ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

pim_4262

เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:20:06 PM »

นับตั้งแต่ที่บัวตายไป  อังคาสก็เศร้าใจมาก และพยายามที่จะลืมสาวบ้านป่าที่ชื่อ บัวแย้มไปให้จงได้

แต่แล้ววันหนึ่ง เสด็จพ่อและเสด็จแม่ก็มีกำหนดการที่จะไปเยี่ยมเยียนเมืองเพื่อนบ้าน ซึ่งเมืองนั้นก็คือเมือง

“พิณราช” เป็นเมืองของกษัตริย์ศุภเชษฐ์  ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับศาตรา  และแน่นอนว่าเกราะกายสิทธิ์ทุกคนจะต้อง

ไปด้วย รวมทั้งเภตรา อาธาร สุดหล่อและจั๊กแหล่น

ตั้งแต่ที่สไบทองถูกเนรเทศเมื่อครั้งที่ให้กำเนิดสุริยะ ศาตราก็ไม่มีโอกาสมาพิณราชอีกเลย..

เมื่อขบวนเสด็จของศาตราเดินทางมาถึงพิณราช  ทางพิณราชก็มีการต้อนรับเป็นอย่างดี..

ศุภเชษฐ์ – ลมอะไรหอบมาล่ะ ศาตรา สไบทอง

ศาตรา – ก็เราเห็นมาเราไม่ได้มาพิณราชนานแล้ว ก็เลยแวะมาเยี่ยมเจ้าน่ะ

สินิทรา -  อืม แล้วนั่นลูกๆของท่านกับมเหสีสไบทองรึเพคะ

สไบทอง -  ใช่เพคะ 

ศุภเชษฐ์ – พวกเจ้านี่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึง พ่อกับแม่ของพวกเจ้ามากเลยนะ เราก็มีศักดิ์เป็นลุงกับป้าของ
                  พวกเจ้าสิเนี่ยเอ้าหลานๆมานั่งก่อนมา

สุริยะ – ไม่เป็นไรหรอกพระเจ้าค่ะ พวกหลานขอออกไปเดินเล่นดีกว่า

ศาตรา – อืม  งั้นพวกลูก ออกไปก่อนเดี๋ยวพ่อจะให้คนไปตาม

ลูกทั้ง7 – พระเจ้าค่ะ/เพคะ

ศุภเชษฐ์ – พวกท่านมีอะไรรึเปล่า

ศาตรา -  คือ..เราจะมาสู่ขอลูกสาวของเจ้าให้กับอังคาส ลูกชายคนที่3ของเราน่ะ

สินิทรา(ภรรยา– ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนเลยน่ะหรือเพคะ

ศาตรา – ใช่ แต่เราคิดว่า ลูกสาวของท่านทั้งสองเหมาะสมกับลูกเรามากที่สุด

ศุภเชษฐ์ – หมื่นวาทิน ไปตามลูกๆของศาตรามา  อานนท์ ไปตามลูกสาวเรามา

หมื่นวาทิน/อานนท์ – พระเจ้าค่ะ


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ทางด้านจันทราภาและพุทธรัตน์ก็เดินชมสวนของเมืองพิณราชอยู่

จันทราภา – พิณราชนี่สวยจริงๆเลย

พุทธรัตน์ – เราไม่เคยเห็นเมืองใดสวยเช่นนี้มาก่อน

ทั้งคู่ยิ้มให้กัน โดยไม่สังเกตว่า ไอศูรย์ตามมาด้วย

หมื่นวาทินตามพวกเกราะกายสิทธิ์มาครบทุกคนแล้วจึงพาไปที่ตำหนักใหญ่

ศุภเชษฐ์ – มากันแล้วเหรอ

ทั้ง 7 คน- พระเจ้าค่ะ/เพคะ

ศาตรา – พ่อมีเรื่องจะบอกพวกเจ้า

จันทราภา – เรื่องอะไรหรือเพคะเสด็จพ่อ

ศาตรา – พ่อกับแม่ปรึกษากับศุภเชษฐ์แล้วว่า พ่อจะให้อังคาสแต่งงานกับธิดาของศุภเชษฐ์ เจ้าคงไม่ขัดข้องใช่มั๊ย                 
อังคาส

