ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2009, 08:47:24 PM »
โห   โหดร้ายเหมือนกันนะเนี่ย  ฟันซะคอขาดทั้งคู่เลย
ว่าแต่...ไม่เห็นมีเลือดเลยอ่ะ

ติ๊กกับน้ำทิพย์สวยอ่ะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ มณีจันทร์

  • **
  • 536
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • If you're my destiny I will meet you (may be !!!)
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2009, 09:00:50 PM »
กำลังสนุกมากมายเลยค่ะ... ลงต่อเร็วๆนะค่ะ

จะรอนะค่ะ.... ^_^

 :icon_evil:

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 02:17:28 PM »


หลังจากที่โรซาเล่าเรื่องที่ตนเองสงสัยเกี่ยวความลับขององค์สุลตานา ให้แก่ เชฌฮอร์ซาเด กับ ลีนาซาเดรับฟัง แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่เชื่อนาง โรซาน่าก็เลยกลับมาครุ่นคิดอยู่เพียงลำพังว่าทำไมไม่ใครเชื่อนาง
“ทำไมไม่มีใครเชื่อข้านะ หากไม่มีความลับแล้ว ทำไมเวลาองค์สุลต่านไม่อยู่ในวังจึงต้องปิดประตูหน้าต่างแน่นอย่างนั้นด้วย





สุลต่าน ชาห์ ซามันกำลังหวนลำลึกเหตุการณ์ที่พระองค์ทรงประหารสุลตานาและชายชู้ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
“ดูเหมือนว่าข้าจะเป็นผู้ชายที่โชคร้ายที่สุดโลก ไม่มีชายใดอีกแล้วที่จะได้รับความชอกช้ำเช่นข้า”



 :icon_smile:


ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 02:19:55 PM »


สุลตานา เอย่า กับ บรรดาพระชายาทั้งสิบกำลังเพลิดเพลิดกับการแสดงในตำหนัก
สุลตานากระซิบถาม หนึ่งพระชายาเพื่อกระทำบางสิ่งบางอย่างเวลาที่ สุลต่านไม่อยู่
“หลังอุทยานคืนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนะ”
“ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมเพคะ”



พอตกค่ำ พระชายาทั้งสิบแห่งองค์สุลต่าน ก็ได้ลักลอบมาพลอตรักกับชายชู้ที่
อุทยาน ตามสุมทุมพุ่มไม้ต่าง  ซึ่งภาพเหล่านี้ล้วนอยู่ในสายตาของ อนุชา ชาห์ ซามันทุกอย่าง 



แต่ที่ทำให้ อนุชา ชาห์ซามัน ตกตะลึง ก็ คือ แม้แต่ องค์สุลตานา ยังลักลอบคบชู้ด้วย

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 02:21:43 PM »


“พระเป็นเจ้าเป็นไปได้หรือนี่  พระเชษฐาของข้า สุลต่านที่ครอบครองแคว้นเปอร์เซีย ต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้ายไปกว่าข้าเสียอีก .ใครจะกล้าคาดคิดว่าสุลตานากับพระชายาทั้งสิบ จะพร้อมใจกันทรยศพระองค์”

หลังจากที่สุลต่านกลับมาจากการล่าสัตว์ก็เข้ามาคุยกับพระอนุชาด้วยอารมณ์เบิกบาน

“น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้ไปป่าล่าเนื้อกับพี่ มันสนุกจริงๆนะน้องรัก”

“เอาไว้คราวหน้า ข้าพระองค์ จะขอโดยเสด็จด้วยพระเจ้าค่ะ”

“ตั้งแต่วันแรกที่เจ้ามาถึงพระนครนี้   เจ้าดูหน้าตาหม่นหมองไม่สบายใจ ข้าก็อุตส่าหาสิ่งที่ชวนสนุก
เพื่อให้เจ้าปลดเปลื้องความทุกข์ในใจ แต่ก็ไม่สำเร็จ ข้าคิดว่าด้วยเพราะเจ้าห่างบ้านเมืองมา
ไกลเลยห่วงหลัง ถึงสุลตานาแห่งเจ้า ครั้งพอข้ากลับมา เจ้าดูหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  ความทุกข์ในใจหายสูญไป ไฉนเป็นเช่นนี้น้องรัก ”

