ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน


ดีค่ะทุกคน ช่วงนี้กันย์กำลังบ้าหนังสือเรื่องนี้อยู่ค่ะ เลยเอามาแนะนำเพื่อนๆที่สนใจอ่านของแปลก(?)กัน
ความจริงมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก แต่มันก็สนุกไปอีกแบบ^^ ที่สำคัญเรื่องนี้จิ้นวายได้ แถมอิมเมจตัวละครสวยทุกตัวเลย555+ >:D  (แต่เรื่องไม่วายนะเออ!)


เรื่องนี้เป็นนิยายแปลจากไต้หวัน เพื่อนเราแนะนำมาอีกทีบอกว่าสนุกมากให้ลองอ่านดู(แอบวายด้วย<<อืม-*-ประเด็นแรกของเรามันอยู่ตรงนี้อ่ะนะ)


ความรู้สึกตอนแรกที่อ่าน ก็แบบว่ามันพร่ำเพ้ออะไรของมันเนี๊ยยย??!!(เล่มแรกตอนต้นๆนะ)
อวจนะของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างบลาๆๆ ยอมรับว่ามึนนิดๆ
แต่อ่านไปเรื่อยๆเหอะ มันเป็นอะไรที่แบบสร้างภาพมากๆ แต่ก็เพราะมันสร้างภาพอะนะ เลยตลกดี^0^ 
บางครั้งครีอุสก็สตอเบอร์แหลแบบสุดๆ- -" บางครั้งมันก็คิดได้เวอร์โคตรๆ ไม่รู้จะว่ายังไงดี อยากให้ลองอ่านกันดู สนุกมั่กๆ>_<
ยิ่งเล่ม2 เล่ม3...จนถึงเล่ม6 แบบว่ายิ่งอ่านยิ่งมันส์ วางไม่ลง ไม่ใช่แค่ฮาอย่างเดียว เนื้อเรื่องก็น่าตื่นเต้นดีด้วย ร้านหนังสือบางที่ถึงขั้นโฆษณาว่าไม่มีใครเดาเนื้อเรื่องออกได้ง่ายๆ(ประมาณนี้)

อ่านเหอะ!! แล้วคุณจะหลงรักเทพอัศวินทั้ง12คนโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอิตาพระเอก(?)เกรเซียส ครีอุส เนี่ยแหละ^o^ เทอร์มิสด้วย>///<


(รู้สึกจะเวิ่นเว้อนานไปแระ เข้าเรื่องๆ -///-")





The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน



สำนักพิมพ์ - Enter books
ผู้เขียน - Yu Wo
ผู้แปล - Contina
มี 8เล่มจบ(?) ปัจจุบันมีถึงเล่ม6



เรื่องย่อ
ในโลกที่เทพเจ้า ยังคงได้รับความเคารพนับถือ ลัทธิเทพต่างๆ มากมายถูกก่อตั้งขึ้น ที่เก่าแก่และมีผู้คนศรัทธามากที่สุดเห็นจะไม่พ้น ‘ลัทธิเทพแห่งแสงสว่าง’ ซึ่งจุดขายของลัทธินี้อยู่ที่ ‘เทพอัศวินทั้งสิบสององค์’ โดยเทพอัศวินที่โดดเด่น ถือเป็นหน้าเป็นตาของลัทธิที่สุดก็คือ...
"เทพอัศวินครีอุส" ตัวแทนแห่งดวงตะวัน
เทพอัศวินครีอุสได้ชื่อว่าเป็นมหาบุรุษ เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีรอยยิ้มงดงามประดับใบหน้าตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่ทุกคนต่างรู้ แต่ตัวจริงของเขาน่ะหรือ...หึ!

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
คุณ Yu Wo ใช้สำนวนการแต่งโดยผ่านการดำเนินเรื่องโดยบุรุษที่หนึ่ง ซึ่งในที่นี้ก็คือพระเอกของเรื่องคือ เทพอัศวินครีอุส นามว่า เกรเซียส (ดูหน้าตาจากหน้าปกเล่มหนึ่งคือชายผมทองยาวรูปงาม) ซึ่งครีอุสนั้นจะเป็นคนเล่าเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นปวดหัว สนุกสนานและฮาจนน้ำตาเล็ดกับวีรกรรมเด็ดๆของเขาและเหล่าผองเพื่อนเทพอัศวินร่วมอาชีพอีก 11 คนอย่างไรบ้าง ซึ่งหากใครชอบนิยายแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว กอปรกับชอบแนวนิยายที่ออกกลิ่นอายการ์ตูนหน่อยๆ อ่านเอาสนุก เอาเพลินล่ะก็ รับรองว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน
 
*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~~*~*~*~*

จุดเด่นของเรื่องอีกอย่างคือมีหนุ่มหล่อในเรื่องเพียบ ^o^ ซึ่งคงถูกใจบรรดาสาวๆที่ชอบเรื่องราวที่มีหนุ่มๆ(เหมือนตัวเองอยู่ในฮาเร็มโชเน็น)น่าดู แถมแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ และ บุคลิกเฉพาะตัวแตกต่างกันได้อย่างน่าชมแถมแม้จะมีความต่างของนิสัยเหล่านั้น แต่กลับมีเสน่ห์อันน่าดึงดูดอย่างประหลาดที่ทำให้เราหรือคนอ่านไม่รู้สึกว่าขัดแย้งกันเลยสักนิด อีกทั้งนอกจากมุขฮาๆที่สอดแทรกอยู่เกือบตลอดเรื่อง ยังมีอรรถรสของความบันเทิงครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์สนุก ตื่นเต้น ลุ้น เศร้าเสียใจ หรือโกรธ ก็ตาม
 LSK นี้มีทั้งหมด 8 เล่มจบ สถานะปัจจุบันลิขสิทธิ์ไทยแปลออกมาแล้ว 6 เล่ม ทางไต้หวันเองเล่ม 7 คุณยูโวก็กำลังแต่งอยู่..



ที่มา:http://aillinks.exteen.com/20091029/lsk-fantasy

+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*


(มีต่อ)
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2010, 06:43:45 PM โดย HpJ »

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 06:02:57 PM »


PS.เรื่องนี้เป็นนิยายแปลนะคะ ไม่ใช่การ์ตูน เพียงแต่ภาพประกอบเป็นการ์ตูนเท่านั้น และเรื่องนี้จะมีกลุ่มแฟนอาร์ตค่อนข้างเยอะพอสมควรเรยได้รูปมาเยอะแยะมากมาย ถ้ามีคนสนใจเราอาจจะลงให้นะ




เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทพอัศวินทั้ง12องค์ในวิหารเทพแห่งแสงสว่าง ซึ่งแต่ละคนก็จะมีบุคลิกที่โดดเด่นและหน้าที่ต่างๆแตกต่างกันออกไป ซึ่งแบ่งออกเป็นสองฝ่ายด้วยกัน คือ

“ฝ่ายเฮมิช” ซึ่งเป็นฝ่ายที่มีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตา ขึ้นตรงต่อเทพอัศวิน ครีอุส
ส่วนอีกฝ่ายที่มีเทพอัศวินเทอร์มิสเป็นผู้นำคือ “กลุ่มโคลด์บลัด” ซึ่งประกอบไปด้วยอัศวินที่มีนิสัยเลือดเย็น

มาทำความรู้จักกับเทพอัศวินทั้ง2กลุ่มนี้กัน^^



เฮมิช
ยึดถือพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างในการสั่งสอนสาวก
ครีอุส มักพูดเสมอว่า “ด้วยพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง บาปของเจ้าจะได้รับการอภัย”








ปล.ในที่นี้ชื่อตำแหน่งจะขึ้นก่อนชื่อจริงของแต่ละคนนะคะ(คล้ายๆเอานามสกุลขึ้นก่อนอ่ะ แต่ในที่นี้มันคือชื่อตำแหน่ง)


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวิน ครีอุส เกรเซียส
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Sun ประมุขของตำหนักเทพอัศวินทั้งหมดทุกองค์ ผู้นำฝ่ายเฮมิช
คุณลักษณะ(ภายนอก): มีรอยยิ้มที่สว่างไสว คุณลักษณะเพรียบพร้อมไร้ที่ติ
              มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาที่พร้อมจะให้อภัยผู้อื่นเสมอ
นิสัย(จริงๆ): รักเพื่อนพ้องและลูกน้องมากถึงขนาดยอมตายแทนกันได้
             เจ้าคิดเจ้าแค้น ภายนอกดูเหมือนไม่ค่อยรับผิดชอบต่อหน้าที่
             หากยามคับขันกลับเอาจริงเอาจังมาก เป็นฉลาดชอบคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่มักโดยเทอร์มิสรู้ทันเสมอ
            (ว่ากันว่าเชี่ยวชาญนทุกๆด้านยกเว้นการใช้ดาบ การขี่ม้า และการใช้ชีวิตในป่า)



*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวิน เทมเพส ซีโอ,
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Storm
คุณลักษณะ(ภายนอก): นิสัยเจ้าชู้ มีเสน่ห์ รักความอิสระเสรี ชอบงานเลี้ยงสังสรร
              จะต้องมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเสมอ มีความสามารถในการเหล่สาวทีเดียวนับร้อยๆคนได้ เหล่ได้แม้กระทั่งเด็กยันคนแก่
นิสัย(จริงๆ): เป็นเทพอัศวินที่อดหลับอดนอนที่สุด ไม่ชอบเห็นงานค้างๆคา มีความรับผิดชอบต่องานสูง
              มักโดนครีอุสโยนงานเอกสารมาให้ทำเสมอๆ (น่าสงสารจริงๆ-*-)
              คาดว่าตาจะบอดก่อนวัยอันควรเพราะนอกจากใช้สายตาไว้เหล่สาวทีเดียวได้ถึงร้อยคนแล้วยังต้องปั่นงานเอกสารกองพะเนินอีก
             เห็นเจ้าชู้ๆอย่างงี๊ ครีอุสคิดว่า จริงๆแล้วเทมเพสยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักคนT_T

          (ทั้งสองเท้าสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าลมพัด)

*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินไทรอน จอร์โก,
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Earth
คุณลักษณะ(ภายนอก): นิสัยจริงใจและจงรักภักดี เป็นคนซื่อๆ พูดติดอ่างเวลาอยู่ต่อหน้าหญิงสาว เป็นเพื่อนสนิทของเทพอัศวินครีอุส             
นิสัย(จริงๆ): เป็นเสือผู้หญิงชัดๆ หลอกผู้หญิงมากมายให้หลงคารมด้วยท่าทีแสนซื่อบริสุทธิ์(จนครีอุสอิจฉา)
              จริงๆแล้วไทรอนเป็นเพื่อนสนิทที่เกลียดกันที่สุดของเทพอัศวินครีอุส
                  ครีอุสบอกว่าไทรอนน่าจะไปเป็นเทพอัศวินเอกอนมากกว่า
              เพราะปากเสียเหมาะกับตำแหน่งนี้มากๆ