อังคาสสีหน้าหนักใจแต่ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธไปได้เพราะอยู่ต่อหน้าศุภเชษฐ์

อังคาส – พระเจ้าค่ะ

ศุภเชษฐ์ – แล้วเจ้าอานนท์ทำไมไปตามลูกเรานานเสียจริง

ระหว่างนั้นเอง อานนท์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวของศุภเชษฐ์

ทุกคนหันไปมองก็ถึงกับชะงัก  นางคือ บัวแย้ม สาวบ้านป่านั่นเอง แต่ทำไมนางถึงกลับกลายมาเป็นเจ้าหญิงผู้

สูงส่งเช่นนี้  อังคาสยิ้มออกมาอย่างดีใจ ร้องเรียกบัวเบาๆ  บัวแย้มได้ยินหันไปมองหน้าอังคาสอย่าง งงงง

อังคาสเสียใจมากที่บัวแย้มจำเขาไม่ได้

สไบทอง – บัวแย้ม 

ศุภเชษฐ์ – สไบทองเจ้ารู้จักลูกสาวเราด้วยหรือ

สไบทอง – เพคะ

ศุภเชษฐ์ – บัวมาหาพ่อมาลูก

บัวแย้ม – เสด็จพ่อให้อานนท์ไปตามลูกมีอะไรหรือเพคะ

ศุภเชษฐ์ – นี่ศาตรากษัตริย์แห่งรัตนบุรี เพื่อนของพ่อเอง

บัวแย้ม – เพคะ

สินิทรา – เสด็จพ่อมีพระประสงค์จะให้ลูกแต่งงานกับอังคาสน่ะลูก

บัวแย้มหน้าสลดไปนิดนึง  หันไปมองอังคาส แล้วกระซิบกับสินิทราว่า

บัวแย้ม – ใช่คนที่หน้าดุๆคนนั้นรึเปล่าเพคะเสด็จแม่

สินิทราพยักหน้า

ศุภเชษฐ์ – ลูกมีข้อขัดข้องอะไรรึเปล่า

บัวแย้ม – ไม่มีเพคะ แต่ลูกยังไม่ขอตอบตกลงนะเพคะ ลูกขอคิดดูก่อน

อังคาส – ทูลลาพระเจ้าค่ะ

สไบทอง และเกราะกายสิทธิ์ทั้ง6คนรู้ดีว่าอังคาสนั้นเสียใจเพียงไร  ที่อังคาสต้องเดินหนีออกไปแบบนี้เป็นเพราะ

บัวแย้มพวกเขารู้ดี..

ศุภเชษฐ์ – อ้าว.. ไปซะแล้ว บัวออกไปดูพี่เขาหน่อยสิลูก

บัวแย้ม – ก็ได้เพคะ ลูกทูลลา

บัวแย้มเดินออกมาหน้าตำหนักก็ไม่เห็นอังคาสเสียแล้ว  จึงเดินไปถามทหาร ทหารบอกว่าเห็นเดินไปในสวนย่อม

บัวแย้มจึงวิ่งตามไป.

บัวแย้ม – เดี๋ยวก่อนสิอังคาส ท่านจะรีบไปไหน

อังคาส – บัว (พูดออกมาสีหน้าดีใจ แต่ก็ต้องสลดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าบัวจำเขาไม่ได้)

อังคาส – เจ้ามีอะไรกับเรา

บัวแย้ม – ก็เสด็จพ่อให้เรามาดูแลเจ้า (บัวพูดออกมาหน้ามุ่ยนิดๆ)

อังคาส – งั้นก็แปลว่าเจ้าไม่ได้อยากมาแต่พ่อเจ้าใช้ให้มา

บัวแย้ม – ก็ใช่น่ะสิถามได้

บัวแย้มหารู้ไม่ว่าคำพูดของนางนั้นเฉือดเฉือนหัวใจของอังคาสเข้าอย่างจัง

อังคาส – งั้นเจ้าก็กลับไปซะเถอะ  เราอยากอยู่คนเดียว

บัวแย้ม – หยึย ไม่เอาหรอกขืนกลับไปใครเห็นเราไม่ได้อยู่กับเจ้ามีหวังเราตายแน่ๆ เสด็จพ่อกับพ่อของเจ้าคงต้อง

