้ำราช ตอนที่อ่านโสมส่องแสง  ไม่คิดเลยว่ารอยอินทร์  เจ้ารอยอินทร์จะตาย   อยากให้เอากลับมาทำเป็นละครจัง อยากดู  แต่ขออย่าให้ออกมาเหมือนดั่งดวงหฤทัยเวอร์ชั่น เวียร์-ขวัญนะ)

นิรมิต (เลือนๆ ไปแล้วเรื่องนี้  แต่ ภูวงศ์....แสดงออกมาในด้านดีและชั่วของคนๆ นึง)

เรือนนพเก้า (เรื่องนี้ก็สนุกนะ)

เรือนมยุรา (ค่อนข้างสงสารแม่นกยูง)

แต่ปางก่อน (เรื่องนี้สุดยอดมาก เจ้านางม่านแก้ว - ราชาวดี - อ้นตรา  3 ชาติกว่าจะได้กลับมาครองคู่กัน)

น้ำใสใจจริง (สนุกดีค่ะ  อ่านชีวิตมหาวิทยาลัย)

ผ้าทอง (เรื่องนี้เป็นสุดยอดเรื่องนึงเลย  ผ้าทองเหมือนมีอาถรรพณ์  ทุกผืนที่อุมาปักนำมาซึ่งความหายนะ  จำได้ว่ามีประมาณ 10 ผืนได้)

แม่พลอยหุง (เรื่องนี้เป็นการนำเสนอนางเอกที่ค่อนข้างต่างจากเรื่องอื่น   มาจากดิน  ไม่ได้งามที่ใจอะไรมาก   คนธรรมดาคนนึง)

นาคราช (เจ้าแสนผา  เจ้าล่าฟ้า  ปริศนาที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ความสัมพันธ์ระหว่าง นาคราชและมนุษย์  จากรุ่นยาสู่รุ่นหลาน  แพงเมือง  สุดท้ายก็เลือกที่จะไปอยู่กับ ล่าฟ้า  "เจ้าพี่  รอข้าเจ้าด้วย")

ปลายเทียน
(เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้เลยค่ะ

โฉมยงหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์
จำพลัดพรากเชียงใหม่เมืองศรี
ชื่อว่านางสร้อยสุมาลี
น้องร่วมชนนีนางสร้อยฟ้า

......................

ถ้าหากเจ็บเพียงแผลยังแก้หาย
เจ็บแค่กายชีวาไม่อาสัญ
แต่เจ็บยิ่งกว่าตายวายชีวัน
เจ็บต้องจากจอมขวัญพรากกันไกล

......................

ไม่ให้ตอบว่ารักจักไม่ตอบ
แต่บอกเพียงแค่ชอบตอบไม่ได้
ให้ฝืนใจไม่รักหักอาลัย
หักเท่าไรเหลือจะหักรักแก้วตา

...................

ขอให้สิ้นเวราในครานี้
ขอจงไปดีเถิดเพชรกล้า
หากเคยผิดพลั้งไปให้ษมา
หมดสิ้นโทษาทั้งสองเรา

....................

มิได้รักก็เหมือนใจได้ร่วมรัก
ขอเราจักสมสวาทในชาติใหม่
ชาตินี้จำลาสุดอาลัย
บุญน้อยเกินไปใช่คู่กัน


เรื่องนี้ก็ร้องเหมือนกันค่ะ  ตอนเพชรกล้าตาย  เมื่อตอนอ่านใหม่ๆ จำได้แทบทุกบทเลยค่ะ)

หนุ่มทิพย์  (อ่านเรื่อง  สวรรค์นรกช่างไฮเทคเหลือเกิน เรื่อง เงือก  ภูติผี)
 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มีนาคม 24, 2008, 12:20:52 PM
อ้าว! ตอบไม่ตรงคำถามอ่ะค่ะเรา แฮ่ะแฮ่ะ ขออำภัย ดันไปพูดถึงนักประพันธ์มากกว่าหนังสือเรื่องไหนโดนใจ

ไม่ได้จำกัดแค่หนังสือไทยใช่มั้ยคะ ถ้าโดนใจสุดๆ ณ ขณะเวลานี้ก็คือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถ้าโดนใจมานานเป็นอมตะนี่ เคยคิดว่าบรรดาเรื่องของกิมย้งนี่ สุดๆ สำหรับเราแล้ว แต่ตอนนี้คิดว่ายังไม่เจอเรื่องที่สุดๆ จริงๆ แฮะ ประเภทที่สามารถอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกได้โดยไม่รู้เบื่อน่ะ ก็จะต้องค้นหากันต่อไปค่ะ แต่เดี๋ยวนี้กำลังตามกระแส in trend อ่านบรรดาเรื่องจริงผ่านคอมกับเขาอยู่ คล้ายๆ เหมือนเป็น reality show ภาคการอ่านเลยvjt แต่ส่วน reality show ภาคโทรทัศน์นี่ กลับไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ มีนาคม 25, 2008, 10:44:23 AM
คุณ galdewis ไหนๆก็เค้ามาบ่อยๆแล้วก็สมัครมาเป็นครอบครัวบอยคลับไปเลยซิคะ 

สำหรับนักเขียนที่เก่งในสายตาพี่ก็คง เจอาร์ อาร์โทคีน แห่งเดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริงค์ นะพี่ว่าเค้าเก่งอ่ะแต่งมานานแล้วอายุของหนังสือเรื่องนี้ก็ร่วม 50 ปีไปแล้วด้วยซ้ำแต่ถ้าใครหยิบมาอ่านก็จะชอบรู้สึกว่ามันร่วมสมัยและเรื่องนี้ก็คงจะเป็นอมตะในสายตานักอ่านด้วยเช่นกันและในสายตาพี่คนนี้เค้าเป็นต้นแบบให้นักแต่งนิยายรุ่นหลังหันมาเอาอย่างในการแต่งนิยายแฟนตาซีไตรภาคจนทำให้ต่อมามีนิยายดีๆในแนวนี้ตามออกมาอีกมากมาย
 
หนังสือที่ชอบก็แนวนี้แหล่ะ  เดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริงค์  แฮรี พอรต์เตอร์  นาเนียร์   

ปล. แต่ที่ชอบมากกว่าก็สุนทรภู่ แบบชาตินิยมไปไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ มีนาคม 25, 2008, 12:53:03 PM
อืมม...อ่านมาเยอะเหมือนกัน แต่จะเป็นพวกวรรณกรรมแปลซะส่วนใหญ่แนวแฟนตาซีด้วย ส่วนงานเขียนของไทยก็จะเป็นพวกเรื่องสั้น ซีรี่ย์ซีไรท์ (สะกดถูกป่าว?หว่า)

เอาเป็นว่าที่โดนๆจริงๆ ก็แฮร์รี่พอตเตอร์ อันดับ1, อาร์ทิมิส ฟาวส์,  หัวขโมยแห่งบารามอส, Exodus, เมอลินผู้วิเศษ, เอรากอน ฯลฯ

ชอบงานเขียนเรื่องสั้นของวินทร์แทบทุกเรื่องเลย สนุกมั่กๆ สุดๆก็คงเป็นสมุดปกดำกับใบไม้สีแดง ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เดือนช่วงดวงเด่นฟ้าดาดาว(มะรู้เรียงชื่อถูกป่าวลืม อ่านนานละ) ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล และก็เรื่องสั้นชุดเสี่ยวนักสืบ (เรื่องนี้ฮาสุดๆ แหวกแนววินทร์ด้วย) วินทร์ฯลฯ

ไม่ถามเรื่องการ์ตูนมั่งหรอ? (อยากตอบๆ) ชอบ ฮันเตอร์Xฮันเตอร์ ฮิคารุฯ เดธโน้ต เดอะปริ้นซ์ออฟเทนนิส อภัยมณีซาก้า โคนัน Dr.K Spiral ฯลฯ

ไว้จามาป่วงใหม่ ปายละบายค่า ;D

 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Moon ที่ มีนาคม 25, 2008, 12:56:03 PM
งานเขียนที่เราชอบก็มี
1. แฮร์รี่  พอตเตอร์  โดนใจมาก  ทำให้เรารู้สึกอินไปกับมันด้วยบางครั้ง
2. มิติมหัศจรรย์   ไปเจอแบบที่เป็นหนังสือนิยายมาค่ะ แต่ไม่ได้ดูละครจริงๆ  เขียนได้น่าอ่านและน่าติดตามมากค่ะ
3. คู่กรรม  เจอในห้องสมุดโรงเรียน เลยยืมมาอ่านแล้วชอบมากๆเลยค่ะ
 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ มีนาคม 25, 2008, 01:22:44 PM
ไม่ค่อยมีเวลาเอาคร่าวๆก่อนแล้วกันนะคะ

อันดับ1 . แฮร์รี่พอตเตอร์  ของ JK Rowling
อันดับ2.  เทวาซาตาน  ของ DAN BROWN
อันดับ3. รหัสลับดาวิชี  ของ DAN BROWN
อันดับ4. บทเพลงปีศาจ :คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 3 (AKUMA GA KITARITE FUE WO FUKU)  โดย SEISHI YOKOMIZO
อันดับ 5 เจาะเวลาหาจิ๋นซี โดย หวงอี้
อันดับ5 ล่ารหัสมรณะ  ของ DAN BROWN
อันดับ6. แผนลวงสะท้านโลก ของ DAN BROWN
อันดับ7. อยู่กับก๋ง ของ หยก บูรพา
อันดับ 8 เชอร์ล็อกโฮม
อันดับ 9 มอม ของ อาจารย์ คึกฤทธิ์


การ์ตูน

1. คิดดะอิจิ ฆาตรกรรมปริศนา
2. Death Note สมุดมรณะ
3. Slum Dunk
4. คนเก่งทะลุโลก
5 GTO ครูพันธ์หายาก
6 คำสาปฟาโรห์

การ์ตูนนี่เยอะมากมายจนนับไม่ถ้วนค่ะ แต่นี่เป็นการ์ตูน ที่นานะจัง ชอบมากที่สุด

แล้วเด๋วว่างๆมาลงรายละเอียดว่า ทำไมประทับใจแต่ละเล่มยังไงนะคะ งานนนี้คุยกันยาว

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nidajung ที่ มีนาคม 25, 2008, 01:47:44 PM
ไม่ค่อยได้อ่านเหมือนคนอื่นเค้าเลย :-[
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มีนาคม 25, 2008, 03:06:15 PM
ขอบคุณที่ชวนนะคะ คุณ bobenz แต่คงไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ มีนาคม 25, 2008, 03:47:28 PM
มอม เหรอ  ;)

สุดยอดมาก  เคยอ่านแต่ที่มีอยู่ในแบบเรียน 

เป็นหมาที่น่ารักและกตัญญูต่อเจ้าของมาก   อ่านไปร้องไห้ไป  สงสารมอม
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pim_4262 ที่ มีนาคม 25, 2008, 05:32:18 PM
กิ่งฉัตร อ.โกโช   ซี.เอส ลูอิส   เจเค   อ่ะค่ะ  ^__________^

ถ้าเป็นการ์ตูนก็
คินดะอิจิ
โคนัน
เดธโน๊ต

ถ้าเป็นนิยายก็คง
นาร์เนีย(อ่านครบแว้วๆ)
สไปเดอร์วิก(มันทำเป็นหนังแล้วนะ!)
แฮร์รี่ พอตเตอร์
หัวขโมยบารามอส
ไขรหัสเจาะปริศนา(วิทยาศาสตร์ทั้งเล่ม TT^TT)
มิติมายามนตราดวงดาว
หัวใจน้ำหมึก ภาค1-2 (ภาค2 คือมนตร์น้ำหมึก)
ส่วนใหญ่ก้จะเป็นหนังสือแปลอ่ะค่ะ   
แล้วก็ของกิ่งฉัตร  ^^ 
อ่านได้ทุกแนวอ่ะค่ะ
โดยเฉพาะ  ฆาตกรรม   8)





หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มีนาคม 25, 2008, 07:12:59 PM
ขอถามหน่อยนะคะ เห็นแต่ละคนอ่านหนังสือกันเยอะมาก โดยเฉพาะเพื่อนที่ชอบอ่านเรื่องแปลนะคะ มีหนังสือชื่อ Chicken Soup for the Soul คิดว่าคงจำชื่อไม่ผิดนะคะ แต่จำไม่ได้ว่าชื่อภาษาไทยชื่ออะไร ไม่ทราบมีใครเคยอ่านมั้ยคะ ในหนังสือพูดถึงเรื่องอะไรเหรอคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ninda ที่ มีนาคม 26, 2008, 10:53:47 PM
คลับเนี้ยนินดาอ่านน้อยสุดเลยมั้ง...555

เด็กๆ ก็อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น แต่เป็นแนวพาฝันค่ัะ เลยช่างเพ้อติดตัวมาตั้งแต่เด็กยันโต
ชื่อคนเขียน นี่จำไม่ได้หรอก แต่ค่ายที่อ่านคือหมึกจีนกับ...
ค่ายที่เป็นบอยเลิฟน่ะค่ะ (รู้สึกจะชื่อนี้เลยมั้ง) สมัยก่อนแนวนี้ไม่ฮิตนะ แต่เราก็ชอบอ่าน
เพราะลายเส้นดี สวย โดนเพื่อนว่าด้วยว่าเธออ่านไปได้ยังไง๊ ก็คนมันชอบนี่...
 
หนังจีนกำลังภายในก็อ่านเรื่องที่มันเป็นชุดสั้นๆ
ทำนองที่ว่าไม่ใช่เรื่องดังๆ น่ะค่ะ สงสัยว่าเรื่องดังๆ มันแพง เลยต้องจ่ายตามกำลังซื้อ
จึงได้อ่านตามกำลังซื้อที่มี (เราชอบอ่านหนังสือที่ซื้อเอง มากกว่าอ่านจากห้องสมุดค่ะ)
ถ้าเป็นยาวๆ ก็มังกรหยก ภาคแรกน่ะค่ะ ต่อจากนั้นไม่อ่านแล้ว เพราะว่าไม่มีเวลา
(จำได้ว่าอ่านมังกรหยกแล้วบ้าจนไม่เป็นอันทำอะไร ข้าวไม่กิน นอนก็ไม่นอน แต่จะอ่านให้จบให้ได้
แต่ด้วยความยาวหลายเล่ม ก็เลยต้องมีพักบ้าง แต่หงุดหงิดสุดๆ ทำอะไรก็คิดถึงแต่อึ้งย้ง..55)
นอกนั้นก็จะอ่านงานของ โกวเล้ง เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องดังๆ นะคะ เป็นชุดสั้นๆ น่ะค่ะ

ถ้าเป็นนิยาย...งานที่อ่านมากที่สุดคืองานของ โสภาค สุวรรณ
นักเขียนอื่นๆ ก็มีบ้างบางเรื่องค่ะ

ถ้าเป็นงานแปลเหรอ จะเน้นไปทางแนวจิตวิทยา คู่มือชีวิต
ไอเดียต่างๆ หรือไม่ก็แนววิเคราะห์ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าคนเขียนเป็นใคร หรือเรื่องอะไรบ้าง เพราะอ่านแบบไม่จำ
แต่งานแปลที่ชอบมากเป็นของคุณมนันยาค่ะ

เรื่องซีไรท์หรือเข้าชิงซีไรท์ก็อ่านบ้าง
นักเขียนและงานเขียนที่ประทับใจในกลุ่มนี้คือ งานของ คุณ ประชาคม ลุนาชัยค่ะ

ถ้ารักมากๆ มีสามเรื่องคือ เวตาล คำพิพากษา มังกรหยก(ก๊วยเจ๋ง-อึงย้ง)

แต่นับดูแล้วหนังสือที่ซื้อและเสียเงินให้มากที่สุดก็คือ หนังสือ ที่เกี่ยวกับการเขียนค่ะ อยากเป็นนักเขียน
แต่ไม่ใช่นักอ่าน..หึหึ เคยลองปรึกษาเพื่อน(ที่อายุมากกว่า) เขาบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก 
ก็เลยไม่พยายามขวนขวายอ่าน

ป.ล.ส่วนมากที่อ่าน มันจะเป็นแนวสำเร็จรูปมาแล้ว คือ คนเขาพูดถึง เขาเล่าอย่างนั้น เขาว่าอย่างนี้
(ประมาณ thesis)พวกนี้อ่านเยอะจริงๆ เลยทำให้รู้กว้่าง แต่ไม่รู้ลึก ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ มีนาคม 27, 2008, 11:27:59 AM
งานเขียนของ คุณ ประชาคม ลุนาชัย เค้าก็เคยอ่านนะ แต่เคยอ่านเรื่องเดียวอ่ะ รู้สึกจะชื่อเรื่อง เกียรติยศและศักดิ์ศรีมั้ง
อ่านแล้วประทับใจมากๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ มีนาคม 27, 2008, 02:43:03 PM
เอามาฝากค่ะ ไปเจอมาในเนต อ่านแล้วขำดี ไม่รู้เคยอ่านกันรึยัง

เหตุผลที่หนังสือ "เหนือ" กว่าผู้ชายบางคนคือ...

-- เราสามารถอยู่กับหนังสือได้นาน และเงียบ


 -- พกไปไหนมาไหน โดยไม่ต้องอธิบายกับคนรู้จักของเราว่าผูกพันใน

ฐานะอะไรแน่นอน


 -- เรารู้สึกดีเมื่อเห็นใครอ่านหนังสือเล่มเดียวกับเรา แต่ถ้าเห็นใครควงผู้ชาย

คนเดียวกับเราล่ะก็ ! !


 -- .ต้องการหนังสือแบบไหนสามารถเลือกได้ตามใจชอบ แต่เราไม่อาจจะ

เลือก(รัก)ผู้ชายในแบบที่ ต้องการได้เสมอไป


 -- . หนังสือทำให้เราเสียน้ำตาไปโดยที่รู้สึกดี ด้วย ขณะที่เราเสียน้ำตาให้

ผู้ชายเพราะรู้สึกแย่


--. หนังสืออยู่นิ่ง ได้เมื่อวางไว้ข้างหมอนก่อนนอน แต่ผู้ชายอยู่เฉยได้ไม่

นานหรอก

 -- .หนังสือ ถ้าอ่านไป 2-3 หน้า เกิดไม่ชอบก็หยุดอ่านได้ทันทีแต่หากเรา

คบผู้ชายไปสักพักแล้วรู้สึกไม่ ชอบเขา มัน เป็นไปได้ยากนะที่จะเลิกคบเขา

ไปเลย

 -- .หนังสือซื่อสัตย์...บอกหมดทุกเรื่องที่เราอยากรู้ แต่ผู้ชายบอกเพียงบาง

เรื่องที่เขาคิดว่าเราควรรู้

 -- .หนังสือดี มีโอกาสตีพิมพ์ใหม่ แต่ผู้ชายดีๆ หมดแล้ว หมดเลย


 อ่านกัน ขำ ขำ น้า อย่าจริงจังอะไรมากมาย  คลายเครียดหลังการฟังผลสอบเน้อ !    งิงิ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ มีนาคม 27, 2008, 10:30:32 PM
อ่านที่คุณ HpJ เอามาให้อ่าน

รู้สึกว่า เราคิดถูกแล้วล้ะ  ที่เลือกคบหนังสือแทนผู้ชาย  ;D

มังกรหยก ภาคแรก อ่านค่ะ  แต่ภาคต่อๆ มายังไม่ได้หามาอ่านเลย

เป็นนิยายกำลังภายในจีนเรื่องแรกที่อ่าน

ตอนแรกอ่านไม่คิดว่าจะติดขนาดนี้  ชอบอึ้งย้ง   ฉลาด สดใส ร่าเริง

จำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ  เพราะอ่านนานแล้ว  จำได้แต่   พิษประจิม  ภูติบูรพา  ยาจกอุดร  ราชันทักษิณ

ส่วน โสภาค สุวรรณ  นึกถึงเรื่อง  สายโลหิต  ญาติกา  ค่ะ   นี่ก็อ่านแล้วร้องไห้ไปกับหนังสืออีกเช่นกัน

มนันยา  คุ้นๆ อ่ะ  แต่จำไม่ได้ว่าเคยอ่านเรื่องอะไรมาก่อน

คินดะอิจิ  อย่างที่บอกไป  อ่านจบแค่ตอน คดีฆาตกรรมผีดูดเลือด  เพราะคาเมะเล่น  :P

เดธโน๊ต  เป็นเรื่องที่ยอมทุ่มพอๆ กับเพชรพระอุมา ได้   ทนอ่านการ์ตูนได้จบแค่เรื่องเดียว

ไม่ค่อยสันทัดวรรณกรรมแปลเท่าไหร่ค่ะ

แต่นิยายไทย  ที่อ่าน  ก็ของ  พนมเทียน  ทมยันตี  กิ่งฉัตร  จุฑารัตน์  แก้วเก้า 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pakwarn ที่ มีนาคม 28, 2008, 07:18:23 PM
เอามาฝากค่ะ ไปเจอมาในเนต อ่านแล้วขำดี ไม่รู้เคยอ่านกันรึยัง

เหตุผลที่หนังสือ "เหนือ" กว่าผู้ชายบางคนคือ...

-- เราสามารถอยู่กับหนังสือได้นาน และเงียบ


 -- พกไปไหนมาไหน โดยไม่ต้องอธิบายกับคนรู้จักของเราว่าผูกพันใน

ฐานะอะไรแน่นอน


 -- เรารู้สึกดีเมื่อเห็นใครอ่านหนังสือเล่มเดียวกับเรา แต่ถ้าเห็นใครควงผู้ชาย

คนเดียวกับเราล่ะก็ ! !


 -- .ต้องการหนังสือแบบไหนสามารถเลือกได้ตามใจชอบ แต่เราไม่อาจจะ

เลือก(รัก)ผู้ชายในแบบที่ ต้องการได้เสมอไป


 -- . หนังสือทำให้เราเสียน้ำตาไปโดยที่รู้สึกดี ด้วย ขณะที่เราเสียน้ำตาให้

ผู้ชายเพราะรู้สึกแย่


--. หนังสืออยู่นิ่ง ได้เมื่อวางไว้ข้างหมอนก่อนนอน แต่ผู้ชายอยู่เฉยได้ไม่

นานหรอก

 -- .หนังสือ ถ้าอ่านไป 2-3 หน้า เกิดไม่ชอบก็หยุดอ่านได้ทันทีแต่หากเรา

คบผู้ชายไปสักพักแล้วรู้สึกไม่ ชอบเขา มัน เป็นไปได้ยากนะที่จะเลิกคบเขา

ไปเลย

 -- .หนังสือซื่อสัตย์...บอกหมดทุกเรื่องที่เราอยากรู้ แต่ผู้ชายบอกเพียงบาง

เรื่องที่เขาคิดว่าเราควรรู้

 -- .หนังสือดี มีโอกาสตีพิมพ์ใหม่ แต่ผู้ชายดีๆ หมดแล้ว หมดเลย


 อ่านกัน ขำ ขำ น้า อย่าจริงจังอะไรมากมาย  คลายเครียดหลังการฟังผลสอบเน้อ !    งิงิ




โอ้ว อ่านแล้วสุดๆเลยคะพี่


ฮิๆ ชอบๆๆๆๆๆ :-* :-*
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 06, 2008, 08:20:59 PM
เมื่อกี๋ เพิ่ง ซันเดย์ สเปเชียล ของ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อ่ะค่ะ เค้าพูด ถึง จูล่ง วีรบุรุษ ผู้ไม่แพ้ จาก สามก๊ก ถ้าจำไม่ผิดพี่ galdewis เคยบอกไว้ว่า จูล่งเป็นฮีโร่ ของพี่ใช่ไหมคะ ถ้าเข้ามาช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยนะคะ รู้สึกว่าช่วงนี้ห้องสนทนากลายเป็นหมันไปเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 06, 2008, 11:15:15 PM
เมื่อกี๋ เพิ่ง ซันเดย์ สเปเชียล ของ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อ่ะค่ะ เค้าพูด ถึง จูล่ง วีรบุรุษ ผู้ไม่แพ้ จาก สามก๊ก ถ้าจำไม่ผิดพี่ galdewis เคยบอกไว้ว่า จูล่งเป็นฮีโร่ ของพี่ใช่ไหมคะ ถ้าเข้ามาช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยนะคะ รู้สึกว่าช่วงนี้ห้องสนทนากลายเป็นหมันไปเลยนะเนี่ย

จูล่ง คงจะเป็นพระเอกในฝันคนแรกของเราเลยอ่ะค่ะ หลงรักตัวละครตัวนี้มาตั้งแต่ยังไม่เต็มสิบขวบเลยมั้ง (น่าเสียดายดูสามก๊กทีไร ยังไม่เคยเห็นคนเล่นจูล่งหล่อถูกใจซักทีเลยอ่ะ)

ตอนเด็กๆ รู้สึกว่าจูล่งช่างเป็นพระเอ๊กพระเอก ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ทั้งดี ส่วนที่ว่าเคยเป็นฮีโร่ของเราคงจะเป็นเมื่อตอนเราเด็กๆ อ่ะค่ะ เพราะสำหรับตอนนี้รู้สึกจะเข็ดฮีโร่ และคงจะเปลี่ยนใจไปชอบแอนตี้ฮีโร่ซะและล่ะ เพราะรู้สึกว่าภาพของฮีโร่นั้น มักจะเป็นภาพที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนหลงเท่านั้นเอง สุดยอดคนอย่างจูล่งนี่ ก็ไม่รู้จะมีจริงๆ หรือเปล่า

แต่ตอนเด็กๆ คลั่งไคล้จูล่งเอามากๆ แต่ไม่ใช่ตอนที่อ่านสามก๊กครั้งแรก แต่เป็นตอนที่ได้ไปอ่านฉบับของ "ยาขอบ" ซึ่งจะเขียนถึงตัวละครเด่นๆ ในสามก๊กทีละตัว ตัวละเล่ม เล่มของจูล่งนี่ "ยาขอบ" ตั้งชื่อหนังสือว่า "จูล่ง วีรบุรุษแห่งเสียงสาน" ฉายาที่ต่อท้ายชื่อของตัวละครอย่างของจูล่งนี่ ซึ่งค่อนข้างจะติดปากคนอ่านไปแล้ว อย่างเช่น "ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร" "เล่าปี่ ผู้พนมมือทั้งสิบทิศ" และ "โจโฉ ผู้ไม่ยอมให้โลกทรยศ" เราเข้าใจว่า "ยาขอบ" น่าจะเป็นคนที่คิดฉายาพวกนี้ขึ้นมา เพื่อตั้งเป็นชื่อหนังสือชุดสามก๊กฉบับวณิพกของท่านเองนะคะ โดยตั้งขึ้นมาจากการที่ "ยาขอบ" สรุปลักษณะเด่นของตัวละครแต่ละตัว

ตอนอ่านสามก๊กฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" จำได้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านสนุกมากๆ ดังนั้น พอเห็น "ยาขอบ" บอกว่า ใช้ข้อมูลจากสามก๊กฉบับภาษาอังกฤษของบริวิต เทเลอร์ เพราะความที่ชอบฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" มากๆ เลยไปพยายามหาหนังสือสามก๊กฉบับภาษาอังกฤษที่ว่านั้นดูที่ห้องสมุด แต่ก็ไม่เจอ

ส่วนตอนที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจจูล่งสุดๆ ก็คงจะตอนที่คนอ่านสามก๊กคุ้นเคยกันดี คือตอนที่จูล่งบุกเดี่ยวไปช่วยอาเต๊ากลางสนามรบ รู้สึกจะชื่อตอน "จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า" กับอีกตอนนึงตอนที่เล่าปี่ไปง่อก๊ก แล้วขงเบ้งให้จูล่งเพียงคนเดียวติดตามไปคุ้มครองเล่าปี่

ตอนที่อ่านรู้สึกตอนนี้จูล่งช่างเท่ห์สุดๆ กล้าหาญสุดๆ ถ้าเป็นในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ จูล่งก็ต้องได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์แหง็มๆ แล้วขงเบ้งสั่งให้ไปคนเดียว พี่แกก็ไปคนเดียว ไม่เคยมีการสงสัยในคำสั่งของขงเบ้ง แล้วแค่จูล่งคนเดียวยืนเฉยๆ อย่างสุภาพ อยู่ข้างหลังเล่าปี่ แค่นี้ก็ทำเอาทหารทั้งง่อก๊กต้องระย่อครั่นคร้าม กิตติศัพท์การบุกเดี่ยวช่วยลูกชายเล่าปี่ของจูล่ง ทำให้ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดแตะต้องเล่าปี่แม้แต่ปลายเล็บ

ส่วนตอนที่จูล่งบุกเดี่ยวช่วยอาเต๊านี่ เป็นตอนที่ผู้แต่งสามก๊กแต่งได้เยี่ยมมากอีกตอนนึง เป็นตอนที่มีจุดซาบซึ้งสะเทือนใจหลายจุด สามก๊กนี่เป็นนิยายรุ่นเก่าที่เขียนด้วยสำนวนที่ไม่ได้ทันสมัยเหมือนกับแฮร์รี่ พอตเตอร์หรือหนังสือสมัยนี้ แต่เขียนได้อย่างมีสีสันมากๆ ตอนจูล่งบุกเดี่ยวช่วยอาเต๊านี่ แหม! มันช่างเท่ห์ประทับใจจ๊อดอะไรจะขไหนขนาดนี้ แล้วจูล่งนี่มีเอกลักษณ์คือใส่ชุดขาวตลอด จำได้ตอนนี้หนังสือบรรยายอย่างตื่นตาตื่นใจว่า ชุดขาวๆ ของจูล่งซึ่งอยู่บนหลังม้า เมื่อเคลื่อนไปทางไหนในสนามรบ ก็จะกลายเป็นสีแดงฉาน ซึ่งมาจากเลือดของทหารฝ่ายศัตรู ที่สังเวยคมทวนของจูล่ง (จำไม่ได้ว่าจูล่งใช้ดาบหรือทวน แต่น่าจะเป็นทวน)

ส่วนตอนที่ไปเจอตัวอาเต๊าก็เศร้าสะเทือนใจสุดๆ เพราะอาเต๊าอยู่กับฮูหยินรองของเล่าปี่ ซึ่งเป็นแม่รองคือไม่ใช่แม่จริงของอาเต๊า จูล่งจะช่วยทั้งฮูหยินรองกับอาเต๊า แต่ฮูหยินรองได้รับบาดเจ็บเลยเสียสละชีวิตโดดบ่อฆ่าตัวตาย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้จูล่ง เดี๋ยวจะพากันตายทั้งหมด แต่อาเต๊าตายไม่ได้เพราะเป็นทายาทคนเดียวของเล่าปี่ อ่านแล้วสะเทือนใจสุดๆ นับถือความใจเด็ดและการเห็นแก่ส่วนรวมของฮูหยินรองของเล่าปี่มากๆ ถ้าเธอไม่พลีชีพทั้งจูล่งและอาเต๊าคงจะไม่รอด ทั้งๆ ที่อาเต๊าไม่ใช่ลูกของเธอด้วยซ้ำ

แล้วพอตอนจูล่งต้องพาอาเต๊าฝ่าทหารทั้งสนามรบกลับไปหาเล่าปี่ คนแต่งก็แต่งได้สุดยอดตื่นเต้นสนุกสุดๆ เพราะจูล่งไม่สามารถจะอุ้มอาเต๊าได้เพราะจะทำให้รบไม่ถนัด ต้องเอาอาเต๊าซึ่งยังเป็นทารกแบเบาะยัดใส่เข้าไปในเสื้อเกราะ และอธิษฐานว่า ถ้าอาเต๊ามีบุญจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินของจ๊กก๊กต่อไปในภายภาคหน้า ก็ขออย่าให้เป็นอันตรายใดๆ พอจูล่งช่วยอาเต๊ากลับไปหาเล่าปี่ได้สำเร็จ ตอนที่ยังไม่แก้เกราะเอาอาเต๊าออกมา จูล่งนึกว่าอาเต๊าตายแล้ว เพราะไม่ร้องเลยซักแอะ แต่ที่ไหนได้ พอแก้เกราะออกมา อาเต๊ายิ้มแฉ่ง ไม่เป็นอันตรายใดๆ เลยซักนิด จูล่มดีใจสุดขีดยิ้มหน้าบาน ที่ช่วยลูกนายได้สำเร็จ แต่พอส่งอาเต๊าให้เล่าปี่ เล่าปี่กลับโยนลูกทิ้ง จูล่งรับแทบไม่ทัน แล้วเล่าปี่ก็ด่าลูกว่าเป็นต้นเหตุทำให้ทหารเอกคือจูล่งเกือบตาย ทำให้จูล่งซาบซึ้งมาก แต่เราว่าเล่าปี่ตอนนี้สร้างภาพมากไปหน่อย แต่จูล่งเป็นคนซื่อ คงจะดูไม่ออก เลยซาบซึ้งกับเล่าปี่เอามากๆ เรียกว่าตอนนี้เล่าปี่ใช้กลยุทธ์ "โยนลูกซื้อใจทหารเอก"

ตอนอ่านสามก๊กรู้สึกว่า เวลาขงเบ้งจะเลือกใช้ทหารเอกที่สามารถทำงานได้อย่างหมดจด และแน่ใจว่าจะไม่มีการนอกคำสั่ง จะปฏิบัติตามคำสั่งของขงเบ้งอย่างเคร่งครัดล่ะก็ จะต้องใช้จูล่งเสมอ และจูล่งก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง จูล่งนับเป็นทหารอาชีพตัวอย่าง เพราะมีวินัยสูงและไม่เคยทำนอกคำสั่ง

จูล่งยังเป็นคนที่ใครๆ ก็รัก เพราะนอกจากจะเก่งแสนเก่ง นิสัยดีสุดๆ แล้ว ยังเป็นคนถ่อมตัว ไม่โอ้อวด เล่าปี่นั้นรักจูล่งมาก จนรู้สึกว่าจะนับจูล่งเป็นน้องร่วมสาบานคนสุดท้องด้วย แม้จะไม่ได้ร่วมสาบานที่สวนดอกท้อด้วยกัน เหมือนกวนอูกับเตียวหุย ส่วนกวนอูกับเตียวหุยก็รักจูล่งเหมือนน้องเช่นกัน เตียวหุยดูจะเอ็นดูจูล่งเป็นพิเศษด้วยเพราะแซ่เตียวเหมือนกัน ความจริงชื่อเต็มของจูล่งคือ เตียวจูล่ง ส่วนคำว่า จูล่ง แปลว่า ลูกมังกร ส่วนขงเบ้งก็รักจูล่งมากเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดตอนจูล่งตาย ขงเบ้งร้องไห้รักเสียดายจูล่งอย่างมาก และกล่าวสรรเสริญจูล่งมากมายด้วย

จูล่งนี่ท่าจะต้องเอ็กเซอร์ไซส์ฟิตเนสเป็นประจำ เพราะอายุยืนถึง 70 กว่าแถมยังออกรบได้ด้วย และเท่าที่จำได้ไม่เคยแพ้ใครเลยนะ มีครั้งนึงตอนอายุ 70 กว่านี่แหละ ขงเบ้งใช้ทหารเอกคนอื่นไปรบหมด แต่ไม่ใช้จูล่ง จูล่งถึงกับไปต่อว่าขงเบ้งด้วยความน้อยใจว่าเห็นว่าตัวเองแก่หรือเนี่ย ถึงไม่ยอมเรียกใช้อ่ะ แต่ต่อว่าด้วยความสุภาพนะ เพราะจูล่งเป็นคนสุภาพมาก ชนิดที่ว่า ถ้าไม่บอกว่าเป็นทหารเอกนี่ คนนึกว่าเป็นบัณฑิตไปซะงั้น นี่แหละ ยอดคนงำประกายตัวจริง

ทั้งหมดนี้เขียนจากความจำนะคะ ถ้าจำผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปบ้างต้องขออภัย ช่วยทักท้วงด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 08, 2008, 05:18:35 AM
ที่อ่านในหนังสือพิมพ์ เค้าก็กล่าวถึงตอน จูล่งฝ่าทับรับอาเต๋า ค่ะ เป็ยเรื่องที่น่ายกย่องมาก
เค้าบอกว่า ตอนแรก ทุกคนคิดว่า จูล่ง จะทรยศไปสวามิภักดิ์ ฝ่ายตรงข้าม เพราะการที่เค้าฝ่าวงล้อม ของทหารข้าศึกแปรได้อีกนัยนึง คือ ยอมเข้าไปสวามิภักดิ์ เพราะทหารคนอื่น ได้แต่ถอยทัพกลับ เพื่อตั้งหลัก แต่หารู้ไม่ว่า จูล่ง
ฝ่าวงล้อมข้าศึกเพื่อไปช่วยลูกชายเล่าปี่  ตอนพบกลับฮูหยินของเล่าปี่ท่กำลังบาดเจ็บ และนางไม่อยากเป็นภาระให้จูล่ง
จึงตัดสินใจกระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย จนจูล่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่จะพาอาเต๋าฝ่าวงล้อมออกไป เค้าได้ยกก้อนหินเพื่อ ปิดปากบ่อ ไม่ให้ใครมาเหยียบย่ำหรือทำลายศพฮูหยินได้ แล้วจากนั้นจู่ล่งก็พาอาเต๋าฝ่าวงล้อมข้าศึกออกมา
เค้าบอกว่า แม้แต่โจโฉ ที่ยืนดูอยู่ข้างบน ยังเห็นได้ว่า จูล่งเป็นทหารที่มีความสามารถมาก ก็เลยให้ทหารจับเค้าให้ได้
แต่ จุล่งก็สามารถพาอาเต๋า ฝ่าวงล้อม ได้ในสุด
อ่านแล้ว รู้สึกทึ่งมากๆค่ะ แล้วเค้าบอกว่า จูล่งนั้นมีอยู่จริงๆซะด้วยสิ
แล้วเค้าบอกว่า ที่จูล่งใส่ชุดสี ขาว เพราะว่า เค้าเกิดในวันที่เมฆขาวลอยเด่น พ่อจึงตั้งชื่อ หยุน
 ซึ่งแปลว่า เมฆขาวลอบเด่น แต่ชื่อ จูล่งนี่ได้มาตอนเป็นทหารแล้ว
และ เค้าก็บอกอีกว่า จูล่ง เป็น คนเดียวในสามก๊ก ที่มีจุดจบของชีวิต ที่ดีที่สุด เป็นบุรุษที่ไม่มีวันพ่ายแพ้
เพราะคนอื่น อย่าง เล่าปี่ ก็ตรอมใจตาย เตียวหุยรู้สึกจะถูกฆ่ามั้งคะ ไม่แน่ใจ แต่จูล่งตายอย่างสงบคือ คือตายด้วยโรคชรา  พออ่านบทความตรงนั้นแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ galdewis ถึงได้ชอบจูล่งนักหนา เพราะนานะจังอ่านแล้วยังรู้สึกทึ่งผู้ชายคนนี้ และประทับใจมากๆค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ เมษายน 08, 2008, 08:55:38 AM
กันย์ก็ชอบนะสามก๊กเนี่ย ชอบตอนตั้งแต่เรียนชั้นม.ปลายที่ได้เรียนตอนจูล่งต้องพาอาเต๊ากลับไปหาเล่าปี่น่ะแหละ แล้วก้อไปหายืมห้องสมุดมาอ่าน หนุกดีค่ะ ชอบจูล่งที่สุดเหมือนกัน รู้สึกว่า จูล่งนี่เท่ห์สุดๆเลย แต่อ่านได้สองเล่มเอง(หนังสือหนามากกก) :)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 08, 2008, 03:03:19 PM
แล้วเค้าบอกว่า จูล่งนั้นมีอยู่จริงๆซะด้วยสิ


เข้าใจว่าเรื่องสามก๊กนี่แต่งมาจากเรื่องจริงนะคะ นานะ อย่างที่เขาใช้คำว่า มีเค้าเรื่องจริง หรือ based on true story น่ะค่ะ

แต่ที่เราบอกว่าเก่งขนาดจูล่งนี่ ไม่รู้จะมีจริงๆ หรือเปล่า หมายถึงว่า ถึงจูล่งอาจจะมีตัวจริง แต่ก็คงจะไม่เก่งเว่อร์ขนาดในหนังสืออ่ะค่ะ แต่เมื่อเป็นหนังสือก็ต้องเสริมเติมแต่งจินตนาการให้มันบรรเจิด (พูดสั้นๆ คือเว่อร์) มันถึงจะอ่านสนุก แล้วก็เป็นการช่วยเพิ่มความเด่นชัดให้กับแคแร็คเตอร์ของตัวละครตัวนั้น รวมทั้งทำให้คนอ่านรู้สึกประทับใจในตัวละครตัวนั้นได้ง่ายขึ้น

ก็อย่างหวงเฟยหงอ่ะค่ะ ก็มีตัวจริงเหมือนกัน เป็นวีรบุรุษที่คนจีนยกย่องมาก เลยนิยมเอามาสร้างเป็นหนังมากมายหลายเวอร์ชั่น หวงเฟยหงตัวจริงเป็นคนเก่งมาก นอกจากเป็นปรมาจารย์วิชาบู๊แล้ว ยังเป็นหมอด้วย แต่ก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดในหนังสือ ที่สามารถสู้กับผู้ร้ายได้ทีเป็นสิบเป็นร้อย วีรกรรมสุดยอดจริงๆ ที่หวงเฟยหงตัวจริงเคยสร้างไว้ก็มีเพียงว่า ครั้งหนึ่งเคยถูกผู้ร้ายรุมทีเดียว 10 คน แต่หวงเฟยหงก็เอาชนะมาได้ (หรือว่าเอาตัวรอดมาได้ก็ไม่รู้) แต่แค่นี้ก็เก่งมากแล้วล่ะ เราว่าความเก่งของตัวจริงจูล่ง กับของตัวแต่งที่อยู่ในหนังสือสามก๊ก ก็คงอาจจะเป็นไปในทำนองเดียวกับหวงเฟยหงแบบนี้เหมือนกันอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 08, 2008, 03:25:26 PM
เค้าบอกว่า แม้แต่โจโฉ ที่ยืนดูอยู่ข้างบน ยังเห็นได้ว่า จูล่งเป็นทหารที่มีความสามารถมาก ก็เลยให้ทหารจับเค้าให้ได้


ถ้านานะจังไม่เล่าถึงเราก็คงนึกไม่ออก จะขอเสริมนิดนึงละกันนะคะ จำได้ว่าตอนนี้โจโฉ ซึ่งยังไม่รู้จักจูล่ง ยืนมองอยู่ เห็นความสามารถของจูล่งแล้วก็ประทับใจสุดแสน สอบถามทหารของตัวเองจึงได้รู้จักชื่อจูล่งเป็นครั้งแรก ความจริงแค่โจโฉออกคำสั่งเพียงคำเดียว ให้ทหารเอาเกาทัณฑ์ระดมยิงจูล่งเท่านั้น จูล่งก็คงจะสิ้นชื่อไปแล้ว แต่วิสัยคนเป็นแม่ทัพที่รู้คุณค่าของคนดีมีฝีมือ ทำให้โจโฉนึกรักใคร่ในฝีมือของจูล่งขึ้นมา จนไม่อาจจะหักใจฆ่าทิ้งได้เพราะเสียดายฝีมือ เลยสั่งห้ามใช้เกาทัณฑ์ยิงจูล่งและให้จับเป็น จูล่งกับอาเต๊าถึงได้รอดมาได้ ไม่งั้นคนๆ เดียวจะฝ่าทหารทั้งกองทัพออกมาได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงยังงั้นก็ตาม ก็ต้องนับว่าจูล่งรอดชีวิตมาได้ ก็ด้วยฝีมืออันเลอเลิศของเขาจริงๆ ถ้าจูล่งไม่เก่งสุดยอดแล้วล่ะก็ โจโฉก็คงไม่นึกเอ็นดูจนฆ่าไม่ลงอย่างงี้

นี่ถ้าจูล่งรู้ว่ารอดมาได้เพราะโจโฉสั่งจับเป็นนี่ ไม่รู้จะต้องไปทดแทนบุญคุณโจโฉแบบกวนอูด้วยหรือเปล่า

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 08, 2008, 03:47:10 PM
เค้าบอกว่า ตอนแรก ทุกคนคิดว่า จูล่ง จะทรยศไปสวามิภักดิ์ ฝ่ายตรงข้าม เพราะการที่เค้าฝ่าวงล้อม ของทหารข้าศึกแปรได้อีกนัยนึง คือ ยอมเข้าไปสวามิภักดิ์ เพราะทหารคนอื่น ได้แต่ถอยทัพกลับ เพื่อตั้งหลัก แต่หารู้ไม่ว่า จูล่งฝ่าวงล้อมข้าศึกเพื่อไปช่วยลูกชายเล่าปี่ 

ส่วนตรงนี้จะขอเสริมเรื่องเล่าปี่กับจูล่งนิดนึง หลังจากที่เสริมเรื่องโจโฉกับจูล่งไปแล้วว่า ทหารทางฝ่ายเล่าปี่ทุกคนคิดว่าจูล่งทรยศแน่ เพราะแทนที่จะกลับมาอยู่ข้างกายเล่าปี่แต่ดันตีฝ่ากลับเข้าไปหาข้าศึก โดยไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของจูล่ง ที่ทุกคนคิดยังงั้นเพราะตอนนั้นเล่าปี่ตกอับถึงขีดสุด ต้องอพยพครอบครัวหนีโจโฉหัวซุกหัวซุน จนต้องพลัดพรากกับลูกเมีย ในขณะที่โจโฉตอนนั้นคงจะเป็นมหาอุปราชแล้ว แต่ที่จริงก็คือฮ่องเต้ตัวจริง เพราะปลอมราชโองการเป็นว่าเล่น ไม่เคยเห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา มีแต่เล่าปี่คนเดียวที่ไม่เคยเชื่อว่าจูล่งจะทรยศ แถมยังด่าตวาดคนที่สงสัยว่าจูล่งจะทรยศด้วย แล้วพอจูล่งพาอาเต๊ากลับมาอย่างปลอดภัย เล่าปี่ยังแกล้งทำเป็นโยนลูกชายทิ้ง และแสดงให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่า ให้ความสำคัญกับจูล่งมากกว่าลูกตัวเองซะอีก คือถ้าเราเป็นจูล่ง ถึงอาจจะรู้ทันว่าเล่าปี่แกล้งทำเพื่อเอาใจ แต่ก็คงอดซาบซึ้งไม่ได้ คือจูล่งนี่ซื่อก็จริง แต่ไม่โง่ ช่วยเล่าปี่ทำการใหญ่สำเร็จมาก็มาก และเป็นเหมือนองครักษ์ประจำตัวด้วย ช่วยชีวิตเล่าปี่ยามคับขันก็หลายครั้ง
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 08, 2008, 05:00:07 PM
แล้วเค้าบอกว่า ที่จูล่งใส่ชุดสี ขาว เพราะว่า เค้าเกิดในวันที่เมฆขาวลอยเด่น พ่อจึงตั้งชื่อ หยุน
 ซึ่งแปลว่า เมฆขาวลอบเด่น แต่ชื่อ จูล่งนี่ได้มาตอนเป็นทหารแล้ว
และ เค้าก็บอกอีกว่า จูล่ง เป็น คนเดียวในสามก๊ก ที่มีจุดจบของชีวิต ที่ดีที่สุด เป็นบุรุษที่ไม่มีวันพ่ายแพ้
เพราะคนอื่น อย่าง เล่าปี่ ก็ตรอมใจตาย เตียวหุยรู้สึกจะถูกฆ่ามั้งคะ ไม่แน่ใจ แต่จูล่งตายอย่างสงบคือ คือตายด้วยโรคชรา  พออ่านบทความตรงนั้นแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ galdewis ถึงได้ชอบจูล่งนักหนา เพราะนานะจังอ่านแล้วยังรู้สึกทึ่งผู้ชายคนนี้ และประทับใจมากๆค่ะ


เรื่องจูล่งเคยชื่อหยวิน (หยุน) นี่ ไม่รู้จริงๆ ค่ะ ขอบคุณที่นานะเล่าให้ฟังนะคะ คงจะเป็นชื่อแรกที่พ่อแม่ตั้งให้ คือว่าเท่าที่เคยรู้มา คนจีนเขาจะมีชื่อแรก กับชื่อรอง ชื่อแรกมักเป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ ใช้เรียกกันในครอบครัวหรือญาติสนิท ส่วนชื่อรองเป็นชื่อเป็นทางการ หรือว่าตั้งขึ้นทีหลัง สำหรับใช้ในโรงเรียนหรือในอาชีพการงาน ชื่อจูล่งคงเป็นชื่อรองที่ตั้งขึ้นทีหลังตอนที่มายึดอาชีพทหารแล้ว อย่างที่นานะจังบอกอ่ะค่ะ ถ้าเทียบกับของไทยก็คงเหมือนชื่อเล่นกับชื่อจริงนะคะ

คนจีนเขายังมีฉายา ซึ่งก็ถือเป็นชื่ออีกชนิดนึงเหมือนกัน อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีก็ฉายาของ 5 สุดยอดฝีมือในมังกรหยกไงคะ ยาจกอุดร ภูตบูรพา พิษปัจฉิม ราชันย์ทักษิณ แล้วก็เฒ่าทารก ฉายานี่จะตั้งขึ้นจากบุคลิกลักษณะหรือคุณสมบัติที่โดดเด่นของคนๆ นั้น

อย่างเช่น galdewis นี่ ก็น่าจะมีชื่อฉายาว่า ผู้งามพร้อม อะไรแบบเนี้ยะ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงน่า หรืออย่างนานะจังก็ต้อง นานะจังผู้งามสรรพ อะไรอย่างเงี้ยะ ดีมั้ยคะ นานะ

ส่วนคำว่า หยวิน หรือหยุน ก็แปลว่าเมฆจริงๆ เหมือนชื่อหนังจีนเรื่อง เฟิงหยวิน ไงคะ แปลเป็นไทยก็น่าจะแปลว่า เมฆาวายุ หยวิน นี่นอกจากเป็นชื่อแล้ว ยังเป็นแซ่ด้วย คงจะรู้จักพระเอกกระบี่ไร้เทียมทานใช่มั้ยคะ ฮุ้นปวยเอี๊ยง คำว่า ฮุ้น หรือ ฮุ้ง ก็คือ หยวิน นั่นเอง แต่อ่านคนละสำเนียง ฮุ้น นี่สำเนียงแต้จิ๋ว ส่วน หยวิน เป็นสำเนียงจีนกลาง คนดังบ้านเราที่แซ่เดียวกับฮุ้นปวยเอี๊ยง เอ่ยชื่อไปรับรองทุกคนร้องอ๋อทันที ก็คือ คุณสุทธิชัย หยุ่น นั่นเอง แล้วก็ตึกที่ชื่ออื้อจือเหลียง บนถนนพระราม 4 อ่ะค่ะ เราเคยอ่านตัวภาษาจีนที่เป็นชื่อตึกเป็นคำว่า หยวิน เหมือนกัน แต่ทำไมออกเสียงว่า อื้อ ก็ไม่รู้ อันนี้อยากถามผู้รู้จัง

ตอนจูล่งตายจำไม่ได้อ่ะค่ะว่าตายตอนไหน แต่จำได้เหมือนที่นานะจังเล่าว่าตายอย่างสงบ คือไม่ได้ถูกฆ่าตาย แล้วที่นานะจังอ่านมามีบอกเรื่องเมียจูล่งมั่งมั้ยคะ เรานึกไม่ออกเลยอ่ะค่ะว่าจูล่งมีลูกมีเมียหรือเปล่า รู้สึกจะมีนะคะ แต่ถ้าจูล่งมีลูก ทำไมไม่ยักกะส่งมาเป็นทหารเอกเหมือนกวนหินเตียวเปา ลูกกวนอูกับเตียวหุยมั่ง

เตียวหุยตายอนาถที่สุด ดูแล้วก็น่าสงสารอ่ะค่ะ รู้สึกเล่มที่ "ยาขอบ" เขียนถึงเตียวหุยจะตั้งชื่อหนังสือว่า "เตียวหุย วายร้ายผู้น่ารัก" หรืออะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ จำไม่ได้แล้ว เตียวหุยนี่เป็นคนเจ้าอารมณ์มาก แล้วเมาแล้วชอบอาละวาดเฆี่ยนตีทหาร ก็เลยถูกลูกน้องแอบผูกใจเจ็บ จนในที่สุดก็วางแผนลอบฆ่าตอนที่เตียวหุยเมา ทั้งๆ ที่เป็นคนเก่งมากแต่กลับต้องมาพบจุดจบอย่างนี้ ความจริงเตียวหุยเป็นคนจริงใจมาก แล้วก็ตรงไปตรงมาไม่มีลับลมคมใน เป็นคนที่รักพี่รักน้องมากๆ และปากตรงกับใจ เห็นอะไรผิดก็จะว่าทันทีไม่มีลังเล และขณะเดียวกันก็เป็นคนที่รู้จักยอมรับผิดไม่ดื้อแพ่ง ความจริงก็เป็นคนน่ารักนะ

ส่วนเล่าปี่ตรอมใจตายเพราะเสียใจที่กวนอูตาย พูดถึงการตายของกวนอูนี่ คือปฐมเหตุที่แท้จริงที่ทำให้จ๊กก๊กของเล่าปี่ต้องพ่ายแพ้วุยก๊กของโจโฉในที่สุด เพราะพอกวนอูตาย เล่าปี่กับเตียวหุยก็หมดกำลังใจโดยสิ้นเชิง ถ้ากวนอูไม่ตาย ไม่แน่จ๊กก๊กอาจพิชิตวุยก๊กได้ก็ได้

กวนอูตายนี่เป็นจุดเปลี่ยนของสงครามระหว่างสามก๊กเลยอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้กลับทำให้รู้สึกชอบเล่าปี่ขึ้นมามากกว่าตอนที่ผ่านๆ มา เพราะทำให้เห็นว่าเป็นคนที่มีความจริงใจต่อพี่น้อง ขณะเดียวกันก็เหมือนได้เห็นข้อบกพร่องครั้งใหญ่ของขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร แต่กลับพลาดครั้งใหญ่ที่มองความผูกพันอันลึกซึ้งของสามพี่น้องร่วมสาบานแห่งสวนดอกท้อไม่ทะลุ นั่นคือ กวนอูคือหลักและกำลังใจสำคัญของเล่าปี่กับเตียวหุย พอขาดกวนอูทุกคนก็ล้ม เล่าปี่แค้นที่กวนอูตายถึงขนาดละทิ้งความสุขุมรอบคอบที่เคยมีมาโดยตลอดอย่างสิ้นเชิง ผลีผลามยกทัพใหญ่ไปตีง่อก๊ก ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้กวนอูตาย จนต้องพ่ายแพ้กลับมาอย่างหมดรูป และตรอมใจตาย แต่ตรงนี้กลับทำให้เรารู้สึกนับถือเล่าปี่ ยิ่งกว่าตอนที่เล่าปี่ทำมารยาต่างๆ ซื้อใจคนอีกอ่ะค่ะ เพราะแสดงถึงความรักและผูกพันที่มีต่อกวนอูอย่างลึกซึ้ง

ส่วนการพลาดครั้งใหญ่ของขงเบ้งครั้งนี้ เราคิดว่าเป็นเพราะขงเบ้งอาจจะไม่ได้เห็นกวนอูสำคัญเท่าไหร่  และขงเบ้งอาจจะมองตัวเองซึ่งทำหน้าที่เป็นมันสมองว่า สำคัญกว่าทหารเอกเพียงคนเดียวก็ได้ แต่ที่ขงเบ้งพลาดคือไม่ตระหนักถึงความสำคัญทางใจที่กวนอูมีต่อเล่าปี่ แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ของขงเบ้งก็ทำให้ขงเบ้งดูเป็นคนจริงๆ ขึ้นมา ไม่ใช่ซูเปอร์กุนซือที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย และก็เข้าทำนองสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ขงเบ้งอาจจะหยั่งรู้ทั่วดินฟ้ามหาสมุทร แต่ก็ยังยากที่จะหยั่งรู้จิตใจความรักความผูกพันของคน ทั้งที่อยู่ใกล้ตัวกว่าดินฟ้ามหาสมุทรซะอีก

จูล่งเป็นตัวละครที่น่ารักอ่ะค่ะ นานะจัง เป็นประเภทดีเริ่ดประเสริฐศรีทำนองเดียวกับก๊วยเจ๋ง เลยเป็นแคแร็คเตอร์ที่สามารถจะสร้างความประทับใจให้กับคนดูได้ง่ายๆ อย่างก๊วยเจ๋งก็มีตอนนึงที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจในความดีของเขามาก คือตอนที่อึ้งเอี๊ยะซือสั่งให้ก๊วยเจ๋งประลองกับบ๊วยเทียวฮวง ในขณะที่อึ้งย้งพยายามจะช่วย ด้วยการเอาเปรียบบ๊วยเทียวฮวงที่ตาบอด แต่ก๊วยเจ๋งกลับไม่ยอมทำ แล้วก็พูดออกมาแบบซื่อๆ แต่ฟังแล้วรู้สึกกินใจว่า เพราะอาจารย์ของตัวเขาเองคือกัวเต็งอั้กก็เป็นคนตาบอด ดังนั้นเมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาเองก็ไม่ชอบหากจะมีใครใช้ความตาบอดของอาจารย์มาเอาเปรียบอาจารย์ของเขา เขาจึงไม่อาจจะเอาเปรียบบ๊วยเทียวฮวงได้ แม้กระทั่งตัวบ๊วยเทียวฮวงเอง ได้ฟังคำพูดที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมของก๊วยเจ๋งตอนนี้แล้ว ยังอดนึกชมในความดีของก๊วยเจ๋งไม่ได้

ยาวเฟื้อยเลื้อยอีกแล้วค่ะ ขอโทดทีนะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 08, 2008, 05:08:20 PM
กันย์ก็ชอบนะสามก๊กเนี่ย ชอบตอนตั้งแต่เรียนชั้นม.ปลายที่ได้เรียนตอนจูล่งต้องพาอาเต๊ากลับไปหาเล่าปี่น่ะแหละ แล้วก้อไปหายืมห้องสมุดมาอ่าน หนุกดีค่ะ ชอบจูล่งที่สุดเหมือนกัน รู้สึกว่า จูล่งนี่เท่ห์สุดๆเลย แต่อ่านได้สองเล่มเอง(หนังสือหนามากกก) :)

ใช่ ใช่ ลืมไปเลยว่าตอน จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า นี่อยู่ในหนังสือเรียนด้วย เรื่อง มอม ก็ด้วย

ใช่ ใช่ (อีกและ) จูล่งนี่บรมเท่ห์ค่อดๆ ม่ายรู้ว่าเจ้าชู้รึปล่าวนะ

เอ๊ะ! แต่สามก๊กก็มีแค่ 2 เล่มไม่ใช่เหรอคะ เราว่าความหนานี่ก็ไม่ต่างจากแฮร์รี่ หรือดาวินชี่เลยนะ

ลืมตั้งฉายาให้น้องกันย์ด้วย น้องกันย์ ผู้งาม...อะไรดีน้า งามพร้อมเราก็จองแล้ว งามสรรพ์ก็ให้นานะจัง งามทั่วสรรพางค์ละกัน ดีมั้ยคะ น้องกันย์


โอ้ววว! คุณพระ เหลือบไปดูที่ตัวเองเขียนทั้งหมดข้างบนแล้ว อะไรจะแตกฟองฟ่อดขนาดนี้นะเรา อายจิงๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 09, 2008, 02:55:24 AM
 8) ขอคารวะแม่นาง 10 จอก ได้รับความรู้ที่ละเอียดลึกซึ้งมากๆค่ะ สงสัยถ้าว่างต้องไปหาสามก๊กมาอ่านแล้วสิเนี่ย
รู้สึกว่าในหนังสือพิมพ์ เค้าจะบอกว่า จูล่ง เป็นชื่อที่ได้จากตำแหน่งทหารนะคะ
แล้วที่พี่พูดถึง กวนอู เป็นกำลัง ของ เล่าปี่ เตียวหุย เนี่ย ก็ เหมือน รอน เป็น หัวใจของ แฮร์รี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ ถ้าขาด รอน แฮร์รี่ซึ่งเปรียบวิญญาณ และเฮอร์ไม่โอนี่ เปรียบเหมือนสมอง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดูแล้วช่างคล้ายกันจริงๆนะเนี่ย  ;)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 09, 2008, 09:51:12 AM
8) ขอคารวะแม่นาง 10 จอก ได้รับความรู้ที่ละเอียดลึกซึ้งมากๆค่ะ สงสัยถ้าว่างต้องไปหาสามก๊กมาอ่านแล้วสิเนี่ย
รู้สึกว่าในหนังสือพิมพ์ เค้าจะบอกว่า จูล่ง เป็นชื่อที่ได้จากตำแหน่งทหารนะคะ
แล้วที่พี่พูดถึง กวนอู เป็นกำลัง ของ เล่าปี่ เตียวหุย เนี่ย ก็ เหมือน รอน เป็น หัวใจของ แฮร์รี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ ถ้าขาด รอน แฮร์รี่ซึ่งเปรียบวิญญาณ และเฮอร์ไม่โอนี่ เปรียบเหมือนสมอง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดูแล้วช่างคล้ายกันจริงๆนะเนี่ย  ;)


มิกล้า มิกล้า เป็นเพียงการเล่าสู่กันฟังตามกำลังสติปัญญาอันน้อยนิดที่มีเท่านั้นอ่ะค่ะ

มีส่วนคล้ายกันจริงๆ ด้วยอ่ะ นานะ เข้าใจหยิบมาเปรียบเทียบกันนะคะ

ความสำคัญของกวนอูกับรอนนี่ คล้ายกันจริงๆ คือเป็นคนกลาง เป็นกาวใจ เป็นตัวประนีประนอม คอยประสานความขัดแย้งของอีก 2 คนที่เหลือ ที่มักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ อย่างแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่เรียกว่าเป็นขั้วตรงข้ามของการใช้สัญชาติญาณหรือความรู้สึก กับการใช้เหตุผล แฮร์รี่เลยถูกเฮอร์ไมโอนี่ว่าอยู่บ่อยๆ ว่าเหลวไหล ไร้เหตุผล ใช้ความรู้สึกมากเกินไป

ส่วนเล่าปี่กับเตียวหุยก็มีนิสัยใจคอที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เล่าปี่ลึกซึ้งสุขุมรอบคอบใจเย็น ในขณะที่เตียวหุยตรงข้ามกับเล่าปี่ทุกอย่าง ทำให้เล่าปี่ต้องอิดหนาระอาใจและตำหนิความเจ้าอารมณ์และมุทะลุของเตียวหุยอยู่บ่อยๆ สองพี่น้องนี้เลยไม่สนิทสนมกันเท่าที่ควรแม้ว่าจะรักกันมาก แต่ที่ทั้งสองมีร่วมกันคือ ความรักในกวนอู เล่าปี่นับถือกวนอูมากกว่าเตียวหุย ส่วนเตียวหุยก็สนิทกับพี่รองมากกว่าพี่ใหญ่ ในขณะที่กับเล่าปี่ เตียวหุยจะเคารพรักเชื่อฟังแต่ไม่สนิทเท่ากวนอู

ในชีวิตจริงๆ ก็คงเป็นอย่างงี้รึปล่าวคะนานะจัง ใครมีเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มกัน 3 คนมั่ง จะเป็นแบบแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ หรือเล่าปี่ กวนอู เตียวหุยรึปล่าว คือจะมีคนนึงที่จะเป็นคนกลาง เป็นตัวเชื่อม เป็นกาวใจ คอยประนีประนอมเวลาที่อีก 2 คนทะเลาะกัน ไม่ต้อง 3 ก็ได้ มากกว่านั้นก็ได้ เพราะเราว่าไม่ว่าในกลุ่มเพื่อนไหนๆ ก็จะต้องมีคนอย่างรอนหรือกวนอูเอาไว้ ไม่งั้นกลุ่มคงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะเวลาขัดแย้งกันแล้วไม่มีคนที่คอยประนีประนอม

เราเดาว่านานะจังก็น่าจะเป็นเหมือนรอน หรือ กวนอู เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนหรือเปล่าคะ ดูจากที่เราคุยกันอ่ะนะคะ ส่วนเราคงจะเป็นเตียวหุยมากกว่า

ดีเลยค่ะนานะ อยากชวนให้อ่านสามก๊กจริงๆ เราว่าถึงจะเป็นหนังสือรุ่นเก่า เทคนิคการเขียนอาจจะเป็นรุ่นเก่า แต่เราว่าเป็นหนังสือที่ไม่น่าเบื่อเลยนะ แถมยังรู้สึกว่าทันสมัยในแง่ของการดำเนินเรื่องด้วย เพราะดำเนินเรื่องรวดเร็ว ไม่อืดเอื่อย และน่าติดตาม เรื่องราวมีสีสัน สนุก ตื่นเต้น และมีการชิงไหวชิงพริบกันด้วยสติปัญญาตลอด ภาษาก็ง่าย กระชับ ฉับไว คือเด็กอ่านก็เข้าใจอ่ะค่ะ

ถ้าเทียบกับเรื่องแปลจีนรุ่นเก่าๆ ด้วยกันแล้วนี่ เราว่าสามก๊กอ่านสนุกกว่าเยอะ ไม่น่าเบื่อ เคยอ่าน "เปาบุ้นจิ้น"กันมั้ยคะ หนังสือน่าเบื่อมากมาย เพราะคดีมันจะซ้ำๆ กันอ่ะค่ะ ไม่ได้สนุกซับซ้อนเหมือนอย่างในหนังเลย หนังเขาคงจะเสริมแต่งจากหนังสือไปเยอะอ่ะค่ะ แล้วก็ไม่ค่อยมี จั่นเจา ด้วย หรืออย่างพวกเรื่อง ซิยิ่นกุ้ย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน เลียดก๊ก พวกนี้ จำได้ว่าตอนเด็กๆ อ่านไม่จบอ่ะค่ะ เบื่อซะก่อน

แต่สามก๊กนี่สามารถอ่านจนจบได้ ทั้งๆ ที่ยังเด็กมากตอนนั้น แถมหนังสือในตอนนั้นยังหนาตึ้กๆ ถึง 2 เล่ม เรียกว่านอนอ่านไม่ได้อ่ะค่ะ เพราะหนักมาก แล้วตัวหนังสือนะ ยิบไปหมด พรึ่ดเต็มหน้าแทบไม่มีย่อหน้าเลย เนื้อเรื่องแน่นเอี๊ยดจริงๆ แต่ไม่มีตรงไหนที่เฉื่อยแฉะเลย เพราะเด็กก็ยังอ่านสนุกได้อ่ะค่ะ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นยังอ่านหนังสือไม่แตกเท่าไหร่เลยนะ จำได้ว่าใช้เวลาอ่านนานมากเกือบตลอดปิดเทอมเลยอ่ะค่ะ กว่าจะอ่านจบ

ไม่งั้นก็ลองอ่านสามก๊กฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" ดูก่อนสิคะ เลือกตัวละครที่เราชอบมาอ่านก่อนก็ได้ อย่างเราหยิบ "จูล่ง วีรบุรุษแห่งเสียงสาน" มาอ่านเล่มแรกเลย ตามด้วย "ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร" "กวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์" อ่านสนุกแล้วก็ติดใจการเขียนของท่าน "ยาขอบ" มาก เลยรู้สึกว่าจะหยิบมาอ่านหมดทั้งชุดเลยมั้ง(ยืมห้องสมุด) แต่ว่านอกจากนี้แล้วก็เป็นแคแร็คเตอร์ที่ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ ก็เลยจำไม่ค่อยได้แล้ว

ส่วนใหญ่ที่ "ยาขอบ" หยิบมาเล่าเป็นตัวๆ นี่ จะเป็นแคแร็คเตอร์เด่นๆ ฝ่ายเล่าปี่ ส่วนก๊กอื่นๆ ก็มีโจโฉ จิวยี่ แต่รู้สึกจะไม่มี ซุนกวน ไม่แน่ใจว่ามี สุมาอี้ หรือเปล่า แล้วก็รู้สึกจะมี ตั๋งโต๊ะ ลิโป้ ด้วยมั้ง แล้วก็มีฝ่ายผู้หญิงด้วย น่าจะเป็น เตียวเสี้ยน มีพูดถึงเมียเล่าปี่ที่เป็นน้องสาวซุนกวน ซึ่งก็เป็นหญิงที่ใจเด็ดและน่านับถือเช่นกัน แต่จำไม่ได้ว่าพูดไว้ในเล่มไหน เล่มเล่าปี่หรือเตียวเสี้ยน มีพูดถึงเมียขงเบ้งด้วย น่าจะอยู่ในเล่มขงเบ้ง

นอกจากฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" แล้ว ก็ยังมีฉบับนายทุนของ "คึกฤทธิ์ ปราโมช" ด้วย แต่เราไม่เคยอ่านค่ะ หลังๆ ก็มีฉบับของคนโน้นคนนี้อีก ไม่เคยอ่านเหมือนกัน แล้วก็เห็นมีการเอาสามก๊กมาวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์การบริหาร การตลาดด้วย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ เมษายน 09, 2008, 10:59:25 AM
สุดยอดเลยคุณ galdewis  อ่านสามก๊กซะด้วยเค้าว่าใครอ่านสามก๊กสิบจบจะเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเคยคิดจะอ่านแต่หนังสือหนาเอามากๆเลยยอมแพ้ แฮะๆ แต่ถ้าเป็นฉบับการ์ตูนน่าจะพอไหวส่วนตัวละครชอบ ลิโป้ เพราะเป็นตัวร้ายที่ลุคใกล้เคียงกับสามศรีคือ หล่อร้ายกาจแต่อ่อนไหวในรัก :-*
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 09, 2008, 11:30:44 AM
"หล่อ ร้ายกาจ แต่อ่อนไหวในรัก" ช่างเป็นคำจำกัดความที่กระชับและเห็นภาพจริงๆ ค่ะ

แต่แปลกใจว่า หลังจากตอนเตียวเสี้ยนผ่านไปแล้วนี่ เวลาที่หนังสือพูดถึงลิโป้อีก ก็ไม่มีพูดถึงเตียวเสี้ยนอีกเลย ไม่รู้เตียวเสี้ยนหายไปไหน

ส่วนที่ว่าใครอ่านสามก๊กหลายเที่ยวแล้ว จะกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์นี่ เคยได้ยินที่พูดเป็นภาษาจีนอ่ะค่ะ "ซากกนั้ง หมอเกาฉับ" แปลว่า คนที่อ่านสามก๊ก คบไม่ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องอ่านสิบเที่ยวหรือเปล่า

แต่เราอ่านแค่เที่ยวเดียวเองค่ะ เพราะฉะนั้นยืนยันว่ายังคบได้อยู่นะคะ แต่อาจจะกวน...กาละแมซะหน่อย แฮ่  ;D

แต่ตอนเด็กๆ ที่อ่านสามก๊กนี่ เพราะมันสนุกอ่ะค่ะ นอกจากชอบจูล่งแล้ว ก็ชอบความฉลาดของขงเบ้ง เพราะชอบอ่านพวกเรื่องที่ตัวเอกฉลาดๆ อยู่แล้วอ่ะค่ะ อย่างศรีธนญชัย พีรพล มโหสถ อะไรพวกเนี้ยอ่ะ ด้วยหวังว่าวันนึงตัวเองจะได้ฉลาดขึ้นมั่ง ฮี่  :)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ninda ที่ เมษายน 09, 2008, 12:28:41 PM
ถ้าเป็นเรื่องตัวเอกฉลาด
ูนินดาปลื้มศรีปราชญ์น่ะค่ะ

เรื่องมีไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ตอนเด็กๆ ที่อ่าน
จำได้ว่าแค้นคนที่ทำให้ศรีปราชญ์ตายมาก
จำได้ว่ากับโคลงสั้นๆ ที่เขียนก่อนตายของท่านทำเอานินดาร้องไห้เลย เจ็บปวดแทนจริงๆ...
เสียใจด้วยที่ต้องเสียคนเก่งๆ แบบนี้ไป เพราะคนไม่ดีของสังคม

555+ เรามันคนอารมณ์อ่อนไหว...ก็เงี้ย บ่อน้ำตามันตื้น..

ธรณีนี่นี้...................เป็นพยาน

เราก็ศิษย์มีอาจารย์.....หนึ่งบ้าง

เราผิดท่านประหาร.......เราชอบ

เราบ่ผิดท่านมล้าง.........ดาบนี้คืนสนอง
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 09, 2008, 06:32:33 PM
พูดเรื่องชื่อแรกกับชื่อรองของจูล่งไป ก็เลยขอเอาเรื่องชื่อแรกกับชื่อรองของ เอี้ยก้วย จากหนังสือ "สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก" ของอาจารย์ถาวร สิกขโกศล  มาฝาก "เล้งยี้" (นานะจัง) หวานใจก้วยยี้ด้วยค่ะ



ในเรื่องมังกรหยก "กิมย้ง" แสดงฝีมือตั้งชื่อตัวละครไว้ครบทุกประเภท

ชื่อเอี้ยก้วยนั้น แสดงฝีมือการตั้งชื่อตัวและชื่อรองผ่านบทบาทของก๊วยเจ๋งดังรายละเอียดว่า

“ก๊วยเจ๋งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าและบิดาของทารกนี้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่น่าเสียดายที่ผลบั้นปลายไม่ดี ข้าพเจ้าไม่สามารถแสดงคุณธรรมแห่งมิตรภาพได้เต็มที่ เป็นความคับแค้นในชีวิตจริงๆ แต่หวังว่าเมื่อทารกนี้โตแล้ว หากทำความผิดแล้วย่อมปรับปรุงแก้ไขตนเอง จึงขอตั้งชื่อหนูน้อยนี้ว่า ก้วย (ผิดพลาด) ชื่อรองว่าเก้ยจือ (ปรับปรุงตัว) ขอจงเป็นผู้อุทิศตนเพื่อคุณธรรม”

เมื่อรวมความหมายของชื่อตัวกับชื่อรอง (ของเอี้ยก้วย) แล้ว แปลว่า ผู้ทำผิดแล้วปรับปรุงตัว เฉพาะชื่อ ก้วย นั้น หากเอาความหมายตามนัยแห่งชื่อรองด้วย ก็หมายความว่า สำนึกผิด

ฉะนั้นตัวละครเอกผู้นี้จึงมีชื่อตัวว่า ผู้สำนึกผิด ชื่อรองว่าผู้ปรับปรุงตัว อันเป็นไวพจน์ของกันและกันนั่นเอง

และบทบาทของตัวละครผู้นี้ก็สมดังชื่อ แสดงฝีมือการตั้งชื่อตัวละคร (ของกิมย้ง) ให้มีความหมายลึกซึ้งสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเป็นอย่างยิ่ง  



มีอีกชื่อนึงที่เราชอบและแสดงฝีมือการตั้งชื่อของ "กิมย้ง" ด้วยเหมือนกัน ก็คือชื่อของ ก๊วยฮู้

คำว่า ฮู้ สัมพันธ์กับคำว่า ย้ง ในชื่อของ อึ้งย้ง ซึ่งเป็นแม่ของ ก๊วยฮู้ เพราะ 2 คำนี้เมื่อเอารวมกันเป็น "ฮู้ย้ง" แล้ว จะมีความหมายว่า ดอกพุดตาน ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สวยมากของจีน หรือที่เรารู้จักกันในภาษาไทยว่า ดอกโบตั๋น นั่นเอง (แต่เรายังไม่เคยเห็นหน้าตาของดอกโบตั๋นเลยอ่ะ) การที่ อึ้งย้ง ตั้งชื่อลูกสาวให้สัมพันธ์กับชื่อของตัวเอง บ่งบอกถึงความรักที่มีต่อลูกคนแรกอย่างลึกซึ้ง และเพราะความที่รักลูกมากเกินไปนี้เอง จึงทำให้ก๊วยฮู้ถูกตามใจจนเสียนิสัย ต้องกลายเป็นตัวอิจฉาไป และทำให้อึ้งย้งต้องหันมาเลี้ยงลูก 2 คนเล็กอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพราะมีความผิดพลาดในการเลี้ยงลูกสาวคนโตเป็นบทเรียน

แล้วก็ชอบพวกชื่อฉายา กับพวกท่าวิทยายุทธ์ต่างๆ ที่ "กิมย้ง" ตั้งด้วยอ่ะค่ะ อย่าง  18 ฝ่ามือพิชิตมังกร , ขวัญสลายใจรันทด , เทพเดินหนร้อยแปลง , ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้ อะไรอีกอ่ะ จำไม่ค่อยได้และ

ชื่อพระเอกนางเอกในนิยายไทยก็ใช่ย่อยนะคะ ละอองดาว สกาวเดือน (รู้สึกว่าลูกสาวของ "พนมเทียน" จะชื่อละอองดาวด้วยนะคะ) ทุษยันต์ เวชยันต์ ทัสยุ ดารารายพิลาศ นึกได้แต่ชื่อตัวเอกของ "พนมเทียน" แฮะ คนอื่นก็มีอีกเยอะแต่ตอนนี้นึกไม่ออกอ่ะ  :-[ อ้อ! พวกนิยายหรือหนังบู๊ๆ หน่อย พระเอกก็มักจะชื่อเท่ห์ นางเอกก็มักจะชื่อเก๋ด้วย อย่าง รพินทร์ ไพรวัลย์ ไง (แต่ลิเกไปนี้ด แต่ก็เก๋แหละ) ดร. ทรรศไท ไททรรศ (จำผิดรึปล่าวนี่) เรื่องจิตสังหารอ่ะ นางเอกก็ชื่อเก๊เก๋ คริมา ชื่อเล่นก็เข้ากับชื่อจริงเลย ครีม เรื่องคมคน นางเอกชื่อสายน้ำ พี่ชายชื่อสายฟ้า เป็นชื่อพี่น้องที่น่ารักดี

สังเกตว่าช่อง 7 หรือทีมเขียนบทของช่อง 7 อย่าง "ช่างปั้นเรื่อง" นี่ ให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อนะคะ ทั้งชื่อตัวเอกแล้วก็พวกตัวตลกด้วย และรู้สึกจะเป็นมุกที่ประสบความสำเร็จ สามารถทำให้ละครเป็นที่กล่าวขวัญถึงได้จริงๆ ซะด้วยสิ ซึ่งรวมทั้งการสร้างวลีที่ติดปากตัวละครในเรื่องด้วย รู้สึกจะเห็นช่อง 7 นี่แหละ ทำแล้วเวิร์กมากอยู่เจ้าเดียว อย่างตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น "แต่ก็มิได้นำพา" ใช่มั้ย แต่เราไม่ได้ดูหรอกเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ก็ "แม่ไม่ปลื้ม" ส่วนพวกชื่อตัวตลกก็จี้ดีอ่ะ เช่นตัวอ้วนปุ้กแต่ดันชื่อ "แคบหมู" เงี้ย แต่ก็มักจะโดนเรียกว่า "ขาหมู" แทน เป็นต้น
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 09, 2008, 06:42:46 PM
ถ้าเป็นเรื่องตัวเอกฉลาด
ูนินดาปลื้มศรีปราชญ์น่ะค่ะ

เรื่องมีไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ตอนเด็กๆ ที่อ่าน
จำได้ว่าแค้นคนที่ทำให้ศรีปราชญ์ตายมาก
จำได้ว่ากับโคลงสั้นๆ ที่เขียนก่อนตายของท่านทำเอานินดาร้องไห้เลย เจ็บปวดแทนจริงๆ...
เสียใจด้วยที่ต้องเสียคนเก่งๆ แบบนี้ไป เพราะคนไม่ดีของสังคม

555+ เรามันคนอารมณ์อ่อนไหว...ก็เงี้ย บ่อน้ำตามันตื้น..