“ ข้าขอถวายเรื่องของ ข้าพระองค์ก่อนพระเจ้าค่ะ“ และพระอนุชาก็เล่าเรื่องของสุลตานาของพระองค์ให้พระเชษฐาได้รับรู้



ด้านสุลตานาเอย่า ก็บ่นกับ พระชายา ทั้งสิบ ว่าองค์สุลต่านนั้นกลับมาเร็วเกินไป ไม่รู้ว่าเมื่อไร นางจะได้ลักลอบไปพบกับชายชู้ได้อีก
“สุลตานา จะเสด็จเฝ้าองค์สุลต่านหรือไม่เพคะ เห็นว่า พระองค์จะเสด็จลงอุทยานพร้อมกับพระองค์อนุชา”
“ไม่ล่ะ ข้าไม่อยากจะพบหน้า คนที่มาขัดขวางความสุขของข้า”

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 02:23:46 PM »


อนุชา  ชาห์ ซามัน ได้กราบทูลเรื่องสุลตานาของพระองค์ถวายแก่พระเชษฐา ทำให้สุลต่านทรงสงสารและเห็นใจในชะตาอันเลวร้ายของพระอนุชา ยิ่งนัก
“เจ้าผู้เป็นเพื่อนยากแห่งข้า  สิ่งที่เจ้าเล่ามาทั้งหมดนี้  เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจมาก  เหตุทั้งนี้ก็สมควรแล้วที่เจ้าฆ่าทั้งสองคน ถ้าข้าเป้นเป็นเจ้าจะไม่ฆ่าทั้งสองคนเท่านั้น ข้าจะฟันซักพันครั้งถึงจะหายโกรธ

“พระผู้เป็นเจ้า ข้าชื่อว่าเหตุกาณ์เช่นนี้  คงจะเกิดกับเจ้าเพียงรายเดียวเท่านั้น “ ด้านพระอนุชา ชาห์ ซามัน
ก็ได้แต่กระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องสุลตานาให้แก่พระเชษฐษฟังยังไง ว่า พระเชษฐานั้นมีชะตากรรมที่เลวร้ายไปกว่าพระองค์เสียอีก

“แต่บัดนี้พระผู้เป็นเจ้า  ทรงบันดาลให้เจ้าสร่างทุกข์แล้ว  จาการที่เจ้ามีเมียทรยศ  แต่ว่าที่เจ้าสร่างทุกข์เนี่ย เป็นเพราะเหตุใด เล่าให้ข้าฟังด้วยเถิด”

“หม่อมชั้นจะให้เล่า กับสิ่งที่หม่อมชั้นได้ประจักษ์ในนครแบกแดดนี้  อันแป็นสาเหตุให้หม่มอชั้นคลายทุกข์  ดังนี้พระเจ้าค่ะ” แล้วพระอนุชาก็เล่าเหตุการณ์ที่ทรงเห็น สุลตานา และ พระชายาทั้งสิบแห่งพระเชษฐา ลักลอบคบชู้กันอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ในอุทยาน อย่างไม่มียางอาย



ด้านสุลตานา ก็ทรงหวนคิดถึงตอนที่ได้ ร่วมสำเริงาสำราญกับบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายด้วยความสุขสมเป็นอย่างยิ่ง



