ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2009, 04:57:59 PM »
ดีแล้วละน้องฉันทนาที่นังบอดมันไปยุยงพ่อมนัสให้ไล่เราไป คอยดูนะเราต้องวางแผนกำจัดมันไป สมพูดขึ้น ฉันก็ว่าสิ ฉันน่ะเจ็บใจนัก อยู่ดีไม่ว่าดีคิดจะมากำจัดฉัน ฉันทนาบอกสมอย่างสมใจที่ยุมนัสได้ สมจึงบอกฉันทนาว่า อูย... พี่คิดได้ละ ถ้าเราจะกำจัดมัน ฉันทนาจึงถามสมว่าจะทำอะไร สมจึงกระซิบบอกฉันทนาซึ่งทำให้ฉัทนายิ้มออกมาอย่างพอใจในแผนการที่สมบอกตน



ทางด้านมณีก็กำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อนำลูกแก้วไปรักษาตาแม่ของตน ระหว่างทางนั่งพักมณีหยิบลูกแก้วขึ้นทาดู หนูนุ้ยจึงถามณี “ นี่น้องมณี แลมันทำไมกันหนาลูกแก้วนั้น เห็นลูกแก้วนี่ทีไรนึกถึงไอ่ยักษ์เขียวทุกทีมันโหดเหี้ยมจริงๆ” มณีจึงพูดขึ้นมา “ขอให้ลูกแก้วนี่รักษาตาแม่ของฉันให้หายเถอะ แล้วฉันจะกลับมาเป็นอาหารของยักษ์หัสเดชานั้น ” หนูนุ้ยจึงบอกว่า ถ้าน้องมณีไปก็ไปคนเดียวเถอะ หนูนุ้ยไม่ไปหรอกไม่มีวันว่างเลยนิทั้งปี อ่า” เท่งจึงบอกว่า ถึงเอ็งไม่ไปมันก็ตามเอ็งจนได้ มันประกาศแล้วไม่ใช่เหรอ หนูนุ้ยตอบว่า เออ จ้างมันมา หลอกให้ยักษ์เขียวมันกินกู(แล้วก็ทำอะไรเนี้ยค่ะฟังไม่ทัน) เท่งบอกว่าคอยดูไป




มณีได้ยินจึงหันมาบอกทั้งคู่ว่า  ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้เท่งกับหนูนุ้ยต้องเดือดร้อน หนูนุ้ยก็ว่าไม่ต้องมาพูดหรอก สายไปเสียแล้ว มณีก็บอกต่อว่า แต่ฉันก็เชื่อนะว่าฉันพูดทำให้ยักษ์หัสเดชานั้นเปลี่ยนใจได้ เท่งกับหนูนุ้ยไม่ต้องกลัว ฉันจะยอมตายเพียงคนเดียวเท่งกับหนูนุ้ยก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วหันไปมองมณี

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2009, 05:10:04 PM »
ที่บ้านมนัสเข้ามาในบ้านใช้ความคิดอย่างหนักจนปวดหัว ฉันทนาก็เดินเข้ามา พี่มนัสมาอยู่ที่นี่เอง พี่มนัสคิดออกรึยังจ๊ะว่าจะทำยังไงกับแม่ของพี่ดี มนัสบอกว่า พี่กำลังคิดอยู่ คิดยังไงก็คิดไม่ออกซะที พอจะบอกให้แม่ออกไปจากบ้าน แม่แกก็คงไม่ยอม ฉันทนาจึงบอกว่า พี่คิดไม่ออกแต่ฉันคิดออกแล้ว มนัสทำท่าดีใจมากที่ฉันทนาคิดออก หะ น้องฉันทนาคิดออกแล้ว แถมยังชมฉันทนาอีก ฉันทนาฉลาดจริงๆแล้วเราจะทำยังไง ล่ะ ฉันทนาก็บอกมนัส ก็ง่ายนิดเดียวคืนนี้เราก็หามแม่ไปทิ้งไว้ที่กลางป่า มนัสฟังแล้วก็ทำท่าจะคิดแล้วทวนคำที่ฉันทนาพูดขึ้น ทิ้งไว้กลางป่า แล้วหันไปถามฉันทนาว่าพวกเสือพวกหมีไม่กินแม่พี่เหรอ