ธรณีนี่นี้...................เป็นพยาน

เราก็ศิษย์มีอาจารย์.....หนึ่งบ้าง

เราผิดท่านประหาร.......เราชอบ

เราบ่ผิดท่านมล้าง.........ดาบนี้คืนสนอง


ทำไมศรีปราชญ์ถึงถูกประหารอ่ะคะ ถูกเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชใส่ร้ายใช่มั้ยคะ แต่จำไม่ได้ว่าใส่ร้ายว่ายังไง และเพราะเหตุผลอะไรอ่ะค่ะ แล้วก็จำไม่ได้ว่าทำไมศรีปราชญ์ถึงถูกเนรเทศจากเมืองหลวงด้วย แต่จำได้ว่าสุดท้าย ดาบนั้นก็คืนสนองเจ้าเมืองฯ จริงๆ ใช่มั้ยคะ ถ้าจะให้ดี นินดาช่วยเล่าย่อๆ ตั้งแต่ต้นเลยได้มั้ยคะเนี่ย แฮ่ะ แฮ่ะ  :-[

แล้วขอกลอนอีกอันนึงของศรีปราชญ์ด้วยนะคะ เราจำได้ประโยคเดียวคือประโยคแรก แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา ดีจัง ได้โอกาสถามผู้รู้แล้ว นึกไม่ออกมาตั้งนานแล้วค่ะกลอนอันนี้ เพราะไม่ค่อยถนัดเลยเรื่องกลอน
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pakwarn ที่ เมษายน 09, 2008, 09:37:50 PM
เรื่องศรีปราชญ์หวานก็เคยเรียนนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าที่จำได้จะถูกรึป่าวนะคะ  :-[

เท่าที่หวานจำได้

ศรีปราชญ์ถูกเนรเทศเพราะว่าไปยุ่งกับพระสนมของกษัตริย์

ก็เลยโดนเนรเทศไปอยู่ที่หัวเมืองนครศรีธรรมราช

แล้วก็ไปทำงานขุดคลองอะไรสักอย่างเนี้ยล่ะคะ

แล้วสนมของเจ้าเมืองก็มาพูดจากดูถูก ศรีปราชญ์จึงใช้โคลนสาดใส่

เจ้าเมืองก็เลยสั่งประหารอ่ะคะ

หวานจำได้เท่านี้อ่ะคะ :P :P



ถ้ายังไงพี่นินดาเอาเรื่องที่ถูกต้องมาลงไว้ดีกว่านะคะ แหะๆ :P
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 10, 2008, 03:27:46 PM
ขอบคุณมากค่ะ น้องหวาน

แล้วขอถามผู้รู้ใครก็ได้ค่ะ...ต่อนะคะว่า ศรีปราชญ์นี่เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ ในสมัยไหนอ่ะ จำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เรา

แล้วขอผู้รู้ช่วยต่อกลอนเต็มๆ ของกลอนศรีปราชญ์ (ต้องเรียกว่าโคลงใช่มั้ย) ที่ขึ้นต้นว่า "แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา" ให้ด้วยนะคะ

พูดถึงกลอนนี่ ไม่ถนัดเอาเลยจริงๆ ค่ะ อะไรที่เคยถูกบังคับให้ท่องมานี่ ลืมหมดทุกอย่าง รวมทั้งกลอนศรีปราชญ์นี่ก็ด้วย แต่มีอยู่กลอนนึง ไม่ยักกะมีในหนังสือเรียน แล้วก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่กลับจำได้ขึ้นใจมาตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้ก็ยังจำได้แม่นเลย ทั้งๆ ที่ปกติเป็นคนจำกลอนอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นเนื้อเพลงก็ว่าไปอย่าง เลยเอามาให้ลองอ่านกันดูค่ะว่า ทำไมเราถึงจำกลอนนี้ได้แม่นอยู่อันเดียว


เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มีหมดมิตรมุ่งมองมา      เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง


สาเหตุที่จำกลอนนี้ได้แม่น เพราะเป็นกลอน ม. นั่นเอง

มีใครเคยได้ยินหรือเคยรู้มั้ยคะว่า กลอนนี้มาจากไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 11, 2008, 05:32:47 AM
อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว สงสัยต้องแก้ชื่อกระทู้ใหม่ เป็น สนทนา แบบ ผู้ปราศเปรื่อง ช่างเป็นกระทู้ที่นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนทัศนกันกันแล้ว
ยังได้ความละเอียดลึกซึ้งจากผู้รู้จริงๆเลยค่ะ นานะจัง เคยได้ยิน ชื่อ ศรีปราชญ์ แต่ไม่รู้เกี่ยวกับรายละเอียดของท่านอ่ะค่ะ
เหอๆ หนังสือที่อ่านส่วนใหญ่ก็วรรณกรรมแปลทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่วรรณกรรมแปล ก็อ่านการ์ตูน เหอๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 11, 2008, 03:36:08 PM
อะจึ๋ยยย์ ถ้านานะแก้ชื่อกระทู้เป็น สนทนาแบบผู้ปราดเปรื่อง เห็นทีเราจะต้องถอนตัวจรลีเป็นคนแรกเยยย

อันตัวเรานี้ช่างห่างไกลคำนี้ซะเจ็งๆ แค่รู้อะไรนิๆ โหน่ยๆ นากินี(งู)ๆ ปลาๆ เท่านั้นเอง แล้วก็แทบจะขยายขี้เท่อไปหมดแล้วด้วย อาศัยว่าเป็นคนพูดมาก เลยจับนั่นโยงนี่จับแพะชนแกะชวนคุยโน่นนี่มั่วไปหมดอ่ะค่ะ ต้องขออภัยด้วย ที่ไม่ค่อยอยู่ในประเด็นเอาซะเลย ชอบคุยแตกดอกอ่ะค่ะ

แต่ถ้านานะแก้ชื่อกระทู้เป็น สนทนาแบบผู้ปราศเปรื่องนี่ เราจะขอเกาะติดกระทู้นี้เหนียวแน่นเป็นตุ๊กแกเกาะประตูห้องน้ำไล่ไม่ยอมไปเลยอ่ะค่า เพราะมีแต่ความไม่รู้อยู่เต็มพุงไปหมด พร้อมจะขยายขี้เท่อออกมาได้ตลอดเวลาเลยคร่า

ปล. หากจะมีสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างที่นานะจังบอก สิ่งหนึ่งที่แน่ๆ ก็คือภาษาไทยของเรานี่แหละค่ะ เฉพาะแค่ไม่กี่ประโยคท้ายๆ ที่เราคุยกันนี่ ก็ได้คำพ้องเสียงมาถึง 3 คำแล้ว โดยที่ความหมายไม่เหมือนกันเลย (ปราชญ์ ปราศ ปราด) จึงไม่แปลกอะไรที่จะเคยได้ยินคนต่างชาติบ่นว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก

เราเห็นด้วยแน่ๆ แต่ถึงภาษาไทยจะยาก แต่มักมีความชัดเจน อย่างเช่น 3 คำพ้องเสียงแต่ต่างความหมายที่ยกตัวอย่างมา แต่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยมีคำพ้องเสียง แต่เป็นคำเดียวกันนั่นแหละ เขียนเหมือนกันเปี๊ยบ สะกดเหมือนกันทุกอย่าง แต่ความหมายล้านเจ็ด คำๆ เดียวกันนั้นยังอาจเป็นได้ทั้งคำนาม กริยา เผลอๆ เป็นคุณศัพท์ วิเศษได้อีก ยิ่งเรื่องการออกเสียงด้วยแล้ว ภาษาไทยออกเสียงตามวรรณยุกต์ที่กำกับไว้อย่างแน่นอนชัดเจน แต่ภาษาอังกฤษหลักการออกเสียงมีแต่ stress เท่านั้น แต่พยางค์แต่ละพยางค์ไม่มีการออกเสียงวรรณยุกต์ที่แน่นอนกำกับไว้เหมือนกับภาษาไทย

ปล. อะไรก็ไม่รู้ ยาวยิ่งกว่าเนื้อความหลักซะอีก และเราได้ออกนอกประเด็นงานเขียนโดนใจ ไปเรื่องภาษาอีกแล้วครับท่าน หากทำให้คนตั้งกระทู้หนักใจ ต้องขออำภัยจิงๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 11, 2008, 09:18:43 PM
 :) พี่พูดถึง เกี่ยวภาษาไทยขึ้นมา นานะจัง หยองนะคะเนี่ย เพราะนานะจังชอบสะกดคำผิดตลอดเลย อ่ะ  :P หุหุ

นอกพี่จะคนที่มีความรู้ลึกซึ้งแล้ว ยังเป็นคนถ่อมตัวด้วยนะคะ ยิ่งคุยกันก็ยิ่งทึ่งในตัวพี่ค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 12, 2008, 11:20:24 AM
โอ๊ยโหยว! อยากจะถ่อมตัวเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยจะมีให้ถ่อมนี่สิคะ ขอบคุณมากเลย ที่มองเราในแง่ดีนะคะ

ความหยองของนานะจังเมื่อพูดถึงเรื่องภาษา ก็คงไม่ต่างจากความหยองของเรา เมื่อพูดถึงเลขหรอกค่ะ คนเราความชอบและความถนัดต่างกันนะคะ เพียงแต่ว่า เรื่องภาษานี่มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดกว่าเรื่องอื่น เนื่องจากมันเป็นเครื่องมือที่เราใช้สื่อสารกัน ในขณะที่เราไม่ได้ใช้เลขมาสื่อสารกัน ถึงตัวเราจะโง่เลข แต่ตราบใดที่ปิดปากให้สนิท ไม่ทำอวดรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าเราห่วยเลขอ่ะค่ะ

เรารู้สึกว่า เรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ยากมากอ่ะค่ะ เพราะว่ามีรายละเอียดและความลึกซึ้งมากมาย แม้กระทั่งคนที่คิดว่าตัวเองชอบภาษาอย่างเรา และคิดว่าน่าจะถนัดเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่น ก็ยังรู้เรื่องภาษาแค่กระผีกเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ ได้แค่พยายามในระดับของการ "ใช้ให้ถูก" ได้แค่นั้นเองอ่ะค่ะ เพราะมันง่ายกว่าการพยายามจะ "รู้ให้จริง" มากนัก

พูดเรื่องความชอบความถนัด ทำให้เรานึกถึงแบบทดสอบ "พหุปัญญา" ขึ้นมาอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่านานะเคยลองทำรึยังคะ

แต่มันเป็นแบบทดสอบที่ค่อนข้างจะหนักซักหน่อย คำถามก็ไม่สนุก แต่บางทีอาจช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ในแง่ของ "ความสามารถที่อาจซ่อนเร้นอยู่ในตัวเรา" ก็ได้ อย่างที่ฝรั่งเขาชอบพูดว่า "latent talent" (สังเกตมั้ยคะ ศัพท์สองคำนี้เก๋ดับเบิ้ลมาก เพราะเป็นการเล่นคำสลับอักษร ในขณะเดียวกันก็มีความหมายด้วย)

อย่างตัวเราเอง เคยคิดว่าตัวเองถนัดเรื่องภาษามากที่สุด แต่ปรากฏว่า เชื่อมั้ยคะ ทำแบบทดสอบนี้ได้คะแนนตรรกะและคณิตศาสตร์ มากกว่าคะแนนภาษาซะอีก งงไปเลยเรา แต่คิดว่าคงเป็นตรรกะมากกว่าที่เราถนัด ไม่ใช่คณิตหรอกค่ะ เพราะในการแต่งนิยายนี่ ต้องอาศัยตรรกช่วยในเรื่องความสมจริงสมเหตุสมผลเยอะอ่ะค่ะ

เดี๋ยวจะลองไปหาแบบทดสอบพหุปัญญามาให้ลองเล่นกันดูค่ะ ถ้าหาเจอจะไปแปะหน้ารวมทำนายฯ นะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 12, 2008, 09:35:02 PM
 แบบทดสอบ "พหุปัญญา   :-* น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกค่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ  อยากเล่นจังเลย
นานะจัง เคย วัดแต่ระดับไอคิวน่ะค่ะ แต่ไม่เคยวัดว่าตัวเองเก่งทางด้านไหน แต่ยอมรับว่าชอบ ถอดรหัสมาก  8)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ เมษายน 12, 2008, 11:47:48 PM
โอ๊ยโหยว! อยากจะถ่อมตัวเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยจะมีให้ถ่อมนี่สิคะ ขอบคุณมากเลย ที่มองเราในแง่ดีนะคะ

ความหยองของนานะจังเมื่อพูดถึงเรื่องภาษา ก็คงไม่ต่างจากความหยองของเรา เมื่อพูดถึงเลขหรอกค่ะ คนเราความชอบและความถนัดต่างกันนะคะ เพียงแต่ว่า เรื่องภาษานี่มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดกว่าเรื่องอื่น เนื่องจากมันเป็นเครื่องมือที่เราใช้สื่อสารกัน ในขณะที่เราไม่ได้ใช้เลขมาสื่อสารกัน ถึงตัวเราจะโง่เลข แต่ตราบใดที่ปิดปากให้สนิท ไม่ทำอวดรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าเราห่วยเลขอ่ะค่ะ

เรารู้สึกว่า เรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ยากมากอ่ะค่ะ เพราะว่ามีรายละเอียดและความลึกซึ้งมากมาย แม้กระทั่งคนที่คิดว่าตัวเองชอบภาษาอย่างเรา และคิดว่าน่าจะถนัดเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่น ก็ยังรู้เรื่องภาษาแค่กระผีกเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ ได้แค่พยายามในระดับของการ "ใช้ให้ถูก" ได้แค่นั้นเองอ่ะค่ะ เพราะมันง่ายกว่าการพยายามจะ "รู้ให้จริง" มากนัก

พูดเรื่องความชอบความถนัด ทำให้เรานึกถึงแบบทดสอบ "พหุปัญญา" ขึ้นมาอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่านานะเคยลองทำรึยังคะ

แต่มันเป็นแบบทดสอบที่ค่อนข้างจะหนักซักหน่อย คำถามก็ไม่สนุก แต่บางทีอาจช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ในแง่ของ "ความสามารถที่อาจซ่อนเร้นอยู่ในตัวเรา" ก็ได้ อย่างที่ฝรั่งเขาชอบพูดว่า "latent talent" (สังเกตมั้ยคะ ศัพท์สองคำนี้เก๋ดับเบิ้ลมาก เพราะเป็นการเล่นคำสลับอักษร ในขณะเดียวกันก็มีความหมายด้วย)

อย่างตัวเราเอง เคยคิดว่าตัวเองถนัดเรื่องภาษามากที่สุด แต่ปรากฏว่า เชื่อมั้ยคะ ทำแบบทดสอบนี้ได้คะแนนตรรกะและคณิตศาสตร์ มากกว่าคะแนนภาษาซะอีก งงไปเลยเรา แต่คิดว่าคงเป็นตรรกะมากกว่าที่เราถนัด ไม่ใช่คณิตหรอกค่ะ เพราะในการแต่งนิยายนี่ ต้องอาศัยตรรกช่วยในเรื่องความสมจริงสมเหตุสมผลเยอะอ่ะค่ะ

เดี๋ยวจะลองไปหาแบบทดสอบพหุปัญญามาให้ลองเล่นกันดูค่ะ ถ้าหาเจอจะไปแปะหน้ารวมทำนายฯ นะคะ

กันย์ก้อสนใจค่ะ เคยอ่านหนังสือของหนูดี รู้สึกกันย์จะค่อนไปในเรื่องรู้จักตัวเองและธรรมชาติ สักอย่างเนี่ยแหละ อยากทำแบบทดสอบเหมือนกันค่ะ^_^
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: air2535 ที่ เมษายน 13, 2008, 07:19:15 PM
ขอบคุณมากค่ะ น้องหวาน

แล้วขอถามผู้รู้ใครก็ได้ค่ะ...ต่อนะคะว่า ศรีปราชญ์นี่เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยคะ ในสมัยไหนอ่ะ จำรายละเอียดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เรา

แล้วขอผู้รู้ช่วยต่อกลอนเต็มๆ ของกลอนศรีปราชญ์ (ต้องเรียกว่าโคลงใช่มั้ย) ที่ขึ้นต้นว่า "แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา" ให้ด้วยนะคะ

พูดถึงกลอนนี่ ไม่ถนัดเอาเลยจริงๆ ค่ะ อะไรที่เคยถูกบังคับให้ท่องมานี่ ลืมหมดทุกอย่าง รวมทั้งกลอนศรีปราชญ์นี่ก็ด้วย แต่มีอยู่กลอนนึง ไม่ยักกะมีในหนังสือเรียน แล้วก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่กลับจำได้ขึ้นใจมาตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้ก็ยังจำได้แม่นเลย ทั้งๆ ที่ปกติเป็นคนจำกลอนอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นเนื้อเพลงก็ว่าไปอย่าง เลยเอามาให้ลองอ่านกันดูค่ะว่า ทำไมเราถึงจำกลอนนี้ได้แม่นอยู่อันเดียว


เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มีหมดมิตรมุ่งมองมา      เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง


สาเหตุที่จำกลอนนี้ได้แม่น เพราะเป็นกลอน ม. นั่นเอง

มีใครเคยได้ยินหรือเคยรู้มั้ยคะว่า กลอนนี้มาจากไหนอ่ะ


ศรีปราชญ์ เป็นเรื่องจริงค่ะ(แต่ก็มีบางคนบอกว่าศรีปราชญ์ไม่มีตัวตนนะคะ)แต่ตามความเชื่อของคนส่วนใหญ่คือมีค่ะ เป็นกวีเอกสมัยพระนารายณ์มหาราช ซึ่งพ่อของศรีปราชญ์คือพระโหราธิบดีเป็นผู้แต่งแบบเรียนไทยฉบับแรก "จินดามณี" ค่ะ

โคลงนะคะ

แหวนนั้นท่านได้ แต่ใดมา
จอมทิพโลกา ท่านให้
ทำชอบสิ่งใดมา วานบอก
เราแต่งโคลงถวายไซร้ ท่านให้รางวัล

^^ ส่วนเรื่องของศรีปราชญ์นะคะ

ศรีปราชญ์ เป็นชื่อที่พระนารายณ์ตั้งให้ค่ะ (เดิมน่าจะชื่อศรีนะคะถ้าแอจำไม่ผิด)
พ่อของศรีปราชญ์เป็นพระโหราธิบดีค่ะ ซึ่งก่อนตายพ่อของศรีปราชญ์ได้ขอพระนารายณ์ไว้ค่ะว่าถ้าเติบโตขึ้นไปศรีปราชญ์ทำความผิดไปเพราะความคะนองอย่าได้ประหาร(พ่อของศรีปราชญ์ขอแบบนี้แอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะรู้ล่วงหน้านะคะเพราะว่าท่านเป็นโหรนี่นา แอเดาเอาเองนะคะ^^)
พอโตขึ้นศรีปราชญ์เป็นคู่ต่อโคลงของพระนารายณ์ค่ะ ในสมัยนั่นวรรณคดีรุ่งเรืองมาก และตามตำนานบอกว่าด้วยความคะนองศรีปราชญ์จึงได้คบชู้ท้าวศรีจุฬาลักษณ์(เป็นตำแหน่งพระสนมของกษัตริย์ลำดับที่14ค่ะซึ่งในเวลานั้นคือน้องสาวของพระเพทราชาค่ะ)
 
จริงๆพระนารายณ์จะประหารค่ะ แต่นึกถึงคำที่พระโหราธิบดีขอไว้ จึงเนรเทศไปอยู่นครศรีธรรมราชค่ะ (ในสมัยนั้นนครศรีธรรมราชกันดารมากๆค่ะ) ศรีปราชญ์ไปอยู่ที่นครศรีธรรมราชก็เป็นที่โปรดปราณค่ะเพราะเจ้าบทเจ้ากลอน จึงได้รางวัลบ่อย ทำให้คนอื่นอิจฉาค่ะ
จึงใส่ร้ายว่าศรีปราชญ์แต่งโครงล่วงเกินนางสนม นางกำนัล และพระมเหสี เจ้านครหูเบาจึงสั่งประหารศรีปราชญ์ หลังจากนั้นพระนารายณ์แต่งโคลงแล้วแต่งต่อไม่ได้ค่ะเลยอยากจะให้ศรีปราชญ์กลับมาต่อโคลงให้ จึงอภัยโทษและเรียกศรีปราชญ์กลับเมือง เมื่อทราบว่าถูกเจ้านครศรีธรรมราชประหารไปแล้ว ก็ทรงกริ้วมากจึงสั่งประหารเจ้านครศรีธรรมราชด้วยดาบเล่มเดียวกันที่ประหารศรีปราชญ์




หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 13, 2008, 07:31:56 PM
โอ้วว! ขอบคุณมากเลยค่ะ คุณ air2535

ทำเอาระลึกชาติได้เลยค่ะ แต่ก่อนเคยท่องได้นะคะ โคลงนี้ แต่ที่จำได้ ต่างไปจากที่คุณairฯ บอกมานิดๆ ค่ะ

ระลึกชาติได้ว่าอย่างงี้นะคะ

แหวนนี้ท่านได้ แต่ใดมา
เจ้าพิภพโลกา ท่านให้
ทำชอบสิ่งใดนา วานบอก
เราแต่งโคลงถวายไท้ ท่านให้ รางวัล

แต่มีความรู้สึกว่า ตัวเองต้องแบ่งวรรคตอนของวรรคแรกผิดแน่ๆ เพราะไม่ถนัดเลยเรื่องโคลงกลอน
มีใครจำโคลงนี้ได้อีกมั่งมั้ยคะ ช่วยมายืนยันที่ถูกหน่อยค่า
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 13, 2008, 07:33:48 PM
จะแวะเข้ามาส่งข่าวด้วยอ่ะค่ะว่า เอาแบบทดสอบพหุปัญญาไปลงในหน้ารวมทำนายฯ แล้วนะคะ

ใครสนใจลองแวะเข้าไปทำดูได้นะค้า
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 13, 2008, 07:43:15 PM
กันย์ก้อสนใจค่ะ เคยอ่านหนังสือของหนูดี รู้สึกกันย์จะค่อนไปในเรื่องรู้จักตัวเองและธรรมชาติ สักอย่างเนี่ยแหละ อยากทำแบบทดสอบเหมือนกันค่ะ^_^

ในกระทู้ต้นฉบับเรื่องพหุปัญญาที่เราเอามาลง มีคอมเมนท์พูดถึงหนังสือของคุณหนูดีเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่เคยอ่าน เคยแต่ได้ยินคนพูดถึง รู้สึกจะชื่อประมาณ อัจฉริยะสร้างได้ ใช่มั้ยคะ แต่ตัวคุณหนูดีนี่เคยเห็นในโฆษณา หน้าตาสวยมากเลย คล้ายๆ แหม่มเบนโลอ่ะค่ะ

เราคิดว่าเข้าใจตัวเองดีเหมือนกันอ่ะค่ะ แต่ทำแบบทดสอบแล้วก็ได้แค่ 5 เอง แค่ปกติอ่ะค่ะ

น้องกันย์ลองไปทำแบบทดสอบดูที่หน้ารวมทำนายฯ นะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 13, 2008, 08:28:40 PM
หลังจากไปลองๆ คิดอยากช่วยนานะจังแก้ชื่อกระทู้นี้ (เนื่องจากว่าตัวเองขยันเข้าซอยซะจริง อายอ่ะค่ะ ก็เลยลองไปคิดๆ ดู เผื่อจะแก้ชื่อกระทู้ให้ครอบคลุมการออกนอกเรื่องของตัวเองได้มั่ง)

แต่ก็คิดไม่ออก แล้วก็เลยรู้สึกว่า นานะจังตั้งชื่อกระทู้นี้ได้เหมาะสมอยู่แล้วอ่ะค่ะ

ถ้าหากตั้งว่า "งานเขียนเรื่องไหนโดนใจที่สุด" คิดว่าน่าจะแคบเกินไป

แต่นานะใช้คำว่า "(โดนใจ)บ้าง" ทำให้กระทู้นี้ คุยได้ยาวดีค่ะ


ทีนี้จะพยายามตอบให้เข้าประเด็นกันเขาบ้างนะคะ หลังจากเลี้ยวเข้าซอยโน้น ออกซอยนี้มามากแล้ว แฮ่ะแฮ่ะ

พวกเราก็ได้คุยกันถึงหนังสือที่โดนใจ เลยไปถึงนักเขียนที่โดนใจ กันมาบ้างแล้ว
เลยอยากจะชวนคุยต่อเนื่องว่า หนังสือที่โดนใจเรานั้นน่ะ เพราะอะไรถึงได้โดนใจเหรอคะ

กระทู้ของนานะจังอันนี้ ประเทืองปัญญาดีจังอ่ะค่ะ เราเองไม่เคยลองคิดสรุปมาก่อนเลยว่า
หนังสือที่เราชอบๆ ทั้งหลายนั้น อย่างเช่นแฮร์รี่ มังกรหยก นิยายของว. วินิจฉัยกุล
ทำไมเราถึงได้ชอบมัน

ทั้งๆ ที่ดูๆ แล้ว หนังสือที่เราชอบๆ นั้น มันเป็นหนังสือคนละแนวกันเลย 

เราเห็นคนอื่นๆ รวมทั้งน้องๆ ที่มาคุยกัน บางคนก็ชอบหนังสือแนวแฟนตาซี แนวหนักๆ หรืออย่างนานะจังก็ชอบแนวสืบสวนสอบสวน ชัดเจนอ่ะค่ะ

แต่ตัวเราเอง ทำไมไม่ยักกะมีแนวที่ชอบอย่างคนอื่นเขามั่ง อ่านมันดะไปหมด ขอให้ไม่น่าเบื่อก็พอ

การ์ตูนก็ได้ แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบ เพราะขี้เกียจพลิกหน้าบ่อยๆ มันเมื่อย

หนังสือโบราณคลาสสิกก็อ่านได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบแนวโบราณคลาสสิก อ่านสามก๊กได้ แต่ไม่ชอบ(อ่าน)เปาบุ้นจิ้น ไม่หนุกเลย ไม่ยักกะเหมือนในหนังซักนิด ทนอ่าน ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงไม่ได้ แค่หน้าเดียวก็หลับ แล้วไม่เคยจับอีกเลย

ชอบวิธีเขียนแบบเจเคมาก สามารถทิ้งท้ายให้อยากรู้อยากติดตามต่อไปได้เรื่อยๆ แดน บราวน์ก็เหมือนกัน ชอบวิธีเขียนแบบนี้มาก แต่สำนวนเขียนเรียบง่ายอย่างสามก๊ก ก็ชอบด้วย

ชอบสำนวนเขียนของว. วินิจฉัยกุล ชูวงศ์ ฉายะจินดามากๆ เขียนหนังสือเก่งเหลือเกิน โดยเฉพาะพนมเทียน ยาขอบ เป็นตำราการเขียนเล่มใหญ่ ชนิดแสดงให้เห็นจริง โดยไม่ต้องไปอ่านตำราการเขียนภาษาไทยเลย และขณะเดียวกัน ก็ไม่ชอบเลย นิยายที่ภาษาเขียนไม่ดี หรือมีแต่ไดอะล็อก

เพิ่งคิดได้แค่เนี้ยอ่ะค่ะ ยังสรุปไม่ได้อยู่ดีว่า งานเขียนต่างๆ ที่โดนใจตัวเองนั้น มันโดนใจเพราะอะไร แล้วทำไม เราถึงไม่มีงานเขียนแนวที่ชอบเหมือนคนอื่นเขา เอาซะมั่งเลย

เมื่อก่อนเคยคิดว่า ตัวเองชอบกำลังภายใน แต่ก็ไม่ใช่

การที่ไม่มีหนังสือแนวที่ชอบ ทำให้เวลาไม่มีหนังสือหนุกๆ ก็ไม่มีหนังสือจะให้หยิบแล้วอ่ะค่ะ เพราะไม่ได้ชอบแนวไหนเป็นพิเศษเลย แล้วก็ไม่ติดคนเขียนด้วย ถึงจะมีนักเขียนที่โปรด แต่ถ้าหยิบเล่มไหนมาแล้วไม่หนุก ก็ไม่อ่าน (หมายถึงอ่านไม่จบ หรืออ่านข้ามๆ และอ่านจบแบบเซ็งๆ) เลยอ่ะค่ะ อย่างเรื่อง "สายโลหิต" ชอบมากๆ แต่ "ญาติกา" ไม่ชอบเลย อย่างแฮร์รี่เล่ม 5 นี่ ตอนแรกอ่านภาษาอังกฤษ น่าเบื่อมากๆ อ่านข้ามๆๆ พอให้จบๆ ไป พอภาษาไทยออกค่อยอ่านอีกที เพราะอยากจะให้รู้แน่ๆ ว่ามันไม่หนุกจริงๆ แล้วก็ไม่หนุกจริงๆ ด้วย เลยไม่อ่านเล่ม 6 เลย เซ็ง รอไปอ่านเล่มจบเลยละกัน

บางทีหาหนังสือใหม่ๆ อ่านไม่ได้ นู่นก็ไม่หนุก นี่ก็น่าเบื่อ ยอมหยิบเล่มเก่ามาอ่านดีกว่าอ่ะค่ะ

ทีนี้ขอถามคนที่มีหนังสือแนวที่ตัวเองชอบอย่างชัดเจนหน่อยนะคะว่า สามารถจะอ่านหนังสือแนวนั้นๆ ได้เรื่อยๆ มั้ยคะ คือถึงเล่มนั้นอาจจะไม่ได้สนุกมาก แต่ก็อ่านได้ ไม่ถึงกับเซ็งๆ เบื่อๆ จนเลิกอ่านเล่มนั้นไปเหมือนอย่างเรา เพราะว่าเป็นแนวที่ชอบ อย่างงี้รึปล่าวคะ





หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 14, 2008, 06:17:34 AM
ที่ตั้งกระทู้ งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้างนี้ จริงๆก็ไม่ได้คิดมากไรหรอกค่ะ
เห็น ที่นี่ มีแต่นักอ่านทั้งนั้นเลย
เวลาคุยกันกันอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็จะมีการพูดถึงหนังสือเล่มอื่นขึ้นมา ก็เลยเอาเป็นว่าตั้งกระทู้ใหม่เถอะ
55555555555 คือ นานะจังอยากทร่าบแนวคิด ว่า ทำไมถึงชอบหนังสือ เล่มนี้ อะไรประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ
อย่างนานะจังชอบแนวสืบสอนสอบสวน ก็เพราะว่า นวนิยายประเภทนี้ จะสำนวนในการบรรยายให้เราต้องคิดตามตลอด ในปริศนาที่ทิ้งไว้แต่ละจุด ทำให้เรื่องนั้นดำเนินไปอย่างน่าติดตามและวางไม่ลง แล้วกับฆาตรกร ตอนสุดท้ายนแล้วจะตรงกับที่เราคาดเดาไว้ไหม อะไรประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ แต่วิธิหรือสำนวนการเขียน มีความสำคัญมากค่ะ
เพราะว่า ถ้าเขียนได้ไม่ลื่นไหล หรือมีสำนวนการเล่าเรื่องที่ไม่จับใจแล้วล่ะก็ อย่าหวังว่าจะอ่านเกิน 5 หน้าเลย
อย่างลอร์ด ออฟ เดอะ ริงนี่ พยายามที่สุดละ ได้ไป 10 หน้า พอเหอะ เป็นยานอนหลับขนานดีมาก
แต่อย่าง แฮร์รี่ นานะจังชอบวิธีการเขียนของเจเค มาก โดยเฉพาะ อารมณ์ขัน เป็นเสน่ห์ ที่ตราตรึงของวรรณกรรมชุดแฮร์รี่พอตเตอร์ซะจริงๆ ของ แดน บราว แม้ว่ามุกตลกจะไม่ขนาดเจเค แต่ก็ มีอให้ขำเป็นระยะๆ และก็แถมได้ความรู้อีกเป็นกระบุง วันนี้ขอพูกแค่นี้ก่อนนะคะ เด๋วครั้งหน้าขอมาวิเคราะงานเขียนที่ชอบอย่างละเอียดยิบเลยค่ะ
เพราะบอร์ดมันอืดสุดๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 21, 2008, 01:54:52 AM
ขอตอบด้วยสิ เราก็อ่านเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นมังกะอ่ะค่ะ

นิยายนี้ส่วนใหญ่อ่านเพราะดูละครก่อนทั้งนั้นเลย
ซึ่งเท่าที่อ่านมาจะเป็นของกิ่งฉัตรซะส่วนมากค่ะ
มีของนักเขียนท่านอื่นบ้าง ซึ่งสำหรับท่านที่เขียนเยอะๆ แล้ว โอกาสที่เราจะได้อ่านก็จะมีสูง
แต่ไม่เคยอ่านของพนมเทียนเลยแฮะ เคยคิดจะอ่านมัสยา(คิดว่าพนมเทียนเขียนใช่ไหมคะ) แต่ก็ไม่มีโอกาส
อย่างของ ว.ฯ ก็รู้สึกว่าจะเคยอ่านนิกกับพิมเพราะเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา
แต่ตอนนั้นเด็กมากกกกก ตีความอะไรยังไม่ค่อยออก ยังคิดๆ เลยว่าแล้วนิกกับพิมมันเขียนจดหมายได้ยังไง 55+

กาฬรหัสย์ อ่านนิยายเยอะมากเลย เราไม่เคยอ่านทวิภพ แต่ชอบเวอร์ชั่นรีเมคที่ทำเป็นหนังมาก
คิดว่าคงไม่อ่านเพราะเนื่อหาไม่เหมือนกันแน่นอนอยู่แล้ว มันดีทั้งสองแบบ เดี๋ยวเนื้อเรื่องจะไปตีกันในสมอง
อ่านคู่กรรมเหมือนกัน แต่อ่านเพราะดูละคร ก็เวอร์ชันแดน-โดนัทนั่นล่ะ แต่เราชอบละครนะ สนุกออก
ความจริงคู่กรรม2 ที่เป็นนิยายแทบจะไม่มีเรื่องรักๆ เลย คิดเอาเองว่าที่คนเขียนบทละครเลือกศรามาเป็นนางเอก เพราะศราชื่อสวย
ชอบแต่ปางก่อนด้วย แล้วก็คำมั่นสัญญา ละครก็ไม่เคยดู นิยายก็ไม่เคยอ่าน แต่ชอบมุขฌาปนกิจคาเมะมากกกกกก
ประทับใจสุดๆ ตอนแรกงงๆ มันอาไรกับคาเมะน๊อออ พอเห็นวงเล็บว่าเผาเต่าเท่านั้น 5555555+

พระอภัยมณีสุดยอดอ่ะ ชอบมาก เป็นไทยแฟนตาซีที่เริ่ดมาก
ชอบศรีสุวรรณ ดูเป็นพระเอกที่แตกต่างดี ไม่เจ้าชู้ 55+ แต่ที่จริงศรีสุวรรณก็เป็นแค่น้องพระเอกนิเนอะ

นิยายจีน สามก๊กนี้มีให้เรียน แต่ก็ไม่เก็ทเหมือนกัน อ่านแล้วไม่เข้าใจ ตอนเรียนครูก็แปลไทยเป็นไทยให้แล้วก็ยังไม่เข้าใจ ก็เลยยอมแพ้
แต่เห็นที่คุณgladewisเล่าแล้วน่าจะเครียด อ่านไปเราก็คงไม่เก็ทอยู่ดี นับถือพี่จริงๆ ที่อ่านจบ สุดยอดเลยค่ะ
ที่อ่านจบมีก๊วยเจ๋ง-อึ้งย้งเรื่องเดียว อารมณ์ประมาณพี่นินดาเลย ตอนที่อ่านมันก็จะอ่านๆๆๆ อยู่นั้น ชอบมากกกก
แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอเรื่องต่อไปถึงภาคเอี้ยก้วย-เล้งยี้แล้วมันไม่มีแรงดึงดูดสำหรับเราเหมือนกับภาคแรก

พวกวรรณกรรมแปลก็อ่านเยอะเหมือนกัน...
แน่นอนว่าแฮร์รี่ฯเป็นอะไรที่คนอ่านวรรณกรรมเยาวชนแปลบ้านเราต้องผ่านมาบ้างไม่มากก็น้อยอ่ะนะ ฮา~
โดยรวมแล้วสนุกกับเนื้อเรื่องดีค่ะ แต่สำหรับเราแล้วมันมีจุดที่ไม่ชอบอยู่บ้าง
แต่เป็นไรที่คุยกันสนุกดีนะ วันหลังจะไปนั่งอ่านกระทู้แฮร์รี่ ให้ครบทุกหน้าเลย
รหัสลับดาวินชี เล่มหนาไปแบกไม่ไหว 55+ ลอร์ดฯก็ไม่มีโอกาสได้อ่าน+ขี้เกียจ(ซะงั้น)
ที่จริงเราก็เริ่มชอบอ่านหนังสือจากวรรณกรรมเยาวชนแปลเนี้ยแหละ
เรื่องแรกสุดที่ทำให้เราชอบอ่านหนังสือที่ไม่มีภาพประกอบได้คือ สองพี่น้องผู้กล้าหาญ ของแอสตริด ลินด์แกรน
คิดว่าไม่มีใครรู้จักแน่ เพราะไม่ใช่เรื่องที่มีชื่อเสียงมากนัก แต่เนื้อเรื่องมันน่ารักมาก
เป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กจริงๆ เนื้อเรื่องเรียบง่าย แล้วก็เป็นเนื้อหาในแง่บวก
แล้วสำหรับเราก็ยังไม่มีเล่มไหนมาแทนเล่มนี้ได้เลย ถึงตอนนี้จะมีอายุมากขึ้นแล้วก็ตาม ฮา~

สดท้ายขอพูดเรื่องการ์ตูน อ่านมานานมาก อ่านเยอะกว่าหนังสือที่เป็นความเรียงอย่างเดียว
นักเขียนมังกะที่ชอบที่สุดเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้หญิง(โชโจ)ค่ะ แต่เห็นบอร์ดนี้มีแต่คนอ่านแนวการ์ตูนเด็กผู้ชาย(โชเนน)
ซึ่งอันที่จริงแล้วเราก็อ่านโชเนนมากกว่าโชโจ
แต่ อ.ชิซุรุ เซย์โนะ ที่เราชอบอยู่เนี้ย เค้าเขียนการ์ตูนได้สดใสโดนใจเรามาก
คือแอบปัญญาอ่อน อ่านแล้วหายเครียดเลย 55+
ที่พี่กันย์(ใช่ไหมคะ ถ้ารุ่นเดียวกับพี่นินดา ก็เป็นพี่ค่ะ ถ้าไม่ใช่ก็บอกด้วยนะคะ แหะๆ) อ่านเราก็อ่านหลายเรื่องนะ
เพราะเมื่อก่อนอ่านของชูเอฉะเยอะมาก(ก็ที่ลงในบูมนั่นล่ะค่ะ) อย่างโคนันนี้บ้านเราอ่านกันเยอะอยู่แล้ว
เริ่มอ่านการ์ตูนโชเนน เมื่อถึงคราวอิ่มตัวกับโชโจ เริ่มที่ฮิคารุฯ แล้วก็ลามไปเรื่องอื่นที่อยู่ในบูมค่ะ ต่อมาก็อ่านสำนักพิมพ์อื่นๆ บ้าง

อภัยซาก้าก็สนุกดี คนแต่งเรื่องก็คิดได้มากเลย อยากอ่านต่อเร็ว
อยากเห็นหน้าอุศเรนแล้ว คนเขียนให้อุศเรนเป็นพาลาดินซะเลย อืมมม แล้วมันจะไปไงต่อเนี้ย

เดอะปริ้นส์ฯ อ่านเพราะดูหนัง ชอบคุณกัปตัน กับ ท่านฟู ไม่ได้จับคู่นะ แต่บังเอิญชอบสองตัวนี้พร้อมกัน
อ่านไปอ่านมาชักจะไม่เทนนิสแล้วนะ ออกแนวกำลังภายในขึ้นเรื่อยๆ

บลีช ฮาอย่างฝืดๆ ถึงอาจารย์คนวาดแกจะทำงานได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ แต่ฉากต่อสู้ดูจะนานไป แต่ก็อ่านได้เรื่อยๆ

เรฟ พึ่งอาจจบเมื่อสองสามเดือนก่อน สนุกดี ดำเนินเรื่องเร็ว กระชับแต่คนเขียนใจร้าย ฆ่าตัวละครที่เรารักไปตัวนึง

คิว.อี.ดี. การ์ตูนแปลกๆ ที่คนเขียนแต่งไปได้ แต่ชอบ ออกแนวการไขปริศนาด้วยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
คนที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์อ่านแล้วอาจจะงงๆ เพราะเนื้อหาจะมุ่งไปที่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
แต่ก็อ่านได้นะ ข้ามๆ ไป เพราะเราก็ข้ามตรงที่มันงงๆ ไปเหมือนกัน

โชเนนเรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ก็มีเคียว จีบี โรงเรียนนักสืบคิว รันม่า1/2 ดราก้อนบอล คินไดจิฯ บลาๆๆ
ส่วนใหญ่แล้วการ์ตูนที่เอามาทำเป็นละครก็มักจะถูกเราอ่านเช่นกัน
*สำหรับคนชอบคาเมะ 55+ การ์ตูนเรื่องอิจิปอนโดะโนะฟุคุอินบ้านเราก็ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วนะ
เป็นลิขสิทธิ์ของสยามอินเตอร์คอมมิก แต่ถูกดองไว้ประมาณ6-7ปีแล้ว คนเขียนคนเดียวกะรันม่า-อินุยาฉะค่ะ

โชโจที่อ่านตอนนี้ที่อยากแนะนำ
โนดาเมะคันตาบิเร คนที่ไม่ชอบคนตรีคลาสสิก อ่านแล้วก็อินได้ เนื้อเรื่องเริ่ด แถมคนแปลยังแปลได้เยี่ยมสุดๆ อีก

นอกจากนี้ก็มีเรื่องอื่นๆ อย่างงานของ อ.โมรินากะ ไอ คนวาด ยามาดะทาโร่โมโนกาตาริ ที่บ้านเรารู้จักกันว่าเทพบุตรถังแตก
ก็ชอบอ่านนะ เพราะมุขตลกที่อาจารย์ใช้จะออกแนวแปลกๆ แบบว่าแอบวาย 55+ แต่รู้สึกเหมือนว่า อ. จะยังไม่เคยวาดวายจริงๆ เลย
แล้ว อ. อีกคนที่วาดสวยมาก เพราะวาดการ์ตูนวาย ก็ อ.มิเนะคุระ ของ อ.มิเนะ เราอ่านไซยูกิเรื่องเดียว
เพราะที่จริงแล้วเราไม่อ่านการ์ตูนวาย จะว่าไปไซยูกิมันก็วาย แต่ยังไม่ชัดแค่นั้นเอง แต่เหมือนว่าจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ฮา~
เรื่องอื่นๆ ของ อ. เกินลิมิตที่กำหนดไว้ เลยคิดว่าไม่อ่านดีกว่า 55+

โอ้วววว พิมพ์ยาวมาก ออกแนวเก็บกด คนไหนอ่านเรื่องอะไรอีก ลองมาคุยกันนะคะ
เพราะเหมือนว่าบอร์ดนี้จะมีคนอ่านการ์ตูนเยอะ แต่ดูไปดูมาก็เหมือนจะไม่มี 55+
เราเองหาคนคุยเรื่องการ์ตูนไม่ได้เลย ใครเคยอ่านเรื่องไหนเหมือนกันบาง มาแชร์ความรู้สึกกันน้า ^^
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 21, 2008, 10:59:58 AM


เด๋วครั้งหน้าขอมาวิเคราะงานเขียนที่ชอบอย่างละเอียดยิบเลยค่ะ
เพราะบอร์ดมันอืดสุดๆ




อ่ะค่ะ นานะ ว่าจะถามเหมือนกันว่า บอร์ดมันอืดใช่มั้ย บางครั้งพี่เข้าไม่ได้เลยอ่ะค่ะ โดยเฉพาะช่วงเช้า

รออยู่นะคะ เรื่องที่นานะจะวิเคราะห์งานเขียนที่ชอบอ่ะค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 21, 2008, 11:18:26 AM

สวัสดีครั้งแรกนะคะ น้อง amadaRi

เซียนมังกะเลยนะคะเนี่ย



นิยายนี้ส่วนใหญ่อ่านเพราะดูละครก่อนทั้งนั้นเลย



เป็นเหมือนกันค่ะ ที่พอดูละครแล้ว นึกอยากอ่านหนังสือขึ้นมา
แล้วก็ปรากฏว่า ละครไม่เหมือนหนังสือเลยก็มี คนละเรื่องเดียวกันไปเลย
หรือบางที ละครก็สนุกกว่าหนังสือ
หรือบางครั้ง หนังสือกลับสนุกกว่าละคร

สังเกตว่า หนังสือจะสนุกกว่าละครหรือเปล่า
ส่วนใหญ่มักจะขึ้นกับคนแต่ง

คนแต่งบางคนเขียนหนังสือไม่น่าอ่านเลย (สำหรับเรานะคะ)
คือหนังสือที่มีแต่ไดอะล็อก และไม่มีความคมคายทางภาษาเลย
อ่านแล้วไม่เกิดความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนกำลังนั่งอ่านเรื่องย่อก็ไม่ปาน

แล้วก็กลับกันนะคะ เคยอ่านหนังสือมาแล้ว แล้วก็ตามดูตอนเป็นละคร
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่เรามักจะรู้สึกผิดหวังอ่ะค่ะ

บางครั้งผิดหวังตั้งแต่ตัวดารานำที่เลือกมาเล่นเลย
พอตามดู ก็ผิดหวังอีก เพราะไม่เหมือนในหนังสือเลย

ถ้าเป็นนิยายรุ่นเก่ามากๆ การเขียนบทยังมักจะตีความใหม่อีก
นัยว่าเพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัย
แต่บางครั้ง เป็นการทำลายคุณค่าของหนังสือเล่มนั้นไปหมดเลย
ทำให้เดี๋ยวนี้ เริ่มไม่อยากดูละครที่เราเคยอ่านตอนเป็นหนังสือแล้วอ่ะค่ะ



แต่ไม่เคยอ่านของพนมเทียนเลยแฮะ เคยคิดจะอ่านมัสยา(คิดว่าพนมเทียนเขียนใช่ไหมคะ) แต่ก็ไม่มีโอกาส



ใช่ค่ะ มัสยา ของ "พนมเทียน" ค่ะ แต่เราไม่ค่อยชอบแฮะ คล้ายๆ กับเรื่อง "สกาวเดือน" เหมือนกัน ตอนจบคล้ายๆ กัน ชอบ "ละอองดาว" กับ "แวว มยุรา" มากกว่าค่ะ



อย่างของ ว.ฯ ก็รู้สึกว่าจะเคยอ่านนิกกับพิมเพราะเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา



เอ๊ะ! ว. ตรงนี้ คงไม่ใช่หมายถึง ว.วินิจฉัยกุล ใช่มั้ยคะ
เพราะคนแต่ง นิกกับพิม คือ ว. ณ ประมวลมารค หรือหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต
คนแต่งเรื่องปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี อ่ะค่ะ


ไว้มาคุยต่อนะคะ ยังอยากคุยต่ออีกค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ เมษายน 21, 2008, 09:55:34 PM
ตอนนี้อ่าน เอลเดสต์ (ภาคต่อของเอรากอน) อยู่ค่ะ เหอๆ ถือไปไหนก็มีแต่คนถาม "จะเอาไปปาหัวหมาหรอ" :-X

เล่มนี้หนุกดีนะคะ ใครชอบวรรณกรรมแปล ลองหาอ่านดู กันย์ว่าแนวจะคล้ายๆลอร์ดออฟเดอะริง แต่การใช้ภาษาอ่านง่ายมากกว่าเยอะ

อาร์ทิมิสก็ทำเป็นการ์ตูนด้วย ภาพน่ารักดีค่ะ ไว้จาไปหาซื้อมาเก็บดีกว่า ;D

ส่วนงานเขียนของคนไทยกันย์ก็อ่านนะคะ แต่ชอบอ่านพวกซีไรต์ เรื่องสั้นมากกว่า
ส่วนนิยายไทยเคยอ่านอยู่เรื่องนึง เรื่อง "ต่างเวลา" เป็นเรื่องที่พระเอกมาจากโลกอนาคตมาตามหา"เกร็ดขจี"เพื่อเอาไปสร้างโอโซนให้โลกอนาคต แล้วมาเจอนางเอกที่เป็นนักเขียนสารคดี แล้วพระเอกก็ถูกตามล่าจากคนอีกกลุ่มที่ต้องการเกล็ดขจีเหมือนกัน มีการต่อสู้โดยใช้พลังจิตด้วย มันส์มากๆ เมื่อก่อนที่ทำเป็นละครให้อู๋กะแพรเล่น ก่อนหน้านั้น2ปีกันย์เคยได้ข่าวว่า ดีด้าจะเอาเรื่องนี้มาทำเป็นละครฟอร์มยักษ์ โดยวางตัวนางเอกเป็นนุ่น กับ ริว(อาทิตย์ไว้) กันย์อ่ะโคตรชอบพี่ริวเลยอ่ะตอนนั้น ลุ้นมากๆ และก็ไปยืมห้องสมุดมาอ่าน หนุกมากๆเลย แต่ก็เงียบ สองปีต่อมาเพิ่งจะเห็นดีด้าสร้าง แต่กลับกลายเป็นละครเย็นแถมสองตอนจบไปซะได้ เซงจริงๆ และที่แย่สุดๆ สร้างได้ไม่ถึงครึ่งของหนังสือบรรยายไว้เลย เสียความรู้สึกหมดเลย อุตส่าห์ไปซื้อเก็บไว้ด้วย แถมนักแสดงก็ไม่โดน ทั้งมิริน ริยะ และก็ธาร เซงมากมาย แต่เรื่องในหนังสือหนุกมากค่ะ เป็นนิยายแนวไซไฟด้วย
ตอนนี้ถ้าใครจะเหมาะกับบทริยะคงจะต้องเป็นนิชคุณ ไม่ก็ พี่รุจTS4 เพราะริยะต้องสูงโปร่ง เวลายิ้มน่ารักดูเด็กๆ ส่วนคนอื่นนึกมะออกแฮะ ;D
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 22, 2008, 06:43:35 AM


เด๋วครั้งหน้าขอมาวิเคราะงานเขียนที่ชอบอย่างละเอียดยิบเลยค่ะ
เพราะบอร์ดมันอืดสุดๆ




อ่ะค่ะ นานะ ว่าจะถามเหมือนกันว่า บอร์ดมันอืดใช่มั้ย บางครั้งพี่เข้าไม่ได้เลยอ่ะค่ะ โดยเฉพาะช่วงเช้า

รออยู่นะคะ เรื่องที่นานะจะวิเคราะห์งานเขียนที่ชอบอ่ะค่ะ



ช่ายค่ะพี่ เหมือนช่วงเช้า server มันดาวอ่ะค่ะ บอร์ดเลยอืด เหอๆ

เอ่องั้นวิเคราะเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ รหัสลับดาวินชี ก่อนเลยดีไหมคะพี่ อิอิ  ;)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 22, 2008, 06:58:12 AM
 ;) น้องกันย์น่าจะนุ่นเดียวกับน้อง Amadari นะจ๊ะ เกิด 29 รึป่าวล่ะจ๊ะ พี่กับ นินดา เกิด 27 แบบว่าเก่แล้ว โฮะๆ
น้อง Amadari อ่านการ์ตูนเอยะจังมีความรู้ละเอียดมาก การ์ตูนที่พี่อ่าน ก็มีทั้งของผู้หญิงและของผู้ชายแหละจ้ะ
มีอยู่ช่วงนึง ติดการ์ตูนเรื่อง Life มาก ได้รับความนิยมมากนะเรื่องนี้ แหวกแนวดี
รันม่าพี่ก็ชอบ นะ แต่ไม่เคยอ่านอ่ะ ดูแต่การ์ตูน เทพบุตรถังแตกก็ชอบ พอดูหนังแล้วก็ หามาอ่านจ้า แบบว่าฮาดี ชอบมุขมาก
แล้วก เรื่อง คันนะ คนจะสวยช่วยไม่ได้ ที่ทำเป็นหนังนังเป็นละครนั่นแหละ ชอบมุกมากๆ)ได้ใจ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ เมษายน 22, 2008, 09:12:30 AM
;) น้องกันย์น่าจะนุ่นเดียวกับน้อง Amadari นะจ๊ะ เกิด 29 รึป่าวล่ะจ๊ะ พี่กับ นินดา เกิด 27 แบบว่าเก่แล้ว โฮะๆ
น้อง Amadari อ่านการ์ตูนเอยะจังมีความรู้ละเอียดมาก การ์ตูนที่พี่อ่าน ก็มีทั้งของผู้หญิงและของผู้ชายแหละจ้ะ
มีอยู่ช่วงนึง ติดการ์ตูนเรื่อง Life มาก ได้รับความนิยมมากนะเรื่องนี้ แหวกแนวดี
รันม่าพี่ก็ชอบ นะ แต่ไม่เคยอ่านอ่ะ ดูแต่การ์ตูน เทพบุตรถังแตกก็ชอบ พอดูหนังแล้วก็ หามาอ่านจ้า แบบว่าฮาดี ชอบมุขมาก
แล้วก เรื่อง คันนะ คนจะสวยช่วยไม่ได้ ที่ทำเป็นหนังนังเป็นละครนั่นแหละ ชอบมุกมากๆ)ได้ใจ

เกิดแค่ 27  ไม่แก่ไม่งั้นพี่กับพี่บอยล่ะ อายุเท่าไหร่ก็ชั่งมันเป็นแค่ตัวเลขเพราะอายุของหัวใจไม่เกิน 19 ก็เลยแอ๊บแบ๊วนิดนึง 555
ถ้า 27 เป็น ค.ศ. 84 น่าจะใช่นะโอ๊ยรุ่นนี้กำลังดังมากๆในเกาหลี ยูนอึนเฮ  ซองยูริ   คูซายอน   จุงริววอน   ก็รุ่นนี้ทั้งนั้น อย่าคิดมาก
พูดถึงการ์ตูนตอนอายุ 14-15 โคตรติด ไม่ว่าการ์ตูนออกแนวนิยายรักกุ๊กกิ๊ก หรือการ์ตูนแนวต่อสู้แบบดราก้อนบอลบ้าอ่านทุกแนวแล้วซักพักก็บ้าอ่านหนังสือแนวสารคดีท่องเที่ยวและก็ชอบอ่านหนังสือประเภทนิยายอิงประวัติศาสตร์หรือสารคดีประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่อียิปต์โบราณนู้นลงมาเลยและอัตตชีวประวัติบุคคลสำคัญทั้งไทยและเทศสรุปอ่านหลายแนวนะยกเว้นแนวการเมืองแบบอ่านแล้วเครียดเดี๋ยวพาลเกลียดรัฐบาลก็เลยไม่อ่าน
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 22, 2008, 11:54:43 AM

สวัสดีครั้งแรกนะคะ น้อง amadaRi

เซียนมังกะเลยนะคะเนี่ย


ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ^^

แล้วก็กลับกันนะคะ เคยอ่านหนังสือมาแล้ว แล้วก็ตามดูตอนเป็นละคร
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่เรามักจะรู้สึกผิดหวังอ่ะค่ะ

บางครั้งผิดหวังตั้งแต่ตัวดารานำที่เลือกมาเล่นเลย
พอตามดู ก็ผิดหวังอีก เพราะไม่เหมือนในหนังสือเลย

ถ้าเป็นนิยายรุ่นเก่ามากๆ การเขียนบทยังมักจะตีความใหม่อีก
นัยว่าเพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัย
แต่บางครั้ง เป็นการทำลายคุณค่าของหนังสือเล่มนั้นไปหมดเลย
ทำให้เดี๋ยวนี้ เริ่มไม่อยากดูละครที่เราเคยอ่านตอนเป็นหนังสือแล้วอ่ะค่ะ

เหมือนกันเลยค่ะ ล่าสุดที่รู้สึกแบบนี้ก็เรื่องดั่งดวงหฤทัย โอ้ววววววว
ถ้าคนที่ไม่เคยอ่านนิยายก็คงดูได้สนุก เพราะคนเขียนบทแต่งเนื้อเรื่องตามสูตรละครช่อง7
แต่หนูเนี้ยเสียอารมณ์ตั้งแต่การตีนิสัยตัวละครแล้ว
คนเขียนบทเค้าอาจจะอยากเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของตัวละครก็จริง
เพราะมันก็คงจะเข้ากับนักแสดงที่รับบทมากกว่า
แต่มันเสียดายบท ความรู้สึกก็เสียด้วย
ดูบางฉากแล้วเราก็คิดขึ้นในหัวเลยว่า ถ้าเป็นตัวละครตัวนั้นนะ ไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นหรอก

เอ๊ะ! ว. ตรงนี้ คงไม่ใช่หมายถึง ว.วินิจฉัยกุล ใช่มั้ยคะ
เพราะคนแต่ง นิกกับพิม คือ ว. ณ ประมวลมารค หรือหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต
คนแต่งเรื่องปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี อ่ะค่ะ

ถ้าผู้รู้บอกมาอย่างนี้ก็ตามนั้นล่ะค่ะ 55+
บอกตามตรงตอนแรกหนูก็ไม่รู้ว่าใครอ่ะค่ะ จำได้แต่ ว. ก็เลยบอกไปแค่ว่า ว.
เท่าที่จำได้ หนูคงไม่เคยอ่านของว.วินิจฉัยกุล
แต่ถ้าเป็นนามปากกาแก้วเก้า เคยผ่านตาเรื่อง แต่ปางก่อน ค่ะ อ่านเพราะดูละครอีกตามเคย
ขอโทษในความด้อยความรู้ของหนูด้วยนะคะพี่ ถ้าพี่galdewisไม่บอก หนูคงเข้าใจว่าท่านทั้งสองเป็นคนเดียวกันต่อไปแน่ๆ

ช่วงนี้เราไม่ได้อ่านหนังสือเลยค่ะ อ่านแต่การ์ตูนอย่างเดียว
เพราะถ้าอ่านหนังสือแล้วจะหยุดไม่ได้ ไม่เป็นอันทำมาหากินอย่างอื่น เลยต้องพักไว้ก่อน
ถ้าได้อ่านเล่มไหนจบแล้ว จะเข้ามาโพสต์แน่นอนค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ 55+
พี่ๆน้องๆ แต่ละคนสุดยอดทั้งนั้น ปกติรอบตัวเราไม่มีคนที่ชอบอ่านหนังสือ
ที่ตรงนี้มันก็เลยเหมือนที่ปลดปล่อยซะงั้น

เรายินดีคุยกับทุกคนเลยนะคะ ชอบคนละแนวก็คุยได้ ทั้งคนที่เคยคุยแล้วก็ยังไม่เคยคุยกัน ทักกันได้นะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 22, 2008, 12:56:26 PM
;) น้องกันย์น่าจะนุ่นเดียวกับน้อง Amadari นะจ๊ะ เกิด 29 รึป่าวล่ะจ๊ะ พี่กับ นินดา เกิด 27 แบบว่าเก่แล้ว โฮะๆ
น้อง Amadari อ่านการ์ตูนเอยะจังมีความรู้ละเอียดมาก การ์ตูนที่พี่อ่าน ก็มีทั้งของผู้หญิงและของผู้ชายแหละจ้ะ
มีอยู่ช่วงนึง ติดการ์ตูนเรื่อง Life มาก ได้รับความนิยมมากนะเรื่องนี้ แหวกแนวดี
รันม่าพี่ก็ชอบ นะ แต่ไม่เคยอ่านอ่ะ ดูแต่การ์ตูน เทพบุตรถังแตกก็ชอบ พอดูหนังแล้วก็ หามาอ่านจ้า แบบว่าฮาดี ชอบมุขมาก
แล้วก เรื่อง คันนะ คนจะสวยช่วยไม่ได้ ที่ทำเป็นหนังนังเป็นละครนั่นแหละ ชอบมุกมากๆ)ได้ใจ

อืมมม หนูเกิด.... ไม่บอกดีกว่า 55+
ถ้างั้นก็ขอเรียกแบบไม่มีพรีฟิกว่า กันย์ เฉยๆ นะคะ

โอ๊ย ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็รู้แต่อันที่หนูอ่านนั้นล่ะค่ะ
เห็นพี่นานะพูดถึงตั้งนานละ แต่Lifeมันยังไม่จบเลยค่ะพี่ หนูกะว่ารอให้เขียนจบก่อนแล้วค่อยหามาอ่านทีเดียว
ทำเป็นละครแล้วนะคะ ว่างๆ หามาดูนะพี่ แต่หนูยังไม่ได้ดูเลย กะว่าอ่านการ์ตูนก่อน ถ้าสนุกแล้วจะหามาดู
(แล้วเมื่อไหร่มันจะได้ดูล่ะเนี้ย 55+)
รันม่าเวอร์ชั่นอนิเมชันกับมังกะต่างกันเล็กน้อยค่ะ ถ้าถามหนูเวอร์ชันอนิเมชันดูง่าย เก็ทง่าย สนุกกว่าค่ะ
เทพบุตรถังแตก ที่จริงแล้วคนเขียนเค้าตั้งใจให้รุ่นพี่คนนั้นเป็นนางเอกแน่เลย หนูว่านะ 55+
พระเอกทุกเรื่องของคนวาดเรื่องนี้จะมีเสน่ห์ได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย แล้วเค้าก็แทบไม่เคยวาดตัวเอกเป็นผู้หญิงเลยด้วย ฮา~
เรื่องนี้มีละครเวอร์ชันญี่ปุ่นแล้วนะคะ คนที่แสดงเป็นยามาดะคือนิโนะ วงอะราชิ(น่าจะรู้จักกัน เคยมีละครมาออกที่ช่อง7ด้วย แสดงกับเคียวโกะค่ะ)
แล้วคนที่เป็นมิมุระคือโชคุง วงเดียวกัน บ้่านเราอาจไม่ค่อยรู้จักกัน
คนแคสต์นี้เก่งมากเลยค่ะ เพราะนิโนะแทบจะเอาตัวจริงมาแสดงเลย เป็นบุคคลที่ขี้งกมาก(ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รวยเน้อ 55+)
ละก้อออ มีนิสัยชอบสะสมเหรียญ100เยนอีกต่างหาก แต่ไม่ใช่เก็บธรรมดานะ ข่าวลือเค้าบอกว่าเก็บได้6หมื่นกว่าเยนแล้ว
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 22, 2008, 02:00:22 PM

เกิดแค่ 27  ไม่แก่ไม่งั้นพี่กับพี่บอยล่ะ อายุเท่าไหร่ก็ชั่งมันเป็นแค่ตัวเลขเพราะอายุของหัวใจไม่เกิน 19 ก็เลยแอ๊บแบ๊วนิดนึง 555
ถ้า 27 เป็น ค.ศ. 84 น่าจะใช่นะโอ๊ยรุ่นนี้กำลังดังมากๆในเกาหลี ยูนอึนเฮ  ซองยูริ   คูซายอน   จุงริววอน   ก็รุ่นนี้ทั้งนั้น อย่าคิดมาก
พูดถึงการ์ตูนตอนอายุ 14-15 โคตรติด ไม่ว่าการ์ตูนออกแนวนิยายรักกุ๊กกิ๊ก หรือการ์ตูนแนวต่อสู้แบบดราก้อนบอลบ้าอ่านทุกแนวแล้วซักพักก็บ้าอ่านหนังสือแนวสารคดีท่องเที่ยวและก็ชอบอ่านหนังสือประเภทนิยายอิงประวัติศาสตร์หรือสารคดีประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่อียิปต์โบราณนู้นลงมาเลยและอัตตชีวประวัติบุคคลสำคัญทั้งไทยและเทศสรุปอ่านหลายแนวนะยกเว้นแนวการเมืองแบบอ่านแล้วเครียดเดี๋ยวพาลเกลียดรัฐบาลก็เลยไม่อ่าน


55+ โอ๋ๆๆๆ เรื่องอายุ เดี๋ยวพวกหนูก็ตามทันแล้วค่ะพี่(แล้วพี่ๆ ก้อจะห่างไปอีก  :-X)

เท่าที่สังเกตมา ดาราจีนกับเกาหลีจะเป็นพวกอายุเยอะ เทียบกับดาราบ้านเราหรือญี่ปุ่นแล้วจะมีแต่เด็กๆ ยุคใหม่เนอะ

หนูเบื่อการเมืองเหมือนกันเนี้ย น้ำเน่ากว่าละครหลังข่าวอีกการเมืองบ้านเราอ่ะ
เมื่อก่อนชอบวรรณสิงห์เลยสนใจการเมือง เดี๋ยวนี้เลิก ใครจะเป็นนายกก็ไม่สนใจละ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 22, 2008, 02:03:16 PM
ขออีกโพสต์ 55+

ว่างๆ มาคุยกันเรื่องการ์ตูนนะคะกันย์ บอร์ดนี้มีแต่คนอ่านแนวสืบสวนอย่างโคนัน รึคินได ไม่ค่อยมีคนอ่านการืตูนแนวอื่นเลย  :-*
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ เมษายน 22, 2008, 09:27:04 PM
ขออีกโพสต์ 55+

ว่างๆ มาคุยกันเรื่องการ์ตูนนะคะกันย์ บอร์ดนี้มีแต่คนอ่านแนวสืบสวนอย่างโคนัน รึคินได ไม่ค่อยมีคนอ่านการืตูนแนวอื่นเลย  :-*
คุยเรื่องการ์ตูนไรอ่ะคะ? แล้วamadaRi อ่านการ์ตูนแนวไหนและชอบเรื่องไรเป็นพิเศษ?

กันย์ชอบอ่านการ์ตูนในBoomอ่ะค่ะ ไม่ก้อNeoZ เรื่องที่ชอบสุดๆก้อมี HunterXHunter ฮิคารุฯ The Prince of tennis อภัยมณีซาก้า ตุลาการทมิฬ โคนัน ฯลฯ เรื่องอื่นๆก้อมีนะแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกจ้า ;D

อ้อลืมบอกไป ว่ากันย์ชอบอ่านการ์ตูนสาวดอกไม้ฯของพี่โฟนด้วย เมื่อก่อนก็จะชอบไอ้ตัวเล็ก หนูหิ่น ขายหัวเราะ มหาสนุก แต่หลังๆมาอ่านแต่สาวดอกไม้(กันย์ซื้อ)กับหนูหิ่น(น้องซื้อ) ส่วนมหาสนุกนานๆทีซื้อ แต่เมื่อก่อนนี่ติดสุดๆเลยอ่ะ ชอบอ่านสาวดอกไม้ที่มีเรื่องเกี่ยวกะรามเกียรติ์ และก้อล่าสุดนี่เรื่องรามาวตาร อ่ะ ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 23, 2008, 12:17:07 AM
;) น้องกันย์น่าจะนุ่นเดียวกับน้อง Amadari นะจ๊ะ เกิด 29 รึป่าวล่ะจ๊ะ พี่กับ นินดา เกิด 27 แบบว่าเก่แล้ว โฮะๆ
น้อง Amadari อ่านการ์ตูนเอยะจังมีความรู้ละเอียดมาก การ์ตูนที่พี่อ่าน ก็มีทั้งของผู้หญิงและของผู้ชายแหละจ้ะ
มีอยู่ช่วงนึง ติดการ์ตูนเรื่อง Life มาก ได้รับความนิยมมากนะเรื่องนี้ แหวกแนวดี
รันม่าพี่ก็ชอบ นะ แต่ไม่เคยอ่านอ่ะ ดูแต่การ์ตูน เทพบุตรถังแตกก็ชอบ พอดูหนังแล้วก็ หามาอ่านจ้า แบบว่าฮาดี ชอบมุขมาก
แล้วก เรื่อง คันนะ คนจะสวยช่วยไม่ได้ ที่ทำเป็นหนังนังเป็นละครนั่นแหละ ชอบมุกมากๆ)ได้ใจ

อืมมม หนูเกิด.... ไม่บอกดีกว่า 55+
ถ้างั้นก็ขอเรียกแบบไม่มีพรีฟิกว่า กันย์ เฉยๆ นะคะ

โอ๊ย ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็รู้แต่อันที่หนูอ่านนั้นล่ะค่ะ
เห็นพี่นานะพูดถึงตั้งนานละ แต่Lifeมันยังไม่จบเลยค่ะพี่ หนูกะว่ารอให้เขียนจบก่อนแล้วค่อยหามาอ่านทีเดียว
ทำเป็นละครแล้วนะคะ ว่างๆ หามาดูนะพี่ แต่หนูยังไม่ได้ดูเลย กะว่าอ่านการ์ตูนก่อน ถ้าสนุกแล้วจะหามาดู
(แล้วเมื่อไหร่มันจะได้ดูล่ะเนี้ย 55+)
รันม่าเวอร์ชั่นอนิเมชันกับมังกะต่างกันเล็กน้อยค่ะ ถ้าถามหนูเวอร์ชันอนิเมชันดูง่าย เก็ทง่าย สนุกกว่าค่ะ
เทพบุตรถังแตก ที่จริงแล้วคนเขียนเค้าตั้งใจให้รุ่นพี่คนนั้นเป็นนางเอกแน่เลย หนูว่านะ 55+
พระเอกทุกเรื่องของคนวาดเรื่องนี้จะมีเสน่ห์ได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย แล้วเค้าก็แทบไม่เคยวาดตัวเอกเป็นผู้หญิงเลยด้วย ฮา~
เรื่องนี้มีละครเวอร์ชันญี่ปุ่นแล้วนะคะ คนที่แสดงเป็นยามาดะคือนิโนะ วงอะราชิ(น่าจะรู้จักกัน เคยมีละครมาออกที่ช่อง7ด้วย แสดงกับเคียวโกะค่ะ)
แล้วคนที่เป็นมิมุระคือโชคุง วงเดียวกัน บ้่านเราอาจไม่ค่อยรู้จักกัน
คนแคสต์นี้เก่งมากเลยค่ะ เพราะนิโนะแทบจะเอาตัวจริงมาแสดงเลย เป็นบุคคลที่ขี้งกมาก(ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รวยเน้อ 55+)
ละก้อออ มีนิสัยชอบสะสมเหรียญ100เยนอีกต่างหาก แต่ไม่ใช่เก็บธรรมดานะ ข่าวลือเค้าบอกว่าเก็บได้6หมื่นกว่าเยนแล้ว

Life เอามาทำเป็นละครแล้วเหรอ ตายจริง ก็ เนื่องจากมันยังไม่จบ พี่ก็รออยุ่เนี่ย รอนานมากแล้วเนี่ยไม่น่าหลวมตัวไปอ่านจนติดเลย
ถ้ารอให้จบก่อนเหมือน peach girl ค่อยอ่านคงจะดีกว่านี้อ่ะ แต่มันอ่านไปแล้วอ่ะ เหมือน Deathnote อ่ะ ติดมากจน แทบบ้า
เรื่อง GTO ครูพันธุ์หายาก ก็เหมือนกานอ่ะ ในการตูน ทีวี ทำตอนจบไม่สนุกเลยอ่ะ ในการ์ตูน จริงๆสนุกกว่าตั้งเยอะ แถม ตอนจบคนละแนวกันเลยอ่ะ
น้องกันย์ก็ฃอ่านขายหัวเราะเหรอจ๊ะ พี่ก็อ่านนะ ตอนเด็ก อ่านหมดอ่ะ ตั้งแต่ ป1 ละ เป็นจุดเริ่มต้นในการอ่านหนังสือเลย
ติด ปังปอนด์ มาก เคยเขียนจดหมายไปหา พี่ต่าย ภักดี ด้วย กับ พี่เอ๊าะ ผดุง นักเขียนในดวงใจ แต่อ่านเล่ม แรก จริงๆก็เรียกข้าว่า พญายมของ พี่นิค
พี่มีหนู หิ่น เล่ม1 ที่รวมเล่มครั้งแรกด้วยล่ะ ซื้อตอน ป.5 แต่ตอนนี้หายไปแล้วอ่ะ แต่ตอนนี้ที่อ่านหลักๆ ก็ มีขายหัวเราะ ส่วนใหญ่จะอ่านเรื่องสั้นในขายหัวเราะ แล้ว หนูหิ่น
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 23, 2008, 10:52:45 AM
8) อ่อ ลืมไปว่าพี่ชอบ การ์ตูนเรื่อง รันม่า มากถึงมากที่สุด ตอนเด็กนะติดมาก ยังจำเพลงได้เลย Ya pa pa e cham ming  :-X  ประมาณเนี้ย ร้องแบบมั่ว 55555 แต่จำทำนองได้ ขึ้นใจเลยอ่ะ เป็นการ์ตูนที่ฮา และแปลกดีอ่ะ
ตัวละครที่ชอบมากกกกกกกกกกกกกกก็มีอยู่ 4 ตัว

 ซาโอโตเมะ รันม่า
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/8.jpg)
พอโดนน้ำเย็นกลายเป็นผู้หญิง
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/2-1.jpg)
เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี ที่มีฝีมือด้านกังฟู หน้าตาหล่อเหลาเอาการ มีสาว ๆ รุมตามตื้อเป็นทิวแถว ตอนไปฝึกวิชาที่เมือง
 จีน ได้ตกลงในบ่อน้ำอาถรรพ์ ทำให้กลายเป็นผู้หญิงได้เมื่อโดนน้ำเย็น และกลับเป็นผู้ชายเมื่อโดนน้ำร้อน นิสัยร่าเริง 
แต่บางทีก็ปากเสีย มีคู่หมั้นที่พ่อหามาให้คือ เทนโด อากาเนะ ตอนแรกรันม่าไม่ยอมรับคู่หมั้นแต่หลัง ๆ ก็มีใจให้อากาเนะ แต่รันม่าก็ชอบแหย่ให้ต้องทะเลาะกันอยู่เสมอ ๆ
 
เทนโด อากาเนะ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/4.jpg)

เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านเทนโด อายุ 16 ปี ชอบยูโด คาราเต้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ค่อยเก่งในเรื่องงานบ้านงานเรือน
ถูกพ่อจับให้เป็นคู่หมั้นรันม่าโดยไม่เต็มใจนัก ตอนแรกไว้ผมยาวแต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องตัดผมสั้น จริง ๆ แล้วเป็นคน
น่ารักและใจดี ใครดีกับเธอก็จะดีด้วยแต่ถ้าใครร้ายก็จะร้ายตอบ โดยเฉพาะกับรันม่าที่ชอบพูดจาแขวะทำให้โกรธอยู่ 
เสมอ ๆ แต่ใจจริงก็รักรันม่ามาตั้งนานแล้ว 

แต่เราชอบอากาเนะ ตอนผมยาวมากกว่าอ่ะ ;D


คูโน่ ทาเทวากิ (http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/untitled.jpg)

อายุ 17 ปี เป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องดาบ และหลงตัวเองเป็นที่สุด เกลียดรันม่าชาย เพราะถือว่ารันม่าชายแย่งอากาเนะไป
แต่ไม่รู้ว่ารันม่าหญิงเป็นคนเดียวกับรันม่าชาย ชอบทั้งรันม่าหญิงและอากาเนะ เรียนอยู่ชั้นและห้องเดียวกับนาบิคิ


ฮิบิกิ เรียวกะ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/1-1.jpg)
พอโดนน้ำเย็นแล้ว กลายเป็นหมูดำน่ารัก อิอิ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/9.jpg)
เป็นคู่แข่งตลอดกาลของรันม่า ทั้งเรื่องการต่อสู้และความรัก เคยเรียนโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกับรันม่า และรันม่าทำให้
เรียวกะตกลงไปในบ่ออาถรรพ์ ทำให้กลายเป็นหมูดำ pจัง สัตว์เลี้ยงของอากาเนะไปโดยบังเอิญ และเรียวกะก็ดันหลงรัก
อากาเนะอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลย ทำให้รันม่าไม่พอใจและคอยขัดขวาง เป็นคนหลงทิศหลงทางอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 23, 2008, 02:29:38 PM

บอร์ดนี้มีแต่คนอ่านแนวสืบสวนอย่างโคนัน รึคินได ไม่ค่อยมีคนอ่านการืตูนแนวอื่นเลย  :-*




มีค่า...การ์ตูนแนวอื่น โดเรมอน กะ ชินจัง  :-* 

รีบตอบและรีบซ่อนหน้าโดยด่วน แว้บ!   :P



หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 23, 2008, 05:02:13 PM
คุยเรื่องการ์ตูนไรอ่ะคะ? แล้วamadaRi อ่านการ์ตูนแนวไหนและชอบเรื่องไรเป็นพิเศษ?