เมื่อองค์สุลต่านได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่สุลตานาและพระชายาทั้งสิบของพระองค์ทรยศพระองค์ด้วยการคบชู้ พระอง๕ทรงกริ้วมากจนแทบจะบุกไปฆ่าสุลตานาและพระชายาทั้งสิบให้หายแค้น  แต่พระอนุชา ชาห์ซามันได้รั้งพระองค์ไว้ไม่ให้วู่วาม
“หลีกไป อนุชาแห่งข้า”
“พระเชษฐา ฟังข้าก่อน “
“ในเมื่อเจ้าเห็นกับตาของเจ้าแล้วว่าสุลตานาของข้า ประพฤติความชั่วช้า น่าบัดสี เหตุไฉนเจ้ามาขัดขวางทางพี่”
“หลีกไป”
“ถ้าหากพระองค์ยังเห็นหม่อมชั้นเป็นน้อง ที่รัก  และหวังดีต่อพระองค์เสมอ มา ก็โปรดฟังหม่อมชั้นก่อน  หาไม่แล้วก็สั่งให้คนประหารหม่อมชั้น  เพราะว่าหม่มอชั้นไม่อยากเห้นพระองค์จะต้องทนทุกข์ทรมานเจ็บปวดและชอกช้ำใจและข่มขื่นอย่างนี้”
“แล้วคิดว่าข้าไม่เจ็บปวดเหรอ”

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 02:25:43 PM »


สุลต่านขว้างปาข้าวแตกกระจายเกลื่นกลาดเพื่อระบายความโมโห และใช้ดาบของพระองค์ฟันคอหุ่นจนขาดสะบั้น อนุชาเห็นดังนั้นจึงรีบพูดเตือนสติพระเชษฐา
“เจ้าพี่ ข้าไม่อยากพระหัตถ์ของพระองค์ เปื้อนเลือกของคนชั่ว อย่างเช่นที่มือของข้าเคยเป็นมาก่อน ข้าอยากให้พระงองค์ทรงทำพระทัยได้ อย่างเช่นข้าในวันนี้”
“เรื่องของเจ้าไม่ร้ายแรงเช่นเรื่องของข้า  สุลตานา มิได้รัก มิได้ซื่อสัตย์ต่อข้า ชายาสิบคน มันสมรู้ร่วมคิดกันมีชู้ แล้วเจ้าจะให้พี่ทำยังไงให้พี่ดับความแค้นในใจออกไปได้  บอกพี่สิอนุชา”



“หญิงทั่วไป ไม่ว่าจะมียศฐาบรรดาศักด์สักเพียงใด มักจะมีนิสัยน้าวไปทางชั่ว มัวเมาในราคะ ไม่สามารถหักอารมณ์ข่มความใคร่ ไม่ให้น้าวไปในทางนั้นได้  ข้าคิดว่าเราไม่ควรที่จะมาทุกข์ใจ กับความไม่ซื่อตรงของสตรี ด้วยประการฉะนี้  ทั้งพระองค์  ทั้งข้า รวมทั้งชายทั่วไป  จึงสมควรตัดความทุกข์ระทมเหล่านั้นให้ได้ “

สุลต่านได้ฟังในสิ่งที่อนุชากล่าวก็ได้ แต่ถอนใจ

“ดูอย่าง เอย่า สุลตานาแห่งเปอร์เซีย จะสามารถประพฤติลามกได้ถึงเพียงนี้   โอวพระผู้เป็นเจ้า ช่างน่าอดสูเป็นนักหนา อนิจจาจะมีชายใด ที่จะกล่าวได้ว่าตัวของตัวเองมีความสุข อนิจจาอันสมบัติใด ในโลกนี้ไม่มีเที่ยงแท้และมั่นคง  มิหนำซ้ำความซื่อสัตย์สุจริต ก็สูญสิ้น อันตัวเราเป็นผู้ปกครองดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยประเทศราชมากมาย  แต่ต้องมาอดสูด้วนเรื่องสตรีเช่นนี้หรือ  เช่นนี้เราจะอยู่ในราชันเพื่อประโยชน์อันใด สู้หนีไปให้พ้นความอัปยศ มิดีหรือ  “
“ข้าก็เห็นแช่นพระองค์ ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไหน  ข้าพระองคื ขอโดยเสด็จไปทุกหนแห่ง  เพื่อมิใด้เป็นที่ระคายเคืองเบื้งพระยุคลบาทพระเจ้าค่ะ”
“ดีแล้วอนุชาที่รักแห่งข้า ฟังข้านะ ข้าจะสละร่าชสมบัติ ณ บัดนี้”