           (หนังหน้าหนาพอๆกับโล่ปราการ)

*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินเคเรส ไอเมอร์ (ฉายาไอ้เหม็น ตั้งโดยครีอุส --"),
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Wood
คุณลักษณะ(ภายนอก): นิสัยของเขาบอกได้เพียงสี่คำเท่านั้น คือ เขา-เป็น-คน-ดี
               เป็นมือธนูหนึ่งเดียวในบรรดาเทพอัศวินทั้ง 12 องค์                         
นิสัย(จริงๆ): นิสัยดีมากๆ ตรงตามตำแหน่ง เป็นห่วงเป็นใยและชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
              จนเรียกได้ว่าเหมือนเป็น"แม่"ของฝ่ายเฮมิช  อีกทั้งยังเป็นนักสะสมเครื่องเทศที่ใช้ทำอาหารตัวยง
                 เป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวง่ายที่สุด

           (นักธนูที่ยิงพลาดได้ยากกว่ายิงแม่น)

*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินเนเฟล เดมอส, (เป็นผู้ชายหมดแหละเทพอัศวินน่ะค่ะอย่าเข้าใจผิดเหมือนเราตอนแรกนะ55+)
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Cloud
คุณลักษณะ(ภายนอก): เป็นคนล่องลอย มีกิริยาละมุนละม่อมเหมือนก้อนเมฆ
               สถานที่สามารถตามหาตัวเขาได้ คือ ตามระเบียง หน้าต่าง บนหลังคา หรือในป่าสน
               ซึ่งจะเห็นเขานั่งเหม่อลอยชมทัศนียภาพ หรือไม่ก็กำลังอ่านหนังสืออยู่                 
นิสัย(จริงๆ): เป็นเทพอัศวินอีกคนที่นิสัยตรงตามต้นแบบ แต่จริงๆแล้วเนเฟลชอบอยู่ในตู้หนังสือ ลิ้นชัก ในห้องสมุดมากกว่า
               เชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเทพอัศวินครีอุสทุกอย่างเนื่องจากว่าในหนังสือบอก! --"

           (เชี่ยวชาญในการปลอมเป็นวิญญาณ)


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*



เทพอัศวินเฮฟเฟตัส ชาคส์,
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Blaze
คุณลักษณะ(ภายนอก): นิสัยมุทะลุ ดุดัน ขวานผ่าซาก นับถือเทพอัศวินครีอุสมาก         
นิสัย(จริงๆ): เหมือนข้างบนแหละ คนๆนี้มีความหลังในการนับถือเทพอัศวินครีอุสมาก่อนตอนเป็นเทพอัศวินฝึกหัด อยากรู้ต้องอ่านในฉบับComicsเล่ม5

          (เชี่ยวชาญในการจัดการกับวิญญาณ มักจะไม่ระวังปล่อยเพลิงสลายวิญญาณใส่หัวของเทพอัศวินเนเฟลบ่อยๆ)


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*''*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'***'*'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'**'*'*'*'*'**'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'*'*
*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*''*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'***'*'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'**'*'*'*'*'**'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'*'*


โคลด์บลัด
ยึดถือความเด็ดขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างในการสั่งสอนสาวก
เทอร์มิส มักพูดเสมอว่า “ด้วยอำนาจเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง เจ้าจักต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่ทำไว้”
 


[/color]



*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินเทอร์มิส แลนซ์
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Judge ผู้นำฝ่ายโคลด์บลัด เทพอัศวินแห่งการลงทัณฑ์ ฝีมือดาบแข็งเกร่งที่สุดในบรรดาเทพอัศวินทั้ง11คน
              จนเมื่อ ลอเรนฮาเดสเข้ามา(ฝีมือดาบของลอเรนเป็นอันดับ1 แต่ทักษะการใช้อาวุธโดยรวมที่ดีที่สุดยังเป็นของเทอร์มิส)
คุณลักษณะ(ภายนอก): พี่ใหญ่ของกลุ่มโคลด์บลัด เป็นผู้โหดเหี้ยม และใจทมิฬที่สุด ไม่เคยให้อภัยคนผิด
              เป็นคู่ปรับกับเทพอัศวินครีอุส เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นสุดขั้วของความต่าง ขรึม ไม่เคยยิ้ม ทำหน้าเหี้ยมแทบตลอดเวลา
             นิสัย(จริงๆ):  นิสัยเด็ดขาด และเยือกเย็น  แต่ก็มีด้านที่อบอุ่นอ่อนโยน
               ใจอ่อนให้ครีอุส มักจะยอมช่วยไปซื้อขนมให้เทพอัศวินครีอุสอยู่เสมอๆที่เทพอัศวินครีอุสขอ
               เนื่องจากชื่อเสียงฉาวโฉ่(!?)ของเทพอัศวินเทอร์มิสที่ครเห็นก็ต่างกลัวและหลบให้(ท่านแซงคิวไปซื้อของก่อน)เสมอ
              รักเทพอัศวินครีอุสมากดุจเป็นเพื่อนแท้เพื่อนตาย และถึงตายก็ไม่ยอมเปิดเผยความลับของเพื่อน
              ครีอุสบอกว่า แลนซ์ เป็นเพื่อนสนิทที่สุดที่ไม่สนิทของเขา (เพราะภายนอกพวกเขาต้องทำเป็นไม่ถูกกัน)
           (ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดคือปราบหัวหน้าเทพอัศวินครีอุส)



*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินไอซอท อิชลาน (ฉายาชิวาว่า หรือ ชาวาว่า ตั้งโดยครีอุส)
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Ice
คุณลักษณะ(ภายนอก): นักดาบฝีมือดีที่สุดองค์หนึ่งของสิบสองเทพอัศวิน ทำหน้าที่เหมือนหน่วยรบแนวหน้า
                มีสมาธิและความมุ่งมั่นสูง  นิสัยเยือกเย็นเหมือตู้เย็น ใบหน้าไร้อารมณ์ตลอดกาล             
                นิสัย(จริงๆ):  แต่ตัวจริงน่ะ พูดมาก โดยเฉพาะกับครีอุส
                นิสัยเรียบง่าย ไม่ค่อยโกรธใคร หากแต่ยามโกรธขึ้นมาก็น่ากลัวมาก
                นอกจากการเป็นเทพอัศวินแล้วยังพ่วงตำแหน่งพ่อครัวขนมหวานมือหนึ่งของวิหารเทพแห่งแสงสว่างอีกด้วย
                (เหตุเพราะไอซอทนั้นเป็นลูกชายร้านขายเบเกอร์รี่นั่นเอง ฝีมือในการทำขนมของเก่าจึงเป็นที่ยอมรับอย่างมาก)
               ครีอุสเคยเปรยว่าถ้าตนเป็นผู้หญิงจะแต่งงานกับไอซอทเพราะจะได้มีขนมหวานและอาหารอร่อยๆกินตลอดชีวิต-*-
            (ชอบฤดูร้อน เพราะเวลาทำน้ำแข็งใสถึงมีคนกิน)


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินอาร์เทมิส ไวเออร์
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Moon
คุณลักษณะ(ภายนอก): หลงตัวเอง เย่อหยิ่ง ไม่ให้ความสนิทสนมกับคนปกติโดยทั่วไปง่ายๆ
                มักจะทำท่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตา           
นิสัย(จริงๆ):  นอกจากนิสัยข้างบนนี้แล้ว อาร์เทมิสไม่สามารถก้มหัวให้ใครได้(ไม่ได้แม้แต่ก้มหน้าหาของที่ตก)
             นั่นทำห้ครีอุสคิดว่าอาร์เทมิสก็เป็นอีกคนที่ยังไม่เคยเสียเวอร์จิ้นให้สาวๆเพราะคนคอแข็งอย่างนี้คงจะก้มลงทำอะไรใครลำบาก(55+)
            (ตามหาแฟนสาวที่สูง180เซนติเมตรขึ้นไปมานานแล้ว)<<เพราะก้มจูบใครไม่ได้ กร๊ากกกกก^o^



*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินเอกอน ลูก้า
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Golden Kris
คุณลักษณะ(ภายนอก): ขึ้นชื่อเรื่องความปากเสีย(ข้อนี้แหละที่ครีอุสอยากให้ไทรอนมาแทนตำแหน่งเอกอน)
                ถ้าพูดแล้วคนไม่โกรธจะไม่ยอมตายเด็ดขาด ว่ากันว่าถ้าคุยกับเขานานเกิน10นาที จะอายุสั้นลงอีก1ปี         
นิสัย(จริงๆ):  เอกอนเป็นพวกมาโซคิสต์ ชอบความเจ็บปวด ปกติจะชอบให้เทอร์มิสเฆี่ยนบ่อยๆ
                แต่ตอนหลังเอกอนได้เป้าหมายคนทรมานตนเองใหม่ที่ดูจะเต็มใจทำร้ายตนเองมากกว่า ก็คือ ครีอุส นั่นเอง-*- (อุสซาดิสต์อ่ะ)
            (ถึงจะปากเสียยังไงก็ไม่กล้าพูดกับหัวหน้าเทพอัศวินเทอร์มิสอยู่ดี==")


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*



เทพอัศวินอาร์เมล ไอเวส
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Stone
คุณลักษณะ(ภายนอก): ขึ้นชื่อเรื่องความดื้อรั้นถือทิฐิ ทิฐิของเขาแข็งพอๆกับก้อนหิน
               ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการทุบหัวเขาห้แตกน่ะง่าย แต่ถ้าคิดจะทำลายทิฐิของเขา สู้พลิกวิหารเทพแห่งแสงสว่างยังจะเป็นเรื่องง่ายซะกว่าอีก 
นิสัย(จริงๆ):  เหมือนข้างบนแหละ ขยาดการเป็นฑูตเชื่อมไมตรีที่แคว้นโยแลนด์ ไปอีกนาน (อยากรู้ว่าเกิดไรขึ้นหาอ่านดูฉบับComics เล่มไหนจำไม่ได้แล้วอ่าลืม)
            (ยืนยันหัวชนฝามาหลายปีแล้วว่าตัวเองไม่ใช่คนถือทิฐิ)