กันย์ชอบอ่านการ์ตูนในBoomอ่ะค่ะ ไม่ก้อNeoZ เรื่องที่ชอบสุดๆก้อมี HunterXHunter ฮิคารุฯ The Prince of tennis อภัยมณีซาก้า ตุลาการทมิฬ โคนัน ฯลฯ เรื่องอื่นๆก้อมีนะแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกจ้า ;D

อ้อลืมบอกไป ว่ากันย์ชอบอ่านการ์ตูนสาวดอกไม้ฯของพี่โฟนด้วย เมื่อก่อนก็จะชอบไอ้ตัวเล็ก หนูหิ่น ขายหัวเราะ มหาสนุก แต่หลังๆมาอ่านแต่สาวดอกไม้(กันย์ซื้อ)กับหนูหิ่น(น้องซื้อ) ส่วนมหาสนุกนานๆทีซื้อ แต่เมื่อก่อนนี่ติดสุดๆเลยอ่ะ ชอบอ่านสาวดอกไม้ที่มีเรื่องเกี่ยวกะรามเกียรติ์ และก้อล่าสุดนี่เรื่องรามาวตาร อ่ะ ชอบมากๆ

อ่านเกือบทุกแนวค่ะ ที่ชอบที่สุดตอนนี้เป็นอภัยซาก้านะ กำลังสนุก เข้าใกล้จุดพีคของภาคแล้วมั้ง มีอุศเรนออกมาแล้ว ไม่นานพระอภัยกับศรีสุวรรณคงได้เจอกัน
แต่ไม่รู้ว่าคุณพี่คนเขียนเค้าจะเปลี่ยนเนื้อหาจากเรื่องต้นฉบับเยอะรึเปล่า
คือตามเรื่องจริงๆ อุศเรนเป็นคู่หมั้นสุวรรณมาลี แล้วก็เป็นพี่ของละเวง แล้วยังเป็นคนช่วยพระอภัยออกมาจากเกาะอีก แต่สุดท้ายก็ตายเพราะสู้กับพวกของพระอภัย
งงๆ มันอาจจะแปลกไปหน่อย เพราะเหมือนว่าอุศเรนจะเป็นฝ่ายไหนสักฝ่ายเนี้ยแหละ แต่กะลังจะมาสู้กับพวกสามพี่น้องคาลิสโตใช่มะ
ไม่น่าจะเกี่ยวกับสุวรรณมาลีได้ แต่เราอ่านไม่ละเอียด งงๆ เหมือนกัน กันย์คิดว่าไงอ่ะ

ฮิคารุ เป็นการ์ตูนที่ทำให้เราอ่านเดธโน๊ท ไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ชอบภาพวาดของอ.โอบาตะ
ดูจริง แล้วก็เรีบยๆ สะอาดดี กันย์ชอบตัวละครไหนเป็นพิเศษป่ะ ให้ทายนะ ซาอิ ใช่ไหม ไม่ถูกเหรอ? 55+
เราชอบฮิคารุเปนอันดับ1 ที่2คือคุณอิสึมิ อันดับ3วายะ มีแต่เด็กอินเซย์ เพราะทั้งเรื่องก็มีแต่อิเซย์

คิดไหมว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนในบูมอ่านสนุกเพราะสำนวนแปล

ตอนนี้เรื่องอื่นที่อ่านอยู่ก็มี คิว.อี.ดี, บลีช, ปรินส์ออฟเทนนิส มีอีกแต่มันไม่ค่อยดังน่ะ แล้วก็เหมือนจะโดนดองด้วย
ละก้อลองอ่านโนดาเมะ หรือชื่อภาษาไทย วุ่นรักนักดนตรี มั้ง ดูสิ สนุกนะ คนอ่านโชเนน ก็อ่านแล้วฮาได้อย่างเนียนๆ
แล้วช่องเจ็ดซื้อลิขสิทธิ์ละครมาแล้วด้วย พระเอกอย่างเทห์

การ์ตูนบรรลือสาส์นนี้ช่วงก่อนหน้านี้อ่านหนูหิ่นฯค่ะ ซื้อทุกเล่มเลย แต่ตอนนี้ถึงจุดอิ่มตัว 55+ ถ้ามีให้อ่านก็อ่านสนุกๆ ได้ เพลินดี
แต่มันเป็นการ์ตูนแบบเนฟเวอร์เอนดิ้งสตอรี่ แล้วพลอตในบางตอนก็คล้ายๆ กันจนเกินไปน่ะค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าพี่เค้าเก่ง แฟนคลับเยอะมากจริงๆ

Life เอามาทำเป็นละครแล้วเหรอ ตายจริง ก็ เนื่องจากมันยังไม่จบ พี่ก็รออยุ่เนี่ย รอนานมากแล้วเนี่ยไม่น่าหลวมตัวไปอ่านจนติดเลย
ถ้ารอให้จบก่อนเหมือน peach girl ค่อยอ่านคงจะดีกว่านี้อ่ะ แต่มันอ่านไปแล้วอ่ะ เหมือน Deathnote อ่ะ ติดมากจน แทบบ้า
เรื่อง GTO ครูพันธุ์หายาก ก็เหมือนกานอ่ะ ในการตูน ทีวี ทำตอนจบไม่สนุกเลยอ่ะ ในการ์ตูน จริงๆสนุกกว่าตั้งเยอะ แถม ตอนจบคนละแนวกันเลยอ่ะ

55+ การ์ตูนผู้หญิงนี้วาดกันนานกว่าการ์ตูนผู้ชาย เพราะนิตยสารโชเนนเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ซะส่วนมาก ส่วนโชโจก็จะเป็นรายเดือนเกือบทั้งหมดค่ะ
แต่จำนวนหน้าก็มากกว่า สังเกตว่าการ์ตูนผู้หญิงเล่มนึงมันจะมี 2-3 ตอนเองยังมีเลย
พูดถึงพีชเกิร์ลนี้เสียรมณ์ หนูเชียร์ไทจิอ่ะ แต่ก็พอจะเดาเรื่องได้ว่าพระเอกมันต้องเป็นนายคนนั้นมากกว่า ก้อเลยไม่อ่านมันซะเลย ขอคิดไปเองดีกว่า

รันม่านี้หนูอ่านเอาฮา ไม่มีตัวละครที่ชอบเป็นพิเศษ แต่อุเคียวก็น่ารักดีนะหนูว่า


มีค่า...การ์ตูนแนวอื่น โดเรมอน กะ ชินจัง  :-* 

รีบตอบและรีบซ่อนหน้าโดยด่วน แว้บ!   :P


โดเรมอน กะ ชินจัง นี้หนูก็อ่านอ่ะ แต่ไม่ได้อ่านทุกเล่มน่ะค่ะ
เป็นการ์ตูนที่อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ต้องต่อกันก้อได้ ก็เลยไม่รู้ว่าอ่านเล่มไหนไปบ้างแล้ว  ???
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pakwarn ที่ เมษายน 23, 2008, 06:23:04 PM
หวานก็เคยดูเหมือนกันนะคะพี่นานะจัง เรื่องรันม่าอ่ะ

แต่ว่าตอนเด็กมากๆๆๆอ่ะคะ ก็เลยจำไม่ได้ว่าเรื่องเป็นยังไง

รู้แต่ว่าถ้าโดนน้ำเย็นจะกลายเป็นผู้หญิงอ่ะคะ เหอะๆ :-[
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ เมษายน 23, 2008, 07:03:39 PM

อ่านเกือบทุกแนวค่ะ ที่ชอบที่สุดตอนนี้เป็นอภัยซาก้านะ กำลังสนุก เข้าใกล้จุดพีคของภาคแล้วมั้ง มีอุศเรนออกมาแล้ว ไม่นานพระอภัยกับศรีสุวรรณคงได้เจอกัน
แต่ไม่รู้ว่าคุณพี่คนเขียนเค้าจะเปลี่ยนเนื้อหาจากเรื่องต้นฉบับเยอะรึเปล่า
คือตามเรื่องจริงๆ อุศเรนเป็นคู่หมั้นสุวรรณมาลี แล้วก็เป็นพี่ของละเวง แล้วยังเป็นคนช่วยพระอภัยออกมาจากเกาะอีก แต่สุดท้ายก็ตายเพราะสู้กับพวกของพระอภัย
งงๆ มันอาจจะแปลกไปหน่อย เพราะเหมือนว่าอุศเรนจะเป็นฝ่ายไหนสักฝ่ายเนี้ยแหละ แต่กะลังจะมาสู้กับพวกสามพี่น้องคาลิสโตใช่มะ
ไม่น่าจะเกี่ยวกับสุวรรณมาลีได้ แต่เราอ่านไม่ละเอียด งงๆ เหมือนกัน กันย์คิดว่าไงอ่ะ

ฮิคารุ เป็นการ์ตูนที่ทำให้เราอ่านเดธโน๊ท ไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ชอบภาพวาดของอ.โอบาตะ
ดูจริง แล้วก็เรีบยๆ สะอาดดี กันย์ชอบตัวละครไหนเป็นพิเศษป่ะ ให้ทายนะ ซาอิ ใช่ไหม ไม่ถูกเหรอ? 55+
เราชอบฮิคารุเปนอันดับ1 ที่2คือคุณอิสึมิ อันดับ3วายะ มีแต่เด็กอินเซย์ เพราะทั้งเรื่องก็มีแต่อิเซย์

คิดไหมว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนในบูมอ่านสนุกเพราะสำนวนแปล

ตอนนี้เรื่องอื่นที่อ่านอยู่ก็มี คิว.อี.ดี, บลีช, ปรินส์ออฟเทนนิส มีอีกแต่มันไม่ค่อยดังน่ะ แล้วก็เหมือนจะโดนดองด้วย
ละก้อลองอ่านโนดาเมะ หรือชื่อภาษาไทย วุ่นรักนักดนตรี มั้ง ดูสิ สนุกนะ คนอ่านโชเนน ก็อ่านแล้วฮาได้อย่างเนียนๆ
แล้วช่องเจ็ดซื้อลิขสิทธิ์ละครมาแล้วด้วย พระเอกอย่างเทห์

การ์ตูนบรรลือสาส์นนี้ช่วงก่อนหน้านี้อ่านหนูหิ่นฯค่ะ ซื้อทุกเล่มเลย แต่ตอนนี้ถึงจุดอิ่มตัว 55+ ถ้ามีให้อ่านก็อ่านสนุกๆ ได้ เพลินดี
แต่มันเป็นการ์ตูนแบบเนฟเวอร์เอนดิ้งสตอรี่ แล้วพลอตในบางตอนก็คล้ายๆ กันจนเกินไปน่ะค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าพี่เค้าเก่ง แฟนคลับเยอะมากจริงๆ

เราก้องงๆอยู่เหมือนกันอ่ะ เรื่องอภัยมณีซาก้าเนี่ย แต่ชอบนะ มันส์ดี ชอบลุ้นสินสมุทรให้ชนะอ่ะ แต่ก้อชอบกัปตันเหยี่ยวทะเลนะ เท่ห์ดี แล้วก็รอลุ้นอยู่ว่าสุดสาครจะหน้าตาเปงไงน๊า แอบผิดหวังกับอรุณรัศมีอ่ะ แต่โตขึ้นอาจจะสวยก้อได้

ช่ายๆๆเราลืมบอกเรื่องเดธโน้ตสนิทเรยย55+ เราก้ออ่านเดธโน้ตเพราะชอบลายเส้นคนวาดฮิคารุเนี่ยแหละ และที่ชอบฮิคารุเพราะโดนใจลายเส้นอ่ะ ภาพสวยเนื้อหาก็เจ๋งดี และเรื่องนี้ก็เป็นต้นตอให้เรามารู้จักกับBoom ด้วย เพราะก่อนหน้านั้นนอกจากโคนันกะดอกเตอร์เค เราก็อ่านแนวพวกขายหัวเราะ มหาสนุก สาวดอกไม้ฯ หนูหิ่น ฯลฯของเครือบรรลือสารอ่ะ เคยเขียนจม.ไปหาพี่ต่ายครั้งนึงด้วย ได้รูปน้องปังปอนด์กะนินจามา น่าร๊ากน่าชัง แต่ตอนนี้จำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหนละเนี่ย?

มาต่อเรื่องฮิคารุนะ ที่จิงเราก้อชอบตัวละครแทบทุกตัวเลยอ่ะแหละ แต่ที่ชอบสุดๆก้อมี 1.ฮิคารุ 2.วายะ 3.อากิระ 4.ซาอิ 5.อิสึมิ  (ว่ามั้ยว่าคุณอิสึมิแอบเหมือนไล้ท์มากมาย  ส่วนแอลก้อทรงผมคล้ายๆวายะนะ เนียร์ทรงผมคล้ายๆ...นึกชื่อมะออกติดอยู่ที่ปาก เป็นคนที่รุ่นเดียวกะฮิคารุแล้วเล่นหมากล้อมทีมโรงเรียนอ่ะ แต่พอฮิคารุไปเป็นอินเซย์ก้อเลิกเล่นและโกรธฮิคารุอ่ะ)

ช่ายBoomแปลสนุกดี พอมาดูการ์ตูนในทีวีนะ เสียรมณ์หมดเรยย โดยเฉพาะฮิคารุอ่ะ เราแทบรับไม่ได้เลย อะไรจะแปลได้เรียบร้อยปานน๊านน มันขัดหูบอกไม่ถูกแฮะ เซง+หงุดหงิดๆ


บอร์ดนี้มีแต่คนอ่านแนวสืบสวนอย่างโคนัน รึคินได ไม่ค่อยมีคนอ่านการืตูนแนวอื่นเลย  :-*




มีค่า...การ์ตูนแนวอื่น โดเรมอน กะ ชินจัง  :-* 

รีบตอบและรีบซ่อนหน้าโดยด่วน แว้บ!   :P


กันย์ก้ออ่นนะโดเรมอน กะชินจังอ่ะ น้องกันย์ยิ่งบ้าใหญ่ เก็บสะสมหนังสือไม่พอยังสะสมพวกวีซีดีชินจังเพียบเรยย แถมอ่านเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วม้าง(ยังขำได้อีกแน่ะ) แต่ตอนนี้รู้สึกน้องกะลังติดเดธโน้ตอยู่ เหอๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 23, 2008, 09:06:00 PM
อุตส่าห์รีบตอบรีบไปอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะไม่มีใครทันเห็น แต่น้อง amadaRi กับน้องกันย์ ยังเห็นซะอีกแน่ะ อายจัง!

จิงๆ แล้วอ่านการ์ตูนไม่เป็นอ่ะค่ะ ไม่ชอบที่ต้องพลิกหน้าบ่อย เมื่อยมือเมื่อยแขนอ่ะ เพราะชอบนอนอ่าน แต่เห็นคุยเรื่องการ์ตูนกันอยู่ เลยอยากมีส่วนร่วมมั่ง แต่อายอ่ะค่ะ ต่อหน้าเซียนมังกะทั้งนั้นเลยนะเนี่ย

การ์ตูนเรื่องล่าสุดที่อ่านคือ Death Note แถมอ่านไม่จบ เพราะตอนหลังมันไม่สนุกอ่ะค่ะ ชอบแค่ 2 เล่มแรก

ถ้าจะอ่านการ์ตูนจะเลือกอ่านการ์ตูนเด็กๆ อย่างโดเรมอน อิ๊คคิวก็เคยชอบ แต่เบื่อละ หรือไม่ก็ทะลึ่งๆ กวนๆ เสียดสีๆ (เข้ากับนิสัยตัวเอง) อย่างเช่น ไข่กวน ชินจัง แล้วก็ชอบอ่านซ้ำๆ อยู่นั่น อย่างโดเรมอนกับชินจังนี่อ่านแล้วอ่านอีก เหมือนน้องน้องกันย์อ่ะค่ะ โดเรมอนหลายตอนมันซึ้งมาก เลยชอบอ่าน มีอยู่ตอนนึงเหมือนเรื่อง "แฟนฉัน" เลย แต่ก็ไม่ได้อ่านนานและ ชักลืมๆ ไปหมดแล้ว ส่วนชินจังนี่ชอบมากๆ เนื้อเรื่องมันเสียดสีสังคมครอบครัวญี่ปุ่นแบบถึงกึ๋นผ่านการ์ตูนเด็กอ่ะ ทำได้ไงอ่ะ ทึ่งจิงๆ คนแต่งนี่ แล้วพอมาแต่งไข่กวน ก็เลยตามอ่าน เสียดสีได้เจ็บอีกเหมือนกัน ยังโดนแบนอยู่รึปล่าว

แล้วก็ชอบการ์ตูนดิสนีย์ด้วย แต่ชอบแบบเป็นขาวดำ เคยเห็นในร้านหนังสือเก่า เป็นเล่มเล็กๆ นิดเดียว น่ารักดีอ่ะ รู้สึกมันเป็นการ์ตูนที่คลาสสิกมาก

ความจริงก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องของการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเล่มที่เผอิญได้อ่าน น่าสนใจไม่แพ้หนังสือนิยายที่เราชอบอ่านมากกว่า แต่ทำไมไม่ติดก็ไม่รู้ เห็นพูดกันถึงเรื่องเทพบุตรถังแตกนี่ ใช่เรื่องเดียวกับที่เคยฉายช่อง 3 ที่เป็นหนังไต้หวันที่ให้ 2 ใน 4 F4 เล่นหรือเปล่าคะ แล้วก็นึกได้ว่า เมื่อก่อนตอนดูรักใสๆ หัวใจ 4 ดวงจบ ก็ไปหาเรื่องสาวแกร่งแรงเกินร้อยมาอ่านอยู่เหมือนกัน ก็รู้สึกว่าแต่งเนื้อเรื่องได้ดี ไม่แพ้พล็อตนิยายอ่ะ แต่อ่านแล้วก็ไม่ติดอีก ไม่รู้ทำไม

ส่วนการ์ตูนผู้ชาย ยิ่งอ่านไม่เป็นเข้าไปใหญ่เลยค่ะ

แต่พูดถึง GTO (เคยดูแต่ที่เป็นหนัง ไม่เคยอ่าน) เรารู้สึกว่า ถ้าเป็นเรื่องครูนักเรียนของญี่ปุ่นนี่ น่าอ่านหรือว่าน่าดูแทบทั้งนั้นเลย พูดถึงแล้วก็นึกถึงหนังสือครูนักเรียนที่สุดยอดอีกเล่มของญี่ปุ่น ก็คือโต๊ะโตะจัง เป็นหนังสือที่โดนด้วยเหมือนกัน (ดึงมาเข้าประเด็นกระทู้จนได้) เรื่องลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครูก็ดีนะ (นอกประเด็นไปหนังอีกละ ขอโทดเจ้าของกระทู้ด้วย)

แต่ถ้าเป็นหนังการ์ตูน จะดูได้มากกว่าอ่านอ่ะค่ะ เพราะมันไม่เมื่อยมือ แต่ก็ไม่ค่อยดูการ์ตูนญี่ปุ่น (ยกเว้นชินจังกับโดเรมอน ถ้าเปิดเจอก็ต้องหยุดดูทุกที) ชอบการ์ตูนไทยมากกว่า เดี๋ยวนี้ตอนเย็นๆ มีการ์ตูนไทยๆ ให้ดูหลายเรื่องเลย แต่ก็ไม่ติดหรอกนะคะ ไม่ค่อยว่างดูด้วย แต่ถ้าว่างดูเปิดมาเจอ ก็จะต้องดูจนจบทุกที เพราะมันจะสั้นๆ อย่างเรื่องพิกุลทองช่อง 3 รามเกียรติ์ช่อง 7 ลิงยักษ์ลิงลิงยักษ์ ลิงยักษ์ลิงลิงยักษ์ (สงสารคนร้อง ออกเสียงยากน่าดู)

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 24, 2008, 10:06:14 AM
 :) โอววววววววเยอะมาก อ่านจนตาลายเลยง่ะ
ยังไง Peach girl พี่ก็เชียร์ ไคริอยู่แล้วววววววววววววววววววว ไม่ชอบไทจิ อ่ะ ชอบ ลังเล แบบพระเอกญี่ปุ่นอ่ะ
ตอนแรก นึกว่าไทจิเป็นพระเอกด้วยซ้ำ เพราะบุคลิกของ ไคริ จะเหมือน พระรอง มากกว่า
ส่วน Life ที่พี่ชอบ พี่เนื้อหา มันแรง และหวกแนวดีอ่ะ อ่านแล้วก็ได้น้ำตา กับความสะใจ
ส่วน โดเรมอน กับ ชินจัง ก็เคยทั้งดูและอ่านการ์ตูนค่ะ
GTO เอามาสร้าง ทั้งการ์ตูนทีวี หนัง ซีรีย์
แต่ในละคร เทียบเท่าไม่ได้เลยกับ ในการ์ตูนค่ะ

เรื่อง ยามาดะทาโร่ คุณชายยาจก ก็คือ เรื่องเดียว กับ เทพบุตรถังแตกที่ Vic f4 เล่นนั่นแหละค่ะ
ที่ไตหวันทำ เนื้อหาและ บทแทบจะ เอามาจากในการ์ตูนเด๊ะๆเลยค่ะ แต่นางเอกที่คู่กับ เพื่อนพระเอก ไม่ใช่น้อง 4 แต่เป็นน้อง 5ค่ะ

ส่วนการ์ตูนของไทยที่ฉายทางทีวีไม่เคยดูเลยอ่ะ ไม่ค่อยชอบภาพ ทำไม่สวยอ่ะ

ส่วน Death note ที่อ่าน ไม่เกี่ยวกับลายเส้น ชอบเพราะเนื้อหาล้วนๆ แต่ก็มีบางเล่มที่ ไม่สนุกแต่ก็ทนอ่านจนจบอ่ะ
ชอบ ตอนที่ ไลท์ ทน มิสะไม่ไหว แล้วพูด "เกิดมา เพิ่งเคยอยากตบผู้หญิงเป็นครั้งแรก " ฮาดีค่ะ
ส่วนในหนังก็ทำได้ดีมากๆ

แต่การ์ตูนไทย อย่างขายหัวเราะ ปังปอนด์ หนูหิ่น นี่ก็ยังอ่านอยู่นะคะ เป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ดี โดยเฉพาะหนูหิ่น นี่ยทอดวิถี ชีวิตของคนอีสานได้ดี แถมฮาด้วย ส่วน ปังปอนดฺก็จะออกคล้ายๆชินจังนิดนึง แต่ชอบ วิธิการเขียนแซวของพี่ตาย ดูเป็นคนที่มีความคิดมากๆ แซวบางช็อตเราอ่านแล้วยังสะอึกเลยอ่ะ โหว่าคิดได้ไงเนี่ยพี่
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 24, 2008, 02:45:17 PM
:)

เรื่อง ยามาดะทาโร่ คุณชายยาจก ก็คือ เรื่องเดียว กับ เทพบุตรถังแตกที่ Vic f4 เล่นนั่นแหละค่ะ
ที่ไตหวันทำ เนื้อหาและ บทแทบจะ เอามาจากในการ์ตูนเด๊ะๆเลยค่ะ




ขอบคุณที่ตอบให้ทราบนะคะ  :-* ชอบเรื่องนี้ เอาเนื้อเรื่องที่ถ้าเป็นละครสมัยก่อน จะต้องเป็นหนังชีวิตยืดยาวชนิดที่แฟนคลับแม่บ้านเกาะขอบจอ มาทำเป็นเรื่องตลกได้ ทั้งๆ ที่ชีวิตพระเอกกับครอบครัวแสนจะรันทด มีพ่อก็ไม่เอาไหน ทิ้งลูกทิ้งครอบครัว มีแม่ก็ไม่รับผิดชอบ นับถือกับอารมณ์ขันของคนแต่ง มองโลกในแง่ดีจริงๆ เป็นแนวการแต่งที่เราว่าเจ๋งยิ่งกว่าทำแบบเสียดสีเสียอีก


:)

ส่วนการ์ตูนของไทยที่ฉายทางทีวีไม่เคยดูเลยอ่ะ ไม่ค่อยชอบภาพ ทำไม่สวยอ่ะ



แต่เราชอบอ่ะค่ะ ชอบการ์ตูนเชยๆ แบบนี้แหละ  ;D ตัวการ์ตูนรูปร่างหน้าตาเป็นเหลี่ยมๆ แท่งๆ ทรงเรขาคณิตมาเลย เจ้าหญิงพิกุลทองคางเหลี่ยมเชียว เหมือนเด็กๆ วาดอ่ะ ดูขำๆ ดี แต่ดูอีกทีก็น่ารัก ซื่อๆ ไม่ปรุงแต่งดีอ่ะค่ะ


:)

ชอบ วิธิการเขียนแซวของพี่ตาย ดูเป็นคนที่มีความคิดมากๆ แซวบางช็อตเราอ่านแล้วยังสะอึกเลยอ่ะ โหว่าคิดได้ไงเนี่ยพี่




ชอบต่ายเหมือนกัน คมมากขนาดเลือดซิบๆ แสบสันต์อีกตังหาก


ปล. นานะทราบข่าว "ปู่โสมฯ" ได้ 2 รางวัลจาก Star Entertainment Award 2007 แล้วใช่มั้ยคะ
ปล. 2 ไปเจอกระทู้นี้มา ไม่ทราบเคยอ่านกันรึยัง อย่างฮาเลยค่ะ

http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/11/L6003070/L6003070.html
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 25, 2008, 11:19:09 AM
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ยามาดะ ทาโร่ เขียนฮาได้ใจจริงๆ ถ้าเป็นละครไทย คงเขียนแบบชีวิตรันทด ชาตินี้ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอะไรประมาณนั้น
เรื่องการ์ตูนไทยที่ ทำฉายทางทีวี เรื่องภาพไม่สวย เทคนิคยังไม่ดีพอเนี่ยมันไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่บทเค้ายังไม่ดีพอ แบบน่าติดตามแบบการ์ตูนญี่ปุ่นอ่ะ
ไม่ได้ พูดเพราะชอบญี่ปุ่นหรอกนะคะ แต่งานเรากับงานเค้ามันคนละชั้นกันเลยอ่ะ จริงๆนะ
แล้วก็ ยินดีด้วยนะคะ ที่พี่วิทย์ได้รับรางวัล ดาราสมทบชายยอดเยี่ยม ถ้าไม่ได้ก็ไม่รู้จะพูดไงแล้วอ่ะ
จริงๆแล้ว น่าจะเปลี่ยนจาก สมทบชาย เป็น แสดงนำชายยอดเยี่ยมนะคะ ก็ปู่โสมเป็นตัวเอกของเรื่องนี่นา จิงไหมคะ
อ่านบทความแล้วนะคะ ฮาดีค่ะ ขอบคุณมากที่เอามาฝากค่ะ  ;D
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 25, 2008, 04:51:58 PM
หวานก็เคยดูเหมือนกันนะคะพี่นานะจัง เรื่องรันม่าอ่ะ

แต่ว่าตอนเด็กมากๆๆๆอ่ะคะ ก็เลยจำไม่ได้ว่าเรื่องเป็นยังไง

รู้แต่ว่าถ้าโดนน้ำเย็นจะกลายเป็นผู้หญิงอ่ะคะ เหอะๆ :-[

น้องหวานทันดูด้วยเหรอคะ พี่จำได้เหมือนกันนะว่าตอนนั้นพี่ก็ยังเด็กๆ อยู่เลยอ่ะ สมัยประถมเลยมั้ง

เราก้องงๆอยู่เหมือนกันอ่ะ เรื่องอภัยมณีซาก้าเนี่ย แต่ชอบนะ มันส์ดี ชอบลุ้นสินสมุทรให้ชนะอ่ะ แต่ก้อชอบกัปตันเหยี่ยวทะเลนะ เท่ห์ดี แล้วก็รอลุ้นอยู่ว่าสุดสาครจะหน้าตาเปงไงน๊า แอบผิดหวังกับอรุณรัศมีอ่ะ แต่โตขึ้นอาจจะสวยก้อได้

ช่ายๆๆเราลืมบอกเรื่องเดธโน้ตสนิทเรยย55+ เราก้ออ่านเดธโน้ตเพราะชอบลายเส้นคนวาดฮิคารุเนี่ยแหละ และที่ชอบฮิคารุเพราะโดนใจลายเส้นอ่ะ ภาพสวยเนื้อหาก็เจ๋งดี และเรื่องนี้ก็เป็นต้นตอให้เรามารู้จักกับBoom ด้วย เพราะก่อนหน้านั้นนอกจากโคนันกะดอกเตอร์เค เราก็อ่านแนวพวกขายหัวเราะ มหาสนุก สาวดอกไม้ฯ หนูหิ่น ฯลฯของเครือบรรลือสารอ่ะ เคยเขียนจม.ไปหาพี่ต่ายครั้งนึงด้วย ได้รูปน้องปังปอนด์กะนินจามา น่าร๊ากน่าชัง แต่ตอนนี้จำไม่ได้ว่าเก็บไว้ที่ไหนละเนี่ย?

มาต่อเรื่องฮิคารุนะ ที่จิงเราก้อชอบตัวละครแทบทุกตัวเลยอ่ะแหละ แต่ที่ชอบสุดๆก้อมี 1.ฮิคารุ 2.วายะ 3.อากิระ 4.ซาอิ 5.อิสึมิ  (ว่ามั้ยว่าคุณอิสึมิแอบเหมือนไล้ท์มากมาย  ส่วนแอลก้อทรงผมคล้ายๆวายะนะ เนียร์ทรงผมคล้ายๆ...นึกชื่อมะออกติดอยู่ที่ปาก เป็นคนที่รุ่นเดียวกะฮิคารุแล้วเล่นหมากล้อมทีมโรงเรียนอ่ะ แต่พอฮิคารุไปเป็นอินเซย์ก้อเลิกเล่นและโกรธฮิคารุอ่ะ)

ช่ายBoomแปลสนุกดี พอมาดูการ์ตูนในทีวีนะ เสียรมณ์หมดเรยย โดยเฉพาะฮิคารุอ่ะ เราแทบรับไม่ได้เลย อะไรจะแปลได้เรียบร้อยปานน๊านน มันขัดหูบอกไม่ถูกแฮะ เซง+หงุดหงิดๆ

อรุณรัศมี ดูไปดูมาก็น่ารักดีนิ สไตล์เด็กเนิร์ด 55+ แต่ยังไงน้องเค้าก็เป็นนางเอกคนนึง โตมาคงสวยเหมือนแม่อยู่หรอก
สมัยที่สินสมุทรเกิดมาใหม่ๆ นะ เราชอบมากเลย เป็นตัวอะไรที่น่ารักมาก 55+
คุณกัปตันเรือเหยี่ยวตั้งแต่โดนไอ้นั่นสิงอยู่ก็เหมือนว่าจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เล่มล่าสุดนี้ก็ได้ความสามารถใหม่มาอีกละ(ถ้าอ่านไม่ผิดอ่านะ)
คิดไปคิดมาที่กัปตันเป็นพวกอันเดตนี้อาจจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสียด้วยซ้ำมั้ง

อ้าว ชอบฮิคารุเหมือนกันเลยนี้ ชอบฮิคารุเพราะยิ่งโตยิ่งหล่อเน้อ 55+
อือ เห็นด้วยว่าคุณอิสึมิเหมือนไลท์ แต่เป็นคุณอิสึมิตอนหลังๆ นะ แล้วเราก็ชอบไลท์เพราะหน้าคล้ายคุณอิสึมิเนี้ย
อ่านไปอ่านมาแล้วก็รู้สึกว่าไลท์มันแบบว่าถ้ามันไม่เจอเดตโน๊ตมันก็คงเป็นคนดีคนเก่งคนหนึ่ง
คือต้องทำใจหน่อย เราเปนคนชอบคนที่หน้าตาน่ะ ฮา~
ทรงผมเอลกับวายะเหมือนกันเหรอ? เราไม่คิดงั้นแฮะ ผมเอลมันดูเป็นทรงแปลกๆ มั้ง แต่วายะนี้เซตผมอย่างดีเลยนะเราว่า
ไม่รู้เหมือนกันนะ อันที่จริงมันก็ดูคล้าย แต่... มันให้ความรู้สึกแบบว่า แอลนี้เป็นทรงนี้เพราะไม่ได้หวีผม ส่วนวายะเป็นทรงนี้เพราะหวีมาอย่างดี 55+
คงหมายถึงมิทานิใช่มะ สองคนนี้ผมคล้ายกัน แต่อารมณ์เดียวกับผมเอลกับวายะอ่ะ ฮา~
พูดถึงมิทานิ ที่จริงเป็นตัวละครที่น่ารักดีนะ แต่ออกแนวขี้งอน นิสัยไม่ผู้ชายเลย 55+
อ่านฮิคารุจนจบแล้ว แอบคิดว่าที่จริงแล้วนางเอกของเรื่องนี้คืออากิระรึเปล่าหว่า สาวอาคาริออกมาน้อยเหลือเกิน

ส่วนชินจังนี่ชอบมากๆ เนื้อเรื่องมันเสียดสีสังคมครอบครัวญี่ปุ่นแบบถึงกึ๋นผ่านการ์ตูนเด็กอ่ะ ทำได้ไงอ่ะ ทึ่งจิงๆ คนแต่งนี่


พูดถึงแล้วก็นึกถึงหนังสือครูนักเรียนที่สุดยอดอีกเล่มของญี่ปุ่น ก็คือโต๊ะโตะจัง เป็นหนังสือที่โดนด้วยเหมือนกัน (ดึงมาเข้าประเด็นกระทู้จนได้)


ชอบการ์ตูนไทยมากกว่า เดี๋ยวนี้ตอนเย็นๆ มีการ์ตูนไทยๆ ให้ดูหลายเรื่องเลย แต่ก็ไม่ติดหรอกนะคะ ไม่ค่อยว่างดูด้วย แต่ถ้าว่างดูเปิดมาเจอ ก็จะต้องดูจนจบทุกที เพราะมันจะสั้นๆ อย่างเรื่องพิกุลทองช่อง 3 รามเกียรติ์ช่อง 7 ลิงยักษ์ลิงลิงยักษ์ ลิงยักษ์ลิงลิงยักษ์ (สงสารคนร้อง ออกเสียงยากน่าดู)

หนุอ่านชินจังแล้วไม่เคยคืดลึกขนาดนั้นเลยอ่ะ

โต๊ะโตะจังสนุกไหมคะพี่ เป็นเรื่องไงคะ เคยคิดจะหยิบมาอ่านเหมือนกัน แต่ยังมีแรงจูงใจไม่พอ

อันที่จริงหนูเคยเห็นการ์ตูนไทยเรื่องหนึ่ง ทำดีมาก แบบว่าพากย์ตรงปากตัวการ์ตูนเลย สุดยอดอ่ะ


:) โอววววววววเยอะมาก อ่านจนตาลายเลยง่ะ
ยังไง Peach girl พี่ก็เชียร์ ไคริอยู่แล้วววววววววววววววววววว ไม่ชอบไทจิ อ่ะ ชอบ ลังเล แบบพระเอกญี่ปุ่นอ่ะ
ตอนแรก นึกว่าไทจิเป็นพระเอกด้วยซ้ำ เพราะบุคลิกของ ไคริ จะเหมือน พระรอง มากกว่า

เรื่อง ยามาดะทาโร่ คุณชายยาจก ก็คือ เรื่องเดียว กับ เทพบุตรถังแตกที่ Vic f4 เล่นนั่นแหละค่ะ
ที่ไตหวันทำ เนื้อหาและ บทแทบจะ เอามาจากในการ์ตูนเด๊ะๆเลยค่ะ แต่นางเอกที่คู่กับ เพื่อนพระเอก ไม่ใช่น้อง 4 แต่เป็นน้อง 5ค่ะ


แต่หนูกลับคิดว่าไทจิเป็นคนมั่นคงมากกว่าอ่ะ ลึกๆ แล้วมันรู้สึกอย่างนั้นน่ะค่ะ อาจเป็นเพราะไม่ได้อ่านทุกเล่มด้วยมั้งคะ
เท่าที่หนูอ่านดูไทจิก็รักโมโมคนเดียว แต่หนูอ่านแต่ตอนต้นๆ นะคะ มันไม่อยากอ่านเล่มหลังๆ แบบว่าขัดอารมณ์ตัวเอง 55+

ยามาดะทาโร่ หนูก็ว่าคนแต่งเค้าเก่งอ่ะ ปัญญาอ่อนแบบมีสาระนิ่มๆ หนูไม่ได้ดูที่วิกแสดง แต่ดูเวอร์ชันญี่ปุ่นแล้วก้อไปหาการ์ตูนมาอ่าน
ละครของญี่ปุ่นไม่เหมือนมังกะต้นฉบับซะทีเดียว แต่ดีมากเลย สอนได้เข้าใจง่ายกว่า แล้วก็ตัดอาการโรคจิตส่วนตัวของคนวาดออกไปนิดนึง
น้อง5นี้ก็เด็กกว่าน้อง4อีกสิคะพี่ โอ้ววววววววววว ตรงความรักของมิมุระนี้ไม่มีในละคร เด็กที่แสดงเป็นน้องๆ ยามาดะก็มีแต่เด็กน้อยทั้งนั้นเลย
ถ้ามีจริงนี้คงตลกดี เอออ แต่เราคงรับไม่ได้(ซากุไร โช เลี้ยงต้อย แค่คิดก็...)
แต่คนเขียนเค้าแอบวายนะคะ พี่ๆ อ่านดูแล้วพอจะจับได้รึเปล่า นอกจากนี้ยังมีอาการจิตอื่นๆของอ.คนวาดอีกเล็กน้อย
แต่บางทีหนูอาจจะคิดมากไปเอง 55+
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 25, 2008, 08:16:15 PM


พูดถึงแล้วก็นึกถึงหนังสือครูนักเรียนที่สุดยอดอีกเล่มของญี่ปุ่น ก็คือโต๊ะโตะจัง เป็นหนังสือที่โดนด้วยเหมือนกัน




โต๊ะโตะจังสนุกไหมคะพี่ เป็นเรื่องไงคะ เคยคิดจะหยิบมาอ่านเหมือนกัน แต่ยังมีแรงจูงใจไม่พอ




อ่านนานแล้วนะคะ จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ ถามว่าสนุกมั้ยนี่ จำได้ว่าตอนเด็กๆ อ่านเรื่องนี้ก็ติดมากอ่ะค่ะ แต่ตอนโตนี่ยังไม่ได้จับขึ้นมาอ่านอีกเลย ไม่รู้ว่าจะยังรู้สึกสนุกอยู่มั้ย

แต่ยังจำได้ถึงความประทับใจที่มีต่อคุณครูใหญ่ของโต๊ะโตะจัง เป็นคุณครูที่เข้าใจเด็กมากๆ และเข้าใจความหลากหลายของคน คือโต๊ะโตะนี่ค่อนข้างจะเป็นเด็กที่แปลกมาก เป็นเด็กที่มีจินตนาการสูงและพูดมากพูดไม่หยุด และมีอาการแปลกๆ อย่างอื่นอีกจำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะค่ะ

สิ่งที่แย่คือ สำหรับสังคมญี่ปุ่นที่เป็นสังคมที่ไม่ชอบความเป็นปัจเจกแล้วนี่ เด็กอย่างโต๊ะโตะถือเป็นเด็กนอกคอกมาก เกือบจะเป็นที่สังคมรังเกียจเลย ยังความกลุ้มอกกลุ้มใจและหนักอกหนักใจให้กับพ่อแม่มาก แล้วโต๊ะโตะเข้าโรงเรียนไหนไม่ได้เลย โดนไล่ออกหมด ข้อหาเป็นเด็กที่แปลกเด็ก ครูหาว่าชอบรบกวนเพื่อนอะไรทำนองนี้ จนมาเจอโรงเรียนของคุณครูใหญ่คนนี้ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อคุณครูโคบายาชิ มีตัวตนจริง เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เป็นอัตชีวประวัติที่โต๊ะโตะจังเขียนเอง โตขึ้นโต๊ะโตะเป็นนักสื่อสารมวลชนที่โดดเด่นไม่เหมือนใครค่ะ (อยู่ในเล่ม 2 แต่โต๊ะโตะจังตอนที่โตแล้ว สนุกสู้เล่มหนึ่งไม่ได้)

และโรงเรียนของคุณครูใหญ่โคบายาชิก็เป็นโรงเรียนที่แปลกไม่เหมือนใคร ชั่วโมงเรียนและวิชาเรียนไม่มีการกำหนดตารางสอนตายตัว วันไหนนักเรียนอยากเรียนอะไรก็เรียน ไม่มีการบังคับเคี่ยวเข็ญเด็กๆ ให้ต้องงมโข่งอยู่แต่กับหนังสือตำราเรียน แต่เน้นให้เด็กๆ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เรียนรู้จากธรรมชาติ และที่สำคัญคือมีความสุข เป็นตัวของตัวเอง และพัฒนาไปตามศักยภาพของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เหมือนโขลกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน

มีอยู่ตอนนึงที่ซาบซึ้งมากและยังจำได้ถึงเดี๋ยวนี้คือ ตอนที่โต๊ะโตะเล่นกับลูกหมาที่เลี้ยงไว้ แล้วถูกหมากัดหูเกือบขาด แต่โต๊ะโตะไม่โกรธลูกหมาเลย มือนึงกุมหูที่เลือดไหลอาบฉีกขาดห้อยร่องแร่ง แต่อีกมือนึงกอดลูกหมาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และไม่ร้องไห้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะกลัวมันจะถูกทำโทษหรือผู้ใหญ่จะมาพรากมันไปจากแก อ่านแล้วน้ำตาซึมซาบซึ้งมากๆ

อีกสาเหตุนึงที่ทำให้ตัวพี่เองประทับใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะพี่ก็รู้สึกว่าตัวเองมีอะไรที่คล้ายโต๊ะโตะน่ะค่ะ เป็นเด็กแปลกๆ ตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่พูดมาก มีจินตนาการมาก แต่กลับเคยถูกผู้ใหญ๋บางคนว่าว่าเราโกหก ตอนโตแล้วมองย้อนกลับไปตอนเป็นเด็กนี่ พี่ยังคิดว่าพี่เป็นเด็กออทิสติกอ่อนๆ ด้วยซ้ำไป เพราะมีโลกส่วนตัวสูงตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ ชอบพูดคนเดียว (ไม่ได้บ้านะคะ) ไม่ค่อยชอบสื่อสารกับโลกภายนอกอ่ะค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 25, 2008, 09:59:21 PM
โต๊ะโตะจัง นานะจัง ร้องไห้ ซะมากมายตอนยสึอากิ ตายน่ะค่ะ เด็กอย่างโต๊ะโตะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความตายคืออะไร แต่ก็ร้องไห้ออกมาซะมากมาย
โต๊ะโตะจัง เธอ เป็น นักแสดงที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นนี่คะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 26, 2008, 02:12:50 PM


โต๊ะโตะจัง เธอ เป็น นักแสดงที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นนี่คะ




อ่ะจิ๊งงง...สงกะสัยพี่คงจำผิดมั้ง อ่านนานจนลืมหมดแล้ว เหมือนจำได้ว่าโต๊ะโตะเป็นพิธีกรอ่ะค่ะ ก็เลยใช้คำว่านักสื่อสารมวลชน แต่เล่ม 2 รู้สึกจะอ่านไม่จบอ่ะค่ะ ก็เลยยิ่งจำอะไรไม่ได้มากกว่าเล่ม 1 อีก

สรุปว่าน้อง amadiRi ลองไปอ่านเล่ม 1 ดูเถอะนะคะ ไงก็เป็นหนังสือดีๆ ที่ไม่เสียเวลาเปล่าแน่นอน

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 26, 2008, 02:52:57 PM


ติดใจขอคุยตรงนี้อีกหน่อยค่ะ




เรื่องการ์ตูนไทยที่ ทำฉายทางทีวี เรื่องภาพไม่สวย เทคนิคยังไม่ดีพอเนี่ยมันไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่บทเค้ายังไม่ดีพอ แบบน่าติดตามแบบการ์ตูนญี่ปุ่นอ่ะ




การ์ตูนเรื่องพิกุลทองกับรามเกียรติ์ นานะว่าเขียนบทไม่ดีหรอคะ พี่ไม่ได้ดูต่อเนื่อง เลยไม่มีความคิดเห็นที่เป็นชิ้นเป็นอันจะแสดงได้

แต่ที่อยากเล่าถึงคือ เวลาพี่เปิดเจอ 2 เรื่องนี้ เป็นต้องหยุดดูอ่ะค่ะ แล้วก็ดูได้จนจบ โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือบิดหนีไปเสียก่อน (แต่มันก็ฉายแค่วันละสั้นๆ อ่ะนะ) พี่รู้สึกว่าถึงบทจะเชยๆ เรียบๆ ง่ายๆ อาจจะไม่แปลกใหม่ มีพัฒนาการ อัศจรรย์ หรือคมคายอะไร แต่ก็ให้ความรู้สึกได้อ่ะค่ะ

จำได้ว่าเราสองคนเคยคุยกันเรื่องบทดีไม่ดีกันมาแล้ว แต่ที่เราเคยคุยกัน ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์ประกอบของการเขียนบทที่ดี คือเรื่องความสมเหตุสมผล กับความไม่ซ้ำซาก พี่คิดว่า คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของบทที่ดี ก็คือการสร้างความรู้สึก ซึ่งมันรวมเอาความสมเหตุสมผลเข้าไว้ด้วยนะคะ เพราะอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล ก็ไม่อาจจะสร้างความรู้สึกได้อยู่แล้ว

พี่รู้สึกว่า การสร้างความรู้สึกสำคัญมากที่สุดเลย ไม่ว่าจะเป็นบทละครหรือหนังสือ หากสามารถทำให้คนดูหรือคนอ่าน รู้สึกคล้อยตามไปกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้ ถือว่าบทหรือหนังสือนั้นประสบความสำเร็จอ่ะค่ะ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหรือพล็อตนะคะ และนี่ก็คือหัวใจของการเขียนบท หรือการเขียนหนังสือนะคะ พี่ว่า

และเพราะอย่างงี้ ละครที่เขาว่าพล็อตน้ำเน่าอย่างหลงเงาจันทร์ หรือพวกชีวิตรันทดอย่างแม่อายสะอื้น ถึงเป็นละครที่ประสบความสำเร็จได้ เพราะว่าบทประสบความสำเร็จในการสร้างความสะเทือนอารมณ์ (สะเทือนอารมณ์ตรงนี้ไม่ได้หมายถึงเศร้า แต่หมายถึงสามารถสั่นสะเทือนความรู้สึกของคนดูได้)

และก็เพราะอย่างงี้อีกเช่นกัน ศิลปะพื้นบ้านอย่างลิเก งิ้ว ถึงยังอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีการพัฒนาในเชิงเทคนิคกันเลย (แต่อาจจะมีการพัฒนาในแง่ของความสวยงาม เพราะเป็นวิจิตรศิลป์) เพราะบทของลิเกหรืองิ้วเขาจับหัวใจตรงนี้ได้ นั่นคือการสร้างความรู้สึก แล้วพี่ก็ชอบดูลิเกด้วยอ่ะค่ะ แต่ไม่ได้เป็นแม่ยกนะคะ อิอิ  ;D

แล้วเรื่องพิกุลทองก็ตลกดีอ่ะค่ะ เป็นตลกจังหวะ ตลกน่ารัก เทคนิคการพากย์มีส่วนช่วยให้ตลกด้วย นั่งดูไปหัวเราะไป เป็นการ์ตูนที่น่ารักแล้วก็รื่นรมย์ดีอ่ะค่ะ แม้ว่าภาพจะไม่สวยเลย เกลี้ยงเกลาซะ

พี่เคยดูงิ้วปักกิ่งที่ธรรมศาสตร์ ถึงพี่จะรู้ภาษาจีนบ้างก็แบบงูๆ ปลาๆ เพราะที่บ้านเป็นคนจีน แต่พี่ฟังงิ้วไม่ออกซักคำ แต่ก่อนจะเล่นเขามีการเล่าเรื่องย่อเป็นภาษาไทยก่อน เท่านั้นเองอ่ะค่ะ แต่ตอนเล่นนี่ ไม่มีภาษาไทยเลยแม้แต่คำเดียว ร้องงิ้วล้วนๆ ค่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่คำเดียว แต่เชื่อมั้ยคะ ด้วยศิลปะการแสดงขั้นสุดยอดอ่ะ ไม่ต้องอาศัยฉาก ไม่ต้องเข้าใจภาษาเลยด้วยซ้ำ แต่นั่งดูอย่างสนุกมาก หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง สนุกสุดๆ ยังติดใจไม่ลืมเลือนมาถึงเดี๋ยวนี้ คงเพราะเนื้อเรื่องไม่ยาวมาก แต่ก็เล่นเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือ คงเพราะเป็นงิ้วตลกด้วย คนดูเลยเข้าถึงได้ง่าย เพราะอารมณ์ขันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความเป็นสากล นอกเหนือจากดนตรี

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pim_4262 ที่ เมษายน 26, 2008, 02:54:37 PM
8) อ่อ ลืมไปว่าพี่ชอบ การ์ตูนเรื่อง รันม่า มากถึงมากที่สุด ตอนเด็กนะติดมาก ยังจำเพลงได้เลย Ya pa pa e cham ming  :-X  ประมาณเนี้ย ร้องแบบมั่ว 55555 แต่จำทำนองได้ ขึ้นใจเลยอ่ะ เป็นการ์ตูนที่ฮา และแปลกดีอ่ะ
ตัวละครที่ชอบมากกกกกกกกกกกกกกก็มีอยู่ 4 ตัว

 ซาโอโตเมะ รันม่า
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/8.jpg)
พอโดนน้ำเย็นกลายเป็นผู้หญิง
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/2-1.jpg)
เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี ที่มีฝีมือด้านกังฟู หน้าตาหล่อเหลาเอาการ มีสาว ๆ รุมตามตื้อเป็นทิวแถว ตอนไปฝึกวิชาที่เมือง
 จีน ได้ตกลงในบ่อน้ำอาถรรพ์ ทำให้กลายเป็นผู้หญิงได้เมื่อโดนน้ำเย็น และกลับเป็นผู้ชายเมื่อโดนน้ำร้อน นิสัยร่าเริง 
แต่บางทีก็ปากเสีย มีคู่หมั้นที่พ่อหามาให้คือ เทนโด อากาเนะ ตอนแรกรันม่าไม่ยอมรับคู่หมั้นแต่หลัง ๆ ก็มีใจให้อากาเนะ แต่รันม่าก็ชอบแหย่ให้ต้องทะเลาะกันอยู่เสมอ ๆ
 
เทนโด อากาเนะ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/4.jpg)

เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านเทนโด อายุ 16 ปี ชอบยูโด คาราเต้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ค่อยเก่งในเรื่องงานบ้านงานเรือน
ถูกพ่อจับให้เป็นคู่หมั้นรันม่าโดยไม่เต็มใจนัก ตอนแรกไว้ผมยาวแต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องตัดผมสั้น จริง ๆ แล้วเป็นคน
น่ารักและใจดี ใครดีกับเธอก็จะดีด้วยแต่ถ้าใครร้ายก็จะร้ายตอบ โดยเฉพาะกับรันม่าที่ชอบพูดจาแขวะทำให้โกรธอยู่ 
เสมอ ๆ แต่ใจจริงก็รักรันม่ามาตั้งนานแล้ว 

แต่เราชอบอากาเนะ ตอนผมยาวมากกว่าอ่ะ ;D


คูโน่ ทาเทวากิ (http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/untitled.jpg)

อายุ 17 ปี เป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องดาบ และหลงตัวเองเป็นที่สุด เกลียดรันม่าชาย เพราะถือว่ารันม่าชายแย่งอากาเนะไป
แต่ไม่รู้ว่ารันม่าหญิงเป็นคนเดียวกับรันม่าชาย ชอบทั้งรันม่าหญิงและอากาเนะ เรียนอยู่ชั้นและห้องเดียวกับนาบิคิ


ฮิบิกิ เรียวกะ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/1-1.jpg)
พอโดนน้ำเย็นแล้ว กลายเป็นหมูดำน่ารัก อิอิ
(http://i231.photobucket.com/albums/ee127/nanajung_boy/9.jpg)
เป็นคู่แข่งตลอดกาลของรันม่า ทั้งเรื่องการต่อสู้และความรัก เคยเรียนโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกับรันม่า และรันม่าทำให้
เรียวกะตกลงไปในบ่ออาถรรพ์ ทำให้กลายเป็นหมูดำ pจัง สัตว์เลี้ยงของอากาเนะไปโดยบังเอิญ และเรียวกะก็ดันหลงรัก
อากาเนะอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลย ทำให้รันม่าไม่พอใจและคอยขัดขวาง เป็นคนหลงทิศหลงทางอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ 



รันม่ากะโคนันหนุกสุดดดดดดดดดดดดดดดด!!

555+  ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ เมษายน 27, 2008, 05:58:50 AM
เกี่ยวกับโต๊ะโตะจัง เหมือนจะเคยได้ยินเหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริง ถ้างั้นตอนนี้ คุณโต๊ะโตะเธอก็แก่มากแล้วดิคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ เมษายน 27, 2008, 07:47:23 AM
รำคาญตัวเองที่จำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับโต๊ะโตะจัง เลยไปค้นเรื่องโต๊ะโตะมาให้น้อง amadaRi ค่ะ ตามลิงค์นะคะ

http://www.bflybook.com/BookDetail.aspx?CategoryID=26&SortID=0&PageNumber=1&CoverDesignID=111

เป็นบทความที่ดีเขียนได้ดีนะคะ อ่านแล้วน้ำตาซึม มีตัวอย่างบทแรกในหนังสือให้อ่านด้วย ว่าทำไมโต๊ะโตะถึงถูกไล่ออก ตอนที่อ่านตอนนั้นรู้สึกสงสารโต๊ะโตะมาก และรู้สึกว่าโรงเรียนญี่ปุ่นใจร้ายมาก ไล่เด็กแค่ 5-6 ขวบออกจากโรงเรียนได้ลงคอ ถ้าไม่มีคุณครูโคบายาชิและโรงเรียนโทเมโอ โต๊ะโตะคงไม่สามารถเติบโตมาเป็นนักแสดงและพิธีกรที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างสูงได้

ส่วนเรื่องโต๊ะโตะตัวจริงแก่หรือยัง คงจะเป็นผู้สูงอายุแล้วนะคะ เพราะโต๊ะโตะเป็นเด็กยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อ่ะค่ะ ก็หมายความว่าก่อนปี 45 แน่ะ

ไม่ทราบว่าโต๊ะโตะปัจจุบันนี้เป็นยังไงบ้าง เพราะลิงค์ข้อมูลอันนี้รู้สึกจะ update สุดแค่ปี 2000 อ่ะค่ะ

ชื่อโต๊ะโตะ (ซึ่งเราว่าน่ารักมาก) คงมาจากชื่อจริงของโต๊ะโตะ คือ เท็ตสึโกะ แต่เด็กๆ พูดไม่ชัด พูดคำว่า เท็ตสึโกะ ไม่ได้ เลยกลายเป็น โต๊ะโตะ ไป น่ารักดีอ่ะค่ะ

จากบทความที่ลิงค์มาให้ ทำให้เพิ่งรู้หรือว่าเคยรู้แล้วแต่ลืมไปแล้วก็ไม่รู้ว่า คำว่า "ข้างหน้าต่าง" เป็นสำนวนที่มีความหมายในภาษาญี่ปุ่น

แล้วอ่านเรื่องโต๊ะโตะแล้ว ก็อดคิดถึง โนบิตะ ไม่ได้ เพราะเด็กทั้ง 2 คนต่างเป็นเด็กที่เหมือนถูกสังคมตราหน้าตั้งแต่เด็กว่า จะเป็นเด็กที่โตขึ้นเอาดีไม่ได้ อย่างคนเขียนโนบิตะซึ่งล่วงลับไปแล้ว ในวัยเด็กก็มีชีวิตที่น่าสงสารไม่ต่างกับโนบิตะ ถูกมองว่าเป็นเด็กที่ไม่เอาไหน ไม่เก่ง

เคยได้ยินมาว่า สังคมญี่ปุ่นนั้น ถ้าเด็กที่ไม่เก่งก็มีหวังว่าโตขึ้นจะต้องเข้าสู่โลกของยากูซ่า โลกในด้านมืด ชีวิตของเด็กญี่ปุ่นเหมือนถูกกำหนดถูกขีดเส้นให้เดิน ไม่มีอิสระที่จะคิดด้วยตัวเองเลย ฟังดูน่ากลัวมาก

และทำให้รู้สึกว่า สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่น่าอึดอัดมาก เราอาจจะเห็นว่าสังคมญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีของคุณภาพคนและระเบียบวินัย แต่ใครจะรู้ว่า เด็กญี่ปุ่นต้องโตมาในสภาพที่ไม่มีความสุขมากซักแค่ไหนก็ไม่รู้ อ่านเรื่องของเด็กญี่ปุ่น ผ่านโต๊ะโตะกับโนบิตะแล้ว รู้สึกโชคดีมากเลยที่ได้เกิดเป็นเด็กไทย

ทำลิงค์บทแรกของโต๊ะโตะให้ด้วยค่ะ เผื่อใครขี้เกียจอ่านบทความที่ลิงค์มา แต่อยากลองเซิร์ฟๆ อ่านบทแรกของหนังสือดู


http://www.bflybook.com/PDF/TOTOJUNG.pdf


หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ เมษายน 27, 2008, 11:49:52 AM


ติดใจขอคุยตรงนี้อีกหน่อยค่ะ




เรื่องการ์ตูนไทยที่ ทำฉายทางทีวี เรื่องภาพไม่สวย เทคนิคยังไม่ดีพอเนี่ยมันไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่บทเค้ายังไม่ดีพอ แบบน่าติดตามแบบการ์ตูนญี่ปุ่นอ่ะ




การ์ตูนเรื่องพิกุลทองกับรามเกียรติ์ นานะว่าเขียนบทไม่ดีหรอคะ พี่ไม่ได้ดูต่อเนื่อง เลยไม่มีความคิดเห็นที่เป็นชิ้นเป็นอันจะแสดงได้

แต่ที่อยากเล่าถึงคือ เวลาพี่เปิดเจอ 2 เรื่องนี้ เป็นต้องหยุดดูอ่ะค่ะ แล้วก็ดูได้จนจบ โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือบิดหนีไปเสียก่อน (แต่มันก็ฉายแค่วันละสั้นๆ อ่ะนะ) พี่รู้สึกว่าถึงบทจะเชยๆ เรียบๆ ง่ายๆ อาจจะไม่แปลกใหม่ มีพัฒนาการ อัศจรรย์ หรือคมคายอะไร แต่ก็ให้ความรู้สึกได้อ่ะค่ะ

จำได้ว่าเราสองคนเคยคุยกันเรื่องบทดีไม่ดีกันมาแล้ว แต่ที่เราเคยคุยกัน ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์ประกอบของการเขียนบทที่ดี คือเรื่องความสมเหตุสมผล กับความไม่ซ้ำซาก พี่คิดว่า คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของบทที่ดี ก็คือการสร้างความรู้สึก ซึ่งมันรวมเอาความสมเหตุสมผลเข้าไว้ด้วยนะคะ เพราะอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล ก็ไม่อาจจะสร้างความรู้สึกได้อยู่แล้ว

พี่รู้สึกว่า การสร้างความรู้สึกสำคัญมากที่สุดเลย ไม่ว่าจะเป็นบทละครหรือหนังสือ หากสามารถทำให้คนดูหรือคนอ่าน รู้สึกคล้อยตามไปกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้ ถือว่าบทหรือหนังสือนั้นประสบความสำเร็จอ่ะค่ะ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหรือพล็อตนะคะ และนี่ก็คือหัวใจของการเขียนบท หรือการเขียนหนังสือนะคะ พี่ว่า

และเพราะอย่างงี้ ละครที่เขาว่าพล็อตน้ำเน่าอย่างหลงเงาจันทร์ หรือพวกชีวิตรันทดอย่างแม่อายสะอื้น ถึงเป็นละครที่ประสบความสำเร็จได้ เพราะว่าบทประสบความสำเร็จในการสร้างความสะเทือนอารมณ์ (สะเทือนอารมณ์ตรงนี้ไม่ได้หมายถึงเศร้า แต่หมายถึงสามารถสั่นสะเทือนความรู้สึกของคนดูได้)

และก็เพราะอย่างงี้อีกเช่นกัน ศิลปะพื้นบ้านอย่างลิเก งิ้ว ถึงยังอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีการพัฒนาในเชิงเทคนิคกันเลย (แต่อาจจะมีการพัฒนาในแง่ของความสวยงาม เพราะเป็นวิจิตรศิลป์) เพราะบทของลิเกหรืองิ้วเขาจับหัวใจตรงนี้ได้ นั่นคือการสร้างความรู้สึก แล้วพี่ก็ชอบดูลิเกด้วยอ่ะค่ะ แต่ไม่ได้เป็นแม่ยกนะคะ อิอิ  ;D

แล้วเรื่องพิกุลทองก็ตลกดีอ่ะค่ะ เป็นตลกจังหวะ ตลกน่ารัก เทคนิคการพากย์มีส่วนช่วยให้ตลกด้วย นั่งดูไปหัวเราะไป เป็นการ์ตูนที่น่ารักแล้วก็รื่นรมย์ดีอ่ะค่ะ แม้ว่าภาพจะไม่สวยเลย เกลี้ยงเกลาซะ

พี่เคยดูงิ้วปักกิ่งที่ธรรมศาสตร์ ถึงพี่จะรู้ภาษาจีนบ้างก็แบบงูๆ ปลาๆ เพราะที่บ้านเป็นคนจีน แต่พี่ฟังงิ้วไม่ออกซักคำ แต่ก่อนจะเล่นเขามีการเล่าเรื่องย่อเป็นภาษาไทยก่อน เท่านั้นเองอ่ะค่ะ แต่ตอนเล่นนี่ ไม่มีภาษาไทยเลยแม้แต่คำเดียว ร้องงิ้วล้วนๆ ค่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่คำเดียว แต่เชื่อมั้ยคะ ด้วยศิลปะการแสดงขั้นสุดยอดอ่ะ ไม่ต้องอาศัยฉาก ไม่ต้องเข้าใจภาษาเลยด้วยซ้ำ แต่นั่งดูอย่างสนุกมาก หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง สนุกสุดๆ ยังติดใจไม่ลืมเลือนมาถึงเดี๋ยวนี้ คงเพราะเนื้อเรื่องไม่ยาวมาก แต่ก็เล่นเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือ คงเพราะเป็นงิ้วตลกด้วย คนดูเลยเข้าถึงได้ง่าย เพราะอารมณ์ขันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความเป็นสากล นอกเหนือจากดนตรี



ขอคาระวะแม่นาง อีก 8 จอก มองอะไรได้ลึกซึ้งคมคายจริงๆค่ะ การสร้างอารมก็เป็นส่วนสำคัญในละคร อย่าง วรรณคดีไทยหลายเรื่อง
อย่างเช่นสังข์ทองเราก็พอจะรู้เรื่องราวกันดีอยู่แล้วว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่การใส่อรรถรถเข้าไปเป็นสิ่งสำคัญ
แต่นานะจัง มันดำเนินเรื่องง่ายเกินไป ไม่มีอะไรต่นเต้นเร้าใจให้อยากดูต่อนะค่ะ อย่างไกรทองที่พวกนานะจังแต่งกันก็รู้เรื่องกันอยู่แล้วแต่เราใสบทสนมนา ใส่อรรถรถให้ทันสมัยและ สอดแทรกมุกตลกเป็นระยะๆ ก็สนุกไปอีกแบบนึง แต่นานะจังอยากได้วรรณคดีที่สามาถเทีบเท่า The Legend ให้ได้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ พฤษภาคม 01, 2008, 11:43:06 PM
 ;)คือแบบว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะ จะถามว่ามีใครชอบอ่านการ์ตูนแนวสยองขวัญ บ้างไหมคะ นานะจังก็ชอบอ่านแนวนี้ไม่แพ้แนวสืบสวนสอบสวนเลยอ่ะ น่ากลัวดี มีอยู่เรื่องหนึ่งเก็บไปหลอนอยุ่หลายวัน แล้ว วรรณกรรม สยองขวัญ อย่าง จูออน ผีดุอ่านกันไหมคะ คือ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็อยากให้อ่านค่ะ สนุกมาก และสยองมาก ทั้ง 2เล่มเลยนะคะ วิธีการเขียน ดีมากเลยอ่ะ แล้ว เรื่อง
ริง คำสาปมรณะ สไปรัล Loop โลกพิสดารเหนือจริง และ Birthday ก็สนุกทุกเล่มค่ะ จากเรื่อง ผี
วิดิโออาถรรพ์ กลายเป็นเชื้อไวรัส กลายเป็น โลกอีกนึงแนวๆปรัชญา และเล่มสุดท้าย เป็นเรื่องราวรายละเอียดที่ตัดออกไป ในเล่มก่อนหน้านั้น เผื่ออุดรอยรั่วให้สมบูรณ์ค่ะ แล้วรู้ว่าวรรณกรรมสยองขวัญเรื่องไหนที่สนุกๆ บอกนานะจังบ้างนะคะ นานะจังจะได้ไปหามาอ่าน
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ พฤษภาคม 02, 2008, 09:56:29 AM
;)คือแบบว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะ จะถามว่ามีใครชอบอ่านการ์ตูนแนวสยองขวัญ บ้างไหมคะ นานะจังก็ชอบอ่านแนวนี้ไม่แพ้แนวสืบสวนสอบสวนเลยอ่ะ น่ากลัวดี มีอยู่เรื่องหนึ่งเก็บไปหลอนอยุ่หลายวัน แล้ว วรรณกรรม สยองขวัญ อย่าง จูออน ผีดุอ่านกันไหมคะ คือ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็อยากให้อ่านค่ะ สนุกมาก และสยองมาก ทั้ง 2เล่มเลยนะคะ วิธีการเขียน ดีมากเลยอ่ะ แล้ว เรื่อง
ริง คำสาปมรณะ สไปรัล Loop โลกพิสดารเหนือจริง และ Birthday ก็สนุกทุกเล่มค่ะ จากเรื่อง ผี
วิดิโออาถรรพ์ กลายเป็นเชื้อไวรัส กลายเป็น โลกอีกนึงแนวๆปรัชญา และเล่มสุดท้าย เป็นเรื่องราวรายละเอียดที่ตัดออกไป ในเล่มก่อนหน้านั้น เผื่ออุดรอยรั่วให้สมบูรณ์ค่ะ แล้วรู้ว่าวรรณกรรมสยองขวัญเรื่องไหนที่สนุกๆ บอกนานะจังบ้างนะคะ นานะจังจะได้ไปหามาอ่าน


ชอบมีอยู่เรื่องนึงน่ากลัวใช้ได้พล็อตเหมาะที่จะไปทำเป็นภาพยนต์แต่มันเป็นหนังสือเก่าอ่ะ มันเป็นเรื่องของพีน้องฝาแฝดและพี่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเอาแมงมุมพิษกรอกปากจนตาย 3 เดือนพ่อนางเอกพาแฝดน้อง(นางเอก)ไปไหว้ศพที่หลุมแต่ปรากฏว่าศพหายไปมีร่องรอยการขุดศพขึ้นมาจากใต้ดิน และพี่สาวก็กลายเป็นผีแมงมุมที่คอยแก้แค้นทุกคน ผีตัวนี้มีลักษณะคล้ายสไดอร์แมนคือพ่นใต่ใยรวดเร็วแต่ปล่อยลูกแมงมุมพิษออกมาได้แยะแบบหนังฝรั่ง ตอนแรกก็ฆ่าแม่เลี้ยงแก้แค้นต่อมาก็ไล่ฆ่าคนที่รังแกน้องสาวแต่ท้ายๆเรื่องมันฆ่ามั่วไม่เลือกยกเว้นนางเอกเพราะจะเอาไว้เป็นทายาท
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: amadaRi ที่ พฤษภาคม 02, 2008, 02:40:50 PM
ขอบคุณพี่ galdewis สำหรับลิงค์ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลา แฮะๆ
ช่วงนี้หนูวุ่นวายพิลึกอีกแล้ว เบื่อชีวิตตัวเองจริงๆ หนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ได้แตะเลยค่ะ ช่วงนี้ที่พออ่านได้มีแต่มังกะ

หนูก็เคยอ่านเรื่องผีนะๆ เมื่อก่อนจะชอบมาก เพราะกลัวมากกกกกกกก
แต่ตอนนี้เลิกอ่านแล้ว เพราะหลอนง่ายกว่าเมื่อก่อน ไม่กลัว แต่จะหลอนเอง แบบจินตนาการเก่งขึ้น 55+
ก่อนหน้านี้ตอนอ่านโรงเรียนนักสืบคิว คินได แล้วก็ xxxHolic หลอนมากมาย นอนไม่หลับ กลัวว่าจะมีใครมาฆ่าเรารึเปล่า
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:22:53 AM
ขอบคุณพี่ galdewis สำหรับลิงค์ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลา แฮะๆ
ช่วงนี้หนูวุ่นวายพิลึกอีกแล้ว เบื่อชีวิตตัวเองจริงๆ หนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ได้แตะเลยค่ะ ช่วงนี้ที่พออ่านได้มีแต่มังกะ

หนูก็เคยอ่านเรื่องผีนะๆ เมื่อก่อนจะชอบมาก เพราะกลัวมากกกกกกกก
แต่ตอนนี้เลิกอ่านแล้ว เพราะหลอนง่ายกว่าเมื่อก่อน ไม่กลัว แต่จะหลอนเอง แบบจินตนาการเก่งขึ้น 55+
ก่อนหน้านี้ตอนอ่านโรงเรียนนักสืบคิว คินได แล้วก็ xxxHolic หลอนมากมาย นอนไม่หลับ กลัวว่าจะมีใครมาฆ่าเรารึเปล่า

โห แสดงว่าขวัญอ่อนนะเนี่ย พอดีการ์ตูนที่พี่อ่านแล้วหลอน ภาพ มันหลอนจริงๆน่ะจ็เลยเก็บไปหลอนอยุ่หลายวัน
ส่วนเรื่องโรงเรียนนักสืบคิว พี่ว่าไม่สนุกเลนอ่ะ อาจจะเป็นเพราะคนเขียนคนละคนกับ คิดะอิจิมั้ง แม้คนวาดจะคนเดียวกันก็เหอะ เคยพยายามอ่านอยู่3-4เล่ม ก็ไม่ไหวแล้วไม่สนุกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:50:52 AM
ขอบคุณพี่ galdewis สำหรับลิงค์ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลา แฮะๆ
ช่วงนี้หนูวุ่นวายพิลึกอีกแล้ว เบื่อชีวิตตัวเองจริงๆ หนังสือเป็นเล่มๆ ไม่ได้แตะเลยค่ะ ช่วงนี้ที่พออ่านได้มีแต่มังกะ

หนูก็เคยอ่านเรื่องผีนะๆ เมื่อก่อนจะชอบมาก เพราะกลัวมากกกกกกกก
แต่ตอนนี้เลิกอ่านแล้ว เพราะหลอนง่ายกว่าเมื่อก่อน ไม่กลัว แต่จะหลอนเอง แบบจินตนาการเก่งขึ้น 55+
ก่อนหน้านี้ตอนอ่านโรงเรียนนักสืบคิว คินได แล้วก็ xxxHolic หลอนมากมาย นอนไม่หลับ กลัวว่าจะมีใครมาฆ่าเรารึเปล่า


ชอบอ่านหนังสือพวกสยองขวัญเหมือนกัน  แต่ไม่ค่อยได้ดูหนัง  เพราะที่บ้านโดนแม่สั่งห้ามไม่ให้เอาหนังพวกนี้มาดูในบ้าน

ถ้าเป็นคินดะ  จะออกแนวสยองขวัญหน่อยๆ ด้วย   เนี่ย ยังไม่ได้ซื้อมาดูซะที   คินดะอิจิที่เข้ามาในไทยอ่ะ   เห็นตัวอย่างฉายอยู่ที่พารากอน   ไอ้เราก็รอวันเข้าฉาย

ที่ไหนได้  อยู่ๆ ก็หายไปเลย  แล้วมาโผล่เป็นวีซีดีเฉยเลย   แล้วมันได้เข้าฉายในโรงไปยังล่ะเนี่ย  เซ็ง  แล้วเจอแต่วีซีดีอีกอ่ะ  เลยไม่ได้ซื้อ เพราะมันเป็นพากษ์ไทย   ไม่ชอบดูหนังอะไรที่พากษ์ไทยเลย  เพราะมันไม่ได้อารมณ์  อ่านซับเข้าใจกว่าเยอะ

แต่เคยอ่านผลงานเขียนของเด็กไทยคนนึง   เรื่อง  เกม 100 วิญญาณ  (ข้อมูลเพิ่มเติมถามได้จากเดช 555+  มีอ้างอิงด้วย)

น้องเค้าเขียนสนุกใช้ได้อยู่   หลอนได้เห็นภาพเลย   แต่ตอนนั้น....อ่านแล้วพอดีไม่สบายค่ะ   เลยไม่ได้หลอนอะไรเลย

เห็นบอกว่า เล่ม 3 ออกแล้ว  ฉันยังหาไม่ได้เลยเดช
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 10:04:09 AM
;)คือแบบว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะ จะถามว่ามีใครชอบอ่านการ์ตูนแนวสยองขวัญ บ้างไหมคะ นานะจังก็ชอบอ่านแนวนี้ไม่แพ้แนวสืบสวนสอบสวนเลยอ่ะ น่ากลัวดี มีอยู่เรื่องหนึ่งเก็บไปหลอนอยุ่หลายวัน แล้ว วรรณกรรม สยองขวัญ อย่าง จูออน ผีดุอ่านกันไหมคะ คือ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็อยากให้อ่านค่ะ สนุกมาก และสยองมาก ทั้ง 2เล่มเลยนะคะ วิธีการเขียน ดีมากเลยอ่ะ แล้ว เรื่อง
ริง คำสาปมรณะ สไปรัล Loop โลกพิสดารเหนือจริง และ Birthday ก็สนุกทุกเล่มค่ะ จากเรื่อง ผี
วิดิโออาถรรพ์ กลายเป็นเชื้อไวรัส กลายเป็น โลกอีกนึงแนวๆปรัชญา และเล่มสุดท้าย เป็นเรื่องราวรายละเอียดที่ตัดออกไป ในเล่มก่อนหน้านั้น เผื่ออุดรอยรั่วให้สมบูรณ์ค่ะ แล้วรู้ว่าวรรณกรรมสยองขวัญเรื่องไหนที่สนุกๆ บอกนานะจังบ้างนะคะ นานะจังจะได้ไปหามาอ่าน


จูออน  บางคนบอกว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย  แต่กาฬว่ามันก็หลอนอยู่นะ   หรือเพราะปกติกลัวผีญี่ปุ่นมากกว่าผีไทยรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่เคยคุยกับน้องที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น   เค้าบอกว่า ผีญี่ปุ่นไม่เห็นน่ากลัวเลย   ไม่เหมือนผีไทย  น่ากลัวกว่าอีก   พวกกระสือ  เปรต อะไรอย่างนี้  ผีญี่ปุ่นไม่มี  :-[

ในหนังสือชุด ริง  เพิ่งได้อ่านริงไปเล่มเดียวเอง   แล้วก็อ่านนานแล้วด้วย  ลืมไปจนจะหมดแล้ว   อยากอ่าน สไปรัล Loop  Birthday เหมือนกันอ่ะ    แต่ตอนที่อ่านริง  ไม่ค่อยหลอนอ่ะ 

ตอนนั้น  การบรรยายของหนังสือญี่ปุ่นจะเป็นแบบออกแนวน่าเบื่อนิดๆ เพราะดำเนินเรื่องละเอียดเห็นภาพเลย   (แต่ตอนนี้ตัวเองก็ติดเขียนแบบนั้นเหมือนกัน)  แต่ก็ยังอ่านจนจบ  เพราะอยากรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง


อ้อ  ตอนนี้ ช่อง 3  กำลังจะมีละครเรื่อง  นิมิตมาร   เป็นของแก้วเก้า  ไม่เคยรู้เลยว่า แก้วเก้า แต่งเรื่องนี้ด้วย  อยากหามาอ่านจังเลยอ่ะ   
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:33:14 PM

จูออน  บางคนบอกว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย  แต่กาฬว่ามันก็หลอนอยู่นะ   หรือเพราะปกติกลัวผีญี่ปุ่นมากกว่าผีไทยรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่เคยคุยกับน้องที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น   เค้าบอกว่า ผีญี่ปุ่นไม่เห็นน่ากลัวเลย   ไม่เหมือนผีไทย  น่ากลัวกว่าอีก   พวกกระสือ  เปรต อะไรอย่างนี้  ผีญี่ปุ่นไม่มี  :-[


อ้อ  ตอนนี้ ช่อง 3  กำลังจะมีละครเรื่อง  นิมิตมาร   เป็นของแก้วเก้า  ไม่เคยรู้เลยว่า แก้วเก้า แต่งเรื่องนี้ด้วย  อยากหามาอ่านจังเลยอ่ะ   

ใช่ดูแล้วไม่น่ากลัวเลย ทั้งจูออนและเดอะริงค์ แต่เนื้อเรื่องแต่งได้ดีเฉยๆ ตัวละครผีไทยในละครเก่าๆน่ะน่ากลัวนะ พวกปอบผีฟ้าเวอร์ชั่นเก่าๆแม่บอกว่าน่ากลัวแต่ผีที่เคยกลัวจนฝังใจตอนเด็กๆก็คือ เฟร็ดดี้ คูเกอร์ เพราะตอนนั้นเด็กเกินแต่ดันตามน้าไปดูภาพยนต์เรื่องนี้ก็เลยตัวผีนี้มากๆแต่ตอนนี้หายกลัวแล้วจะตัวไหนก็ไม่กลัว เจอผีตัวจริงยังตั้งสติได้ไม่ค่อยกลัวมากเลย  ผีญี่ปุ่นดีแต่คลานเลยไม่กลัวแต่ผีไทยสมัยนี้ลอกผีญี่ปุ่นมาทำไมวะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:59:31 PM


ขอบคุณพี่ galdewis สำหรับลิงค์ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลา แฮะๆ




ไม่เป็นไรค่ะ ไว้ว่างแล้วค่อยอ่านละกันนะคะ


;)

คือแบบว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะ จะถามว่ามีใครชอบอ่านการ์ตูนแนวสยองขวัญ บ้างไหมคะ นานะจังก็ชอบอ่านแนวนี้ไม่แพ้แนวสืบสวนสอบสวนเลยอ่ะ น่ากลัวดี มีอยู่เรื่องหนึ่งเก็บไปหลอนอยุ่หลายวัน แล้ว วรรณกรรม สยองขวัญ อย่าง จูออน ผีดุอ่านกันไหมคะ



ถ้าเรื่องผีโดยตรงนี่ ไม่ชอบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือหนัง แต่ตอนเด็กๆ เคยชอบ แต่ไม่ได้ชอบที่ตัวหนังหรือหนังสือโดยตรง แต่ชอบบรรยากาศการดูหนังผีมากกว่า เพราะว่าจะต้องดูที่บ้าน ห้ามดูโรงเด็ดขาด แล้วก็จะต้องเกณฑ์คนทั้งบ้านหรือเพื่อนๆ มานั่งดูด้วยกัน แม้แต่กระทั่งแค่นั่งอ่านหนังสือผี ก็จะต้องบอกให้แม่หรือใครมานั่งเป็นเพื่อนด้วยหลายๆ คน ถึงจะกล้าอ่าน แล้วตอนไปเข้าห้องน้ำ ก็ต้องเรียกให้ใครไปเป็นเพื่อน จนกระทั่งถึงตอนนอนก็ไม่กล้านอนคนเดียว ต้องให้คนอื่นมานอนด้วย หรือไม่ก็ไปนอนห้องคนอื่นอยั่งงี้ล่ะค่ะที่ชอบ แต่นั่นก็เป็นแค่ตอนเด็กๆ ตอนโตแล้วก็ทำอย่างงั้นไม่ได้แล้ว หรือถึงทำก็ไม่หนุกตื่นเต้นเหมือนตอนเด็กๆ อ่ะค่ะ



;)

แล้ว เรื่องริง คำสาปมรณะ สไปรัล Loop โลกพิสดารเหนือจริง และ Birthday ก็สนุกทุกเล่มค่ะ จากเรื่อง ผีวิดิโออาถรรพ์ กลายเป็นเชื้อไวรัส กลายเป็น โลกอีกนึงแนวๆปรัชญา และเล่มสุดท้าย เป็นเรื่องราวรายละเอียดที่ตัดออกไป ในเล่มก่อนหน้านั้น เผื่ออุดรอยรั่วให้สมบูรณ์ค่ะ




ในหนังสือชุด ริง  เพิ่งได้อ่านริงไปเล่มเดียวเอง   แล้วก็อ่านนานแล้วด้วย  ลืมไปจนจะหมดแล้ว   อยากอ่าน สไปรัล Loop  Birthday เหมือนกันอ่ะ    แต่ตอนที่อ่านริง  ไม่ค่อยหลอนอ่ะ 

ตอนนั้น  การบรรยายของหนังสือญี่ปุ่นจะเป็นแบบออกแนวน่าเบื่อนิดๆ



อ่าน Ring แล้วติดใจ เลยไปหาเล่ม 2 คือ Spiral มาอ่าน แต่ไม่สนุกเหมือน Ring การบรรยายน่าเบื่อจริงๆ เหมือนที่น้องกาฬรหัสย์บอก ในเล่ม Ring ยังไม่ค่อยน่าเบื่อเท่าไหร่ แต่พอเริ่มเดาได้ว่ามันคือมุขเก่ารีไซเคิลจดหมายลูกโซ่นั่นเอง คนเขียนหลอกเราไม่ได้แล้วก็เลยอ่านแล้วเริ่มเบื่อนิดๆ แต่ Spiral นี่เบื่อสุดๆ ใส่ความรู้เชิงวิชาการเข้ามามากเกินไป และไม่มีศิลปะในการสอดแทรกเลยกลายเป็นเหมือนยัดเยียด ก็เลยน่าเบื่อ

แต่แค่ Ring นี่ พี่ก็หลอนสุดๆ แล้วล่ะค่ะ

นอกจากไม่ชอบพวกเรื่องผีๆ โดยตรงแล้ว ก็ไม่ชอบพวกหนังโรคจิตโหดๆ อย่าง Psycho พวกที่เลือดสาดกระจายด้วยอ่ะค่ะ

แต่จะชอบเป็นพวกหนังสะท้านขวัญมากกว่า โหดลึกๆ โหดเงียบๆ อ่ะค่ะ

แล้วก็พอดีตอนนี้ดันมีเรื่องจริงๆ เกิดขึ้น จนแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงได้ ทำเอาขนพองสยองเกล้าไปเลย คือข่าวที่พ่อชาวออสเตรีย ขังลูกสาวไว้ในห้องลับใต้ดินในบ้านของตัวเองนาน 24 ปี และข่มขืนลูกสาวจนมีลูกด้วยกัน 7 คนอ่ะค่ะ โดยที่ไม่มีใครระแคะระคายเลยซักนิด ไม่ว่าจะเมียตัวเอง ซึ่งเป็นแม่ของลูกสาวที่ถูกขัง ที่อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกับที่ขังลูกสาว หรือเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก็ไม่เคยมีใครเห็นพิรุธของอีตาแก่โรคจิตคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่ข่าวบอกว่า บ้านหลังนั้น ซึ่งตอนนี้ถูกนักข่าวเรียกว่า "บ้านสยองขวัญ" ไปแล้ว ตั้งอยู่บนถนนที่พลุกพล่านจอแจ มีร้านค้าตั้งอยู่เต็มถนนด้วยซ้ำ

อ่านข่าวแล้ว สยองมากๆ เลยค่ะ ทำให้นึกถึงหนังยุโรปเรื่องนึงที่เคยดูนานแล้ว คลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะเป็นหนังออสเตรียซะด้วยสิคะ เป็นเรื่องผู้ชายแก่วัยกลางคน จับเด็กสาวมาฝังทั้งเป็นใต้บ้านของตัวเอง แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีเมียมีลูกสาวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นนั่นแหละ

แล้วก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีข่าวสยองที่เกิดขึ้นที่ออสเตรียเหมือนกัน ที่มีเด็กสาวคนนึง หนีออกมาจากการถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินที่ถูกลักพาตัวไปขังนานเกือบ 10 ปีตั้งแต่เด็กๆ อ่ะค่ะ โดยที่คนลักพาตัวก็ไม่ได้ทำอะไร พาไปขังไว้อย่างงั้นเองอ่ะ ไม่รู้เพราะอะไร เลยคิดว่า ผู้ชายประเทศนี้เขาเป็นอะไรกันไปก็ไม่รู้ ทำไมชอบจับเด็กสาวไปขังไว้ในห้องใต้ดิน แถมสะท้อนออกมาแม้แต่ในหนังด้วย สยองสุดๆ จริงๆ



;)


แล้วรู้ว่าวรรณกรรมสยองขวัญเรื่องไหนที่สนุกๆ บอกนานะจังบ้างนะคะ นานะจังจะได้ไปหามาอ่าน



เคยมีหนังสือสยองขวัญของญี่ปุ่นที่อ่านนานแล้ว รู้สึกจะชื่อหนังสือว่า "สยองขวัญ" นะคะ แต่งโดยเอโดงาวะ รัมโป คนแต่งคนนี้ชอบเอ๊ดการ์ อัลแลน โป (ที่แต่งเรื่อง The Black Cat ที่เราเคยเอาที่แปลไว้เล่นๆ ให้นานะจังอ่านที่บล๊อกเราน่ะค่ะ) มากๆ ถึงขนาดตั้งนามปากกาตัวเองคล้ายๆ กับโปเลย หนังสือ "สยองขวัญ" นี่ เป็นรวมเรื่องสั้นนะคะ แต่ละเรื่องอ่านแล้วสะท้านขวัญ ยะเยือกมาก ไม่มีเลือดสาดกระจายที่เราไม่ชอบ รู้สึกจะมี 2 เล่ม แต่อีกเล่มชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว รู้สึกจะแปลโดย ผุสดี นาวาวิจิตร คนแปลเรื่องโต๊ะโตะจังอ่ะค่ะ

เท่าที่อ่านหนังสือประเภทที่จัดว่าเป็นสยองขวัญมา (แต่ก็อ่านน้อยมากๆ) ก็ประทับใจสยองขวัญของเอโดงาวะ รัมโป กับ The Black Cat ของเอ๊ดการ์ อัลแลน โป นี่แหละค่ะ มากกว่า Ring และเรื่องอื่นๆ (ซึ่งให้นึกตอนนี้ นึกไม่ออกเลย นึกได้แต่ 2 เรื่องที่บอกไปอ่ะค่ะ)