แล้วทั้งสองพี่น้องก็ ขี่ม้า ออกจากเมือง โดยที่ไม่มีใครรู้  แต่ขณะเดินทางพระอนุชาได้ขอคำมั่นสัญญาแก่พระเชษฐาว่า

“กาลครั้งนี้เป็นเพราะความโชคร้ายของเรา เพราะฉะนั้นขอพระองค์ประทานคำมั่นสัญญาซักข้อหนึ่งว่า   หากเราไปพบคนที่เคราะห์ร้ายกว่าเราสองคนนั้นไซร้ ขอให้พระองค์เสด็จกลับเมือง ด้วยพอจะเป็นเครื่องเตือนสติได้แล้วว่า สตรีภัยอันยิ่งใหญ่นี้ หากจะเกิดแต่กับเราทั้งเท่านั้นหรือไม่  ความจริงน่าจะเกิดกับบุรุษโดยทั่วไป  เช่นกัน  “

“ข้ายอมให้สัญญา  เจ้าตามที่ว่านี้  แต่ก็ยังแคลงใจอยู่ว่า  ต่อให้เดินทางไกลจนสุดหล้า  เราก็จะไม่ได้พบชาย ที่เคราะห์มากว่าเราแม้แต่คนเดียว




ด้านเหล่าขุนนางและข้าราชบริพารภายในวังต่างวุ่นวายกันไปหมดที่ องค์สุลต่านและพระอนุชาหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ด้านโรซานาก็กระวนวายที่องค์สุลต่านหายตัวไปทำให้นางต้องหมดหวังที่จะได้ถวายตัวเป็ชายาองค์ที่11
 

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 02:20:01 PM »


“โธ่เอ๋ย แล้วนี่ข้าจะทำยังไงดีล่ะ ท่านลุงไกฟาร์พึ่งจะสัญญากับข้า ว่าจะให้ข้าถวายตัวเป็นชายาองค์ 11
แล้วตอนเนี้ยท่านสุลต่านก็มาหายตัวไปซะอีก แล้วข้าจะไปเป็นชายาของใครล่ะ ” โรซาน่าฟูมฟายยกใหญ่ กับเชเฮอร์ซาเด และลีนาซาเดสองพี่น้อง
“ ก็ไปเป็นชายาสุลต่านเมืองอื่นสิคะคุณพี่ โรซาน่า” ลีนาซาเดแนะนำโรซาน่า สร้างความขบขันให้กับเชเฮอร์ซาเดนัก
“ยังจะมาหัวเราะข้าอีกเหรอ เชเฮอร์ซาเด นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายของข้านะ”
“ข้ารู้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แต่เจ้าเอาแต่ฟูมฟายแบบนี้มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ”
“ช่วยไม่ได้ๆ แล้วใครที่ไหนจะมาช่วยข้าได้ เจ้าช่วยข้าได้รึเปล่าล่ะ “
“ข้าคิดยิ่งกว่านั้นเสียอีก องค์สุลต่านองค์นี้ทำกระทำสิ่งใดมักไม่คิดถึงจิตใจของผู้ใด  ฉะนั้นป่านี้อาจจะหัวเราะอยู่กับพระอนุชาอยู่ก็ได้” เชเฮอร์ซาเดกล่าว