ต่อว่าเราเป็นแน่

อังคาส – งั้นก็ตามใจ

ว่าแล้วอังคาสก็เดินหนีไป

บัวแย้ม – อ้าว รอเราด้วยสิ

เมื่อเดินมาถึงท้ายสวนบัวแย้มชวนให้อังคาสมานั่งคุยกันแต่อังคาสปฏิเสะและเลือกที่จะหาที่นั่งที่อยู่ไกลจากบัว

แย้มทำให้บัวแย้มเข้าใจว่าอังคาสรังเกียจตน

บัวแย้ม – อังคาส นี่เจ้ารังเกียจเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ

บัวแย้มถามขึ้นมา

อังคาสตกใจ

อังคาส – เปล่านะบัว เราไม่เคยรังเกียจเจ้าเลย

บัวแย้ม – แล้วทำไมเจ้านั่งไกลซะขนาดนั้น

จันทราภา – อ้าว มาอยู่นี่กันนี่เอง

จันทราภา ประกายพรึก สุริยะ และศนิวารเดินเข้ามาขัดจังหวะ

อังคาส – อืม

สุริยะ – บัวแย้ม นี่เจ้าจำอังคาสไม่ได้จริงๆเหรอ

บัวแย้ม – ก็เราไม่เคยรู้จักพวกเจ้ามาก่อนนี่นา  ใครจะไปจำได้ล่ะ

อังคาสรู้สึกปวดร้าวในหัวใจอย่างมาก

จันทราภา – มานี่เราจะเล่าให้เจ้าฟัง

จันทราภาและประกายพรึก พาบัวแย้มไปอีกทาง  ศนิวารและสุริยะจึงอยู่ดูแลอังคาส


nanajung

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:22:08 PM »
เจ๋งจิงสาวน้อย รวดเร็วทันจายมั่กๆ

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:36:13 PM »

เมื่ออังคาสนึกถึงเกลียวทองรู้สึกเจ็บใจอย่างมากเพราะนางเป็นคนพาบัวแย้มไป และสะกดให้ปุโลหิตรับทายาทปอบ  ถ้าเกลียวทองไม่พาบัวไป เค้าคงเอาเกราะกายสิทธิ์หรือสังวาลย์ช่วยรักษาบัวได้

ทางด้านสามสาว

บัวแย้ม – พวกเจ้าจะเล่าอะไรให้เราฟัง

จันทราภา – ก็เรื่องของเจ้ากับอังคาสไงล่ะ

บัวแย้ม – แล้วอังคาสมาเกี่ยวอะไรด้วย

ประกายพรึก – เกี่ยวสิเกี่ยวเต็มๆเลยล่ะ

บัวแย้ม – เกี่ยวยังไง

จันทราภา - บัวแย้ม..ฟังนะ..เราเป็นพี่น้องกับอังคาส เรารู้ดีว่าพี่น้องเรารู้สึกอย่างไร อังคาสรักเจ้า รักมานานแสนนาน แต่เจ้า..เจ้ากลับไปรัก..

บัวแย้ม - กับใคร...

ประกายพรึก - รักกับศัตรูน่ะสิ บดีสร พี่น้องต่างแม่ของเรา

บัวแย้มนิ่งอึ้ง

จันทราภา -  ครานึงเจ้าบาดเจ็บสาหัส เพราะเจ้าปกป้องบดีสร อังคาสว่าทำไมเจ้าต้องปกป้องมัน แต่เจ้ากับพูดปกป้องมัน...