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 05:33:02 PM

เพิ่มเติมอีกหน่อย ชอบเรื่องแปลแนวระทึกขวัญ แบบที่เป็นเรื่องสั้นแนวหักมุมอ่ะค่ะ อย่าง The Black Cat ก็ใช่ แล้วก็ที่มนันยาแปลน่ะค่ะ แล้วก็มีของนักเขียนไทยที่เป็นเภสัชกรชื่ออะไรน้า อ้อ! สรจักรน่ะเอง (แต่ว่าหลายเรื่องเขาเอาเค้าเรื่องมาจากเรื่องสั้นระทึกขวัญหักมุมของฝรั่งนะ บางเรื่องมนันยาก็เอามาแปลด้วย) ส่วนมากชอบอ่านเป็นหนังสือมากกว่าดูหนัง แต่หนังแนวนี้ที่เคยดูแล้วชอบก็มี The Sixth Sense อีกเรื่องนึงรู้สึกจะชื่อ The Hand That Rocks the Cradle ส่วนเรื่องใหม่ๆ พวกหนังเกาหลีนี่ ไม่ได้ดูเลย

แล้วก็ชอบแนวแบบแดนสนธยานี่ จัดว่าสยองขวัญด้วยมั้ย แต่มันก็สะท้าน ยะเยือก เสียวสันหลังเหมือนกันนะ เวลาวันหยุด ช่อง 3 จะชอบมีละครจบในตอนแนวๆ แดนสนธยา พร้อมๆ กับสอนใจด้วย แบบฟ้ามีตาของช่อง 7 อ่ะค่ะ แต่นำเสนอด้วยวิธีต่างกัน และเราว่า ของช่อง 3 ทำได้น่าสนใจและทำดีกว่ามากมาย (แต่บางตอนก็โหดมากอ่ะค่ะ) แต่ฟ้ามีตาน่าเบื่อมาก (ออกนอกเรื่องอีกแย้วว)

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: nanajung ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 10:56:00 PM
พี่อ่าน สยองขวัญของ เอโดงาวะ รัมโปด้วยเหรอคะ นานะจังก็อ่านค่ะ
ชอบมากเลย โดยเฉพาะคดีสุดท้าย มีวิธิการคิดที่ที่จะฆ่าคนในหลากหลายรูปแบบที่แนบเนียนและเลือดเย็น ถือเป็นการเขียนนวนิยายสืบสวนชั้นครูทีเดียว จนนานะจังคิดว่า นามสกุล ของ โคนัน เอโดคาว่า โคนัน เอามาจาก เอโดงาวะ รัมโป บวกกับโคนัน ดรอย ที่แต่งเชอร์ล็อกโฮมรึป่าว น้า
เรื่องที่ คินดะอิจิ ที่น้องการบอก ทำเป็นหนัง แล้วไม่ยอมฉาย ใช่เรื่อง หน้ากากร้อยศพรึป่าวจ๊ะ
ถ้าใช้ มันเป็นวรรณกรรมแปล สมัยสงครามโลก ใช้ชื่อตอนว่า คดีฆาตรกรรม ตระกูลอินุงามิจ้ะ
คนสืบ คดี คือ คินดะอิจิ โคสุเกะ ปู่คินดะอิจิ ฮาจิเมะ ซึ่งอยู่ในการ์ตูน ที่อาจารย์ซาติ เขียนไว้
และ อาจารย์ คานาริเป็นคนวาด และยังวาดอยู่ในเรื่องนักสืบคิว แต่คนเขียนคนละคนกับ คิดดะอิจิ
เรื่องจูออน นานะจังชอบ กว่า ริงอีกค่ะ คือสำนวนการเล่าเรื่อง น่าติดตามกว่ากันเป็นไหนๆ
และก็หลอนได้ใจดี ชอบ จูออนทั้งสองเล่มเลย ก่อนที่นานะจังจะอ่านเรื่องริงคำสาปมรณะ นานะจังเคยดูที่เป็นซีรีย์ ญี่ปุ่นไอทีวีเอามาฉายอ่ะค่ะประมาณ 3ทุ่มกว่า ๆก็ต้องเรียกมามาใกล้ๆ แล้วกะระยะห่างจากโทรทัศน์ไกลพอสมควร เพราะหลอนมาก ถึงมากที่สุด น่ากลัวกว่าที่ฝรั่งเอามาทำหลายเท่าค่ะ ในหนังนี่จะรวม เนื้อหาสำคัญทั้ง 3 เล่มไว้ด้วยกันเลยแต่จะไม่ค่อยเหมือนในหนังสือนะคะ จะเหมือนก็เฉพาะเล่มหนึ่งเท่านั้น คือในเรื่องเค้าเขียนบทให้ ไม เป็น  น้องสาว ทาคายามะ
ซึ่งทั้งสองคนเป็น ลุกชายและลูกสาว ของ ซานาโกะ น่ะค่ะ ซึ่งตามหนังสือไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย สำหรับหนังผีก็ชอบดูอยู่หลายเรื่องค่ะ อย่าง หนังผีของไทย ที่คิดว่าสร้างได้ดีมากๆก็เรื่อง ชัตเตอร์ กับ เรื่อง แฝด บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดจนฝรั่งงต้องขอเอาไป ทำ ส่วหนังผี ของฝรั่ง ก็ชอบอยู่หลายเรื่องค่ะ แต่ที่ชอบที่สุด จำชื่อเรื่องไม่ได้อ่ะ ที่นิโคล คิดแมนเล่น แถมเรื่องนี้ได้รับรางวัลดารานำหญิงด้วยอ่ะ เรื่องประมาณว่า ผู้หญิงคนนึงต้องพาลุก ย้ายไปอยุ่คฤหาสผีสิง หลังจากที่สามีตายในสงคราม แต่สุดท้ายหักมุกกลับกลายเป็นว่าเธอและลูกๆเป็นผีซะเอง เรื่องนี้ดังมากหลายคนน่าจะเคยดูนะคะ  ถ้าเป็นอีกเรื่องที่ชอบ ก็ The Sixth Sence เหมือนพี่ galdewis เลยค่ะ
ละครที่ดูตอนเด็กๆที่หลอนสุด ก็เรื่อง ตุ๊กตาจ๋า หนูอยากกลับบ้านไรเนี่ยแหละ
ตอนนั้น แม่ซื้อตุ๊กตา ให้ ชื่อน้องปูเป้ เหมือนตุ๊กตาในละครเรื่องนี้เลยอ่ะ เลยกลัวมากจนไม่กล้าเล่นเลย และทุกวันนี้ก็ยังกลัวตุ๊กตาแบบนั้นอยู่เลยอ่ะ
  แต่นานะจังไม่ชอบ เรื่องแนวฆ่าฟันกันสยอง เลือดสาด หรือ ตามฆ่ากันอ่ะ มีอยู่เรื่องนึงหลวงตัวไปดู เกมส์จิ๊กซอร์อะไรเนี่ยแหละ อะไรจะสยองได้ขนาดนั้น ดูแล้วอาเจียนมาก ทำออกมาได้ไง คนทำยังมีจิตใจเป็นมนุษย์อยู่รึป่าวไม่รู้อ่ะ ดีนะ ที่เป็นหนังฝรั่ง เพราะคนไทยคงทำหนังเสืฃ่อมทรามแบบนั้นไม่ได้หรอก
เรื่องข่าวที่ ฝรั่งช่าวออสเตรเลียนานะจังก็ได้ยินผ่านค่ะ ว่ามีการขังลูกตัวเงอไว้ที่ห้องใต้ดินนานถึง 24 ปี อยู่รอดมาจนขนาดนี้ได้ไงเนี่ย แต่ไม่ทราบว่า เค้าข่มขืนลุกสาวตัวเองจนมีลูกตั้ง7 คน
ทำมนุษย์ถึงได้จิตใจเสื่อมทรามขนาดนี้ก็ไม่รู้อ่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 27, 2008, 09:10:19 PM

มาดันดาราซะหน่อย ตกลงมาอยู่หน้า 2 ซะแล้นน

อยากถามว่า นอกจากนิยายหรือเรื่องประเภทเรื่องแต่งแล้ว งานเขียนประเภทอื่นๆ ที่โดนใจมีเล่มไหนกันอีกมั่งคะ

พี่ก่อนนะ ชอบ โครงกระดูกในตู้ ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มากๆ แล้วก็ ประวัติศาสตร์อยุธยา ที่เขียนโดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จำชื่อแน่นอนไม่ได้ เพราะอ่านนานแล้วอ่านที่ห้องสมุด 2 เล่มนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่อ่านสนุกมากๆ โดยเฉพาะเล่มแรก ตลกมากด้วย อ่านแล้วต้องถอนใจด้วยความทึ่งคนเขียนอยู่ในใจ

มีใครมีหนังสือที่เป็นสาระแต่ว่าอ่านสนุกไม่น่าเบื่อมาแนะนำบ้างมั้ยคะ อยากอ่านอ่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ พฤษภาคม 27, 2008, 09:17:59 PM

มาดันดาราซะหน่อย ตกลงมาอยู่หน้า 2 ซะแล้นน

อยากถามว่า นอกจากนิยายหรือเรื่องประเภทเรื่องแต่งแล้ว งานเขียนประเภทอื่นๆ ที่โดนใจมีเล่มไหนกันอีกมั่งคะ

พี่ก่อนนะ ชอบ โครงกระดูกในตู้ ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มากๆ แล้วก็ ประวัติศาสตร์อยุธยา ที่เขียนโดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จำชื่อแน่นอนไม่ได้ เพราะอ่านนานแล้วอ่านที่ห้องสมุด 2 เล่มนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่อ่านสนุกมากๆ โดยเฉพาะเล่มแรก ตลกมากด้วย อ่านแล้วต้องถอนใจด้วยความทึ่งคนเขียนอยู่ในใจ

มีใครมีหนังสือที่เป็นสาระแต่ว่าอ่านสนุกไม่น่าเบื่อมาแนะนำบ้างมั้ยคะ อยากอ่านอ่ะ



กันย์ชอบหนังสือของวินทร์ เลียววารินทร์ มั่กมากเลยอ่ะค่ะ
สนุก แถมมีสาระสอดแทรกมากมาย ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สรุปวิทนร์เค้าแต่งเก่งมากๆเลยอ่ะค่ะ

ส่วนใหญ่หนังสือวินทร์จะเป็นเรื่องสั้น หักมุม
แต่ที่ฮาสุดๆ(ไม่คิดว่าวินทร์จะแต่งแนวนี้) ก็เห็นจะเป็น เรื่อง"เสี่ยวนักสืบ"อ่ะค่ะไม่รู้เคยอ่านกันยัง?
ตอนนี้มีถึงเล่มสามแล้ว
มีเล่มคดีผีนางตะเคียน(มีเรื่องสั้นหลายๆเรื่องในนั้นไม่ใช่มีแต่คดีนี้คดีเดียว)
เล่มคดีฆาตกรรมกลางทะเล(มีเรื่องสั้นหลายๆเรื่องในนั้นไม่ใช่มีแต่คดีนี้คดีเดียว)
และเล่มล่าสุด ฆาตกรรมจักราศี (ว่าด้วยเรื่องการฆาตกรรมนักร้องในอดีต)

รับประกันสนุกทุกเล่มเลยค่ะ ใครที่ชอบอ่านโคนัน หรือหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน ลองมาอ่านดู
หรือใครชอบอ่านเรื่องขำๆสบายๆก็อ่านดูได้ค่ะ เล่มนี้ไม่เครียด
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 28, 2008, 11:29:06 AM

มาดันดาราซะหน่อย ตกลงมาอยู่หน้า 2 ซะแล้นน

อยากถามว่า นอกจากนิยายหรือเรื่องประเภทเรื่องแต่งแล้ว งานเขียนประเภทอื่นๆ ที่โดนใจมีเล่มไหนกันอีกมั่งคะ

พี่ก่อนนะ ชอบ โครงกระดูกในตู้ ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มากๆ แล้วก็ ประวัติศาสตร์อยุธยา ที่เขียนโดยอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จำชื่อแน่นอนไม่ได้ เพราะอ่านนานแล้วอ่านที่ห้องสมุด 2 เล่มนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่อ่านสนุกมากๆ โดยเฉพาะเล่มแรก ตลกมากด้วย อ่านแล้วต้องถอนใจด้วยความทึ่งคนเขียนอยู่ในใจ

มีใครมีหนังสือที่เป็นสาระแต่ว่าอ่านสนุกไม่น่าเบื่อมาแนะนำบ้างมั้ยคะ อยากอ่านอ่ะ



กันย์ชอบหนังสือของวินทร์ เลียววารินทร์ มั่กมากเลยอ่ะค่ะ
สนุก แถมมีสาระสอดแทรกมากมาย ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สรุปวิทนร์เค้าแต่งเก่งมากๆเลยอ่ะค่ะ

ส่วนใหญ่หนังสือวินทร์จะเป็นเรื่องสั้น หักมุม
แต่ที่ฮาสุดๆ(ไม่คิดว่าวินทร์จะแต่งแนวนี้) ก็เห็นจะเป็น เรื่อง"เสี่ยวนักสืบ"อ่ะค่ะไม่รู้เคยอ่านกันยัง?
ตอนนี้มีถึงเล่มสามแล้ว
มีเล่มคดีผีนางตะเคียน(มีเรื่องสั้นหลายๆเรื่องในนั้นไม่ใช่มีแต่คดีนี้คดีเดียว)
เล่มคดีฆาตกรรมกลางทะเล(มีเรื่องสั้นหลายๆเรื่องในนั้นไม่ใช่มีแต่คดีนี้คดีเดียว)
และเล่มล่าสุด ฆาตกรรมจักราศี (ว่าด้วยเรื่องการฆาตกรรมนักร้องในอดีต)

รับประกันสนุกทุกเล่มเลยค่ะ ใครที่ชอบอ่านโคนัน หรือหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน ลองมาอ่านดู
หรือใครชอบอ่านเรื่องขำๆสบายๆก็อ่านดูได้ค่ะ เล่มนี้ไม่เครียด



กาฬก็ชอบคุณ วินทร์ เลียววาริณ  มากๆ เลย   แต่ไม่ค่อยได้ติดตามหนังสือเท่าไหร่   เคยเจอที่งานหนังสือครั้งหนึ่ง  ลุคเหมือนคุณหมอเลย

ที่บ้านมีอยู่ 2 เล่ม  คือ  เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว   กับ  จรูญจรัสรัศมีดาว พร่างพร้อย

ในเดือนช่วงดวงเด่นฟ้า   จะมีเรื่องสั้นเรื่องนึงที่กาฬชอบมากๆ เรื่อง  ทัวร์สยาม 4001

เป็นงานเขียนที่เล่าเรื่องราวในปี 4001 ในอนาคต  ว่าตอนนั้น ประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง    ออกแนวเสียดสีว่าหลังจากน้ำท่วมจากปรากฏการณ์เรือนกระจกครั้งใหญ่  ทำให้พื้นที่ของประเทศไทยหายไปเป็นจำนวนมาก    เมืองหลวงอยู่ที่บุรีรัมย์   

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยยังคงขึ้นชื่อ   โดยเฉพาะทะเลทรายในบริเวณภาคเหนือ   ทะเลอันดามันที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นไข่มุกดำแห่งเอเชีย  เพราะน้ำทะเลเป็นสีดำจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม    วัดพระแก้วที่งดงามอยู่ภายใต้หิมะที่ปกคลุมอยู่ตลอดปี   

เป็นการเสียดสีมนุษย์ในปัจจุบันที่ทำลายธรรมชาติ   อ่านแล้วก็คาดว่า ประเทศไทยอาจจะได้เป็นอย่างนี้จริงๆ ในอนาคต
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 28, 2008, 08:28:13 PM

น้องกันย์กับคุณกาฬรหัสย์พูดถึงหนังสือวินทร์ซะทำให้รู้สึกอยากอ่านขึ้นมาเลย เคยอ่านอยู่เล่มเดียว ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน มั้ง ก็ชอบนะคะ แต่ไม่ถึงกับประทับ รู้สึกเขาจะเป็นนักโฆษณามาก่อน หรือว่ายังเป็นอยู่ ใช่มั้ยคะ รู้สึกว่าเป็นคนมีความคิดที่น่าสนใจอ่ะค่ะ แต่หนังสือเขาเป็นร้อยกรองเหรอคะ ชื่อหนังสือถึงเพราะซะขนาดนั้น

เคยอ่านหนังสือชื่อ เรื่องประหลาดในปราสาท หรือไงเนี่ยแหละค่ะ จำชื่อคนเขียนไม่ได้ จำได้แต่เป็นดร. รู้สึกจะชื่อดร. บรรพต มั้งคะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆ หรือโหดเหี้ยมเข้าขั้นสยดสยองของบรรดากษัตริย์หรือชนชั้นสูงของชาติตะวันตกอ่ะค่ะ ปรากฏว่ามีบางเรื่องเป็นเรื่องชิงรักหักสวาทในราชสำนักยุโรป มีการทำเสน่ห์วางยาพิษฆ่ากันแบบง่ายๆ นึกถึงละครไทยพวกแรมพิศวาสขึ้นมาเลย เหมือนกันเปี๊ยบเลยค่ะ

แต่ในหนังสือเล่มนี้ทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง อ่านแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเหี้ยมโหดกันขนาดนี้ และผู้หญิงในเรื่องซึ่งเป็นเจ้าหญิงหรือสตรีสูงศักดิ์ สามารถทำชั่วได้ทุกอย่างอย่างที่อยากทำจริงๆ เพราะชนชั้นสูงสมัยโบราณนี่อยู่เหนือกฎหมาย เขาจะฆ่าใครหรือจะทำเสน่ห์ก็ทำได้ง่ายๆ โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่ทำล้วนแต่เป็นเจ้าหญิงหรือเลดี้สูงศักดิ์ จะโดนลงโทษก็ต่อเมื่อกษัตริย์เป็นคนจับได้เท่านั้น แล้วขนาดโดนจับได้ยังไม่ถูกลงโทษเลยก็มี แค่ถูกขังไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง ตายแบบไม่ทรมานเหมือนที่ทำคนอื่นเขาเลย อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว รู้สึกหดหู่มากๆ กับชีวิตพลเมืองบริสุทธิ์ที่ต้องถูกชนชั้นสูงฆ่าหรือทรมานยังไงก็ได้ เหมือนไม่ใช่คนเหมือนกันเลย เจ้าหญิงหรือเลดี้ในหนังสือเล่มนี้บางคนหน้าตาสวยมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจิตใจจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนั้น

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 28, 2008, 09:25:10 PM
เมื่อกี้พิมพ์ไปตั้งเยอะ  ฟ้าลง  หายไปหมดเลย (ลืมหมดเลยด้วย :()

เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว  กับ จรูญจรัสรัศมีดาว พร่างพร้อย  เป็นงานเขียนเรื่องสั้น นวนิยายธรรมดานี่แหละค่ะ  แต่ชื่อหนังสือคล้องจองกัน  เพราะมากๆ   นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่  ทำให้กาฬสนใจตั้งแต่แรกเห็น  เพราะชื่อเรื่องดึงดูด



เรื่องประหลาดในปราสาท ดูน่าอ่านนะคะ  กาฬก็อยากอ่านเหมือนกัน   เคยอ่านๆ ผ่านๆมาบ้างว่า  เหตุการณ์ที่ทรมานคนอย่างโหดร้ายแบบนี้    ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพันธุกรรมที่ผิดปกติ   เนื่องจากชนชั้นสูงในสมัยโบราณไม่ว่าจะชาติไหน   นิยมให้คนในตระกูลหรือพี่น้องท้องเดียวกันแต่งงานกันเอง   
พันธุกรรมจึงสืบสานวนเวียนกันอยู่แค่นี้   ทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่โหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ

ที่จริง  การถูกขังตลอดชีวิตก็เป็นการทรมานเหมือนกันนะคะ  อาจจะไม่ได้ทรมานโดยตรง ไมได้เจ็บปวด   แต่ขาดอิสรภาพ   
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ พฤษภาคม 28, 2008, 09:46:50 PM

น้องกันย์กับคุณกาฬรหัสย์พูดถึงหนังสือวินทร์ซะทำให้รู้สึกอยากอ่านขึ้นมาเลย เคยอ่านอยู่เล่มเดียว ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน มั้ง ก็ชอบนะคะ แต่ไม่ถึงกับประทับ รู้สึกเขาจะเป็นนักโฆษณามาก่อน หรือว่ายังเป็นอยู่ ใช่มั้ยคะ รู้สึกว่าเป็นคนมีความคิดที่น่าสนใจอ่ะค่ะ แต่หนังสือเขาเป็นร้อยกรองเหรอคะ ชื่อหนังสือถึงเพราะซะขนาดนั้น


ป่าวหรอกค่ะ เป็นร้อยแก้วนี่แหละ ส่วนใหญ่งานของวินทร์จะเป็นเรื่องสั้นหักมุมอ่ะค่ะ หนุกมากๆจิงๆขอบอก

list
สมุดปกดำกับใบไม้สีแดง (เรื่องสั้นแนวหักมุม) เล่มนี้อ่านแล้วหนุกมากกก และดังมากๆด้วยตีพิมพ์หลายครั้งสุดๆ
อาเพศกำสรวล (เรื่องสั้นแนวทดลอง) เล่มนี้ก็อ่านแล้วหนุกมากมายเหมือนกัน
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน (รวมเรื่องสั้นรางวัลซไรต์) อันนี้เคยอ่านนานละแบบยืมห้องสมุดรร.อ่าน ให้แง่คิดดีค่ะ
ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน (นิยายอิงประวัติศาสตร์สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆจนถึงเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองหลายๆครั้ง) อ่านแล้วๆๆ ชอบมากมาย ทำให้ได้รู้เรื่องเหตุการณ์สำคัญทาง ปวส.หลังปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครองหลัง 2475
ปีกแดง (นิยายรัก ผจญภัย สืบสวนสอบสวน หักมุม) โฮ่..อันนี้ก็หนุกมั่กมากเรยยจร้าชอบแนวสืบสวนสอบสวนอยู่แล้น
เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว และจรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย (รวมเรื่องสั้นแนวไซไฟเล่ม1-2) เล่มนี้สุดยอดแห่งจินตนาการสนุกมากมาย
ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล (เป็นหนังสือที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับมนุษย์และจักรวาล ศาสนา ศีลธรรม ปรัชญา บิ๊กแยง ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาว ความเชื่อ โหราศาสตร์ ฯลฯ) สรุปสนุก+ให้แง่คิดมากมาย
หลังอานบุรี (กัดการเมืองไทยอย่างมีอารมณ์ขัน) เล่มนี้ยังมะได้อ่าน วางแพลนจาซื้ออยู่
อำ (ความจิงชื่อมีสระอำตัวเดียวไม่มีอ.อ่าง แต่ในที่นี้พิมมะงั้นได้) (เป็นการแต่งเรื่องโกหกให้เราจับผิด แล้วมาเฉลยทีหลัง)
ผู้ชายคนที่ตามรักเธอทุกชาติ (นิยายรัก+อิงประวัติศาสตร์+ไซไฟ+ล้อเลียน) เล่มนี้ยังไม่เคยอ่านเลย แต่น่าหามาอ่าน
ฆาตกรรมกลางทะเล นิยายนักสืบ พุ่มรัก พานสิงห์ ชุด1 (เป็นเรื่องสั้นเสี่ยวนักสืบ ฮามากมาย)
คดีผีนางตะเคียน นิยายนักสืบ พุ่มรัก พานสิงห์ ชุด2 (เรื่องสั้นเสี่ยวนักสืบ ฮาอีกมากมาย)
คดีฆาตกรรมจักราศี นิยายนักสืบ พุมรัก พานสิงห์ ชุด3 เรื่องนี้รอมาตั้ง5ปีแน่ะ กว่าจะคลอดเล่มสามออกมา ดีใจหลาย
หนึ่งวันเดียวกัน
วันแรกของวันที่เหลือ
โลกที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์
นิยายข้างจอ
รอยเท้าเล็กๆของเราเอง

สำหรับเรื่องที่ไม่ได้พิมพ์ข้างหลังคือยังไม่ได้อ่านหรือยังไม่อยู่ในความสนใจเท่าที่ควรจร้า อิอิ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 12:31:39 PM
เคยอ่านหนังสือชื่อ เรื่องประหลาดในปราสาท หรือไงเนี่ยแหละค่ะ จำชื่อคนเขียนไม่ได้ จำได้แต่เป็นดร. รู้สึกจะชื่อดร. บรรพต มั้งคะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดๆ หรือโหดเหี้ยมเข้าขั้นสยดสยองของบรรดากษัตริย์หรือชนชั้นสูงของชาติตะวันตกอ่ะค่ะ ปรากฏว่ามีบางเรื่องเป็นเรื่องชิงรักหักสวาทในราชสำนักยุโรป มีการทำเสน่ห์วางยาพิษฆ่ากันแบบง่ายๆ นึกถึงละครไทยพวกแรมพิศวาสขึ้นมาเลย เหมือนกันเปี๊ยบเลยค่ะ

แต่ในหนังสือเล่มนี้ทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง อ่านแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเหี้ยมโหดกันขนาดนี้ และผู้หญิงในเรื่องซึ่งเป็นเจ้าหญิงหรือสตรีสูงศักดิ์ สามารถทำชั่วได้ทุกอย่างอย่างที่อยากทำจริงๆ เพราะชนชั้นสูงสมัยโบราณนี่อยู่เหนือกฎหมาย เขาจะฆ่าใครหรือจะทำเสน่ห์ก็ทำได้ง่ายๆ โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่ทำล้วนแต่เป็นเจ้าหญิงหรือเลดี้สูงศักดิ์ จะโดนลงโทษก็ต่อเมื่อกษัตริย์เป็นคนจับได้เท่านั้น แล้วขนาดโดนจับได้ยังไม่ถูกลงโทษเลยก็มี แค่ถูกขังไปตลอดชีวิตเท่านั้นเอง ตายแบบไม่ทรมานเหมือนที่ทำคนอื่นเขาเลย อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว รู้สึกหดหู่มากๆ กับชีวิตพลเมืองบริสุทธิ์ที่ต้องถูกชนชั้นสูงฆ่าหรือทรมานยังไงก็ได้ เหมือนไม่ใช่คนเหมือนกันเลย เจ้าหญิงหรือเลดี้ในหนังสือเล่มนี้บางคนหน้าตาสวยมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจิตใจจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนั้น



ไปเจอมาค่ะ   คล้ายๆ ที่พี่ galdewis บอก  จะเหมือนกันรึเปล่าคะ

เค้าพูดถึง อลิซาเบธ  บาโทรี่

http://my.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=138659&chapter=2

พอดีกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับนางในวรรณคดีอยู่   แล้วไปเจอบทความนี้เฉยเลย  เลยลองอ่านๆ เอาความรู้ (และจะได้เอาไปแต่งนิยาย  จากที่โรคจิตอยู่แล้ว คงได้ซาดิสต์เข้าไปใหญ่)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 05:47:36 PM

คนเดียวกันค่ะน้องกาฬ แต่รายละเอียดของเรื่องต่างกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะหน้าตาของเคาน์เตสบาโธรี่
ในหนังสือที่อ่าน (นึกชื่อหนังสือกับคนแต่งออกแล้วค่ะ ชื่อ เรื่องประหลาดในราชสำนัก คนเขียน ดร. บรรพต กำเนิดศิริ) บอกว่าหน้าตาสวยงดงามมาก ตรงข้ามกับจิตใจที่อัปลักษณ์บิดเบี้ยว แล้วก็ชื่อของเคาน์เตสอ่านไม่เหมือนกัน ของที่น้องกาฬลิงค์มานี่ อ่านแบบอังกฤษเลย แต่ในหนังสือที่อ่านรู้สึกจะเรียกชื่อว่า แอซเซอเบธ เป็นราชนิกูลในราชวงศ์โปแลนด์หรือฮังการี่นี่แหละค่ะ จำไม่ค่อยได้แน่นอน เข้าใจว่าที่รายละเอียดของเรื่องไม่เหมือนกัน คงจะเป็นเพราะเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมา แบบนิทานตำนานพื้นบ้านของเราเหมือนกัน เพราะมันเป็นเรื่องโบราณมากแล้ว ประมาณศตวรรษที่ 15-16 นู่นอ่ะค่ะ


เสียดายน่าจะมีรายละเอียดตอนที่ถูกจับขัง 4 ปีด้วยว่า เธอทุกข์ทรมานยังไงบ้าง ยังไงก็ยังรู้สึกว่าได้รับโทษไม่สาสมกับที่ฆ่าสาวพรหมจรรย์ไปถึง 650 คนเลย แล้วยังไม่รวมคนอื่นๆ เช่นพวกสาวใช้ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของยัยเคาน์เตสนี่อีกอ่ะ อีกอย่างที่อยากรู้คือ ลูกที่คลอดตอนอายุ 13 นั่น ในเรื่องไม่พูดถึงเลย ฆ่าตายหรือเอาไปเลี้ยงไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายยังไม่รู้เลย


หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 06:10:03 PM
เมื่อกี้พิมพ์ไปตั้งเยอะ  ฟ้าลง  หายไปหมดเลย (ลืมหมดเลยด้วย :()



เคยเจอเหมือนกันค่ะ เซ็งเลย เดี๋ยวนี้เลยต้องพิมพ์ลงเวิร์ดไว้ในเครื่องและไม่ลืมเซฟไว้ก่อน แล้วค่อยก๊อปมาลงช่องคอมเมนท์อีกทีอ่ะค่ะ




เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว  กับ จรูญจรัสรัศมีดาว พร่างพร้อย  เป็นงานเขียนเรื่องสั้น นวนิยายธรรมดานี่แหละค่ะ  แต่ชื่อหนังสือคล้องจองกัน  เพราะมากๆ   นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่  ทำให้กาฬสนใจตั้งแต่แรกเห็น  เพราะชื่อเรื่องดึงดูด




ชื่อหนังสือ 2 เล่มนี้ใช้คำได้เพราะจริงๆ ค่ะ ทั้งสัมผัสอักษรสัมผัสในสัมผัสนอกพราวไปหมด ขนาดความยาวแค่ 2 วรรคเองนะ แต่เห็นน้องกันย์บอกเป็นนิยายไซไฟ เลยเอาไว้ก่อนค่ะ




เรื่องประหลาดในปราสาท ดูน่าอ่านนะคะ  กาฬก็อยากอ่านเหมือนกัน   เคยอ่านๆ ผ่านๆมาบ้างว่า  เหตุการณ์ที่ทรมานคนอย่างโหดร้ายแบบนี้    ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพันธุกรรมที่ผิดปกติ   เนื่องจากชนชั้นสูงในสมัยโบราณไม่ว่าจะชาติไหน   นิยมให้คนในตระกูลหรือพี่น้องท้องเดียวกันแต่งงานกันเอง   
พันธุกรรมจึงสืบสานวนเวียนกันอยู่แค่นี้   ทำให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่โหดร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ



ในแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ก็บอกไว้เหมือนกัน เช่นตระกูลของโวลเดอมอร์ที่แต่งงานกันแต่ญาติพี่น้องหรือคนในตระกูลที่ใกล้ชิดกันทางสายเลือดมากๆ เท่านั้น เพราะกลัวสายเลือดจะไม่บริสุทธิ์ เลยทำให้ลูกหลานที่เกิดมามีพันธุกรรมที่เสื่อมด้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งสติปัญญาและอารมณ์ ทำให้ตากับลุงจนถึงตัวโวลเดอมอร์เอง ต่างก็เป็นคนโหดร้ายเหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนา ส่วนแม่ของโวลเดอมอร์ก็ต้องเป็นสควิบที่ไม่มีความเป็นแม่มดเหลืออยู่ในตัวเลย

นึกชื่อหนังสือเล่มนั้นออกแล้วค่ะ ชื่อ เรื่องประหลาดในราชสำนัก เขียนโดย ดร. บรรพต กำเนิดศิริค่ะ เผื่อน้องกาฬอยากจะหามาอ่าน
 



ที่จริง  การถูกขังตลอดชีวิตก็เป็นการทรมานเหมือนกันนะคะ  อาจจะไม่ได้ทรมานโดยตรง ไมได้เจ็บปวด   แต่ขาดอิสรภาพ   




ก็ใช่อ่ะค่ะ แต่ไงเราก็ยังคิดว่าไม่สาสมกับความผิดของยัยเคาน์เตสจอมโหดนั่นอยู่ดี เมื่อคิดถึงการที่เขาทรมานและฆ่าคนอื่นจนตายมานับเป็นร้อยๆ คน ยังไม่นับความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ญาติพี่น้องของคนตายอีก โลกนี้ไม่ยุติธรรมค่ะ เพราะความยุติธรรมอยู่ที่คน หาใช่อยู่ที่ฟ้า

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 06:51:05 PM


ฆาตกรรมกลางทะเล นิยายนักสืบ พุ่มรัก พานสิงห์ ชุด1 (เป็นเรื่องสั้นเสี่ยวนักสืบ ฮามากมาย)




ไปอ่านแล้วค่ะ ฆาตกรรมกลางทะเล ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่า นิยายสืบสวนสอบสวนเรียกว่า รหัสคดี เพิ่งรู้จริงๆนะเนี่ย แล้วยังมี หรรษารคดี อีก

รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่ติดใจงานของวินทร์ (ตอนแรกนึกไม่ออกเพราะเรื่องประชาธิปไตยบนเส้นขนานก็อ่านนานแล้ว) พอมาอ่านเล่มนี้ถึงนึกออกว่า เพราะวินทร์เขียนเรียบมากๆ นี่เอง เป็นแนวเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ดีที่เป็นเรื่องสั้น ไม่งั้นหลับแน่ สไตล์เขาเป็นงี้เองใช่มั้ยคะ น้องกันย์ พี่รู้สึกว่ามันเหมือนบทโทรทัศน์มากไปหน่อยอ่ะ มีแต่ไดอาล็อก ขาดการบรรยายอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ที่จะทำให้คนอ่านคิดหรือรู้สึกตามน่ะค่ะ มันเลยรู้สึกเฉื่อยๆ ไปหน่อย แต่คงแล้วแต่คนอ่านแต่ละคนด้วย ว่าจะชอบสไตล์การเขียนแบบนี้หรือเปล่า

แต่ความเด่นที่เห็นชัดในงานของวินทร์ก็คือเรื่องความคิดสร้างสรรค์อ่ะค่ะ และทัศนะวิจารณ์ที่คมคายน่าคิดของเขา ที่มีต่อโลก สังคม และอาชีพบางอาชีพที่มีหัวโขนใหญ่โตแต่เบื้องหลังสกปรกโสมม อย่างนายตำรวจดับเพลิงยศใหญ่ ที่หน้าฉากเหมือนใจซื่อมือสะอาด แต่เบื้องหลังรับสินบนในเรื่อง ไฟแค้น พี่ชอบมากๆ เลย ตรงที่ในเรื่องบอกว่า ประวัติการทำงานของนายตำรวจคนนี้สะอาดหมดจดมากไม่มีด่างพร้อยเลยซักนิด ซึ่งมันตรงข้ามกับความเป็นจริงที่เขาทุจริตต่อหน้าที่และสร้างความร่ำรวยบนความทุกข์ยากของคนอื่น มันทำให้พี่นึกว่า วินทร์อยากบอกว่า อะไรที่พยายามแสดงตัวมันออกมาว่าเพอร์เฟ็คท์ นั่นแหละคือสัญญาณอันตราย เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ และหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ฆาตกรในหนังสือไม่ว่าจะอัจฉริยะแค่ไหนถูกจับได้ ก็คือวางแผนฆาตกรรมอย่างสมบูรณ์แบบเกินไป โดยไม่มีช่องโหว่หรือข้อบกพร่องเลย

ที่ชอบอีกเรื่องก็เรื่องเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ที่ใส่ร้ายหมอในอีกเรื่องนึง ซึ่งแม้เรื่องนั้นหมอจะไม่ได้เป็นฆาตกรโดยเจตนา แต่วินทร์ก็ถือโอกาสเสียดสีอาชีพนี้ ซึ่งเป็นอาชีพได้รับสถานภาพที่มีอภิสิทธิ์มากที่สุดอาชีพหนึ่งในสังคมไทย นอกเหนือจากตำรวจ ทหารและข้าราชการ

ส่วนเรื่องอารมณ์ขันพี่ยังไม่รู้สึกนะคะ หรือพี่เส้นลึกก็ไม่รู้อ่ะ แต่ว่าอ่านสไตล์การเขียนของเขาแล้ว พี่นึกถึงประภาส ชลศรานนท์เหมือนกันนะ นึกถึงเรื่อง ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ อ่ะ ยังนึกในใจเลยว่า เด็กถาปัดป่าวนี่ พอไปอ่านประวัติถึงโป๊ะเชะเลย เด็กถาปัดเหมือนประภาส อายุน่าจะใกล้ๆ กันด้วยหรือเปล่า

เรื่องสั้นในเล่มนี้ทั้งหมดพี่ชอบเรื่อง ไฟแค้น ที่สุดค่ะ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่อ่านแล้วได้อารมณ์ น้องกาฬชอบเรื่องไหนคะ

ตอนนี้อยากอ่านเรื่อง ปีกแดง กับ สมุดปกดำกับใบไม้สีแดง อ่ะค่ะ เพราะชอบเรื่องหักมุม ใช่เป็นสไตล์แบบเรื่องแปลของมนันยา หรือเรื่องสั้นหักมุมของสรจักร มั้ยคะ หรือว่าก็คล้ายกับเสี่ยวนักสืบ

ส่วนเดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว กับ จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย นี่หักมุมตั้งแต่ชื่อหนังสือเลยนะคะ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องสั้นหักมุมก็ตาม ชื่อเป็นกลอนคล้องจองซะหวานยังกับเรื่องรัก แต่ที่แท้เป็นไซไฟ  พอน้องกันย์บอกว่าเป็นเรื่องไซไฟ บวกกับชื่อหนังสือแล้ว ทำให้นึกไปถึงอวกาศนอกโลกดวงดาวทันทีเลยค่ะ แต่ว่าไซไฟนี่ต้องขอเอาไว้ก่อนค่ะ ไม่ค่อยถนัดเลย  :P

แล้วก็อยากอ่าน ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล อำ กับคดีฆาตกรรมจักราศี ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ น้องกันย์ น้องกาฬด้วยค่ะ ที่มาแนะนำหนังสือดีๆ ให้อ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 09:10:27 PM
เรื่องสั้นในเล่มนี้ทั้งหมดพี่ชอบเรื่อง ไฟแค้น ที่สุดค่ะ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่อ่านแล้วได้อารมณ์ น้องกาฬชอบเรื่องไหนคะ

แหะๆ  กาฬยังไม่ได้อ่านเล่มนั้นเลยค่ะ   จริงๆ แล้ว หนังสือของคุณวินทร์  กาฬอ่านแค่ 2 เล่มที่กาฬพูดถึงเท่านั้นเอง

เนื่องจากแนวที่คุณวินทร์เขียนไม่ใช่แนวที่กาฬชอบอ่าน   ออกแนวกาฬเมืองสังคม กาฬงงเลยไม่ค่อยสนใจ   แต่ตอนที่อ่านเรื่องเดือนช่วงฯ เป็นตอนที่กาฬจบ ม.6 พอดี    หมดหน้าที่ในการเฝ้าห้องสมุดพอดี    กาฬเลยไม่ได้หยิบงานเขียนอ่านมาลองอ่านด้วย

แต่พอมาเจอ จรูญจรัสรัศมีพราวฯ  ที่งานหนังสือ  ก็เลยซื้อ

อ่านทัวร์สยาม 4001 แล้วกลัวเหลือเกินว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้น  แต่มันก็อีกตั้ง 2000 ปี  ประเพณีประจำชาติคืองานคริสต์มาส   แม่น้ำเจ้าพระยาถูกถมเป็นถนน 10 เลน   ภาคเหนือกลายเป็นทะเลทราย    และที่สำคัญความงดงามเก็จแก้วประดับวัดพระแก้วจะถูกหิมะกลบไว้ทั้งปี ทั้งวัน   เนื่องจากหิมะตกตลอดทั้งปี   
ก็อยากให้มีหิมะตกในกรุงเทพเหมือนกัน   เพราะร้อนเหลือเกิน   เดินสยามหน้าหนาวเล้วใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวเป็นอะไรที่ดีสุดๆ ไปเลย (เพ้อไปใหญ่แล้วเรา :-*)

แต่จากปัญหาต่างๆ ของโลกตอนนี้   สงสัยว่าเหตุการณ์แบบนี้  จะเกิดเร็วขึ้นเป็นร้อยปี   เผลอๆ เป็นสิบปีที่จะถึงนี้มากกว่า


ช่วงนี้กาฬไม่ค่อยมีหนังสือดีๆ ให้อ่านเท่าไหร่เลยค่ะ   งบประมาณในการซื้อไม่พอ   ติดนิสัยยืมจากห้องสมุดโรงเรียนมาตลอด   หรืออยากอ่านเรื่องอะไรก็ลิสต์ลงไปในรายชื่อหนังสือเวลาอาจารย์จะซื้อหนังสือใหม่เข้าห้องสมุด
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 29, 2008, 09:16:52 PM
ในแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ก็บอกไว้เหมือนกัน เช่นตระกูลของโวลเดอมอร์ที่แต่งงานกันแต่ญาติพี่น้องหรือคนในตระกูลที่ใกล้ชิดกันทางสายเลือดมากๆ เท่านั้น เพราะกลัวสายเลือดจะไม่บริสุทธิ์ เลยทำให้ลูกหลานที่เกิดมามีพันธุกรรมที่เสื่อมด้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งสติปัญญาและอารมณ์ ทำให้ตากับลุงจนถึงตัวโวลเดอมอร์เอง ต่างก็เป็นคนโหดร้ายเหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนา ส่วนแม่ของโวลเดอมอร์ก็ต้องเป็นสควิบที่ไม่มีความเป็นแม่มดเหลืออยู่ในตัวเลย

นึกชื่อหนังสือเล่มนั้นออกแล้วค่ะ ชื่อ เรื่องประหลาดในราชสำนัก เขียนโดย ดร. บรรพต กำเนิดศิริค่ะ เผื่อน้องกาฬอยากจะหามาอ่าน


ไว้กาฬจะไปหามาอ่านนะคะ  ช่วงนี้อยากไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัง  เดินสยามบ่อยแต่ไม่ค่อยได้แวะเข้าไปแล้ว   เพราะไม่ได้มีเวลาเป็นวันๆ เหมือนเมื่อก่อน   

เมื่อก่อนนี้ไปรอน้องเรียนพิเศษ   กาฬเข้าไปยืนอ่านนิยายจบไปเป็นเล่มเลย (ต้องยืนค่ะ เพราะบริเวณที่เค้าให้นั่งอ่านหนังสือเต็ม)   

จริงๆ ด้วย  ในแฮร์รี่ก็มีเอ่ยถึงเรื่องพันธุกรรมของคนในตระกูล    กาฬเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับราชวงศ์พม่า  (จำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าเล่มไหน  เพราะจำได้ว่า ไปยืนอู้อ่านตอนจัดชั้นหนังสือ)  ที่มีการให้บุตรธิดาอภิเษกสมรสกันเองเพื่อขึ้นครองราชย์   พระนางชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว   
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 30, 2008, 07:45:52 AM


เรื่องสั้นในเล่มนี้ทั้งหมดพี่ชอบเรื่อง ไฟแค้น ที่สุดค่ะ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่อ่านแล้วได้อารมณ์ น้องกาฬ ชอบเรื่องไหนคะ



พี่ถามผิดคนค่ะ จริงๆ จะถาม น้องกันย์ น่ะค่ะ เพราะน้องกันย์อ่านเล่ม ฆาตกรรมกลางทะเล แล้ว ขอโทดทีค่ะ สับสน สับสน ขอบคุณน้องกาฬที่ตอบด้วยค่ะ

เดี๋ยววันนี้ถ้ามีเวลา จะไปคุยเรื่องเจเค ที่หน้าแฮร์รี่ พ็อตเตอร์นะคะ น้องกันย์ มีข่าวว่าเจเคเขียน prequel แฮร์รี่อ่ะค่ะ เดี๋ยวจะไปหาข้อมูลก่อน
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ พฤษภาคม 30, 2008, 08:09:30 AM
แฮะๆ จำไม่ได้ว่าชอบเรื่องไหร เพราะอ่านนานแล้วอ่ะค่ะ
สรุปก็ชอบหมดเลย อิอิ :)

กันย์ชอบอ่านแนวไซไฟนะ สนุกดี จินตนาการเหนือกาลเวลา
ถ้าใครชอบขอแนะนำเรื่อง Exodus (โลกใหม่ ณ ขอบฟ้า) นะคะ(ไม่รู้ว่าแนะไปแล้วยัง แนะใหม่ๆเผื่อลืม) เป็นนวนิยายเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้าว่าน้ำแข็งขั้วโลกละลายโลกเราถูกน้ำท่วมโลก แบบนับวันๆน้ำก็ยิ่งท่วมสูงขึ้นทุกทีๆ พวกประชาชนคนธรรมดา ก็ต่างหนีตายกันไปอยู่บนเกาะ โอกาสเห็นตะวันก็มีน้อยเพราะส่วนใหญ่จะเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนอง จนเหลือคนกลุ่มสุดท้ายเค้าหนีไปอยู่เกาะ แต่นับวันเกาะนั้นก็จะถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว แล้วนางเอกของเรื่อง(ประมาณวัยรุ่น) เค้าเข้าไปในโลกไซเบอร์อะไรสักอย่างเนี่ยแหละลืมแระ ก็ค้นพบว่ายังมีมนุษย์รอดตายและยังอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมากกว่าพวกเขาหลายสิบเท่า  ซึ่งก็คือมิตินูโลกอัจฉริยะ และเธอก็นำพาผู้คนและความหวังอันริบหรี่ไปสู่ดินแดนแห่งนั้น แต่เมื่อไปถึงก็ทำให้เธอได้พบกับโลกต่ำ เหมือนกับชนชั้นล่างที่ไม่มีสิทธิ์ไปอยู่ข้างบนกับคนฟ้า และสุดท้ายเธอก็ค้นพบว่ามีโลกใหม่ที่ไม่มีวันจมอยู่และเธอก็วางแผนหนีไป
 :oร่ายยาวเรย แอบงงกันป่ะเนี่ย
สรุปสนุกค่ะเล่มนี้
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 30, 2008, 06:05:35 PM


เนื่องจากแนวที่คุณวินทร์เขียนไม่ใช่แนวที่กาฬชอบอ่าน   ออกแนวกาฬเมืองสังคม กาฬงงเลยไม่ค่อยสนใจ   




ปกติพี่ก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องการเมืองหรือสังคมเท่าไหร่เหมือนกันค่ะ ก็เลยพลอยไม่ค่อยสนใจหนังสือแนวนี้ไปด้วย นอกจากว่าเขียนได้น่าสนใจจริงๆ เท่านั้น เห็นตอนนี้มีคนพูดถึงหนังสือการเมือง ลับ ลวง พราง กันมาก ก็เลยนึกสนใจขึ้นมาเหมือนกัน

แต่จริงๆ พี่ไม่เกี่ยงว่าเป็นเรื่องแนวไหน ขอให้เขียนสนุก อ่านได้ทั้งนั้น อย่างเช่น หนังสือของแดน บราวน์ พวกรหัสลับดาวินชี เทวากับซาตาน ถ้าดูจากชื่อเรื่องอย่างเดียวนี่ คงไม่คิดจะอ่านอ่ะ เพราะไม่สนใจเรื่องสืบสวนสอบสวน หรือศาสนา แต่มีคนบอกว่าสนุก ก็เลยลองอ่านดู แล้วจริงๆ ก็ไม่เคยสนใจประวัติศาสนาคริสต์หรือพระเยซูมาก่อนเลย แต่แดน บราวน์เขามีวิธีเล่าเรื่องและนำเสนอดี เลยพลอยได้ความรู้เรื่องคริสต์กับพระเยซูมาด้วย แต่ถ้าให้ไปอ่านประวัติศาสตร์เอง ไม่เอาอ่ะค่ะ เพราะอย่างงี้นี่เอง นักเขียนที่เขียนเก่งๆ มีกลวิธีเล่าเรื่องที่สนุก ถึงได้สำคัญนะคะ ถ้าไม่มีหนังสือสนุกๆ ให้อ่าน ชีวิตคงเฉาตายแน่ๆ




ก็อยากให้มีหิมะตกในกรุงเทพเหมือนกัน   เพราะร้อนเหลือเกิน   เดินสยามหน้าหนาวเล้วใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวเป็นอะไรที่ดีสุดๆ ไปเลย (เพ้อไปใหญ่แล้วเรา :-*)

แต่จากปัญหาต่างๆ ของโลกตอนนี้   สงสัยว่าเหตุการณ์แบบนี้  จะเกิดเร็วขึ้นเป็นร้อยปี   เผลอๆ เป็นสิบปีที่จะถึงนี้มากกว่า



เผลอๆ จะเป็นปีนี้ด้วยซ้ำไปนะคะ น้องกาฬ ก็หมอดูทายไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้เมืองไทยจะเห็นหิมะตกค่ะ ตอนปลายๆ ปี กำลังรอดูอยู่ค่ะ แต่ว่าขออย่าให้ต้องแลกกับเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงเลยอ่ะ เห็นข่าวที่พม่ากับจีนแล้ว หดหู่มากๆ ค่ะ คนตายเป็นเบือเลย น่ากลัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 30, 2008, 06:11:33 PM


กันย์ชอบอ่านแนวไซไฟนะ สนุกดี จินตนาการเหนือกาลเวลา




ดีจังที่มีแนวหนังสือที่ชอบชัดเจน พี่ไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร เวลาจะเลือกหนังสืออ่าน เลือกยากเหมือนกัน มันหาจุดอะไรที่จะเร้าความสนใจไม่เจอ เวลาไม่มีอะไรจะอ่าน เลยชอบหยิบหนังสือที่เคยอ่านแล้วชอบ มาอ่านซ้ำอีกอ่ะค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ พฤษภาคม 30, 2008, 07:18:05 PM


กาฬเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับราชวงศ์พม่า  (จำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าเล่มไหน  เพราะจำได้ว่า ไปยืนอู้อ่านตอนจัดชั้นหนังสือ)  ที่มีการให้บุตรธิดาอภิเษกสมรสกันเองเพื่อขึ้นครองราชย์   พระนางชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว   




ใช่เรื่อง พม่าเสียเมือง ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมชหรือเปล่าคะ จำชื่อได้แต่พระนางศุภยลัต เพราะชื่อเพราะมาก แต่จิตใจเหี้ยมโหดเหมือนเคาน์เตสบาโธรี่เลย กันตนาเคยเอามาสร้างเป็นละครด้วย จำได้ว่ามีชไมพร กับปรียานุชเล่น นานมากแล้วอ่ะค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 31, 2008, 10:55:58 PM


กาฬเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับราชวงศ์พม่า  (จำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าเล่มไหน  เพราะจำได้ว่า ไปยืนอู้อ่านตอนจัดชั้นหนังสือ)  ที่มีการให้บุตรธิดาอภิเษกสมรสกันเองเพื่อขึ้นครองราชย์   พระนางชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว   




ใช่เรื่อง พม่าเสียเมือง ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมชหรือเปล่าคะ จำชื่อได้แต่พระนางศุภยลัต เพราะชื่อเพราะมาก แต่จิตใจเหี้ยมโหดเหมือนเคาน์เตสบาโธรี่เลย กันตนาเคยเอามาสร้างเป็นละครด้วย จำได้ว่ามีชไมพร กับปรียานุชเล่น นานมากแล้วอ่ะค่ะ



เรื่องที่ ชไมพร กับ ปรียานุชเล่น  เกี่ยวกับพระนางศุภยลัตเหรอคะ   เคยอ่านเกี่ยวกับพระนางเหมือนกัน  แต่ว่าจำไม่ได้แล้ว   

ส่วนเรื่องที่เป็นละคร  จำได้ว่าชื่อ เพลิงพระนาง ค่ะ   ปรียานุชถูกวางยาพิษตาย    และเรื่องนี้ก็กล่าวไปถึงรุ่นลูกกันด้วย

ปิ่นมณีกับเรณุมาศ   น่าสงสารเรณุมาศมากๆ เลย   ที่ต้องเป็นบ้า  จำไม่ได้ว่าตอนหลังหายรึเปล่า

หนังสือเรื่อง พม่าเสียเมือง  ที่บ้านก็มีนะคะ   เคยซื้อมาอ่าน  แต่ว่าลืมไปหมดแล้ว  สงสัยต้องเอากลับมาอ่านใหม่อีกรอบ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 31, 2008, 11:02:57 PM
แฮะๆ จำไม่ได้ว่าชอบเรื่องไหร เพราะอ่านนานแล้วอ่ะค่ะ
สรุปก็ชอบหมดเลย อิอิ :)

กันย์ชอบอ่านแนวไซไฟนะ สนุกดี จินตนาการเหนือกาลเวลา
ถ้าใครชอบขอแนะนำเรื่อง Exodus (โลกใหม่ ณ ขอบฟ้า) นะคะ(ไม่รู้ว่าแนะไปแล้วยัง แนะใหม่ๆเผื่อลืม) เป็นนวนิยายเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้าว่าน้ำแข็งขั้วโลกละลายโลกเราถูกน้ำท่วมโลก แบบนับวันๆน้ำก็ยิ่งท่วมสูงขึ้นทุกทีๆ พวกประชาชนคนธรรมดา ก็ต่างหนีตายกันไปอยู่บนเกาะ โอกาสเห็นตะวันก็มีน้อยเพราะส่วนใหญ่จะเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนอง จนเหลือคนกลุ่มสุดท้ายเค้าหนีไปอยู่เกาะ แต่นับวันเกาะนั้นก็จะถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว แล้วนางเอกของเรื่อง(ประมาณวัยรุ่น) เค้าเข้าไปในโลกไซเบอร์อะไรสักอย่างเนี่ยแหละลืมแระ ก็ค้นพบว่ายังมีมนุษย์รอดตายและยังอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมากกว่าพวกเขาหลายสิบเท่า  ซึ่งก็คือมิตินูโลกอัจฉริยะ และเธอก็นำพาผู้คนและความหวังอันริบหรี่ไปสู่ดินแดนแห่งนั้น แต่เมื่อไปถึงก็ทำให้เธอได้พบกับโลกต่ำ เหมือนกับชนชั้นล่างที่ไม่มีสิทธิ์ไปอยู่ข้างบนกับคนฟ้า และสุดท้ายเธอก็ค้นพบว่ามีโลกใหม่ที่ไม่มีวันจมอยู่และเธอก็วางแผนหนีไป
 :oร่ายยาวเรย แอบงงกันป่ะเนี่ย
สรุปสนุกค่ะเล่มนี้



งงค่ะ  แหะๆ   แต่มันน่าสนุกจัง  กาฬก็ชอบอ่านแนวไซไฟ แฟนตาซี   แต่เรื่องนี้เป็นนิยายแปลใช่มั้ยคะ  ของใครแต่งเหรอ

ทำให้นึกถึงนวนิยายไทย  เรื่อง ต่างเวลา  ช่อง7 เคยเอามาทำเป็นละครสั้น  2 วันจบ   สนุกๆ มากๆ เลย  ผลงานเขียนของ ชลนิล  เป็นการกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย  ในช่วงเวลาเพียงแค่ 200 ปี   
ริยะ  พระเอกเป็นคนที่มาจากโลกอนาคตในอีก 100 ปีข้างหน้า นับจากปัจจุบัน   เพื่อมาตามหาต้นเกล็ดขจีไปผลิตเป็นอ๊อกซิเจนใช้  เนื่องจากโลกอนาคต   ไม่มีต้นไม้เหลืออยู่แล้ว    แต่สุดท้าย  ก็ไม่สามารถนำต้นเกล็ดขจีกลับไปได้  เพราะมันแตกสลายถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่ใช้ทรัพยากรอย่างไม่รู้คุณค่า

พระเอกนางเอกรอดตายกลับไปอยู่ในสมัยกรุงเทพ 100 ปีที่แล้ว ประมาณสมัยรัชกาลที่ 5   ที่มีวิถีชีวิตสงบร่มเย็น  ไม่เร่งรีบแข่งขัน  แล้วไม่แย่งอากาศกันหายใจ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ พฤษภาคม 31, 2008, 11:09:06 PM



ก็อยากให้มีหิมะตกในกรุงเทพเหมือนกัน   เพราะร้อนเหลือเกิน   เดินสยามหน้าหนาวเล้วใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวเป็นอะไรที่ดีสุดๆ ไปเลย (เพ้อไปใหญ่แล้วเรา :-*)

แต่จากปัญหาต่างๆ ของโลกตอนนี้   สงสัยว่าเหตุการณ์แบบนี้  จะเกิดเร็วขึ้นเป็นร้อยปี   เผลอๆ เป็นสิบปีที่จะถึงนี้มากกว่า



เผลอๆ จะเป็นปีนี้ด้วยซ้ำไปนะคะ น้องกาฬ ก็หมอดูทายไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า ปีนี้เมืองไทยจะเห็นหิมะตกค่ะ ตอนปลายๆ ปี กำลังรอดูอยู่ค่ะ แต่ว่าขออย่าให้ต้องแลกกับเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงเลยอ่ะ เห็นข่าวที่พม่ากับจีนแล้ว หดหู่มากๆ ค่ะ คนตายเป็นเบือเลย น่ากลัวจริงๆ


อาจจะเป็นอย่างนั้น  ทำไมมันเร็วอย่างนี้เนี่ย   ตอนนี้บางประเทศที่ไม่มีหิมะตกก็เริ่มมีแล้ว   มีคนทำนายให้ฟังเหมือนกันค่ะ  ไม่ใช่หมอดูชื่อดังอะไรหรอก   ทำนายว่าภายในปี 2 ปีจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมาก

ก็ขออย่าให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงเลย  อ่านมาเยอะจนจิตวิตก  แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้  ต้องดูสถานการณ์และปล่อยให้มันเป็นไป

(จริงๆ จะพูดเยอะกว่านี้  แต่กาฬลืม ไว้นึกได้เดี๋ยวมาต่อนะคะ)   
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มิถุนายน 01, 2008, 12:23:02 AM


กาฬเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับราชวงศ์พม่า  (จำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าเล่มไหน  เพราะจำได้ว่า ไปยืนอู้อ่านตอนจัดชั้นหนังสือ)  ที่มีการให้บุตรธิดาอภิเษกสมรสกันเองเพื่อขึ้นครองราชย์   พระนางชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว   




ใช่เรื่อง พม่าเสียเมือง ของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมชหรือเปล่าคะ จำชื่อได้แต่พระนางศุภยลัต เพราะชื่อเพราะมาก แต่จิตใจเหี้ยมโหดเหมือนเคาน์เตสบาโธรี่เลย กันตนาเคยเอามาสร้างเป็นละครด้วย จำได้ว่ามีชไมพร กับปรียานุชเล่น นานมากแล้วอ่ะค่ะ



เรื่องที่ ชไมพร กับ ปรียานุชเล่น  เกี่ยวกับพระนางศุภยลัตเหรอคะ   เคยอ่านเกี่ยวกับพระนางเหมือนกัน  แต่ว่าจำไม่ได้แล้ว   

ส่วนเรื่องที่เป็นละคร  จำได้ว่าชื่อ เพลิงพระนาง ค่ะ   ปรียานุชถูกวางยาพิษตาย    และเรื่องนี้ก็กล่าวไปถึงรุ่นลูกกันด้วย

ปิ่นมณีกับเรณุมาศ   น่าสงสารเรณุมาศมากๆ เลย   ที่ต้องเป็นบ้า  จำไม่ได้ว่าตอนหลังหายรึเปล่า

หนังสือเรื่อง พม่าเสียเมือง  ที่บ้านก็มีนะคะ   เคยซื้อมาอ่าน  แต่ว่าลืมไปหมดแล้ว  สงสัยต้องเอากลับมาอ่านใหม่อีกรอบ


จำไม่ค่อยได้แน่นอนอ่ะค่ะ น้องกาฬ ว่าเรื่องเพลิงพระนาง (นึกชื่อละครไม่ออกด้วย ขอบคุณที่บอกนะคะ น้องกาฬจำแม่นมาก) นี่ ดัดแปลงมาจากพม่าเสียเมืองหรือเปล่า หรือว่าดัดแปลงมาจากหนังสือเล่มอื่น จำได้แต่ว่า เพราะละครเรื่องนี้นี่แหละ ที่ทำให้อยากรู้เรื่องพระนางศุภยลัต ราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ผู้ทำให้ราชวงศ์สุดท้ายของพม่าถึงกาลล่มสลาย คือราชวงศ์อลองพญา ราชวงศ์เดียวกับที่ตีกรุงศรีอยุธยาจนกรุงแตกครั้งที่ 2 อ่ะค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) จนต้องแล่นไปซื้อหนังสือพม่าเสียเมืองมาอ่านซะเดี๋ยวนั้นเลย (แต่หนังสือไม่อยู่ซะแล้ว)


จำได้ว่าในละครเขาต้องดัดแปลงชื่อตัวละครในเรื่องไม่ให้ตรงกับชื่อจริงอ่ะค่ะ ก็คงกลัวกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแหละ พระนางศุภยลัตในละครคือลูกของชไมพรค่ะ รู้สึกว่าจะรับบทโดยวาสนา พูนผลนะคะ แต่ในละครนี่ ตัวเด่นไม่ใช่ศุภยลัต แต่คือตัวแม่ที่ชไมพรเล่น คือพระนางอเลนันดอ ในละครรู้สึกจะเปลี่ยนชื่อเป็นอนัญทิพย์อ่ะค่ะ (จำได้แม่นเพราะชื่อนี้เพราะมาก และจำได้ว่าตัวละครอื่นๆ ในเรื่องจะเรียกชไมพรว่า เจ้าทิพย์ เจ้าทิพย์) เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย ส่วนปรีชานุชเป็นมเหสีฝ่ายขวา หรือเป็นเมียหลวงนั่นเอง มีสันติสุขด้วย เล่นเป็นพระเจ้ามินดง (แต่ในละครจำไม่ได้ว่าใช้ชื่อว่าอะไร) พระราชบิดาของพระนางศุภยลัต

ปิ่นมณีก็คือศุภยลัตอ่ะค่ะ แต่เรณุมาศนี่ใครลืมแล้ว น้องสาวของปิ่นมณีหรือเปล่าคะ แต่แม่ไม่รักเพราะนิสัยดี แม่รักแต่ปิ่นมณีหรือศุภยลัต เพราะร้ายกาจเหมือนแม่ถูกใจแม่ จำได้ว่ามีกีต้าร์ ศิริพิชญ์เล่นเป็นลูกของปรียานุชมั้งคะ ส่วนพระเจ้าสีป่อ พระสวามีของศุภยลัต และกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า รู้สึกจะรับบทโดยอาร์ท พลังธรรม นามสกุลจำไม่ได้ซะแล้ว

ละครเรื่องนี้ตอนแรกสนุก พอตอนกลางชักอืดๆ ไม่ค่อยสนุก ตามสไตล์กันตนาเขาล่ะ ตอนกลางเลยไม่ค่อยได้ดู มาสนุกอีกทีตอนใกล้จบ คือตอนที่พม่ารบแพ้อังกฤษครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่จะถูกอังกฤษยึดเป็นอาณานิคมในที่สุด บอกตรงๆ ว่าดูเอาสะใจอ่ะค่ะ ได้เห็นสภาพราชสำนักพม่าในสมัยพระนางศุภยลัตที่มันเละเทะ องค์กษัตริย์เอาแต่บ้าออกหวยเพราะต้องการได้เงินจากราษฎรมากๆ เอาไปใช้บำรุงบำเรอความสุขส่วนตัว ส่วนอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือผู้หญิงคือ 2 แม่ลูกอนัญทิพย์กับปิ่นมณีจอมโหด

ในหนังสือพม่าเสียเมืองมีเล่าถึงตอนพระเจ้าสีป่อขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ ว่า ศุภยลัต(หรือปิ่นมณีในละคร) กับพระมารดา สั่งฆ่าพระญาติพระวงศ์จนเกือบหมดราชสำนักไม่เว้นแม้แต่เด็ก เพียงเพราะต้องการไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามชิงราชบัลลังก์ในภายหลัง วิธีการฆ่าก็แสนจะโหดร้ายทารุณ เล่าว่าเจ้านายองค์เล็กๆ ถูกจับสองขาแล้วเหวี่ยงฟาดพระเศียรกับกำแพงจนตายอ่ะ สยดสยองมาก ระหว่างที่กำลังฆ่าหมู่พระญาติพระวงศ์อยู่นั้น ศุภยลัตกับพระมารดากลัวว่าพระเจ้าสีป่อจะได้ยิน เพราะจริงๆ พระเจ้าสีป่อเป็นคนใจอ่อน เพราะก่อนครองราชย์ก็ผนวชเป็นพระอยู่ เลยต้องเอามโหรีมาเล่นดนตรีกลบเสียงร้องโหยหวนของคนที่ถูกฆ่า ซึ่งกว่าจะฆ่าหมดต้องใช้เวลาถึง 3 วัน 3 คืน น่ากลัยมาก

สุดท้ายตอนจบยิ่งสะใจเมื่ออังกฤษเข้ายึดครองพม่า จับตัว 2 แม่ลูกพระนางอเลนันดอหรืออนัญทิพย์กับพระนางศุภยลัตหรือปิ่นมณี กับพระเจ้าสีป่อเนรเทศไปอยู่อินเดีย อเลนันดอเพิ่งจะสำนึกผิด ว่าตัวเองเป็นคนทำให้ชาติล่มสลาย และยิ่งต้องเสียใจหนัก เมื่อได้เห็นว่าศุภยลัตลูกสาวสุดที่รัก กลับไร้ซึ่งสำนึกของความรักชาติบ้านเมือง และไม่ได้รู้สึกรู้สึกเลยว่าบ้านเมืองจะล่มสลาย แต่ยังคงสนใจแต่ความสุขสบายของตัวเอง คืออเลนันดอถึงจะร้ายกาจโหดเหี้ยมแต่ยังรักชาติ แต่ศุภยลัตกลับไร้จิตสำนึกโดยสิ้นเชิง ดูแล้วทั้งสะใจและสลดใจอ่ะค่ะ

อ้อ! อีกนิด ในหนังสือพม่าเสียเมืองรู้สึกว่าท่านอาจารย์คึกฤทธิ์จะเปรียบศุภยลัตเป็นซูสีไทเฮาแห่งพม่าอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มิถุนายน 01, 2008, 12:27:27 AM


ตอนนี้บางประเทศที่ไม่มีหิมะตกก็เริ่มมีแล้ว   

 


ใช่ค่ะ ได้ข่าวหลายที่เลยแต่จำไม่ได้ จำได้แต่อาร์เจนติน่า บอกหิมะตกครั้งแรกในรอบ 25 ปีอ่ะค่ะ คนดีใจออกไปเล่นหิมะกันใหญ่

ตอนนี้โลกกำลังเป็นอะไรไปแล้วไม่รู้อ่ะค่ะ ตอนนี้ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ แปรปรวนไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: kalrahud ที่ มิถุนายน 01, 2008, 06:18:03 PM
พี่ galdewis สับสนระหว่างกาฬกับพี่กันย์จริงๆ ด้วยอ่ะ


ตอนที่ดูเรื่องนี้ไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นประวัติศาสตร์รึเปล่า  ไม่ค่อยได้ดูประติดประต่อด้วยเพราะว่ามันฉายกลางวันวันธรรมดา

เรื่องของเรณุมาศนี่ คือน้องสาวของปิ่นมณีค่ะ  ถึงแม่จะรักไม่เท่ากัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นลูก  แต่ปิ่นมณีไม่เห็นว่าเป็นน้องเลย กะฆ่าให้ตาย   

ส่วนพระเจ้าสีป่อในเรื่อง ตอนแรกรักเรณุมาศค่ะ  ปิ่นมณีอิจฉาน้อง เลยทำเสน่ห์หรืออะไรซักอย่าง  พระเจ้าสีป่อก็เลยไปรักแล้วทิ้งเรณุมาศไป    แต่ทั้งปิ่นมณีกับเรณุมาศก็มีลูกนะคะ 



เรื่องของพระนางศุภยลัตมีส่วนคล้ายๆ กับ  พระนางปัทมสุดา แห่งเมืองมัณฑ์ ในเรื่อง รากนครา  เป็นช่วงที่ราชวงศ์พม่าล่มสลาย ถูกอังกฤษยึดครอง แล้วพระนางกับพระสวามีถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย   ตอนหลังพระนางปัทมาสุดาสำนึกได้ว่าตนเองทำให้บ้านเมืองล่มจมเพราะความเหลิงในอำนาจของตัวเอง
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HpJ ที่ มิถุนายน 01, 2008, 11:07:35 PM

เอาคำคมของคนรักหนังสือมาฝากกันค่ะ
พอดีไปค้นหนังสือเจอหนังสือเก่าที่เคยซื้อไว้นานละ(เกือบ8ปีได้มั้ง) เห็นว่าน่าสนใจดี ;)


"MEDECINE FOR THE SOUL"
"ยาสำหรับจิตวิญญาณ"

เป็นคำจารึกหน้าทางเข้าห้องสมุดเมืองอเล็กซานเดรีย อียิปต์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นห้องสมุดแห่งแรกของโลก ตั้งขึ้นเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว

"Reading is to the mind what exercise is to body"
"การอ่านจำเป็นสำหรับจิตใจ เช่นเดียวกัยการออกกำลังกายที่จำเป็นสำหรับร่างกาย"

จากคำกล่าวของ ริชาร์ด สตีล นักเขียนและนักการเมืองอังกฤษ

"We know that books are not a way of letting someone else think in our place : on the contrary. They are machines that provoke further thought."
"เรารู้ว่าหนังสือไม่ใช่วิธีการที่จะให้คนอื่นมาคิดแทนเรา : ในทางตรงกันข้าม มันคือเครื่องมือที่กระตุ้นให้เราคิดได้ไกลมากยิ่งขึ้น

จากคำกล่าวของ อัมเบอร์โต อีโค นักเขียนนวนิยาย และนักวิจารณ์ศิลปะวรรณคดีชาวอิตาลี

"The reading of all good books is like a conversation with the finest men of past centuries."
"การอ่านหนังสือดีๆทั้งหลาย ก็เหมือนกับการได้สนทนากับคนที่ดีที่สุดในหลายศตวรรษที่ผ่านมา"

จากคำกล่าวของ เอรเน่ เดคาร์ทส์ นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส

"Book are the quietest and most constant of friends; they are the most accessible and wisest of counsellors, and the most patient of teachers."
"หนังสืออคือเพื่อนที่เงียบที่สุด และซื่อสัตย์ที่สุด; พวกเขาเป็นที่ปรึกษาที่เข้าพบได้ง่ายที่สุด และฉลาดที่สุด และเป็นครูที่อดทนมากที่สุด"
จากคำกล่าวของ ชารลส์ ดับบลิว. อีเลียต เป็นนักการศึกษา(1983-1926)


วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เด๋วขยันๆจะมาโพสเพิ่มจร้า ;)
ปล.ชอบคำพูดสุดท้ายที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มิถุนายน 02, 2008, 06:30:25 AM


พี่ galdewis สับสนระหว่างกาฬกับพี่กันย์จริงๆ ด้วยอ่ะ




ขอโทดมากๆ เลยค่ะ จิงๆ ตอนนี้หายสับสนแล้วนะ แล้วตอนเขียนตอนนั้น ในใจก็นึกถึงว่ากำลังพูดกับน้องกาฬ ไม่ผิดคนแล้วด้วย แต่มือมันยังเขียน(พิมพ์)ผิดเหมือนเดิมอ่ะ คือร่างกายมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ไวเท่าความคิดอ่ะค่ะ คงเพราะรีบเขียนไปหน่อยด้วย แล้วก็แก่แล้วด้วย คนแก่นี่สมควร ให้อภัยนะคะ น้องกันย์ เอ๊ย! น้องกาฬ แหะแหะ เฮ้อ! ซับเหงื่อซะหน่อย :-[




เรื่องของเรณุมาศนี่ คือน้องสาวของปิ่นมณีค่ะ  ถึงแม่จะรักไม่เท่ากัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นลูก  แต่ปิ่นมณีไม่เห็นว่าเป็นน้องเลย กะฆ่าให้ตาย




ในละครเป็นน้องสาวเหรอคะ แต่เรื่องจริงรู้สึกจะเป็นพี่สาว ชื่อคล้ายๆ กันด้วย ศุภยคยี หรือไงนี่แหละค่ะ
   


เรื่องของพระนางศุภยลัตมีส่วนคล้ายๆ กับ  พระนางปัทมสุดา แห่งเมืองมัณฑ์ ในเรื่อง รากนครา  เป็นช่วงที่ราชวงศ์พม่าล่มสลาย ถูกอังกฤษยึดครอง แล้วพระนางกับพระสวามีถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย   ตอนหลังพระนางปัทมาสุดาสำนึกได้ว่าตนเองทำให้บ้านเมืองล่มจมเพราะความเหลิงในอำนาจของตัวเอง


แต่พระนางศุภยลัตนี่ไม่เคยสำนึกผิด เพราะว่าไม่เคยมีสำนึกรักชาติบ้านเมือง เนื่องจากเกิดมาก็สุขสบายมาตลอด คนที่สำนึกผิดคือพระมารดา พระนางอเลนันดอ หลังจากที่ถูกอังกฤษเนรเทศไปอยู่อินเดียทั้งพระเจ้าสีป่อ พระนางศุภยลัตและพระนางอเลนันดอ ศุภยลัตก็ไม่เคยสำนึกผิด และยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนเดิม จนพระมารดาซึ่งสำนึกเห็นความผิดของตัวเองแล้ว ที่ทำให้ชาติล่มสลาย ทนอยู่กับลูกสาวที่เคยเป็นคนโปรดไม่ได้ ต้องขออังกฤษย้ายกลับไปอยู่พม่า ส่วนศุภยลัตกับพระสวามีรู้สึกว่าจะอยู่อินเดียจนสิ้นพระชนม์อ่ะค่ะ สรุปว่า ศุภยลัตสุขสบายตลอดชีวิต แถมรู้สึกอายุจะยืนซะด้วย ช่าง The Bad Sleep Well จริงๆ เลย

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ มิถุนายน 02, 2008, 07:28:08 AM

เอาคำคมของคนรักหนังสือมาฝากกันค่ะ
พอดีไปค้นหนังสือเจอหนังสือเก่าที่เคยซื้อไว้นานละ(เกือบ8ปีได้มั้ง) เห็นว่าน่าสนใจดี ;)



น่าสนใจจิงๆ ด้วย น้องกันย์ พี่ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ

น้องกันย์ว่าเขาแปลดีมั้ยคะ
แต่พี่ติดๆ กับคำแปลหน่อย รู้สึกว่าแปลคำต่อคำเกิน คนแปลเข้าไม่ถึงความหมายแก่นแท้ของมัน

อย่างอันนี้

"Reading is to the mind what exercise is to body"
"การอ่านจำเป็นสำหรับจิตใจ เช่นเดียวกัยการออกกำลังกายที่จำเป็นสำหรับร่างกาย"


คำว่า mind ตรงนี้ ไม่น่าแปลว่า จิตใจ คำแปลที่น่าจะครอบคลุมความหมายของศัพท์คำนี้ที่สุด น่าจะเป็น "ความรู้สึกนึกคิด" เพราะ mind มีความหมายครอบคลุมทั้งจิตใจและสมอง ขึ้นอยู่กับคนเขียนว่าจะใช้คำว่า mind ให้หมายถึงทั้งจิตใจและสมอง หรือแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้

ประโยคนี้ดูจากบริบทคือ อนุประโยคที่ตามหลังมาว่า what exercise is to body แล้วนี่ คนเขียนคงต้องการเปรียบเทียบให้เห็นว่า ในเมื่อร่างกายต้องการการออกกำลังกาย สมองก็ต้องการเช่นเดียวกัน คือความหมายของประโยคนี้ต้องการจะเปรียบเทียบว่า สมองก็ต้องการการออกกำลังกาย   เช่นเดียวกับที่ร่างกายต้องการการออกกำลังกาย

การใช้คำว่า "จำเป็น" มันเป็นคำที่อ่อนไป อ่านแล้วมันไม่สุดๆ ของความหมายที่แท้จริงของประโยคน่ะ

คนแปลเขาก็ไม่ได้แปลผิดหรอกนะคะ เพราะประโยคนี้ก็ง่ายๆ อ่านจากภาษาอังกฤษก็เข้าใจได้แล้ว แต่เนื่องจากเขาใช้วิธีแปลแบบคำต่อคำ ซึ่งเป็นวิธีแปลที่ทำให้เวลาพี่อ่านงานแปลทีไร จะรู้สึกขัดใจทุกที เพราะนอกจากจะเหม็นกลิ่นนมเนยแล้ว วิธีแปลแบบนี้ยังไม่ช่วยทำให้คนอ่านสามารถเข้าถึงความหมายที่แท้จริงที่ผู้เขียนต้องการสื่อได้เลย แม้แต่แค่ในประโยคง่ายๆ แบบนี้ก็ตาม


ขอวิจารณ์การแปลอีกซักอันละกันนะคะ มันอดไม่ได้จริงๆ

"We know that books are not a way of letting someone else think in our place : on the contrary. They are machines that provoke further thought."
"เรารู้ว่าหนังสือไม่ใช่วิธีการที่จะให้คนอื่นมาคิดแทนเรา : ในทางตรงกันข้าม มันคือเครื่องมือที่กระตุ้นให้เราคิดได้ไกลมากยิ่งขึ้น



วลีว่า think in our place  น่าจะหมายถึงว่า คิดเหมือนเรา  มากกว่า คิดแทนเรา นะคะ

คือความหมายของข้อความทั้งหมดนี้คือ หนังสือไม่ใช่สิ่งที่เขียนขึ้นเพื่อต้องการทำให้คนอ่าน "คิดเหมือนกับ" คนเขียน หากแต่หนังสือ คือสิ่งที่จะทำให้คนอ่าน "คิดต่อไป" จากที่คนเขียนคิด

พี่ชอบคำคมอันข้างบนนี่ มากที่สุดค่ะ น้องกันย์ พี่ว่าข้อความนี้ต้องการเตือนใจคนเขียนด้วย นอกเหนือจากต้องการจะ "ย้ำ" ประโยชน์ที่แท้จริงของหนังสือ คือเตือนใจคนเขียนหนังสือว่า ไม่ใช่คิดจะเขียนหนังสือออกมา เพื่อที่จะให้คนอ่าน "คิดเหมือนกับเรา" เขาขึ้นต้นประโยคว่า We know that ด้วยนะ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทั้งคนเขียนหนังสือและใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว ว่าการเขียนหนังสือไม่ใช่มีจุดประสงค์เพื่อจะให้คนอ่านคิดเหมือนเรา

ส่วนประโยคที่สองคือประโยคกุญแจ เป็นการ "ย้ำ" ประโยชน์ที่แท้จริงของหนังสือ เป็นการเตือนใจคนเขียนหนังสือให้ตระหนักว่า นอกจากไม่ควรทำให้คนอ่านคิดเหมือนเราแล้ว หน้าที่หรือประโยชน์ที่แท้จริงของหนังสือก็คือ ควรกระตุ้นให้คนอ่าน "คิดต่อไป" และคำว่า "คิดต่อไป" นี่ ความหมายลึกซึ้งกว้างขวางมาก และเป็นคำกุญแจหรือหัวใจของข้อความทั้ง 2 ประโยคนี้

คือคนอ่านจะ "คิดต่อไป" ยังไงก็ได้ จะ "คิดรวบยอด" หรือ "คิดต่อยอด" หรือจะ "คิดต่าง" "คิดแย้ง" ไปจากคนเขียนยังไงก็ได้ ขอเพียงแต่ให้ "คิดต่อไป" จากที่คนเขียนคิดและเขียนเอาไว้ในหนังสือเป็นพอ นี่แหละคือประโยชน์ที่แท้จริงของการอ่านหรือหนังสือ นั่นคือ ทำให้ความคิด "งอกงาม" นั่นเอง

สรุปคือ ให้คิดต่อ และคิดต่าง อย่าคิดตาม

ข้อความนี้คม และยิ่งใหญ่ จริงๆ ค่ะน้องกันย์ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่เอาสิ่งดีๆ มาฝาก

พี่ยังรู้สึกอีกด้วยว่า คำว่า "คิดต่อไป" ยังมีนัยเตือนใจคนอ่านด้วยว่า อ่านหนังสือแล้ว อย่า "ลอกความคิด" คนเขียนเลย มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก การ "คิดต่อไป" ต่างหาก จึงจะทำให้เราได้รับประโยชน์จากการอ่านได้อย่างแท้จริง

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ กรกฎาคม 18, 2008, 09:12:47 PM