หลังที่องค์สุลต่านและพระอนุชาได้ออกเดินมาจากเมืองได้ซักพักก็ตัดสินใจหยุดพักเหนื่อยที่ชายหาดแห่งหนึ่ง
“ทรงพักผ่อนเถอะพระเจ้าค่ะเรายังต้องเดินทางกันอีกไกล”
“เจ้าเองก็เหมือนกัน ”  หลังจากที่ทั้งตกลงกันว่าจะหยุดพักก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดเพราะจู่ๆม้าที่ควบม้าก็ตื่นตระหนกวิ่งหนีไปจากทั้งสอง



“เอ๊ะ มันเป็นอะไรของมัน” อนุชาชาห์ ซามัน กล่าวด้วยสงสัย  แต่ซักพักก็ได้คำตอบ เมื่อท้องทะเลแปรกปรวนราวก็มีสัตว์ประหลาดค่อยๆผุดขึ้นมาจากท้องทะเล

“ทอดพระเนตรนั่นสิ พระเจ้าค่ะ “ อนุชาชี้ชวนให้องค์ต่าน ดูรากษส ที่ค่อยๆผุดขึ้นมาจากน้ำทะเล
โดยแบกผอบใบใหญ่ทูนไว้เหนือไหล่ขึ้นมาด้วย ด้วยความตระหนกกลัวว่ารากษสจะเป็น ทั้งสองจึ้นรีบปีนขึ้นไหลบบนต้นไม้

รากษสค่อยวางผอบลงอย่างทะนุถนอมราวกับสิ่งล้ำค่า และค่อยๆเปิดผอบนั้นออก ข้างในผอบนั้น คือ นางมนุษย์ที่มีรูปโฉม งดงามยิ่งนัก


ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 02:21:14 PM »


ด้านภายในตำหนักขององค์สุลตานา เหล่าชายาทั้งสิบก็กำลังเต้นระบำกันอย่างสำเริงสำราญหาได้ทุกข์ร้อนกับการหายไปขององค์สุลต่านไม่  จนองค์สุลตานา เข้ามาสั่งให้เหล่าชายาหยุดการรื่นเริง

“หยุดนะ !! น่าขายหน้าที่สุดเลย ในขณะที่ทุกคนต่างวุ่นวายหาตัวองค์สุลต่าน กันอยู่ แต่นี่พวกเจ้ากลับร้องรำทำเพลง  เฮฮากันอย่างสนุกสนาน นี่ถ้าใครมาเห็นเข้า มิกลายเป็นว่าเหล่าชายาขององค์สุลต่าน ดีใจที่พระสวามีทรงหายไปหรอกเหรอ”
“เอ่อ พวกเราคิดว่าคงไม่ใครสังเกต กระมังเพคะ เพราะทุกคนกำลังวุ่นวายเช่นที่พระนางรับสั่ง”
“ถ้าอย่างนั้นก็เถอะ ในเวลานี้พวกเราควรทำตัวอย่างไร พวกเจ้าควรจำเอาไว้บ้าง นี่กลับประมาท คิดว่าไม่มีใครสนใจ อย่าลืมนะว่านังโรซาน่ามันคอยสอดรู้สอดเห็นอยู่แถวนี้บ่อยๆ เพรามันหวังจะเป็นชายาเหมือนกัน”
“ แล้วพระพี่นาง  จะทรงให้พวกเราทำอย่างไรเพคะ



เมื่อหารือกันแสร็จแล้ว องค์สุลตานาพร้อมด้วยพระชายาทั้งสิบ ก็ออกมาพบกับเหล่าขุนนางเพื่อถามไถ่ความคืบหน้าเกี่ยวร่องรอยขององค์สุลต่าน
“ได้ข่าวพระสวามีของเรารึยัง”
“ยังไม่ได้ข่าวคราวเลยพระเจ้าค่ะ “ เมื่อสิ้นคำกราบทูลของท่านแกตวิเชียร์ สุลตานาก็แสร้งทำเป็นลม จนทุกคนเป็นห่วง แต่นางก็บอกว่านางไม่เป็นไรมาก อาจจะเป้นเพราะนางห่วงองค์สุลต่านมากเกิน จนท่านแกตวิเชียร์ต้องพูดให้มั่นกับสุลตานาว่าเหล่าขุนนางจะพยายมสืบหาร่องรอยขององค์สุลต่านและพระอนุชาให้ได้ว่าทรงประทับ

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 02:23:15 PM »


ด้านองค์สุลต่านและพระอนุชากำลังทอดพระเนตรรากษส ที่กำลังคุยกับนางงามที่ออกมาจากผอบ นางคนนี้ถูกรากษสชิงตัวมาในงานวันแต่งงานของนาง รากษสนั้นหลงใหลนางงามยิ่งนัก
“บัดนี้ข้า รู้สึกเมื่อยล้านัก ข้าขอนอนหลับที่ภูเขาซักเดี๋ยวนะ” 
“ เจ้าจะนอนก็นอนเถอะ ข้าจะเฝ้าอยู่ไม่ให้ห่างไกลเลย”



หลังจากที่รากษสเอี้ยวตัวลงนอน นางงามผู้นั้นก็ เดินมานั่งพักยังต้นไม้ที่องค์ต่านและพระอนุชาแอบซ่อนอยู่เพื่อให้พ้นสายตาของรากษส  ขณะที่นางงามเอนตัวลงบนโคนต้นไม้ที่ทั้งสองอยู่ กำลังจะหลับตาลง องค์สุลต่านก็อาศัยจังหวะนี้ค่อยๆ ปีนต้นไม้ลงมา แต่นางงามกลับลืมตาและเห็นทั้งสองเข้าเสียก่อน เมื่อนางงามได้เห็นองค์สุลต่านและพระอนุชา ที่อยู่บนต้นไม้  ก็พึงพอใจในทั้งสองทันที




“ท่านทั้งสอง ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะ  ลงมาหาข้าที่นี่เถอะ มา “  องค์สุลต่านและอนุชาลังเลใจที่
จะลงมาจากต้นไม้เพราะกลัวรากษสตื่น นางงามเห็นเช่นนั้นจึงบอกว่า ให้ทั้งสองลงมาได้ นางจะไม่ปลุกรากษสสามีนางขึ้นหรอก



“ลงมาสิ ลงมา” แต่ทั้งสุลต่านและอนุชาก็ยังไม่ลงมา สร้างความขุ่นเคืองให้แก่นางงามยิ่งนัก นางงามจึงขู่ว่า
ถ้าทั้งสองไม่ลงนางจะปลุกรากษสสามีนางมาสังหารทั้งสองคน 

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 02:25:12 PM »


ด้านท่านแกตวิเชียร์กำลังคุยกับลูกสาวทั้งสองเกี่ยวท่าทีขององค์สุลตานาที่ทรงเป็นห่วงพระสวามีจนเกือบจะประชวร
“ไม่มีใครที่จะเข้าใจผู้หญิงด้วยกันดีเท่าผู้หญิงด้วยนะคะท่านพ่อ”  เชเฮอร์ซาเดกล่าวกับบิดา
“แล้วเจ้าเข้าใจองค์สุลตานาว่ายังละลูกรัก” ท่านแกตวิเชียร์หันไปถามลีนาซาเดบุตรสาวเล็ก
“ถ้าจะถามลูก ลูกก็จะตอบว่า ตอบง่ายออกค่ะ สุลตานา เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง  ที่บางครั้งอาจจะทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่อาจเข้าใจได้ แต่พอถึงคราวสามี มีภัยก็อดที่จะกังวลเป็นห่วงไม่ได้”
“แหมเหมือนฟาติมาเปี๊ยบเลยค่ะ “ นางข้ารับใช้ออกความเห็น
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ ฟาติมา เพราะว่าผู้หญิงบางคน ยากที่จะเข้าใจ  นางอาจจะเป็นทั้งงู้พิษและมิตรแท้ในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าเวลาใดที่นางจะเลือกเป็นสิ่งใดเท่านั้น” เชเฮอร์ซาเดกล่าว