ฉันทนาก็ตอบว่า  หากมันจะกินก็ให้มันกินไปสิแม่ของพี่รวมทั้งเราสองคนจะพลอยได้บุญไปซ้ำ  มนัสหันไปคิด พึมพำว่า ได้บุญ ฉันทนารีบบอกต่อว่า ใช่สิ ก็ได้บุญไง ถ้าหากแม่ของพี่ถูกกินช่วยให้สัตว์ป่าหายหิว และรอดตายไปอีกมื้อ ก็เท่ากับช่วยชีวิตสัตว์ป่าเลยนะ แล้วพวกราที่พาแม่ไปให้มันกินก็จะพลอยได้บุญไปด้วย มนัสฟังไปก็พยักหน้าเห็นด้วย แล้วพูดขึ้นมา โห ถ้าอย่างงั้นเราก็ได้ขึ้นสวรรค์ละสิ ฉันทนาก็รีบประจบมนัส โถ คนฉลาดเค้าก็คิดเหมือนพี่ละจะ มนัสหันไปถามฉันทนาคนฉลาดเค้าคิดเหมือนพี่ ฉันทนาก็พยักหน้ารับแล้วยิ้มอย่างสมใจที่หลอกมนัสสำเร็จ



ตกดึก มนัสอุ้มแม่สร้อยออกมาจากบ้านเพราะจะเอาไปทิ้งกลางป่าพร้อมกับฉันทนา ลงมาจากบ้านมนัสก็ถามฉันทนาทำไมแม่พี่หลับไม่รู้ตัวเลย ล่ะ ฉันทนาก็บอกว่าสมเอายาใส่ในข้าวให้แม่พี่กินเย็นนี้ เพราะถ้าแม่ตื่นขึ้นมาแม่คงตื้นตันน้ำตาไหลที่เราพาแม่ไปได้บุญถึงขนาดนี้ สมก็บอกว่า ใช่ๆ สู้ให้แม่แกรู้ตัวตอนตกอยู่ในท้องเสือไม่ได้แม่แกจะได้ให้ศีลให้พรไงพ่อมนัส มนัสจึงบอกว่าถ้างั้นเรารีบไปกันเถอะฉันอยากได้บุญเร็วๆแล้ว ป่ะ ว่าแล้วก็เดินออกไป

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:03:50 PM »
พอเดินมาถึงกลางป่า ฉันทนาก็บอกมนัส พี่มนัสวางแม่ลงตรงนี้แหละ มนัสก็หันไปมา วงแม่ ไว้ตรงนี้เลยเหรอจ๊ะ ฉันทนาก็บอกว่า วางแม่ไว้ตรงโคนต้นไม้นี้เลย มนัสก็อุ้มแม่สร้อยทิพย์ไปวางไว้  แล้วหันไปถามฉันทนาว่าวางไว้อย่างนี้เสือคงเห็นใช่ไหมฉันทนา  ฉันทนาจึงตอบไปว่าเห็นแน่นอนจ๊ะแล้วก็ชวนมนัสกลับ มนัสก็ถามว่า ไม่อยู่รอตอนได้บุญเหรอ สมเลยตอบแทนว่าไม่ต้องเพราะว่าตอนนี้มนัสได้บุญจนไม่รู้จะได้ยังไงแล้ว พี่สมรู้ละว่าทำไมน้องฉันทนาถึงเลือกพ่อมนัสมาเป็นคู่ครอง ฉันทนาเห็นว่าสมพูดมากจึงชวนมนัสกลับ ทิ้งแม่สร้อยไว้อย่างนั้น



อนิจจาโง่เขลาเบาทึมทื่อ
เขาจึงถือโอกาสทำอาจหาญ
หลอกให้ทำชั่วช้าแสนสาธารณ์
เหมือนเป็นมารหลงผิดคิดชอบใจ
พามารดาทิ้งไว้ในไพรกว้าง
ไม่ระคางตาพิการจะหวั่นไหว
เข้าใจผิดคิดว่าดีที่ทำไป
อนาจใจจริงแล้วโอ้แก้วตา



เช้าวันใหม่มาสร้อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาคลำไปรอบๆก็รู้ว่าเป็นใบไม้ก็ร้องหามนัส กลัวจะมีอันตราย แล้วแม่สร้อยก็เดินพลางร้องเรียกหามนัส