นานะคะ พี่กำลังเริ่มอ่านแผนลวงสะท้านโลกอยู่ค่ะ มีความรู้สึกว่าแดน บราวน์พัฒนาการเขียนแคแร็คเตอร์ตัวละครได้ประทับใจขึ้นกว่าเล่มก่อนๆ ค่ะ แต่เพิ่งอ่านไปได้นิดเดียวเอง หนุกดีเกร็ดความลับของแอร์ฟอร์ซวันกับพรมรูปนกอินทรีในห้องทำงานรูปไข่ที่หันคอได้ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ยังกะไม่ใช่เรื่องจริงแน่ะ แต่พ่อคนนี้เขาไม่เคยใช้ข้อมูลไม่จริงนี่ ใช้ข้อมูลจริงตลอด แต่ทำให้คนอ่านแล้วรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องจริง นี่ล่ะเรื่องจริงที่เหลือเชื่อของจริง ยังรักษายี่ห้อแดน บราวน์เอาไว้ได้เหมือนเดิม

แล้วก่อนหน้านี้ก็ไปอ่านนิทานเวตาลมาแล้วด้วย แต่อ่านฉบับการ์ตูนนะ ถึงได้อ่านจบน่ะ ตะก่อนเคยอ่านฉบับจริงๆ อ่านยังไงก็อ่านไม่จบ เหมือนพันหนึ่งทิวา (เอ๊ะ! หรือพันหนึ่งราตรี หรืออาหรับราตรีกันล่ะนี่ งงงง  :-\ ทั้ง 3 เรื่องนี่เป็นเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่องหว่า ใครรู้ช่วยบอกหน่อย) ชอบมากมายเรื่องนายพรานกับลูกชายกับพระมเหสีหม้ายกับพระธิดา แล้วก็เรื่องพระชายาที่อ่อนไหวที่สุด โห! คิดได้ไงอ่ะ นี่เรื่องโบราณเหรอเนี่ย ล้ำลึกมากๆ อยากเป็นคนที่ตัดสินผิดถูกชั่วดีได้อย่างมีหลักการชัดเจนอย่างพระเอกจัง (จำชื่อไม่ได้ แหะแหะ   :P ทำไมไม่ใช่ชื่อพระวิกรมาทิตย์ล่ะ งงงง  :-\)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ กรกฎาคม 19, 2008, 09:02:45 PM
55555555 หนูนึกว่าพี่อ่านเรื่องนี้นานซะอีก  หุหุ นานะจังอ่านนานมากแล้วอ่ะเริ่มลืมๆละ ค่ะอ่านตอน ปี 2 หรือ ปี 3เนี่ยแหละ
ได้รับความรู้มากมายทีเดียวเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำยุคที่มีอยู่จริง และรู้สึกสะใจที่สุดก็คาดเดาคนร้ายของแดนบราว ได้ถูกต้องด้วยเพราะเคยโดนแดนบราวหลอกซะมึนตึบในเล่มแรกที่อ่าน คือ ล่ารหัสมรณะ พออ่าน รหัสลับดาวินชี กับ เทวาซาตาน
และ แผนลวงสะท้านโลก ก็เลยเดาทางแดนบราวได้ถูกค่ะ คือแบบหนูแอบโรคจิตนิดนึงที่ชอบคาดเดาคนร่าย เหมือนตอนอ่านการ์ตูนหรือนวนิยายสืบสวนอ่ะค่ะ แต่เทคโนโลยีที่แดน บราว พูดถึงในแผนลวงสะท้านโลก ล้วนมีอยู่จริงทั้งนั้นนะคะ
ข้อมูลที่เค้าพูดถึงเทคโนโลยีที่สหรัฐพัฒนาขึ้นมาจริงเมื่อประมาณ 10ที่แล้ว ถ้าใครดูสารคดี ของยูบีซี เทคโนโลยีหลายตัว
ก็มีอยู่และมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่บางอย่างก็เป็นความลับนานาชาติซึ่งอยู่ขั้นทดลอง แต่ตอนนี้เทคโนโลยีของเค้าพัฒนาไปมากกว่าที่แดนบราวได้ลงไว้ในแผนไปมากโขแล้วล่ะค่ะจากการสันนิษฐานของหนู อย่างหุ่นยนตร์ขนาดจิ๋วที่มีขนาดเล็กมากที่ใช้ติดตามอันนี้ก็มีอยู่จริงค่ะ  หรือแม้แต่การผลิตอุกกาบาตเทียมอย่างในเรื่องนี้ หนุก็คาดว่าคงเคยมีการทำมาแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผย
แต่นานะจังก็ไม่ค่อยประทับใจเล่มนี้ซักเท่าไร อ่ะค่ะ แม้จะได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์มากมายก็ตาม แต่มันก็ไม่ทำให้ซาบซึ้ง
และเปลี่ยนความเชื่อความคิดของนานะจังได้เหมือน เทวาซาตาน และรหสลับดาวินชี  นานะจังก็รอเล่มที่ 5ของแดนบราวอยู่ค่ะ
แต่คงอีกนาน เพราะว่าจะเขียนได้ซักเล่มนึงกืนเวลาหลายปี ก็สมควรอยู่หรอกนะ 5555555555555 แต่สังเกตไหมคะตัวละครของแดน บราว พระเอก อย่าง ดร.โรเบริต แลงดอน หรือ พระเอกคนอื่นๆ แดน บราวจะชอบ บรรยายว่า ชอบสวมเสื้อคอเต่า
และกลัวที่แคบๆเช่น ลิฟท์ เป็นต้น ส่วนนางเอกก็จะมีบุคลิก ที่ฉลาดปราชเปรื่องและเข้มเด็ดเดี่ยว ดี ค่ะ ชอบวิธีการเขียนของแดนมากค่ะ แต่ก็ไม่เทา เจคนะคะ ชอบเจเคมากกว่า เพราะรู้สึกว่าเจเค มีอารมณ์ขันมากกว่าแดน บราว และเขียนเกี่ยวกับความรักความผูกพันของมนุษย์ได้ซาบซึ้งกว่าแดนบราวมาก แต่ทั้งสาองคน นานะจังก็ถือว่าเป็นนักเขียนชั้นเซียนจริง แดนบราวนี่จะนับมาก
ๆตรงที่เค้าสามารถเขียนเรื่องจากจินตนาการได้เหมือนข้อเท็จมาก จนหลายคนเชื่อว่านั่นคือเรื่องจริง อาจจะเป็น
เพราะความรู้ที่แดน บราวเขียนลงในหนังสือของเค้า มันน่าเชื่อถือ ลึกซึ้งและกว้างขวางมาก 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ กรกฎาคม 19, 2008, 11:24:11 PM
อ่านจบแล้วค่ะ เพิ่งจบสดๆ ร้อนๆ เมื่อนาทีก่อนนี่อ่ะค่ะ พี่ว่าพี่ชอบการให้ภูมิหลังตัวพระเอกนางเอกในเรื่องนี้ของแดน บราวน์นะคะ พัฒนาขึ้นกว่าแลงดอน โซฟีหรือว่าเรื่องก่อนๆ คือพี่อ่านแล้วรู้สึกผูกพันใกล้ชิดกับตัวพระเอกนางเอกได้มากกว่าเรื่องก่อนๆ ของแดน บราวน์อ่ะค่ะ รู้สึกชอบและใกล้ชิดกับไมค์และราเชลมากกว่าแลงดอนกับโซฟี

ที่ไม่คิดจะหยิบเรื่องนี้มาอ่านแต่แรก เพราะไม่เก๊ตเรื่องวิทยาศาสตร์เลยอ่ะค่ะ แล้วจากประสบการณ์ยังไม่เคยเจอคนเขียนหนังสือวิทยาศาสตร์คนไหน สามารถเขียนให้อ่านสนุกได้เลยจริงๆ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอค่ะ แดน บราวน์ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ในการแทรกส่วนที่เป็นความรู้หนักๆ เรื่องวิทยาศาสตร์ยากๆ อย่างธรณีวิทยา อุกกาบาต สมุทรศาสตร์ ยังทำได้ไม่กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อเรื่องน่ะค่ะ ยังไม่สามารถผสมกลมกลืนให้เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่องได้ เหมือนกับที่เคยทำได้ดีในเทวากับซาตาน กับรหัสลับดาวินชี่

แล้วเรื่องวิทยาศาสตร์แบบนี้มันหนัก ไกลตัว และเข้าใจยากกว่าเรื่องศิลปะหรือศาสนาซึ่งใกล้ตัวเรามากกว่าด้วย ก็เลยอ่านไปแบบมึนๆ อ่านข้ามๆ ตรงส่วนความรู้ที่มันแยกออกจากการดำเนินเรื่อง เพราะไม่มีความสนใจวิทยาศาสตร์ด้านนั้นๆ อยู่แล้ว ความรู้ที่แดน บราวน์พยายามจะใส่เข้ามาในเรื่องนี้ เลยยังไม่สามารถจับใจเราได้ เหมือนตอนที่ได้อ่านเรื่องพระเยซู ศาสนาคริสต์ เพเกิน และศิลปะล้ำค่าต่างๆ ในเทวาฯ กับ'ดาวินชี่อ่ะค่ะ ก็เลยไม่สามารถทำให้เราอินได้ เมื่อสมองทำงานเยอะกว่าความรู้สึกในระหว่างอ่าน ก็เลยพอจะเดาๆ ได้ว่า ใครเป็นจอมบงการตัวจริง แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะเดาถูกหรอกนะคะ เพราะปกติไม่ค่อยได้อ่านเรื่องทำนองนี้เท่าไหร่ แต่สังเกตว่า ยังคงใช้สูตรคนที่เรานึกไม่ถึง เพราะหน้าฉากดูเป็นคนดีหรืออยู่ฝ่ายธรรมะเต็มตัวอยู่ คล้ายๆ กับเรื่องชุดเล็กเซี่ยวหงส์ของโกวเล้งเหมือนกันคะ ผู้ร้ายสุดของเรื่องมักเป็นคนที่ดูดีที่สุด

ดูๆ รู้สึกว่าแดน บราวน์ก็จะถนัดเรื่องวิทยาศาสตร์น้อยกว่าศิลปะหรือศาสนาด้วย เพราะเขาเขียนข้อมูลวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้เหมือนแบบยกมาเป็นต่อนๆ เลย ไม่ได้ย่อยออกมาแล้วเขียนออกมาเป็นภาษาของเขาเอง เหมือนตอนที่เขาสอดแทรกเรื่องศิลปะ ศาสนาหรือเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของพระเยซู ซึ่งเหมือนเขาเล่าออกมาจากความประทับใจของเขาเอง เลยสามารถทำให้คนอ่านพลอยรู้สึกทึ่งไปกับความรู้ของเขาไปด้วยได้

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าพระเอกนางเอกสารภาพว่าอ่านข้ามเหมือนกันค่ะ ขี้เกียจอ่านน่ะ คือจะเป็นนิสัยการอ่านของตัวเองอ่ะค่ะว่า จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองตลอด ถ้าเจอจุดไหนที่รู้สึกว่าคนเขียนไม่สามารถเขียนให้ดึงดูดใจเราได้ จะอ่านข้ามไปเลย และจะสังเกตไว้เป็นบทเรียนด้วย เผื่อว่าเวลาที่เราเป็นคนเขียนเอง จะได้ไม่ทำแบบนี้ซึ่งเราเห็นว่าน่าเบื่อ

พี่รู้สึกว่าแดน บราวน์เป็นคนละเมียดละไมนะ และเป็นคนมีความอ่อนโยนอยู่ในใจ บุคลิกพระเอกของแดน บราวน์ทุกคนจะเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน อบอุ่น เป็นผู้ชายที่มีความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัวอ่ะ ในขณะที่บุคลิกนางเอกก็จะมีลักษณะของผู้ชายอยู่ในตัว คือเข้มแข็ง เด็ดขาด พี่รู้สึกว่าเขายกย่องผู้หญิงมากๆ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่เขาเป็นเกย์หรือเปล่านะคะ แต่รู้สึกเลยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาคงจะยกย่องเพศหญิงมากๆ เห็นได้ชัดในเรื่องดาวินชี่ที่พูดถึงลัทธิเพเกิน และที่สำคัญคือเป็นผู้หญิงที่อายุ 30 up ซะด้วยสิคะ ส่วนพระเอกก็ 40 upแน่ะ อาจเพราะใกล้เคียงอายุจริงเขาด้วยหรือเปล่าคะ (ไม่รู้อายุจริงเขาเท่าไหร่แล้วคะ)

ชอบวิธีการเขียนของเจเคมากกว่าเหมือนกันค่ะ เพราะชอบอ่านงานเขียนที่เน้นความรู้สึกนำ ความรู้ตามหรือสอดแทรกแบบกลมกลืนไม่น่าเบื่อ ส่วนวิธีเขียนของแดน บราวน์จะเอาความรู้นำ ความรู้สึกตาม ไม่รู้ว่าถ้าคนอ่านเป็นผู้ชายจะชอบวิธีเขียนแบบแดน บราวน์มากกว่าเจเคหรือเปล่านะคะ แต่เรื่องดาวินชี่ก็สนุกกว่าแผนลวงฯ มากจริงๆ อาจเพราะความรู้ในเรื่องนั้นมันสนุกกว่าโดยตัวมันเองก็ได้ แต่ก็อยู่ที่วิธีเล่าของแดน บราวน์ด้วย ที่ค่อยๆ ปล่อยความรู้ที่น่าทึ่งออกมาทีละอย่างสองอย่าง อย่างเช่นเรื่องลีโอนาร์โด ดาวินชี่เคยเป็นเจ้าลัทธิเพเกิน เรื่องปริศนาต่างๆ ในรูปภาพของพระเยซูกับสาวก แดน บราวน์น่าจะเอาวิธีเล่าอย่างนั้นมาใช้กับเล่มแผนลวงฯ นี้บ้าง น่าจะทำให้สนุกกว่านี้

แต่ยังไง 2 คนนี้ก็สุดยอดนักเขียนแห่งยุคแล้วล่ะค่ะ แต่อยากให้ทั้งสองคนเอางานเขียนพวกนี้มาปรับปรุงใหม่แบบกิมย้งบ้างจัง เพราะอยากให้เจเคปรับปรุงแฮร์รี่เล่ม 5 , 6 , 7 ใหม่ เขียนให้กระชับกว่านี้ ตัดส่วนที่น่าเบื่อออกไป ส่วนเล่ม 1-4 รู้สึกว่าเขียนได้ดีแล้วค่ะ แดน บราวน์ก็เหมือนกัน อยากให้เขียนเล่มนี้ใหม่ ความจริงเรื่องเทคโนโลยีทั้งหลายแหล่ในเล่มนี้ล้วนแต่น่าทึ่งทั้งนั้น แต่ถ้าไม่มีวิธีเล่าที่ดีแล้ว สำหรับคนที่ไม่ค่อยสนใจเทคโนโลยีอย่างพี่นี่ พี่รู้ว่ามันอ่านไม่สนุกอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ กรกฎาคม 20, 2008, 11:59:14 AM
วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งมากเลยค่ะพี่ นับถือๆ  จริงๆแม่นาง อาจจะเป็นเพราะ เรื่องที่แดนบราวเขียน
เกี่ยวกับด้าน ศาสนา และความเชื่อของคน ซึ่งมีผลต่อความรู้สึก ที่ละเอียดอ่อนของคนอยู่แล้ว
คนอ่านอย่างพวกเราก็เลยรู้สึก ซาบซึ้งและประทับใจมากกว่า เรื่องแนววิทยาศาสตร์ที่แดนบราวเขียนมั้งคะ
ประกอบกับความรู้ที่แดนบราวมีเกี่ยว ศาสนา ศิลปะ กว้างขวางและลึกซึ้งกว่าวิทยาศาสตร์อย่างที่พี่ว่าก็ได้เนอะ
นานะจังไม่รู้มาก่อนเลยค่ะว่า แดน บราวเป็นเกย์  555555555 พวกอัจฉริยะของมั้งเป็นอย่างนี้มั้ง อย่าง ลีโอนาโด
ดาวินชีก็เป็น เกย์ สิ่งที่พวกเค้ามีมากว่าเราคือเค้ามีทั้งเพศหญิงและเพศชายล่ะมั้งคะ
แต่นานะจังก็ชอบวรรณกรรมของญี่ปุ่น นักเขียนที่ประทับใจมากๆ ก็ มี เอโดงาวะ รัมโป ที่เขียนเรื่องสยองขวัญ
แล้วก็อ.โยโคมิโซะ เซชิ ที่เขียนเรื่อง คินดะอิจิ โคสุเกะฆาตรกรรมปริศนา
ซึ่งเป็นงานสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  เค้าถ่ายทอดตัวละครได้ลึกซึ้งดีค่ะชอบ
แม้จะแทบไม่มีอารมณ์ขันเลยก็ตามที แต่พออ่านแล้วต้องสงสารฆาตรกรทุกครั้ง
เพราะคนที่เค้าฆ่ามันสมควรตายซะจริงๆ 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ กรกฎาคม 20, 2008, 08:24:21 PM
อยากอ่านเรื่องของ แดน บราว  แต่ยังหาไม่เจอเลย

แต่ส่วนมาก  คนที่มีสองเพศเค้าจะมีความคิดอะไรดีๆ แปลกๆ นะ  เพราะเค้ามองทั้งสองด้านล่ะมั้ง
เหมือนเค้ามักจะมีพรสวรรค์หรืความสามารถติดตัวมาด้วยมากกว่าคนอื่น   เป็นส่วนดี ส่วนด้อย  อะไรอย่างนี้
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ กรกฎาคม 20, 2008, 09:55:03 PM

นานะจังไม่รู้มาก่อนเลยค่ะว่า แดน บราวเป็นเกย์  555555555 พวกอัจฉริยะของมั้งเป็นอย่างนี้มั้ง อย่าง ลีโอนาโด
ดาวินชีก็เป็น เกย์ สิ่งที่พวกเค้ามีมากว่าเราคือเค้ามีทั้งเพศหญิงและเพศชายล่ะมั้งคะ



จริงค่ะ พี่ก็คิดอยั่งงั้นเหมือนกัน มันก็เหมือนลูกครึ่งเอเชียกับตะวันตกอ่ะ แม้ว่าพ่อแม่อาจจะหน้าตาธรรมดา แต่ลูกออกมาเห็นหน้าตาดีแทบทุกคนเลย ส่วนคนที่เป็นคนสองเพศ ก็คงจะรวมข้อดีของทั้งเพศชายกับเพศหญิงมารวมกันอยู่ในตัว ก็เลยเป็นอัจฉริยะกันเยอะ มีใครได้เคยคิดวัดคำนวณสัดส่วนของคนสองเพศที่เป็นอัจฉริยะของโลกกันบ้างมั้ยนะ อยากรู้ว่ามีสัดส่วนเยอะซักแค่ไหน




แต่นานะจังก็ชอบวรรณกรรมของญี่ปุ่น นักเขียนที่ประทับใจมากๆ ก็ มี เอโดงาวะ รัมโป ที่เขียนเรื่องสยองขวัญ




รู้สึกว่าเอโดงาวะ รัมโป ประวัติส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะใช่คนธรรมดาซักเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเกย์หรือเปล่านะคะ รู้สึกว่าเขาจะอัตวินิบาตกรรมด้วยหรือเปล่าจำไม่ค่อยได้อ่ะค่ะ มีนักเขียนญี่ปุ่นที่อัตวินิบาตกรรมหลายคนเหมือนกัน (ขอใช้คำนี้นะคะ อย่าว่าดัดจริตนะคะ พูดคำตรงๆ แล้วมันหยองๆ ไงไม่รู้)


หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ กรกฎาคม 20, 2008, 10:00:27 PM
อยากอ่านเรื่องของ แดน บราว  แต่ยังหาไม่เจอเลย

แต่ส่วนมาก  คนที่มีสองเพศเค้าจะมีความคิดอะไรดีๆ แปลกๆ นะ  เพราะเค้ามองทั้งสองด้านล่ะมั้ง
เหมือนเค้ามักจะมีพรสวรรค์หรืความสามารถติดตัวมาด้วยมากกว่าคนอื่น   เป็นส่วนดี ส่วนด้อย  อะไรอย่างนี้

นอกจากความคิดแล้ว ก็น่าจะเป็นเพราะประสบการณ์ด้วยนะคะ คนสองเพศคงได้พบประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาเหมือนกับคนเพศเดียวทั่วๆ ไปเป็นแน่ ประสบการณ์ที่แปลกประหลาดคงจะทำให้พวกเขามีมุมมองที่แตกต่างไปจากคนเพศเดียวอย่างเราๆ เลยทำให้มีความสามารถที่แปลกแตกต่างไปกว่าคนอื่นๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 05:01:19 PM

ชื่อพระเอกนางเอกในนิยายไทยก็ใช่ย่อยนะคะ ละอองดาว สกาวเดือน (รู้สึกว่าลูกสาวของ "พนมเทียน" จะชื่อละอองดาวด้วยนะคะ) 

เพิ่งกลับไปเจอค่ะ   พี่ galdewis   สกาวเดือนก็มีค่ะ   ลูกสาวของคุณพนมเทียนเป็นฝาแฝด  ชื่อ ละอองดาว กับ สกาวเดือน  แต่ว่า สกาวเดือนเสียชีวิตไปแล้ว
คุณละอองดาวเธอสวยด้วยค่ะ  เพราะคุณแม่มีเชื้อแขก
สังเกตดู  ส่วนมาก ชื่อของพนมเทียน  จะออกแนวภาษาอินเดีย  แต่ก็มีความหมายของชื่อเหมือนกัน

อย่างรพินทร์  คุณพนมเทียนบอกว่า  เริ่มทุกอย่างได้หมดแล้ว  พล็อตเรื่อง  พร้อมจะเขียนทุกอย่าง  แต่ติดที่ยังคิดชื่อพระเอกไม่ได้ เลยเขียนไม่ได้ซะที  สุดท้าย  มาลงที่ชื่อ  รพินทร์   เพราะคุณพนมเทียนต้องการชื่อที่ดู อ่อนโยน แล้วก็เข้มแข็งในเวลาเดียวกัน

เหมือนชื่อ ดาริน  ก็มาจากคำว่า  ดาริกา   แต่ตัด กา ออก  มันก็จะเป็น  ดาริ  ซึ่งห้วนเกินไป   เลยเติม น  เป็น ดาริน  (อันนี้แงซายบอก :D)


เรื่องชื่อนี่มีส่วนสำคัญในการเขียนมากๆ เลยค่ะ   กว่ากาฬจะเขียนได้  ก็ต้องพยายามหาความหมายของชื่อก่อน  จะได้สื่อบุคลิกของตัวละครออกมาได้
จนบางที   ต้องเอาชื่อคนใกล้ตัวหรือคนที่รู้จักมาดัดแปลงหรือเอามาลงเลย   
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 02, 2008, 06:09:56 PM

ชื่อพระเอกนางเอกในนิยายไทยก็ใช่ย่อยนะคะ ละอองดาว สกาวเดือน (รู้สึกว่าลูกสาวของ "พนมเทียน" จะชื่อละอองดาวด้วยนะคะ) 

เพิ่งกลับไปเจอค่ะ   พี่ galdewis   สกาวเดือนก็มีค่ะ   ลูกสาวของคุณพนมเทียนเป็นฝาแฝด  ชื่อ ละอองดาว กับ สกาวเดือน  แต่ว่า สกาวเดือนเสียชีวิตไปแล้ว
คุณละอองดาวเธอสวยด้วยค่ะ  เพราะคุณแม่มีเชื้อแขก
สังเกตดู  ส่วนมาก ชื่อของพนมเทียน  จะออกแนวภาษาอินเดีย  แต่ก็มีความหมายของชื่อเหมือนกัน


เพิ่งรู้ว่าละอองดาวมีคู่แฝดด้วย ละอองดาว-สกาวเดือน น่ารักดีอ่ะ 2 ชื่อนี้ถูกจริตพี่มากเลยค่ะ ไม่ได้ใช้คำหะรูหะรา แต่ว่าไพเราะสมกับเป็นฝีมือตั้งชื่อของ "พนมเทียน"


"พนมเทียน" เป็นนักเขียนคนโปรดของคุณ minuit เพื่อนที่บล๊อกพี่น่ะค่ะ คุณ minute เคยให้ความรู้ว่า "พนมเทียน" เจนจบเรื่องเกี่ยวกับอินเดีย และได้แสดงฝีมืออันสุดยอดในความเป็นเอตทัคคะด้านอินเดียของท่านไว้ในเรื่อง "ศิวาราตรี" ค่ะ คุณ minuit บอกว่า "พนมเทียน" เคยพูดว่า ทุ่มเทให้กับการแต่งเรื่องศิวาราตรีมาก จนสิ้นฝีมือแล้วแต่เพียงนี้ หมายความว่า จะไม่แต่งเรื่องที่เกี่ยวกับอินเดียอีกต่อไปได้แล้ว เพราะปล่อยไปจนสุดฝีมือแล้วกับเรื่องนี้ น้องกาฬได้อ่านหรือยังคะ ถ้าชอบภาษาสวยๆ น่าจะชอบเรื่องนี้นะคะ


พูดถึง "พนมเทียน" แล้ว จำได้ว่าน้องกาฬเคยพูดถึงนิยายของ "กิ่งฉัตร" ที่จะใช้ตัวละครบางตัว โดยมากเป็นเพื่อนพระเอกหรือนางเอก ซ้ำกันในนิยายหลายๆ เรื่อง ธรรมเนียมนี้เริ่มต้นโดย "พนมเทียน" หรือเปล่าคะ เพราะพี่เคยอ่านเจอเฉพาะในนิยายของ "พนมเทียน" เท่านั้น ก่อนที่จะมาเจอในนิยายของ "กิ่งฉัตร" ด้วย อย่างเช่น พระเอกในเรื่อง มัสยา (จำชื่อพระเอกไม่ได้ เป็นทหารน่ะค่ะ) ก็ไปเป็นเพื่อนพระเอกของ สยุมภู ทศพล พระเอกในเรื่อง แวว มยุรา และตัวละครตัวนึงของ "พนมเทียน" ที่แทบจะโผล่ในนิยายทุกเรื่องของ "พนมเทียน" เลยมั้ง แถมรู้สึกจะดังกว่าพระเอกซะด้วยนะ คนอ่านนิยาย "พนมเทียน" รับรองต้องจำได้และชอบตัวละครตัวนี้กันทุกคน ก็คือ ท่านชายสดายุ ซึ่งเป็นผู้ช่วยพระเอกนางเอกคนสำคัญในนิยายของ "พนมเทียน" เลย พี่เคยอยากให้ "ภูธฤทธิ์" ได้เล่นเป็น ท่านชายสดายุ อ่ะค่ะ  :P


ส่วนของ "กิ่งฉัตร" พี่ชอบ สิงห์ อ่ะค่ะ ที่เป็นพระเอกเรื่องอะไรล่ะ จำชื่อไม่ได้ ที่นางเอกชื่อ หนูนา น่ะ แล้ว สิงห์ ก็ไปเป็นผู้ช่วยพระเอกเรื่อง บ่วงหงส์ เรื่องโปรดของพี่ค่ะ นิยายของ "กิ่งฉัตร" นี่พี่โปรดอยู่ 2 เรื่อง นอกจาก บ่วงหงส์ แล้ว ก็เรื่อง ด้วยแรงอธิษฐาน (เรื่องนี้ สิงห์ ก็โผล่ด้วยค่ะ แต่โผล่แค่นิดหน่อย) และก็อยากให้ "ภูธฤทธิ์" เป็นพระเอกเรื่องนี้ เพราะพระเอกอายุ 40 up อ่ะค่ะ  :P




เรื่องชื่อนี่มีส่วนสำคัญในการเขียนมากๆ เลยค่ะ   กว่ากาฬจะเขียนได้  ก็ต้องพยายามหาความหมายของชื่อก่อน  จะได้สื่อบุคลิกของตัวละครออกมาได้
จนบางที   ต้องเอาชื่อคนใกล้ตัวหรือคนที่รู้จักมาดัดแปลงหรือเอามาลงเลย 


 
เรื่องชื่อสื่อบุคลิกตัวละครนี่ เห็นจะมีแต่นิยายทางแถบเอเชียหรือเปล่าคะนี่ ทั้งนิยายไทย จีน ญี่ปุ่นเท่าที่เคยอ่าน จะแสดงฝีมือในการตั้งชื่อกันทั้งนั้น อย่าง "กิมย้ง" ผู้แต่งมังกรหยก ตั้งชื่อ ก๊วยเจ๋ง เอี้ยก้วย ล้วนมีความหมายลึกซึ้ง เพราะเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์จีนในช่วงที่เกี่ยวพันกับ theme ของเรื่อง สุดยอดมากๆ แสดงถึงความรู้ที่ลึกซึ้งและความละเอียดของผู้แต่ง


แต่อย่างนิยายตะวันตก แต่พี่ก็ไม่ค่อยได้อ่านหรอกนะคะ แต่อย่างของแดน บราวน์นี่ ชื่อพระเอกนางเอกเป็นชื่อง่ายๆ ทั่วๆ ไป อย่างที่เราจะเห็นฝรั่งใช้กัน เดวิด โรเบิร์ต ไมเคิล ซูซาน ราเชล ยกเว้นชื่อ โซฟี นางเอกในเรื่อง รหัสลับดาวินชี เรื่องเดียว ที่ชื่อนางเอกมีความสำคัญกับเรื่องมาก


แต่พี่เห็นเหมือนน้องกาฬว่า การตั้งชื่อควรจะต้องให้มีความหมายนะ หรือว่าเพราะเราเกิดเป็นคนเอเชียถึงได้คิดอย่างงี้ก็ไม่รู้นะ ตอนที่พี่คิดจะเริ่มทำบล๊อก ก็คิดว่าจะต้องตั้งชื่อที่มีความหมายสื่อถึงสาระสำคัญของบล๊อกเราเหมือนกัน พี่ชอบชื่อเรียบง่ายแต่แฝงความหมายที่มากกว่าที่เห็น  ก็เลยออกมาเป็นชื่อนี้ มีชื่อไทยของชื่อ galdewis ด้วยนะ พี่คิดจะใช้เป็นชื่อนางเอกในเรื่องสั้นเรื่องที่ 2 แต่ก็ไม่ได้แต่งใหม่ซะที เฮ้อ!  :-[


นั่นล่ะสไตล์การตั้งชื่อที่พี่ชอบ เรียบง่ายแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง เห็นบางคนชอบนำตัวพยัญชนะที่ใช้น้อย อย่าง ฏ ฐ ฑ ษ ฤ ฆ มาใช้ในการตั้งชื่อ แต่ถ้าตั้งได้ไม่ดีกลับดูน่ารำคาญ อย่างนิยายเรื่องนึงของ "กิ่งฉัตร" นี่แหละ ที่เป็นเรืองเกี่ยวกับเด็กแล้วมีขึ้นศาลด้วยน่ะ ไม่ใช่นิยายโปรดเลยจำรายละเอียดไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ แต่จำได้ว่า ตอนอ่านรำคาญชื่อที่อ่านยากเรียกยากของพระเอก และตัวละครอีกหลายตัวที่ชื่อคล้ายกับพระเอกมากเลย


แต่ว่าพยัญชนะพิเศษที่ใช้น้อยพวกนี้ พี่ชอบนะคะ แต่การใช้ต้องระวัง อย่าใช้ให้มันเฝือหรือว่าไร้ความหมาย ที่สำคัญพี่รู้สึกว่า พยัญชนะพิเศษพวกนี้ มันสื่อความรู้สึกบางอย่างที่พิเศษไปกว่าพยัญชนะธรรมดาที่เราใช้บ่อยกว่าด้วยนะ โดยเฉพาะตัว ฆ นี่ ชอบถูกนำมาใช้ตั้งชื่อตัวละครที่น่ากลัวหรือลึกลับ อย่างจอมเมฆินทร์ แดร๊คคูล่าแบบไทยๆ คงเพราะตัว ฆ เป็นพยัญชนะของคำว่า ฆ่า ล่ะมัง  ??? ส่วนตัว ฤ ฐ ฑ ฎ นี่ พี่รู้สึกว่ามันสวยนะ ดูศิลป์ดีอ่ะ เหมือนถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเลย เห็นคนเขาชอบชมตัวหนังสือภาษาจีนกัน ว่าสวยงามเหมือนรูปภาพ แต่พี่ว่าพยัญชนะไทยก็ไม่แพ้นะ สวยเหมือนถูกออกแบบโดยนักออกแบบศิลป์เลยอ่ะ  :-*


แล้วสไตล์การตั้งชื่อตัวละครที่น้องกาฬชอบเป็นยังไงคะ มีชื่อไหนที่ตั้งแล้วชอบมากๆ บ้าง แล้วมีชื่อตัวละครไหนที่ชอบเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าคะ อย่างชื่อตัวละครใน เกราะกายสิทธิ์ นี่ พี่ชอบแทบทุกตัวเลยอ่ะ โดยเฉพาะชื่อ วิษุวัต  ;) เคยไปเปิดดิค เอ๊ย! พจนานุกรมดูแล้ว มันแปลว่า จุดที่โลกจะมีกลางวันกลางคืนเท่ากัน พี่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไงนะ แต่พออ่านความหมายปุ๊บ ปิ๊งเลยอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนตั้งเขาจะคิดแบบพี่หรือเปล่านะคะ แต่พอพี่อ่านความหมายของ วิษุวัต พี่นึกถึงว่า มันสื่อถึงตัวละครตัวนี้เลย วิษุวัต เหมือนคนที่มีทั้งความดีและความไม่ดีอยู่ในตัวอย่างละครึ่งอ่ะ (เหมือนมัจจุราชเลยแฮะ) กลางวันก็เปรียบเสมือนความดี ส่วนกลางคืนเปรียบเหมือนความไม่ดี ความจริง วิษุวัต โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนดี แต่เพราะความที่เป็นคนมีอำนาจ บวกกับความแค้นที่ฝังลึกในตัว ศรุตเทพ เลยทำให้กลายเป็นลุแก่อำนาจไปได้ง่ายๆ เคยอ่านข่าวว่าที่อินเดียมีการฉลองเทศกาลสารทวิษุวัตหรือไงนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเทศกาลยังไงหรือสำคัญยังไง

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 02, 2008, 06:43:00 PM

ปล. ตอนนี้พี่ไม่ค่อยสบายอ่ะค่ะ เป็นไข้ตัวรุมๆ กลัวจะเป็นไข้หวัดใหญ่จัง ขออย่าให้เป็นเล้ย เบื่อไม่สบายที่สุด ระวังสุขภาพกันมากๆ นะคะ ที่ทำงานพี่ซ้ายขวาหน้าหลัง มีแต่คนเป็นไข้หวัดใหญ่อ่ะ บรื๋อวว์! กลัวติดจัง  ::) หมอบอกเป็นโรคที่ติดง่ายมากๆ ด้วย กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีกันเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องเป็นผลไม้นอกแพงๆ หรอกนะคะ ฝรั่งถูกๆ นี่แหละค่ะ วิตามินซีมากกว่าส้มอีก แถมกินหลังอาหารปากจะสะอาดเหมือนแปรงฟันด้วยค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ฝรั่งดองนะคะ แล้วอย่าจิ้มพริกเกลือมากนักนะคะ เป็นห่วงน้องๆ เพื่อนๆ บอยคลับทุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ninda ที่ สิงหาคม 02, 2008, 06:45:01 PM
ขอแจม...

สิงห์...เพื่อนพระเอกจากเรื่องบ่วงหงส์ แต่เป็นพระเอกจากเรื่อง "ตามรักคืนใจ" ค่ะ

นินดาชอบ^^ ...ต้องบอกว่า ชอบมากๆ เลยมากกว่าค่ะ

ตอนเป็นละครแล้ว รู้สึกว่าคุณลิขิตเล่นได้น่ารักดีค่ะ (จากบ่วงหงส์นะคะ)

ทำเอานินดาหลงรักนายสิงห์หัวปักหัวปำเลย

แต่เวอร์ชั่นที่ช่อง 3 เอามาทำเป็นละคร นินดาไม่ได้ดูค่ะ...แต่ไม่เสียดายค่ะ เพราะคุณลิขิตกลายเป็นนายสิงห์ในมโนภาพไปแล้ว

งานของคุณกิ่งฉัตรเท่าที่ทราบ จะเป็นประมาณงานเขียนแบบชุดค่ะ

เรื่องนี้คุณคนนี้เป็นพระเอก แต่พออีกเรื่องเพื่อนพระเอกจะได้เป็นพระเอก ทำนองนี้น่ะค่ะ

ส่วนชุดนี้จะเป็น ตามรักคืนใจ ต่อด้วยบ่วงหงส์ และด้วยแรงอธิษฐาน ใช่รึเปล่าคะ (ถ้าเรียงไม่ผิดนะคะ)

ส่วนในเรื่องชื่อ...

ชื่อ...กับตัวละครเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ นะคะ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
นินดาเองค่อนข้างพิถีพิถันกับชื่อค่ะ
กับในนิยายที่เขียน นินดามักจะเอาชื่อตัวละครไปดูเลขกำลังชื่อค่ะ
คิดวันเดือนปีเกิดให้เสร็จสรรพ แล้วเอาไปดูกับเลข มันเป็นการช่วยกำหนดบุคลิกตัวละครอีกทางด้วยค่ะ 
เหมือนจะวุ่นวายไปหน่อย แต่นินดาก็ทำจริงๆ นะ 55+

เคยอ่านงานของอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านว่า ตัวละครบางตัวอาจมีปูมหลังมากมาย เกินกว่าที่ในนิยายหนึ่งเรื่องจะบอกเล่าได้

อันนี้จริงเนอะ เพราะอย่างที่น้องกาฬฯเล่า มันก็ไม่ได้มีเขียนบอกไว้ในนิยายนี่เนอะ...

ดาริน ชื่อนี้สง่างามสมตัวจริงๆ นะคะ นินดาว่า... ^^


edit คำผิดครับ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ninda ที่ สิงหาคม 02, 2008, 06:46:03 PM

ปล. ตอนนี้พี่ไม่ค่อยสบายอ่ะค่ะ เป็นไข้ตัวรุมๆ กลัวจะเป็นไข้หวัดใหญ่จัง ขออย่าให้เป็นเล้ย เบื่อไม่สบายที่สุด ระวังสุขภาพกันมากๆ นะคะ ที่ทำงานพี่ซ้ายขวาหน้าหลัง มีแต่คนเป็นไข้หวัดใหญ่อ่ะ บรื๋อวว์! กลัวติดจัง  ::) หมอบอกเป็นโรคที่ติดง่ายมากๆ ด้วย กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีกันเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องเป็นผลไม้นอกแพงๆ หรอกนะคะ ฝรั่งถูกๆ นี่แหละค่ะ วิตามินซีมากกว่าส้มอีก แถมกินหลังอาหารปากจะสะอาดเหมือนแปรงฟันด้วยค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ฝรั่งดองนะคะ แล้วอย่าจิ้มพริกเกลือมากนักนะคะ เป็นห่วงน้องๆ เพื่อนๆ บอยคลับทุกคนค่ะ


พี่คะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วงจังค่ะ

ด้วยความห่วงใยจาก...พี่น้องบอยคลับ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 07:10:40 PM

"พนมเทียน" เป็นนักเขียนคนโปรดของคุณ minuit เพื่อนที่บล๊อกพี่น่ะค่ะ คุณ minute เคยให้ความรู้ว่า "พนมเทียน" เจนจบเรื่องเกี่ยวกับอินเดีย และได้แสดงฝีมืออันสุดยอดในความเป็นเอตทัคคะด้านอินเดียของท่านไว้ในเรื่อง "ศิวาราตรี" ค่ะ คุณ minuit บอกว่า "พนมเทียน" เคยพูดว่า ทุ่มเทให้กับการแต่งเรื่องศิวาราตรีมาก จนสิ้นฝีมือแล้วแต่เพียงนี้ หมายความว่า จะไม่แต่งเรื่องที่เกี่ยวกับอินเดียอีกต่อไปได้แล้ว เพราะปล่อยไปจนสุดฝีมือแล้วกับเรื่องนี้ น้องกาฬได้อ่านหรือยังคะ ถ้าชอบภาษาสวยๆ น่าจะชอบเรื่องนี้นะคะ


พูดถึง "พนมเทียน" แล้ว จำได้ว่าน้องกาฬเคยพูดถึงนิยายของ "กิ่งฉัตร" ที่จะใช้ตัวละครบางตัว โดยมากเป็นเพื่อนพระเอกหรือนางเอก ซ้ำกันในนิยายหลายๆ เรื่อง ธรรมเนียมนี้เริ่มต้นโดย "พนมเทียน" หรือเปล่าคะ เพราะพี่เคยอ่านเจอเฉพาะในนิยายของ "พนมเทียน" เท่านั้น ก่อนที่จะมาเจอในนิยายของ "กิ่งฉัตร" ด้วย อย่างเช่น พระเอกในเรื่อง มัสยา (จำชื่อพระเอกไม่ได้ เป็นทหารน่ะค่ะ) ก็ไปเป็นเพื่อนพระเอกของ สยุมภู ทศพล พระเอกในเรื่อง แวว มยุรา และตัวละครตัวนึงของ "พนมเทียน" ที่แทบจะโผล่ในนิยายทุกเรื่องของ "พนมเทียน" เลยมั้ง แถมรู้สึกจะดังกว่าพระเอกซะด้วยนะ คนอ่านนิยาย "พนมเทียน" รับรองต้องจำได้และชอบตัวละครตัวนี้กันทุกคน ก็คือ ท่านชายสดายุ ซึ่งเป็นผู้ช่วยพระเอกนางเอกคนสำคัญในนิยายของ "พนมเทียน" เลย พี่เคยอยากให้ "ภูธฤทธิ์" ได้เล่นเป็น ท่านชายสดายุ อ่ะค่ะ  :P


ตาลายเล็กน้อย  :-[

พนมเทียนก็เป็นนักเขียนคนโปรดของกาฬเหมือนกันค่ะ  ชื่อจริงๆ คือ  ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
กาฬชอบผลงานเรื่อง  เพชรพระอุมา มากที่สุด  เพราะว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่างในชีวิตกาฬก็ว่าได้เลย   หลงรัก พรานไพรใจฉกาจ นามว่า รพินทร์ ไพรวัลย์   หลงรัก ราชนิกูลสาวผู้พรั่งพร้อม อย่าง ม.ร.ว.หญิง ดาริน วราฤทธิ์   หลงรักกระเหรี่ยงหนุ่มจอมยียวนกวนตะบัน นาม แงซาย  หรืออีกนัยคือ  มกุกราชกุมารจักราช แห่ง มรกตนคร

เรื่องศิวาราตรี กาฬก็อ่านเหมือนกันค่ะ   ชอบมากๆ เลย   เป็นผลงานที่ทรงคุณค่าไม่แพ้เพชรพระอุมา  แต่เพราะกาฬอ่านเพชรพระอุมาก่อน และเพชระพระอุมาเปลี่ยนอะไรในตัวกาฬหลายอย่าง   กาฬก็เลยเลือกเพชรพระอุมาเป็นอันดับในดวงใจ

แต่กาฬไม่ได้อ่านเรื่องที่เป็นนิยายปกติของพนมเทียนเท่าไหร่เลยค่ะ  อ่านแต่พวกประวัติศาสตร์ซะมากกว่า   ผลงานของพนมเทียนที่อ่านก็มีแค่    เพชรพระอุมา   ศิวาราตรี   ปฐพีเพลิง   มัจจุราชสีรุ้ง   จุฬาตรีคูณ  จำไม่ได้แล้ว  จำได้แค่นี้  แต่ผลงานของคุณพนมเทียนมีมากเลย

คุณพนมเทียนจะมีความรู้ในด้านประวัติศาสตร์อินเดียอยู่มาก   เพราะถ้าจำไม่ผิด   คุณพนมเทียนจะจบอักษรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบอมเบย์   เห็นบอกว่า ปัจจุบันเปลียนชื่อแล้ว  แต่ชื่ออะไรกาฬจำไม่ได้อ่ะ   

เรื่องศิวาราตรีเป็นอะไรที่สุดยอดมาก   กาฬอ่านทั้งที่เป็นบทประพันธ์ร้อยแก้ว  และร้อยกรองที่มีการนำมาเรียบเรียงเป็นบทกลอนทั้งเรื่อง   คนที่แต่งบทกลอนสุดยอดมากเลยค่ะ   

และกาฬร้องไห้ไปกับการเสียสละของตัวละครอย่าง ทุษยันต์ ที่ตัดศีรษะตัวเองแทนเวชยันต์   อย่างหนึ่งที่พนมเทียนให้ข้อคิดจากนิยายแนวภารตะ  คือ  ความสูญเปล่า   สูญเสีย   สุดท้าย  สิ่งทีได้จากการบราฆ่าฟัน  ก็คือการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างในเรื่อง  ศิวาราตรี  ทั้งทุษยันต์  เวชยันต์  ยามาระตีอรทัย  มาณวิกา  โรหิตา  ก็ต้องตาย   
เรื่อง ปฐพีเพลิง   นาคมัลลิกา และ (พระเอกจำชื่อไม่ได้)  ก็ต้องตายเพราะกิเลสของตัวเอง
เรื่อง จุฬาตรีคูณ   อริยวรรต และ ดารารายพิลาส ก็ต้องตาย  ดารารายตายเพราะความงามของตัวเอง   ส่วนอริยวรรตก็ต้องตายเพราะตระบัดสัตย์ต่อดาราราย




ขอแจม...

สิงห์...เพื่อนพระเอกจากเรื่องบ่วงหงส์ แต่เป็นพระเอกจากเรื่อง "ตามรักคืนใจ" ค่ะ

นินดาชอบ^^ ...ต้องบอกว่า ชอบมากๆ เลยมากกว่าค่ะ

ตอนเป็นละครแล้ว รู้สึกว่าคุณลิขิตเล่นได้น่ารักดีค่ะ (จากบ่วงหงส์นะคะ)

ทำเอานินดาหลงรักนายสิงห์หัวปักหัวปำเลย

แต่เวอร์ชั่นที่ช่อง 3 เอามาทำเป็นละคร นินดาไม่ได้ดูค่ะ...แต่ไม่เสียดายค่ะ เพราะคุณลิขิตกลายเป็นนายสิงห์ในมโนภาพไปแล้ว

งานของคุณกิ่งฉัตรเท่าที่ทราบ จะเป็นประมาณงานเขียนแบบชุดค่ะ

เรื่องนี้คุณคนนี้เป็นพระเอก แต่พออีกเรื่องเพื่อนพระเอกจะได้เป็นพระเอก ทำนองนี้น่ะค่ะ

ส่วนชุดนี้จะเป็น ตามรักคืนใจ ต่อด้วยบ่วงหงส์ และด้วยแรงอธิษฐาน ใช่รึเปล่าคะ (ถ้าเรียงไม่ผิดนะคะ)

ส่วนในเรื่องชื่อ...

ชื่อ...กับตัวละครเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ นะคะ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
นินดาเองค่อนข้างพิถีพิถันกับชื่อค่ะ
กับในนิยายที่เขียน นินดามักจะเอาชื่อตัวละครไปดูเลขกำลังชื่อค่ะ
คิดวันเดือนปีเกิดให้เสร็จสรรพ แล้วเอาไปดูกับเลข มันเป็นการช่วยกำหนดบุคลิกตัวละครอีกทางด้วยค่ะ 
เหมือนจะวุ่นวายไปหน่อย แต่นินดาก็ทำจริงๆ นะ 55+

เคยอ่านงานของอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านว่า ตัวละครบางตัวอาจมีปูมหลังมากมาย เกินกว่าที่ในนิยายหนึ่งเรื่องจะบอกเล่าได้

อันนี้จริงเนอะ เพราะอย่างที่น้องกาฬฯเล่า มันก็ไม่ได้มีเขียนบอกไว้ในนิยายนี่เนอะ...

ดาริน ชื่อนี้สง่างามสมตัวจริงๆ นะคะ นินดาว่า... ^^


edit คำผิดครับ


ส่วนนิยายของกิ่งฉัตร  กาฬได้อ่านหลายเรื่อง เพราะกาฬชอบแนวเขียนของกิ่งฉัตรค่ะ   มุกตลกเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดแทรกเอาไว้   

ในบรรดานิยายของกิ่งฉัตร   กาฬก็ชอบ นายสิงห์มากที่สุดเหมือนกันค่ะ     ตอนแรกกาฬอ่านเรื่อง บ่วงหงส์ ก่อน  แล้วถึงรู้ว่า  มีตามรักคืนใจเป็นภาคก่อนหน้านี้  ก็เลยต้องไปตามหาตามรักคืนใจมาอ่าน
นายสิงห์เป็นพระเอกที่น่ารักมากๆ 

แล้วหลายเรื่องของกิ่งฉัตรก็มีภาคต่อ  การเชื่อมตัวละครกัน   

ด้วยแรงอธิษฐาน  ต่อด้วย  ตามรักคืนใจ  และบ่วงหงส์ ค่ะ

เห็นด้วยกับพี่นินดา   กาฬติดภาพนายสิงห์ที่ลิขิต เอกมงคลแสดงมากกว่าของช่อง 3 เหมือนกันค่ะ   เพราะว่าไม่ได้ดูของช่อง 3   รู้สุกว่า  รามาวดี  ไม่ค่อยเหมือน หนูนาในเรื่องเท่าไหร่  แต่ความน่ารักโอเคเลย     ตอนนี้กำลังตามหามาดูอยู่ค่ะ 

ขอบอกว่า  รักนายสิงห์จากไร่บัวขาวมากมายเลย

แล้วนิยายของกิ่งฉัตรสนุกหลายเรื่องเลย   

คืนนี้ช่อง 3  มีแกะรอยรัก  บทประพันธ์ของกิ่งฉัตรนะคะ  กาฬก็รอดูอยู่ว่าสนุกเหมือนในหนังสือมั้ย

กาฬชอบบทบาทตัวละครของกิ่งฉัตร   อย่างเรื่อง  สูตรเสน่หา เคยอ่านมั้ยคะ    นางเอกเป็นดารา  นางเอกดังมีชื่อเสียง   แต่ว่า เวอร์สุดๆ  ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็อี๊   แล้วต้องไปเป็นพิธีกรรายการอาหาร เลยต้องจ้างกุ๊กมาสอนให้   ซึ่งก็คือพระเอก   แต่ขอบอกว่า  นางเอกโอเวอร์สุดๆ เลยค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 07:46:31 PM
เรื่องชื่อสื่อบุคลิกตัวละครนี่ เห็นจะมีแต่นิยายทางแถบเอเชียหรือเปล่าคะนี่ ทั้งนิยายไทย จีน ญี่ปุ่นเท่าที่เคยอ่าน จะแสดงฝีมือในการตั้งชื่อกันทั้งนั้น อย่าง "กิมย้ง" ผู้แต่งมังกรหยก ตั้งชื่อ ก๊วยเจ๋ง เอี้ยก้วย ล้วนมีความหมายลึกซึ้ง เพราะเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์จีนในช่วงที่เกี่ยวพันกับ theme ของเรื่อง สุดยอดมากๆ แสดงถึงความรู้ที่ลึกซึ้งและความละเอียดของผู้แต่ง


แต่อย่างนิยายตะวันตก แต่พี่ก็ไม่ค่อยได้อ่านหรอกนะคะ แต่อย่างของแดน บราวน์นี่ ชื่อพระเอกนางเอกเป็นชื่อง่ายๆ ทั่วๆ ไป อย่างที่เราจะเห็นฝรั่งใช้กัน เดวิด โรเบิร์ต ไมเคิล ซูซาน ราเชล ยกเว้นชื่อ โซฟี นางเอกในเรื่อง รหัสลับดาวินชี เรื่องเดียว ที่ชื่อนางเอกมีความสำคัญกับเรื่องมาก


แต่พี่เห็นเหมือนน้องกาฬว่า การตั้งชื่อควรจะต้องให้มีความหมายนะ หรือว่าเพราะเราเกิดเป็นคนเอเชียถึงได้คิดอย่างงี้ก็ไม่รู้นะ ตอนที่พี่คิดจะเริ่มทำบล๊อก ก็คิดว่าจะต้องตั้งชื่อที่มีความหมายสื่อถึงสาระสำคัญของบล๊อกเราเหมือนกัน พี่ชอบชื่อเรียบง่ายแต่แฝงความหมายที่มากกว่าที่เห็น  ก็เลยออกมาเป็นชื่อนี้ มีชื่อไทยของชื่อ galdewis ด้วยนะ พี่คิดจะใช้เป็นชื่อนางเอกในเรื่องสั้นเรื่องที่ 2 แต่ก็ไม่ได้แต่งใหม่ซะที เฮ้อ!  :-[


นั่นล่ะสไตล์การตั้งชื่อที่พี่ชอบ เรียบง่ายแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง เห็นบางคนชอบนำตัวพยัญชนะที่ใช้น้อย อย่าง ฏ ฐ ฑ ษ ฤ ฆ มาใช้ในการตั้งชื่อ แต่ถ้าตั้งได้ไม่ดีกลับดูน่ารำคาญ อย่างนิยายเรื่องนึงของ "กิ่งฉัตร" นี่แหละ ที่เป็นเรืองเกี่ยวกับเด็กแล้วมีขึ้นศาลด้วยน่ะ ไม่ใช่นิยายโปรดเลยจำรายละเอียดไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ แต่จำได้ว่า ตอนอ่านรำคาญชื่อที่อ่านยากเรียกยากของพระเอก และตัวละครอีกหลายตัวที่ชื่อคล้ายกับพระเอกมากเลย


แต่ว่าพยัญชนะพิเศษที่ใช้น้อยพวกนี้ พี่ชอบนะคะ แต่การใช้ต้องระวัง อย่าใช้ให้มันเฝือหรือว่าไร้ความหมาย ที่สำคัญพี่รู้สึกว่า พยัญชนะพิเศษพวกนี้ มันสื่อความรู้สึกบางอย่างที่พิเศษไปกว่าพยัญชนะธรรมดาที่เราใช้บ่อยกว่าด้วยนะ โดยเฉพาะตัว ฆ นี่ ชอบถูกนำมาใช้ตั้งชื่อตัวละครที่น่ากลัวหรือลึกลับ อย่างจอมเมฆินทร์ แดร๊คคูล่าแบบไทยๆ คงเพราะตัว ฆ เป็นพยัญชนะของคำว่า ฆ่า ล่ะมัง  ??? ส่วนตัว ฤ ฐ ฑ ฎ นี่ พี่รู้สึกว่ามันสวยนะ ดูศิลป์ดีอ่ะ เหมือนถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเลย เห็นคนเขาชอบชมตัวหนังสือภาษาจีนกัน ว่าสวยงามเหมือนรูปภาพ แต่พี่ว่าพยัญชนะไทยก็ไม่แพ้นะ สวยเหมือนถูกออกแบบโดยนักออกแบบศิลป์เลยอ่ะ  :-*


ไม่ค่อยได้สังเกตชื่อของวรรณกรรมแปลเท่าไหร่ว่ามีความหมายยังไงบ้าง  คือไม่ค่อยสันทัดด้วยแหละ  แต่เห็นว่า ในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็มีที่มาของชื่อตัวละครหลายตัวอยู่เหมือนกัน

เรื่องของกิ่งฉัตรที่พี่ galdewis ว่า   คือเรื่อง ดวงใจพิศุทธิ์  ใช่มั้ยคะ   สนุกเหมือนกัน  ตอนที่ดูละคร   ชอบลูกหมีกับปุ๊กกี้มากๆ เลย    พระเอกชื่อ  (จำไมได้แล้วว่าสะกดยังไง  สะกดยากมาก แล้วยังไม่ได้ไปหาความหมายของชื่อนี้เลย)   อ่านว่า  หัด    นางเอกชื่อ   ชินานาง   ลูกหมีก็ชอบเรียก  อาช้างๆๆ   ปุ๊กกี้ ชื่อ  หวันยิหวา

ตอนที่ดูตอนนี้  เกลียด ปวีณา  ที่เล่นเป็นคุณป้าใจร้ายมากๆ เลย   เอาเอแคล์ยัดปากปุกกี้   ตบตีสารพัด  แต่ก็ชอบดูนะ



แล้วสไตล์การตั้งชื่อตัวละครที่น้องกาฬชอบเป็นยังไงคะ มีชื่อไหนที่ตั้งแล้วชอบมากๆ บ้าง แล้วมีชื่อตัวละครไหนที่ชอบเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าคะ อย่างชื่อตัวละครใน เกราะกายสิทธิ์ นี่ พี่ชอบแทบทุกตัวเลยอ่ะ โดยเฉพาะชื่อ วิษุวัต  ;) เคยไปเปิดดิค เอ๊ย! พจนานุกรมดูแล้ว มันแปลว่า จุดที่โลกจะมีกลางวันกลางคืนเท่ากัน พี่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไงนะ แต่พออ่านความหมายปุ๊บ ปิ๊งเลยอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าคนตั้งเขาจะคิดแบบพี่หรือเปล่านะคะ แต่พอพี่อ่านความหมายของ วิษุวัต พี่นึกถึงว่า มันสื่อถึงตัวละครตัวนี้เลย วิษุวัต เหมือนคนที่มีทั้งความดีและความไม่ดีอยู่ในตัวอย่างละครึ่งอ่ะ (เหมือนมัจจุราชเลยแฮะ) กลางวันก็เปรียบเสมือนความดี ส่วนกลางคืนเปรียบเหมือนความไม่ดี ความจริง วิษุวัต โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนดี แต่เพราะความที่เป็นคนมีอำนาจ บวกกับความแค้นที่ฝังลึกในตัว ศรุตเทพ เลยทำให้กลายเป็นลุแก่อำนาจไปได้ง่ายๆ เคยอ่านข่าวว่าที่อินเดียมีการฉลองเทศกาลสารทวิษุวัตหรือไงนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเทศกาลยังไงหรือสำคัญยังไง


เรื่อง วันสารทวิษุวัต  เท่าที่กาฬรู้จัก คือ วันที่เวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน   หรือวันไหว้พระจันทร์  เป็นประเพณีความเชื่อทั้งของจีน  ของญี่ปุ่น


ส่วนเรื่องการตั้งชื่อ  คงเป็นเพราะเราคนเอเชียนี่แหละ   รากฐานเราก็เป็นคนไทย   เวลาเด็กเกิดก็ต้องดูฤกษ์ยามในการตั้งชื่อ    เวลากาฬคิดชื่อตัวละคร  ก็ไปซื้อหนังสือตั้งชื่อลูกมาเลยค่ะ   แต่เดี๋ยวนี้  เสิร์ชหาเอาตามเวบตั้งชื่อบ้างแล้ว  เพราะมีข้อมูลใหม่ๆ เยอะ   

อย่างชื่อ กาฬรหัสย์    ที่กาฬใช้  เกิดมาจากความชอบอะไรที่ลึกลับ  หรือเป็นปริศนา  อะไรที่ดูแข็งแกร่ง  ก็เลย  ใช้  กาฬ  ที่แปลว่า  สีดำ   ส่วน รหัสย์  ก็มาจากคำว่า รหัส  นี่แหละค่ะ   แต่เติม ย์  เข้าไป

เห็นด้วยว่า  ตัวอักษรไทย  เป็นอะไรที่เป็นศิลปะมากๆ  มีการเก็บหัวเก็บท้าย   แต่เขียนยากมากๆ ด้วย   ถ้ามือแข็งๆ เขียนไม่ออกหรอก  (บางทีกาฬเอง  ไม่ได้เขียนหนังสือนาน  มือก็แข็งได้เหมือนกัน  กว่าจะเขียนได้  ม้วนหัวอยู่ตั้งนานจนกระดาษจะทะลุ :-X)

เคยใช้นามปากกาอื่นด้วยเหมือนกันค่ะ  แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้เท่าไหร่แล้ว  เพราะหาชื่อใหม่ได้เยอะ   แต่ช่วงแรก   ชื่อที่กาฬใช้   อยากจะบ่งบอกว่า  สิ่งที่มีค่า มีฝีมือ ต้องลึกลับซับซ้อน  ต้องหายาก  เหมือนช้างเผือกก็อยู่ในป่าลึกอะไรทำนองนั้น

บางเรื่องที่กาฬเขียน  กว่าจะเขียนได้  ต้องตามหาชื่อตัวละครที่มีความหมายทุกตัวเลย  จนบางที  เขียนเองยังงงเอง

ชื่อตัวละครบางตัว  ก็ดัดแปลงมาจากชื่อตัวเอง  และคนรอบข้าง ส่วนชื่อที่มีตัว  ฤ ฐ ฑ ฎ  นี่ก็ค่อนข้างยากนะคะ   กาฬเคยเห็นนักเขียนรุ่นใหม่คนนึง  แต่เค้าก็เขียนดีนะ   ใช้นามปากกาที่มีตัวอักษรแบบนี้ทั้งนั้นเลย   เป็นคำที่แปลกดี   และเป็นเอกลักษณ์ด้วย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 08:34:28 PM

ปล. ตอนนี้พี่ไม่ค่อยสบายอ่ะค่ะ เป็นไข้ตัวรุมๆ กลัวจะเป็นไข้หวัดใหญ่จัง ขออย่าให้เป็นเล้ย เบื่อไม่สบายที่สุด ระวังสุขภาพกันมากๆ นะคะ ที่ทำงานพี่ซ้ายขวาหน้าหลัง มีแต่คนเป็นไข้หวัดใหญ่อ่ะ บรื๋อวว์! กลัวติดจัง  ::) หมอบอกเป็นโรคที่ติดง่ายมากๆ ด้วย กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีกันเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องเป็นผลไม้นอกแพงๆ หรอกนะคะ ฝรั่งถูกๆ นี่แหละค่ะ วิตามินซีมากกว่าส้มอีก แถมกินหลังอาหารปากจะสะอาดเหมือนแปรงฟันด้วยค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ฝรั่งดองนะคะ แล้วอย่าจิ้มพริกเกลือมากนักนะคะ เป็นห่วงน้องๆ เพื่อนๆ บอยคลับทุกคนค่ะ


พี่คะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วงจังค่ะ

ด้วยความห่วงใยจาก...พี่น้องบอยคลับ

อยากจะบอกว่า  ตอนนี้กาฬเป็นหวัดแล้วแน่ๆ เลย  จามมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว   ขออย่าให้เป็นไข้เหมือนกันค่ะ   ช่วงนี้มีงานต้องทำหลายอย่างเลย   พรุ่งนี้ก็ต้องใช้แรงงาน  ขืนไม่สบาย  เสียงานแน่ๆ เลย

อยากกินฝรั่งเหมือนกัน  ไม่ได้กินนานแล้วอ่ะ   ปกติกาฬกินผลไม้ก็ไม่ค่อยแปรรูปอยู่แล้ว  เพราะเลือกกิน เลยกินแบบธรรมชาติเลย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 02, 2008, 09:34:01 PM

ขอบคุณนินดามากค่ะที่เป็นห่วง ซึ้งๆ  :-*
นี่ก็ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ หายปวดหัวแล้ว
แต่ว่ากินข้าวไม่ลง ไม่หิวเลย
เพิ่งกินฟ้าทะลายโจรไป 2 เม็ด ตอนบ่ายปวดหัวมาก เลยกินพาราไปก่อนแล้ว 2 เม็ดแล้วไปนอน
ตื่นมายังปวดหัวนิดหน่อย ตัวก็ยังอุ่นๆ แต่ขี้เกียจนอนต่อเลยเข้าบอร์ด แล้วก็นั่งเล่นเน็ตไปเรื่อยๆ จนกลับเข้ามาใหม่นี่แหละค่ะ
โห! ประชากรหนาแน่นดีจังเลยค่ะวันนี้  ;) ชอบชอบ


โทดทีที่ทำให้ตาลายนะคะ น้องกาฬ จะพยายามปรับปรุงเรื่องย่อหน้าให้มากขึ้น ไม่ให้มันเป็นพืดอย่างงี้นะคะ เพราะว่าเป็นคนใจร้อนอ่ะค่ะ ชอบเขียนรวดเดียว  :-[


ชอบ ลิขิต ตอนเล่นเป็น สิงห์ เรื่อง บ่วงหงส์ กันทั้งนั้นเลยนะคะ ตอนก่อนพี่แกจะทำศัลยกรรม พี่เคยรู้สึกว่า พี่แกเป็นพระเอกที่เท่ห์มากๆ เลยอ่ะค่ะ แต่ตอนเล่นเรื่องนี้ หน้าตาแปลกๆ หลังทำศัลยกรรมของเขา ติดตาพี่มากๆ เลย เสียดาย ไม่น่าไปทำเลย


งานของ "พนมเทียน" พี่อ่านที่เป็นนิยายรักซะมากกว่า เพราะเริ่มอ่านตั้งแต่เด็กๆ อ่ะ มันอ่านง่ายดี แล้วค่อยเขยิบไปอ่านศิวาราตรี กับ เพชรพระอุมา
ตอนนั้นรู้สึกศิวาราตรีอ่านยากมาก คงเพราะอ่านตอนเด็กมั้งคะ ภาษายาก เลยอ่านข้ามๆ แบบอ่านเอาเรื่องตามประสาเด็กที่ใจร้อนอยากรู้เรื่องไวๆ อ่ะค่ะ พอโตมา ก็ไม่ได้เอามาอ่านอีก เพราะว่าไม่ถูกกับภาษาสวยมากๆ (ไร้ความสามารถจะอ่านรู้เรื่องนั่นเอง และนิสัยใจร้อนก็ติดมาจนโต)


ส่วน เพชรพระอุมา เป็นเรื่องที่ "พนมเทียน" เขียนสำนวนดีมากๆ ใช้ภาษาบรรยายเล่าเรื่องได้สุดยอดจริงๆ เป็นตำราภาษาไทยภาคปฏิบัติเล่มใหญ่เลย แต่ทั้งตัวละครและเนื้อเรื่องกลับรู้สึกเฉยๆ พอดีไม่ถูกจริตกับเรื่องผจญภัยเท่าไหร่มั้งคะเรา


จุฬาตรีคูณ นี่ รู้สึกจะเป็นงานเขียนเรื่องแรกของ "พนมเทียน" หรือเปล่าคะ
ชอบชื่อ ดารารายพิลาศ มากๆ ตอนเด็กๆ ที่ได้อ่านเรื่องนี้นี่ รู้สึกว่าเป็นชื่อที่เพราะมากที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย
จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้กลับเป็นที่ "พนมเทียน" เขียนไว้ในคำนำ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ดูเหมือนท่านจะอธิษฐานกับพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ขอให้นิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ (เข้าใจว่าเป็นเพราะร. 6 ท่านทรงเป็นนักเขียนที่มีพระอัจฉริยภาพมาก)
แล้วท่านจะอุทิศนิยายเรื่องนี้สำหรับการกุศล ทำนองนี้อ่ะค่ะ จำข้อความที่แน่นอนไม่ได้แล้ว


แต่ผลก็คือ เวลานั่งรถผ่านพระบรมรูปร. 6 ทีหลัง จะตั้งใจไหว้ท่านมากๆ เลย จากปกติก็ไหว้อยู่แล้วอ่ะค่ะ แต่เพราะ "พนมเทียน" เลยตั้งใจไหว้พระองค์ท่านเป็นพิเศษ แอบหวังว่าจะได้เขียนเก่งขึ้นมั่ง แฮ่ะแฮ่ะ  :-[ ได้เศษเสี้ยวธุลีของพระองค์หรือของ "พนมเทียน" มั่ง  :-[


เพลงจุฬาตรีคูณก็เพราะสุดๆ ด้วยค่ะ แต่ไม่เคยฟังแบบที่มีเนื้อร้องเลย เคยฟังแต่ที่เป็นเพลงบรรเลง รู้สึกว่ามันเพราะมากจริงๆ


เรื่องพล็อตของศิวาราตรี เคยคุยกับนานะอยู่เหมือนกัน
เพราะเรารู้สึกว่า เรื่องศิวาราตรีนี่ สามารถเป็นวรรณคดีเปรียบเทียบกับเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้าของ "กิมย้ง" ได้เลย เพราะมี theme เหมือนกัน คือ การต่อต้านสงคราม
แถมพระเอกยังมี 3 คนเหมือนกันซะอีก แล้วก็เป็นพี่น้องกันด้วย เพียงแต่ 8 เทพฯ พระเอกเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แต่ศิวาราตรี พระเอกเป็นแฝด 3
แล้วตอนจบ ก็ยังเหมือนกันอีก คือพี่คนโตยอมสละชีวิตเพื่อยุติสงคราม สะเทือนใจและยิ่งใหญ่มาก :-*


สรุปว่า สิงห์ เป็นตัวละครที่เชื่อม 3 เรื่องเข้าด้วยกัน คือ ด้วยแรงอธิษฐาน ตามรักคืนใจ กับ บ่วงหงส์ เพราะว่าพระเอกด้วยแรงอธิษฐานกับบ่วงหงส์ ไม่ยักกะโผล่ในอีก 2 เรื่องด้วย


ได้ดูเรื่อง ตามรักคืนใจ ของช่อง 3 ค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ยังไม่รู้จัก "กิ่งฉัตร" ด้วย รู้แต่ว่าเป็นนักเขียนใหม่ ตอนดูตอนนั้นคิดว่า เนื้อเรื่องช่างเหมือนการ์ตูนแหววๆ ของญี่ปุ่นจังแฮะ แล้วก็มารู้ทีหลังว่า "กิ่งฉัตร" ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เหมือนหลายๆ คนแถวนี้ล่ะ


สูตรเสน่หา ไม่ได้อ่านเลยค่ะ เคยเห็นอยู่เหมือนกัน แต่ชื่อไม่ปิ๊งอ่ะค่ะ น้องกาฬ เลยยังไม่รู้สึกอยากอ่าน บางทีการเลือกจะอ่านหนังสืออะไรนี่ก็ ไม่มีเหตุผลอะไรเหมือนกันนะคะ ตามอารมณ์มากกว่า

หรือหนังสือบางเล่ม ตอนแรกไม่รู้สึกอยากอ่าน แต่พอได้อ่านแนะนำหนังสือ หรือได้ยินคนพูดในจุดหรือประเด็นที่เผอิญสะกิดต่อมอยากรู้ของเราขึ้นมา ก็เลยเปลี่ยนใจอยากอ่านขึ้นมาซะงั้น

หรือถ้าไม่มีข้อมูลเบาะแสอะไรอื่นจริงๆ บางทีแค่ชื่อหนังสือ ก็อาจทำให้ทั้งอยากอ่าน หรือไม่อยากอ่านขึ้นมาได้ วกกลับมาเรื่องชื่อจนได้ แสดงว่าเรื่องชื่อนี่ สำคัญจริงๆ เป็นสิ่งแรกที่จะสามารถดึงดูดใจคนอ่านกันได้เลยทีเดียว


ไม่รู้น้องกาฬจะจำได้รึปล่าว ที่พี่เคยบอกว่า ตัวเองไม่ได้ติดหรือชอบเรื่องแนวไหนเป็นพิเศษ อ่านได้ทุกแนว ขอให้สนุกเท่านั้น แต่มาคิดๆ ดูอีกที ก็พอจะมีแนวกับเขาบ้างเหมือนกันนะนี่ (เย! ดีใจ หาตัวเองเจอ)  :P
สงสัยพี่คงจะชอบเรื่องแนวๆ แบบ ด้วยแรงอธิษฐาน กับ บ่วงหงส์ อ่ะค่ะ คือนางเอกจะได้รับบทเรียนแล้วเกิดการเรียนรู้ จนเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางดีขึ้นในตอนจบ


อย่าง ด้วยแรงอธิษฐาน นี่ การเรียนรู้ของ วรดา ต้องใช้เวลานานถึงข้ามชาติข้ามภพกันเลยทีเดียว แถมเกิดใหม่ได้เร็วทันใจดี ส่วนเรื่อง บ่วงหงส์ นางเอกตอนแรกนี่น่าหมั่นไส้มาก แต่แล้วชีวิตก็สอนบทเรียนให้ และนางเอกก็ฉลาดพอที่จะยอมรับบทเรียนที่ชีวิตมอบให้ แม้จะเป็นบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ด้วยความเจ็บปวด


นางเอก สูตรเสน่หา นี่ สงสัยน้องๆ นางเอก บ่วงหงส์ นะคะ น้องกาฬ


เรื่องชื่อตัวละครในแฮร์รี่ พ็อตเตอร์นี่ สุดๆ ไปเลย อาจเพราะเป็นเรื่องแนวแฟนตาซีล่ะมัง ชื่อตัวละครถึงได้พิลึกพิศดารปานนี้ เออนะ มันก็เทียบได้เหมือนละครจักรๆ วงศ์ๆ ของเราเหมือนกัน ที่ชื่อตัวละครก็มักจะวิลิศมาหรา ไม่ใช่ชื่อที่เขาใช้ในชีวิตจริงๆ น่ะ

ในเรื่องแฮร์รี่นี่ ชื่อแฮร์รี่ธรรมดาที่สุดและ ไม่เหมือนชื่อพ่อมดเลยซักกะติ๊ด ชื่อโหลๆ เหมือนมักเกิ้ลทั่วๆ ไป เจเคต้องการจะสื่ออะไรจากชื่อแฮร์รี่นะ แม้แต่ชื่อ เฮอร์ไมโอนี่ ยังจะเหมือนแม่มดซะกว่าชื่อแฮร์รี่อีก ทั้งๆ ที่แฮร์รี่มีเลือดพ่อมดตั้งครึ่ง ในขณะที่ เฮอร์ไมโอนี่ เกิดจากมักเกิ้ลแท้ๆ


พูดเรื่องชื่อในแฮร์รี่ ขำตอนที่ดัมเบิลดอร์ไปรับตัวทอม ริดเด้ล จากโรงเลี้ยงเด็กกำพร้ามากๆ ชื่อดัมเบิลดอร์คงจะเป็นชื่อที่ประหลาดเอามากๆ เลย เพราะยัยคุณป้าที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า เรียกชื่อดัมเบิลดอร์เพี้ยนตลอด เป็นดันเดอบาร์มั่ง ดัมเบิลตั้น มั่ง ตลกดี  :-X


ถ้าพูดถึงการหยอดมุขตลก คุณเจ๊เจเคเธอก็ทำได้เริ่ดมากเลยนะคะ น้องกาฬ ส่วนของ "กิ่งฉัตร" นี่ เราชอบตรงคำพูดเชือดเฉือนมากกว่าอ่ะ ทำได้โดดเด่นเลยล่ะค่ะ


ขอบคุณที่เล่าเรื่องการตั้งชื่อตัวเองให้ฟังนะคะ น้องกาฬบอกอยากให้ชื่อ "กาฬรหัสย์" ฟังดูลึกลับ พี่ว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ ตัว ฬ นี่ก็เป็นตัวอักษรพิเศษอีกตัวหนึ่งในภาษาไทยเหมือนกัน

ส่วนคำว่า กาฬ พี่เห็นแล้วสิ่งแรกที่นึกถึงไม่ใช่สีดำ แต่คือ พระกาฬ เจ้าแห่งความตาย กับ เจ้าแม่กาลี ภาคหนึ่งของพระอุมา ถึงแม้จะไม่ได้เขียนด้วย ฬ ก็ตาม ส่วนคำว่า รหัส เห็นแล้วก็นึกถึงอะไรที่เป็นปริศนาอยู่แล้ว


ว่าแต่นานะหายไปไหนคะนี่เอ่ย คิดถึงนะค้า  :-*


หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 02, 2008, 09:42:12 PM

ปล. ตอนนี้พี่ไม่ค่อยสบายอ่ะค่ะ เป็นไข้ตัวรุมๆ กลัวจะเป็นไข้หวัดใหญ่จัง ขออย่าให้เป็นเล้ย เบื่อไม่สบายที่สุด ระวังสุขภาพกันมากๆ นะคะ ที่ทำงานพี่ซ้ายขวาหน้าหลัง มีแต่คนเป็นไข้หวัดใหญ่อ่ะ บรื๋อวว์! กลัวติดจัง  ::) หมอบอกเป็นโรคที่ติดง่ายมากๆ ด้วย กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีกันเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องเป็นผลไม้นอกแพงๆ หรอกนะคะ ฝรั่งถูกๆ นี่แหละค่ะ วิตามินซีมากกว่าส้มอีก แถมกินหลังอาหารปากจะสะอาดเหมือนแปรงฟันด้วยค่ะ แต่ต้องไม่ใช่ฝรั่งดองนะคะ แล้วอย่าจิ้มพริกเกลือมากนักนะคะ เป็นห่วงน้องๆ เพื่อนๆ บอยคลับทุกคนค่ะ


พี่คะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วงจังค่ะ

ด้วยความห่วงใยจาก...พี่น้องบอยคลับ

อยากจะบอกว่า  ตอนนี้กาฬเป็นหวัดแล้วแน่ๆ เลย  จามมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว   ขออย่าให้เป็นไข้เหมือนกันค่ะ   ช่วงนี้มีงานต้องทำหลายอย่างเลย   พรุ่งนี้ก็ต้องใช้แรงงาน  ขืนไม่สบาย  เสียงานแน่ๆ เลย

อยากกินฝรั่งเหมือนกัน  ไม่ได้กินนานแล้วอ่ะ   ปกติกาฬกินผลไม้ก็ไม่ค่อยแปรรูปอยู่แล้ว  เพราะเลือกกิน เลยกินแบบธรรมชาติเลย


ส้มโอ ก็ได้ค่ะ น้องกาฬ เคยไปเที่ยวทะเลกลับมาเหมือนจะเป็นไข้หวัด ซัดส้มโอไป 1 จานเต็มๆ หายเลย

กินแบบธรรมชาติดีที่สุดเนอะ แต่กลัวเรื่องยาฆ่าแมลง สารพิษปนเปื้อนนี่สิคะ ไม่รู้จะแก้ยังไงดี ปกติพี่กินผลไม้แบบที่กินทั้งเปลือกได้นี่ ก็จะไม่ปอกเปลือกด้วยอ่ะค่ะ เพราะเปลือกก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์

ช่วงไหนที่กินฝรั่ง แอ๊ปเปิ้ล ผักบุ้ง น้ำใบบัวบกเยอะๆ นี่ ผิวสวย ผมสวยเชียวค่ะ น้องกาฬ คงเพราะวิตามินซีกับวิตามินเอนะ แต่น้ำใบบัวบกนี่ต้องอย่าใส่น้ำตาลเยอะ

คืนนี้นอนเยอะๆ นะคะ น้องกาฬ พี่ก็ว่าจะไปนอนมั่งแล้วเหมือนกันค่ะ ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดี ฝันถึงคุณบอยนะคะ อิอิ  :-X

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 10:23:46 PM
งานของ "พนมเทียน" พี่อ่านที่เป็นนิยายรักซะมากกว่า เพราะเริ่มอ่านตั้งแต่เด็กๆ อ่ะ มันอ่านง่ายดี แล้วค่อยเขยิบไปอ่านศิวาราตรี กับ เพชรพระอุมา
ตอนนั้นรู้สึกศิวาราตรีอ่านยากมาก คงเพราะอ่านตอนเด็กมั้งคะ ภาษายาก เลยอ่านข้ามๆ แบบอ่านเอาเรื่องตามประสาเด็กที่ใจร้อนอยากรู้เรื่องไวๆ อ่ะค่ะ พอโตมา ก็ไม่ได้เอามาอ่านอีก เพราะว่าไม่ถูกกับภาษาสวยมากๆ (ไร้ความสามารถจะอ่านรู้เรื่องนั่นเอง และนิสัยใจร้อนก็ติดมาจนโต)


ส่วน เพชรพระอุมา เป็นเรื่องที่ "พนมเทียน" เขียนสำนวนดีมากๆ ใช้ภาษาบรรยายเล่าเรื่องได้สุดยอดจริงๆ เป็นตำราภาษาไทยภาคปฏิบัติเล่มใหญ่เลย แต่ทั้งตัวละครและเนื้อเรื่องกลับรู้สึกเฉยๆ พอดีไม่ถูกจริตกับเรื่องผจญภัยเท่าไหร่มั้งคะเรา


จุฬาตรีคูณ นี่ รู้สึกจะเป็นงานเขียนเรื่องแรกของ "พนมเทียน" หรือเปล่าคะ
ชอบชื่อ ดารารายพิลาศ มากๆ ตอนเด็กๆ ที่ได้อ่านเรื่องนี้นี่ รู้สึกว่าเป็นชื่อที่เพราะมากที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย
จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้กลับเป็นที่ "พนมเทียน" เขียนไว้ในคำนำ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ดูเหมือนท่านจะอธิษฐานกับพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ขอให้นิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ (เข้าใจว่าเป็นเพราะร. 6 ท่านทรงเป็นนักเขียนที่มีพระอัจฉริยภาพมาก)
แล้วท่านจะอุทิศนิยายเรื่องนี้สำหรับการกุศล ทำนองนี้อ่ะค่ะ จำข้อความที่แน่นอนไม่ได้แล้ว


แต่ผลก็คือ เวลานั่งรถผ่านพระบรมรูปร. 6 ทีหลัง จะตั้งใจไหว้ท่านมากๆ เลย จากปกติก็ไหว้อยู่แล้วอ่ะค่ะ แต่เพราะ "พนมเทียน" เลยตั้งใจไหว้พระองค์ท่านเป็นพิเศษ แอบหวังว่าจะได้เขียนเก่งขึ้นมั่ง แฮ่ะแฮ่ะ  :-[ ได้เศษเสี้ยวธุลีของพระองค์หรือของ "พนมเทียน" มั่ง  :-[