บัวแย้ม - แล้ว....ทำไมเค้าไม่บอกเรา ว่าเค้ารักเรา

จันทราภามองหน้าประกายพรึก ปประกายพรึกพยักหน้าเป็นเชิงว่าเล่าต่อเถอะ

จันทราภา - อังคาสบอกเจ้าแล้ว..ทางการกระทำ แม้จะรุนแรงไปบ้าง แต่เค้าก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารักและห่วงเจ้ามากแค่ไหนเราดูออกทุกคนดูออก แต่ก่อนที่จะได้ทันสารภาพมันก็สายไปแล้ว...

บัวแย้ม - แล้วทำไมเราถึงตาย

ประกายพรึกกำมือแน่น ก่อนจะเป็นผู้เล่าแทนจันทราภาที่ก้มหน้าเงียบ เมื่อบัวแย้มเอ่ยถาม ถึงนางที่ไม่พึงประสงค์ทีกล่าวถึง

ประกายพรึก - เจ้าตายเพราะนางแม่มด เกลียวทอง เจ้าเป็นปอบบัว..เจ้าคือปอบ เจ้าขอร้องให้บดีสรพาออกไปแต่มาเจอกับพวกเราเสียก่อน เกลียวทองใช้โอกาสที่เรากำลังปะทะกับบดีสรเอาตัวเจ้าไป สะกดให้เจ้าหลับ และ ถ่ายทายาทปอบให้ปุโลหิต เป็น ปอบต่อไป...และเจ้าก็..

บัวแย้ม - ตาย..
บัวแย้มน้ำตาซึม ประกายพรึกและจันทราภาต่างสงสารหญิงสาวตรงหน้าจับใจ แต่ก็ได้แต่ปลอบ

ประกายพรึก – นี่บัว...พวกเรายังสงสัยอยู่เลย ว่าในเมื่อเจ้าตายไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงได้กลับกลายมาเป็นธิดาของกษัตริย์ศุภ

เชษฐ์  ถ้าเจ้ากลับมาเกิดใหม่เจ้าน่าจะยังเป็นเด็กอยู่

บัวแย้ม – เราไม่รู้เราจะลองนึกดู ทำไมเราจำอะไรไม่ได้เลย

บัวแย้มพูดออกมาด้วยความเจ็บใจตัวเอง

จันทราภา – ไม่เป็นไรหรอก  เรามีเรื่องมาพูดกับเจ้าแค่นี้ แต่ที่สำคัญเจ้าควรจะไปดูใจอังคาสซะบ้างนะเพราะเรา

รู้สึกได้ว่า อังคาสรักเจ้ามาก

ประกายพรึก – เมื่อครั้งที่เจ้าเคยถูกทำร้าย อังคาสแทบจะทำลายเมืองทั้งเมื่องได้เลย

บัวแย้ม – แล้วเราจะพยายามนึก

จันทราภา – เราไปล่ะ

จันทราภากับประกายพรึกก็เดินไปปล่อยให้บัวแย้มยืนนึกเรื่องราวเพื่อนางจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง

จันทราภา – ประกายพรึก เจ้าจะไปเดินเล่นทางโน้นกับเราไหม

ประกายพรึก – ไม่ดีกว่าเราขอตัว

จันทราภา – อืม แล้วเจอกัน
                             ************************************
จันทราภาเดินไปได้สักพักก็เห็นสวนดอกไม้สวยงาม จันทราภารีบวิ่งไปทันทีโดยไม่สังเกตว่ามีใครคนนึงเดิน

ตามหลังมา

จันทราภา – ดอกไม้สวยจังเลย  ไม่น่าเชื่อเมืองอย่างพิณราชจะมีบรรยากาศรอบๆเมืองที่สวยงานเช่นนี้

ไอศูรย์ – นั่นสิ 

จันทร์ราภาตกใจทิ้งดอกไม้ลง

จันทราภา – ไอศูรย์  จะมาแย่งเกราะเราไปอีกหรือไง  ไม่มีวันซะหรอก เข้ามาเลย

จันทราภาเตรียมพร้อมจะสู้

ไอศูรย์ – เจ้านี่เจอหน้าข้าทีไรทำอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อทุกที

จันทราภา – อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง
ว่าแล้วก็ปล่อยพลังใส่ไอศูรย์ไป  โชคดีที่ไอศูรย์หลบทัน  จึงกลับไปที่บุรีปลายฟ้าเพราะไม่อยากสู้กับจันทราภา