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:06:07 PM »
ที่บ้านมนัสนั่งยิ้มฉันทนาเข้ามาถามว่าทำไมมนัสตื่นแต่เช้าแล้วไม่ยอมปลุกตนมนัสบอกว่าตนอิ่มบุญ  ฉันทนาทำหน้าตกใจ มนัส บอกว่าอิ่มบุญที่ให้ทานแม่ไปเป็นอาหารเสือแม่ของพี่คงจะอิ่มบุญไปด้วยฉันทนาก็เลยทักว่าหน้ามนัสดูอิ่มเอิบมีราศี กว่าทุกวัน มนัสก็ถามว่าจริงเหรอ ฉันทนาตอบว่าจริงตนจะดกหกมนัสไปทำไม ทั้งยังบอกว่ามนัสน่ารักที่สุดแถมยังซื่อสนิท มนัสหันไปมองหน้า ฉันทนาก็ตอบแบบเอาใจว่าฉลาดด้วย



ช่างสงสารกะไรน้ำใจแม่
รักแม้แต่ลูกตามปลูกฝัง
เฝ้าห่วงใยบุตรน้อยคอยระวัง
ด้วยความหวังถนอมรอดจนปลอดภัย
แม่ว่าเจ้าเติบโตโอ้ใหญ่กล้า
ยังห่วงหาด้วยห่วงหวงไฉน
ลูกนำมาทิ้งระหว่างกลางพงไพร
กลับเข้าใจว่าเจ้านั้นมีอันเป็น



ณ นครสายลมเย็น
พระมเหสีของเมืองนี้กำลังปวดพระครรภ์อยู่  เจ้าเมืองก็เข้า โนชานี่เจ้าจะคลอดแล้วหรือ พระมเหสีตอบว่ายัง ทำไมละ พระมเหสีโนชาตอบไปว่า จะยังไม่คลอดจนกว่าจะได้กินเนื้อมนุษย์เจ้าเมืองถึงกับตกใจบอกว่าเจ้านะเหรอที่จะกินเนื้อมนุษย์  พร้อมกับบอกว่ายักษ์ในนครแห่งนี้ไม่เคยกินเนื้อมนุษย์ นางจึงตอบว่าฝันไปว่าถ้ากินเนื้อมนุษย์แล้วจะคลอดลูกที่ตั้งครรภ์มานานถึง 15 ปี เจ้าเมืองถึงกับคิดหนัก แล้วก็ได้ยินเสียงโอดครวญของมเหสีของตน ว่าทนทุกข์มาสิบห้าปีแล้วและยังไม่รู้ว่าต้องทนไปอีกนานเท่าไหร่ แล้วก็เรียกร้องความสงสาร เจ้าเมืองก็เลยบอกว่าจะไปหาเนื้อมนุษย์มาให้กินเอง เพราะคิดว่าการฝ่าฝืนกฎของนครสายลมเย็นแลกกับการที่มเหสีตนคลอดลูกน่าจะคุ้ม

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:08:23 PM »
แล้วก็เดินออกมาสั่งนางกำนัลบอกให้ดูแลพระแม่เจ้าอย่างดีตนจะไปเมืองมนุษย์ แล้วก็ไปสั่งทหารให้ดูแลนครสายลมเย็นและพะแม่เจ้า จากนั้นก็ชวนเมฆาทหารคนสนิทออกไป



ทางด้านมณีก็เดินทางกลับบ้าน หนูนุ้ยก็เดินบ่นตลอดทางแล้ววิ่งไปดักหน้ามณีเพื่อที่ถามว่าอีกไกลไหมกว่าจะถึงบ้าน เท่งจึงว่าหนูนุ้ยจำทางกลับบ้าน ไม่ได้หรือ  แล้วเท่งกับหนูนุ้ยก็ทะเลาะกันมณีเข้าห้ามบอกว่าถาทะเลาะกันอีกจะทิ้งทั้งสองคนไว้ในป่า แล้วก็เดินทางต่อ  ทั้งสองจึงรีบตามมณีไป



เมฆาบอกว่าถึงเขตมนุษย์แล้ว  แต่องค์เหนือหัวยอกว่าเป็นป่าไม่มีมนุษย์ อาศัยต้องเข้าไปในเมือง แล้วเมฆากันเห็นพวกมณีกำลังเดินทางอยู่ จึงบอกว่านั้นมนุษย์องค์เหนือหัวเห็นว่ามีตั้งสามคนจะทำให้โนชาคลอดลูกเร็วขึ้นแล้วให้เมฆาจับอย่าให้รู้ตัวนะ  ว่าแล้วก็เหาะลงมา 