เพลงจุฬาตรีคูณก็เพราะสุดๆ ด้วยค่ะ แต่ไม่เคยฟังแบบที่มีเนื้อร้องเลย เคยฟังแต่ที่เป็นเพลงบรรเลง รู้สึกว่ามันเพราะมากจริงๆ


เรื่องพล็อตของศิวาราตรี เคยคุยกับนานะอยู่เหมือนกัน
เพราะเรารู้สึกว่า เรื่องศิวาราตรีนี่ สามารถเป็นวรรณคดีเปรียบเทียบกับเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้าของ "กิมย้ง" ได้เลย เพราะมี theme เหมือนกัน คือ การต่อต้านสงคราม
แถมพระเอกยังมี 3 คนเหมือนกันซะอีก แล้วก็เป็นพี่น้องกันด้วย เพียงแต่ 8 เทพฯ พระเอกเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แต่ศิวาราตรี พระเอกเป็นแฝด 3
แล้วตอนจบ ก็ยังเหมือนกันอีก คือพี่คนโตยอมสละชีวิตเพื่อยุติสงคราม สะเทือนใจและยิ่งใหญ่มาก :-*


5555+  ไม่เป็นไรค่า   พี่ galdewis กาฬสนุกมากกว่าที่ได้อ่านอะไรแบบนี้   

ส่วนพี่นานะ  ตอนนี้คงกำลังยุ่งอยู่กับจุลสารที่จะต้องส่งอาจารย์

สรุปแล้ว คุณลิขิต เป็นนายสิงห์ที่ถูกใจที่สุดกันเลยใช่ม้ย   เรื่องชื่อ เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ค่ะ  เพราะกาฬเองก็เลือกจากชื่อเรื่องเหมือนกัน    ตอนช่วงแรกๆ กาฬจะไม่อ่านนิยายที่ ชื่อเรื่อง  มีคำว่า รัก เลย   กาฬไม่ค่อยชอบเรื่องที่เน้นรักๆ ใคร่ๆ หรือ ทั้งเรื่อง มีแต่พระเอกนางเอกที่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่

แต่เพราะว่า เคยดูบ่วงหงส์ที่ช่อง 7 ทำค่ะ   ที่หน่อย บุษกรเล่นเป็น พิมลภัทร  ก็เลยไปอ่านหนังสือ  แล้วในหนังสือเอ่ยถึงหนูนากับนายสิงห์ว่า หนูนาเคยไปเผาครัวที่ไร่บัวขาว  เลยต้องไปตามหาเรื่อง ตามรักคืนใจ มาอ่านค่ะ    ยอมอ่านนิยายที่มีคำว่า รัก  อยู่ในชื่อเรื่องเป็นเรื่องแรกเลย    อีกเรื่องที่มีคำว่ารัก  แต่กาฬไม่อ่านซะที   ก็คือ  มีเพียงรัก  ของกิ่งฉัตรเหมือนกันค่ะ    เอามาเก็บไว้ที่บ้าน  ดองซะนานแล้ว   กว่าจะหยิบมาอ่านก็ตอนที่ไม่มีอะไรจะอ่านแล้ว   พออ่านรู้สึกว่าน่าจะอ่านซะตั้งนานแล้ว   



เอ  น้องๆ รึเปล่า   กาฬว่า ขั้นทวดของพิมลภัทรล่ะค่ะ   เธอชื่อ อลิน  เรื่องนี้

ถ้าให้กาฬแนะนำเรื่อง สูตรเสน่หา ถ้าอ่านเพื่อความบันเทิงล่ะสนุกมากค่ะ  แต่จะบอกว่า  บทเรียนที่นางเอกได้รับจากเรื่องนี้มีอย่างเดียวคือ  อย่ามองคนที่รูปลักษณ์ภายนอก   นางเอกจะมีสมุดบันทึกน่ารักหวานแหววเล่มนึงค่ะ    เอาไว้จดรายชื่อและให้คะแนนผู้ชายที่น่าสนใจ   แล้วเผอิญไปให้คะแนนพระเอกซะติดลบเลย  พระเอกมาเจอเลยมีงอนกันไป    ให้นางเอกต้องคิดที่จะง้อว่าควรจะทำยังไงดี

แต่เธอก็แสบนะคะ  กะล่อนอีกตะหาก  เถียงไปได้ข้างๆ คูๆ   ไม่เคยคิดว่าจะเจอนางเอกแบบนี้เลย   แม่คุณแสบเหลือเกิน  อะไรก็ทำร้ายเธอไม่ได้ทั้งนั้น   ขนาดถูกจับไปเป็นตัวประกัน  คุณเธอยังวีนซะตัวร้ายปวดหัวเลย     คนอ่านออกแนวหนักใจว่า ใครจะได้รับอันตรายกันแน่ 

อ่านเรื่องนี้ได้ฮาเกือบทั้งเล่ม

แล้วก็มีเรื่องต่อจาก สูตรเสน่หา  คือ   ค่าของหัวใจ   เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า   แม่ม่ายลูกติด ก็เป็นนางเอกได้เหมือนกัน   



อ้อ  ของกิ่งฉัตร   พี่ galdewis เคยอ่านเรื่องของสามนักข่าวสาวมั้ยคะ    สาระวารี  มัทนา  มีคณา  3 เรื่องนี้ต่อกัน  แล้วก็มีเชื่อมต่อกับ  รหัสหัวใจ   ลำนำจันทร์ (รึเปล่านะ)

ถ้าจะให้เอามาเรียงกันคงเรียงไม่ได้เลยล่ะค่ะ   เพราะว่าจะเจอตัวละครของกิ่งฉัตรได้แทบทุกเรื่องเลย



จุฬาตรีคูณ  ไม่ใช่เรื่องแรกของคุณ พนมเทียนหรอกค่ะ   เรื่องแรกคือ  เรื่อง  ปฐพีเพลิง ค่ะ   กาฬอ่านตั้งแต่ม.2 แล้ว  กาฬจำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ   แต่ว่าสนุกค่ะ   
ชอบเพลงของจุฬาตรีคูณเหมือนกัน   กาฬพอมีแบบที่ร้องเนื้อเพลงอยู่บ้าง   ไว้กาฬจะอัพให้นะคะ   แต่พี่ galdewis ต้องเตือนกาฬนะ  เดี๋ยวกาฬลืม    กาฬชอบเพลง  ใต้ร่มมะลุลี มากที่สุดเลย   ที่ ขัตติยะราเชนทร์ กับ  อาภัสรา ร้องโต้ตอบกัน  ก่อนที่อาภัสราจะไปแต่งงานกับอริยวรรต



ส่วนเรื่อง เพชรพระอุมา  เท่าที่กาฬดู  ก็มีคนชอบและไม่ชอบนะคะ  บางคนที่ไม่ชอบบอกว่า  เนื้อหามันโหดเกินไป   เหมือนเป็นการทรมานสัตว์     แต่กาฬก็อ่านเอาความสนุก  เอาความรู้  เลยไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนั้น   แต่กาฬชอบการผจญภัยอยู่แล้วล่ะ    เคยเข้าค่ายแล้วได้ตามไปดูรอยเท้าเสือมาลงกินน้ำ  รอยหมีขูดเล็บกับต้นไม้  สนุกมากๆ เลย

มีอยู่ครั้งนึง  กาฬไปล่องแก่ง  แต่กาฬว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ   แต่ยังอุตริ  ลงไปลอยคอในน้ำ  เกาะขอบเรือไป    ถือว่ามีชูชีพเลยกล้าหน่อย   แต่ใจจะว่ากลัวก็กลัวอ่ะ   ใต้น้ำมีอะไรบ้างก็ไม่รู้     แล้วเค้าบอกว่าน้ำลึก 20 ม.   มันต้องมีงู  มีจระเข้แน่ๆ เลย  แต่ก็ยังจะลงไปลอย   อยู่ในน้ำเป็นชั่วโมงเลย   แล้วกาฬเป็นพวกมีจินตนาการสูงกว่าชาวบ้านเค้า    ไม่ต้องคิด ภาพในหัวมันก็ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ แล้ว   คิดแล้วก็สยอง  แต่ก็ยังอยากไปทำอย่างนั้นอีก  :-[


ศิวาราตรีภาษายากไม่เท่า สุริยวรรมัน ของทมยันตี  ค่ะ    เท่าที่อ่านนิยายมา   เรื่องที่ภาษายากที่สุดก็เรื่อง สุริยวรรมัน นี่แหละค่ะ   แต่ก็เป็นเรื่องที่กาฬชอบมากๆ เรื่องนึง
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 02, 2008, 10:30:49 PM
ขอบคุณที่เล่าเรื่องการตั้งชื่อตัวเองให้ฟังนะคะ น้องกาฬบอกอยากให้ชื่อ "กาฬรหัสย์" ฟังดูลึกลับ พี่ว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ ตัว ฬ นี่ก็เป็นตัวอักษรพิเศษอีกตัวหนึ่งในภาษาไทยเหมือนกัน

ส่วนคำว่า กาฬ พี่เห็นแล้วสิ่งแรกที่นึกถึงไม่ใช่สีดำ แต่คือ พระกาฬ เจ้าแห่งความตาย กับ เจ้าแม่กาลี ภาคหนึ่งของพระอุมา ถึงแม้จะไม่ได้เขียนด้วย ฬ ก็ตาม ส่วนคำว่า รหัส เห็นแล้วก็นึกถึงอะไรที่เป็นปริศนาอยู่แล้ว



ขอบคุณมากๆ ค่ะ  กาฬก็ไม่ได้คิดว่าชื่อจะทำให้คนที่อ่านแล้วคิดว่ายังไง   แต่ก็มีคนเคยบอกนะคะว่า  ตอนแรกเห็นชื่อ กาฬรหัสย์  คิดว่าเป็นผู้ชาย   :-X

เอ  ถ้ากาฬที่เป็นพระกาฬ   โอ้โห   จากรหัสดำ   ก็จะมีความหมายรุนแรงขึ้น  เหมือนกาฬเป็นสัญญาณแห่งความตายอะไรประมาณนั้น  5555  เท่ห์ดี



ส้มโอ ก็ได้ค่ะ น้องกาฬ เคยไปเที่ยวทะเลกลับมาเหมือนจะเป็นไข้หวัด ซัดส้มโอไป 1 จานเต็มๆ หายเลย

กินแบบธรรมชาติดีที่สุดเนอะ แต่กลัวเรื่องยาฆ่าแมลง สารพิษปนเปื้อนนี่สิคะ ไม่รู้จะแก้ยังไงดี ปกติพี่กินผลไม้แบบที่กินทั้งเปลือกได้นี่ ก็จะไม่ปอกเปลือกด้วยอ่ะค่ะ เพราะเปลือกก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์

ช่วงไหนที่กินฝรั่ง แอ๊ปเปิ้ล ผักบุ้ง น้ำใบบัวบกเยอะๆ นี่ ผิวสวย ผมสวยเชียวค่ะ น้องกาฬ คงเพราะวิตามินซีกับวิตามินเอนะ แต่น้ำใบบัวบกนี่ต้องอย่าใส่น้ำตาลเยอะ

คืนนี้นอนเยอะๆ นะคะ น้องกาฬ พี่ก็ว่าจะไปนอนมั่งแล้วเหมือนกันค่ะ ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดี ฝันถึงคุณบอยนะคะ อิอิ  :-X



เดี๋ยวกาฬต้องกินเยอะๆ บ้างแล้ว   กาฬไม่ค่อยกินผลไม้เลย  เลือกมาก   ตอนนี้อยู่ในช่วงดูแลสุขภาพตัวเองด้วยแหละ   แต่ว่า....ว่าจะนอนยังไม่ได้นอนซะที    ยังมีงานอีกชิ้น  อยากจะทำคืนนี้ก่อนด้วย

ช่วงนี้  นอนตี 2-3 มาหลายคืนแล้ว  เฮ้ออออ  หน้าหมองคล้ำ

แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะคะ     นิทราสวัสดิ์ ค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ สิงหาคม 03, 2008, 11:16:18 AM
 :-\ เยอะจัด อ่านจนตาลายเลยค่ะ ขอเวลา 2-3 วันปั่นงานส่งจารย์ก่อนนะคะ เด๋วกลับมาคุยค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 03, 2008, 08:57:43 PM

 ;) อ่ะค่ะ นานะ ตามบายค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ นี่พี่ปวดหัวอีกแล้วอ่ะ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 03, 2008, 09:52:54 PM

ส่วนเรื่อง เพชรพระอุมา  เท่าที่กาฬดู  ก็มีคนชอบและไม่ชอบนะคะ  บางคนที่ไม่ชอบบอกว่า  เนื้อหามันโหดเกินไป   เหมือนเป็นการทรมานสัตว์     แต่กาฬก็อ่านเอาความสนุก  เอาความรู้  เลยไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนั้น   แต่กาฬชอบการผจญภัยอยู่แล้วล่ะ    เคยเข้าค่ายแล้วได้ตามไปดูรอยเท้าเสือมาลงกินน้ำ  รอยหมีขูดเล็บกับต้นไม้  สนุกมากๆ เลย

มีอยู่ครั้งนึง  กาฬไปล่องแก่ง  แต่กาฬว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ   แต่ยังอุตริ  ลงไปลอยคอในน้ำ  เกาะขอบเรือไป    ถือว่ามีชูชีพเลยกล้าหน่อย   แต่ใจจะว่ากลัวก็กลัวอ่ะ   ใต้น้ำมีอะไรบ้างก็ไม่รู้     แล้วเค้าบอกว่าน้ำลึก 20 ม.   มันต้องมีงู  มีจระเข้แน่ๆ เลย  แต่ก็ยังจะลงไปลอย   อยู่ในน้ำเป็นชั่วโมงเลย   แล้วกาฬเป็นพวกมีจินตนาการสูงกว่าชาวบ้านเค้า    ไม่ต้องคิด ภาพในหัวมันก็ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ แล้ว   คิดแล้วก็สยอง  แต่ก็ยังอยากไปทำอย่างนั้นอีก  :-[



สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ น้องกาฬ

หวาดเสียวจริงๆ อ่ะค่ะน้อง ขนาดแค่ฟังนะนี่ ใจลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว ใจกล้าจริงๆ น้องหนูเอ๊ย เชื่อแล้วว่าชอบผจญภัยจริงๆ  :-[

เป็นพี่หน่อยไม่ได้ คงนั่งตัวสั่นอยู่บน(...เรียกว่าอะไรนะคะ พาหนะที่ใช้ล่องแก่งน่ะค่ะ แพ...หรืออะไรคะ) คงจะเป็นลมมิเป็นลมแหล่ ว่าแต่แถวๆ นั้นจะมีพระเอกคอยรับเหมือนในละครมั้ยอ่ะคะ แฮ่  :-X


เรื่องเพชรพระอุมารู้สึกเฉยๆ เพราะไม่ถูกจริตตัวเองหลายอย่าง ความรู้เยอะเกินไป อ่านแล้วปวดหัวอ่ะค่ะ เป็นคนอ่านหนังสือความรู้ไม่ค่อยจะได้ ชอบแบบบันเทิงเริงใจมากกว่าอ่ะค่ะ  ;) สำหรับพี่แล้วเรื่องนี้ไม่บันเทิงเลย ความรู้ทั้งนั้น แล้วเผอิญเป็นความรู้ที่ไม่อยู่ในความสนใจ ก็เลยเฉยๆ อ่ะค่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบแนวนี้ เล่มนี้ก็เป็นราชาแล้วล่ะ แต่พี่ชอบการเขียนของ "พนมเทียน" มากๆ การใช้ภาษานี่บรมครูเลย 


อีกอย่างคือแคแร็คเตอร์ รพินทร์ กับ ดาริน ยังไม่โดนสำหรับพี่นะคะ รพินทร์ดูเก๊กไปหน่อย ส่วนดารินดูกระด้างไปหน่อย แต่ไพล่ไปชอบ แงซาย กับ พี่ชายดารินมากกว่า แล้วก็เจ้าหญิงที่เป็นคู่ของ แงซาย ด้วยค่ะ ชื่อยาวๆ เพราะๆ น่ะ จำไม่ได้ อ่านจากที่ "พนมเทียน" บรรยายถึงเธอแล้ว มีความรู้สึกว่า เป็นผู้หญิงที่หุ่นดีมากๆ อ่ะค่ะ



เรื่องชื่อ เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ค่ะ  เพราะกาฬเองก็เลือกจากชื่อเรื่องเหมือนกัน    ตอนช่วงแรกๆ กาฬจะไม่อ่านนิยายที่ ชื่อเรื่อง  มีคำว่า รัก เลย   กาฬไม่ค่อยชอบเรื่องที่เน้นรักๆ ใคร่ๆ หรือ ทั้งเรื่อง มีแต่พระเอกนางเอกที่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่



5555 เอิ๊ก คล้ายพี่เลยค่ะ พี่จะไม่หยิบเรื่องอะไรที่มีคำว่า เสน่ห์ หรือ เสน่หา อย่างเช่น เสน่ห์นางงิ้ว โซ่เสน่หา อะไรพวกนี้เหมือนกันค่ะ (แต่ดันชอบเพลงเสน่หา) บางครั้งชื่อพระเอกนางเอกก็มีผลต่อการเลือกหนังสืออ่านด้วย เออ...นางเอกเรื่องนี้ชื่อแปลกดีนะ ก็เลยอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง อะไรอย่างเงี้ยอ่ะค่ะ

แล้วก็พวกที่ชื่อออกลิเกๆ โบราณๆ หรือเห็นแค่ชื่อปุ๊บรู้ปั๊บ เรื่องนี้รันทดแหง็มๆ อย่าง แม่อายสะอื้น แว่วเสียงซึง พวกนี้ไม่อ่านไม่ดูแน่ๆ ไม่ชอบอ่านเรื่องเศร้าอ่ะค่ะ อย่าง แผลเก่า คู่กรรม นี่ อ่านครั้งเดียวก็เกินพอ หดฮู้หดหู่อ่ะ  ::)

แต่ไงก็ตาม ชื่อก็เป็นแค่สิ่งที่ดึงดูดใจได้เฉพาะเมื่อแรกเห็นเท่านั้นเอง ไม่งั้นก็คงจะไม่มีสำนวนสวยแต่รูป จูบไม่หอมอ่ะนะ


เรื่องที่นางเอกเป็นนักข่าวของ "กิ่งฉัตร" เคยได้ยินแต่ก็ไม่ได้อ่านค่ะ เห็นว่า "กิ่งฉัตร" เองก็เคยเป็นนักข่าวมาก่อนใช่มั้ยคะ

ปฐพีเพลิง นี่เป็นนิยายบู๊ใช่มั้ยคะ นึกถึง เล็บครุฑ ของ "พนมเทียน" เหมือนกันอ่ะค่ะ ชื่อเท่ห์มาก แต่ก็ไม่ได้อ่านเหมือนกัน

เคยได้ยินว่า เรื่อง สุริยวรรมัน ใช้ภาษาสันสกฤตปนขอม หูววว์! แค่ฟังก็ขยาดแล้วค่ะ น้องกาฬเก่งนะคะ ที่อ่านได้ แถมยังชอบซะอีก


ส่วนพี่ชอบนิยายเบาๆ น้ำเน่าหน่อยๆ อ่ะค่ะ น้องกาฬ ชอบจบแบบแฮ็ปปี้เอนดิ้งด้วย ส่วนเนื้อเรื่องมีสอดแทรกความรู้ที่ไม่ทำให้คนอ่านทันรู้สึกว่ามันเป็นความรู้ หรือฉันกำลังถูกสอนนะอ่ะค่ะ ไม่ชอบนิยายหนักๆ ละครหนักๆ ซักเท่าไหร่

อย่างนิยายแนวกาญจนา นาคนันทน์นี่ สเป๊คเลยค่ะ ชอบหลายเรื่อง แล้วก็นิยายแบบตัวละครได้เรียนรู้อะไรแล้วโตขึ้น อย่างเรื่อง หลงเงา ของ ว. วินิจฉัยกุล เป็นนิยายเล็กๆ เล่มหนึ่งของอาจารย์ว. ที่ไม่ค่อยเห็นมีคนพูดถึงเท่าไหร่

ส่วนสำนวนเขียนนี่ชอบหลายคนมาก ทั้งกาญจนา ทั้งอาจารย์ว. พนมเทียน ทมยันตีนี่เคยชอบมากถึงขั้นคลั่งเลยล่ะตอนเด็กๆ จุลลดา ภักดีภูมินทร์  แต่ชอบสำนวนของ ชูวงศ์ ฉายะจินดา คนแต่งเรื่อง เงาอโศก กับ จำเลยรัก มากที่สุด เพราะชอบสำนวนเขียนแบบเรียบรื่น กระชับ สละสลวย อ่านง่าย เงาอโศก นี่เป็นนิยายโรแมนติกในดวงใจตลอดกาล ส่วน จำเลยรัก เฉยๆ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 03, 2008, 11:42:30 PM
อีกอย่างคือแคแร็คเตอร์ รพินทร์ กับ ดาริน ยังไม่โดนสำหรับพี่นะคะ รพินทร์ดูเก๊กไปหน่อย ส่วนดารินดูกระด้างไปหน่อย แต่ไพล่ไปชอบ แงซาย กับ พี่ชายดารินมากกว่า แล้วก็เจ้าหญิงที่เป็นคู่ของ แงซาย ด้วยค่ะ ชื่อยาวๆ เพราะๆ น่ะ จำไม่ได้ อ่านจากที่ "พนมเทียน" บรรยายถึงเธอแล้ว มีความรู้สึกว่า เป็นผู้หญิงที่หุ่นดีมากๆ อ่ะค่ะ

ชอบแงซายเหมือนกันค่ะ  ดูกวนประสาทเงียบๆ  เค้ามีปัญหาอะไรกัน ไอ้นี่ก็นั่งเงียบอย่างเดียว   สุดท้ายก็จะใช้มุกเดิมตลอด 
"ก็ผู้กองไม่ได้ถามผม"
"ก็นายหญิงไม่ได้ถามผม"
กวนประสาทสุดๆ  แต่ก็หลงรักแงซายไปแล้ว     โดยเฉพาะในภาค 2  ที่แงซายถอดจิตมาช่วยเหลือมาคอยกวนประสาทรพินทร์กับดารินนี่  ชอบมากๆ  คิดว่าถ้าภาคนี้แงซายไม่ถอดจิตมาแล้ว   เรื่องราวคงจะจืดชืดและรันทดเศร้าสลดกว่านี้อีกหลายเท่า

แต่ก็ชอบฉากสวีทของรพินทร์กับดารินบ้างเหมือนกันค่ะ   มันจะนานมีทีให้ชื่นฉ่ำใจ   ก็เลยหวานหน่อย   

ส่วนคุณชายเชษฐาก็ชอบเหมือนกันค่ะ   จะว่าไป  นึกไม่ออกว่าไม่ชอบตัวละครไหนในเพชรพระอุมาเลย  เพราะว่า ทุกคนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง  ถ้าขาดใครไปซักคน  ก็เหมือนขาดแขนไปข้างนึง

ชอบตอน แงซายจอมจักรา  ที่เชษฐากับอนุชาลองคันธนู  แล้วมีเล่นมุกกันด้วยว่า  ถ้าปล่อยนี่ขาขาดกันเลยนะ   แล้วคุณชายทั้งสองแกก็แกล้งปล่อยซะเกือบหลบไม่ทัน

ถ้าคนที่เป็นคู่กับแงซาย   คือ  เมยานี ค่ะ   เป็นบุตรสาวขององครักษ์กษัตริย์บิดาของแงซาย  เมยานีเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง  และสวยมากๆ ค่ะ    มีกล้ามเนื้อจากการฝึกอาวุธและใช้ชีวิตเหมือนผู้ชาย   แต่ก็หุ่นดีมาก ตามที่คุณพนมเทียนบรรยายไว้
แงซายบอกว่า  เค้าไม่ได้ต้องการหญิงงามมาเป็นราชินี   แต่เค้าอยากได้หญิงที่เหมือนแม่ของเค้า   ที่มีความเข้มแข็ง พาลูกหนีจากกบฏออกไปยังดินแดนข้างนอก   


ชอบชื่ออดีตชาติของรพินทร์กับดารินนะ   รู้สึกว่าเพราะมากๆ เลย   อัคนีรุทร์  กับ  จิตรางคนางค์   จอมกษัตริยทอัคนีรุทร์ และ มกุฏราชกุมารีจิตรางคนางค์  คุณพนมเทียนตั้งชื่อได้ถูกใจมากเลย    แล้วมีคำพูดนึงของมันตรัย   ที่เอ่ยถึง พันทุมวดี น้องสาวของจิตรางคนางค์   บอกว่า
"สิบพันทุมวดี ก็ยังไม่เท่าหนึ่งจิตรางคนางค์"


อ้อ   พอพูดถึงเรื่องอดีตชาติแล้วก็ยาวอีกแล้วค่ะ  คุณพนมเทียนบอกว่า  นิทรานครที่ล่มสลายไปนั้น   มีอายุมานานกว่าแสนปีแล้ว  อัคนีรุทร์และจิตรางคนางค์เวียนว่ายตายเกิดมาหลายหมื่นหลายพันชาติภพ  แต่ไม่เคยได้สมหวังกันเลย

คุณพนมเทียนได้บอก (เค้าเรียกอะไรนะ) การวิเคราะห์อย่างนึงล่ะกัน  ว่า โลกเรา มีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา  เมื่อพัฒนาเจริญถึงขีดสุด  ก็ล่มสลาย  และจะเกิดจุดเริ่มต้นขึ้นมาใหม่   อย่างนิทรานคร  ได้ผ่านจุดที่เจริญถึงขีดสุดมาแล้ว  และล่มสลายลงเมื่อแสนปีที่แล้ว   

จากการสำรวจ  ที่บอกว่า  โลกเรา จุดแรกเริ่มของสิ่งมีชีวิตคือพวกพืชและจุลินทรีย์ ต่อมาก็เป็นยุคของไดโนเสาร์  และ.....(ช่วงนี้คือยุคอะไรนะ)......แล้วก็ยุคของมนุษย์ลิงที่กำลังวิวัฒนาการ   แล้วก็มนุษย์ถ้ำ  ต่อมาก็ยุคหิน  เหล็ก  โลหะ  จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน

แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไง  ว่าโลกเรามันดำเนินมาตามนั้นจริงๆ   อาจจะมียุคอื่นที่เร้นลับที่ยังหาไม่พบก็ได้


นี่กาฬออกนอกเรื่องไปถึงไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 12:17:32 AM
5555 เอิ๊ก คล้ายพี่เลยค่ะ พี่จะไม่หยิบเรื่องอะไรที่มีคำว่า เสน่ห์ หรือ เสน่หา อย่างเช่น เสน่ห์นางงิ้ว โซ่เสน่หา อะไรพวกนี้เหมือนกันค่ะ (แต่ดันชอบเพลงเสน่หา) บางครั้งชื่อพระเอกนางเอกก็มีผลต่อการเลือกหนังสืออ่านด้วย เออ...นางเอกเรื่องนี้ชื่อแปลกดีนะ ก็เลยอยากรู้ว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง อะไรอย่างเงี้ยอ่ะค่ะ

แล้วก็พวกที่ชื่อออกลิเกๆ โบราณๆ หรือเห็นแค่ชื่อปุ๊บรู้ปั๊บ เรื่องนี้รันทดแหง็มๆ อย่าง แม่อายสะอื้น แว่วเสียงซึง พวกนี้ไม่อ่านไม่ดูแน่ๆ ไม่ชอบอ่านเรื่องเศร้าอ่ะค่ะ อย่าง แผลเก่า คู่กรรม นี่ อ่านครั้งเดียวก็เกินพอ หดฮู้หดหู่อ่ะ  ::)

แต่ไงก็ตาม ชื่อก็เป็นแค่สิ่งที่ดึงดูดใจได้เฉพาะเมื่อแรกเห็นเท่านั้นเอง ไม่งั้นก็คงจะไม่มีสำนวนสวยแต่รูป จูบไม่หอมอ่ะนะ


เรื่อง ตามรักคืนใจ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้กาฬเปิดใจยอมอ่านเรื่องที่มีคำว่าว่ารัก หรือ เสน่หา เลยค่ะ   (แต่เพลงเสน่หาเพราะดีนะ) 

ชื่อนางเอกก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันค่ะ   สังเกตนิยายหลายเรื่อง   ชื่อนางเอกจะดูเด่นกว่าพระเอก  แปลกกว่าพระเอก   แต่ชื่อผู้ชาย  หาแปลกยากกว่าอ่ะ   ถ้ารู้สึกว่าแปลก ก็   เสือเพียงฟ้า  จาก เมืองดาหลา ของ นายพันดี     (ตอนนี้คิดออกแค่นี้)

นายพันดี  ก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบนะคะ   คุณปรียานุช  แต่งนิยายออกแนวกู้ชาติ  อุดมการณ์   อ่านแล้วซาบซึ้งในความรักชาติ


ส่วนมาก  ที่กาฬจะอ่าน  จะเป็นพวกแนวแฟนตาซี  หรือไม่ก็พีเรียด  ย้อนยุค   ข้ามภพข้ามชาติ  ข้ามกาลเวลา  อะไรทำนองนั้น  ชอบมากๆ แนวนี้    แต่ถ้าอย่างเรื่องไหนเศร้านี่   จะเป็นอะไรที่อยากลองของค่ะ   แต่เรื่องนั้นต้องน่าสนใจจริงๆ นะ

เหมือนตอนที่ได้อ่านฟิค Y ใหม่ๆ  ก็เพราะโดนน้องท้าว่า  ถ้าอ่านเรื่องนี้แล้วจะต้องร้องไห้   ก็เลยลองของ  อยากรู้นักว่าจะทำให้กาฬซาบซึ้งได้ซักแค่ไหน   เก็บน้ำตามาได้เกือบ 100 ตอน   สุดท้าย มาน้ำตาแตกเอาตอนสุดท้าย   ร้องไห้แบบปล่อยน้ำตาหยดใส่คีย์บอร์ด  ไม่คิดจะเช็ดออกเลย 

กาฬชอบที่ได้อ่านนิยายเศร้าๆ แล้วร้องไห้ไปกับหนังสือ   ก็เลยต้องลองของซะหน่อย  ว่าจะทำให้ร้องไห้ได้มั้ย   แต่คู่กรรมนี่  ไม่ได้ร้อง  คงเป็นเพราะรู้เรื่องมาตั้งแต่ยังอ่านนิยายไม่เป็น

ถ้าเป็นเรื่องของคุณทมยันตีล่ะก็  ร้องไห้มาหลายเรื่องเหมือนกัน  คำมั่นสัญญานี่   ร้องไห้มันทั้งคืน   ไม่จบไม่นอน  ร้องจนน้ำตาท่วมหนังสือ  สงสาร   ทั้งที่เคยดูละครมาแล้วนะ


ปฐพีเพลิง นี่เป็นนิยายบู๊ใช่มั้ยคะ นึกถึง เล็บครุฑ ของ "พนมเทียน" เหมือนกันอ่ะค่ะ ชื่อเท่ห์มาก แต่ก็ไม่ได้อ่านเหมือนกัน

ส่วนพี่ชอบนิยายเบาๆ น้ำเน่าหน่อยๆ อ่ะค่ะ น้องกาฬ ชอบจบแบบแฮ็ปปี้เอนดิ้งด้วย ส่วนเนื้อเรื่องมีสอดแทรกความรู้ที่ไม่ทำให้คนอ่านทันรู้สึกว่ามันเป็นความรู้ หรือฉันกำลังถูกสอนนะอ่ะค่ะ ไม่ชอบนิยายหนักๆ ละครหนักๆ ซักเท่าไหร่


ปฐพีเพลิงเป็นนิยายแนว  ศิวาราตรี  จุฬาตรีคูณค่ะ   แต่พนมเทียนแต่งเป็นเรื่องแรก  ตอนอายุ 17 (มั้ง)  ปฐพีเพลิงเป็นเรื่องแรก  ต่อมาก็เรื่อง เห่าดง   เรื่องนี้กาฬก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน

ส่วน  เล็กครุฑ นี่  ยังไม่ได้ฤกษ์อ่านซะที   ทั้งที่เป็นภาคก่อน มัจจุราชสีรุ้ง  แต่กาฬดันอ่านมัจจุราชสีรุ้งไปทั้งที่ยังไม่ได้อ่านเล็บครุฑซะงั้น

เรื่องตอนจบของเรื่อง ที่แฮปปี้หรือไม่แฮปปี้  กาฬไม่ค่อยซีเรียสค่ะ  รับได้หมด  ขอแค่ถ้าตาย  ขอให้ตายอย่างมีเหตุผลก็พอ    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เวลาอ่านนิยายก็ชอบแอบเปิดตอนท้ายเรื่องดูว่า  มันแฮปปี้มั้ย

เค้าว่ากันว่า  ถ้าใครที่อ่านนิยายแล้วชอบเปิดท้ายเรื่องดูก่อนอ่านจบ  แสดงว่าเป็นพวกมองโลกในแง่ร้าย ซึ่งกาฬก็เป็นเช่นนั้น  :-X


แต่เดี๋ยวนี้  หาหนังสือที่ดึงดูดใจยากมากเลยค่ะ   เหมือนกับว่ามันเริ่มอิ่มตัวกับการอ่านนิยายแล้ว  เพราะว่าหยิบเล่มไหนมาก็ไม่ค่อยถูกใจ  อยากอ่านเรื่องที่มันแหวกแนว   ตอนนี้เหมือนเจอแต่เรื่องซ้ำๆ เดิมๆ โดยเฉพาะนิยายวัยรุ่น

แต่เด็กสมัยนี่เก่งนะคะ  (แล้วเราอายุเท่าไหร่วะ :o)   นิยายบางเรื่อง  คนแต่งในเน็ตบางคนแต่งดีมากๆ เลย    อ่านเรื่องที่เค้าแต่งแล้วเหมือนสะท้อนปัญหาชีวิตของตัวเอง   บางทีอ่านไป  อึ้งไปกับฉากบางฉาก  หรือบางคำพูด 

แล้วต้องมาคิดว่า  เออจริง   ตอนนี้มันเป็นอย่างนี้    เราก็เจออย่างนี้   แล้วจะแก้ไขยังไง

แล้วถ้ามาเจอสถานการณ์แบบนี้จริงๆ  จะทำยังไง

มันเหมือนกับว่าสังคมเปิดกว้างให้เด็กได้มองเห็นอะไรมากขึ้น   มีมุมมองที่แปลกใหม่   จินตนาการกว้างไกลมากขึ้น 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 04, 2008, 02:34:40 PM

ชื่อ เมยานี สั้นๆ แค่นี้เองเหรอคะ พี่เหมือนจำได้ว่าชื่อยาวกว่านี้อ่ะค่ะ  :-[ ไม่มีสร้อยอะไรต่อท้ายแล้วใช่มั้ยคะ

อยากพูดถึงฝีมือตั้งชื่อของ "พนมเทียน" อีกหน่อยนะคะ น้องกาฬ
รู้สึกยังพูดได้ไม่ถึงใจที่อยากจะชื่นชมฝีมือของท่านในด้านนี้

มีความรู้สึกมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว และยิ่งโตก็ยิ่งซาบซึ้งว่า
ฝีมือการตั้งชื่อของ "พนมเทียน" นี่ สุดยอดมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยอ่ะค่ะ แทบไม่มีข้อตำหนิได้เลย
ตั้งชื่อได้คลาสสิคมาก ทั้งเพราะทั้งเก๋ ฟังดูเหมือนจะโบราณ แต่ก็ไม่
ฟังดูเหมือนจะลิเก แต่ก็ไม่เลยซักนิด

ก็อย่างชื่อ เมยานี นี่แหละ ทั้งเพราะทั้งเก๋ เป็นชื่อที่ดูมีคลาสมากๆ
เป็นชื่อเจ้าหญิงก็ยังได้ เป็นชื่อคนธรรมดาก็ฟังเก๋ไก๋ชไนเด้อร์มาก

แม้แต่ชื่อที่ "พนมเทียน" ตั้งยาวๆ ก็ดูไม่เยิ่นเย้อ และไม่ลิเกเลย
อย่าง ดารารายพิลาศ ยาวมาก เกือบๆ จะเป็นนางเอกลิเกแล้วอ่ะ แต่ก็ไม่แฮะ
กลับเป็นชื่อที่ไพเราะดูดีมีสกุลมากๆ เลย ทึ่งๆ  :-*

สรุปว่าชอบฝีมือการตั้งชื่อของ "พนมเทียน" แบบสุดๆ ค่ะ
ยกให้เป็นเจ้ายุทธจักรของนักประพันธ์เอกที่ตั้งชื่อตัวละครได้เก่งที่สุดเลย นับถือจริงๆ  ;D

แล้วพี่รู้สึกว่า "พนมเทียน" ยังคำนึงถึง "เสียง" ของคำ ที่เอามาใช้ตั้งชื่อด้วย ไม่ได้ดูที่ความหมายอย่างเดียว
แต่รู้จักใช้ประโยชน์จากเสียงวรรณยุกต์ของไทยที่ไพเราะ และมีการออกเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมทั้งใช้ประโยชน์จากเสียงสั้นเสียงยาวด้วย ซึ่งมีผลต่อความไพเราะของคำเหมือนกัน


ที่เขาว่าภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาที่เพราะที่สุดในโลกนั้นน่ะ พี่ไม่เห็นด้วยเลยซักนิด
โดยเฉพาะที่บอกว่าเพราะ เพราะว่าเสียง R น่ะ

ภาษาจีนก็เคลมว่าเขาเพราะเหมือนกัน และเขาก็มีเสียงวรรณยุกต์เหมือนกับของเราด้วย
แต่ว่าปรากฏแต่เสียง ไม่มีรูป

แต่พี่ฟังภาษาจีนทีไรนะ มันเหมือนได้ยินเสียงกระบี่กำลังฟาดฟันกันเลยอ่ะ จริงๆ นะ
เสียงมันช้งเช้งช้งเช้งยังไงก็ไม่รู้
หรือเป็นเพราะการออกเสียงวรรณยุกต์ของเขา หนักแน่นกว่าของเราหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ
พี่รู้สึกว่า การออกเสียงวรรณยุกต์ของเรา จะทอดเสียงอ่อนหวานกว่าภาษาจีนอ่ะ เลยทำให้ฟังไพเราะกว่า

เหมือนเคยอ่านเจอว่า เสียงวรรณยุกต์ทำให้ภาษาไทยไพเราะเหมือนเสียงดนตรี เห็นด้วยที่ซู้ดเลย
แต่วิธีการออกเสียงก็สำคัญ เพราะจีนก็มีเสียงวรรณยุกต์เหมือนเรา
แต่ทำไมฟังไม่ไพเราะเท่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ก็เพราะวิธีการออกเสียงที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง

อย่างการอ่านทำนองเสนาะนี่ มีอยู่ในภาษาไทยภาษาเดียวในโลกนี้หรือเปล่าคะ ใครรู้บ้าง

เพราะอย่างการอ่านโคลงกลอนของจีนหรือของฝรั่งนี่ เขาก็ไม่ได้อ่านเป็นทำนองนะ
แค่เน้นเสียงหนักเบา จังหวะจะโคน ให้มากขึ้นกว่าการอ่านธรรมดาเท่านั้นเอง
ซึ่งทำให้ฟังเพราะขึ้น แต่ที่เพราะ ก็เพราะว่าจังหวะ แต่ไม่ใช่เพราะ เพราะว่าทำนองอ่ะ

ถ้าภาษาไทยเป็นภาษาเดียวที่มีวิธีอ่านแบบทำนองเสนาะนะ
ถ้างั้นภาษาไทยก็คงเป็นภาษาเดียวในโลก ที่แค่เปลี่ยนวิธีอ่านเท่านั้น
จากข้อความธรรมดา ก็สามารถกลายเป็นเหมือนเพลงขึ้นมาได้อ่ะ โดยไม่ต้องใช้ดนตรีแม้แต่ชิ้นเดียวด้วย

สุดยอดมากๆ นะคะ ภาษาไทยของเรา ใครมองไม่เห็นคุณค่านี่ น่าเสียดายสุดๆ
และเสียทีที่อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นเจ้าของภาษาที่ทรงคุณค่านี้ทั้งที

พี่ออกนอกเรื่องไปไกลกว่าน้องกาฬซะอีกนะนี่นะ เฮ้อ! ม่ายหวายม่ายหวาย  :-[


ขอกลับมาที่เรื่องชื่ออีกทีนะคะ ชื่อที่ "พนมเทียน" ตั้งนี่ ขอยกเว้นไว้อยู่คนนึงนะ สยุมภู ทศพล
ไม่ชอบชื่อนี้เลย พับผ่าสิ เป็นชื่อพระเอกเพียงคนเดียวของ "พนมเทียน" ที่พี่ไม่ชอบเอาซะเลย
ฟังดูลิเก๊ลิเก ลูกทู้งลูกทุ่ง
ไม่ได้ดูถูกดูแคลนลิเกหรือลูกทุ่งหรอกนะคะ  ;) ไม่เกี่ยว ปกติชอบดูลิเกฟังเพลงลูกทุ่งไม่เคยรังเกียจเลย
แต่ชื่อ สยุมภู ทศพล นี่ มันไม่เพราะเอาเลย จริงๆ นะ


คนที่พอจะเทียบเคียงกับ "พนมเทียน" ได้ในเรื่องการตั้งชื่อตัวละครแบบวิจิตรบรรจง
ก็เห็นจะมีแต่ ทมยันตี อ่ะค่ะ แต่เรายังรู้สึกว่า ทมยันตี ดูจงใจไปหน่อย ที่จะตั้งให้ไพเราะ
บางทีอะไรที่ตั้งใจเกินไป อาจจะออกมาไม่ดีก็ได้ โดยเฉพาะงานทางด้านศิลป์หรือสร้างสรรค์
และโดยเฉพาะถ้าทำให้คนอ่านรู้สึกว่า จงใจเกินไป เพราะมันขาดความเป็นธรรมชาติอ่ะค่ะ


แต่ท่านนึงที่ขอเทิดทูนพระอัจฉริยภาพในฝีมือการตั้งชื่อมากที่สุด ก็คือ ในหลวงของพวกเรานั่นเองค่ะ น้องกาฬ
ทองแดงกับสุวรรณชาด อย่างงี้ โห! อย่างเก๋ที่สุด เก๋เก๋เก๋เก๋เก๋อ่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ชอบชื่อสุวรรณชาดที่มาจากทองแดงมากๆ

แล้วอย่างที่พี่บอกอ่ะค่ะ สไตล์ตัวพี่เองนี่ จะชอบอะไรที่เรียบง่ายที่สุด แต่แฝงความลึกซึ้ง
อย่างสไตล์การตั้งชื่อของในหลวงท่านนี่แหละค่ะ ชอบที่สุดเลย แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านอีก เป็นอะไรที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตมากๆ



ชอบแงซายเหมือนกันค่ะ  ดูกวนประสาทเงียบๆ  เค้ามีปัญหาอะไรกัน ไอ้นี่ก็นั่งเงียบอย่างเดียว   สุดท้ายก็จะใช้มุกเดิมตลอด 
"ก็ผู้กองไม่ได้ถามผม"
"ก็นายหญิงไม่ได้ถามผม"
กวนประสาทสุดๆ  แต่ก็หลงรักแงซายไปแล้ว     โดยเฉพาะในภาค 2  ที่แงซายถอดจิตมาช่วยเหลือมาคอยกวนประสาทรพินทร์กับดารินนี่  ชอบมากๆ  คิดว่าถ้าภาคนี้แงซายไม่ถอดจิตมาแล้ว   เรื่องราวคงจะจืดชืดและรันทดเศร้าสลดกว่านี้อีกหลายเท่า

ชอบตอน แงซายจอมจักรา  ที่เชษฐากับอนุชาลองคันธนู  แล้วมีเล่นมุกกันด้วยว่า  ถ้าปล่อยนี่ขาขาดกันเลยนะ   แล้วคุณชายทั้งสองแกก็แกล้งปล่อยซะเกือบหลบไม่ทัน

ถ้าคนที่เป็นคู่กับแงซาย   คือ  เมยานี ค่ะ   เป็นบุตรสาวขององครักษ์กษัตริย์บิดาของแงซาย  เมยานีเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง  และสวยมากๆ ค่ะ    มีกล้ามเนื้อจากการฝึกอาวุธและใช้ชีวิตเหมือนผู้ชาย   แต่ก็หุ่นดีมาก ตามที่คุณพนมเทียนบรรยายไว้
แงซายบอกว่า  เค้าไม่ได้ต้องการหญิงงามมาเป็นราชินี   แต่เค้าอยากได้หญิงที่เหมือนแม่ของเค้า   ที่มีความเข้มแข็ง พาลูกหนีจากกบฏออกไปยังดินแดนข้างนอก   


ชอบชื่ออดีตชาติของรพินทร์กับดารินนะ   รู้สึกว่าเพราะมากๆ เลย   อัคนีรุทร์  กับ  จิตรางคนางค์   จอมกษัตริยทอัคนีรุทร์ และ มกุฏราชกุมารีจิตรางคนางค์  คุณพนมเทียนตั้งชื่อได้ถูกใจมากเลย    แล้วมีคำพูดนึงของมันตรัย   ที่เอ่ยถึง พันทุมวดี น้องสาวของจิตรางคนางค์   บอกว่า
"สิบพันทุมวดี ก็ยังไม่เท่าหนึ่งจิตรางคนางค์"


อ้อ   พอพูดถึงเรื่องอดีตชาติแล้วก็ยาวอีกแล้วค่ะ  คุณพนมเทียนบอกว่า  นิทรานครที่ล่มสลายไปนั้น   มีอายุมานานกว่าแสนปีแล้ว  อัคนีรุทร์และจิตรางคนางค์เวียนว่ายตายเกิดมาหลายหมื่นหลายพันชาติภพ  แต่ไม่เคยได้สมหวังกันเลย

คุณพนมเทียนได้บอก (เค้าเรียกอะไรนะ) การวิเคราะห์อย่างนึงล่ะกัน  ว่า โลกเรา มีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา  เมื่อพัฒนาเจริญถึงขีดสุด  ก็ล่มสลาย  และจะเกิดจุดเริ่มต้นขึ้นมาใหม่   อย่างนิทรานคร  ได้ผ่านจุดที่เจริญถึงขีดสุดมาแล้ว  และล่มสลายลงเมื่อแสนปีที่แล้ว   

จากการสำรวจ  ที่บอกว่า  โลกเรา จุดแรกเริ่มของสิ่งมีชีวิตคือพวกพืชและจุลินทรีย์ ต่อมาก็เป็นยุคของไดโนเสาร์  และ.....(ช่วงนี้คือยุคอะไรนะ)......แล้วก็ยุคของมนุษย์ลิงที่กำลังวิวัฒนาการ   แล้วก็มนุษย์ถ้ำ  ต่อมาก็ยุคหิน  เหล็ก  โลหะ  จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน

แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไง  ว่าโลกเรามันดำเนินมาตามนั้นจริงๆ   อาจจะมียุคอื่นที่เร้นลับที่ยังหาไม่พบก็ได้


นี่กาฬออกนอกเรื่องไปถึงไหนเนี่ย




เวลาหนังสืออะไรที่รู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาจะอ่านได้ด้วยตัวเองนี่ จะชอบฟังคนที่เขารู้จริงเล่าให้ฟัง
อย่างที่น้องกาฬเล่ามาข้างบนนี้อ่ะค่ะ ชอบบบบ...มากกกกก...
ยิ่งถ้าคนเล่าเก่งๆ นะ สามารถเล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้นี่ สุดๆ ค่ะ ฟังเพลินสุดๆ
และทำให้สามารถได้รู้เรื่องที่ถ้าให้เราอ่านเอง ก็ไม่มีปัญญาอ่ะค่ะ
น้องกาฬ มีเรื่องอะไรยากๆ ที่น้องกาฬชอบ อ่านแล้วประทับใจ อย่าลืมมาเล่าอีกนะคะ ขอบอกว่า อ่านเพลินมากๆ  ;D

ไม่เรียกว่าออกนอกเรื่องนะคะ นี่แหละคือศิลปะการเล่าเรื่องล่ะ
การเล่าออกมาจากความรู้สึกข้างใน จากความประทับใจของเรานี่ มันน่าฟังนะคะ

นอกจากคนเล่าจะมีความสุขในการได้เล่าแล้ว คนฟังฟังแล้วก็พลอยมีความสุข เพลิดเพลิน และประทับใจไปกับคนเล่าด้วยนะคะ เป็นการจรรโลงใจอย่างนึง เป็นคุณค่าที่ไม่แพ้คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านเหมือนกันค่ะ


ที่น้องกาฬวงเล็บคำถามไว้ พี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ หลังยุคไดโนเสาร์เหรอ...ไม่รู้อ่ะ แล้วยุคน้ำแข็งนี่ มันก่อนไดโนเสาร์หรือเปล่าคะ

ส่วนตรงที่น้องกาฬใช้ว่า "พนมเทียน" บอก... ใช้ว่า "พนมเทียน" ตั้งข้อสังเกต พอจะได้มั้ยคะ

ส่วนตรงที่ "พนมเทียน" ตั้งคำถามว่า ทำไมจะมียุคอื่น ที่นอกเหนือจากการแบ่งยุคที่เรารู้ๆ กันอยู่ไม่ได้
ก็คือการใช้จินตนาการ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์
แต่อันที่จริง จินตนาการคือบ่อเกิดของความจริงด้วยนะ
แต่เพราะคนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของจินตนาการในจุดนี้
หลายครั้ง จึงมักได้ยินว่ามีคนชอบดูหมิ่นถิ่นแคลนจินตนาการ
พูดเรื่องจินตนาการแล้ว มีเรื่องพูดได้อีกยาวเลยล่ะค่ะ แต่ไว้คุยต่อวันอื่นดีกว่า เดี๋ยววันนี้ไม่จบแน่ๆ ขืนออกนอกเรื่องไปอีก แฮ่   :-[


กลับมาที่ เพชรพระอุมา ของเราอีกครั้ง
ตอนดูเรื่องอังกอร์ 2 ตอนที่วิญญาณ คอยที มาช่วยพระเอกนางเอก นึกถึง แงซาย ตอนที่น้องกาฬพูดถึงเลย
ตอนนั้นถ้าวิญญาณ คอยที ไม่มาช่วยนี่ ฝ่ายพระเอกนางเอกไม่รอดแน่ๆ
ตอนดูอังกอร์ ก็นึกตลอดว่า เรื่องนี้มันช่างเหมือนเงาของ เพชรพระอุมา ซะนี่กระไร

ถ้าจะมีหนังสือเล่มไหน ที่พี่อยากจะเห็นเป็นหนังหรือละครมากที่สุด ก็คือ เพชรพระอุมานี่แหละค่ะ
ถ้าสร้างเป็นหนังหรือละคร คิดว่าน่าจะสนุกสุดๆ กว่าในหนังสืออีกอ่ะ
น่าจะสนุกกว่าที่เอาแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ไปสร้างเป็นหนังอีกด้วย
พี่ว่าแฮร์รี่เป็นหนังสือสนุกกว่าเป็นหนังเป็นกอง ตอนเป็นหนังภาค 1 นี่ ดูแล้วหลับอ่ะ ขอบอก


เรื่องชื่อ เชษฐา กับ อนุชา ในเรื่องเพชรพระอุมานี่ เป็นอะไรที่เห็นแล้วอมยิ้มมากๆ
คิดว่า "พนมเทียน" คงขี้เกียจจะตั้งชื่อแล้วล่ะมั้ง เหมือนๆ กับที่ใช้ตัวประกอบตัวเดียวกันซะเลย ในนิยายหลายๆ เล่ม
เพราะไหนๆ นิยายแทบทุกเรื่อง มันก็ต้องมีบทพี่ชาย น้องชาย เพื่อนพระเอกเพื่อนนางเอกกันอยู่แล้วแทบทั้งนั้น จะต้องตั้งชื่อใหม่ไปไย ให้มันเสียเวลา สิ้นเปลืองทรัพยากรแรงงานและความคิด
ก็ใช้ชื่อเดิมมันนี่แหละ อย่าง ท่านชายสดายุ มรว. หญิงชลธิชา เริงใจ
ที่เป็นตัวประกอบเจ้าประจำในนิยายรักแทบทุกเรื่องของ "พนมเทียน"

แล้วเราก็ชอบตัวประกอบพวกนี้ทุกตัวด้วย แถมไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดา
แต่เป็นตัวประกอบที่ขาดไม่ได้ มีบทบาทสำคัญที่คอยช่วยพระเอกนางเอกตลอด จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

อื่มม์...ว่าจะเขียนอะไรให้มันสั้นๆ ซักหน่อย ไปๆ มาๆ ก็ยาวอีกจนได้ มันเป็นยังไงกันนะนี่ตัวเรา

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 10:35:32 PM
ที่เขาว่าภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาที่เพราะที่สุดในโลกนั้นน่ะ พี่ไม่เห็นด้วยเลยซักนิด
โดยเฉพาะที่บอกว่าเพราะ เพราะว่าเสียง R น่ะ

ภาษาจีนก็เคลมว่าเขาเพราะเหมือนกัน และเขาก็มีเสียงวรรณยุกต์เหมือนกับของเราด้วย
แต่ว่าปรากฏแต่เสียง ไม่มีรูป

แต่พี่ฟังภาษาจีนทีไรนะ มันเหมือนได้ยินเสียงกระบี่กำลังฟาดฟันกันเลยอ่ะ จริงๆ นะ
เสียงมันช้งเช้งช้งเช้งยังไงก็ไม่รู้
หรือเป็นเพราะการออกเสียงวรรณยุกต์ของเขา หนักแน่นกว่าของเราหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ
พี่รู้สึกว่า การออกเสียงวรรณยุกต์ของเรา จะทอดเสียงอ่อนหวานกว่าภาษาจีนอ่ะ เลยทำให้ฟังไพเราะกว่า

เหมือนเคยอ่านเจอว่า เสียงวรรณยุกต์ทำให้ภาษาไทยไพเราะเหมือนเสียงดนตรี เห็นด้วยที่ซู้ดเลย
แต่วิธีการออกเสียงก็สำคัญ เพราะจีนก็มีเสียงวรรณยุกต์เหมือนเรา
แต่ทำไมฟังไม่ไพเราะเท่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ก็เพราะวิธีการออกเสียงที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง

อย่างการอ่านทำนองเสนาะนี่ มีอยู่ในภาษาไทยภาษาเดียวในโลกนี้หรือเปล่าคะ ใครรู้บ้าง

เพราะอย่างการอ่านโคลงกลอนของจีนหรือของฝรั่งนี่ เขาก็ไม่ได้อ่านเป็นทำนองนะ
แค่เน้นเสียงหนักเบา จังหวะจะโคน ให้มากขึ้นกว่าการอ่านธรรมดาเท่านั้นเอง
ซึ่งทำให้ฟังเพราะขึ้น แต่ที่เพราะ ก็เพราะว่าจังหวะ แต่ไม่ใช่เพราะ เพราะว่าทำนองอ่ะ

ถ้าภาษาไทยเป็นภาษาเดียวที่มีวิธีอ่านแบบทำนองเสนาะนะ
ถ้างั้นภาษาไทยก็คงเป็นภาษาเดียวในโลก ที่แค่เปลี่ยนวิธีอ่านเท่านั้น
จากข้อความธรรมดา ก็สามารถกลายเป็นเหมือนเพลงขึ้นมาได้อ่ะ โดยไม่ต้องใช้ดนตรีแม้แต่ชิ้นเดียวด้วย

สุดยอดมากๆ นะคะ ภาษาไทยของเรา ใครมองไม่เห็นคุณค่านี่ น่าเสียดายสุดๆ
และเสียทีที่อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นเจ้าของภาษาที่ทรงคุณค่านี้ทั้งที


กาฬก็เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสตอนม.ปลายมาเหมือนกันค่ะ  แต่อย่าถามเลย  น่าอนาถใจ  คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว ทันทีที่จบม.6  :-[
ส่วนที่เหลือก็เอาไปปนกับภาษาอังกฤษมั่วไปหมดเลย

กาฬเรียนมากาฬก็ยังคิดถึงภาษาไทยนะ  ว่ายังไงภาษาไทยก็เพราะกว่าอยู่ดี    เคยได้ยินคนพูดกันว่า ที่ภาษาฝรั่งเศสออกเสียงเพราะ  เพราะว่ามันมีเสียง  ต๊องๆ แต๊งๆ เหมือนเครื่องดนตรีบรรเลง 

แต่ถ้าเป็นภาษาไทย  กาฬคิดว่า  ภาษาไทยของเรามีความไพเราะตรงที่มันเหมือนดนตรีธรรมชาติ  เสียงสายน้ำ  ลม  ฟ้า  ฟังอ่อนหวาน นุ่นนวล บางครั้งก็หนักแน่น 

อย่างกลอน หรือบทลำนำของจีนหรือฝรั่งที่เคยได้ยินมา  เค้าไม่ได้ใช้ศิลปะในทำนองการอ่าน หรือการสัมผัสเสียงสัมผัสอักษรอย่างภาษาไทยเราเลย 

ภาษาจีน  เทอมหน้ากาฬต้องเรียนแล้ว   เวลาได้ยินภาษาจีนทีไร เห็นด้วยกับที่พี่ galdewis ว่า เหมือนเสียงกระบี่กระทบกันจริงๆ ด้วย  เพราะเสียงที่เค้าออกหนักๆ ซึ่งกาฬพูดไม่ได้อ่ะ  ลงเสียงหนักอย่างนั้นไม่ได้ซะที 

ภาษาไทยของเราเป็นภาษาที่สุดยอดสุดๆ แล้ว    เท่าที่ยังศึกษามาไม่ถ่องแท้  :P  ก็ยังไม่เคยเจอภาษาไทยไพเราะเท่าภาษาไทยเลย    มีการใช้คำราชาศัพท์ของบุคคลแต่ละกลุ่ม   หรือคำๆ นึง  แปลได้หลายความหมาย  ความหมายนึง มีหลายคำ


แต่ท่านนึงที่ขอเทิดทูนพระอัจฉริยภาพในฝีมือการตั้งชื่อมากที่สุด ก็คือ ในหลวงของพวกเรานั่นเองค่ะ น้องกาฬ
ทองแดงกับสุวรรณชาด อย่างงี้ โห! อย่างเก๋ที่สุด เก๋เก๋เก๋เก๋เก๋อ่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ชอบชื่อสุวรรณชาดที่มาจากทองแดงมากๆ

แล้วอย่างที่พี่บอกอ่ะค่ะ สไตล์ตัวพี่เองนี่ จะชอบอะไรที่เรียบง่ายที่สุด แต่แฝงความลึกซึ้ง
อย่างสไตล์การตั้งชื่อของในหลวงท่านนี่แหละค่ะ ชอบที่สุดเลย แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านอีก เป็นอะไรที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตมากๆ

ในหลวงท่านทรงปัญญาล้ำเลิศมากเลยค่ะ  พระราชกรณียกิจแต่ละอย่างช่วยเหลือประชาชนโดยแท้เลย   จริงอย่างที่ว่า ไม่มีพระมหากษัตริย์ประเทศใด จะทรงทุ่มเทพระวรกายได้เช่นในหลวงของเรา



เรื่องชื่อ เชษฐา กับ อนุชา ในเรื่องเพชรพระอุมานี่ เป็นอะไรที่เห็นแล้วอมยิ้มมากๆ
คิดว่า "พนมเทียน" คงขี้เกียจจะตั้งชื่อแล้วล่ะมั้ง เหมือนๆ กับที่ใช้ตัวประกอบตัวเดียวกันซะเลย ในนิยายหลายๆ เล่ม
เพราะไหนๆ นิยายแทบทุกเรื่อง มันก็ต้องมีบทพี่ชาย น้องชาย เพื่อนพระเอกเพื่อนนางเอกกันอยู่แล้วแทบทั้งนั้น จะต้องตั้งชื่อใหม่ไปไย ให้มันเสียเวลา สิ้นเปลืองทรัพยากรแรงงานและความคิด
ก็ใช้ชื่อเดิมมันนี่แหละ อย่าง ท่านชายสดายุ มรว. หญิงชลธิชา เริงใจ
ที่เป็นตัวประกอบเจ้าประจำในนิยายรักแทบทุกเรื่องของ "พนมเทียน"

แล้วเราก็ชอบตัวประกอบพวกนี้ทุกตัวด้วย แถมไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดา
แต่เป็นตัวประกอบที่ขาดไม่ได้ มีบทบาทสำคัญที่คอยช่วยพระเอกนางเอกตลอด จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

 

ส่วนชื่อ สยมภู นี่   กาฬยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เลย   คุณพนมเทียนหมายถึง  พระสยมภูวนาถ  หรือพระศิวะรึเปล่าคะ   แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเอก  (ใช่เปล่าหว่า  ยังไม่ได้อ่าน)

อาจจะเป็นไปได้ที่  ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรแล้ว เลยออกมาเป็น  เชษฐา  อนุชา  ดาริน 

ส่วนชื่อพวกตัวประกอบตัวเดียวกันนี่   เจอบ่อยค่ะ  อย่าว่าแต่นิยายรักของคุณพนมเทียนเลย   นิยายภารตะหรือผจญภัยก็มี

อย่างชื่อที่เจอทั้งใน เพชรพระอุมา  และ ศิวาราตรี  ก็เช่น   อรัญญาณี   มหินทา  แม่มดวาชิกา   บางทีคุณพนมเทียนแต่งเองยังลืมเองเลย  เจอชื่อซ้ำในเรื่องเดียวกัน    อย่างอ่านเพชรพระอุมาภาค 2  งงมาก  ลูกหาบคณะพวกอเมริกัน  ทำไมกลายมาเป็นลูกหาบของคณะดารินได้   :-\

แต่เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้เสมอ  ยิ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มหากาพย์อย่างนี้   เพราะกาฬเอง  แค่เขียนข้ามตอน  บางทียังลืมเลยว่าตอนก่อนหน้านี้เขียนอะไรไป

ถ้าพูดถึงเรื่องชื่อของคุณพนมเทียนคงไม่จบกันง่ายๆ จริงๆ ด้วย 8)

เพราะอย่างชื่อ "พนมเทียน" เอง  ก็มีแรงบันดาลใจมาจาก  เปลวไฟที่อยู่บนยอดเทียน   เปลวไฟนั้น  จะมีรูปลักษณ์เหมือนมือที่พนม เหมือนดอกบัวตูม    คุณพนมเทียนจึงได้นำมาตั้งเป็นนามปากกา   อันนี้กาฬอ่านมาจากอันไหนจำไม่ได้แล้วอ่ะ


เวลาหนังสืออะไรที่รู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาจะอ่านได้ด้วยตัวเองนี่ จะชอบฟังคนที่เขารู้จริงเล่าให้ฟัง
อย่างที่น้องกาฬเล่ามาข้างบนนี้อ่ะค่ะ ชอบบบบ...มากกกกก...
ยิ่งถ้าคนเล่าเก่งๆ นะ สามารถเล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้นี่ สุดๆ ค่ะ ฟังเพลินสุดๆ
และทำให้สามารถได้รู้เรื่องที่ถ้าให้เราอ่านเอง ก็ไม่มีปัญญาอ่ะค่ะ
น้องกาฬ มีเรื่องอะไรยากๆ ที่น้องกาฬชอบ อ่านแล้วประทับใจ อย่าลืมมาเล่าอีกนะคะ ขอบอกว่า อ่านเพลินมากๆ  ;D

ไม่เรียกว่าออกนอกเรื่องนะคะ นี่แหละคือศิลปะการเล่าเรื่องล่ะ
การเล่าออกมาจากความรู้สึกข้างใน จากความประทับใจของเรานี่ มันน่าฟังนะคะ

นอกจากคนเล่าจะมีความสุขในการได้เล่าแล้ว คนฟังฟังแล้วก็พลอยมีความสุข เพลิดเพลิน และประทับใจไปกับคนเล่าด้วยนะคะ เป็นการจรรโลงใจอย่างนึง เป็นคุณค่าที่ไม่แพ้คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านเหมือนกันค่ะ

กาฬดีใจค่ะ  ที่มีคนชอบ   บางที กาฬพูดไป รู้สึกเหมือนตัวเองพร่ำเพ้อ    แต่มันก็เป็นความสุขในการเล่าจริงๆ นั่นแหละ  พอมาเจอคนที่สนใจฟังด้วยแล้ว   อยู่ด้วยกันทั้งปีก็มีเรื่องมาเล่าไม่หมดสิ้นหรอกค่ะ

กาฬก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีศิลปะอะไรในด้านไหน  แต่เรื่องศิลปะการเล่านี่   บางที  กาฬรู้สึกว่า ตัวเองยิ่งพูด ยิ่งทำให้คนอื่นงงซะมากกว่า   ส่วนเรื่องยากๆ  กาฬก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองมีมั้ย   กาฬเองก็เป็นคนที่ทั้งชอบอ่านและชอบฟัง  แล้วก็ชอบเอามาเล่าให้กับคนที่เค้าสนใจฟัง   สนุกดีนะคะ

เรื่องนิยายนี่   ถ้าเป็นเมื่อก่อนกาฬจะเข้ามหาลัย  กาฬอ่านเยอะมาก   ขนาดตอนที่มีโครงการนักอ่าน  กาฬกลายเป็นต้นตำรับลอกเรื่องย่อหนังสือส่งอาจารย์กันทั้งห้องทีเดียว   แต่ตอนนี้  ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่เลย   เหมือนอ่านแล้วยิ่งฟุ้งซ่านกว่าเก่า   เลยพักๆ หน่อย

เพราะบางที  ตั้งแต่เจอสังคมใหม่ๆ ปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมานี่   หนังสือบางทีก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน เพราะจิตใจไม่สงบ  แล้วกลายเป็นว่ายิ่งอ่านยิ่งฟุ้งซ่าน    แต่ถ้าไม่ได้อ่านนานๆ มันก็คิดถึงนะคะ   อย่างน้อยก็จะไปเดินดูร้านหนังสืออยู่เสมอๆ ว่ามีเรื่องอะไรออกบ้าง

แต่เวลาสอบเนี่ย  จะเป็นทุกครั้งเลย  คือมีอาการหิวหนังสือ  5555+ :-X


ที่น้องกาฬวงเล็บคำถามไว้ พี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ หลังยุคไดโนเสาร์เหรอ...ไม่รู้อ่ะ แล้วยุคน้ำแข็งนี่ มันก่อนไดโนเสาร์หรือเปล่าคะ

ส่วนตรงที่น้องกาฬใช้ว่า "พนมเทียน" บอก... ใช้ว่า "พนมเทียน" ตั้งข้อสังเกต พอจะได้มั้ยคะ

ส่วนตรงที่ "พนมเทียน" ตั้งคำถามว่า ทำไมจะมียุคอื่น ที่นอกเหนือจากการแบ่งยุคที่เรารู้ๆ กันอยู่ไม่ได้
ก็คือการใช้จินตนาการ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความคิดสร้างสรรค์
แต่อันที่จริง จินตนาการคือบ่อเกิดของความจริงด้วยนะ
แต่เพราะคนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของจินตนาการในจุดนี้
หลายครั้ง จึงมักได้ยินว่ามีคนชอบดูหมิ่นถิ่นแคลนจินตนาการ
พูดเรื่องจินตนาการแล้ว มีเรื่องพูดได้อีกยาวเลยล่ะค่ะ แต่ไว้คุยต่อวันอื่นดีกว่า เดี๋ยววันนี้ไม่จบแน่ๆ ขืนออกนอกเรื่องไปอีก แฮ่   :-[

คำว่า พนมเทียนตั้งข้อสังเกต  โอเคกว่าของกาฬอีกค่ะ  บางทีกาฬก็เบลอ  ใช้คำศัพท์ไม่ค่อยถูกสถานการณ์เหมือนกัน   จนบางที  โดนคนรอบข้างแซวว่า  เขียนนิยายดีนะ  แต่พูดไม่รู้เรื่อง  แกไปเรียงคำมาก่อนไป :P

พูดถึงเรื่องจินตนาการ  ถ้าไม่เพราะจินตนาการจะมีเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาได้ยังไง   อย่างจินตนาการของลีโอนาโด ดาวินซี (เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่กาฬชื่นชอบมาก)  ที่คิดอยากให้คนบินได้เหมือนนก  จึงได้เกิดไอเดียในการพัฒนายานยนต์จนเป็นเครื่องบินได้จนถึงทุกวันนี้

เรื่องการดูถูกจินตนาการ   กาฬเจอมาเยอะมากเลยค่ะ  อาชีพที่กาฬใฝ่ฝัน  คือการเป็นนักเขียน   แต่จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่มองว่าอาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ  อย่างที่เค้าบอกว่า  นักประพันธ์ไส้แห้ง 

ทำไมต้องดูถูก  ในเมื่อหนังสือที่คุณเรียนคุณอ่าน  ความรู้หลายๆอย่างก็เพราะนักเขียนไม่ใช่เหรอ  ที่เขียนให้คุณอ่านกัน 

ถ้าพูดถึงจินตนาการก็เริ่มจะยาวจริงๆ ด้วยแหละค่ะ   พอมีจินตนาการ  ก็มีหนังสือนิยายสนุกๆ ที่กาฬเคยอ่านผุดขึ้นมาในหัวตั้งหลายเล่ม
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 10:59:32 PM
กลับมาที่ เพชรพระอุมา ของเราอีกครั้ง
ตอนดูเรื่องอังกอร์ 2 ตอนที่วิญญาณ คอยที มาช่วยพระเอกนางเอก นึกถึง แงซาย ตอนที่น้องกาฬพูดถึงเลย
ตอนนั้นถ้าวิญญาณ คอยที ไม่มาช่วยนี่ ฝ่ายพระเอกนางเอกไม่รอดแน่ๆ
ตอนดูอังกอร์ ก็นึกตลอดว่า เรื่องนี้มันช่างเหมือนเงาของ เพชรพระอุมา ซะนี่กระไร

ถ้าจะมีหนังสือเล่มไหน ที่พี่อยากจะเห็นเป็นหนังหรือละครมากที่สุด ก็คือ เพชรพระอุมานี่แหละค่ะ
ถ้าสร้างเป็นหนังหรือละคร คิดว่าน่าจะสนุกสุดๆ กว่าในหนังสืออีกอ่ะ
น่าจะสนุกกว่าที่เอาแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ไปสร้างเป็นหนังอีกด้วย
พี่ว่าแฮร์รี่เป็นหนังสือสนุกกว่าเป็นหนังเป็นกอง ตอนเป็นหนังภาค 1 นี่ ดูแล้วหลับอ่ะ ขอบอก


ตามพี่ galdewis กลับมาที่เพชรพระอุมาอีกครั้งค่ะ   :-X

เรื่องอังกอร์เป็นละครที่กาฬชอบมากๆ เลย  แต่กาฬชอบอังกอร์ภาคแรกมากกว่า  กาฬชอบเอ็มม่าอยู่แล้วด้วย และช่วงนั้น ละครแนวเดินป่าผจญภัย แถมเป็นเรื่องของวิญญาณเสือ ไม่เคยมีให้ดู
จากการเดินเรื่องและสิ่งอัศจรรย์ทั้งหลาย   กาฬก็รู้สึกเหมือนเอาหลายๆ เรื่องมารวมกัน  อย่างหุบเขากินคน   นรกดำ (อันนี้นี่  เอาชื่อมาจากเพชรพระอุมาเปล่าเนี่ย) แต่แต่ละอย่างที่อ่อนด้อยกว่าเพชรพระอุมา  ในเรื่องความร้ายกาจของสถานที่และสิ่งมีชีวิต

เรื่องอังกอร์เนื้อเรื่องยังดูเหมือนจริงมากกว่าเรื่อง ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว  ที่แค่ไปตามหาทองของพวกญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลก  ดันไปเจอนครที่สาปสูญ  มนุษย์วานร  นารีผล  นางกินรี  โอ้ววว  เจอได้ไงเนี่ย   แต่ตอนนั้นกาฬก็ดูนะ  ชอบมากๆ ด้วย   

แต่เรื่องที่กาฬรู้สึกว่า มันเหมือนเงาของเพชรพระอุมาเลย  ก็เรื่อง  ขุมทรัพย์อมตะนคร ค่ะ   เหมือนมากๆๆๆๆๆๆ   ชนิดแบบพล็อตเดียวกันมาเลย  แม้แต่รายละเอียดในเรื่องบางอย่างยังเหมือนกันอีกด้วย

อยากเห็นเพชรพระอุมาออกมาโลดแล่นเป็นคนแสดงเหมือนกันค่ะ   แต่มันก็คงจะยาก  เพราะกาฬรอฟังข่าวคราวความคืบหน้าของเพชรพระอุมามา 8 ปีได้แล้ว  นับตั้งแต่ได้ยินว่าท่านมุ้ยจะสร้าง   และตอนนี้ก็ยังรอต่อไปค่ะ

แต่ถ้าทำเป็นหนัง  ย่อมเกิดความคาดหวังจากคนที่อ่านสูง ว่าจะต้องทำออกมาดีให้เท่ากับหนังสือที่เคยอ่าน  ซึ่งนี่เป็นเรื่องยากจริงๆ  ภาพในหัวเวลาอ่านของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้


เดี๋ยวพรุ่งนี้อาจจะมีการมาเล่าเรื่องจินตนาการต่อค่ะ   :P
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 04, 2008, 11:46:41 PM

เมื่อกี๊พี่ได้เข้าไปอ่านที่อีกกระทู้นึงน่ะค่ะ กำลังนึกถึงน้องกาฬพอดี น้องกาฬก็มา

ที่นึกถึงเพราะอยากจะให้กำลังใจน้องกาฬสักเล็กน้อย ในเรื่องที่อาจทำให้ไม่สบายใจในอีกกระทู้นึงนะคะ แต่ไม่อยากเขียนไว้ที่กระทู้นั้น ให้มันมากเรื่องมากความไป เพราะเห็นทุกคนอยากให้ happy ending กัน ตัวพี่..ก็อย่างที่เคยคุยกับน้องกาฬ ชอบอ่านนิยายที่จบแบบ happy ending อยู่แล้ว แต่นั่นมันก็แค่นิยายอ่ะนะ

เอาล่ะ กลับมาคุยกันต่อดีกว่า แค่เพียงอยากให้น้องกาฬได้รู้ว่า พี่ยินดีร่วมแบ่งปันความไม่สบายในใจ(ถ้าหากว่าจะเกิดมีในใจ)ของน้องกาฬด้วยเท่านั้นน่ะค่ะ คงเป็นสิ่งเล็กน้อยที่พี่พอจะทำให้น้องกาฬได้สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนั้นอ่ะนะคะ ก็เหมือนอย่างที่นินดาบอกว่า บอร์ดนี้ไม่เหมือนใคร ตรงที่เราแบ่งปันกัน ซึ่งคงไม่ใช่เฉพาะความสุขอย่างเดียว แต่เราควรจะแบ่งเบาในเรื่องที่เป็นความทุกข์ด้วย

รู้สึกว่ากระทู้นี้เราสองคนจะยึดครองเป็นเจ้าของไปซะแล้วนะคะนี่ น้องกาฬ อิอิ  :)




ภาษาไทยของเราเป็นภาษาที่สุดยอดสุดๆ แล้ว    เท่าที่ยังศึกษามาไม่ถ่องแท้  :P  ก็ยังไม่เคยเจอภาษาไทยไพเราะเท่าภาษาไทยเลย    มีการใช้คำราชาศัพท์ของบุคคลแต่ละกลุ่ม   หรือคำๆ นึง  แปลได้หลายความหมาย  ความหมายนึง มีหลายคำ



ใช่แล้วล่ะค่ะน้องกาฬ ภาษาไทยสุดยอดสุดๆ แล้ว แต่เพราะความสุดยอดนั้นเอง ทำให้รักษาไว้ได้ยาก และกลับกลายเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภาษาวิบัติไป อยากจะพูดเรื่องภาษาวิบัตินะคะ แต่เอาไว้ก่อน มันยาวววว



ส่วนชื่อ สยมภู นี่   กาฬยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เลย   คุณพนมเทียนหมายถึง  พระสยมภูวนาถ  หรือพระศิวะรึเปล่าคะ   แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเอก  (ใช่เปล่าหว่า  ยังไม่ได้อ่าน)



อ๋อ สยุมภู ทศพล เป็นชื่อพระเอกในเรื่องแวว มยุราของ "พนมเทียน" ค่ะ สยุมภูเฉยๆ นี่ พี่ว่ามันไม่เพราะเลย แต่คำที่น้องกาฬยกมา พระสยมภูวนาถ ฟังเพราะกว่าเยอะเลยอ่ะ สงสัยนี่คงเป็นที่มาของชื่อสยุมภูแน่ๆ เลย



ส่วนชื่อพวกตัวประกอบตัวเดียวกันนี่   เจอบ่อยค่ะ  อย่าว่าแต่นิยายรักของคุณพนมเทียนเลย   นิยายภารตะหรือผจญภัยก็มี



อ้อ ได้ความรู้ใหม่จากน้องกาฬ ที่แท้การใช้ตัวประกอบตัวเดียวกันในนิยายหลายเรื่องของนักเขียนคนเดียวกัน เป็นธรรมเนียมของนิยายภารตะด้วย อืมม! นิยายภารตะนี่ไม่ธรรมดาแฮะ พี่ชอบนะคะ เรื่องใช้ตัวประกอบร่วมนี่น่ะ พี่ว่ามันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ original มากๆ พี่แทบจะไม่เคยอ่านนิยายแขก เลยไม่เคยเห็นธรรมเนียมนี้มาก่อน มาเห็นครั้งแรกในนิยายของ "พนมเทียน" แล้วต่อมาก็คือ "กิ่งฉัตร"


วรรณกรรมของอินเดียเป็นอะไรที่ยากมากๆ สำหรับพี่ มีความเฉพาะตัวสูง และมีความเป็น original สูงมากๆ ความจริงน่าศึกษาวรรณกรรมอินเดียมากๆ เลย เพราะเป็นต้นธารหนึ่งของวรรณกรรมไทยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ไหวอ่ะค่ะ พี่ไม่มีปัญญาจริงๆ

ไม่นานมานี้เพิ่งจะอ่าน นิทานเวตาล จบเป็นครั้งแรก หลังจากที่พยายามจะอ่านให้จบมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่เคยสำเร็จ อ่านไม่รู้เรื่องจริงๆ และที่อ่านจบเป็นครั้งแรกนี่ ก็เพราะไปอ่านฉบับการ์ตูนมาค่ะ ขนาดแค่อ่านที่เขาทำมาให้อ่านง่ายๆ นี่ ยังรู้สึกประทับใจมาก ได้เห็นความเป็น original หลายๆ อย่างในด้านจินตนาการ และปรัชญาของอินเดียที่มันลึกล้ำมากๆ จนเข้าไม่ค่อยจะถึง เพราะไม่ค่อยมีความรู้พื้นฐานเรื่องอารยธรรมอินเดียเท่าไหร่


เคยอ่านเรื่อง เล่ห์เสน่หา ของ รพินทรนาถ ฐะกอร์ อ่านแล้วงวยงงเข้าไม่ถึง เพราะเป็นอะไรที่เป็นความรู้สึกนึกคิดทัศนคติของคนอินเดียมากๆ รู้แต่ว่า แต่งได้ดีเหลือหลาย เข้าใจความซับซ้อนในจิตใจของผู้หญิงอย่างถึงที่สุด คนแปลก็แปลได้เยี่ยมมากๆ

แล้วก็อีกเล่มคือ คนขี่เสือ แปลโดยจิตร ภูมิศักดิ์ เล่มนี้ค่อยยังชั่วหน่อย มีความเป็นสากลมากกว่าเล่มข้างบน แล้วก็สนุกมาก สำนวนแปลก็สุดยอด ออกแนวตลกเสียดสีซึ่งชอบอยู่แล้ว



เพราะอย่างชื่อ "พนมเทียน" เอง  ก็มีแรงบันดาลใจมาจาก  เปลวไฟที่อยู่บนยอดเทียน   เปลวไฟนั้น  จะมีรูปลักษณ์เหมือนมือที่พนม เหมือนดอกบัวตูม    คุณพนมเทียนจึงได้นำมาตั้งเป็นนามปากกา   อันนี้กาฬอ่านมาจากอันไหนจำไม่ได้แล้วอ่ะ



นี่ก็ความรู้ใหม่อีกเหมือนกัน พี่เคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าที่มาของนามปากกา "พนมเทียน" มายังไง รู้สึกว่าเป็นชื่อที่เรียบง่าย ไม่ได้ใช้ศัพท์ที่วิจิตรพิศดาร แบบชื่อตัวละครต่างๆ ที่ "พนมเทียน" ตั้ง ตอนยังไม่รู้ความหมายพี่รู้สึกว่าเป็นชื่อที่แปลก พอน้องกาฬมาบอกความหมายแล้ว พี่รู้สึกว่า เป็นชื่อที่แฝงไว้ด้วยความถ่อมตนอ่ะค่ะ