นางงามขู่องค์สุลตานาและพระอนุชาจนทำให้ทั้งสองต้องยอมลงมาจากต้นไม้ตามใจนาง
“ดีมาก หัดทำตาใจข้าอย่างนี้สิ แล้วชีวิตของพวกท่านจะอยู่อีกยาว”
“นางงามเจ้าเรียกเราสองคนลงมาทำไม” อนุชาตรัสถาม
“เราสองคนเป็นเพียงคนเดินทาง  หากนางอยากได้สมบัติทรัพย์อะไรเรายินดีมอบให้”
“ตอนเนี้ยนะ ข้ายังไม่ต้องการอะไรหรอก ข้าต้องการให้พวกท่านตามข้ามาก่อน



แต่ทั้งสองก็ยังเลใจที่จะตามนางงามไป จนนางงามโมโหที่ทั้งสองขัดใจ นางเลยใช้มุกเดิมว่าจะถ้าหากสามีรากษสของนางตื่นนางจะ
ไม่รับรองความปลอดภัยของทั้งสองแน่นอน ทำให้ทั้งสองตัดสินเดินตามนางไป


ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 02:27:27 PM »


นางงามเดินนำทั้งสองมาไกลจากที่รากษสนอนอยู่พอสมควร และพยายามยั่วยวนทั้งสองด้วยการชม้ายชายตาจนทั้งสองรู้สึกอึดอัด ไม่เข้าใจว่านางงามต้องการอะไรกันแน่
“ทีนี้ท่านทั้งสองพอจะรู้หรือยังว่าข้าต้องการอะไร
“ไม่ ข้าไม่ “ สุลต่านกล่าวอย่างงงงวยในท่าทีของนาง
“ไม่ ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” อนุชาก็กล่าวหนักแน่นว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่นางต้องการ
“โธ่ พ่อหนุ่มผู้โง่เขลา ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรหรอก มานี่ข้าจะอธิบายให้ฟัง” นางกระซิบบอกในสิ่งที่ตนเองปรารถนา
ให้กับชายหนุ่มทั้งสองฟัง เมื่อไรรับรู้ในสิ่งที่นางต้องการแล้ว ทั้งสองพี่น้องได้ส่วยศีรษะปฏิเสธในสิ่งที่นางขอ



“ไม่ ไม่ได้ เจ้าเป็นหญิงที่มีสามีแล้ว  แล้วสามีของเจ้าก็เป็นถึงรากษส และที่สำคัญที่สุดเราสองคนพี่น้องไม่เคยคิดจะลักลอบกับภรรยาของผู้ใด” อนุชากล่าวปฏิเสธนางงาม
“เจ้าจงยกเลิกความคิดที่ผิดๆเถอะ แล้วปล่อยเราทั้งสองคนไป”
“ไม่ !!! ข้าไม่มีวันล้มเลิกเป็นอันขาด “ นางงามตะโกนใสอย่างโมโห
“นางงามเจ้าอย่าส่งเสียงดังสิ ถ้าเกิดว่ารากษสสามีของเจ้าตื่นขึ้นมา  เราสองคนจะลำบาก “
“โอย ช่างประไร ข้าไม่ผิดอ่ะ มันต่างหาก ล่ะที่กักขังข้า  ข้าไม่มีวันได้รับอิสรภาพเลย จนวันเนี้ยข้าได้รับอิสรภาพแล้ว ข้าอยากจะขอทำตามใจตัวเองบ้าง”
“นางงามอย่าทำให้เราทั้งสองคนต้องลำบากใจเลย  ถึงแม้เจ้าจะไม่พอใจในสามีแห่งเจ้า  แต่เจ้าก็ควรจะซื่อสัตย์ต่อสามีของเจ้า “
“ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าสามีรากษสของเจ้าทราบความ เราสามคนก็จะตกอยุ่ในอันตราย”
“ไม่ ข้าไม่กลัว เจ้ารากษาหน้าโง่นั่น มันไม่มีทางรู้เท่าทันข้าเป็นอันขาด  มานี่สิ ถ้าหากพวกท่านมัวแต่ชักช้าเนี่ย สามีของข้า มาเห็นเข้า พวกท่านทั้งสองก็จะกลายเป็นอาหารของรากษส ก็ตามใจก็แล้วกันนะว่าท่านจะยอมเป็นสามีของข้า  หรือว่าจะเป็นอาหารของรากษส “  เมื่อนางงามขู่ทั้งสองดังนี้ทำให้องค์สุลต่านและพระอนุชาต้องยินยอมเสียตัวให้กับนางงาม (เหอะๆ)   :icon_mrgreen:



เมื่อทั้งสามเสร็จกิจได้ร่วมหลับนอนเป็นสามีภรรยากันแล้ว  นางงามก็ใส่เสื้อผ้า แล้วเดินมากระเซ้าชายหนุ่มทั้งสองด้วยอารมณ์เบิกบาน
“อ้าวนี่ ทำไมพวกท่านถึงได้มัวเศร้าหมองกันอย่างนี้ล่ะ อ่อ หรือว่าพวกท่าน ยังกลัวสามีของข้าอยู่”
“เราสองไปได้รึยัง” สุลต่านกล่าวกับนางงาม”
“ยัง” นางงามตอบสั้นๆ อย่างกวนโอ๊ย




“ ยังจะมากักตัวเราไว้อีกทำไม ในเมื่อเจ้าก็ได้สมควรปรารถนาของเจ้าแล้วอ่ะ”  พระอนุชากล่าวอย่างโมโห
“โถ อย่าทำโมโหโกรธาไปสิจ๊ะ จริงๆอ่ะนะข้าก็ไม่อยากได้พวกท่านทั้งสองเอาไว้หรอก  เพราะถึงไงข้าก็มีสามีแล้ว”
“แล้วทำไมนางไม่ปล่อยเราไป “ สุลต่านกล่าว
“ก็เพราะว่าข้าต้องการแหวน ของพวกท่านเอาไว้ดูต่างหน้าทั้งสองวงน่ะสิ “  ทั้งสองได้ยินดังนั้นจึงยอมถอดแหวนให้นางงามไป  นางงามดีใจแป็นอย่างมากที่ได้แหวนจากทั้งสองมา  รวมกับของเดิมที่นางสะสมไว้ก็ครบ หนึ่งร้อยวง

 



 

 

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 04:31:22 PM »
โฮกกกกก 100 วงเชียวรึ?!
อย่าบอกนะว่าเป็นของชู้หมดอ่ะ O[]O!!

แสดงว่าก็เจอกับคนที่โชคร้ายกว่าแล้วสินะ อิอิ กลับบ้านกลับเมืองได้แล้ว
อยากเห็นพี่ติ๊กเล่านิทานเต็มแก่ อิอิ

สู้ๆนะคะพี่นานะ รออยู่ค่า :D

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 04:48:43 PM »
โห  จำไม่ได้อ่ะ ว่ามีตอนนี้ด้วย
เหมือนเกมส์ล่าแต้มเลยแฮะ   :icon_confused:  ที่แท้แล้วประเพณีแบบนี้มันก็มีมานานแล้วสิ
นั่นสินะ  กลับเมืองกันเหอะ

ว่าแต่นางงามคนนี้ใครแสดงอ่ะ  เหมือนคุ้นๆ แต่จำไม่ได้ 
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ Moon

  • **
  • 782
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่องพันหนึ่งราตรี
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 05:58:50 PM »
อึ๋ย   ::)  แหวนตั้งร้อยวงเชียวเหรอ   คราวนี้ไม่สงสัยและว่าทำไมสุลต่านถึงได้เกลียดผู้หญิงนัก