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:10:08 PM »
พวกมณีเดินทางไป หนูนุ้ยเห็นเงาจึงถามมณีว่าเงาอะไร มณีบอกว่าห้ามหันขึ้นไปให้ทำเฉยๆเหมือนไม่รู้ไม่เห็น หนูนุ้ยก็ถามอยู่นั้นว่าเงาอะไร เท่งบอกว่ามณีให้อยู่เฉยๆก็อยู่เฉยๆ



จากนั้นมณีจึงแอบหยิบลูกแก้วออกมาขอให้ช่วยให้พ้นจากอันตรายลูกแก้วนี้จึงทำให้พวกมณีหายไป ทั้งสองยักษ์ก็ต่างพาหันงงว่าหายไปไหน แล้วก็พากันไปหามนุษย์ที่อื่น



พวกมณีที่หนีจากยักษ์มาก็วิ่งมา เท่งกับหนูนุ้ยหกล้มมณีบอกว่าหนีมาไกลแล้วแต่เท่งกลับกลัวว่ายักษ์มีตาทิพย์จะเห็นพวกตน มณีบอกว่าถ้าเห็นก็จะใช้ลูกแก้ววิเศษอีกครั้ง  หนูนุ้ยหาว่าลูกแก้วเป็นลูกน้องยักษ์เขียวจะพาไปให้ยักษ์เขียวกิน มณีบอกอย่าพูดเรื่องที่ไม่สบายใจแล้วให้เดินทางกันต่อ

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:11:57 PM »
มณีเดินทางมาถึงบ้านพร้อมทั้งบอกว่าคงเป็นอิทธิฤทธิ์ของลูกแก้ววิเศษที่ทำให้ถึงบ้านไวขึ้น หนูนุ้ยบอกมณีว่าอย่าเพิ่งเอาลูกแก้วรักษาตาแม่สร้อย เท่งหาว่าหนูนุ้ยกลัวตาย มณีเรียกหาแม่ แล้วเดินขึ้นบ้านเจอมนัสออกมาพอดี มนัสถามว่าทำไมกลับมาเร็ว มณีบอกว่าดีใจที่กลับมาแล้วมนัสอยู่บ้านแสดงว่าดูแลเอาใจใส่แม่ มนัสตอบว่าใช่ ถ้าหากว่าทำให้แม่ได้บุญจนขึ้นสวรรค์พี่จะต้องดีใจ มณีจึงถามว่าบุญอะไร



หลังจากที่ฟังมณีโมโหผลักมนัสเข้ามาในบ้าน ถามมนัสว่ารู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป มนัสบอกว่าทำให้แม่ขึ้นสวรรค์ มณีโมโหจะชกมนัสแต่เท่งมาห้ามไว้ก่อน หนูนุ้ยบอกว่าเชื่อว่ามนัสเป็นคนซื่อแต่ว่าทำไมต้องเอาแม่ไปทิ้งในป่าด้วย มนัสตอบว่าฉันทนาบอกว่าถ้าเอาแม่ไปทิ้งให้เสือกินจะได้บุญ มณีจึงถามว่าฉันทนามาเกี่ยวอะไรด้วย  มนัสบอกว่าตอนนี้ฉันทนาเป็นเมียตนแล้วหนีพ่อมาอยู่ที่นี่ด้วย



ฉันทนากลับบ้านมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พ่อถ้าพ่อเข้าใจแล้วฉันจะได้กลับสักทีแล้วหันไปชวนสม เศรษฐีจึงบอกว่าเดี๋ยวทำแบบนี้รู้ไหมว่าทำให้พ่ออับอายชาวบ้านแค่ไหน แล้วไม่ให้กลับไปหามนัส ฉันทนาบอกไม่ได้เพราอุตส่าห์กำจัดแม่ตาบอดแล้วมนัสจะอยู่กับใคร เศรษฐีบอกว่าไม่สนแต่ไม่ให้กลับไป ฉันทนาถามว่าแน่ใจนะ เออ แน่ใจ ฉันทนาบอกว่าจะไปประกาศให้ชาวบ้านว่าพ่อพรากผัวพากเมียแถมยังส่งคนไปฆ่ามนัสกับแม่ว่าแล้วก็ออกไป  เศรษฐีก็ได้แต่โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:13:48 PM »
ที่บ้านมณีถามมนัสว่าจะทำตามที่ตนบอกทุกอย่างใช่ไหมมนัสตอบว่าใช่ และบอกว่าฉันทนาเป็นคนดีและฉลาด มณีจึงตอบกลับว่าตนฉลาดและเป็นคนดีกว่าฉันทนาแล้วเอาลูกแก้ววิเศษออกมาให้มนัสดูพร้อมบอกว่าเมื่อก่อนเป็นของยักษ์แต่ตอนนี้ตนเอามาได้ มนัสดูตื่นเต้นมากที่เห็นลูกแก้ววิเศษ พร้อมทั้งบอกว่ามณีเก่งที่เอาลูกแก้วมาจากยักษ์ได้แล้วถามมณีว่าลูกแก้วใช้ทำอะไร เท่งกับหนูนุ้ยได้ฟังก็ได้แต่ส่ายหน้า มณีบอกว่าจะเอามารักษาตาของแม่ให้หาย



มนัสได้แต่โทษตัวเองที่เอาแม่ไปให้เป็นอาหารเสือ เท่งว่าน่าเสียดายจริงๆ แต่หนูนุ้ยว่าที่มนัสทำไปไม่มีอะไรแอบแฝง  มณีบอกน้องว่าไม่เป็นไรบางทีแม่อาจยังไม่ถูกเสือกิน แล้วขอให้มนัสทำอะไรตามที่ตนเองบอก มนัสตอบทันทีว่าได้เพราะว่ามณีฉลาดๆกว่าฉันทนาตนต้องเชื่อมณีอยู่แล้วแล้วมณีก็ลุกเข้าไปในบ้าน



ทางด้านฉันทนาก็บอกสมว่าตนเก่งไหมที่พูดจนพ่อเถียงไม่ออก สมบอกว่ากลับมาอยู่บ้านดีกว่าบ้านมนัสทั้งเล็กทั้งไกลไปไหนมาไหนทีต้องอาศัยเกวียนคนอื่นเค้าแต่ฉันทนาบอกว่าไม่ถ้ากลับมาพ่อก็ต้องฆ่ามนัสตายนะสิ ไปอยู่อย่างนั้นดีแล้วยิ่งตอนนี้ นังบอดมันไม่อยู่แล้วสบายจะตายแล้วก็ลากสมไปเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเกวียน



เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:15:20 PM »
 มณีหยิบมีดออกมาให้ยื่นให้มนัส มนัสถามว่าเอามีดไปทำ อะ ไร มณีบอกว่าให้เอาไปฆ่าฉันทนา มนัสถึงกับตกใจเท่งกับหนูนุ้ยที่ได้ยินก็ตกใจไปด้วย



มณีถามมนัสว่าจะทำได้ไหมมนัสลังเลนิดหนึ่งก่อนจะตอบได้สิเดี๋ยวจะไปรอหน้าบ้านถ้ามาเมื่อไหร่จะไปฆ่ามันทันที แล้ววิ่งออกไป มณีรีบเข้าไปห้ามบอกว่าไม่อยากให้น้องของพี่ มณีบอกว่าไม่ต้องแค่ต้องการลองใจมนัสเท่านั้นว่าต้องการเอาแม่ไปทิ้งจริงๆหรือถูกล่อลวงมนัสถามว่าจะให้ไปฆ่าอีกไหมมณีบอกว่าไม่ต้องมาอยากให้เป็นเวรเป็นกรรมพร้อมทั้งบอกว่าเราจะไปตามหาแม่ด้วยกัน



ทางด้านเศรษฐีก็พร่ำพรรณนาเสียใจที่ลูกสาวทำกับตนอุตส่าห์เลี้ยงดูมาแต่เล็กแต่น้อย ไม่เห็นใจพ่อเลยเห็นคนอื่นดีกว่า บ่าวในเรือนจึงบอกให้หักอกหักใจเพราะว่าลูกเลี้ยงได้แต่ตัวแต่เศรษฐีก็เลยถีบออกไป บอกว่าอย่าเสนอหน้ามาสอนข้าร่ำรวยเป็นเศรษฐีเป็นเจ้านายข้ารู้ทุกอย่างแล้วก็โมโหต่อไป

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:16:24 PM »
มณีเอาเสื้อผ้ากับขวานมาให้มนัสมนัสหยิบขวานขึ้นมาดูถามว่าเอาไปทำไมมณีบอกว่าเอาไปทำสัญลักษณ์ที่ต้นไม้ระหว่างทางตนจะได้ตามมนัสไปถูก มนัสบอกว่าคนฉลาดก็ทำได้ มณี บอกว่าเชื่อในตัวมนัส มณ๊ให้เลือกว่าจะเอาเท่งหรือหนูนุ้ยไปด้วยเท่งบอกวาหนูนุ้ยอยากไปกับมนัสแต่หนูนุ้ยบอกว่าเท่งหาเรื่องมาให้ตนอีกแล้ว มนัสบอกว่าไม่ต้องการเอาใครไปทั้งนั้นจะไปคนเดียวเพราะถ้าเจอสาวๆจะได้ไม่ลังเลใจ