อันนี้ทำให้นึกถึง "กิมย้ง" อีกแล้วค่ะ หลังจากที่รู้สึกว่า ศิวาราตรี กับ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า เป็นวรรณคดีเปรียบเทียบเล่มใหญ่ได้ คำว่า "กิมย้ง" แปลว่า ธรรมดาดั่งทอง เป็นชื่อที่แสดงถึงความมั่นใจในตัวเองของกิมย้ง แต่ขณะเดียวกันก็แฝงความถ่อมตนเอาไว้ด้วย

ดูเหมือนว่า ความถ่อมตนจะเป็นคุณสมบัติร่วมกันของนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ 2 ท่านนี้ โดยมิได้นัดหมายนะคะ และเท่าที่สังเกต คนที่เก่งจริงๆ มักจะเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่โอ้อวดกันทั้งนั้น อย่างที่จีนเขามีสำนวนว่า ยอดคนงำประกาย น่ะค่ะ คนเก่งที่ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้นะคะ

วันนี้คุยแค่นี้ก่อนนะคะ น้องกาฬ ไว้มาคุยต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: bobenz ที่ สิงหาคม 05, 2008, 10:12:12 AM
แอบเอาข่าวมาบอกคุณ geldewis นะคะ คือพี่ วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรมบรรดาลอ่ะ กำลังจะมีผลงานใหม่ออกมาแล้วค่ะ คุณอาจจะรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้
แต่ก็ถือว่าบอกข่าวนะคะ พี่วิทย์เล่นเรื่อง เย้ยฟ้าท้าดินค่ะ คงใกล้จะออนแอร์แล้วด้วย ดีใจด้วยนะคะ มีผลงานใหม่แล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 05, 2008, 04:50:50 PM
เมื่อกี๊พี่ได้เข้าไปอ่านที่อีกกระทู้นึงน่ะค่ะ กำลังนึกถึงน้องกาฬพอดี น้องกาฬก็มา

ที่นึกถึงเพราะอยากจะให้กำลังใจน้องกาฬสักเล็กน้อย ในเรื่องที่อาจทำให้ไม่สบายใจในอีกกระทู้นึงนะคะ แต่ไม่อยากเขียนไว้ที่กระทู้นั้น ให้มันมากเรื่องมากความไป เพราะเห็นทุกคนอยากให้ happy ending กัน ตัวพี่..ก็อย่างที่เคยคุยกับน้องกาฬ ชอบอ่านนิยายที่จบแบบ happy ending อยู่แล้ว แต่นั่นมันก็แค่นิยายอ่ะนะ

เอาล่ะ กลับมาคุยกันต่อดีกว่า แค่เพียงอยากให้น้องกาฬได้รู้ว่า พี่ยินดีร่วมแบ่งปันความไม่สบายในใจ(ถ้าหากว่าจะเกิดมีในใจ)ของน้องกาฬด้วยเท่านั้นน่ะค่ะ คงเป็นสิ่งเล็กน้อยที่พี่พอจะทำให้น้องกาฬได้สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนั้นอ่ะนะคะ ก็เหมือนอย่างที่นินดาบอกว่า บอร์ดนี้ไม่เหมือนใคร ตรงที่เราแบ่งปันกัน ซึ่งคงไม่ใช่เฉพาะความสุขอย่างเดียว แต่เราควรจะแบ่งเบาในเรื่องที่เป็นความทุกข์ด้วย

รู้สึกว่ากระทู้นี้เราสองคนจะยึดครองเป็นเจ้าของไปซะแล้วนะคะนี่ น้องกาฬ อิอิ  :)

ขอบคุณพี่ galdewis มากๆ ค่ะ  เรื่องที่เกิดขึ้น  จะว่ากาฬซีเรียสมั้ย  มันก็ไม่ได้คิดอะไรอ่ะค่ะ  เพราะกาฬเองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน  บางทียาวเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนก็มี  อย่างครั้งนี้ เป็นเพราะกาฬก็เกิดโทสะขึ้น  และอยากจะให้กระจ่าง  แต่หลังจากนั้นแล้ว  กาฬก็ไม่อะไรค่ะ   
สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับกาฬอยู่ทุกวันนี้ที่กำลังพยายามแก้  คือ เรื่องอารมณ์ค่ะ   จะมีขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนง่าย   ถ้าไม่มีใครมากวนใจ เดี๋ยวมันก็สงบลงเอง
ต้องขอบคุณพี่ galdewis และทุกคนๆ มากค่ะ 



ใช่แล้วล่ะค่ะน้องกาฬ ภาษาไทยสุดยอดสุดๆ แล้ว แต่เพราะความสุดยอดนั้นเอง ทำให้รักษาไว้ได้ยาก และกลับกลายเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภาษาวิบัติไป อยากจะพูดเรื่องภาษาวิบัตินะคะ แต่เอาไว้ก่อน มันยาวววว

เรื่องการใช้ภาษาวิบัติ เจอแล้วเซ็งมากเลยค่ะ   แต่จะไปแนะนำไปบอกกับทุกคนเลยมันก็ไม่ได้  เหมือนจะเป็นอะไรที่เด็กๆ โดนปลูกฝังกันหมดแล้ว   อย่างเรื่องภาษาที่ใช้ใน msn อันนี้กาฬเจอบ่อย  แต่ก็ไม่ค่อยถือเท่าไหร่  เด็กบางคนก็มีถามกาฬเหมือนกันนะ ว่าใช้ภาษาวัยรุ่นคุยได้มั้ย  แต่ถ้าเจอแบบพวกตั้งกระทู้หรืออะไรอย่างนี้  รับไม่ค่อยได้ค่ะ   

ยิ่งถ้าใช้ภาษาวิบัติในนิยายล่ะก็  เรื่องนั้นจะไม่อ่านเลย

ยิ่งถ้าไม่ได้ฝึกใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องเป็นนิสัยล่ะก็  ภาษาไทยเสียหมดเลยค่ะ   

อีกอย่างนึง  คือตัวอักษรอีโมชั่น  ในนิยายวัยรุ่น ที่ลอกเลียนแบบมาจากนิยายเกาหลี  รู้สึกว่า บางทีมันเยอะเกิน  จนตาลาย  (แต่บางทีกาฬเองก็แอบมีแทรกบ้างเล็กๆ น้อยๆ ถ้านั่นเป็นนิยายวัยรุ่น)  เห็นแล้วมันให้ความรู้สึกเลี่ยนๆ ยังไงไม่รู้   เหมือนเห็นหน้านางเอกจะทำหน้าแอ๊บแบ๊วตลอดเวลา  ส่วนพระเอกก็จะเก๊กหน้า

ตอนนี้เลยเจอแต่นิยายที่นางเอกออกแนวเด๋อๆ ด๋าๆ จืดชืด สุดแสนจะธรรมดา  กับพระเอกสุดฮอต  เป็นที่หมายปองของสาวๆ (หรือบางเรื่องก็เป็นที่หมายปองของหนุ่มเคะด้วย :P)

กาฬก็อ่านบ้างนิยายแบบนี้  แต่ในใจกาฬชอบเรื่องที่นางเอกมีหัวคิดมากกว่า  อยากให้นางเอกไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพระเอกไปซะทุกเรื่อง (แต่ถ้าได้พึ่งพาพระเอกมันก็โรแมนติกใช่มั้ยล่ะ)  อย่างถ้าตบกับนางร้ายกระจายนี่  อ่านแล้วสะใจค่ะ  ถ้านิยายวัยรุ่นที่ถูกใจสุดๆ คงจะเป็น รักป่วนๆฉบับก๊วนเด็กหอ   ชอบคนเขียนคนนี้เพราะเรื่องนี้เลย   นางเอกนี่เป็นปิศาจชัดๆ  แสบมาก ฤทธิ์เยอะ  สะใจดี

เอ่อ......รู้สึกว่า เราจะเริ่มเรื่องภาษาวิบัติ  แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นนิยายวัยรุ่นได้ละเนี่ย :o



ไม่นานมานี้เพิ่งจะอ่าน นิทานเวตาล จบเป็นครั้งแรก หลังจากที่พยายามจะอ่านให้จบมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่เคยสำเร็จ อ่านไม่รู้เรื่องจริงๆ และที่อ่านจบเป็นครั้งแรกนี่ ก็เพราะไปอ่านฉบับการ์ตูนมาค่ะ ขนาดแค่อ่านที่เขาทำมาให้อ่านง่ายๆ นี่ ยังรู้สึกประทับใจมาก ได้เห็นความเป็น original หลายๆ อย่างในด้านจินตนาการ และปรัชญาของอินเดียที่มันลึกล้ำมากๆ จนเข้าไม่ค่อยจะถึง เพราะไม่ค่อยมีความรู้พื้นฐานเรื่องอารยธรรมอินเดียเท่าไหร่


เคยอ่านเรื่อง เล่ห์เสน่หา ของ รพินทรนาถ ฐะกอร์ อ่านแล้วงวยงงเข้าไม่ถึง เพราะเป็นอะไรที่เป็นความรู้สึกนึกคิดทัศนคติของคนอินเดียมากๆ รู้แต่ว่า แต่งได้ดีเหลือหลาย เข้าใจความซับซ้อนในจิตใจของผู้หญิงอย่างถึงที่สุด คนแปลก็แปลได้เยี่ยมมากๆ

นิทานเวตาล  กาฬมีอยู่เล่มนึงค่ะ ซื้อมาอ่าน   ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นฉบับที่สมบูรณ์รึเปล่า  ถ้าถามว่าจำอะไรในเรื่องได้บ้าง   เหอะๆๆ....จำไม่ได้เลยอ่ะ   

จำได้แต่ว่า  นางปัทมาวดี บอกคำใบ้ให้กับเจ้าชายองค์นึง  ด้วยการนำดอกบัวมาปักผม  กัด แล้วก็เหยียบ  แต่เผอิญ คนสนิทของเจ้าชายฉลาดกว่า เลยบอกความหมายต่างๆ ให้หมด

แล้วก็มีตอนที่นางมธุมาลตีถูกชุบชีวิตให้ฟื้นจากกองไฟ 

ตอนที่พระราชาและพระโอรสเจอรอยเท้าผู้หญิง 2 รอย  รอยนึงใหญ่ รอยนึงเล็ก  เลยตกลงกันว่า พระราชาจะอภิเษกกับเจ้าของรอยเท้าใหญ่  พระโอรสจะอภิเษกกับเจ้าของรอยเท้าเล็ก   แต่ปรากฏว่า รอยเท้าใหญ่คือลูกสาว  รอยเท้าเล็กคือแม่   เลยเกิดปัญหาว่า จะนับศักดิ์การเกี่ยวดองกันว่ายังไง   ในเมื่อ ลูกชาย แต่งงานกับคนแม่  พ่อแต่งงานกับคนลูก 


เห็นชื่อ รพินทรนาถ ฐะกอร์  แล้วนึกออกอีกอย่างค่ะ   ผู้กองรพินทร์ ของเพชรพระอุมา  ก็มีที่มามาจากชื่อ รพินทรนาถ นี่แหละค่ะ   แต่กาฬจะติดออกเสียงว่า  รพินทรนาถ ฐากูร มากกว่า 

ท่านเป็นเอกในด้าน.....อะไรกาฬก็จำไม่ได้แล้ว  :-[  แต่ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่คุณพนมเทียนนับถือ


อะไรที่เป็นอารยธรรมอินเดียล้ำลึกมากจริงๆ  ความเชื่อและวัฒนธรรมต่างๆ  เป็นดินแดนที่เกิดอารยธรรมขึ้นมากมาย  ทั้งจากมิลักขะ  และ อารยัน (เริ่มกลายเป็นศิวาราตรีอีกแล้ว) หรือประเพณีต่างๆ หลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง   แต่บางอย่างก็ค่อนข้างเอาเปรียบผู้หญิงมากไปหน่อย  อย่างเช่น  พิธีสตี  ที่เกิดมาจากตำนาน พระสตี ชายาคนแรกของพระศิวะ  ซึ่งต่อมาก็มาเกิดเป็นพระอุมา และได้ครองคู่กับพระศิวะอีกครั้ง  ที่ต้องให้ผู้หญิงที่สามีตายกระโดดลงกองไฟที่เผาศพสามีตายตามไปด้วย   ปัจจุบัน ได้ยกเลิกไปแล้ว  แต่ก็ยังมีบ้าง ที่แอบทำกันอยู่ 
อ่านนิยายภารตะของพนมเทียน  ก็จะเห็นทั้งเรื่องศิวาราตรี  ที่ แม่ของยามาระตีอรทัย  ซึ่งเป็นมิลักขะ  ก็ถูกโยนลงมายังสมรภูมิด้วยเช่นกัน (จำไม่ได้ว่ากระโดดลงมาเอง หรือว่าถูกโยนลงมา) 
หรือในเรื่อง จุฬาตรีคูณ  แม่ของดารารายพิลาส ก็ถูกจับโยนลงมาในจุฬาตรีคูณเหมือนกัน  สุดท้าย ลูกสาวก็เป็นไปตามนั้น

นางเอกของพนมเทียน  ระหว่างแม่กับลูก  นอกจากความงามที่ถ่ายทอดให้แก่กันแล้ว   ทั้งแม่ทั้งลูกจะชื่อเหมือนกันด้วย  และจะต้องจบลงที่โศกนาฏกรรม
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 05, 2008, 08:42:36 PM

สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับกาฬอยู่ทุกวันนี้ที่กำลังพยายามแก้  คือ เรื่องอารมณ์ค่ะ   จะมีขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนง่าย   ถ้าไม่มีใครมากวนใจ เดี๋ยวมันก็สงบลงเอง 



เรื่องอารมณ์นี่คงจะเกี่ยวกับวัยด้วยมั้ง สำหรับน้องกาฬคงเพราะยังเป็นวัยรุ่นอยู่
แต่สำหรับพี่คงเพราะใกล้วัยทองแหละ วะฮ่าฮ่า  :-X

ในบรรดารัก โลภ โกรธ หลงนี่ ไอ้อย่างอื่นๆ พี่ก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่หรอก
แต่เรื่องโกรธนี่ ไม่เคยควบคุมได้ หรือแทบไม่ควบคุมเลย

ปกติเป็นคนจะว่าโกรธยากก็ไม่เชิง
แต่เวลาจะโกรธใครทีนึงนี่ จะคิดแล้วคิดอีก ว่ามันสมควรหรือยังที่จะโกรธ
โดยจะพยายามมองในมุมของคนอื่นดูก่อน พยายามจะคิดอย่างให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่าย
ยกเว้นว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าโกรธอย่างที่ไม่ต้องมานั่งคิดพิจารณาอะไรกันอีกแล้ว

และถ้าหากตัดสินใจว่าจะโกรธแล้ว จะใส่แบบไม่มียั้งเลยล่ะค่ะ หึ!  >:(

เวลาโกรธนี่ก็จะแรงมาก มือสั่น ปากสั่น เสียงสั่น  >:(
บางทีเหมือนรู้สึกตัวเองหน้าพอง ตาพอง ตัวพอง เหมือนตัวจะระเบิ่ดยังไงยังงั้นเลย เพราะความโกรธจัด

แต่บางทีก็มือเย็น เท้าเย็น อย่างกะว่าเลือดมันกลายเป็นน้ำแข็ง เพราะยัวะสุดขีด
ทั้งๆ ที่ความจริงควรจะเลือดเดือดมากกว่า
เพราะคำว่า "ยัวะ" ซึ่งมาจากภาษาจีนนั้น นอกจากจะแปลว่าโมโหแล้ว
ยังแปลว่า "ร้อน" ด้วย แต่พี่เลือดไม่เดือดเวลายัวะ แต่ดันเลือดแข็งอ่ะ


และก็จะไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ปกติขี้ขลาดจะตายพี่อ่ะ
แต่ว่าไม่เคยใช้กำลังนะคะ ให้โกรธจัดแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะใช้กำลัง ไม่ชอบความรุนแรง
ก็จะใช้แต่ "มธุรสวาจา" อย่างเดียวอ่ะค่ะ เป็นอาวุธ
แล้วก็ไม่เคยใช้คำหยาบคายด้วย จะด่าก็ด่าอย่างมีหลักการและเหตุผลค่ะและมีวรรณศิลป์ด้วยค่ะ อิอิ :-X


ซึ่งทำให้แม่ห่วงมาก (แต่ไม่หวง) ดีที่เป็นลูกสาว ถ้าเป็นลูกชายแม่คงจะห่วงยิ่งกว่านี้
คิดแล้วก็อยากเป็น The Hulk ซะจริง ใครมาทำให้โกรธนะ คงจะมันน่าดู



เรื่องการใช้ภาษาวิบัติ เจอแล้วเซ็งมากเลยค่ะ   แต่จะไปแนะนำไปบอกกับทุกคนเลยมันก็ไม่ได้  เหมือนจะเป็นอะไรที่เด็กๆ โดนปลูกฝังกันหมดแล้ว   อย่างเรื่องภาษาที่ใช้ใน msn อันนี้กาฬเจอบ่อย  แต่ก็ไม่ค่อยถือเท่าไหร่  เด็กบางคนก็มีถามกาฬเหมือนกันนะ ว่าใช้ภาษาวัยรุ่นคุยได้มั้ย  แต่ถ้าเจอแบบพวกตั้งกระทู้หรืออะไรอย่างนี้  รับไม่ค่อยได้ค่ะ   


พี่อยากจะพูดเรื่องภาษาแชทอะไรนี่อยู่เหมือนกัน ดีเลยที่น้องกาฬยกขึ้นมา

คือเห็นคนตำหนิเด็กกันมาก เรื่องภาษาแชท ภาษาวัยรุ่น ภาษายานคางทั้งหลายที่เขียนกันบนเน็ต โดยบอกว่าเป็นภาษาวิบัติ
แต่พี่รู้สึกว่าเราต้องแยกแยะกันซักหน่อย ไม่งั้นจะหลงประเด็นได้


พี่มองว่าภาษาพวกนี้เป็นภาษาเฉพาะกลุ่ม จะใช้ยังไงก็ได้ แล้วแต่จะตกลงหรือยอมรับกันในกลุ่ม
สำหรับพี่ยังไม่ถือว่าวิบัตินะคะ
เพราะพี่รู้สึกว่า เด็กๆ เขาใช้ภาษาพวกนี้กันแบบรู้ว่าภาษาที่ถูกต้องเป็นยังไง
เพียงแต่เขาเอาภาษาที่ถูกต้อง มาประดิษฐ์ดัดแปลงใหม่ให้มันสะใจวัยรุ่นอ่ะนะ เป็นเรื่องธรรมดาอ่ะ เพราะวัยนี้ก็ต้องสร้างสรรค์ ต้อง active เยอะ ถึงจะสมวัย
เพราะงั้นพี่เลยยังไม่ถือว่าเข้าข่ายภาษาวิบัติ เพราะว่าเขายังรู้ว่าภาษาที่ถูกต้องเขียนยังไง


แต่ปัญหาคือ เด็กดันเอามาใช้ไม่ดูกาลเทศะ
อย่างเช่นเอาไปตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดสาธารณะ อย่างที่น้องกาฬเจอ
นี่มันนอกกลุ่มแล้ว ไม่เฉพาะเฉพาะภายในกลุ่ม ก็เลยถูกตำหนิ ซึ่งก็สมควร

เพียงแต่อยากจะทักท้วงว่า วิธีการตำหนิรุนแรงมากเกินไปหรือเปล่า
แล้วหลงประเด็นหรือเปล่า ที่ไปตำหนิว่าเป็นภาษาวิบัติ
ทั้งๆ ที่ควรตำหนิเด็กแค่ว่า มันไม่ถูกกาลเทศะ เท่านั้น


ภาษาเฉพาะกลุ่มอย่างภาษาแช็ท ภาษาวัยรุ่น สแลง หรือแม้แต่การเขียนเลียนแบบเสียงพูด
มันยังไม่ใช่ภาษาวิบัติ
แต่อย่าใช้ผิดกาลเทศะ ต้องใช้แต่เฉพาะภายในกลุ่มเท่านั้น
เมื่อใดที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม แต่ไปอยู่ในโลกปกติ ก็ต้องใช้ภาษาให้ถูกต้อง
เป็นการเคารพทั้งภาษาแม่ของเรา และเคารพผู้อ่านผู้ฟังด้วย


แต่ส่วนที่น่าตำหนิจริงๆ ไม่ใช่การเอาภาษาเฉพาะกลุ่มมาใช้ผิดกาลเทศะ

แต่คือการใช้ภาษาไทยอย่างผิดๆ ถูกๆ ที่เราเห็นกันทั่วไป แต่เห็นเป็นเรื่องธรรมดานี่แหละ

ทั้งการสะกดคำผิด เพราะไม่รู้ว่าที่ถูกสะกดยังไง (ไม่เกี่ยวกับการพิมพ์ผิดนะคะ เพราะพิมพ์ผิดนี่คือรู้ว่าที่ถูกเขียนยังไง แต่สะกดผิดนี่เพราะไม่รู้ว่าคำที่ถูกต้องเขียนยังไง)

การใช้คำผิดความหมาย เพราะสับสนกับคำที่มีความหมายคล้ายๆ กัน หรือเพราะสับสนด้วยเหตุใดก็ตาม เช่น ทัศนะ กับ ทัศนคติ , เดิน กับ เดินทาง , เยี่ยงอย่าง กับ แบบอย่าง , ใช้คำว่า "จุติ" ในความหมายว่า เกิดใหม่ แต่ที่จริง "จุติ" แปลว่า ตาย แม้แต่เรื่องเกราะกายสิทธิ์ก็ยังใช้คำนี้ผิด

และที่น่าหนักใจที่สุดคือ การเขียนวรรณยุกต์ผิด

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดและมักถูกหยิบยกขึ้นมาตำหนิอยู่ทุกครั้งก็คือ การใช้คำว่า คะ กับ ค่ะ อย่างสับสน

นะคะ เลยกลายเป็น นะค่ะ


เพราะว่าการใช้ภาษาผิดๆ ถืกๆ เอ๊ย! ถูกๆ หรือที่เราเรียกว่า ภาษาวิบัติ ที่บอกไปข้างบนนี้
มันสะท้อนถึงการ "ขาดความรู้" ในการใช้ภาษาไทยอย่างรุนแรง

การสะกดคำผิดๆ ถูกๆ การใช้คำผิดความหมาย เพราะแยกแยะความหมายระหว่างคำที่มีความหมายคล้ายกันไม่ได้ แสดงถึงการ "ขาดความรู้" อย่างรุนแรงในเรื่องความหมายของคำ
นี่เป็นแค่ปัญหาการขาดความรู้ระดับ "คำ" เท่านั้นนะ แล้วระดับ "ประโยค" อีกล่ะ

การใช้วรรณยุกต์ไม่เป็น สะท้อนถึงความ "ขาดความรู้" โดยสิ้นเชิง เกี่ยวกับอักษรสูง กลาง ต่ำ


มีหลายคำที่พี่รำคาญมากที่สุดเลย อย่างเช่นคำว่า "ทำการ" ไม่รู้จะใส่เข้ามาทำไมให้มันเยิ่นเย้อเร้อรัง

อะไรๆ ก็ทำการ ทำการ...ล่าสุดเพิ่งเจอในเว็บแกรมมี่ ดูเขาเขียนดิ่


Registration
Q: ทำการ   Register แล้วแต่ยังไม่ได้รับ E-Mail ตอบรับการสมัคร
A: 1. ติดต่อ Call Center เบอร์ 02-669-9666 และ Call Center จะทำการ  resend E-Mail ให้ค่ะ
2. ทำการเช็ค Junk Mail 
 
Q: ทำการ Register แล้วแต่ยังไม่ได้รับ SMS
A: ติดต่อ Call Center เบอร์ 02-669-9666 และ Call Center จะทำการ  resend SMS ให้ค่ะ 


ส่วนการจะทักท้วงก็เสี่ยงต่อการถูกโกรธอีก
บางทีเห็นแล้วว่าผิด แต่ก็ขี้เกียจทักเพราะขี้เกียจถูกมองว่าเราอวดวิเศษ

แต่วิธีการทักท้วงก็สำคัญ บางคนก็เกินไปอ่ะนะ ทักท้วงพร้อมกับทำหน้าดูถูกเหยียดหยามไปด้วย
ทำให้คนถูกทักท้วงรู้สึกขายหน้า มันก็ไม่ถูกต้องอ่ะ

ตอนนี้ต้องแว้บไปก่อนนะ ไว้มาคุยต่อค่ะ น้องกาฬ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 05, 2008, 08:47:04 PM
แอบเอาข่าวมาบอกคุณ geldewis นะคะ คือพี่ วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรมบรรดาลอ่ะ กำลังจะมีผลงานใหม่ออกมาแล้วค่ะ คุณอาจจะรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้
แต่ก็ถือว่าบอกข่าวนะคะ พี่วิทย์เล่นเรื่อง เย้ยฟ้าท้าดินค่ะ คงใกล้จะออนแอร์แล้วด้วย ดีใจด้วยนะคะ มีผลงานใหม่แล้ว อิอิ

อ่ะ เมื่อกี๊ไม่ทันเห็น comment คุณ bobenz ขอบคุณมากเลยค่ะ

เพิ่งทราบเมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันค่ะ มีเพื่อนมาบอกที่บล๊อก
แล้วก็บอกว่า เขาจะเล่นเรื่อง "ภูตแม่น้ำโขง" อีกเรื่องนึงด้วย แต่เรื่องนี้ยังหาข่าวคราวไม่เจอเลย

ขอบคุณมากๆ ค่ะ แล้วก็ดีใจด้วยเช่นกันนะคะ ที่คุณบอยจะได้เล่นสังข์ทองอ่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 05, 2008, 09:48:48 PM

มาคุยต่อฮับน้องกาฬ แต่อีกเดี๋ยวก็คงต้องแว้บอีกและล่ะ คุยเท่าที่เวลาจะอำนวยละกันนะคะ




ตอนนี้เลยเจอแต่นิยายที่นางเอกออกแนวเด๋อๆ ด๋าๆ จืดชืด สุดแสนจะธรรมดา  กับพระเอกสุดฮอต  เป็นที่หมายปองของสาวๆ (หรือบางเรื่องก็เป็นที่หมายปองของหนุ่มเคะด้วย :P)


พล็อตแบบนี้ดูเหมือนกลายเป็นสูตรสำเร็จไปแล้ว การ์ตูนหญิงๆ ของญี่ปุ่นก็พล็อตงี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ พวกหนังไต้หวันด้วย แต่ว่าที่จริงพล็อตยังไงก็ไม่สำคัญหรอก อยู่ที่ฝีมือการสร้างและเขียนบทมากกว่า ว่าจะทำออกมาได้ดีมีคุณภาพหรือเปล่า อีกอย่างคือถึงพล็อตจะโหลๆ ก็สามารถสร้างสรรค์ความ original ได้ แต่ก็ควรเอาพล็อตอื่นๆ มาสลับมั่งก็ได้ ถึงของจะอร่อย แต่ต่อให้อร่อยแค่ไหน กินซ้ำๆ ทุกวันมันก็เบื่อแหละ




ตอนที่พระราชาและพระโอรสเจอรอยเท้าผู้หญิง 2 รอย  รอยนึงใหญ่ รอยนึงเล็ก  เลยตกลงกันว่า พระราชาจะอภิเษกกับเจ้าของรอยเท้าใหญ่  พระโอรสจะอภิเษกกับเจ้าของรอยเท้าเล็ก   แต่ปรากฏว่า รอยเท้าใหญ่คือลูกสาว  รอยเท้าเล็กคือแม่   เลยเกิดปัญหาว่า จะนับศักดิ์การเกี่ยวดองกันว่ายังไง   ในเมื่อ ลูกชาย แต่งงานกับคนแม่  พ่อแต่งงานกับคนลูก 



ตอนนี้แหละ...ตอนนี้แหละ เป็น 1 ใน 2 ตอนที่ชอบที่สุดของนิทานเวตาล
อ่านแล้วขำมาก คนแต่งเรื่องนี้ท่าทางจะขี้เล่นดี
แต่ในการ์ตูนที่พี่อ่าน 2 พ่อลูกที่เจอรอยเท้าเป็นพรานป่า
ส่วน 2 แม่ลูกเจ้าของรอยเท้าเป็นเสด็จแม่กับเจ้าหญิงอ่ะ
ตอนนี้ตลกที่สุดในนิทานเวตาลเลย

ส่วนที่ชอบอีกตอนคือตอน ใครอ่อนไหวที่สุด
พระชายา 3 คน คนหนึ่งแค่ต้องแสงจันทร์ก็ปวดแสบปวดร้อน
คนนึงได้ยินเสียงอะไรจำไม่ได้ ดังมาแต่ไกลก็ออกอาการทรมานแสนสาหัสแล้ว
อีกคนนึงอะไรตกที่ตักนะ จำไม่ได้อีกเหมือนกัน (จำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง) ก็เจ็บไข้ได้ป่วยไป
ถามว่าใครอ่อนไหวที่สุด

อ่านเรื่องนี้แล้วย้อนดูตัวเลยล่ะ เพราะเป็นคน sensitive ชนิดซูเปอร์
เรื่องนี้เสียดสีคนที่เป็นอย่างพี่ได้ถึงกึ๋นเลย
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้ตัวเลย ฉันเป็นเป้าหมายเสียดสีของเรื่องนี้ เข้าใจคิดจริงๆ อ่ะ คนแต่งนี่

นี่คือวิธีการที่แยบยลในการทักท้วงคน โดยที่ไม่ทำให้คนที่ถูกทักท้วงโกรธ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นน่ะ
จะต้องจำเอาไปหัดใช้บ้าง
เหมือนกับ พีรพล เหมือนกัน ตลกหลวงของพระเจ้าอักบาร์
เป็นคนเดียวที่สามารถเตือนสติกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุลองค์นี้ได้
เพราะใช้วิธีแต่งเรื่องเสียดสีอย่างนี้แหละ



เห็นชื่อ รพินทรนาถ ฐะกอร์  แล้วนึกออกอีกอย่างค่ะ   ผู้กองรพินทร์ ของเพชรพระอุมา  ก็มีที่มามาจากชื่อ รพินทรนาถ นี่แหละค่ะ   แต่กาฬจะติดออกเสียงว่า  รพินทรนาถ ฐากูร มากกว่า 

ท่านเป็นเอกในด้าน.....อะไรกาฬก็จำไม่ได้แล้ว  :-[  แต่ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่คุณพนมเทียนนับถือ


ท่านได้รับรางวัลโนเบลวรรณกรรมน่ะค่ะ เสียดายที่เราปัญญาไม่ถึงที่จะเข้าถึงงานของท่านได้


ส่วนเรื่องการกดขี่ผู้หญิงที่มีมาแต่โบร่ำโบราณแทบจะไม่ว่าที่ไหนๆ นี่ เป็นอะไรที่เวลาได้รับรู้แล้วจะหดหู่มากๆ แล้วมันก็ยังไม่หมดไปหรอก ตราบใดที่คนที่แข็งแรงกว่ายังคงรังแกข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 05, 2008, 10:52:17 PM
แอบเอาข่าวมาบอกคุณ geldewis นะคะ คือพี่ วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรมบรรดาลอ่ะ กำลังจะมีผลงานใหม่ออกมาแล้วค่ะ คุณอาจจะรู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้
แต่ก็ถือว่าบอกข่าวนะคะ พี่วิทย์เล่นเรื่อง เย้ยฟ้าท้าดินค่ะ คงใกล้จะออนแอร์แล้วด้วย ดีใจด้วยนะคะ มีผลงานใหม่แล้ว อิอิ

อ่ะ เมื่อกี๊ไม่ทันเห็น comment คุณ bobenz ขอบคุณมากเลยค่ะ

เพิ่งทราบเมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันค่ะ มีเพื่อนมาบอกที่บล๊อก
แล้วก็บอกว่า เขาจะเล่นเรื่อง "ภูตแม่น้ำโขง" อีกเรื่องนึงด้วย แต่เรื่องนี้ยังหาข่าวคราวไม่เจอเลย

ขอบคุณมากๆ ค่ะ แล้วก็ดีใจด้วยเช่นกันนะคะ ที่คุณบอยจะได้เล่นสังข์ทองอ่ะ


จริงด้วย  อยากดู ภูตแม่น้ำโขง เหมือนกันค่ะ  เคยอ่านอยู่เหมือนกัน  แต่ก็นานแล้ว  ภาษาออกแนวพื้นบ้าน  เข้าถึงกับบรรยากาศดี   แต่บางคำก็ไม่เข้าใจอ่ะ

เห็น เอมมี่ มรกต เล่นด้วยอ่ะค่ะ   จำได้แค่นี้แหละ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 05, 2008, 11:30:24 PM
เวลาโกรธนี่ก็จะแรงมาก มือสั่น ปากสั่น เสียงสั่น  >:(
บางทีเหมือนรู้สึกตัวเองหน้าพอง ตาพอง ตัวพอง เหมือนตัวจะระเบิ่ดยังไงยังงั้นเลย เพราะความโกรธจัด

แต่บางทีก็มือเย็น เท้าเย็น อย่างกะว่าเลือดมันกลายเป็นน้ำแข็ง เพราะยัวะสุดขีด
ทั้งๆ ที่ความจริงควรจะเลือดเดือดมากกว่า
เพราะคำว่า "ยัวะ" ซึ่งมาจากภาษาจีนนั้น นอกจากจะแปลว่าโมโหแล้ว
ยังแปลว่า "ร้อน" ด้วย แต่พี่เลือดไม่เดือดเวลายัวะ แต่ดันเลือดแข็งอ่ะ


และก็จะไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ปกติขี้ขลาดจะตายพี่อ่ะ
แต่ว่าไม่เคยใช้กำลังนะคะ ให้โกรธจัดแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะใช้กำลัง ไม่ชอบความรุนแรง
ก็จะใช้แต่ "มธุรสวาจา" อย่างเดียวอ่ะค่ะ เป็นอาวุธ
แล้วก็ไม่เคยใช้คำหยาบคายด้วย จะด่าก็ด่าอย่างมีหลักการและเหตุผลค่ะและมีวรรณศิลป์ด้วยค่ะ อิอิ :-X

เมื่อก่อนกาฬก็จะเป็นค่ะ  เวลาโกรธนี่  พล่านไปทั้งตัว  ใครอยู่ใกล้ไม่ได้  เป็นโดนพาลไปหมด
พอโตมาก็เริ่มยับยั้งได้แล้ว  ให้คิดถึงเรื่องเรียนเรื่องงานก่อน    แต่บางทีก็หลุดเหมือนกันค่ะ  ทนไม่ไหว  พายุทอร์นาโดลงเต็มๆ เลย   ตอนนั้นหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วกลัวตัวเองเหมือนกัน  และเวลากาฬอารมณ์หยุดไม่อยู่แล้ว  ก็คือต้องหาที่พักใจค่ะ   ตอนนั้นแบบคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน  ต้องหาอะไรซักอย่างที่ดับความร้อนในใจ   แล้วก็คิดถึงเค้กขึ้นมาได้ (ไม่เคยพ้นเรืองกิน :P)   เลยถ่อไปถึงร้านเค้กร้านโปรด   แต่พอไปถึง........ปิดปรับปรุงค่ะ  :'( :'( เศร้าเหลือเกิน
วันต่อมา  พอมามหาลัย  ก็ได้ยินวีรกรรมที่ตัวเองทำเอาเมื่อวาน   ลงระเบิดแล้วก็ชิ่ง  :P

กาฬก็ถนัดมธุรสวาจามากกว่าจะโต้ตอบกลับทันที  เพราะเป็นพวกสมองช้าหน่อย กับเรื่องนี้  มัวแต่เอ๋อ  ตามเค้าไม่ค่อยจะทัน  แต่ส่วนมากกาฬจะใช้กับเรื่องที่โกรธจริงๆ  (ถ้าโกรธไม่จริงก็ไม่ลงมือทำอะไรเลย)     อย่างเช่นการลอกฟิคลอกนิยายกันนี่   เป็นอันดับแรกที่จะโกรธเลยค่ะ 


คำว่า ยัวะ  มาจากภาษาจีนนี่เอง   เรื่องรากศัพท์ภาษาที่ได้รับมาจากภาษาอื่น  จนปะปนกับภาษาไทยมีหลายคำมาก  จนบางครั้ง กาฬยังแยกไม่ค่อยออกเลยว่าใช่ภาษาไทยแท้รึเปล่า   

อย่างก่อนหน้านี้  การเรียนเรื่องวัฒนธรรม  แล้วอาจารย์เปิดซีรีย์เกาหลีให้ดู   เรื่อง Witch Yuu Hee  55555+ :-X  อินเทรนเนอะ   แล้วให้หาว่า มีวัฒนธรรมต่างชาติอะไร  ที่เข้าไปปะปนกับวัฒนธรรมเกาหลีบ้าง

แล้วก็เจอคำๆ นึง  ที่พระเอกพูดกับเชฟค่ะ    "JENG!!"  อ่อ  พอดี  มันเป็นแบบซับไทยค่ะ   ไอ้เราก็งงว่า  "JENG!!" เนี่ย  มันคืออะไร    ที่แท้ก็คือ  คำว่า เจ๋ง  ที่มาจากภาษาจีนที่ ไทยเราเรียกว่า เจ๋ง นี่แหละค่ะ     เฮ้ออออ  งงเลย


ในเรื่องการใช้ภาษาวัยรุ่น  รู้สึกว่า วัยรุ่นแต่ละสมัยก็มักประดิษฐ์คำแปลกๆ ออกมาใช้กัน  แต่ถึงยังไง  เวลาเข้าทำงาน  ก็ต้องใช้ภาษาที่ถูกต้องในการสื่อสารอยู่ดี   
และถ้าไม่ได้ใช้นาน  ก็จะลืม   บางครั้ง  กาฬเองก็ลืม  ไปว่า คำบางคำสะกดยังไง   ถ้าไม่ได้ใช้นานมาก
เคยถึงขนาดนึกไม่ออกว่า  คำว่า    หาก   เขียนยังไงเลยอ่ะ 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 05, 2008, 11:49:15 PM
พล็อตแบบนี้ดูเหมือนกลายเป็นสูตรสำเร็จไปแล้ว การ์ตูนหญิงๆ ของญี่ปุ่นก็พล็อตงี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ พวกหนังไต้หวันด้วย แต่ว่าที่จริงพล็อตยังไงก็ไม่สำคัญหรอก อยู่ที่ฝีมือการสร้างและเขียนบทมากกว่า ว่าจะทำออกมาได้ดีมีคุณภาพหรือเปล่า อีกอย่างคือถึงพล็อตจะโหลๆ ก็สามารถสร้างสรรค์ความ original ได้ แต่ก็ควรเอาพล็อตอื่นๆ มาสลับมั่งก็ได้ ถึงของจะอร่อย แต่ต่อให้อร่อยแค่ไหน กินซ้ำๆ ทุกวันมันก็เบื่อแหละ


เหมือนว่าเราจะสนุกกันอยู่ 2 คนจริงๆ ด้วยค่ะ  ;D


การ์ตูนญี่ปุ่นกาฬไม่ได้อ่านเลยค่ะ   ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว  เลยไม่ค่อยมีอะไรเกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นปลูกฝังซะเท่าไหร่   เริ่มแรกก็อ่านวรรณคดีแล้ว  นิยายเรื่องแรกก็  หุบเขากินคน
ปัญหาแรกคือ  งงว่าช่องการ์ตูน  ยิ่งการ์ตูนแบบญี่ปุ่นที่เปิดจากขวาไปซ้ายยิ่งงงเข้าไปใหญ่   แล้วอีกอย่าง กาฬได้กลิ่นหมึกการ์ตูนแล้วรู้สึกว่ามันเหม็นมากจนทนไม่ไหว  ทำไมแพ้หมึกไปได้ก็ไม่รู้เนี่ย   จนป่านนี้ก็ยังอ่านไม่ได้อยู่ดีค่ะ

เคยพยายามลองอ่าน   เรื่องแรกที่ลองเลยคือ LOVELESS  แต่ไปไม่รอดค่ะ  แค่เล่มเดียวก็ไม่อ่านอีกเลย  ทั้งงงทั้งเหม็น   
แล้วก็มาอีกที  ก็ คินดะอิจิ  ตอน คดีฆาตกรรมผีดูดเลือด   ซึ่งจบในเล่มเลย    ที่อ่านเพราะว่าได้ดูหนัง  และตอนนั้นหนังยังไม่มีคนทำซับไทยให้   เลยต้องอ่านการ์ตูนเพื่อจะได้รู้เรื่อง   
เรื่องต่อมาที่อ่านก็คือ Death Note  และเป็นเรื่องแรกค่ะ  ที่ทนอ่านได้จบครบทั้ง 13 เล่ม   อ่านแล้วรู้สึกว่า  คนแต่งไม่ใช่คน  8)  ทำได้ไงเนี่ย  สารพัดอย่างที่คิระกับ L เฉือดเฉือนกัน
พออ่าน Death Note  ได้แล้ว  ก็เลยมาลองอ่าน นานะ   แต่นี่ยิ่งแย่กว่าเก่าเลย  เล่มแรกยังไม่จบก็ไม่ไหวแล้ว


พี่ galdewis พูดถึงการสร้าง และเขียนบท  ทำให้นึกถึงเรื่อง  Hana Yori Dango  หรือ F4  ที่ตอนแรกไต้หวันเอาไปทำ   และได้รับการตอบรับดีทั่วเอเชีย   ต่อมา ญี่ปุ่นก็ทำบ้าง   แต่ก็กระแสไม่แรงเหมือนของไต้หวันทำ    แล้วตอนนี้  เกาหลีก็กำลังทำอยู่    เมื่อไหร่ประเทศไทยจะซื้อลิขสิทธิ์มาทำบ้างนะ

คงเป็นเนื้อหาที่ถูกใจคนดู    พระเอกออกแนวเกเร (หรือพระเอกเลวๆ) ดูเร้าใจดีในนิยาย   นางเอกสอนให้พระเอกรู้จักความรัก   พูดไปพูดมา  กาฬก็ชอบพระเอกเลวเหมือนกันนะเนี่ย  :D 

แต่เรื่อง  Hana Yori Dango  เป็นซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องแรกที่กาฬดูแล้วไม่มีความประทับใจเลย   อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนที่จะดูเรื่องนี้  กาฬดูแต่หนังญี่ปุ่นที่สอนอะไรบางอย่างให้ได้คิดแบบเดี๋ยวนั้นเลย   พูดออกมาแล้วเราสะอึกที่ได้ยิน  แต่จะว่าสนุก ก็สนุกนะ  เพราะแม่กาฬติด  :-[


วันนี้กาฬก็ต้องไปแล้วเหมือนกันค่ะ แล้วพรุ่งนี้มาคุยต่อ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 06, 2008, 07:25:36 AM


เมื่อก่อนกาฬก็จะเป็นค่ะ  เวลาโกรธนี่  พล่านไปทั้งตัว  ใครอยู่ใกล้ไม่ได้  เป็นโดนพาลไปหมด



แต่พี่เวลายัวะไม่พาลนะ น้องกาฬ สงสารคนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่น่ะ
ยังงี้เวลาน้องกาฬยัวะ สงสัยพี่ต้องรีบฉากไปซักร้อยเมตร พอมั้ยคะ กลัวโดนน้องกาฬพาล อิอิ ล้อเล่งง  :-[

แต่ว่าพี่จะยิงยัวะหนักขึ้น ถ้ามีคนมาห้ามหรือขัดคอ
คนที่มาห้ามหรือขัดจังหวะ ทำให้การยัวะของพี่เสียจังหวะไปนี่ มีสิทธิ์โดยบ้อมไปด้วยได้
ถ้าหากเหตุผลในการห้าม มันฟังไม่เข้าท่าสำหรับพี่
เช่น ขอให้เรื่องจบจบกันไป เพราะว่าจริงๆ มันไม่ได้จบ
ไม่ชอบค้างคา ชอบเคลียร์ๆ
แต่ถ้าคนห้ามยกเหตุผลที่ดีมา พี่ถึงจะฟัง



เวลากาฬอารมณ์หยุดไม่อยู่แล้ว  ก็คือต้องหาที่พักใจค่ะ   ตอนนั้นแบบคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน  ต้องหาอะไรซักอย่างที่ดับความร้อนในใจ   แล้วก็คิดถึงเค้กขึ้นมาได้ (ไม่เคยพ้นเรืองกิน :P)   เลยถ่อไปถึงร้านเค้กร้านโปรด   แต่พอไปถึง........ปิดปรับปรุงค่ะ  :'( :'( เศร้าเหลือเกิน


อ้าว! เสียใจด้วยค่ะ อดกินเยยย เลยหุดหิดหนักกว่าเก่าเลย


เรื่องผู้หญิงเวลาทุกข์หรือไม่สบายใจ แล้วไปลงที่ของกินนี่ สาเหตุใหญ่เลยนะ ที่ทำให้เราอ้วนอ่ะ

พี่ก็เป็น เป็นมากกว่าคนอื่นด้วย เพราะการกินเป็นอะไรที่เป็นฟามสุขส่วนตัวสำหรับพี่มากเลย

เป็นเพราะผู้หญิงไม่ค่อยมีทางออกทางอื่นนี่นะ จะไปลงที่สุรานารีพาชีกีฬาบัตรแบบผู้ชายก็ไม่ได้ (แต่นารีต้องเปลี่ยนเป็นอะไรที่แปลว่าผู้ชายดีน้า ต้องสัมผัสกับคำว่า ชี ด้วยนะ ชายชาตรี...ไม่ดีอ่ะ เพราะไป)

มันไม่งาม

แต่ถึงจะให้ผู้หญิงทำอย่างงั้นได้เหมือนผู้ชาย (เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็ทำกันเยอะแล้ว) พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดีแหละ ทำลายตัวเองทั้งนั้น

ก็เห็นจะมีแต่ของกินนี่แหละ ที่พอจะฟื้นฟูความสุขให้ผู้หญิงขึ้นมาได้มั่ง

อีกอย่างก็ช้อปปิ้ง

เคยยัวะมากๆ เลยไปห้าง กะจะไปกินๆๆๆๆ ให้หายยัวะ แล้วก็ช็อปๆๆๆๆๆๆ ให้มันสะใจ
แต่ตอนนั้นกะลังหุ่นดีมาก เพิ่งลดความอ้วนสำเร็จ จะกินแหลกก็กลัวเสียหุ่น อุตส่าห์ลดแทบตาย

ตอนนั้นเลยเป็นครั้งแรกที่กินคลายยัวะอย่างมีสติที่สุด

เพราะยังอุตส่าห์มีสติ เลือกร้านที่คิดว่าจะทำให้อ้วนน้อยที่สุด

ร้านที่เลือกตอนนั้น คือเชสเตอร์ กริลล์ ค่ะ (เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่มั้ยเนี่ย ร้านนี้ รู้สึกเหมือนเจ๊งๆ ไปหลายที่ ไม่ค่อยจะเห็นเยอะเหมือนเมื่อก่อน)

คือแทนที่จะเข้า KFC มันเป็นไก่ทอดใช่มั้ยล่ะ
ฉันเข้าร้านไก่ย่างดีกว่า อ้วนน้อยหน่อย
แล้วร้านนี้ยังมีสลัดบาร์ด้วย เหมือนกับพิซซ่าฮัท หรือซิซเลอร์น่ะ อร่อยกว่าด้วยนะ ถูกอีกตังหาก แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกจะไม่มีแล้วอ่ะ เสียดาย
แล้วก็มีเมนูปลาด้วย กับกาแฟโบราณ ตอนนั้นช่วงโปรโมชั่นพอดี แก้วละ 15 เอง

ทั้งหมดนี้คิดตอนยัวะนะ จริงๆ
ถึงคิดจะกินแหลก ก็ยังมีสติกลัวอ้วน
แล้วที่เลือกเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดก็เป็นการกระทำที่มีสติมากๆ
เพราะมันไม่แพงไง
แถมยังมีสติพอจะเหลือบเห็นราคากาแฟโปรโมชั่นได้อีก

ช่างเป็นพัฒนาการทางด้านวิธีระบายความยัวะ ที่ตัวเองพอใจมากเลย
เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต้องทั้งเค้ก ไอติม ฝอยทอง สวาปามกันเข้าไป
ฝอยทองนี่เคยกินเป็นโลเลยนะ แต่ตอนไม่ยัวะนะ แหะ แหะ  :-[
ไอติมก็กินได้เป็นคว้อตๆ น่ะ เคยกินฮาเก้นด๊าส 2 คว้อตรวดเดียวอ่ะ แถมไม่จนด้วยนะ เพราะตอนนั้นพอดี buy one get one free พอดีน่ะ โชคดีจริงๆ อิอิ  :-X

ยังอดชมตัวเองไม่ได้ว่า ช่างเลือกเวลายัวะได้ดีแท้


เห็นประวัติการกินแก้ยัวะที่ผ่านมาของตัวเองแล้วนี่
การเลือกร้านเชสเตอร์กริลล์ในวันนั้น ต้องถือเป็น breakthrough ครั้งยิ่งใหญ่ของการกินคลายยัวะของตัวเองเลย

แล้ววันนั้นก็กินแหลกราญจริงๆ ทั้งไก่ย่าง ทั้งสลัด ทั้งปลาทอด กาแฟโบราณ ทุกอย่างเบิ้ลหมด
พนักงานนี่ มองตาค้างเลย คงกลัวปากอีนี่อ่ะนะ
พนักงานที่เป็นคนอีสานคงนึกในใจ มันจะ "แหลก" ไปถึงไหนนี่ หน้างี้ก็หงิกตลอดเวลาที่กินเลยน่ะ
แล้วก็กินคำโตๆ เคี้ยวกร้วมๆ เลย

ตอนที่นั่งกินๆๆๆๆ นี่ มีความรู้สึกว่าตัวเองเหมือนนางยักษ์ ที่กำลังกินคนน่ะ
จะใครล่ะ ก็ไอ้คนที่มันทำให้เรายัวะน่ะสิ
ที่สำคัญ หลังจากวันนั้นแล้ว น้ำหนักไม่ขึ้นแหลกราญด้วยนะ ขึ้นแค่นิดหน่อย เลยลดไม่ยาก
นับว่าวันนั้นประสบความสำเร็จในการกินคลายยัวะแบบใหม่ ที่ทำให้หายยัวะด้วย แถมไม่อ้วนเหมือนทุกทีอีกตังหาก

สาเหตุนึงที่ยัวะแล้วชอบกิน เพราะความอร่อยทำให้รู้สึกอารมณ์ดีเร็วขึ้น (ข้ออ้างน่ะ จริงๆ แค่นั่งสงบสติอารมณ์ก็หายแล้วแหละ หาเรื่องกินเอง)

กินๆๆๆๆ จนหนำใจแล้วก็ไปช็อปๆๆๆๆ ต่อ อะไรที่เคยไม่กล้าซื้อเพราะรู้สึกว่ามันแพง ก็ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ซื้อๆๆๆๆๆ ให้มันสะใจ อารมณ์จะได้เป็นปกติเร็วๆ (แต่จริงๆ ก็ข้ออ้างอีกแหละ เพราะว่าเก็บกดมานานไง อยากซื้อแต่ไม่ได้ซื้อ พอมีเรื่องยัวะขึ้นมา เลยใช้เป็นข้ออ้างมาซื้อซะเลย)

นี่แว้บมาตอบนะ มันห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ ไปก่อนล่ะ ไว้มาคุยใหม่ค่ะ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 06, 2008, 07:34:15 PM
เรื่องผู้หญิงเวลาทุกข์หรือไม่สบายใจ แล้วไปลงที่ของกินนี่ สาเหตุใหญ่เลยนะ ที่ทำให้เราอ้วนอ่ะ

พี่ก็เป็น เป็นมากกว่าคนอื่นด้วย เพราะการกินเป็นอะไรที่เป็นฟามสุขส่วนตัวสำหรับพี่มากเลย

เป็นเพราะผู้หญิงไม่ค่อยมีทางออกทางอื่นนี่นะ จะไปลงที่สุรานารีพาชีกีฬาบัตรแบบผู้ชายก็ไม่ได้ (แต่นารีต้องเปลี่ยนเป็นอะไรที่แปลว่าผู้ชายดีน้า ต้องสัมผัสกับคำว่า ชี ด้วยนะ ชายชาตรี...ไม่ดีอ่ะ เพราะไป)

มันไม่งาม

แต่ถึงจะให้ผู้หญิงทำอย่างงั้นได้เหมือนผู้ชาย (เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็ทำกันเยอะแล้ว) พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดีแหละ ทำลายตัวเองทั้งนั้น

ก็เห็นจะมีแต่ของกินนี่แหละ ที่พอจะฟื้นฟูความสุขให้ผู้หญิงขึ้นมาได้มั่ง

อีกอย่างก็ช้อปปิ้ง

เอ่อ  พี่  galdewis  ก็เป็นคนหนึ่งที่เวลายัวะแล้ว  กินน่ากลัวจริงๆ  :-[
55555+   พอพูดถึงของกินนี่ยาวเลยใช่มั้ยคะ   

แน่นอนอยู่แล้ว  ไม่มีอะไรมีความสุขไปได้มากกว่าการกิน  โดยเฉพาะเวลาโกรธ

แต่กาฬอาจจะโชคดีกว่าผู้หญิงทั่วๆ ไป  ตรงที่ว่า  กาฬกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนค่ะ    :(  มันค่อนข้างเศร้านะ  สำหรับกาฬ  เพราะว่า ผอมเป็นไม้เสียบผีมากๆ เลย    พยายามยัดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นให้ซักโล  กว่าจะขึ้นได้แต่ละโล  แทบจะต้องกินช้างเข้าไปทั้งตัวเลยมั้ง   แต่พอเวลาไม่สบาย หรือ เครียด  หรืออะไรก็ตามที่เป็นสาเหตุให้น้ำหนักลด  มันลดฮวบเลยค่ะ   

กาฬพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว  หาสาเหตุแต่ก็หาไม่เจอ

แต่ก็นั่นแหละ   ยิ่งกินยิ่งไม่อ้วน  มันทำให้มีความสุขกับการกิน   ไม่เฉพาะเวลาโกรธค่ะ  ทุกเวลา  ถ้านาไม่เจ็บไข้ได้ป่วย  นากินได้เยอะเป็นปกติ  ถ้าไม่มีอะไรทำ  จะหิวอยู่ตลอดเวลาเลย

พูดถึงไอติมก็อยากกินขึ้นมาทันที   แล้วยิ่งฝอยทอง ทองหยอด ทองหยิบ  โอ้โห  ของโปรดกาฬทั้งนั้นเลยค่ะ

นอกจากกินแล้ว  ก็อยากช้อปปิ้งเหมือนกัน   แต่กาฬไม่เอื้ออำนวยในเรื่องนี้   


เอ่อ    พอดีติดธุระ   ถ้าว่างแล้วเดี๋ยวกลับมาใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 06, 2008, 08:16:19 PM


เอ่อ  พี่  galdewis  ก็เป็นคนหนึ่งที่เวลายัวะแล้ว  กินน่ากลัวจริงๆ  :-[



ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุลลที่ชมค่ะ


ส่วนเรื่องกินไม่อ้วนนี่ คงเป็นเพราะวัยด้วยนะคะ ตอนพี่ยังสาวๆ ก็กินแหลกราญ กินเก่งกว่าตอนนี้อีก แต่ก็ไม่ยักกะอ้วนง่ายเท่าเดี๋ยวนี้ หรือลดแป๊บเดียวก็ลงแล้วอ่ะ

แต่พี่อวบมาตั้งแต่เด็กๆ อ่ะ เห็นเขาว่า ถ้าคนที่อ้วนแต่เด็กๆ โตขึ้นก็จะอ้วนง่าย ส่วนคนที่ผอมมาแต่ไหนแต่ไร ยังไงก็จะยังผอมอยู่ เกี่ยวกับระบบเผาผลาญในร่างกายแต่ละคนที่จะแตกต่างกันไปด้วย อะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ เว้นแต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในด้านพฤติกรรมการกินหรือการออกกำลังอย่างมากจริงๆ ถึงจะกลายจากผอมเป็นอ้วนได้

เคยมีเพื่อนที่เป็นนักกีฬาตอนอยู่โรงเรียน ผอมมาก แต่พอเข้ามหาลัยไม่ได้เป็นนักกีฬา กลายเป็นคนอ้วนไปเลยอ่ะ อ้วนแบบแทบจำไม่ได้เลย ตอนเจอยังตกใจไม่น่าเชื่อ แต่ว่ามีพี่อีกคนนึง ผอมมาก ถึงอายุเยอะขึ้นก็ยังผอมเหมือนเดิม ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอ้วนกับใครเขา ก็พี่แกไม่กินมันเลย ไม่กินเนื้อ หมายถึง beef น่ะค่ะ ชอบกินผัก แล้วก็เป็นคนขยันมาก อยู่บ้านนี่ทำงานบ้านนู่นนี่ทั้งวัน ในขณะที่พี่ขี้เกียจสุดๆ ก็สมแล้วล่ะที่อ้วน

แล้วไว้คุยกันใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 07, 2008, 12:36:25 PM
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :( :( :( :( :( :( :( :( :( :(

พิมพ์ไปตั้งยาว   มือเผลอไปกดปิดหน้าผิด  ไปหมดเลย  :o :o :o :o

เฮ้อออออออ

กาฬเพิ่งสอบวิชาการตลาดเสร็จอ่ะ  ไม่รู้เรื่องเลย  ถึงอ.จะให้ open book ก็เหอะ   สงสัยหัวจะไม่ไปทางธุรกิจจริงๆ

ตอนนี้กาฬมีเรื่องให้คิด ชักเครียดๆ อีกแล้ว   แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนหรอกค่ะ   

เค้าบอกว่า  บางคน  ไม่ต้องออกกำลังกาย  ไม่ต้องทำอะไร  แค่คิดอย่างเดียวก็ผอมได้เหมือนกัน  กาฬว่ากาฬคงเป็นพวกประเภทนั้นแน่ๆ เลย   เพราะปกติแล้ว  ถ้าไม่มีเรื่องเครียดให้คิด   ฟิคในหัวก็จะวิ่งวนไปวนมาอยู่ตลอดทั้งวัน  สมองไม่ได้ว่างซํกวัน  แต่อย่างกาฬถ้าไม่คิดเรื่องฟิค  ก็ต้องฟุ้งซ่านค่ะ   
ตอนนี้ยังหาทางแก้ปัญหาของตัวเองไม่ได้  มันคาราคาซัง    ไม่อยากจะมายืนอยู่ในจุดนี้เลย  แต่ก็เลี่ยงไม่ได้  เพราะมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น

กาฬต้องไปแล้วค่ะ  เพราะว่า อ.จะใช้ห้องคอม   

ไปหาหนังสืออ่านเล่นดีกว่า    :D

ช่วงนี้ขอไปวุ่นๆ กับปัญหาก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 07, 2008, 08:50:14 PM

โบราณ(รึปล่าวหว่า...)เขาเตือนว่า อยู่คนเดียวระวังความคิด
แล้วยังไงต่อก็จำบ่ได้แล้ว จำประโยคท้ายที่มันคล้องจองกันไม่ได้อ่ะค่ะ
แต่ประมาณว่า ถ้าอยู่หลายคนก็ต้องระวังคำพูด ทำนองนั้นน่ะ


พี่ก็ฟุ้งซ่านมาก แต่หลังจากได้ลงมือเขียนแล้ว
ไม่ว่าจะเขียนคอมเมนท์ที่บอร์ดบอย เขียนบล๊อก หรือแต่งเรื่อง บันทึกอะไรเล่นๆ ไปเรื่อยเปื่อย
ก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นเยอะ
เดี๋ยวนี้เลยจะติดเขียนมาก ถ้านึกอยากเขียนอะไร ก็จะเขียนทันที รู้สึกดีมาก  :-*

ยิ่งเขียนก็ยิ่งคล่องด้วย รู้สึกว่าความคิดก็ลื่นไหลและเป็นระเบียบมากขึ้น
รู้งี้เขียนซะตั้งนานแล้ว


การตลาดก็หนุกดีนะ น้องกาฬ
ในบรรดาวิชาที่เกี่ยวกับพวกเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์นี่
พี่รู้สึกว่า การตลาดนี่ค่อยเป็นวิชามนุษย์มนากะเขาหน่อย

เป็นเรื่องวิชาการทางธุรกิจที่ใกล้ตัวเราที่สุดแล้ว
เพราะเราก็เจออยู่ทุกวัน ในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภค
เช่นพวกโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม อะไรต่างๆ
ยิ่งเดี๋ยวนี้ยิ่งมีวิธีส่งเสริมการขายที่บ้าๆ บอๆ มากขึ้นไปอีก
ไม่รู้อะไรก็ม่ายรุ จนพี่เคยรู้สึกว่า เป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ


แต่พอได้ดูรายการ เกมกลยุทธ์ ที่จบไปแล้วอ่ะค่ะ
ถึงได้รู้ว่า โอ้โห! มันเป็นเรื่องของความคิดทั้งนั้นเลย

การตลาดมันเป็นความคิดหลายซับหลายซ้อนที่อยู่เบื้องหลังสินค้าอ่ะ
เป็นวิชาการที่จับต้องไม่ค่อยจะได้ ยากน่าดู

ดูรายการนี้ไม่ค่อยจะเข้าใจเลย พวกแนวคิดการตลาดต่างๆ  :-\
แล้วใช้ทับศัพท์มาก รายการก็ไม่อธิบายอะไรเลย ถึงได้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

ความจริงเป็นรายการที่เข้าท่ามากเลย แต่การนำเสนอเหมือนกับยังจับจุดไม่ถูก 
ชอบไปเน้นความเครียดของผู้เข้าแข่งขัน แบบไม่เข้าท่าด้วย
คงคิดว่าจะดึงดูดความสนใจของคนดูได้มั้ง แต่ไม่เลย :o
ดูแล้วเครียดมาก ไม่สนุก แถมทำให้ไม่ค่อยชอบผู้เข้าแข่งขันด้วย
นำเสนอแต่ด้านลบของผู้เข้าแข่งขันอ่ะ
แล้วที่แย่มากๆ คือ ไม่ยอมอธิบายพวกศัพท์วิชาการต่างๆ เลย
ทำให้ดูไม่รู้เรื่อง เลยยิ่งไม่สนุกเข้าไปใหญ่


พี่ก็เคยเจอแบบน้องกาฬอ่ะ เข็ดสุดๆ  ::)
เลยอีทีนี้ทุกครั้งที่พิมพ์คอมเมนท์เสร็จ จะกด ctrl+a ตามด้วย ctrl+c กันไว้ก่อน แล้วค่อยกด send หรือ reply อะไรก็ว่ากันไป
เพราะถ้าเผื่อหายก็ยัง ctrl+v ได้

ถ้าอ่านหนังสืออะไรแล้วสนุกก็มาคุยกันใหม่นะคะ

แล้วเจอกันค่ะ (ตามกระทู้ต่างๆ) โชคดีค่ะ น้องกาฬ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ สิงหาคม 08, 2008, 08:27:45 PM
:-[ นานะจังหาทางเข้าไม่ถูกเลยพี่ 555555555555555555 ตามไม่ทันเลย
แต่เห็นน้องกาฬ พูดถึงทำไมเราไม่ซื้อการ์ตูนของปุ่นมาทำบ้าง ประเด็นนี้ขอแจมหน่อยยนะคะ
เพราะสิ่งนี้คือความใฝ่ฝันสูงสุดของนานะจังเลยค่ะ
ถ้าชาตินนี้เป็นผู้กำกับได้ก็ยอากจะเอาการ์ตูน
ญี่ปุ่นที่นานะจังประทับใจหลายๆเรื่องมาทำเป็นละครบ้าง
 เพราะนานะจังชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมากที่สุด
และเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการอ่านงานวรรณกรรมเล่มหนาเลย
เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่อง เค้าเขียนได้ดีจริงนะคะ ทั้งละเอียดและลึกซึ้งจริงๆ
 มีการ์ตูนอยู่เรื่องนึง เขียนโดยอาจารย์ โซเรียว ฟูยูมิ ชื่อเอง Three step
โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “แรงสุดหัวใจ” ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
วงการเพลงของญี่ปุ่น นางเอกและพระเอกต่างมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง
 คือรายละเอียดมันเยอะมากอ่ะค่ะ พออ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าโตเลยอ่ะ พระเอกกวนได้ใจมาก
 และน่าสงสารมากด้วย  ชอบที่เค้าถ่ายทอดเรื่องครอบของพระเอกมาก
ยิ่งตอนพ่อพระเอกตายนะร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นาน พ่อพระเอกมีพระเอกตั้งแต่อายุ
แค่ 14-15 เท่านั้นอ่ะ พ่อของพระเอกมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงมากแต่สุดท้ายเค้าก็ไปไม่ถึงฝัน
 ต้องตายอย่างเดียวดายท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาว การ์ตูนเรื่องนี้ มีทั้งหมด 3เล่ม
เล่าเรื่องเรืองราวตั้งแต่ พระเอกนางเอกอายุ 14 จนถึง 22 กว่าจะได้แต่งงานกัน
เป็นการ์ตูนที่ประทับใจสุดๆเลยค่ะ และเรื่องที่ค่อนข้างแรงมากและฉีกสุด ตีแผ่วงการเพลงได้อย่างลึกซึ้ง จริงๆค่ะ
การ์ตุนญี่ปุ่นที่นานะจังประทับใจมีเยอะมากๆ มากกว่างานด้านวรรณกรรมซะอีก
อย่างเรื่อง คันนะซัง คนจะสวยช่วยไม่ได้เนี่ย ติดๆมากและเรื่องนี้ก็ดังมากด้วย
ญี่ปุ่น เอาไปทำ โดยตั้งชื่อใหม่ว่า ขอสวยซักครั้ง ดัดแปลงเรื่องไปเยอะพอสมควรแต่ก็ยังคงconcept
เน้นจิตใจมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ส่วนเกาหลีเอาไปทำเป็นหนัง ก็ทำออกมาได้ดีทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี
แต่ขอบอกว่าต้นฉบับในการ์ตูน ประทับใจกว่าเยอะ  นอกจากการ์ตูนญี่ปุ่นแล้ว
นานะจังเคยอ่านการ์ตูนของเกาหลีด้วย ชื่อเรื่องย้อนเวลาอะไรซักอย่างเนี่ยแหละค่ะ
พระเอกย้อนเวลากลับไปตอนที่ มองโกล ยึดเกาหลีไว้ได้ เรื่องราวข้ามภพข้ามชาติ
สนุกมากเลย   แต่ถ้าจะรอให้ผู้จัดละครเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาทำเป็นละครไทยคงจะยาก
ยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น เพราะเค้าไม่เปิดรับเรื่องใหม่ๆเท่าไรอ่ะ
บทประพันธ์ที่เอามาทำก็วนเวียนซ้ำซากอยู่อย่างงั้นอ่ะ
ถ้ามีเรื่องใหม่ๆ แนวเขียนก็ซ้ำซากเหมือนเดิมอ่ะ
 แล้วอีกอย่างนึง คนที่เขียนนิยายเก่งๆในประเทศ มีน้อยอ่ะ
ถ้าเทียบกับนักเขียนของญี่ปุ่นอ่ะนะ งานมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็นอ่ะ
 แล้วอีกอย่างคนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่นักอ่านซะด้วยสิ
แล้วถ้าคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือที่นานะจังเคยเจอ
ทัศนคติจะค่อนข้างแคบ มองอะไรแคบๆ แต่ถ้าคนที่ชอบอ่านหนังสือ
จะเป็นคนที่มองอะไรได้อย่าง น่าทึ่ง และก็มี concept
ที่น่าประทับใจ อย่างพี่  galdewis และน้องๆ อย่างน้องกาฬ น้องกันย์ เป็นต้น
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 08, 2008, 08:41:54 PM
เข้ามาอ่านแล้ว  อยากตอบมากๆ เลย  หลายเรื่อง 
แต่ตอนนี้ขอสารภาพว่า คิดอะไรไม่ออกเลย  มึนไปหมด 
วันนี้เหนื่อยมากมาย  และกว่าจะว่างก็คงวันอาทิตย์เลยค่ะ   

แต่ทำแล้ว เป็นการแสวงหาความสุขเล็กๆน้อยๆ ให้ผ่อนคลาย  ก็ยินดีทำ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 08, 2008, 09:11:33 PM


แล้วอีกอย่างคนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่นักอ่านซะด้วยสิ
แล้วถ้าคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือที่นานะจังเคยเจอ
ทัศนคติจะค่อนข้างแคบ มองอะไรแคบๆ แต่ถ้าคนที่ชอบอ่านหนังสือ
จะเป็นคนที่มองอะไรได้อย่าง น่าทึ่ง และก็มี concept
ที่น่าประทับใจ อย่างพี่  galdewis และน้องๆ อย่างน้องกาฬ น้องกันย์ เป็นต้น




ว่าจะเข้ามาแอบอ่านเฉยๆ นะนี่ นานะ
เพราะเรื่องการ์ตูนนี่ พี่คงบื้อสุดๆ อ่ะนะ
อ่านแต่โดเรมอน ชินจัง อยู่แค่นี้อ่ะ
แต่เมื่อถูกพาดพิง เลยขอใช้สิทธิ์พาดพิงนะคะ ท่านประธาน อิอิ  :-X (จิตวิทยาสูงจริงๆ นานะนี่)


ที่นานะบอกว่าคนที่ไม่อ่านหนังสือจะมีความคิดค่อนข้างแคบ อื่มม์...ค่อนข้างเห็นด้วยนะคะ
โดยเฉพาะคนที่ไม่อ่านวรรณกรรมเลย
ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

มีคนรู้จักอยู่คนนึงที่ไม่อ่านหนังสือเลย แล้วเขาเป็นคนเจ้าระเบียบมาก
แต่เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่า เขาเป็นคนที่จู้จี้จุกจิกมาก
แต่กลับคิดว่า ทุกคนจะต้องเจ้าระเบียบเหมือนกับเขาเท่านั้น จึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องสมควร

ก็บอกเขาไปว่า แล้วไม่คิดเหรอ ว่าในขณะที่เขามองว่าคนอื่นไร้ระเบียบนั้นน่ะ
คนอื่นก็อาจจะมองว่า เขาเจ้าระเบียบเกินไป ก็ได้เหมือนกัน
แต่ปรากฏว่า เขาดูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย
และไม่คิดว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากเขา จะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง


แต่ที่นานะบอกว่า คนที่ชอบอ่านหนังสือจะมองอะไรได้ดีกว่า อันนี้พี่ว่าไม่แน่เหมือนกันค่ะ
แล้วแต่ว่าเขาจะจับแก่นแท้ของสิ่งที่อ่านได้มากน้อยแค่ไหน
และรับสิ่งที่แตกต่างไปจากตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน


อันนี้จะเห็นได้ชัด เวลามีหนังสือที่เปิดมุมมองที่แตกต่างไปมากๆ ออกมา จนเป็นที่ฮือฮา
เพราะว่าสร้างความขัดแย้งทางความคิดได้มาก
อย่างเช่น หนังสือ Rich Dad Poor Dad หรือในชื่อภาษาไทยว่า พ่อรวยสอนลูก
ล่าสุดก็ The Secret
หรืออย่างหนังสือของแดน บราวน์ โดยเฉพาะเล่มรหัสลับดาวินชี กับ เทวากับซาตาน

อย่างเทวากับซาตาน ทำให้แดน บราวน์ถูกคริสตจักรตราหน้า ว่าเขียนหนังสือต่อต้านคริสต์
แต่พี่กลับรู้สึกว่าแดน บราวน์เทิดทูนคริสต์ศาสนา เพราะฉะนั้นเขาจึงวิจารณ์ ติติง ตักเตือน
ด้วยความหวังดี
เมื่อเห็นว่ามีอะไรที่เริ่มออกนอกลู่นอกทาง หรือเกินไป เช่นเรื่องปาฏิหาริย์
หรือเพราะเราเป็นคนนอก จึงมองอะไรได้ชัดกว่าคนใน เพราะเราไม่ได้เป็นคริสต์


ที่นานะบอกว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่นักอ่าน
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่พี่สังเกต หนังสือบันเทิง เรื่องย่อละคร อะไรพวกนี้ คนอ่านเยอะนะ
คนอ่านกลุ่มใหญ่ด้วยสิ เป็นคนระดับรากหญ้าของสังคมด้วย
ที่คนไทยไม่ใช่นักอ่าน
เพราะมีแต่หนังสือพวกนี้ให้อ่าน รึปล่าว
เพราะไม่มีหนังสือดีๆ ที่เหมาะกับคนอ่านแต่ละกลุ่มให้อ่าน รึปล่าว
ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ
เกินสติปัญญาจะหยั่งรู้เหมือนกัน



การ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่อง เค้าเขียนได้ดีจริงนะคะ ทั้งละเอียดและลึกซึ้งจริงๆ



ช่ายยย เห็นด้วย ก็ไม่ต่างจากวรรณกรรมญี่ปุ่นอ่ะนะ
ขนาดพี่เคยอ่านแค่ไม่กี่เล่มเอง อย่าง The Ring โต๊ะโตะจัง งานของเอโดงาวะ รัมโป
ก็ยังเห็นได้ชัดในเรื่องความละเอียด ลึกซึ้ง การคิดอะไรที่เป็นระบบอ่ะนะ


พี่รู้สึกว่า คนไทยมองอะไรผิวเผิน ชอบฮือฮาตามก้นคนอื่นอ่ะ
ไม่ค่อยมีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบแห่ตามกันไป
ชอบอะไรที่มันดังๆ โดยไม่คำนึงว่ามันดีหรือไม่ดี ขอให้ดังไว้ก่อนเป็นพอ
ไม่ชอบทำอะไรสวนกระแส

อาจเพราะเราเป็นชาติเล็กมั้ง
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เราต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากการถูกชาติใหญ่กว่ารังแก
โดยใช้วิธีการโอนอ่อนผ่อนตามมาตลอด
ไม่เหมือนญี่ปุ่น หรือเกาหลี นั่นเขาโดนกันแบบแรงๆ ทั้งนั้น
เพราะเขาไม่ยอม เขาต่อต้าน ขัดขืน
ญี่ปุ่นก็เลยเจอระเบิดนิวเคลียร์เข้าไป เกาหลีก็เจอญี่ปุ่นรังแกซะยับเยิน
พวกเขาก็เลยมีเลือดนักสู้มากกว่าเรา...รึปล่าว


นิสัยประจำชาติแต่ละชาติที่ต่างกันแบบนี้ มันก็สะท้อนมาในการอ่านการเขียนด้วยอ่ะนะ
ที่นานะบอก ไทยไม่มีนักเขียนเก่งๆ เหมือนญี่ปุ่น
ก็เพราะคนอ่านไทยเป็นแบบนี้ เลือกอ่านแต่หนังสือดังๆ ไม่ใช่หนังสือดีๆ
เมื่อไม่มีนักอ่านดีๆ นักเขียนดีๆ ก็เกิดยากอ่ะนะ
ละครไทยก็เหมือนกัน ไม่มีคนดูดีๆ มีแต่คนดูที่ชอบละครตบตี ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไร้สติ
ละครดีๆ ก็เกิดยากเหมือนกัน

ขอบคุณที่เล่าเรื่องการ์ตูนที่ชอบให้ฟังนะคะ
พี่หลังจากอ่าน Death Note แล้ว ก็ยังไม่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องไหนอีกเลย
อ้อ! ลืมไป อ่านการ์ตูนเหมือนกัน แต่เป็นการ์ตูนนิทานเวตาล อิเหนา กับพระอภัยมณีค่ะ อิอิ  :-X

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ สิงหาคม 08, 2008, 10:23:36 PM
กันย์ก็เริ่มอ่านหนังสือจากการ์ตูน

แต่เป็นการ์ตูนขายหัวเราะมหาสนุกอ่ะ
ชอบตั้งแต่ตอนเด็กๆละ เพราะพ่อมักจะซื้อมาอ่านเล่น กันย์ก็เลยอ่านมั่ง จำได้ว่าเคยอ่านเล่มใหญ่ๆด้วยล่ะ แต่ตอนนี้หายไปหมดละ ที่จิงหายก่อนที่กันย์จะเริ่มสะสมการ์ตูนพวกนี้ซะอีก เพิ่งจะมาสะสมก็โตขึ้นมากเจียดเงินค่าขนมพอซื้อเองได้โน่นแหละ

ส่วนใหญ่ก็นอกจากอ่านการ์ตูนพวกขายหัวเราะฯที่พ่อซื้อแล้วก็อ่านหนังสือเรียนภาษาไทยอ่ะ มีนิทานสนุกๆเยอะดี เวลาได้หนังสือเรียนมาใหม่ก็จะชิงอ่านหนังสือเรียนภาษาไทยก่อนเลย เป็นคนชอบนิทานมาแต่เด็ก พ่อแม่ไม่ว่างมาอ่านให้ฟังต้องอ่านเอง โตขึ้นมาก็ติดนิสัยต้องชิงอ่านนิทานในหนังสือภาษาไทยก่อนทุกที อิอิ แล้วถ้าอยากอ่านเรื่องไหนต่อก็จะไปยืมห้องสมุดอ่านบ่อยๆ เช่นพวกเรื่องสามก๊ก พระอภัยมณี(อันนี้เรื่องโปรดสมัยม.ต้นเลย) ฯลฯ

กันย์นี่แปลกนะตอนเด็กๆประถม ม.ต้น ชอบอ่านเรื่องมีสาระกว่าตอนนี้อีก อย่างพวกเรื่องโลกและดวงดาว(มีหนังสือเยอะมาก) สารคดี หรือหนังสือแนวลึกลับๆฆาตรกร ไรงี๊ แต่พอ.ม.ปลายมาเจอแฮร์รี่แล้ว หลุดโลกเรยยย เหอๆ บ้านิยายแฟนตาซีซะงั้น (พัฒนาการลงจิงๆช้านน ต๊องขึ้นทุกวัน)

ส่วนละครพื้นบ้านที่ชอบนี่ต้องยกความดีให้แม่ เพราะเมื่อก่อนแม่ชอบดู กันย์ก็ดูด้วย และก็ชอบผู้หญิงแต่งตัวสวยๆนุ่งห่มสไบเฉียง งามแท้ๆ (แต่พระเอกหาหล่อๆยากส์หุหุ..เมื่อก่อนนะ) แล้วก็มักจะหาหนังสือนอทานพื้นบ้านมาอ่านด้วยเวลาเรื่องไหนออนแอร์อ่ะ แบบด้วยความอยากรู้เรื่อง ไม่ก็ถามแม่ จนตอนนี้กันย์บ้าละครพื้นบ้านยิ่งกว่าแม่ซะอีกอ่ะ มีน้องก็พาน้องบ้าไปด้วยอีกคน 55+

การ์ตูนญี่ปุ่นตอนม.ปลายกันย์อ่านไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ จะอ่านก็แต่ในหนังสือ Boom อ่ะ ดังนั้นการ์ตูนดีมีสาระก็ไม่รู้จักกะเค้า มหาลัยก็อ่านเยอะหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่เลย ไม่มีเวลาอ่ะค่ะ ส่วนใหญ่ก็อ่านแต่วรรณกรรมแฟนตาซี หรือวรรณกรรมเยาวชนไทยบ้างพวกซีไรท์ แล้วก็ หนังสือของวินทร์ค่ะ


แล้วทุกคนล่ะคะ เริ่มรักการอ่านจากอะไรบ้างเอ่ย? อยากรู้อ่ะค่ะ

(ไม่รู้จะคุยไรกะเค้า..เบนประเด็นเฉยเลย55+) :)

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 10, 2008, 08:46:00 AM

อ้าว! น้องกันย์ หวัดดีค่ะ ผู้ถูกพาดพิงเข้ามาใช้สิทธิ์กันครบแล้วนะคะ นานะ อิอิ  :-X
ตานี้ก็ถึงคราวนานะเข้ามาได้แล้วนะคะ

มีข่าวมาบอกสำหรับนานะ และใครที่เคยอ่าน เทวากับซาตาน ค่ะ ไปเจอมาใน BBC

ความคืบหน้าของสถาบันวิจัยเซิร์นค่ะ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุของนิยายเรื่องนี้

เมื่อวานนี้ เซิร์นเริ่มยิงลำอนุภาคโปรตอนเข้าไปในสนามแม่เหล็กของเครื่องเร่งอนุภาค LHC เป็นครั้งแรกแล้วนะคะ แต่ว่ายังเป็นขั้นทดลอง ก่อนจะยิงจริงวันที่ 10 กันยายนนี้แล้วอ่ะค่ะ


วันที่ 10 กันยา เซิร์นจะยิงลำอนุภาคโปรตอน 2 ลำ ไปชนกันภายในท่อวงแหวนขนาดใหญ่ยักษ์ของ LHC  ซึ่งจะเป็นการสร้างสภาพของจักรวาลหลังจากเกิด Big Bang


เพราะฉะนั้นในวันที่ 10 กันยานี้ เราจะได้เห็น "กำเนิดจักรวาล" กันล่ะค่ะ
จะได้เห็นอนุภาคใหม่ๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความว่าง เหมือนที่ในนิยายเรื่องนี้บอกไว้ค่ะ