*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*


เทพอัศวินฮาเดส ลอเรน
ตำแหน่ง: The Holy Knight of Death
คุณลักษณะ(ภายนอก): เทพอัศวินแห่งความตาย ได้ชื่อว่ามีตำแหน่งเสมือนสายลับของเหล่าเทพอัศวินในอดีตกาล
               เชื่อว่าฮาเดสก็คือครีอุสร่างมืดที่แยกตัวไปปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง
               สังกัดหน่วยย่อยฝ่ายโคลด์บลัดซึงมีเทพอัศวินเทอร์มิสเป็นผู้นำ แต่เป็นโคลด์บลัดหนึ่งเดียวที่ยอมเชื่อฟังครีอุสด้วย ^^   
นิสัย(จริงๆ):  ลอเรน เคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เข้ามารับการทดสอบเป็นเทพอัศวินครีอุสเหมือนกับเกรเซียสแต่ไม่ผ่านการทดสอบ
               ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวินราชองครักษ์ประจำราชวงศ์แคว้นวอลเลซ
               นิสัยรักความยุติธรรมอย่างสุดโต่ง จริงจังกับชีวิตมาก เชื่อคนง่ายจนซื่อ(บื้อ)ซึ่งจุดนี้มักทำให้โดนเกรเซียสหลอกหรือแหย่เล่นเอาบ่อยๆ มีฝีมือดาบสูงมากจนเป็นที่ยอมรับ
            (มีความคิดขัดแย้งในตัวเองว่าการกินขนมที่หัวหน้าเทพอัศวินไอซอททำเป็นการสิ้นเปลือง แต่ถ้าไม่กินก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจคนทำ)

*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'**'*'**'*'**'**'*'*'*'*'*'**'*'*'**'*'*'**'*'*'*'*'*'*'*
*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'*'**'*'*'*'**'*'**'*'**'**'*'*'*'*'*'**'*'*'**'*'*'**'*'*'*'*'*'*'*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2010, 05:38:45 PM โดย HpJ »

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 06:03:33 PM »


เอามาทดลองให้อ่านเผื่อผู้สนใจนะคะ
ขอขอบคุณเว็บ : http://www.jamsai.com/story/Part.aspx?PartID=215987

ชื่อเรื่อง :  The Legend of Sun Knight   
ชื่อผู้แต่ง :  อวี้หว่อ (Yu Wo)
ชื่อตอน :  บทที่ 2 Rule : 2 กฎข้อที่สองของเทพอัศวินครีอุส : ‘เลิศล้ำ เชื่องช้าสง่างาม ที่สำคัญที่สุดคือผิวพรรณจะต้องขาวผุดผ่องเสมอ’
ตอนที่ :  3


เนื้อเรื่อง

                    เมื่อภารกิจการทูลขอให้พระราชายกเลิกการขึ้นภาษีสำเร็จลง ข้ากับเทมเพสก็ได้เวลาลาพักร้อน
   
    แต่จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะพระสังฆราชสังเกตเห็นว่าตาทั้งสองข้างของเทมเพสบวมแดงพอๆ กับไข่ไก่ แถมเดินอยู่ดีๆ ก็ชนเสาเข้าอีก ก็เลยยอมใจอ่อน...(หรือจริงๆ แล้วอาจจะกลัวว่าเสาต้นอื่นจะพังหมดก็ได้ แหม เสาในวิหารเทพแต่ละต้นล้วนแต่แกะสลักหรูหรางดงาม ราคาใช่ย่อยเสียที่ไหน!) ยอมให้พวกเราทั้งสองคนหยุดพักผ่อนก็เป็นได้
   
    พอถึงวันลาพักร้อน เทมเพสก็หนีออกจากอารามเทพแห่งแสงสว่างกลับมาที่ตำหนักเทพอัศวินอันศักดิ์สิทธิ์ ฐานที่มั่นของพวกเราชาวเทพอัศวินทันที
   
    เพราะในอารามเทพแห่งแสงสว่างมีนักบวชหญิงอาศัยอยู่ แต่ในตำหนักเทพไม่มีผู้หญิงเลยสักคนเดียว
   
    ถึงนักบวชหญิงที่อารามเทพแห่งแสงสว่างจะสวยหยาดเยิ้มพอๆ กับเทพธิดา แต่สำหรับคนที่มีลูกตาบวมเท่าไข่ห่าน การเหล่หญิงงามขนาดนั้นก็ยังคงเป็นเหมือนการทรมานอยู่ดี
   
    เทมเพสหายตัวไปเร็วพอๆ กับพายุ แต่ถึงข้าอยากจะเริ่มต้นการพักร้อนของข้าให้เร็วมากเท่าไหร่ก็ตาม ข้ายังคงต้องเยื้องย่างอย่างสง่างามต่อไป



   
        ทุกคนในแผ่นดินต่างรู้ดีว่า เทพอัศวินครีอุสเป็นผู้ที่มีท่วงท่าสง่างามที่สุด ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ไม่สามารถทำให้ข้าสูญเสียท่วงท่าสง่างามนี้ไปได้
   
    เมื่อก่อนนี้ข้านับถือท่านอาจารย์ของข้ามาก เพราะไม่ว่าเขาจะนั่ง นอน ยืน เดิน ขี่ม้า วิ่ง หรือตาย ท่านอาจารย์ก็ยังสามารถรักษาความงามสง่าไว้ได้
   
    จนกระทั่งวันหนึ่ง ข้าจะไปเข้าห้องน้ำแต่ดันลืมเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปทันที สิ่งที่ข้าได้เห็นคือภาพที่ท่านอาจารย์กำลังนั่งยองๆ พร้อมกับวัตถุสีดำๆ ที่กำลังตกลงสู่เบื้องล่าง...
   
    ข้ากับอาจารย์ฉีกยิ้มสว่างไสวของเทพอัศวินครีอุสให้แก่กัน ท่านจัดการเรื่องที่ควรจะทำให้เสร็จอย่างงามสง่า จากนั้นก็เช็ดก้นอย่างงามสง่า ยืดตัวขึ้นและสวมกางเกงอย่างงามสง่า ท่านอาจารย์เอื้อมมือมาจับข้าอย่างงามสง่า สุดท้ายก็จัดการข้าอย่างงามสง่า...
   
    อาจารย์ของข้ากล่าวอยู่บ่อยๆ ว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าต้องรู้ว่าแม้จะล้ม เทพอัศวินครีอุสก็จะต้องล้มอย่างงามสง่า!” 
 
    ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ตั้งใจแก้แค้นที่ข้าทำให้เขาต้องนั่งส้วมอย่างสง่างามหรือเปล่า เพราะท่านสั่งให้ฝึกล้มอย่างงามสง่าเป็นเวลาหนึ่งเดือน จนกระทั่งไม่ว่าข้าจะล้มเวลาไหน ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกะทันหันหรือเป็นอุบัติเหตุลักษณะใด ข้าก็สามารถล้มได้อย่างงามสง่าหาคนเปรียบไม่ได้
   
    ภายหลัง ข้าถึงกับใช้ท่าล้มของข้าเรียกความสงสารและเงินหนึ่งหมื่นเหรียญทองจากพระราชินีแคว้นต่างๆ ที่ถวายแด่วิหารเทพแห่งแสงสว่างเพื่อนำมาเป็น ‘ค่ายา’ ให้กับข้า
   
    แต่ว่าจากนั้นเป็นต้นมา ข้าก็ไม่กล้าไปยืนอยู่แถวการคลังของวิหารเทพอีกเลย เพราะมักจะมีมือขี้อิจฉาแอบผลักข้าตกจากบันไดอยู่เรื่อย
   
    ถึงการที่ต้องระมัดระวังลงกลอนประตูให้ดีเวลาเข้าห้องน้ำและการล้มอย่างสง่างามจะทำให้การใช้ชีวิตของข้ายากลำบากขึ้น แต่ข้ากลับชอบการเดินอย่างเชื่องช้าสง่างาม
   
    โดยเฉพาะเวลาเดินผ่านอารามเทพแห่งแสงสว่าง ท่วงท่าเยื้องย่างของข้าจะยิ่งเชื่องช้าและสง่างามมากขึ้น การเดินช้าๆ ทำให้ข้าสามารถจดจำใบหน้าของนักบวชหญิงแสนสวยในอารามเทพแห่งแสงสว่างได้
   
    ใช่แล้ว พวกเจ้าฟังไม่ผิดหรอก ไม่ใช่การดูหรือเหลือบมอง แต่เป็นการ ‘จดจำ!’
   
    เพราะคนทั้งแผ่นดินรู้ดีว่าเทพอัศวินครีอุสเป็นอัศวินที่มอบกายถวายใจและจงรักภักดีต่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่างมากที่สุด!
   
    ดังนั้นเทพอัศวินครีอุสจึงไม่สนใจอิสตรีเลยแม้แต่น้อย!
   
    ถึงแม้ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างจะงดงามเป็นหนึ่งในแผ่นดิน รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้ง แถมยังใส่ชุด;วับๆ แวมๆ เชิญชวนให้หันไปมอง เทพอัศวินครีอุสก็จะไม่สามารถทำแม้กระทั่งเหลือบตาไปดู ได้แต่มองตรงไปข้างหน้าไม่สามารถหันซ้ายหันขวาได้!
   
    พี่น้องเอ๋ย หากพวกเจ้าเป็นผู้ชาย พวกเจ้าคิดว่าจะทำได้ไหม
   
    ได้สิ! การมองตรงไปข้างหน้าไม่ลอกแลกคือวิธีการที่ถูกต้องที่สุด
   
    “ลูกเอ๋ย เจ้าก็อายุสิบสี่ปีแล้ว สมควรถึงเวลาที่ข้าจะสอนให้เจ้ามองผู้หญิง”
   
    “ท่านอาจารย์ขอรับ ท่านได้ถวายตัวให้กับองค์มหาเทพ ไม่สนใจต่ออิสตรีแล้วไม่ใช่หรือขอรับ”
   
    “ลูกเอ๋ย ข้ามอบกายเป็นข้าองค์มหาเทพ แต่พระองค์มิได้เอาตัวมาเป็นผู้หญิงให้ข้านี่ ดังนั้นถ้าต้องการก็ต้องไปหาผู้หญิงธรรมดาแทน”
   
    “...”
   
    “ลูกเอ๋ย ข้าจะบอกเจ้าให้ คนที่เป็นเทพอัศวินครีอุส แม้จะมีหญิงงามเดินอยู่ด้านข้าง เจ้าก็จะต้องมองไปข้างหน้าตลอดเวลาเท่านั้น และเพื่อจะทำให้ได้เช่นนี้ เจ้าจำเป็นต้องฝึกการมองตรงไปข้างหน้า จากนั้นก็ใช้หางตาจับภาพและจดจำรูปลักษณ์ของหญิงผู้นั้นไว้ในความคิด รอจนกระทั่งกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้วจึงนำภาพนั้นออกมาดูให้พอ!”
   
    โอ้วๆ...ด้านซ้ายนั่นก็ไม่เลว จำไว้!
   
    โอ้วๆๆ ด้านขวานั่นมาใหม่ใช่ไหม เหมือนจะยังไม่เคยเห็น จำไว้!
   
    “ครีอุส!”
   