เช้าวันต่อมามณีก็ออกเดินทางตามหาแม่เท่งถามว่ามนัสจะไปถึงไหนมณีบอกว่าความซื่อของมนัสจะทำให้เอาตัวรอดได้ หนูนุ้ยว่าก็คิดเช่นนั้นเพราะถ้าเจอยักษ์คงจะคิดหนักว่าจะกินดีรึเปล่า มณีก็บอกให้รีบออกเดินทางอย่ามัวมานั่งพูดเล่นกันอยู่เลยว่าแล้วก็เดินไปเท่งก็บ่นว่านั่งยังไม่ทันหายเหนื่อยเลย

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:19:00 PM »
จะกลับกล่าว ธานีบุรีใหญ่
คนทั่วไปเรียกประเทศเมืองเขตขิณฑ์
มีกษัตริย์ไพนุวงศ์องค์บุรินทร์
ทั่วแผ่นดินสุขเกษมเปรมปรีดา
ราชินีหงส์ทองพระน้องรัก
ผูกสมัครคู่ขวัญนานนักหนา
อันธิดาโฉมงามล้ำลือชา
มีชื่อว่าผกากรองงามต้องใจ


เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:21:26 PM »
ว่าอย่างใดลูกมาหาพ่อกับแม่แต่เช้าแสดงว่าต้องมาขออะไรแน่ๆเลย  จะให้หม่อมฉันเดาไหมเพคะ 



ผกากรองก็บอกว่าก็เดาสิคุณท้าวแต่ถ้าเดาไม่ถูกต้องถูกลดชั้นไปเป็นพวกทำงานครัวนะ  ว่าไงคุณท้าวจะยอมรึเปล่าหากยอมก็เดาเลย  เจ้าพี่ละทรงให้ท้ายลูกอีกแล้ว 



แล้วพระมเหสีหงส์ทองก็หันไปสอน ผกากรองคุณท้าวงามขำเป็นผู้ใหญ่แล้วนะลูกถึงอย่างไรลูกก็ควรให้ความเคารพเกรงใจบ้างแล้วอีกอย่างคุณท้าว นะเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของแม่ แต่ลูกไม่ชอบให้คุณท้าวมายุ่งเรื่องของลูกนี่เพคะไม่ว่าลูกจะทำอะไรคุณท้าวก็ชอบเข้ามาสอด ตายแล้ว ผกากรองทำไมลูกพูดอย่างนั้นคำว่าสอดก็เป็นคำที่ลูกไม่ควรนำมาพูด  แหมก็ลูกพูดไปแล้วนี่เพคะเสด็จแม่ แล้วก็หันไปถลึงตาใส่คุณท้าวแล้วก็ยิ้มอย่างชอบใจที่แกล้งคุณท้าวได้

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:34:47 PM »
จากนั้นพระดาผกากรองก็พาพวกนางกำนัลเดินชมอุทยานอยู่ๆก็หยุดเดินจนพวกนางกำนัลตกใจแล้วหันไปถามนางกำนัลว่าถ้าหากมียักษ์ขมาจะทำยังไง นางกำนัลคนหนึ่งก็กราบทูลว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วผกากรองก็โกหกนางกำนัลว่ามียักษ์มาทำให้พวกนางตกใจ



แต่พอหันไปที่พระธิดาก็พบว่ามียักษ์มาจริงๆจึงบอกว่ายักษ์แต่ผกากรองไม่เชื่อซ้ำยังหัวเราะที่แกล้งพวกนางกำนัลได้แล้วก็วิ่งหนีไป โดยที่ผกากรองไม่รู้ตัวว่ามียักษ์มาจริงๆ



คุณท้าวออกมาตามหาพระธิดาเจอกับพวกนางกำนัลมาจึงถามหาพระธิดาพวกนนางกำนัลบอกว่าไม่รู้คุณท้าวจึงว่าเจ้านายหายไปไหนทำไมไม่รู้แล้วก็จะไปหาเอง


เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 05:36:29 PM »
เสียดายผกากรองค่ะเลยทำไว้ก่อนจะลบ

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ..."น้ำใจแม่"...
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2009, 06:52:18 PM »
เย้  ผกากรองออกแล้ว   :-\
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**