จันทราภา – หายไปไหนแล้วล่ะ  ขี้ขลาดที่สุด

ในบุรีปลายฟ้า

อัมพิกา – อ้าวพี่ไอศูรย์เป็นอะไรน่ะ หนีอะไรมาเหรอ

ไอศูรย์ – ไม่ใช่เรื่องของเจ้า

อัมพิกา – ฮั่นแน่..ทะเลาะกับจันทราภามาอีกรึไง

ไอศูรย์ไม่ตอบเพียงแต่ส่งสายตาดุดันไปให้อัมพิกาแทนแล้วก็เดินหัวเสียออกไป

อัมพิกาก็ได้แต่ยืนงงอยู่คนเดียว

กษัตริย์ศาตราจะมาพักที่พิณราชเพื่อปรึกษาเรื่องต่างๆกับกษัตริย์ศุภเชษฐ์หลังจากที่ทั้งสองพระองค์ไม่พบเจอกัน

มานานมากแล้ว

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:38:10 PM »
ทางด้านบัวแย้มก็กลุ้มใจเรื่องความทรงจำของเธอจึงนำเรื่องนี้ไปเลียบๆเคียงๆถามพระมเหสีสินิทราพระมารดา

ของเธอ

สินิทรา – อ้าวบัวมีอะไรรึเปล่าลูก มานี่สิมานั่งร้อยมาลัยกับแม่

บัวแย้ม – เอ่อ. ..เสด็จแม่เพคะ คือว่า..

สินิทรา – มีอะไรเหรอลูก

บัวแย้ม – คือว่าลูกอยากรู้ว่าทำไม... เอ่อ..อันที่จริงตอนนี้ลูกต้องเป็นเด็กมิใช่หรือเพคะ

สินิทราตกใจนิดๆแต่ก็ต้องรีบปรับอารมณ์

สินิทรา – ทำไมลูกถามเช่นนั้นล่ะ  มีอะไรเล่าให้แม่ฟังมาเดี๋ยวนี้นะลูก อย่าปิดบังแม่

บัวแย้ม – คือ.. เอ่อ..พวกเจ้าออกไปก่อน เราต้องการคุยกับเสด็จแม่ตามลำพัง

บัวแย้ม – พระธิดาจันทราภากับพระธิดาประกายพรึก เล่าให้ลูกฟังว่า เมื่อก่อน..ลูกเป็นปอบ 

สินิทรา – หา..ตายจริง หลานจันทราภากับหลานประกายพรึกเอาอะไรมาเล่าให้ลูกฟังเนี่ย


บัวแย้ม – เดี๋ยวก่อนเพคะเสด็จแม่... จันทราภาบอกว่าลูกยังเป็น...

สินิทรา – เป็นอะไร

บัวแย้ม – เป็นคนที่พระโอรสอังคาสมีใจให้น่ะเพคะ

สินิทรา – อะไรกันจริงหรือเนี่ย

บัวแย้ม – อะไรหรือเพคะ

สินิทรา – สไบทองเคยเล่าเรื่องนี้ให้แม่กับเสด็จพ่อฟังเหมือนกันน่ะลูก

จังหวะนั้น สไบทองก็เข้ามาพอดี

สไบทอง – เห็นมั๊ยเราบอกแล้ว

สินิทรา – สไบทอง  เราขอโทษนะที่ว่าเจ้าไปน่ะ

สไบทอง – ไม่เป็นไรหรอก แล้วทีนี้เจ้าจะเล่าเรื่องของบัวแย้มให้เราฟังได้หรือยัง

บัวแย้ม – นั่นสิเพคะ ทั้งๆที่ตอนนี้ลูกควรจะยังเล็กอยู่

สินิทรา – ก็..แม่กับเสด็จพ่อของลูก เคยทำพิธีขอบุตรกับองค์เทพ  แล้วพอลูกเกิดมาได้เพียงไม่นาน ลูกก็เติบโต

ขึ้นมาเป็นหญิงสาว เต็มวัยแบบนี้ไงล่ะ แม่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงทำให้ลูกเติบโตเร็วเช่นนี้

สไบทอง – อาจเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิตกระมัง   บัวแย้ม...ถ้าเราจะขอให้เจ้ามาเป็นคนดูแลอังคาส..ตลอดไป.

เจ้าจะขัดข้องหรือไม่

บัวแย้ม – หม่อมฉันต้องขอเวลาก่อนนะเพคะ หม่อมฉันอยากจะนึกเรื่องราวทั้งหมดให้ได้ก่อน หม่อมฉันไม่อยาก

เจ็บปวดอีกเพคะ 

สไบทอง – อืม ตามใจเจ้าเถอะ เราไปล่ะ

บัวแย้ม – เพคะ
                  ***********************************
บุรีปลายฟ้า ...

ไอศูรย์ – อัมพิกา นั่นเจ้าจะไปไหนน่ะ

อัมพิกา – ก็..เอ่อ...(จะบอกได้ยังไงล่ะว่าจะไปรัตนบุรี อัมพิกาคิด)

ไอศูรย์ – เจ้าจะรัตนบุรีใช่มั๊ย

อัมพิกา – เอ่อ...เปล่านี่พี่ไอศูรย์ ข้ากำลังจะกลับห้องน่ะ

ไอศูรย์ – ข้าไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก ข้าแค่จะบอกเจ้าว่า ที่รัตนบุรีน่ะไม่มีใครอยู่หรอก เค้าไปพิณราชกันหมด

อัมพิกา – ห๊า..แล้วทำไมข้าถึงไม่รู้  โธ่เอ๊ย..เจ้านั่นไม่บอกกันสักคำ

อัมพิกาตกใจ

ไอศูรย์ – แล้วทำไมเจ้าถึงต้องรู้ แล้วเจ้านั่น ที่เจ้าหมายถึงน่ะใครกัน

อัมพิกา – โอ๊ย..ไม่มีอะไร หรอกน่าพี่ไอศูรย์ ว่าแต่พี่รู้ได้ยังไงล่ะ  จันทราภาบอกเหรอไง

เมื่อไอศูรย์ได้ยินชื่อจันทราภาก็รู้สึกหงุดหงิดเดินหนีไปทันที

ไอศูรย์เดินกลับมาที่ห้อง เขาต้องการข่มตาให้หลับยังไง  ก็ต้องเห็นหน้าของจันทราภาอยู่ร่ำไป

ไอศูรย์ – นี่ข้าเป็นอะไรไป ทำไมต้องนึกถึงแต่นางด้วยนะ

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:40:18 PM »
..พิณราช..

บัวแย้มออกมาเดินเล่นหน้าตำหนักซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอศูรย์โผล่มาจากบุรีปลายฟ้าพอดี

บัวแย้ม – อุ้ย..นี่เจ้าเป็นใครน่ะ

ไอศูรย์ – บัว นี่เจ้าจริงๆด้วย เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก็ในเมื่อเจ้า..ตายไปแล้ว 

บัวแย้มมองหน้าไอศูรย์อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักเพราะตอนนี้ชายหนุ่มจับมือบัวแย้มไว้แน่นเลย

ไอศูรย์ – อะ..เอ่อ..ข้าขอโทษ

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่จันทราภาเดินมาเห็นทั้งคู่เข้าพอดี (อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น)

จันทราภา – อ๋อ นี่แอบมารำลึกความหลังอยู่รึไงไอศูรย์

ไอศูรย์ – จันทราภา มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ

จันทราภา – เชอะ อย่ามาแก้ตัวเลย  จะบอกอะไรให้นะ บัวแย้มน่ะจำเจ้าไม่ได้หรอก นางไม่ได้ฟื้นขึ้นมาแต่

นางน่ะกลับมาเกิดใหม่ต่างหาก รู้ไว้ซะด้วย

ไอศูรย์ – อะไรนะกลับมาเกิดใหม่งั้นเหรอ

จันทราภา – ใช่  แล้วเจ้าน่ะก็กลับไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า แล้วก็ขอให้รู้ไว้ซะด้วยนะ อย่างเจ้าน่ะไม่มีวันได้