ถ้าการทดลองนี้สำเร็จ เขาว่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่สุดของฟิสิกส์อนุภาคเลย
และจะเป็นการมาบรรจบกันเป็นครั้งแรกของวิทยาศาสตร์กับพระเจ้าค่ะ
บางคนเลยเรียกอนุภาคใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการชนกันของโปรตอนว่า "อนุภาคพระเจ้า" ค่ะ

โหยย! พูดแล้วขนลุกอ่ะ ตื่นเต้นมากๆ เลย

จากในข่าวนี้ เจ้าของโปรเจคท์ยิงอนุภาคชนกันเพื่อไขปริศนากำเนิดจักรวาลตัวจริงชื่อ Lyn Evans นะคะ
จำไม่ได้ว่าในเทวากับซาตาน มีพูดถึงหรือเปล่า

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเซิร์นถูกฟ้องศาล ให้ระงับการยิงอนุภาคชนกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดหลุมดำ ที่จะดูดกลืนโลกทั้งโลกเข้าไป คือแทนที่โลกจะแตกอย่างที่กลัวกัน จะกลายเป็นว่า โลกอาจจะหายไปเลยก็ได้ ถ้าเซิร์นยิงโปรตอนชนกันในวันที่ 10 กันยานี้

น่ากลัวมั้ยคะ เมื่อถึงวันที่ว่านี้ มนุษย์ทั้งหมดและโลกใบนี้อาจจะหายไปในหลุมดำที่เกิดจากการทดลองของเซิร์นก็ได้นะคะ ใครจะไปรู้

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กันย์ณภัทร ที่ สิงหาคม 10, 2008, 07:15:36 PM
โหย กันย์ยังไม่ได้อ่านเลยอ่ะ เทวากับซาตานอ่ะ ซื้อหนังสือมาสต๊อกไว้เป็นนาน55+

เด๋วคงได้ฤกษ์อ่านซะที มีคนมากระตุ้น หุหุ

 8)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 10, 2008, 09:06:15 PM

น้องกันย์เปิดประเด็นใหม่ ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาถึงกระทู้นี้ได้ไงคะ
เรียกว่าเปิดประเด็นก่อนประวัติศาสตร์ของกระทู้นี้กันเลย อิอิ :-X

วันก่อนพยามจะเปิดประเด็นภาษาไทย ภาษาวิบัติเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จแฮะ  :-[


โหยย!! ตำนาน เอ๊ย! ประวัติดึกดำบรรพ์การเริ่มอ่านหนังสือของเราสองคนคล้ายกันเลยอ่ะ น้องกันย์
แต่ต่างกันตรงรายละเอียดชนิดหนังสือน่ะ

พี่เริ่มต้นอ่านหนังสือเพราะหนังสือของพ่อที่มีอยู่ในบ้านเหมือนกัน
แล้วก็ตอนเปิดเทอมซื้อตำราเรียนใหม่ จะต้องรีบคว้าหนังสือภาษาไทยมาอ่านแบบแทบหายใจหายคอไม่ทัน อยากอ่านแบบตัวซี้ตัวสั่นเลย จิงๆ นะ


หนังสือจีนของพ่อที่เริ่มอ่านก็มีสามก๊ก เปาบุ้นจิ้น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน
แต่ตอนแรกยังไม่ได้อ่านเองหรอกค่ะ ฟังพ่อเล่าหนุกกว่า ง่ายกว่าด้วย เรื่องบู๊สง เรื่องขงเบ้ง
แต่บางทีพ่อก็ไม่มีเวลา อยากอ่านมากก็เลยต้องพยามอ่านเอง
 
ตอนเด็กๆ ก็ชอบสามก๊ก แต่ไม่ค่อยชอบเปาบุ้นจิ้น กับผู้ยิ่งใหญ่ฯ เท่าไหร่
มีการ์ตูนจีนด้วยเรื่องซำเหมา เคยได้ยินกันมั้ยคะนี่ เรื่องนี้
อีกอันเป็นการ์ตูนตลก 3 เกลอ แต่ไม่ใช่พล นิกร กิมหงวนนะคะ
อันนี้เป็นการ์ตูนตลกจีน มี 3 คนเหมือนกัน แต่ตัวเด่นรู้สึกจะชื่อลุงเชยมั้งคะ 
แถมยังฟังเพลงจีนตามพ่อด้วย เติ้งลี่จวิน เพลงจากหนังฮ่องกงยุคที่กำลังรุ่งโรจน์สุดขีดอ่ะค่ะ
จนเดี๋ยวนี้ก็ยังร้องได้อยู่ พวกเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คมเฉือนคม ฤทธิ์มีดสั้น 8 เทพอสูรมังกรฟ้า


ที่อ่านหนังสือแตกได้ ก็เพราะสามก๊กนี่แหละค่ะ 
และทำให้เป็นคนไม่เคยมีปัญหาในการอ่านชื่อจีนในนิยายกำลังภายในเลย
ในขณะที่เพื่อนหลายคนขอบายนิยายกำลังภายในของ "กิมย้ง" หรือแม้กระทั่งสามก๊ก
ด้วยเหตุผลว่า งงชื่อจีนของตัวละคร
แถมเขายังบ่นกันว่า เรื่องยาวมากๆ ตัวละครเยอะไปหมด เลยเลิกอ่าน
เพราะอ่านแล้วจำชื่อตัวละครไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นใคร


หลังจากอ่านสามก๊กแล้วติดใจ ทีนี้อ่านแหลกเลยค่ะ
นับว่าสามก๊กเป็นหนังสือที่มีคุณูปการต่อตัวเองเป็นพิเศษเลย
ทำให้อ่านหนังสือแตกและยังทำให้กลายเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาถึงเดี๋ยวนี้ด้วย


แล้วที่น้องกันย์บอก รู้สึกตอนเด็กอ่านหนังสือมีสาระกว่าตอนนี้
พี่ก็รู้สึกเหมือนกันอ่ะ
ที่จริงต้องบอกว่า ช่วงที่อ่านหนังสือมากๆ ก็คือตอนเด็กอ่ะค่ะ
ช่วงที่อ่านมากที่สุดก็คือช่วงหลังจากอ่านสามก๊กแล้ว
ประมาณป.3 ป.4 จนถึงประมาณแค่มัธยมเองมั้ง

หลังจากนั้นรู้สึกเหมือนเกือบจะหยุดอ่านหนังสือไปเลยนะ
ตอนโตมานี่ เหมือนจะอ่านหนังสือเป็นพักๆ เวลาเพิ่งเจอนักเขียนถูกใจหรืองานถูกใจ
ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่นักเขียนใหม่ หรืองานเขียนใหม่หรอก
เพียงแต่ตัวเองเพิ่งจะค้นพบน่ะ


ตอนเด็กๆ นี่อ่านงานดีๆ ของนักเขียนดีๆ มากมายกว่าตอนโตอีก แต่ส่วนใหญ่พี่อ่านแต่นิยายนะ
ของ พนมเทียน นี่ อ่านตั้งแต่ตอนอยู่ประถมทั้งนั้นเลยอ่ะ
ทั้งศิวาราตรี ละอองดาว แวว มยุรา มัสยา จุฬาตรีคูณ แต่เรื่องเพชรพระอุมานี่มาอ่านตอนโต
แล้วก็ใช่ว่าจะอ่านแล้วรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกนะ แถมจำไม่ค่อยได้ด้วย

เรื่องละอองดาวนี่ จำได้อยู่ประโยคเดียวของละอองดาว
ที่ถามพระเอกว่า จะเอาตะพดแช่อิ่มมั้ยน่ะ
จำได้ว่าอ่านแล้วขำมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าขำทำไม
รู้แต่ว่าคำว่าตะพดแช่อิ่มน่ะ มันตลกเหลือเกิน ในความรู้สึกของเด็กอ่ะ

พวกขายหัวเราะก็อ่านนะ แต่ชอบอ่านหนังสือมากกว่าการ์ตูนอ่ะ ไม่รู้ทำไม
ถ้าให้เลือกระหว่างขายหัวเราะ กับพล นิกร กิมหงวน เลือกพล นิกร กิมหงวนอ่ะ
ชอบอ่านแต่เรื่องตลกๆ กับนิยาย อ่านอยู่แค่เนี้ยอ่ะค่ะ อายเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 10, 2008, 09:08:01 PM
โหย กันย์ยังไม่ได้อ่านเลยอ่ะ เทวากับซาตานอ่ะ ซื้อหนังสือมาสต๊อกไว้เป็นนาน55+

เด๋วคงได้ฤกษ์อ่านซะที มีคนมากระตุ้น หุหุ

 8)


ควรอ่านก่อนถึงวันที่ 10 กันยานะ พี่ว่า น่าจะได้อารมณ์ตื่นเต้นดีทีเดียว

อ่านจบแล้วมาบอกด้วยนะคะว่า คิดว่าวันที่ 10 จะเกิดหลุมดำอย่างที่เขากลัวกันมั้ย
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 11, 2008, 06:09:09 PM
โบราณ(รึปล่าวหว่า...)เขาเตือนว่า อยู่คนเดียวระวังความคิด
แล้วยังไงต่อก็จำบ่ได้แล้ว จำประโยคท้ายที่มันคล้องจองกันไม่ได้อ่ะค่ะ
แต่ประมาณว่า ถ้าอยู่หลายคนก็ต้องระวังคำพูด ทำนองนั้นน่ะ


พี่ก็ฟุ้งซ่านมาก แต่หลังจากได้ลงมือเขียนแล้ว
ไม่ว่าจะเขียนคอมเมนท์ที่บอร์ดบอย เขียนบล๊อก หรือแต่งเรื่อง บันทึกอะไรเล่นๆ ไปเรื่อยเปื่อย
ก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นเยอะ
เดี๋ยวนี้เลยจะติดเขียนมาก ถ้านึกอยากเขียนอะไร ก็จะเขียนทันที รู้สึกดีมาก  :-*

ยิ่งเขียนก็ยิ่งคล่องด้วย รู้สึกว่าความคิดก็ลื่นไหลและเป็นระเบียบมากขึ้น
รู้งี้เขียนซะตั้งนานแล้ว

อยู่คนเดียวต้องระวังความคิด   จริงอย่างมากเลย  นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งซึ่งกาฬต้องพยายามแก้ไขตัวเอง
ชอบคิดนั่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย ฟุ้งซ่านกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด  ซึ่งมันจะเป็นอย่างที่คิดรึเปล่าก็ไม่รู้  แต่คิดไว้ก่อน  แล้วสุดท้ายคนที่เครียด ก็จะเป็นตัวเอง

การอยู่หลายคน  นอกจากระวังคำพูดแล้ว   ก็ต้องระวังความคิดตัวเองด้วย   เพราะเราอาจจะคิดว่า เค้าคิดอย่างนี้  ทั้งที่จริงมันไม่ใช่  แล้วก็จะเกิดความเข้าใจผิดกัน   ยิ่งหลายคน  ความเข้าใจผิดก็ยิ่งมากขึ้น   แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีก


การเขียนเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย   กาฬรู้สึกว่า มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เป็นกานผ่อนคลายที่ช่วยกาฬได้มาก   ถ้าทุกวันนี้ไม่เขียน   คงอึดอัดใจตายแล้วแน่ๆ 
ทุกวันนี้นอกจากเขียนฟิค  เขียนนิยาย  กาฬก็เขียนไดอารี่ค่ะ   วันๆ ระบายสิ่งที่ได้พบเจอ ประสบการณ์เหงา เศร้า สุข  มีอะไรก็เขียนไว้ได้หมด     การมีไดอารี่ออนไลน์ที่ให้คนอื่นมาคอมเมนต์หลังจากอ่านได้  มันก็ดีอย่างเพราะเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในแง่มุมของเรากับของคนอื่น  คนที่คิดไม่เหมือนเรา  จะจำให้เราได้มองเห็นมุมมองของคนอื่น

หรือกาฬมาเขียนคอมเมนต์ที่นี่    ก็ทำช่วยกาฬได้เยอะเลยค่ะ   มาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันแล้ว   รู้สึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรมีประโยชน์ขึ้น  หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน    พอเข้าเน็ตมา  หลังจากเช็คเวบของตัวเองแล้วก็ต้องเข้ามาที่นี่
 


อ้าว! น้องกันย์ หวัดดีค่ะ ผู้ถูกพาดพิงเข้ามาใช้สิทธิ์กันครบแล้วนะคะ นานะ อิอิ  :-X
ตานี้ก็ถึงคราวนานะเข้ามาได้แล้วนะคะ

มีข่าวมาบอกสำหรับนานะ และใครที่เคยอ่าน เทวากับซาตาน ค่ะ ไปเจอมาใน BBC

ความคืบหน้าของสถาบันวิจัยเซิร์นค่ะ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุของนิยายเรื่องนี้

เมื่อวานนี้ เซิร์นเริ่มยิงลำอนุภาคโปรตอนเข้าไปในสนามแม่เหล็กของเครื่องเร่งอนุภาค LHC เป็นครั้งแรกแล้วนะคะ แต่ว่ายังเป็นขั้นทดลอง ก่อนจะยิงจริงวันที่ 10 กันยายนนี้แล้วอ่ะค่ะ


วันที่ 10 กันยา เซิร์นจะยิงลำอนุภาคโปรตอน 2 ลำ ไปชนกันภายในท่อวงแหวนขนาดใหญ่ยักษ์ของ LHC  ซึ่งจะเป็นการสร้างสภาพของจักรวาลหลังจากเกิด Big Bang


เพราะฉะนั้นในวันที่ 10 กันยานี้ เราจะได้เห็น "กำเนิดจักรวาล" กันล่ะค่ะ
จะได้เห็นอนุภาคใหม่ๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความว่าง เหมือนที่ในนิยายเรื่องนี้บอกไว้ค่ะ


ถ้าการทดลองนี้สำเร็จ เขาว่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่สุดของฟิสิกส์อนุภาคเลย
และจะเป็นการมาบรรจบกันเป็นครั้งแรกของวิทยาศาสตร์กับพระเจ้าค่ะ
บางคนเลยเรียกอนุภาคใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการชนกันของโปรตอนว่า "อนุภาคพระเจ้า" ค่ะ

โหยย! พูดแล้วขนลุกอ่ะ ตื่นเต้นมากๆ เลย

จากในข่าวนี้ เจ้าของโปรเจคท์ยิงอนุภาคชนกันเพื่อไขปริศนากำเนิดจักรวาลตัวจริงชื่อ Lyn Evans นะคะ
จำไม่ได้ว่าในเทวากับซาตาน มีพูดถึงหรือเปล่า

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเซิร์นถูกฟ้องศาล ให้ระงับการยิงอนุภาคชนกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดหลุมดำ ที่จะดูดกลืนโลกทั้งโลกเข้าไป คือแทนที่โลกจะแตกอย่างที่กลัวกัน จะกลายเป็นว่า โลกอาจจะหายไปเลยก็ได้ ถ้าเซิร์นยิงโปรตอนชนกันในวันที่ 10 กันยานี้

น่ากลัวมั้ยคะ เมื่อถึงวันที่ว่านี้ มนุษย์ทั้งหมดและโลกใบนี้อาจจะหายไปในหลุมดำที่เกิดจากการทดลองของเซิร์นก็ได้นะคะ ใครจะไปรู้




เรื่อง เทวากับซาตาน นี่  พี่นานะแนะนำมานานแล้วค่ะ   แต่กาฬยังหาอ่านไม่ได้    กำลังรอความอนุเคราะห์จากพี่นานะอยู่     
ถ้าเรื่องแบบนี้   กาฬสนใจมากเลย  ชอบอะไรที่มันเป็นความก้าวหน้า หรือวิทยาศาสตร์ โลก ดวงดาว  ไม่ว่าจะหนังสือ หรือ หนัง  ทั้งที่ตัวเองก็ไม่สามารถจะเรียนสายวิทย์ได้

อ่านตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ  แต่สนใจมากๆ เลย  การดูดกลืนของหลุมดำ  แทนที่โลกจะแตกแต่กลับหายไปเลย   แล้วการหายไปนั้น มันหายไปได้ยังไง   มนุษย์เรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้มั้ย    หรือว่ามันจะทำให้เราไปอยู่ในจักรวาลที่แตกต่างไปจากเดิม   เหมือนว่า ได้เข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง   สิ่งที่อยู่ในโลกนี้  จะอยู่ได้อีกมั้ย  สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   เทคโนโลยีอย่างที่เรามี  ยังสามาถใช้งานได้อีกรึเปล่า  (แล้วนี่กาฬคิดไปถึงไหนเนี่ย)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 11, 2008, 06:36:55 PM

น้องกันย์เปิดประเด็นใหม่ ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาถึงกระทู้นี้ได้ไงคะ
เรียกว่าเปิดประเด็นก่อนประวัติศาสตร์ของกระทู้นี้กันเลย อิอิ :-X

วันก่อนพยามจะเปิดประเด็นภาษาไทย ภาษาวิบัติเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จแฮะ  :-[


โหยย!! ตำนาน เอ๊ย! ประวัติดึกดำบรรพ์การเริ่มอ่านหนังสือของเราสองคนคล้ายกันเลยอ่ะ น้องกันย์
แต่ต่างกันตรงรายละเอียดชนิดหนังสือน่ะ

พี่เริ่มต้นอ่านหนังสือเพราะหนังสือของพ่อที่มีอยู่ในบ้านเหมือนกัน
แล้วก็ตอนเปิดเทอมซื้อตำราเรียนใหม่ จะต้องรีบคว้าหนังสือภาษาไทยมาอ่านแบบแทบหายใจหายคอไม่ทัน อยากอ่านแบบตัวซี้ตัวสั่นเลย จิงๆ นะ


หนังสือจีนของพ่อที่เริ่มอ่านก็มีสามก๊ก เปาบุ้นจิ้น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน
แต่ตอนแรกยังไม่ได้อ่านเองหรอกค่ะ ฟังพ่อเล่าหนุกกว่า ง่ายกว่าด้วย เรื่องบู๊สง เรื่องขงเบ้ง
แต่บางทีพ่อก็ไม่มีเวลา อยากอ่านมากก็เลยต้องพยามอ่านเอง
 
ตอนเด็กๆ ก็ชอบสามก๊ก แต่ไม่ค่อยชอบเปาบุ้นจิ้น กับผู้ยิ่งใหญ่ฯ เท่าไหร่
มีการ์ตูนจีนด้วยเรื่องซำเหมา เคยได้ยินกันมั้ยคะนี่ เรื่องนี้
อีกอันเป็นการ์ตูนตลก 3 เกลอ แต่ไม่ใช่พล นิกร กิมหงวนนะคะ
อันนี้เป็นการ์ตูนตลกจีน มี 3 คนเหมือนกัน แต่ตัวเด่นรู้สึกจะชื่อลุงเชยมั้งคะ 
แถมยังฟังเพลงจีนตามพ่อด้วย เติ้งลี่จวิน เพลงจากหนังฮ่องกงยุคที่กำลังรุ่งโรจน์สุดขีดอ่ะค่ะ
จนเดี๋ยวนี้ก็ยังร้องได้อยู่ พวกเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คมเฉือนคม ฤทธิ์มีดสั้น 8 เทพอสูรมังกรฟ้า


ที่อ่านหนังสือแตกได้ ก็เพราะสามก๊กนี่แหละค่ะ 
และทำให้เป็นคนไม่เคยมีปัญหาในการอ่านชื่อจีนในนิยายกำลังภายในเลย
ในขณะที่เพื่อนหลายคนขอบายนิยายกำลังภายในของ "กิมย้ง" หรือแม้กระทั่งสามก๊ก
ด้วยเหตุผลว่า งงชื่อจีนของตัวละคร
แถมเขายังบ่นกันว่า เรื่องยาวมากๆ ตัวละครเยอะไปหมด เลยเลิกอ่าน
เพราะอ่านแล้วจำชื่อตัวละครไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นใคร


หลังจากอ่านสามก๊กแล้วติดใจ ทีนี้อ่านแหลกเลยค่ะ
นับว่าสามก๊กเป็นหนังสือที่มีคุณูปการต่อตัวเองเป็นพิเศษเลย
ทำให้อ่านหนังสือแตกและยังทำให้กลายเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาถึงเดี๋ยวนี้ด้วย


แล้วที่น้องกันย์บอก รู้สึกตอนเด็กอ่านหนังสือมีสาระกว่าตอนนี้
พี่ก็รู้สึกเหมือนกันอ่ะ
ที่จริงต้องบอกว่า ช่วงที่อ่านหนังสือมากๆ ก็คือตอนเด็กอ่ะค่ะ
ช่วงที่อ่านมากที่สุดก็คือช่วงหลังจากอ่านสามก๊กแล้ว
ประมาณป.3 ป.4 จนถึงประมาณแค่มัธยมเองมั้ง

หลังจากนั้นรู้สึกเหมือนเกือบจะหยุดอ่านหนังสือไปเลยนะ
ตอนโตมานี่ เหมือนจะอ่านหนังสือเป็นพักๆ เวลาเพิ่งเจอนักเขียนถูกใจหรืองานถูกใจ
ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่นักเขียนใหม่ หรืองานเขียนใหม่หรอก
เพียงแต่ตัวเองเพิ่งจะค้นพบน่ะ


ตอนเด็กๆ นี่อ่านงานดีๆ ของนักเขียนดีๆ มากมายกว่าตอนโตอีก แต่ส่วนใหญ่พี่อ่านแต่นิยายนะ
ของ พนมเทียน นี่ อ่านตั้งแต่ตอนอยู่ประถมทั้งนั้นเลยอ่ะ
ทั้งศิวาราตรี ละอองดาว แวว มยุรา มัสยา จุฬาตรีคูณ แต่เรื่องเพชรพระอุมานี่มาอ่านตอนโต
แล้วก็ใช่ว่าจะอ่านแล้วรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกนะ แถมจำไม่ค่อยได้ด้วย

เรื่องละอองดาวนี่ จำได้อยู่ประโยคเดียวของละอองดาว
ที่ถามพระเอกว่า จะเอาตะพดแช่อิ่มมั้ยน่ะ
จำได้ว่าอ่านแล้วขำมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าขำทำไม
รู้แต่ว่าคำว่าตะพดแช่อิ่มน่ะ มันตลกเหลือเกิน ในความรู้สึกของเด็กอ่ะ

พวกขายหัวเราะก็อ่านนะ แต่ชอบอ่านหนังสือมากกว่าการ์ตูนอ่ะ ไม่รู้ทำไม
ถ้าให้เลือกระหว่างขายหัวเราะ กับพล นิกร กิมหงวน เลือกพล นิกร กิมหงวนอ่ะ
ชอบอ่านแต่เรื่องตลกๆ กับนิยาย อ่านอยู่แค่เนี้ยอ่ะค่ะ อายเหมือนกันนะเนี่ย


ตะพดแช่อิ่ม  :)   55555+   กาฬจำได้แต่ ลูกปืนแช่อิ่ม   :-X  ที่คุณดารินเตรียมจะเสิร์ฟให้รพินทร์ที่กวนประสาทไม่เลิก  แล้วยังมีอะไรอีกก็ไม่รู้  จำไม่ได้แล้ว 

กาฬก็เป็นอย่างที่พี่ galdewis  กับ พี่กันย์ ค่ะ  ตอนเด็ก  อ่านหนังสือมีสาระกว่า ตอนนี้อีก   

เมื่อตอนประถม  ก็เริ่มจากอ่านนิทานพื้นบ้านเล่มเล็กๆ  ที่เมื่อก่อนจะมีขาย  อย่าง  พระรถ-เมรี  แก้วหน้าม้า (เวอร์ชั่นที่เล่าต่อไปจนถึงรุ่นหลานๆ ของพระปิ่นทอง) พระลอ   แล้วก็เริ่มเป็นเทพนิยาย  ตำนาน  แล้วก็มาเป็นวรรณคดี  บทกลอนต่างๆ
พอขึ้นมัธยมมาก็อ่านนิยายอย่างของ พนมเทียน  ทมยันตี  แก้วเก้า  นิยายเรื่องแรกที่กาฬอ่าน คือ  หุบเขากินคน  และ บ้านบุษบาบัณ  เรื่องที่ 3  นี่  มิติมหัศจรรย์ รึเปล่าไม่แน่ใจ จนอ.ที่ห้องสมุดบอกว่า กาฬอ่านหนังสือเกินตัว 
เพราะตามเกณฑ์ที่เค้ากำหนดหนังสือที่เหมาะสมสำหรับแต่ละวัยนั้น   
รุ่นมัธยมควรจะอ่าน วรรณกรรมเยาวชน  ประเภทแฮร์รี่ พอตเตอร์ (แต่ตอนนั้นกาฬติดเพชรพระอุมาอยู่ เลยไม่ได้อ่านแฮร์รี่)  เจ้าชายน้อย 


ส่วนตอนนี้  กาฬอ่านอะไรเนี่ย  นานๆ จะได้หนังสือมีสาระซักเล่มนึง   ที่เหลือก็อ่านฟิคจากในเน็ต  ไม่ได้ว่านิยายในเน็ตไม่ดีหรอกนะคะ  บางเรื่องดีมากจนประทับใจไม่รู้ลืม ไม่แพ้นิยายของนักประพันธืชื่อดังเลย   แต่ว่ามันเหมือนอ่านอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันซักเท่าไหร่ 
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 12, 2008, 07:59:54 PM


การอยู่หลายคน  นอกจากระวังคำพูดแล้ว   ก็ต้องระวังความคิดตัวเองด้วย   เพราะเราอาจจะคิดว่า เค้าคิดอย่างนี้  ทั้งที่จริงมันไม่ใช่  แล้วก็จะเกิดความเข้าใจผิดกัน   ยิ่งหลายคน  ความเข้าใจผิดก็ยิ่งมากขึ้น   แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีก


ใช่แล้วค่ะ น้องกาฬ อยู่หลายคน ต้องระวังทั้งสองอย่าง ทั้งความคิดและคำพูด

ที่โบราณบอกให้เราระวังคำพูด เวลาอยู่หลายคน พี่คิดว่าโบราณสอนให้เรา "คิดก่อนพูด" อ่ะค่ะ

อยู่คนเดียวระวังแค่ความคิดอย่างเดียว ก็พอ
แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ ระวังความคิดอย่างเดียว ไม่พอซะแล้ว

ต้องระวังคำพูดด้วย

ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องกาฬและน้องกันย์เมื่อไม่นานมานี้ในบอร์ดนี้อ่ะค่ะ

ความจริงพี่น่ะ อยากเสนอให้เพิ่มเข้าไปตรงกฎ กติกา มารยาท ในการเขียนหรือใช้ภาษาในบอร์ดนะคะ
ไม่ว่าบอร์ดนี้หรือบอร์ดไหนก็ตามเหอะ
ช่วยระวังคำพูด(ในที่นี้ก็คือการเขียนคอมเมนท์) ให้มากๆ กันหน่อย จะได้มั้ย
ช่วยคิดให้มากๆ กันหน่อยจะได้มั้ย ก่อนที่จะเขียนอะไรลงไป
เพราะว่าคำพูด พูดออกไปแล้ว มันเอาคืนมาไม่ได้
เช่นเดียวกับความรู้สึกที่เสียไปของคนฟังหรือผู้รับ ที่เกิดจากคำพูดที่ไม่คิดนั้น
มันก็จะเอากลับคืนมาให้ดีดังเดิม ไม่ได้เช่นกัน

คำพูดที่ไม่คิดเนื่องจากความอ่อนเยาว์ พลอยให้เยาว์ความคิดนั้น ก็สมควรให้อภัยอยู่
เพราะหากจะมีใครที่น่าจะให้อภัยที่สุดแล้ว ก็คือผู้เยาว์

แต่ก็ต้องแยกแยะเนื้อหาที่พูดนั้นด้วยเหมือนกัน ว่าผิดพลาดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเยาว์วัย
หรือผิดพลาดที่การมีทัศนคติที่ไม่เหมาะสม
เพราะถ้าเป็นประการหลัง ก็สมควรได้รับการตักเตือน
ตั้งแต่เขายังเป็นไม้อ่อนดัดง่าย

พี่ก็เริ่มนอกเรื่องซะและ พอดีกว่า แหะแหะ :-[




การเขียนเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย   กาฬรู้สึกว่า มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เป็นกานผ่อนคลายที่ช่วยกาฬได้มาก   ถ้าทุกวันนี้ไม่เขียน   คงอึดอัดใจตายแล้วแน่ๆ 
ทุกวันนี้นอกจากเขียนฟิค  เขียนนิยาย  กาฬก็เขียนไดอารี่ค่ะ   วันๆ ระบายสิ่งที่ได้พบเจอ ประสบการณ์เหงา เศร้า สุข  มีอะไรก็เขียนไว้ได้หมด     การมีไดอารี่ออนไลน์ที่ให้คนอื่นมาคอมเมนต์หลังจากอ่านได้  มันก็ดีอย่างเพราะเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในแง่มุมของเรากับของคนอื่น  คนที่คิดไม่เหมือนเรา  จะจำให้เราได้มองเห็นมุมมองของคนอื่น

หรือกาฬมาเขียนคอมเมนต์ที่นี่    ก็ทำช่วยกาฬได้เยอะเลยค่ะ   มาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันแล้ว   รู้สึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรมีประโยชน์ขึ้น  หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน    พอเข้าเน็ตมา  หลังจากเช็คเวบของตัวเองแล้วก็ต้องเข้ามาที่นี่



การเขียนสำหรับพี่ นอกจากใช้ระงับความฟุ้งซ่านแล้ว ที่สำคัญยังเป็นการคิดด้วยค่ะ

การได้เขียนออกมา เหมือนได้มองเห็นความคิดของตัวเองชัดขึ้น
เพราะถ้าไม่เขียน มันก็เอาแต่วนไปเวียนมาอยู่ในหัวของเรา เหมือนเขาวงกต มองไม่เห็นทางออก

แต่พอได้เขียนออกมา เหมือนจิตใจมันสงบลง ไม่ฟุ้งซ่าน
เหมือนได้ทบทวนความคิด จัดลำดับความคิดได้อย่างเป็นระเบียบ
เห็นอะไรสำคัญ ไม่สำคัญได้ง่ายขึ้น รู้ว่าอะไรควรตัดทิ้ง อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ
และอะไรอาจเป็นทางออก
 



อ่านตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ  แต่สนใจมากๆ เลย  การดูดกลืนของหลุมดำ  แทนที่โลกจะแตกแต่กลับหายไปเลย   แล้วการหายไปนั้น มันหายไปได้ยังไง   มนุษย์เรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้มั้ย    หรือว่ามันจะทำให้เราไปอยู่ในจักรวาลที่แตกต่างไปจากเดิม   เหมือนว่า ได้เข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง   สิ่งที่อยู่ในโลกนี้  จะอยู่ได้อีกมั้ย  สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   เทคโนโลยีอย่างที่เรามี  ยังสามาถใช้งานได้อีกรึเปล่า  (แล้วนี่กาฬคิดไปถึงไหนเนี่ย)



แหะ สงสัยพี่จะแปลไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะค่ะ โทดที  :P

คือในเรื่องเทวากับซาตานนี่ เวลาปฏิสสารมันระเบิ่ด ตอนแรกมันจะกลายเป็นแสงที่สว่างจ้ามากๆ ก่อน และทำลายทุกสิ่งภายในรัศมีการทำลาย จากนั้นมันจะดูดกลืนตัวเองกลับเข้าไปในตัวเอง จนสุดท้ายก็หายไปทั้งหมด เหลือแต่หลุมใหญ่ๆ อ่ะค่ะ เหมือนกับหลุมดำในอวกาศน่ะ พี่เข้าใจว่าอย่างนี้นะ ไม่รู้ผิดถูกประการใด เพราะไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์เลย

ถ้าเกิดว่าไม่เคยอ่านเรื่องเทวากับซาตานมาก่อนนี่ คงไม่ได้สนใจข่าวของเซิร์นอ่ะค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือสถาบันอะไร

ส่วนปฏิสสารนี่ พี่พูดถึงไปยังคะ ลืม รู้สึกจะยังมั้ง ปฏิสสาร ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว มันคือสิ่งตรงข้ามกับสสารค่ะ ในหนังสือบอกว่า มันก็มีหน้าตาเหมือนกับสสารทุกอย่างนี่แหละ แต่ต่างกันที่ประจุไฟฟ้าเท่านั้นค่ะ จำได้แค่นี้อ่ะ ต้องรอนานะมาเพิ่ม แต่สงสัยตอนนี้นานะยุ่งกับการ up ข่าวคุณบอยเล่นสังข์ทองนะ วันนี้เปลี่ยนรูปคุณบอยตรงหัวบอร์ดใหม่ด้วย บอร์ดดูสดใสขึ้นทันตาเลย บรรยากาศของบอร์ดตอนนี้ก็ดูสดชื่นรื่นเริงดีจัง ดีใจกับบอร์ดบอยอีกครั้งนะคะ ที่จะได้ชื่นชมคุณบอยกันแล้ว

อ้อ อีกนิดสำหรับเทวากับซาตาน เพิ่งนึกขึ้นได้
เซิร์น เป็นสถาบันที่คิดค้น World Wide Web ค่ะ และได้รางวัลจากการคิดค้นนี้ด้วย
แต่คนมักเข้าใจผิดว่าคนคิดคืออเมริกา

เรื่องเทวากับซาตานนี่ ยังทำให้พี่สนใจใครจะรู้เรื่องกลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์ด้วย
ตอนนั้นหาข้อมูลมาอ่านซะยกใหญ่เลย แต่...ลืมไปเกือบหมดแล้ว แหะแหะ  :-[
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ สิงหาคม 12, 2008, 08:22:36 PM
พี่รู้ใจกันใจจริงเลยค่ะ อยากตอบเรื่องปฏิสสารมากกกกกกกกกกกกกกกกถึงมากที่สุด แต่ตอนนี้ขอ
แก้งานให้เสร็จก่อนนะคะ แล้วเด๋วจะมาพูดเรื่องนี้ต่อนะคะ อย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ

ปล.กลัวพี่ galdewis หายที่สุด เพราะเวลานานะจังเข้ามา ถ้าเห็นเป็นพี่ตอบต้องคลิกเข้าไปอ่านเป็นกระทู้แรกเลยค่ะ
น้องกาฬรหัสย์ก็คงเหมือนกัน ใช่ไหมน้อง 555
ไปกองถ่ายมาเมื่อวาน พอมาวันนี้ก็อัพข่าวและรุปของพี่บอย งานตัวเองเลยค้างเติ่งเลยค่ะ T_T :'( :'(
เด๋ววันพฤหัสกลับมาตอยทุกกระทู้นะคะ ขอบคุรที่ head ใหม่นะคะพี่ ปลาบปลื้ม :-*
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 12, 2008, 08:29:27 PM
ใช่แล้วค่ะ น้องกาฬ อยู่หลายคน ต้องระวังทั้งสองอย่าง ทั้งความคิดและคำพูด

ที่โบราณบอกให้เราระวังคำพูด เวลาอยู่หลายคน พี่คิดว่าโบราณสอนให้เรา "คิดก่อนพูด" อ่ะค่ะ

อยู่คนเดียวระวังแค่ความคิดอย่างเดียว ก็พอ
แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ ระวังความคิดอย่างเดียว ไม่พอซะแล้ว

ต้องระวังคำพูดด้วย

ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องกาฬและน้องกันย์เมื่อไม่นานมานี้ในบอร์ดนี้อ่ะค่ะ


ความคิดและคำพูดทำให้เกิดเรื่องหลายอย่างมากมาย

อย่างตอนนี้  กาฬไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว  ดีที่ยังมีที่ไว้สนทนาที่นี่ได้  
ความคิดและคำพูดทำให้กาฬเจอเรื่องอะไรต่างๆ มากมายเลย   ถ้าอย่ากรณีของกาฬกับพี่กันย์ที่เกิดขึ้นในบอร์ดนี้  มันเล็กน้อยมากเลย  แต่กับคนใกล้ตัวนี่สิ   ที่เป็นปัญหาแก้ยาก
บางอย่าง  ทั้งที่คำพูดของเราไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับใคร  และไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอะไร  แต่เรากลับจะต้องเจอปัญหาเพราะคำพูดนั้น
และความคิดที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจกัน  ก็ยิ่งทำให้เกิดเรื่องไปกันใหญ่
กาฬไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง   แต่สิ่งที่กาฬทำได้มากที่สุด  คือยืนหยัดในจุดที่กาฬเคยอยู่ให้มั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้   ยึดมั่นในใจความจริงใจของเรา  
ถึงแม้จะต้องเสียอะไรไปก็ตาม

ขอโทษที่นอกเรื่องค่ะ  




กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์  คืออะไรคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 12, 2008, 09:56:31 PM


ความคิดและคำพูดทำให้เกิดเรื่องหลายอย่างมากมาย

อย่างตอนนี้  กาฬไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว  ดีที่ยังมีที่ไว้สนทนาที่นี่ได้  
ความคิดและคำพูดทำให้กาฬเจอเรื่องอะไรต่างๆ มากมายเลย   ถ้าอย่ากรณีของกาฬกับพี่กันย์ที่เกิดขึ้นในบอร์ดนี้  มันเล็กน้อยมากเลย  แต่กับคนใกล้ตัวนี่สิ   ที่เป็นปัญหาแก้ยาก
บางอย่าง  ทั้งที่คำพูดของเราไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับใคร  และไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอะไร  แต่เรากลับจะต้องเจอปัญหาเพราะคำพูดนั้น
และความคิดที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจกัน  ก็ยิ่งทำให้เกิดเรื่องไปกันใหญ่
กาฬไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง   แต่สิ่งที่กาฬทำได้มากที่สุด  คือยืนหยัดในจุดที่กาฬเคยอยู่ให้มั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้   ยึดมั่นในใจความจริงใจของเรา  
ถึงแม้จะต้องเสียอะไรไปก็ตาม


กะลังจะไปนอนแล้วนะคะเนี่ย แต่ก็ต้องแวะเข้ามาก่อนทุกที
รู้สึกน้องกาฬจะมีเรื่องไม่สบายใจพอดู
ก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ
แล้วมันจะต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ น้องกาฬ

ใครไม่รู้บอกไว้ว่า ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต
พี่เองก็เจอมาไม่น้อย กว่าจะเติบโต
และก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นความจริง
แต่ถามว่า ให้เจ็บปวดอีกมั้ย ไม่เอาแล้วดีกว่า

พี่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของน้องกาฬเป็นยังไง
แต่จะเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องการอธิบายความคิดให้คนอื่นเข้าใจ
หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์บ้างค่ะ

บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจความคิดเรา
ถ้าเขาไม่พยายามจะเข้าใจ หรือไม่เปิดใจ เหมือนที่เราเปิดใจกับเขา

เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่มีอะไรจะต้องพูดให้เคลียร์ๆ กันไปเลย
แต่ต่อมาก็พบว่า มันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น

แต่กับอีกหลายคน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ว่าเราจะจริงใจแค่ไหนก็ตาม
เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงใจของเราอ่ะค่ะ

หลังๆ ก็เลยปลง ตัด แม้ว่าจะไม่ขาด
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราควบคุมอะไรไม่ได้หรอก และเราก็ทำได้แค่นี้
ไม่ผิดต่อความรู้สึกของตัวเอง ก็พอแล้ว




กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์  คืออะไรคะ


เดี๋ยวพี่ขอทบทวนความจำก่อนนะคะ...
กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ ซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่องเทวากับซาตาน เป็นกลุ่มภราดรโบราณที่มีตัวตนจริงแต่สาบสูญไปประมาณร้อยปีแล้ว ถือเป็นการรวมกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกในโลก เกิดขึ้นที่กรุงโรม เมื่อ 400 ปีก่อน (เวลานี่ไม่แน่ใจ)

ผู้นำกลุ่มคนสำคัญคือ กาลิเลโอ สัญลักษณ์ของกลุ่มนี้คือ รูปสมมาตร (ambigram) และธาตุทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิทยาศาสตร์โบราณมีแค่ 4 ธาตุ คือ ปฐวี วาโย เตโช อาโป (ดิน ลม ไฟ น้ำ)

อิลลูมินาติเป็นปฏิปักษ์กับคริสตศาสนาตั้งแต่ต้น เพราะวิทยาศาสตร์กับศาสนาก็เปรียบเหมือนน้ำกับน้ำมัน ไม่มีทางจะเข้ากันได้

ตามประวัติศาสตร์อิลลูมินาติดูเหมือนจะถูกคริสตจักรรังแกมาโดยตลอด (หรืออย่างน้อยก็ในมุมมองของอิลลูมินาติ หรือผู้ที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์ และมองว่าศาสนาเป็นเรื่องงมงาย) จนในที่สุดก็ถูกเนรเทศออกจากกรุงโรม อิลลูมินาติจึงลี้ภัยไปที่อเมริกา (เข้าใจว่าไปที่อื่นๆ ด้วยนะคะ จำไม่ได้แล้ว) แต่การลี้ภัยไปอเมริกานี่ค่อนข้างสำคัญ เพราะกลุ่มที่ให้พี่พักพิงแก่อิลลูมินาติที่อเมริกาคือ กลุ่มภราดรช่างอิฐแห่งบาวาเรีย ซึ่งเรียกตัวเองว่า กลุ่มเมซันส์ หรือฟรีเมซันส์

กล่าวกันว่า อิลลูมินาติได้แทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างอำนาจของกลุ่มเมซันส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทรงอิทธิพลในวงการเมืองและวงการเศรษฐกิจการธนาคารของอเมริกา รู้สึกว่า นักการเมืองสำคัญๆ ของอเมริกาในอดีต ล้วนแต่เป็นสมาชิกเมซันส์ เช่น ประธานาธิบดีรูสเวลท์ แม้แต่ประธานาธิบดีจอร์จ บุชผู้พ่อของจอร์จ บุชคนปัจจุบัน ก็เป็นสมาชิกเมซันส์ด้วย (ยังมีอีกหลายคนอ่ะค่ะ แต่ลืม)


แต่สิ่งที่ทำให้กลุ่มเมซันส์เป็นที่กล่าวขวัญถึงคือ เคยได้ยินเรื่อง "การจัดระเบียบโลกใหม่" หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า New World Order ใช่มั้ยคะ นั่นแหละค่ะ มาจากกลุ่มเมซันส์ ซึ่งเป็นเพราะอิทธิพลของอิลลูมินาติที่แทรกซึมอยู่ในเมซันส์อีกทีนึง

เรามักเข้าใจกันว่า การจัดระเบียบโลกใหม่ หมายถึงโลกยุคหลังจากที่สงครามเย็นสิ้นสุด แต่จากหนังสือเทวากับซาตาน การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่จริงต้องพูดสลับคำเป็นว่า การจัดระเบียบใหม่ "ทางโลก" ค่ะ คือหมายถึงไม่เกี่ยวกับศาสนา หมายถึงโลกที่ไม่มีศาสนา มีแต่วิทยาศาสตร์ ซึ่งก็หมายถึงกลุ่มอิลลูมินาติ ที่บูชาวิทยาศาสตร์เป็นพระเจ้า และเป็นปฏิปักษ์กับศาสนานั่นเอง


เฮ้อ! เหนื่อย จำได้แค่นี้อ่ะ น้องกาฬ ไงต้องรอนานะว่างก่อนนะคะ คงจะบอกอะไรได้มากกว่าพี่อ่ะค่ะ แหะ  :-[

ไปนอนแล้วล่ะ น้องกาฬ
ขอให้ผ่านพ้นเรื่องไม่สบายใจไปได้ด้วยดีนะคะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 12, 2008, 10:07:47 PM
พี่รู้ใจกันใจจริงเลยค่ะ อยากตอบเรื่องปฏิสสารมากกกกกกกกกกกกกกกกถึงมากที่สุด แต่ตอนนี้ขอ
แก้งานให้เสร็จก่อนนะคะ แล้วเด๋วจะมาพูดเรื่องนี้ต่อนะคะ อย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ

ปล.กลัวพี่ galdewis หายที่สุด เพราะเวลานานะจังเข้ามา ถ้าเห็นเป็นพี่ตอบต้องคลิกเข้าไปอ่านเป็นกระทู้แรกเลยค่ะ
น้องกาฬรหัสย์ก็คงเหมือนกัน ใช่ไหมน้อง 555
ไปกองถ่ายมาเมื่อวาน พอมาวันนี้ก็อัพข่าวและรุปของพี่บอย งานตัวเองเลยค้างเติ่งเลยค่ะ T_T :'( :'(
เด๋ววันพฤหัสกลับมาตอยทุกกระทู้นะคะ ขอบคุรที่ head ใหม่นะคะพี่ ปลาบปลื้ม :-*


ยังนอนไม่ได้ ต้องตอบนานะก่อนจิ

พี่ก็เหมือนกันค่า  ;) ยุ่งยังไงก็ต้องแวะเข้ามาซะหน่อยก่อน ถ้าเห็นพวกเราที่คุยกันอยู่เนืองๆ อย่างนานะ น้องกาฬ น้องกันย์ ก็จะต้องคลิกเข้ามาอ่านก่อนก็ยังดี แม้บางที(หลายที)จะยังไม่มีเวลาตอบก็ตามที

ไม่ต้องรีบก็ได้ค่า นานะ ระวังสุขภาพนะคะ วันก่อนพี่ปวดหัวปวดตามากเลย สงสัยจะใช้คอมพ์มากไปอ่ะ ต้องเพลาๆ ลงหน่อยแล้ว ทำไงได้ ก็มันอยากคุยอ่ะนะ แถมตัวเองก็พูดมากซะด้วย ติดเบรคซะเมื่อไหร่ล่ะ ให้คุยทั้งวันทั้งคืนยังคุยได้เลยนะนี่ หุ  :-X

แต่เห็นนานะมีความสุข มีชีวิตชีวา ก็ดีใจค่ะ มันสะท้อนมาถึงบอร์ดด้วยเลย ทำให้บอร์ดดูมีความสุข มีชีวิตชีวาไปด้วยอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

ปล. ปลาบปลื้มเช่นกัน ที่นานะบอกคลิกอ่านคอมเมนท์พี่เป็นกระทู้แรกอ่ะ
แต่อาทิตย์นี้จนถึงอาทิตย์หน้าพี่คงจะงานเยอะอ่ะค่ะ
แต่คงจะแวะเข้ามาคุยล่ะค่ะ แต่คงคุยได้แค่แป๊บๆ อ่ะ
แล้วตอนนี้ก็เริ่มเซิร์ชเรื่องเย้ยฟ้าท้าดินแล้วด้วย หาข้อมูลคุณภูน่ะค่ะ
เพราะวันนี้เห็นช่อง 7 ฉายตัวอย่างแล้ว แต่ยังไม่บอกวันเริ่มฉาย แต่ในตัวอย่างยังไม่เห็นคุณภูเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 12, 2008, 11:30:10 PM
ขอบคุณพี่ galdewis มากๆ เลยค่ะ 

กาฬก็เป็นเหมือนกัน อย่างน้อยต้องเปิดเข้ามาดูทุกวัน  โดยเฉพาะในกระทู้นี้     

ที่บอกว่า  ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต  กาฬรู้ชัดก็ตอนขึ้นมหาลัยนี่แหละค่ะ  มันใช่เลย  ทั้งที่เมื่อก่อน  กาฬก็ผ่านอะไรมามากมาย แต่ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดเท่าตอนที่โตมานี่เลย  ยิ่งโตก็ยิ่งเจ็บปวดกับปัญหามาก  ทั้งที่ปัญหามันไม่ต่างกันกับตอนที่เคยเจอ  แต่ทำไมพอมาเจออีก  ถึงได้รู้สึกว่ามันย่ำแย่สุดๆ

กาฬก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านพ้นไปด้วยดี  หรือว่าต้องเสียอะไรไปอีก


บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจความคิดเรา
ถ้าเขาไม่พยายามจะเข้าใจ หรือไม่เปิดใจ เหมือนที่เราเปิดใจกับเขา

เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่มีอะไรจะต้องพูดให้เคลียร์ๆ กันไปเลย
แต่ต่อมาก็พบว่า มันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น

แต่กับอีกหลายคน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ว่าเราจะจริงใจแค่ไหนก็ตาม
เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงใจของเราอ่ะค่ะ

หลังๆ ก็เลยปลง ตัด แม้ว่าจะไม่ขาด
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราควบคุมอะไรไม่ได้หรอก และเราก็ทำได้แค่นี้
ไม่ผิดต่อความรู้สึกของตัวเอง ก็พอแล้ว


ประเด็นของกาฬ   กาฬก็เคยเจอมากับคนที่สามารถพูดด้วยตรงๆ ได้  (ซึ่งโชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น)  เคยต้องเสียน้ำตากันหลายทอดเลย  กว่าจะเข้าใจกันและกันและกัน (หลายคนเกิน)  หรือกับคนที่พูดไม่รู้เรื่อง   กาฬก็ตัดทิ้งไปเลย  คือไม่สนใจ  ถ้าเค้าไม่ได้มีความสำคัญอะไร

แต่กับสถานการณ์นี้   มันคือ  กาฬกลายเป็นคนที่เค้าไม่ไว้ใจไปซะแล้ว  เป็นเหมือนคนแปลกหน้า
ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา  เข้าใจกันได้ดี  มีเรื่องอะไรก็ไว้ใจกัน  ช่วยเหลือกัน   
เรื่องมันไม่ได้ยาวเลยค่ะ  แค่ปีเดียวเท่านั้นเอง   แต่รายละเอียดมันสลับซับซ้อน   
เพราะความไว้ใจของกาฬเองรึเปล่า   ที่สิ่งที่พูดออกไปนั้น  มันเลยกำลังจะย้อนกลับมา   
กาฬอาจจะลืมคิดไปว่า  สิ่งที่กาฬพูด ถึงมันไม่ได้เป็นอันตรายกับใคร แต่มันสามารถย้อนกลับมาเล่นงานกาฬได้   
ถึงแม้มันจะเป็นความจริง  แต่ความจริงบางอย่าง  ไม่มีใครรู้มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ   ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร  มันเป็นเรื่องดีๆ ของกาฬเอง  เป็นความทรงจำดีๆ

กับเรื่องที่ไว้ใจกัน  กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่ไว้ใจกันได้   
ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับกาฬเพราะเรื่องนี้    กาฬเลยต้องทำใจว่า  กาฬต้องต่อสู้เรื่องนี้ไปด้วยความบริสุทธิ์ของตัวเอง   และอาจจะต้องเสียใครไป  ซึ่งถ้าคนๆ นั้น  ไม่ใช่คนที่เค้าไว้ใจกาฬแล้ว ก็คงต้องละทิ้ง


ภายในความทรงจำดีๆ  มักจะแฝงเอาไว้ด้วยความทรงจำที่ไม่น่าจดจำ





คำว่า New World Order   กาฬจะได้ยินมาจากอะไรที่เกี่ยวกับอเมริกาค่ะ   แต่ไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงหรอก   คำว่า New World  ของกาฬ   กาฬเข้าใจว่ามันเกิดขึ้น   ตอนที่อเมริกาเริ่มเป็นประเทศใหม่ๆ  การรุกรานชนชาติเดิม  ที่เป็นเจ้าของดินแดน  และเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ทันสมัย 
เกิดเป็นลัทธิทุนนิยม  ยึดถือวัตถุเป็นของมีค่า   


ความเครียดทำให้กาฬหัวไม่แล่นเลยค่ะ  ช่วงนี้ที่ตอบน้อยก็เพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจ  จริงๆ อยากคุยเยอะๆ  อยากรู้อะไรมากมาย 



นิทราสวัสดิ์ค่ะ  พี่ galdewis  พี่นานะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: galdewis ที่ สิงหาคม 13, 2008, 08:53:19 PM


ความเจ็บปวด ความจริง การสูญเสีย

ตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้น ก็คงต้องเผชิญกับมันอยู่ร่ำไป

ตราบใดที่เลือกที่จะยอมรับความจริง เลือกที่จะไม่หลอกตัวเอง

ก็อาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจ็บปวด เมื่อต้องสูญเสีย

เรามักเชื่อกัน และพูดกันว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

เหมือนจะให้คำพูดนี้เป็นดั่งเกราะป้องกัน เป็นเครื่องกระตุ้นให้เรามั่นใจ ไม่หวั่นไหว ที่จะพูดความจริง
กระทั่งเป็นเครื่องปลอบประโลม เมื่อเราต้องได้รับผลร้าย จากการพูดความจริงนั้น

แต่บางทีเราอาจจะลืมไปว่า...

ความจริงเป็นสิ่งที่มีค่า และเพราะมันมีคุณค่า จึงมีราคาที่ต้องจ่าย มิใช่ได้มาฟรีๆ

และราคาที่ต้องจ่าย อาจหมายถึงความเจ็บปวด และการสูญเสีย

นี่ก็คือความจริงที่เจ็บปวดอีกประการหนึ่ง

แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเราเองด้วยว่า

เราเชื่อมั่นในความจริง ดั่งที่เรากล่าวอ้าง จริงหรือไม่



 
ถึงแม้มันจะเป็นความจริง  แต่ความจริงบางอย่าง  ไม่มีใครรู้มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ   ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร  มันเป็นเรื่องดีๆ ของกาฬเอง  เป็นความทรงจำดีๆ



พี่เคยสงสัยมานานแล้ว ที่โบราณบอกว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง นี่น่ะ มันเพราะอะไร

แต่ไม่เคยหาข้อมูลอ่าน เพราะชอบที่จะลองคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองมากกว่า

พี่คิดว่า สุภาษิตนี้คือการเตือนเรื่องการพูด แม้ว่าสิ่งที่พูดจะเป็นความจริงก็ตาม

หลายครั้งที่ความจริงเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ และความสามารถในการยอมรับความจริงของหลายคนก็แตกต่างกัน

บางครั้งแม้แต่ตัวเราเอง ระดับความสามารถในการยอมรับความจริง ยังแตกต่างไปตามวัย และปัจจัยอื่นๆ ถ้าหากจะมี

จึงไม่แปลกที่ความจริงที่เรายอมรับได้ ไม่เห็นว่าเสียหายอะไร แต่คนอื่นกลับไม่สามารถยอมรับได้เหมือนเรา

เพราะฉะนั้นโบราณจึงเตือน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

 


กาฬก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านพ้นไปด้วยดี  หรือว่าต้องเสียอะไรไปอีก


เคยเสียใจเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าเป็นความสูญเสียมามาก ในหลายๆ รูปแบบ

แต่มาถึงวันนี้ จำความสูญเสียหรือความเสียใจเจ็บปวดเหล่านั้นไม่ได้แล้วอ่ะ

ทุกวันนี้รู้สึกสุขกายสบายใจดี ที่ไม่เคยสูญเสียตัวเองไป

และก็ไม่แน่เหมือนกัน ว่าสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นความสูญเสียที่ผ่านๆ มานั้น เราเป็นฝ่ายสูญเสียจริงๆ

หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ สิงหาคม 19, 2008, 12:38:33 PM
ไม่ได้ตอบกระทู้นี้นานมากเลย  คิดถึง พี่ galdewis จังค่ะ   

ตอนนี้ปัญหาของกาฬ  มันอยู่ๆ ก็หายไปเลย  บอกไม่ถูกอ่ะ  แต่ในเมื่อมันกลับมาเป็นปกติ  กาฬก็ไม่อยากจะไปสะกิดให้เกิดตะกอนขึ้นมา  แล้วยังมีเหตุการณ์ที่บางที เค้าอาจจะเข้าใจเหตุผลของกาฬก็ได้

ตอนนี้  ปัญหาชีวิตเลยลดไปแล้ว  เหลือแต่ปัญหาเรื่องเงินที่ต้องดิ้นรน  :D

กาฬคงไม่ได้มาตอบอะไรยาวๆ นะคะ ช่วงนี้    เพราะว่า คอมที่บ้านเสีย   หนังสือก็ไม่ได้หาอ่าน


ปล.อยากอ่าน เทวากับซาตาน อ่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ กันยายน 19, 2008, 10:00:09 PM
รู้สึกว่ากระทู้นี้ไม่ได้เคลื่อนไหวนานแล้วอ่ะ    คิดถึงมากๆ เลย
คิดถึงพี่ galdewis ด้วยค่ะ   ตอนนี้ยุ่งอยู่รึเปล่าคะ


มีข่าวเล็กน้อยมาบอกค่ะ   สำหรับเรื่องเพชรพระอุมา

วันก่อน  กาฬได้ไปทัศนศึกษา ที่กาญจนบุรี  แล้วได้ไปชมกองถ่ายสมเด็จพระนเรศวร   เลยได้ข่าวว่า  เค้ากำลังสร้างฉากสำหรับถ่าย เพชรพระอุมา ค่ะ   
สมเด็จพระนเรศวรภาค 3 เสร็จเมื่อไหร่ก็จะลุยเรื่องเพชรพระอุมาต่อทันที

ได้ยินแล้วเนื้อเต้น  กระดี๊กระด๊าดีใจมากเลยค่ะ   
หัวข้อ: เอโดงาวะ รัมโป
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 03:31:15 PM
นานะจังเพิ่ง อ่าน คินดะอิจิของอาจารย์ เซชิ ไปค่ะ ตอนคดีฆาตรกรรมในห้องปิดตาย ประเด็นมีอยู่ว่าเรื่องนี้ กล่าวถึงงานเขียน
ของ อาจารย์ เอโดงาวะ รัมโป   ที่เขียนเรื่องสยองขวัญค่ะ ทำให้ นานะจังรู้ทราบ เอโดงาวะ รัมโป   เป็นนักเขียนนิยายแนวสยองขวัญ
ที่เก่าแก่ คินดะอิจิ ของ อาจารย์ เซชิ ซะอีก เพราะงานของอาจารย์เซชิ เป็นช่วง
สงครามโลกครั้ง 2 อ่ะค่ะ แล้วอาจารย์ก็เสียชีวิตไปปี ค.ศ.1981
ด้วยวัน 78 ปี แล้วงานของ เอโดงาวะ รัมโป เป็นที่กล่าวถึงและนับถือของอาจารย์เซชิซะด้วยสิ น่าทึ่งมาก เอโดงาวะ รัมโป จะเขียน เรื่อง สยองขวัญ ที่เล่มเล็กมาก และในปริมาณงานเขียนต่างจาก อาจารย์ เซชิ มากก็ตาม แต่ถือว่าปรมาณจารย์ นวนิยายแนว สยองขวัญของโลกก็ว่าได้เลย
 แล้วที่นานะจัง สันนิษฐาน ว่า ยอดนักสืบโคนัน ที่ คุโด้ ชินอิจิเปลี่ยน ชื่อ
เป็น เองาวะ โคนัน ก็เอามาจาก นามสกุล ของ เอโดงาวะ รัมโป  จริงๆด้วยค่ะ พี่ galdewis (ถ้ายังเข้าบอร์ดบอยอยู่ ตอบนานะจังด้วยนะคะ)
แล้วพอไปข้อมูลมา ก็จริงๆด้วย

เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ

http://www.zheza.com/index.php?a=blog&b=entry&uid=416235&eid=4

คือนานะจังอ่าน โคนันเล่มแรกตอน ม.2 อ่ะค่ะเลยลืมรายละเอียด 5555

ถ้าใครยังไม่เคยอ่านงานของ เอโดงาวะ รัมโป   ไปหาอ่านนะคะ สุดยอดมาก


ประวัติ เอโดงาวะ รัมโป

เอโดงาวะ รัมโป เป็นนักเขียนเรื่องสั้นแนวระทึกขวัญที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นที่รู้จักของนักอ่านผู้สนใจเรื่องแนวนี้เกือบทั่วโลก หนังสือของเขาทุกเล่มมีผู้แปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา และเป็นหนังสือติดอันดับขายดี
          จุดเด่นของเรื่องที่รัมโปเขียน นอกจากจะให้ความรู้สึกตื่นเต้น ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ยังแทรกข้อคิดเชิงปรัชญาไว้เสมอ โดยที่เขาสนใจจิตวิทยา ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และวิชาการแขนงอื่นๆ จึงทำให้เรื่องของเขาผิดแผกไปจากเรื่องสืบสวนสอบสวน หรืออาชญากรรมตามแนวของนักเขียนทั่วไป
          ---เช่นเรื่อง 'กระจกสยองขวัญ' สะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ในแง่จิตวิทยาข้อหนึ่งที่ว่า มนุษย์ผู้หลงตนเองจะมีความปรารถนา ต้องการชื่อเสียงปรารถนาเกียรติยศไม่รู้จบสิ้นไม่รู้จักพอ การหลงตัวเองนั้นทำให้เกิดความต้องการตลอดเวลา จนในที่สุดถึงกับทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว---เรื่องเช่นนี้ปรากฏให้เห็นในสังคมทุกยุค แต่น้อยนักที่นักเขียนจะสามารถหยิบมาเขียนให้เห็นชัดเจน โดยไม่สมมติเหตุให้ดูบังเอิญ
          เรื่องสั้นของเอโดงาวะ รัมโป ทุกเรื่อง จะบอกความนัยอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างแก่ผู้อ่านเสมอ นอกเหนือไปจากความตื่นเต้นระทึกขวัญที่ดำเนินไปตามแบบฉบับของเขา
          นักอ่านเรื่องระทึกขวัญในเมืองไทย อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับชื่อของเอโดงาวะ รัมโป แต่ในยุโรปและอเมริกา รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่อ่านฉบับแปลภาษาอังกฤษแพร่หลาย ต่างรู้จักชื่อเสียงและผลงานของนักเขียนผู้นี้ดี และยกย่องให้เป็นนักเขียนแนวระทึกขวัญที่ยอดเยี่ยมฅนหนึ่งของวงการวรรณกรรม

                              ปาริฉัตร เสมอแข, ผุสดี นาวาวิจิต (มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒)
   
     

http://www.bflybook.com/BookDetail.aspx?CategoryID=0&SortID=0&PageNumber=11&CoverDesignID=115
หัวข้อ: Re: เอโดงาวะ รัมโป
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 05:22:14 PM
เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ


เหมือนว่าตอนนี้กาฬจะได้ดูค่ะ   ชินอิจิหันไปเห็นชื่อหนังสือ  เลยเปลี่ยนเป็น เอโดงาวะ
รู้สึกจะดูมาจาก โคนัน ที่เป็นหนังมั้ง   


แต่คินดะอิจิรุ่นเก่าๆ กาฬยังไม่ค่อยได้อ่านซะที   


พี่นานะ   กาฬซื้อ เทวา กับ ซาตาน มาแล้วค่ะ  ตอนนี้กำลังหาเวลาอ่านอยู่  เล่มหนามาก  ไม่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก
หัวข้อ: Re: เอโดงาวะ รัมโป
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ พฤศจิกายน 07, 2008, 10:34:15 PM
เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ


เหมือนว่าตอนนี้กาฬจะได้ดูค่ะ   ชินอิจิหันไปเห็นชื่อหนังสือ  เลยเปลี่ยนเป็น เอโดงาวะ
รู้สึกจะดูมาจาก โคนัน ที่เป็นหนังมั้ง   


แต่คินดะอิจิรุ่นเก่าๆ กาฬยังไม่ค่อยได้อ่านซะที   


พี่นานะ   กาฬซื้อ เทวา กับ ซาตาน มาแล้วค่ะ  ตอนนี้กำลังหาเวลาอ่านอยู่  เล่มหนามาก  ไม่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก

ดีแล้วจ้าน้องกาฬที่หนูซื้อเทวาซาตานมา เพราะถ้าหนูอ่านอล้วหนูจะบอกว่า ไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย พี่ใช้เวลาอ่าน ประมาณ 2 วันกว่าๆ
เพราะวางไม่ลง เป็นหนังสือที่หนาที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลยอ่ะ รู้สึกจะหนากว่า แฮร์รี่เล่ม 5อีกมั้ง อิอิ อ่านแล้วคุยกันน้า
หัวข้อ: หนังสือบันทึกน้ำตา 1 ลิตร ฉบับภาษาไทย
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ มกราคม 02, 2009, 07:41:25 PM
มาแจ้งข่าวค่ะ   

สำหรับ บันทึกน้ำตา 1 ลิตร  หรือ  อิจิลิโตรุ โนะ นามิดะ  แปลเป็นภาษาไทยแล้วค่ะ

วันนี้ไปเดิน b2s  เห็นแล้วแทบกรี๊ดเลยฉกมาเล่มนึง   หลังจากที่รออยู่นานมาก   แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อได้  ไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่ซีรีย์จะฉายมีแปลเป็นไทยมาก่อนรึเปล่า   แต่ขนาดฉบับภาษาอังกฤษยังหาซื้อไม่ได้เลย


ฉบับแปลเป็นไทยนี้  เป็นของ สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์ 

เขียน  :  อายะ คิโตะ

แปล  :  เมธินี  นุชนาคา
หัวข้อ: Re: หนังสือบันทึกน้ำตา 1 ลิตร ฉบับภาษาไทย
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ มกราคม 02, 2009, 07:43:59 PM
มาแจ้งข่าวค่ะ   

สำหรับ บันทึกน้ำตา 1 ลิตร  หรือ  อิจิลิโตรุ โนะ นามิดะ  แปลเป็นภาษาไทยแล้วค่ะ

วันนี้ไปเดิน b2s  เห็นแล้วแทบกรี๊ดเลยฉกมาเล่มนึง   หลังจากที่รออยู่นานมาก   แต่ก็ไม่สามารถหาซื้อได้  ไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่ซีรีย์จะฉายมีแปลเป็นไทยมาก่อนรึเปล่า   แต่ขนาดฉบับภาษาอังกฤษยังหาซื้อไม่ได้เลย


ฉบับแปลเป็นไทยนี้  เป็นของ สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์ 

เขียน  :  อายะ คิโตะ

แปล  :  เมธินี  นุชนาคา


ขอบคุณมั่กๆจ้าน้องกาฬ ที่มาแจ้งข่าวดี อิอิ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง : เพียงใจที่ผูกพัน
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 01, 2009, 09:14:49 PM
รู้สึกว่ากระทู้นี้จะไม่เคลื่อนไหวมานานแล้ว

เมื่อวันเสาร์กาฬไปงานหนังสือมาค่ะ  มีนิยายของกิ่งฉัตรออกใหม่อีกเรื่องแล้ว  แต่กาฬไม่ได้ซื้อหรอก  เพราะเล่มมันหนาแพงกว่าปกติ  แต่น้าซื้อเลยยืมของน้ามาอ่าน


เพียงใจที่ผูกพัน


กาฬอ่านแล้วรู้สึกว่า  กิ่งฉัตรแต่งเรื่องนี้ได้ประทับใจกว่าเรื่องที่ผ่านๆ มาอย่างมาก
ทุกสิ่งทุกอย่าง คุ้มค่าสมกับความหนาและราคา

เรื่องราวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง  ที่เกิดจากเด็กสาวใจแตกที่ท้องกับฝรั่ง  แล้วพอคลอดลูกก็ไม่ดูดำดูดีทิ้งให้ยายกับน้าของเด็กเลี้ยง  แม่ก็ออกไปหาความสุขเสเพลไปวันๆ ตราบเท่าที่ยังมีเงินใช้ไม่ขาดมือ
ส่วนลูกก็ถูกเพื่อนๆ ล้อว่าเป็นฝรั่งหัวแดงไม่มีพ่อ ลูกฝรั่งไข่ทิ้ง
เด็กชายหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก  พอ 10 ขวบก็เริ่มเพาะปลาสอดปลาหางนกยูง ช้อนลูกน้ำขาย ส่งภาพวาดเข้าประกวดชิงรางวัลบ้าง
ต่อมาพอโตขึ้น ก็เริ่มหาทางทำมาหากินมากขึ้น  ลงทุนทำตู้อบลูกน้ำ ทำลูกน้ำอบแห้งขาย   เอาเงินที่ได้มาใช้จ่ายในครอบครัวหาเลี้ยงยายกับน้าที่พิการขาลีบ ที่เหลือก็เก็บออมไว้ในธนาคาร
บางทีก็ถูกแม่มารีดไถ พาผู้ชายมาอยู่ในบ้าน
ยายก็พร่ำสอนว่าอย่าไปถือสาแม่  แม่เป็นบุพการีเป็นอรหันต์ของลูก  เด็กชายพยายามอดทนตามคำสอนของยาย  ถึงแม่จะไม่รัก ไม่สนใจ  แต่เด็กชายถือว่าตัวเองโชคดีที่มียายมีน้าที่ประเสริฐ
ตั้งแต่เป็นเด็ก เด็กชายไม่มีเพื่อน ถูกดูถูกมาตลอด มีเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ลูกสาวคนเล็กของ ส.ส.ดังในจังหวัดที่ไม่รังเกียจเขาเหมือนคนอื่นๆ

แต่เมื่อทั้งสองต้องแยกจากกัน  ต่างก็ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในชีวิตของตัวเองเพื่อรอเวลาที่จะกลับมาพบกันอีก

เด็กชายกัดฟันเรียนให้จบปริญญาตามที่ยายขอร้อง พร้อมกับทำมาหากินไปด้วย จากเพาะปลาขาย ก็เริ่มหาเงินลงทุนทำร้านอาหาร  เมื่อกิจการไปได้ดี  ก็เริ่มขยายสร้างโรงแรม 

จนในที่สุด  จากเด็กที่ถูกล้อ ถูกรังเกียจ จากเด็กที่ไม่มีอะไรเลย  ก็เติบโตขึ้นเป็นเจ้าของกิจการที่มั่งคั่งติดอันดับในจังหวัด

ที่สำคัญเรื่องของกิ่งฉัตรก็ยังคงดำเนินเรื่องผสมผสานแนวสืบสวนสอบสวน  เมื่อมีเงิน  มีอำนาจ  ก็ต้องมีคนอยากปองร้าย




เรื่องนี้กาฬอ่านแล้ว  มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันในแต่ละตอนของชีวิต

ถึงครั้งแรกที่หยิบอ่านเพราะสนใจว่าเป็นเรื่องใหม่ของคนแต่งคนนี้ 

ต่อมาก็เริ่มชื่นชมในบุคลิกท่าทางของเด็กชายที่อดทน  ไม่แยแสต่อคำนินทา ล้อเลียน   

ทึ่งในความสามารถ ความคิดที่ใช้สร้างเนื้อสร้างตัว   

สับสนเมื่อได้พบผู้ให้กำเนิด   

หวานจนต้องยิ้มกับความรักที่ผูกพันและรอคอยกันมานานนับสิบปี 

ตระหนกกังวลกับสถานการณ์คับขัน

อึดอัดแทบอยากจะร้องไห้กับอุปสรรคของชีวิตที่ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ ด้วยความอดทน และการลุกขึ้นสู้

ก่อนจะผ่อนคลาย  เมื่อความหวังที่รอคอยมานานเกิดขึ้นแล้ว

ยิ้มหัวเราะไปกับปัญหาต่างๆ ที่เริ่มคลี่คลายทีละเปราะ



สุดท้ายนี้   ถ้าอ่านแล้ว  จะต้องหลงรัก พี่เสือสุดหัวใจ   :-*

ขอแนะนำนักอ่านนิยาย (และนิยายเทศ) ให้ลองอ่านเรื่องนี้ดูค่ะ 
บางที มันอาจจะเป็นแรงผลักดันให้เราสู้ต่อไปเพื่ออนาคตของตัวเอง
 ;)
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง : เพียงใจที่ผูกพัน
เริ่มหัวข้อโดย: air2535 ที่ เมษายน 02, 2009, 12:59:20 PM
รู้สึกว่ากระทู้นี้จะไม่เคลื่อนไหวมานานแล้ว

เมื่อวันเสาร์กาฬไปงานหนังสือมาค่ะ  มีนิยายของกิ่งฉัตรออกใหม่อีกเรื่องแล้ว  แต่กาฬไม่ได้ซื้อหรอก  เพราะเล่มมันหนาแพงกว่าปกติ  แต่น้าซื้อเลยยืมของน้ามาอ่าน


เพียงใจที่ผูกพัน


กาฬอ่านแล้วรู้สึกว่า  กิ่งฉัตรแต่งเรื่องนี้ได้ประทับใจกว่าเรื่องที่ผ่านๆ มาอย่างมาก
ทุกสิ่งทุกอย่าง คุ้มค่าสมกับความหนาและราคา

เรื่องราวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง  ที่เกิดจากเด็กสาวใจแตกที่ท้องกับฝรั่ง  แล้วพอคลอดลูกก็ไม่ดูดำดูดีทิ้งให้ยายกับน้าของเด็กเลี้ยง  แม่ก็ออกไปหาความสุขเสเพลไปวันๆ ตราบเท่าที่ยังมีเงินใช้ไม่ขาดมือ
ส่วนลูกก็ถูกเพื่อนๆ ล้อว่าเป็นฝรั่งหัวแดงไม่มีพ่อ ลูกฝรั่งไข่ทิ้ง
เด็กชายหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก  พอ 10 ขวบก็เริ่มเพาะปลาสอดปลาหางนกยูง ช้อนลูกน้ำขาย ส่งภาพวาดเข้าประกวดชิงรางวัลบ้าง
ต่อมาพอโตขึ้น ก็เริ่มหาทางทำมาหากินมากขึ้น  ลงทุนทำตู้อบลูกน้ำ ทำลูกน้ำอบแห้งขาย   เอาเงินที่ได้มาใช้จ่ายในครอบครัวหาเลี้ยงยายกับน้าที่พิการขาลีบ ที่เหลือก็เก็บออมไว้ในธนาคาร
บางทีก็ถูกแม่มารีดไถ พาผู้ชายมาอยู่ในบ้าน
ยายก็พร่ำสอนว่าอย่าไปถือสาแม่  แม่เป็นบุพการีเป็นอรหันต์ของลูก  เด็กชายพยายามอดทนตามคำสอนของยาย  ถึงแม่จะไม่รัก ไม่สนใจ  แต่เด็กชายถือว่าตัวเองโชคดีที่มียายมีน้าที่ประเสริฐ
ตั้งแต่เป็นเด็ก เด็กชายไม่มีเพื่อน ถูกดูถูกมาตลอด มีเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ลูกสาวคนเล็กของ ส.ส.ดังในจังหวัดที่ไม่รังเกียจเขาเหมือนคนอื่นๆ

แต่เมื่อทั้งสองต้องแยกจากกัน  ต่างก็ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในชีวิตของตัวเองเพื่อรอเวลาที่จะกลับมาพบกันอีก

เด็กชายกัดฟันเรียนให้จบปริญญาตามที่ยายขอร้อง พร้อมกับทำมาหากินไปด้วย จากเพาะปลาขาย ก็เริ่มหาเงินลงทุนทำร้านอาหาร  เมื่อกิจการไปได้ดี  ก็เริ่มขยายสร้างโรงแรม 

จนในที่สุด  จากเด็กที่ถูกล้อ ถูกรังเกียจ จากเด็กที่ไม่มีอะไรเลย  ก็เติบโตขึ้นเป็นเจ้าของกิจการที่มั่งคั่งติดอันดับในจังหวัด

ที่สำคัญเรื่องของกิ่งฉัตรก็ยังคงดำเนินเรื่องผสมผสานแนวสืบสวนสอบสวน  เมื่อมีเงิน  มีอำนาจ  ก็ต้องมีคนอยากปองร้าย




เรื่องนี้กาฬอ่านแล้ว  มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันในแต่ละตอนของชีวิต

ถึงครั้งแรกที่หยิบอ่านเพราะสนใจว่าเป็นเรื่องใหม่ของคนแต่งคนนี้ 

ต่อมาก็เริ่มชื่นชมในบุคลิกท่าทางของเด็กชายที่อดทน  ไม่แยแสต่อคำนินทา ล้อเลียน   

ทึ่งในความสามารถ ความคิดที่ใช้สร้างเนื้อสร้างตัว   

สับสนเมื่อได้พบผู้ให้กำเนิด   

หวานจนต้องยิ้มกับความรักที่ผูกพันและรอคอยกันมานานนับสิบปี 

ตระหนกกังวลกับสถานการณ์คับขัน

อึดอัดแทบอยากจะร้องไห้กับอุปสรรคของชีวิตที่ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ ด้วยความอดทน และการลุกขึ้นสู้

ก่อนจะผ่อนคลาย  เมื่อความหวังที่รอคอยมานานเกิดขึ้นแล้ว

ยิ้มหัวเราะไปกับปัญหาต่างๆ ที่เริ่มคลี่คลายทีละเปราะ



สุดท้ายนี้   ถ้าอ่านแล้ว  จะต้องหลงรัก พี่เสือสุดหัวใจ   :-*

ขอแนะนำนักอ่านนิยาย (และนิยายเทศ) ให้ลองอ่านเรื่องนี้ดูค่ะ 
บางที มันอาจจะเป็นแรงผลักดันให้เราสู้ต่อไปเพื่ออนาคตของตัวเอง
 ;)

เคยอ่านเรื่องนี้ในสกุลไทยค่ะ ส่วนตัวชอบน้าของพระเอกค่ะ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง : เพียงใจที่ผูกพัน
เริ่มหัวข้อโดย: กาฬฯ ที่ เมษายน 02, 2009, 02:46:04 PM

เคยอ่านเรื่องนี้ในสกุลไทยค่ะ ส่วนตัวชอบน้าของพระเอกค่ะ


น้าของพระเอกพี่ก็ชอบค่ะ
เป็นคนใจดีมากๆ เลย  นอกจากจะโกรธจริงๆ ถึงจะปากร้าย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  พี่ฮานะ  ตอนที่น้ารงค์กับมินตราปะทะฝีปากกัน
ลองว่าถ้าน้ารงค์พูด  ต้องสะใจ
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นานะจัง ที่ เมษายน 02, 2009, 04:26:02 PM
น่าสนใจแฮะ เนื้อเรื่องที่ต้องสู้ชีวิต คล้ายๆ เรื่อง เศรษฐ๊ตีนเปล่าของ  ว.วนิจฉัยกุลเลย เอ่อ ชื่อเรื่องแม่แน่ใจ
แต่พระเอกก็มีควาขยันมุมานะจนเป็นเศรฐฐีเจ้าของกิจการใหญ๋โต ต่างกับเรื่องทีร่น้องกาฬมาแนะตรงที่ว่า
พระเอก ของ ว.วนิจฉัยกุลเป้ฯเด็กกำพร้า มีแต่ญาติที่คอยเลี้ยงดูมั้ง ถ้าไม่จำไม่ผิดนะพี่อ่านนี้ตั้งแต่ม.ปลายอ่ะ
ประทับใจในอารมณ์ของเรื่องนี้ดี
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: popcorn ที่ เมษายน 14, 2011, 11:50:17 PM
ชอบหลายเรื่องค่ะ ที่ชอบสุดๆก็คือเพชรพระอุมา คนไททิ้งแผ่นดิน ผู้ชนะสิบทิศเรื่องนี้อ่านไปด่าพระเอกไป
รองลงก็มี รัตนโกสินทร์ น้ำใสใจจริง ราตรีประดับดาว ของ ว.วินิจฉัยกุล ผลงานของนามปากกานี้สนุกทุกเรื่องแต่สามเรื่องนี้ประทับใจสุดๆ
ของนามปากกากฤษณา อโศกสินชอบเรื่อง เวียงแว่นฟ้าและหนึ่งฟ้าดินเดียวมากๆๆ
ของนามปากกาโบตั๋นชอบเรื่องจดหมายจากเมืองไทยและทองเนื้อเก้า
 ยังมีอีกเยอะค่ะ เพราะเป็นคนชอบอ่านนวนิยาย แนวที่ชอบคือแนวประวัติศาสตร์ย้อนยุค แต่ก็อ่านได้ทุกแนว
หัวข้อ: Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: augustle ที่ เมษายน 15, 2011, 02:28:23 PM
ชอบหลายเรื่องค่ะ ที่ชอบสุดๆก็คือเพชรพระอุมา คนไททิ้งแผ่นดิน ผู้ชนะสิบทิศเรื่องนี้อ่านไปด่าพระเอกไป
รองลงก็มี รัตนโกสินทร์ น้ำใสใจจริง ราตรีประดับดาว ของ ว.วินิจฉัยกุล ผลงานของนามปากกานี้สนุกทุกเรื่องแต่สามเรื่องนี้ประทับใจสุดๆ
ของนามปากกากฤษณา อโศกสินชอบเรื่อง เวียงแว่นฟ้าและหนึ่งฟ้าดินเดียวมากๆๆ
ของนามปากกาโบตั๋นชอบเรื่องจดหมายจากเมืองไทยและทองเนื้อเก้า
 ยังมีอีกเยอะค่ะ เพราะเป็นคนชอบอ่านนวนิยาย แนวที่ชอบคือแนวประวัติศาสตร์ย้อนยุค แต่ก็อ่านได้ทุกแนว

ชอบอ่านแนวประวัติศาสตร์เหมือนกันค่ะ พออ่านแล้วทำให้เราได้รู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอะเหมือนกัน สนุกดีค่ะ
แต่ถ้าเป็นของปัจจุบันชอบอ่านแฟนตาซีค่ะ ได้จิตนาการตาม
แต่รวมๆก็อ่านได้หลายแนวแล้วแต่ว่าเรื่องไหนน่าสนใจก็อ่านค่ะ :icon_biggrin: