สัณชาตญาณ(สัน-ชาด-ยาน)แห่งแม่นั้นแน่นัก
ห่วงลูกรักยิ่งชีวิตเกินคิดถึง
ตัวลำบากอย่างไรไม่คำนึง
ขอลูกถึงอยู่รอดให้ปลอดภัย
ป่านฉะนี้ไปไหนไยไม่กลับ
แม่คอยนับเวลาพาหมองไหม้
แม่ตาบอดคอยมีเจ้าเฝ้าห่วงใย
กลับทิ้งไว้อ้างว้างช่างวังเวง
มนัสช่วยแม่ด้วยลูก มนัสอ๋อ พี่เข้าใจแล้วล่ะฉันทนาจะไม่อยู่บ้านของฉันทนาแต่จะไปอยู่กับพี่ที่บ้าน เฮ้ย ถ้าหากไม่เข้าใจพี่ก็แย่มากละ เพราะว่าฉันอธิบายจนคอแห้งหมดแล้ว มนัสถามฉันทนาว่าจะไปเลยรึเปล่าแต่ฉันทนาบอกว่ายังไม่ได้เตรียมข้าวของเพราะว่าบ้านมนัสจนจะตาย
ถ้าฉันจะไปอยู่ก็ต้องมีเสื้อผ้าสวยๆใส่ มีเงินมีทองใช้ มนัสบอกว่าชอบอยากมีอย่างที่ฉันทนาพูดแต่ที่บ้านไม่มีเลย ฉันทนาก็บอกว่าเพราะไม่มีจึงต้องหอบจากบ้านของตนเองไป แล้วบอกให้มนัสมารอตนที่รั้วหลังบ้านคืนพรุ่งนี้ จะได้ช่วยขนของ
แม่สร้อยก็เป็นห่วงมนัส เพราะไม่รู้ว่ามนัสหายไปไหน กลัวจะเกิดอันตราย แล้วมนัสก็เดินเข้ามา ถามว่าแม่ออกมารับลมข้างนอกเหรอจ๊ะ(คิดได้ไง) แถมบอกอีกว่า แถวนี้ลมก็ดีนะแม่ แม่สร้อยก็บอกว่าแม่มานั่งรอลูกไม่ได้ออกมารับลม มนัสหายไปไหนมาทั้งวันแม่เป็นห่วงแม่ก็เลยอออกมาตามหา โถแม่ไม่ ต้องห่วงฉันหรอก แม่ออกมมาอย่างนี้ลำบากเปล่า แม่ตาบอดก็ควรอยู่แต่ในบ้าน ฉันน่ะตาดีก็ไปเที่ยวไหนๆตามใจฉันบ้าง แม่สร้อยจงบอกว่ามนัสสัญญากับมณีว่าจะดูแลแม่ตลอดเวลาที่มณีออกไปหาหมอมารักษา มนัสก็บอกอีกว่าไม่ต้องห่วงหรอกถ้าพี่มณีกลับมาก็จะอยู่ดูแลเองแล้วก็พาแม่เข้าบ้านไป แล้วมนัสก็เดินไปโดยไม่รอแม่ แม่สร้อยก็เรียกให้มนัสรอแม่ด้วยส่วนมนัสเข้าบ้านไปก่อนแล้ว