    ข้าชะงักฝีเท้าแล้วหมุนกายอย่างสง่างามไปยังเสียงที่เรียกข้า ถึงในใจลึกๆ ข้าอยากจะด่าว่า จะเรียกหาอะไร! ข้ายังจำนักบวชหญิงที่มาใหม่ยังไม่ได้เลย!
   
    “ไอซอทที่รัก ขอให้พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างหลอมละลายความหนาวเย็นในจิตใจของเจ้า”
   
    เทพอัศวินไอซอท ตัวแทนแห่งความหนาวเย็น เป็นคนหนึ่งในเทพอัศวินทั้งสิบสองที่ไม่ขึ้นต่อข้า
   
    ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
   
    ทุกคนต่างรู้ดีว่า เทพอัศวินทั้งสิบสององค์นั้นได้แบ่งออกเป็นฝ่ายเล็กๆ อีกสองฝ่าย ฝ่ายที่ขึ้นต่อข้าก็คือ “ฝ่ายเฮมิช” ซึ่งเป็นฝ่ายที่มีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตา ส่วนอีกฝ่ายที่มีเทพอัศวินเทอร์มิสเป็นผู้นำคือ “กลุ่มโคลด์บลัด” ซึ่งประกอบไปด้วยอัศวินที่มีนิสัยเลือดเย็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนอ่อนโยนกับคนเย็นชาน่ะอยู่ร่วมกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพอเจอหน้ากันก็จะทะเลาะกันทุกที
   
    “ครีอุส เจ้าควรจะเรียนรู้ความเด็ดขาดจากองค์มหาเทพเสียบ้าง เจ้ายอมรามือจากพระราชาหมูตอนนั่นง่ายเกินไป”
   
    ใบหน้าของไอซอทไร้อารมณ์ แต่เขาไม่ได้ทำหน้าตาแบบนี้ใส่ข้าคนเดียวหรอกนะ ใครๆ ก็รู้ว่าใบหน้าของเทพอัศวินไอซอทจะเย็นชาเหมือนก้อนน้ำแข็งตลอดเวลา ถึงจะมีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องใบหน้าของเขา ก็ไม่สามารถละลายน้ำแข็งบนใบหน้าเขาไปได้
   
    “พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างทำให้ข้าได้รู้ว่า ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นคนชั่วช้า แต่เขาสามารถกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดีได้ ข้าไม่อาจละทิ้งโอกาสในการช่วยเหลือผู้คนให้เป็นคนดีได้หรอก”
   
    ข้าทำสีหน้าเหมือนกำลังเวทนาคนทั้งโลก จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความอัดอั้น ‘ตามหลักการ’ เทพอัศวินไอซอทจะไม่พูดมาก เพราะฉะนั้นเขาจะพูดกับข้าอีกเพียงประโยคเดียวเท่านั้น แล้วบทสนทนาของเราทั้งสองคนก็จะจบลง
   
    “คนชั่วก็ควรได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสม ไม่ควรให้โอกาสพวกมันกลับตัว!” พอไอซอทพูดจบก็เดินหนีไปทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ข้าพูดต่อ
ข้าชอบเขาตรงนี้ล่ะ
   
    ไอซอทเกลียดการทะเลาะยิ่งกว่าข้าซะอีก แต่เราก็ต้องทำตามอย่างที่ทุกๆ คนรู้กัน จึงยอมโต้เถียงด้วยสักสองสามประโยค
   
    นอกจากนี้ ทุกคนต่างรู้ว่าเทพอัศวินไอซอทเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก ไม่เคยแสดงสีหน้าและเกลียดการพูดจาที่สุด ดังนั้นการที่เขาอยู่ๆ ก็หนีไปจึงเป็นเรื่องปกติ
   
    แม้ทุกครั้งที่เราสองคนเจอหน้ากันก็ต้องทะเลาะกันสักสองสามประโยค แต่จริงๆ แล้วพวกเราก็สนิทกันนะ เวลาที่อากาศร้อนมากๆ เขาจะเสกก้อนน้ำแข็งให้ข้ากินอยู่เรื่อย
   
    แน่นอนว่าเพื่อแสดงออกว่าเราสองคน ‘ไม่ถูกกัน’ เขาก็จะเริ่มต่อว่าข้าก่อน รอจนกว่าข้าจะตั้งรับได้แล้วก็จะขว้างชามให้ข้ารับ ตามด้วยต่อว่าข้าอีกสักสองประโยค แล้วก็เหวี่ยงขวดน้ำหวานรสบลูเบอรี่มา สุดท้ายก็เสกสะเก็ดน้ำแข็งโจมตีใส่ข้ากองโต จนน้ำแข็งท่วมหัวท่วมหูข้า รวมทั้งพูนขึ้นในชามที่อยู่ในมือของข้าด้วย อ้าเย็นดีจัง!
   
    แล้วข้าก็มีน้ำแข็งใสรสบลูเบอรี่กิน แถมยังรักษาภาพพจน์ไม่ถูกกันระหว่างเราสองคนไว้ได้ด้วย
   
    เพราะอย่างนี้ข้าถึงชอบคนคนนี้มาก ถึงข้าจะเป็นคนอ่อนโยน ส่วนเขาเย็นชาเหี้ยมโหด ทุกคนในแผ่นดินต่างรู้ว่าเราสองคนไม่มีทางมาเป็นเพื่อนกันเด็ดขาด เราสองคนจึงเป็นได้แต่ ‘เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน’ เท่านั้น



       
    พูดถึงเพื่อน ข้าพักร้อนทั้งทีก็น่าจะไปเยี่ยม ‘เพื่อนสนิท’ ของข้าสักหน่อย เทพอัศวินไทรอน ตัวแทนแห่งผืนแผ่นดิน
   
    ทุกๆ คนต่างรู้ว่าเทพอัศวินไทรอนนั้นมีนิสัยซื่อสัตย์และจงรักภักดีเป็นที่สุด รูปร่างสูงใหญ่แต่กลับไม่ค่อยมีความมั่นใจ บางทียังพูดติดอ่างด้วยซ้ำ...
   
    “ขะ...ขอโทษที ข้าไม่ค่อยชินเวลาพูดกับผะ...ผู้หญิง...” เทพอัศวินไทรอนก้มหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
   
    ในตอนที่ข้าเปิดประตูห้องของเทพอัศวินไทรอน ก็ทันได้ยินเขาพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สามสิบเอ็ดหรือสามสิบสอง กับหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าคนที่สามสิบเอ็ดหรือสามสิบสองในห้องของเขา
   
    แล้วเขาก็หันมาจ้องข้าด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเป็นครั้งที่สามสิบเอ็ดหรือสามสิบสอง ถึงจะดูเหมือนโกรธมากแต่หน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มซื่อๆ ทักทายข้าอยู่ “ครีอุส เจ้า...เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
   
    “ใช่แล้ว ด้วยคำอวยพรและการสนับสนุนจากองค์มหาเทพ ข้าสามารถปฏิบัติงานลุล่วงได้ตามประสงค์ของพระสังฆราชแห่งอารามเทพแห่งแสงสว่าง”
   
    “อ้อ! เหอๆๆ ยินดีกับเจ้าด้วย! เจ้ามีเรื่องอะไรหรือถึงมาหาข้าได้” ไทรอนหัวเราะแก้เขิน
   
    แต่ข้าก็ตาไม่บอดถึงกับมองไม่เห็นไฟที่ลุกอยู่ในดวงตาของเขาหรอกนะ
   
    “ด้วยสำนึกแห่งพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ข้าจึงมาทักทายเจ้า เพื่อนที่สนิทที่สุดของข้า เนื่องจากพระสังฆราชพอใจกับงานของข้ามาก จึงมิได้ให้ข้ารับความเมตตาจากอารามเทพแห่งแสงสว่างอีก ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจจะนำลัทธิขององค์มหาเทพออกไปเผยแผ่ในโลกกว้าง”
   
    ซึ่งก็หมายความว่า ข้าจะลาพักร้อนแล้ว!
   
    ข้าแน่ใจว่านัยน์ตาของไทรอนตะโกนว่า “โธ่เว้ย! จะพักร้อนก็รีบๆ ไสหัวไปซะ” แล้วหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาจ้องหน้าข้า พนันได้เลยว่านางไม่รู้หรอกว่าข้ากำลังพูดอะไรอยู่ ถ้ารู้จักข้าไม่ถึงสามปีก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายในสิ่งที่ข้าพูดได้แน่นอน
   
    นี่คือสาเหตุหลักที่ข้าไม่ได้ควงหญิงสักที ทุกครั้งที่ข้าพยายามพูดตีสนิทหญิงสาวที่ข้าชอบ พวกนางมักจะคิดว่าข้ากำลังเทศนาอยู่ จากนั้นก็จะรีบทิ้งเงินทำบุญเอาไว้แล้ววิ่งหนีไปทันที
   
    “ดีจริง ได้พักร้อนด้วย”
   
    ไทรอนยังหัวเราะแห้งๆ เหมือนเดิม หน้าโง่ๆ ซื่อๆ แบบนี้แหละที่ไม่รู้ว่าหลอกหญิงสาวมาได้กี่คนต่อกี่คนแล้ว
   
    ถ้าเทียบกับเทมเพสที่ต้องยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวๆทุกคนจนตาเป็นตะคริว แต่ยังเป็นผู้ชายบริสุทธิ์อยู่ ในขณะที่ไทรอนกลับเป็นคนที่ได้ผู้หญิงมาครอบครองจริงๆ เพราะคนทั้งแผ่นดินรู้ว่าเทพอัศวินไทรอนเป็นคนที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีเป็นที่สุด แล้วคนแบบนี้จะมีนิสัยเจ้าชู้ได้ยังไง
   
    เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้พอๆกับการที่เทพอัศวินครีอุสสามารถดื่มเหล้าพันจอกได้โดยไม่เมานั่นล่ะ!
   
    ถึงข้าจะเห็นหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าคนที่สามสิบเอ็ดหรือไม่ก็สามสิบสองในห้องของเขา แต่ผู้ชายคนนี้กลับได้ครองที่หนึ่งในการจัดอันดับผู้ชายที่หญิงสาวอยากได้มาเป็นสามีมากที่สุดหลายปีติดต่อกัน
   
    แม้ข้าจะหล่อกว่า ตำแหน่งสูงกว่า เงินเดือนมากกว่าเทพอัศวินไทรอนหลายเท่า แต่ข้าก็ไม่เคยติดอันดับของ “ผู้ชายที่ผู้หญิงอยากได้มาเป็นสามี” เลยสักครั้ง เพราะผู้หญิงทั้งแผ่นดินต่างรู้ดีว่า เทพอัศวินครีอุสรักแต่องค์มหาเทพและไม่สนใจอิสตรี
       
    เฮอะ!
   
    ข้าก็เลยเกลียดเขาเพราะเหตุผลนี้
   
    แต่ก็พอๆกับที่เขาเกลียดข้านั่นแหละ เพราะข้ามักจะไปเปิดประตูห้องของเขาทุกครั้งที่เขากำลังหลอกล่อผู้หญิงอยู่
   
    เพียงแต่ทุกคนต่างรู้กันว่า เทพอัศวินครีอุสและเทพอัศวินไทรอนเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด...พวกเราจึงเป็นได้เพียงเพื่อนสนิทที่เกลียดกันมากที่สุดเท่านั้น!     
   
    ข้าฉีกรอยยิ้มสว่างไสวที่อุตส่าห์ฝึกฝนมากว่าสิบปีให้นาง ไม่นานหญิงสาวคนนั้นก็หน้าแดง และอยากจะก้มหน้าเพราะความอาย แต่ก็ไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าของข้าได้
   
    ถึงข้าจะไม่เคยติดอันดับ “ผู้ชายที่ผู้หญิงอยากได้เป็นสามีมากที่สุด” แต่ข้าก็ได้ครองที่หนึ่งในการจัดอันดับ “ชายหนุ่มผู้งดงามดุจอรุณรุ่ง” ติดต่อกันมานานเหมือนกัน การที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งลืมไปชั่วขณะว่าชายหนุ่มที่ตนเองอยากได้มาเป็นสามีคือใครไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด!
   
    “ครีอุส เจ้าจะไปพักร้อนไม่ใช่เหรอ” ไทรอนทำหน้าดุดัน แต่น้ำเสียงก็ยังฟังดูใสซื่อสุดๆ ความสามารถในการเสแสร้งของเขาดีพอๆกับใบหน้ายิ้มแย้มของข้า “ถ้าไม่รีบ เวลาพักร้อนจะหมดซะก่อนนะ”
   
    ข้าทอดถอนใจ “ต้องเป็นองค์มหาเทพอย่างแน่นอนที่ดลใจให้เจ้าย้ำเตือนให้ข้ารีบนำพระวจนะของพระองค์ออกไปเผยแผ่แก่ชาวโลก ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องจำใจลาจากเจ้าเสียแล้ว”
   
    ไสหัวไปซะ!
   
    ถึงดวงตาคุกกรุ่นของเขาจะส่งข้อความนี้มาให้ข้า แต่สีหน้าของเขากลับเหมือนกำลังรอคอยด้วยความหวัง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “รอคอยที่จะได้พบกับเจ้าอีก สหายข้า”
   
    ฮ่าๆๆ! ข้าก้มหน้าพร้อมรอยยิ้มให้ แล้วปิดประตูลงอย่างมีความสุข ท่าทางคราวนี้ไทรอนจะพ่ายแพ้อีกแล้ว เพราะดูท่าหญิงสาวคนนั้นจะหลงใหลข้าจนใจลอยกู่ไม่กลับซะแล้ว ฮ่าๆๆ!
   
    ข้าจะมีความสุขเป็นพิเศษหากสามารถหยุดยั้งคนอื่นไม่ให้จีบผู้หญิงได้ ดีมากๆ ข้าว่าการพักร้อนคราวนี้ท่าทางจะเริ่มต้นได้ดีนะ
   
    โอ้ไม่นะ! เดี๋ยวก่อน ข้ายังพักร้อนไม่ได้นี่นา

.
.
(มีต่อ)
.
.
v
v
   
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2010, 06:29:17 PM โดย HpJ »

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 06:36:33 PM »



ถึงข้าจะเล่าว่าข้ากับเทพอัศวินไอซอทจะสนิทกัน แต่ในเทพอัศวินทั้งสิบสององค์ คนที่ข้าสนิทด้วยมากที่สุดไม่ใช่เขา ก่อนที่จะพักร้อน เห็นทีข้าต้องไปเยี่ยมเพื่อนที่ข้าสนิทที่สุดจริงๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นเขาจะหาว่าข้า ’เห็นเรื่องอื่นดีกว่าเพื่อน’ ได้...เห็นเรื่องที่คนอื่นมีผู้หญิง ก็เลยรีบไปขัดขวางเขาจนลืมเพื่อนของตัวเอง
   
    ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีคดีที่ต้องจัดการมากมาย ข้าคิดว่าถ้าไปรอใน ’ห้องน้ำ’ ของเรือนจำ ข้าก็น่าได้เจอกับเทอร์มิส
       
    แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ข้าเพิ่งยกม้านั่งสองตัวกับน้ำหนึ่งกะละมังเข้ามาในห้องน้ำ แล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างสง่างามข้างๆ โถปัสสาวะยังไม่ถึงสามนาที อัศวินผู้มีเส้นผมสีดำ ดวงตาสีดำ และสวมชุดอัศวินสีดำก็ผลักประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งเข้ามาแล้วนั่งยองๆ อาเจียนอ๊อกๆ อยู่ข้างๆ
       
    ระหว่างที่ข้านั่งอย่างสง่างามอยู่บนม้านั่งรอเขาอาเจียนให้เสร็จ ก็ขอถือโอกาสแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ผู้ชายดำสามประการ (ตาดำ ผมดำ ชุดดำ) ผู้นี้คือ ’เพื่อนที่สนิทที่สุดที่ไม่ใช่เพื่อน’ ของข้า และเป็นหัวหน้าของกลุ่มโคลด์บลัด เทพอัศวินเทอร์มิส ตัวแทนแห่งการลงทัณฑ์
   
    คนทั้งแผ่นดินต่างรู้กันดีว่า คนที่โหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาเทพอัศวินทั้งสิบสององค์ จนชาวบ้านพากันใช้ชื่อนี้ไปขู่เด็กสามขวบที่ไม่ยอมนอนจนร้องไห้ คือเทพอัศวินเทอร์มิสผู้มีหน้าที่นำคนผิดไปลงโทษ
   
    เนื่องจากข้าเป็นหัวหน้าของฝ่ายเฮมิช ส่วนเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มโคลด์บลัด ทำให้เราสองคนต้องเป็นอริกัน
   
    ข้าจะพูดเสมอว่า “ด้วยพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง บาปของเจ้าจะได้รับการอภัย”   

    เขาก็จะพูดว่า “ด้วยอำนาจเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง เจ้าจักต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่ทำไว้”
   
    ทำให้รู้ว่าเทพเจ้าแห่งแสงสว่างเป็นคนที่...เป็นเทพเจ้าที่มีสองบุคลิก!
   
    จะไปทางไหนก็ไม่ไปให้สุด เทพอัศวินทั้งหลายก็เลยเหมือนจะสวนทางกัน
   
    เทพอัศวินเทอร์มิสผู้โหดเหี้ยมและใจทมิฬที่สุด น่าจะเข้ามาอาเจียนในห้องน้ำตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสลงโทษคนผิด
   
    ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะเขาได้ฝึกลงโทษคนครั้งแรกเมื่อตอนอายุสิบสามปี สิบสามปีเท่านั้น เป็นเรื่องปกติที่เด็กอายุสิบสามคนหนึ่งไม่สามารถรับภาพหยดเลือดและชิ้นเนื้อปลิวว่อนที่เกิดจากการเฆี่ยนตีได้
   
    ครั้งแรกที่เขาต้องฝึกลงโทษคนจริง อาจารย์ของข้าก็พาข้ามาฝึกการประณามว่าที่เทพอัศวินเทอร์มิสด้วยเช่นกัน
   
    ตอนที่ข้าเห็นนักโทษที่ถูกมัดอยู่บนไม้กางเขนถูกโบยเสียจนไม่เป็นผู้เป็นคน ข้ากลับรู้สึกปลอดโปร่งอย่างประหลาด
   
    เจ้ามันชั่วช้า!
   
    เจ้ารู้หรือเปล่าตลอดชีวิตของเทพอัศวินครีอุสสามารถรักได้แค่องค์มหาเทพ ไม่สามารถรักผู้หญิงได้ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าวิธีการพูดของอัศวินครีอุสจะทำให้ข้าจีบหญิงไม่ติดไปตลอดชีวิต
   
    เจ้า...เจ้ามันคนชั่วช้าที่ใช้วิธีต่ำทรามหลอกล่อผู้หญิง! มันทำให้ข้า (อิจฉา)...สะอิดสะเอียนมาก! คนอย่างเจ้าถึงตายก็ไม่ควรได้ตายดีหรอก!
   
    ในขณะที่ข้ากำลังคิดว่าเขาควรจะตายยังไงดี ท่านอาจารย์ก็แอบสะกิดข้า ข้าถึงนึกขึ้นมาได้ว่า ข้ามาที่นี่ก็เพื่อฝึกประณามเทพอัศวินเทอร์มิสในอนาคตนี่นา
   
    ข้าเปลี่ยนเป็นสีหน้าเวทนาต่อคนทั้งโลกทันที และพูดกับเขาอย่างประหลาดใจว่า “นี่ช่างโหดร้ายเหลือประมาณ เจ้าใช้วิธีเหล่านี้มาทำร้ายพสกนิกรขององค์มหาเทพได้อย่างไร ถึงพวกเขาจะเป็นคนผิด แต่พวกเขาก็มีโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจได้! พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างไม่มีทางใช้วิธีการเช่นนี้เด็ดขาด!”
   
    เอาล่ะ! ข้าด่าเสร็จแล้ว ทีนี้ตาเจ้าบ้างล่ะ
   
    ข้าหันกลับไปมองท่านอาจารย์ เขากำลังยิ้มอย่างชื่นชม ข้าจึงรู้ว่าข้าประณามเขาได้ไม่เลวเลย
   
    แต่เทพอัศวินเทอร์มิสตัวน้อยที่มีผมดำ ตาดำ ชุดดำก็ไม่ยอมเปิดปากขึ้นพูดสักที แถมข้าสาบานได้ว่าตอนที่ข้าด่าเขา ข้าเห็นแววตาสำนึกผิดและความเสียใจ จากนั้นก็เห็นหยดน้ำตาวิบวับอีกด้วย
   
    แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา เขาสลัดอาจารย์ของเขาแล้วผลักข้าออก สุดท้ายก็ใช้มืออุดปากวิ่งหนีไปจากตรงนั้น
   
    “ลูกเอ๋ย เจ้ายังไม่รีบตามไปสั่งสอนเขาด้วยพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างอีกหรือ” อาจารย์ของข้าผลักบ่าข้าเบาๆ
   
    อะไรนะ ยังต้องตามไปด่าอีกเหรอ ไม่ดีล่ะมั้ง เด็กคนนั้นร้องไห้แล้วนี่...
   
    “อย่าลืมนำผ้าขนหนู น้ำเปล่า และม้านั่งไปด้วยสองตัว” พอท่านอาจารย์สั่งคำสั่งแปลกๆ เรียบร้อย ก็หันไปโต้เถียงกับเทพอัศวินเทอร์มิสเรื่องความเมตตาและความเฉียบขาด
   
    ถึงข้าจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านอาจารย์ จึงรีบไปหาน้ำมากะละมังหนึ่ง ผ้าขนหนูข้ามีอยู่แล้ว หนีบม้านั่งไปด้วยสองตัว แล้วก็รีบวิ่งไปหาว่าที่คู่อริของข้า
   
    สุดท้ายข้าก็พบเขากำลังอาเจียนใกล้จะเป็นลมอยู่ข้างๆ โถปัสสาวะ เขาอาเจียนจนไม่มีอะไรให้ออกมาอีก
   
    ข้ายืนอึ้งอยู่ด้านข้างจนขาชา แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าข้าเอาม้านั่งมาด้วยสองตัว จึงยื่นม้านั่งตัวหนึ่งให้เขา แล้วก็นั่งเองตัวหนึ่ง
   
    ข้านั่งเงียบอยู่อีกสักพัก ในที่สุดเขาก็หยุดอาเจียนสักที
   
    เห็นสภาพเลอะเทอะของเขาแล้ว ข้าจึงเลื่อนกะละมังน้ำกับผ้าขนหนูไปให้ เขาก็รับไปด้วยอาการงงๆ จากนั้นก็เริ่มทำความสะอาดตัวเอง
   
    พอเห็นว่าของที่นำมาเอาไว้ใช้ทำอะไร...ข้าก็รู้สึกเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง หรือว่าเมื่อก่อนนี้อาจารย์ของข้าก็ได้เห็นคู่อริของท่านอาเจียนจะเป็นจะตายอย่างนี้ในห้องน้ำเช่นกัน
   
    ว่าที่เทพอัศวินเทอร์มิสซักผ้าขนหนูเสร็จก็ส่งคืนให้ข้า เขาไม่กล่าวขอบคุณ เพราะเขาพูดแบบนั้นไม่ได้ เทพอัศวินครีอุสและเทพอัศวินเทอร์มิสคือคู่อริกันตลอดกาล เราทั้งสองคนต่างเป็นตัวแทนคนละด้านของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ซึ่งจะไม่มีวันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวได้เด็ดขาด!
   
    เราทั้งสองคนได้แต่มองตากันและกันไม่พูดไม่จา ข้าไม่อยากต่อว่าเขาด้วยพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างอีก เขาเองก็ไม่ต้องการโต้กลับข้าด้วยความเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างเช่นกัน
   
    แล้วเราก็มักจะพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับพระเมตตาและความเฉียบขาดกันในห้องน้ำตั้งแต่นั้นมา ข้าจะนำน้ำสะอาด ม้านั่ง และผ้าขนหนูมาด้วยทุกครั้ง และก่อนการลงทัณฑ์เขาก็จะเตรียมน้ำชาและขนมเอาไว้ พอการลงโทษเสร็จสิ้น ก็จะนำมาที่ห้องน้ำทันที
   
    พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าหลังจากอาเจียนแล้วจะรู้สึกหิว
   
    แต่ว่าขนมที่เขาเตรียมมามักจะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ แต่เป็นพวกขนมหวานลูกกวาดที่เคี่ยวจากน้ำตาลของโปรดข้ามากกว่า
   
    ในเวลานี้เทพอัศวินเทอร์มิสใกล้จะอาเจียนเสร็จแล้ว ซึ่งจะตามด้วยการที่ข้าเลื่อนกะละมังน้ำ และผ้าขนหนูไปให้เขา เขาจะค่อยๆ ลงมือทำความสะอาดร่างกายและพูดกับข้าว่า “ครีอุส นานแล้วนะที่เจ้าไม่สนใจพวกนักโทษที่จะถูกลงทัณฑ์ ข้านึกว่าในที่สุดเจ้าก็เข้าใจแล้วว่ามีแต่ความเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้คนชั่วทำความเลวได้”
   
    ข้าเข้าใจความหมายของเขา เพื่อนสนิทกำลังด่าข้าว่าทำไมไม่มาหาเขาตั้งนาน
   
    “พระเมตตาขององค์มหาเทพไม่ได้อยู่แค่เพียงในตำหนักเทพอัศวินอันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น วังหลวงเองก็ต้องการแสงสว่างแห่งพระเมตตาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชาที่ต้องการฟังพระวจนะแห่งองค์มหาเทพ”
   
    ข้าถูกส่งให้ไป ’สั่งสอน’ พระราชาหมูตอนน่ะ
   
    “พระราชาคงจะปฏิบัติกับเจ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่กระมัง มีแต่ความเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างเท่านั้นที่สามารถเรียกความเคารพจากฝ่าบาทได้”
   
    เจ้าอ้วนนั่นคงรับมือยากล่ะสิ แววตาของเทอร์มิสเต็มไปด้วยความเห็นใจ
   
    “ด้วยความอุตสาหะของเทพอัศวินเทมเพส ในที่สุดฝ่าบาทก็สามารถเข้าพระทัยในพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างได้”
   
    ต้องยกความดีความชอบให้เทมเพส ไม่อย่างนั้นเจ้าอ้วนก็คงไม่ยอมลดภาษีหรอก
   
    “เทพอัศวินเทมเพสคงจะเสียใจอย่างสุดซึ้งเป็นแน่ที่ไม่ได้ใช้ความเฉียบขาดขององค์มหาเทพจัดการกับราชสำนัก ดวงตาของเขาคงจะไม่เห็นความชั่วช้าของวังหลวงกระมัง”
   
    เขาเหล่ตามองผู้หญิงทั้งวังหลวง...ตอนนี้ตาของเขายังไม่บอดใช่ไหม
   
    “เขาใช้ดวงตามองเห็นความผิดพลาดในวังหลวง แม้จะรู้สึกทุกข์ทนเหลือคณา แต่เขาก็ยังคงใช้พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างน้อมนำพวกเขา”
   
    โชคดีที่ตาของเขายังไม่บอด แต่ก็เกือบๆ ล่ะนะ
   
    “หวังว่าองค์มหาเทพคงจะไม่ลงโทษดวงตาทั้งสองข้างของเขาที่เห็นคนกระทำผิดแล้วไม่ลงทัณฑ์”
   
    น่าสงสาร...หวังว่าดวงตาของเขาจะดีขึ้นในไม่ช้า
   
    “ด้วยพระนามแห่งเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง พระสังฆราชทรงอนุญาตให้เขาใช้แสงอาทิตย์อันอบอุ่นในโลกกว้างช่วยปลอบประโลมดวงตาของเขาเป็นเวลาสามวัน ส่วนข้าก็โชคดีเหลือเกินที่สามารถติดตามเขาไปได้ด้วยพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง”
   
    เขากับข้าได้ลาพักร้อนสามวัน
   
    “หวังว่าแสงอาทิตย์ยามเที่ยงวันจะสามารถทำให้พวกเจ้าได้เข้าใจถึงความเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ความเฉียบขาดของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างจะอยู่ด้วยทุกหนแห่ง”
   
    ขอให้พวกเจ้าสนุกกับวันหยุด! แล้วเจ้าจะไปเที่ยวที่ไหน
   
    “พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างอยู่ทั่วทุกอณูของผืนแผ่นดินนี้ แม้กระทั่งในห้องของเทพอัศวินครีอุสผู้ต่ำต้อย”
   
    ข้าจะมุดหัวนอนอยู่ในห้อง
   
    ในที่สุดใบหน้าเคร่งเครียดของเทอร์มิสก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา เขาหัวเราะแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ยื่นขนมมาให้ข้า “หวังว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะได้รับความเฉียบขาดขององค์มหาเทพ”
   
    “ข้าก็ขออวยพรให้เจ้าได้รับพระเมตตาขององค์มหาเทพโดยเร็ววัน”
   
    ข้ารับขนมมากัด อืม รสบลูเบอรี่ อร่อยจริงๆ




(สองคนนี้น่ารักมาก อ่านใจรู้ใจกันสุดๆ ตอนหลังๆอุสเรียกมิสว่าเป็นพยาธิในท้องของข้า เพราะอุสไม่เคยปกปิดคามลับใดๆกับมิสได้เลย>///<)




    ข้าบอกว่าได้ลาพักร้อนสามวัน บอกกับเทพอัศวินเทอร์มิสว่าจะนอนอยู่ในห้อง...นี่อะไรของพวกเจ้า ไม่เชื่อหรือไงว่าข้าจะนอนอยู่ในห้องจริงๆ
   
    อะไรนะ ให้ไปอาบอบนวดงั้นเหรอ
   
    อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ข้าไม่อยากช่วยวิหารเทพหาเงินหรอกนะ! ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงพวกนั้นพอฟังข้าพูดจาพลอดรักเสร็จแล้วคิดว่าข้ากำลังเทศนา สุดท้ายก็โยนเงินทำบุญใส่หน้าข้าแล้ววิ่งหนีไปจนหมด
   
    อะไรนะ ข้าชอบดื่มเหล้า ให้ไปร้านขายเหล้างั้นเหรอ
   
    พวกเจ้าบ้าไปแล้ว!
   
    จำได้ไหมว่าข้าคือใคร
   
    ข้าคือเทพอัศวินครีอุสนะ! เทพอัศวินสามจอกเมามายจะไปดื่มเหล้าที่ร้านขายเหล้าได้ยังไง
   
    พวกเจ้าคิดว่าพอข้าได้พักร้อนแล้วก็ไม่ต้องเป็นเทพอัศวินครีอุสล่ะสิ
   
    ท่านอาจารย์พูดเสมอว่า “เป็นเทพอัศวินครีอุสเพียงวันเดียว ก็ต้องยิ้มสว่างไสวไปชั่วชีวิต” 
 
    ถึงกำลังลาพักร้อน ข้าก็ยังคงเป็นเทพอัศวินครีอุส แค่เปลี่ยนไปเป็นเทพอัศวินครีอุสที่ลาพักร้อนเท่านั้นเอง
   
    ถึงกำลังลาพักร้อน แต่ข้าก็ยังคงต้องยิ้มสว่างไสวดั่งดวงอาทิตย์อยู่ตลอดเวลาเหมือนเดิม
   
    ถึงกำลังลาพักร้อน เวลาข้าพูดกับใครก็ต้องหนีไม่พ้นพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง
   
    ถึงกำลังลาพักร้อน ถ้าข้าเจอผู้หญิงสวยๆ ก็ยังต้องใช้หางตาจดจำรูปลักษณ์ของนางไม่เปลี่ยนแปลง
   
    เพราะฉะนั้นข้ายอมนอนอุตุอยู่ในห้องดีกว่า อยากจะทำหน้าบูดแค่ไหนก็ได้ จะด่าเจ้าหมูตอนยังไงก็ได้ จากนั้นก็ดึงความทรงจำของผู้หญิงแต่ละคนออกมาจินตนาการยังไงก็ได้...
   
    คิดถึงสาวงามพลางจิบเหล้าที่เทพอัศวินแห่งแสงสว่าง ’รุ่นก่อน รุ่นก่อนๆ รุ่นก่อนๆๆ...’ แอบหมักเอาไว้ใต้อุโมงค์ที่มีประตูลับอยู่ใต้เตียง เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณของเทพอัศวินรุ่นก่อนๆ และเพื่อเทพอัศวินในอนาคต ข้าจึงแอบขโมยแอปเปิ้ลในห้องครัวกลับมาด้วย
   
    ท่านอาจารย์พูดเสมอว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าสามารถไม่เชี่ยวชาญการใช้ดาบได้ เพราะถ้าฝีมือการใช้ดาบไม่ดี อย่างมากก็แค่ตายเร็วเท่านั้น เจ้าอาจจะไม่เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งองค์มหาเทพได้ เพราะอย่างมากก็ไม่สามารถรักษาอาการเจ็บปวดของคนป่วย แค่อวยพรให้เขาได้เข้าเฝ้ากับเทพเจ้าแห่งแสงสว่างได้ในเร็ววันก็พอ แต่ทว่า! เจ้าจะต้องเรียนรู้วิธีการหมักสุราให้ดี! ไม่เช่นนั้นเมื่อเจ้าไปเข้าเฝ้าองค์มหาเทพแล้ว เทพอัศวินรุ่นหลังๆ ไม่ได้ดื่มสุรารสดี พวกเขาจะสาปแช่งเจ้าไปตลอดกาล!”
   
    อาจารย์ของข้าเชี่ยวชาญในการหมักเหล้าองุ่น ข้าจึงมีเหล้าองุ่นมากมายไว้ดื่ม ข้าเชี่ยวชาญการหมักเหล้าแอปเปิ้ล เพราะฉะนั้นลูกศิษย์ของข้าก็จะมีเหล้าแอปเปิ้ลไว้ดื่มมากมายเช่นกัน
   
    แต่ผลจากการที่ข้าชอบไปหยิบแอปเปิ้ลในครัวก็คือ แม่ครัวจะเตรียมแอปเปิ้ลให้ข้าเป็นผลไม้ล้างปากหลังอาหารทุกมื้อ...
   
    ความรู้สึกของข้าที่มีต่อแอปเปิ้ลจึงไม่ต่างจากความรู้สึกที่มีต่อเทพอัศวินไทรอน ข้าคือเทพอัศวินครีอุสผู้ชื่นชอบแอปเปิ้ลที่เกลียดแอปเปิ้ลมากที่สุด!


    เพื่อที่จะไม่ต้องยิ้ม!
   
    เพื่อที่จะไม่ต้องพูดคำว่า “พระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง”!
   
    เพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับแอปเปิ้ล!
   
    ข้าจึงขลุกตัวนอนอยู่แต่ในห้อง ฉวยโอกาสบำรุงผิวของข้าไปด้วย
   
    อะไรนะ พวกเจ้าบอกว่าผู้ชายจะบำรุงผิวไปทำไมอย่างนั้นเหรอ
   
    พี่น้องเอ๋ย พวกเจ้าไม่รู้ซะแล้ว...ทั่วทั้งแผ่นดินต่างรู้กันดีว่าเทพอัศวินครีอุสจะต้องมีเส้นผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า และมีผิวขาวนวลสวยผุดผ่องเหมือนหนุ่มน้อย!   

    และเพื่อให้มีผิวขาวนวลเหมือนหนุ่มน้อย เทพอัศวินครีอุสทุกองค์จึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพอกตัวให้ขาว แต่ข้าเชื่อว่าข้าจะต้องเป็นคนที่ขาวที่สุดอย่างแน่นอน
   
    ถึงข้าจะได้ชื่อว่าเป็นเทพอัศวินครีอุส แต่ข้าก็ไม่ชอบออกไปโดนแดดนักหรอก เพราะผิวของข้าคล้ำได้ง่ายมาก ทุกครั้งที่ข้าถูกแดด ข้าจะกลับมาพอกตัวทั้งคืนเพื่อคืนความใสให้กับผิว
   
    ในขณะเดียวกัน คนที่คล้ำง่ายอย่างข้าจะต้อง ’ออกไปต่อสู้อยู่ภายใต้แสงแห่งอโณทัยทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่ออวดผิวผ่องขาวเนียนให้เป็นที่ประจักษ์’ ข้าจึงต้องหาวิธีการต่างๆ ในการพอกตัวให้ขาวขึ้นด้วย
   
    สูตรพอกตัวขาวที่ข้าคิดค้นได้ล่าสุดคือ ’หยดน้ำมะนาวสิบหยดลงในนมเปรี้ยว ผสมกับน้ำจากดอกกุหลาบสามสิบดอก น้ำจากดอกลาเวนเดอร์สิบดอก สุดท้ายผสมกับแป้งพอกหน้า’ จากนั้นก็ทาให้ทั่วตัว และอบไอน้ำสักหนึ่งชั่วโมง
   
    ’ข้าเป็นเทพอัศวินครีอุสที่เคยฝึกมาแล้ว ไม่ใช่อัศวินห้ามทำตามเด็ดขาด!’
   
    รับประกันว่าถ้าได้อบไอน้ำทั้งวัน ก็จะได้ผิวขาวเหมือนนมเปรี้ยว และนวลเนียนเหมือนไข่หงส์แน่นอน
   
    จริงๆ แล้วข้าแอบสงสัยว่าเทพอัศวินครีอุสองค์แรกอาจจะเป็นโรคคนเผือก! ไม่อย่างนั้นเขาจะออกกำลังกาย ออกรบ และรับบัญชาจากพระราชาใต้แสงอาทิตย์ โดยที่ผิวยังขาวเหมือนเด็กหนุ่มจนคนทั้งแผ่นดินจำติดเป็นภาพลักษณ์ได้ยังไง
   
    ไม่ว่าเทพอัศวินครีอุสองค์แรกจะเป็นโรคผิวเผือกหรือไม่ ข้าก็ได้แต่แก้ผ้าเพื่ออบตัวทุกๆสัปดาห์โดยไม่มีทางเลือกอื่นอีก
   
    แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้าเกลียดยิ่งกว่าแอปเปิ้ล ก็คือเวลาที่ข้าแก้ผ้าทาแป้งพอกเพื่อผิวขาวไปทั้งตัวและกำลังจะเข้าไปอบตัว ก็จะมีไอ้บ้าที่ไหนสักคนมาเคาะประตู...
   
    “ปังๆๆ!”
   
    พวกเจ้าดูเถอะ ให้ตาย! มันเป็นคำสาปใช่ไหม
       
    แต่ข้าก็ชินแล้วล่ะ
   
    “ไม่ทราบว่าเป็นท่านใดกันที่ได้รับสุรเสียงอันอ่อนโยนจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง ให้มาหาข้าเพื่อสนทนาเรื่องพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง”
   
    ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ ล่ะก็ ข้าจะลอกแป้งบนตัวทั้งหมดยัดไว้ในปากของมันซะ!
   
    “ข้าคือเคเรส ดีจังเลยที่เจ้าอยู่ที่นี่ ออกมาเร็วเข้า มีคนเห็นอมนุษย์อยู่ในกำแพงเมือง”
   
    เทพอัศวินเคเรสงั้นเหรอ เขาคือตัวแทนแห่งพันธุ์ไม้ ซึ่งเป็นเทพอัศวินที่อยู่ฝ่ายเฮมิชที่ข้ารู้สึกชอบจริงๆ คนหนึ่ง
   
    เหตุผลก็คือ เขาเป็นคนดีจริงๆ
   
    “เคเรสที่รัก กรุณารอสักครู่ พระเมตตาแห่งองค์มหาเทพย้ำเตือนให้ข้าชำระร่างกายให้หมดจดก่อนที่จะออกไปพบโลกภายนอก”
   
    เป็นเพราะรีบ ข้าก็เลยลอกแต่แป้งพอกที่อยู่บนหน้า แล้วรีบสวมเสื้อผ้าออกมา
   
    แต่พอข้าออกมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะโจมตีอมนุษย์หรือจะโจมตีข้ากันแน่ พูดยากเหมือนกันแฮะ...ในเมื่อตอนนี้สภาพของข้าเหมือนอมนุษย์ที่กำลังจะแปลงร่างมากกว่า!
   
    “ครีอุส เจ้าค่อยๆ แต่งตัวก็ได้ไม่ต้องรีบ วางใจได้ ข้าจะช่วยเจ้าจับอมนุษย์ตนนั้นแล้วปล่อยให้เจ้าเป็นคนลงมือเอง!”
   
    พอเทพอัศวินเคเรสพูดจบ ข้าก็ยินเสียงวิ่งหนีของเขา
   
    เจ้าดูสิว่าเขาเป็นคนดีขนาดไหน! ถ้าข้าเป็นผู้หญิง ข้าจะใช้น้ำเสียงที่อ่อนหวานที่สุดพูดกับเขาว่า “เจ้าช่างเป็นคนดีเหลือเกิน!”
   
    ทุกๆ คนต่างรู้ดีว่าสิ่งที่เทพอัศวินครีอุสรังเกียจที่สุดก็คือ อมนุษย์ที่สมควรตายแต่ไม่ยอมตาย สัตว์นรกเหล่านี้ขัดต่อหลักการของเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง การใช้ชีวิตของมันสวนทางกับปณิธานของเทพอัศวินครีอุส เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เทพอัศวินครีอุสเจอกับอมนุษย์ก็จะต้องจับมันมาสังหาร!
   
    แน่นอนว่าต้องสังหารได้ เพราะอมนุษย์คือสิ่งเดียวที่เทพอัศวินครีอุสไม่ต้องให้อภัย
ซึ่งหมายความว่าข้าสามารถตะคอกใส่มัน สับมันเป็นชิ้นๆ ระบายความเก็บกดจากการที่ต้องยิ้มทุกวัน พูดถึงพระเมตตาของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างทุกวัน ไม่สามารถมองหญิงงามได้ตามใจอยาก ลงที่เจ้าอมนุษย์พวกนี้ได้เต็มที่!
   
    ท่านอาจารย์มักกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าต้องออกไปค้นหาอมนุษย์บ่อยๆ นะลูก”
       
    “เป็นเพราะว่าเทพอัศวินครีอุสถวายคำสัตย์ไว้ว่าจะกวาดล้างพวกอมนุษย์ใช่ไหมขอรับ”
   
    “ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะเจ้าต้องใช้พวกมันมาเป็นเครื่องระบายความเครียด”
   
    “อะไรนะขอรับ”
   
    “เจ้าลองคิดดู เจ้าจะต้องยิ้มทุกวัน ต้องอภัยให้ใครต่อใครทุกวัน ทุกถ้อยทุกความที่พูดออกมาเจ้าจะต้องสรรเสริญเยินยอเทพเจ้าแห่งแสงสว่างที่เจ้าอาจจะไม่มีโอกาสพบพานเลยตลอดชีวิต หากเจ้าไม่มีหนทางระบายออกจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะไม่สามารถทำหน้าที่เทพอัศวินครีอุสที่ดีได้ และหากทำไม่ได้แล้วเจ้าก็จะเสียตำแหน่งไป และเมื่อเสียตำแหน่ง เจ้าก็จะเครียดจนกลายเป็นโรคจิต สุดท้ายเจ้าก็จะตรอมใจจนไปเข้าเฝ้าองค์มหาเทพ เจ้าคงไม่อยากจะมีจุดจบที่น่าอนาถเช่นนั้นใช่หรือไม่”
   
    “...ไม่อยากขอรับ”
   
    “ลูกเอ๋ย เพราะเหตุนี้เจ้าจึงต้องไปหาอมนุษย์มาระบายความเครียดให้ตัวเองเดือนละครั้ง เข้าใจไหม”

 
----------------.....ติดตามที่เหลือได้ในเล่ม เพราะหลังจากนี้ได้มันส์แน่^^......--------------------



ปิดท้ายด้วย wallpaper  "The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน"
Thanks All wallpaper and pictuers : http://www.enter-books.com
















ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 07:59:52 PM »


ลืมอีก2หัวข้อที่จะแนะนำ55+

พอดีกันย์ไปเจอแฟนฟิกโดจินเรื่องนี้มาเลยเอามาฝาก น่ารักมั่กๆ เป็นการ์ตูนฮาๆสั้นๆ ลองตามไปดูนะคะ

คำเตือน!! ต้องอ่านคาแรกเตอร์ของ ครีอุส เทมเพส และ เทอร์มิส ให้เข้าใจก่อนนะคะ ไม่งั้นจะงงว่าเค้าทำไรกัน

ปล.เรื่องตำนานเทพอัศวินนี้ เทพอัศวินแต่ละรุ่นจะดำรงตำแหน่งคนละ20ปี ซึ่งพอถึงเวลาใกล้เกษียณ จะต้องหาลูกศิษย์(ทายาท)มาฝึกเป็นเทพอัศวินรุ่นต่อไป
เรื่องที่แนะนำนี้เป็นเทพอัศวินรุ่นปัจจุบัน
ส่วนในการ์ตูนที่ท่านกำลังจะเข้าไปอ่านต่อไปนี้ เทพอัศวินรุ่นนี้(รูปข้างบน)ยังเป็นแค่ว่าที่เทพอัศวิน..อยู่ ซึ่งแต่ละคนต้องฝึกบุคลิกของเทพอัศวินแต่ละคนที่ตนจะเป็นให้ได้
อย่างเทมเพสก็ต้องฝึกการเหล่สาวจีบสาว,
ครีอุสก็ต้องฝึกยิ้มห้สว่างไสวเข้าไว้
และเทอร์มิสก็ต้องฝึกเก๊กขรึมตีหน้าโหดด้วย^^


เมื่อพร้อมแล้วตามไปอ่าน [dojin LSK] อดีตของซีโอ  ได้เล้ยย!!

อดีตของซีโอ 1
http://monnie.exteen.com/20100419/dojin-lsk-1

อดีตของซีโอ 2
http://monnie.exteen.com/20100423/dojin-lsk-2

อดีตของซีโอ 3
http://monnie.exteen.com/20100425/dojin-lsk-3

อดีตของซีโอ 4
http://monnie.exteen.com/20100503/dojin-lsk-4

อดีตของซีโอ 5
http://monnie.exteen.com/20100509/dojin-lsk-5


น่ารัก+ฮาขำๆ ไปอ่านกันดูนะคะ เราไม่กล้าเอามาลงนนี้กลัวเจ้าของเค้าจะว่าเอา ตามลิ้งกันไปละกันเนอะ^^


****************************************************************************
--------------------------------------------------------------------------------------------------
****************************************************************************





แล้วก็ไปเจอควิซมาค่ะ ใครสนใจไปลองทำได้ว่าคุณจะได้เป็นเทพอัศวินคนไหน^^

* คุณเป็นครายในThe Legend of sun knightพลิกตำนานเทพอัศวิน(เฮมิช)
* http://my.dek-d.com/minami-mina/funnyquiz/show.php?id=31118
*
* คุณเป็นใครในโคลด์บลัด
* http://my.dek-d.com/Olau_Sadoria/funnyquiz/show.php?id=17323
*
* คุณเป็นใครในเฮมิช
* http://my.dek-d.com/Olau_Sadoria/funnyquiz/show.php?id=17329
*
* คุณเป็น fan club lsk มากแค่ไหน!!
* http://my.dek-d.com/pop-puri/funnyquiz/show.php?id=26641




ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 04:46:52 PM »
รีบมาแจ้งข่าวก่อนที่พี่กันย์นะหงอยเหงา
จะบอกว่ากาฬเริ่มจับเล่ม 1 ขึ้นมาอ่านแล้วนะคะ
(หลังจากมันซื้อมาดองไว้เป็นเืดือน)
เห็นรูปแบบน่าปกแล้ว  อยากซื้อให้ครบเซต
เพราะหนุ่มหล่อหน้าปกแต่ละเล่ม  น่าสะสมมากกกกกกกกกกก   :o

อ๊ะ  ไม่ใช่เหตุผลนั้นอย่างเดียว  เริ่มอ่านไปได้ 2-3 หน้าแล้วค่ะ 
อ่านช้าหน่อยเพราะว่าทำงานไปด้วย 
จะคอมเมนต์ว่า  ทั้งคนเขียนและคนแปลเรียบเรียงได้ดีทีเดียวล่ะ
ในการบรรยาย  คือบางเรื่องขาดตกส่วนที่เหมือนจะไม่สำคัญไป
แต่มันช่วยสร้างอรรถรสของเนื้อหาได้เลยแหละ
และ ครีอุส เป็นไรที่....เหอะๆๆ  น่าอึดอัดแทนจริงๆ
 
"ในนามพระเมตตาของเทพแห่งแสงสว่าง..."

ปากเอื้อนเอ่ยยิ้มหวาน แต่ในใจนี่่ด่าเป็นไฟเลย
 ;D


กาฬไปเล่นควิชที่พี่ักันย์ทิ้งไว้ให้มาควิชนึง 
ได้อันนี้อ่ะ

* คุณเป็นครายในThe Legend of sun knightพลิกตำนานเทพอัศวิน(เฮมิช)
เดมอส เนเฟล
ภายนอก ชอบระเหเร่ร่อนไปตามต้นไม้นั่งชมทิวทัศนียภาพรอบด้านไม่ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ ลึกลับนิดๆ(มั้ง)หายตัวเเวบไปเเวบมาได้อย่างน่ากลัว
ภายใน ก็เหมือนๆภายนอกชอบหมกตัวในห้องสมุดจนไม่ได้โดนเเดดมาหลายปีถ้าพาไปข้างนอกคงใกล้ตายกับเเสงเเดด= =;;



โคตรตรงเลย
 :icon_rolleyes:


edit

มาแจ้ข่าวว่ากาฬอ่านจบเล่มหนึ่งแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีเวลาไปซื้อเล่มสอง (ถังแตกอีกแล้วด้วยอ่ะ ::))
หนุกแบบเพลินๆ ดีอ่ะ  ไม่ถึงกับต้องลุ้นแทบตาย  แต่อ่านไปก็หัวเราะไปเพราะความ...เอ่อ  นิยามไม่ถูกแฮะว่าจะใช้คำว่าอะไร
ก็ใครจะคิดว่าเทพอัศวินที่เท่ห์สุดๆ หล่อสุดๆ สง่างามสุดๆ  จะมีเบื้องหลังที่.....5555555
 :icon_confused:

อยากจะอ่านเล่มสองต่อจัง เพราะอยากได้หน้าปกคนหล่อๆ เล่มใหม่อ่ะ
พี่กันย์   กาฬว่าครีอุสกับเทอร์มิส  ว๊ายยยวายยยย
ว่าแต่ว่า  มันมีแค่ แปดเล่มจบเหรอ  กาฬอยากให้มีสิบสองเล่มอ่ะ   จะได้มีหน้าเทพอัศวินทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 18, 2010, 11:46:30 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: แนะนำหนังสือ : The Legend of Sun Knight พลิกตำนานเทพอัศวิน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 09:45:57 PM »
อืมช่ายแปดเล่มจบ
นี่อยากบอกว่ายิ่งอ่านแต่ละเล่ม ยิ่งเพิ่มดีกรีความฮาบ้าบอยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นนิยายที่แหวกแนวสุดขั้ว "พลิก"ตำนานเทพอัศวินสมชื่อจริงๆ ฮ่าๆ
บอกแล้วว่าอ่านเรื่องนี้ไม่มีผิดหวัง^^
พี่อยากให้มี13เล่มนะ แบบเป็นรูปเทพอัศวินทั้ง12 และเล่มสุดท้ายก็รวมเทพอัศวินทั้ง12ไง อิอิ แต่ก้นะ มันมีแค่8นินา




จบเรื่องนี้ไปอ่าน NO HERO ต่อรับรองสนุกไม่แพ้กัน แม้ดีกรีความฮาน้อยกว่า แต่เรื่องนั้นมีความน่าทึ่งและล้ำสมัยกว่า เป็นจินตนาการของโลกในยุคที่เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสุดมาก และมีพวกแวมไพร์ อมนุษย์ต่างๆมาผสมด้วย สนุก+มันส์มากๆ และที่สำคัญ วายได้อีก ฮิยะฮ่าๆๆๆ ปล.นักเขียนคนเดียวกัน

NO HERO
v
v
v

โจชัวร์ แวมไพร์รุ่นที่5 ที่มีความฝันอยากเป็นพ่อบ้านที่เป็นพ่อบ้านจริงๆกับเขาซะที



คุณหนูอันเซียร์ เด็กหนุ่มธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดา เพราะเขามักทำให้คุณพ่อบ้านอึ้งและแปลกใจอยู่เสมอ(และนิสัยน่ารักมากกกกกก><!!)



4ฮีโร่แห่งยุค
-เฟิร์สวินท์ -ผีเสื้อเดียวดาย -ตะวันรัตติกาล -ดรากอนพีซ






คึคึคึ ยัยนี่จิ้นไปแล้ว><!!




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2010, 09:47:02 PM โดย กันย์ณภัทร »