ครองรักกับบัวหรอก นางเป็นถึงพระธิดาของกษัตริย์ศุภเชษฐ์เลยนะ

ไอศูรย์ – นางจะเป็นอะไรข้าไม่สนแล้วเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไล่ข้าหรอกนะจันทราภา ขนาดบัวยังไม่ไล่ข้าเลย

จันทราภาเอ่ยปากจะเถียงแต่บัวแย้มขัดขึ้นก่อน

บัวแย้ม – พอทีเถอะจันทราภาแล้วก็เจ้าด้วย...ไอศูรย์   ไอศูรย์ท่านช่วยเล่าเรื่องของท่านให้ฟังหน่อยได้มั๊ยเพื่อเรา

จะจำท่านได้

ไอศูรย์ – ได้สิบัว  (ไอศูรย์ยิ้มรับคำ)

จันทราภา – ไม่ต้องหรอกบัว เดี๋ยวเราเล่าให้เจ้าเองฟังก็ได้  เจ้าอยากรู้อะไรเราจะเล่าให้เจ้าฟังทั้งหมดเลย

ไอศูรย์ – งั้นก็ดี ตามใจข้าไปดีกว่า ไม่อยากอยู่กับคนชอบพาลหาเรื่อง

จันทราภา – นี่เจ้าว่าเรางั้นเหรอไอศูรย์

ไอศูรย์ – เปล่า   (ว่าแล้วก็หายไป กลับบุรีปลายฟ้าน่ะ)

บัวแย้ม – เจ้าสองคนไม่ชอบกันเหรอ

จันทราภา – ไม่ใช่ไม่ชอบหน้ากันนะ เกลียดเลยล่ะ

บัวแย้ม – อ้าวไปเกลียดเค้าทำไมล่ะจันทราภา  ไอศูรย์ก็ออกจะดูดี  ว่าแต่ไอศูรย์เป็นผีเหรอ จู่ๆถึงได้หายไปอย่าง

นั้นน่ะ  รึว่าเค้าเป็นพวกมีวิชา

จันทราภา – เปล่าหรอกบัว งั้นตามมานี่เดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง
                              ***************************************************
ทางด้านไอศูรย์ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อัมพิกาเห็นเข้าก็สงสัยเลยอดที่จะแซวไม่ได้

อัมพิกา – ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่อย่างเงี๊ยะ คิดถึงจันทราภาอยู่รึไงพี่ไอศูรย์

ไอศูรย์ – ก็ใช่น่...เฮ้ย..จะบ้าเหรออัมพิกาข้าจะไปคิดถึงนางทำไม

อัมพิกา – ฮั่นแน่..

ไอศูรย์ – ไปได้แล้วไป  ข้าจะไปตรวจดูอาวุธ(ว่าแล้วก็เดินหนีไป  กลบเกลื่อนความเขิลลลนั่นเอง อิอิ)

อัมพิกา – เฮ้อ...ปากแข็งจริงๆพี่เรา   ไปหาอัญญาณีดีกว่า

อัมพิกาเดินตามหาอัญญาณีจนทั่วบุรีปลายฟ้าแต่ก็ไม่พบ  จึงเดินไปถามนางกำนัลที่อยู่แถวนั้น 

นางกำนัล -  ก็พระธิดาอัญญาณี  บอกพวกเราว่า ท่านไอศูรย์ไล่นางออกจากเมืองแล้ว นางจึงมาขอให้พวกเราพา

นางออกไปน่ะเพคะ

อัมพิกา – แล้วพวกเจ้าก็เลยพานางออกไปงั้นเหรอ 

นางกำนัล – เพคะ

อัมพิกา – โอ๊ย..จะบ้าตาย  แล้วเจ้าเอานางไปปล่อยไว้ที่ไหน

นางกำนัล – เห็นนางบอกจะไปเวียงวนาลัยเพคะ

อัมพิกาทำท่าจะเดินออกไปแต่นางกำนัลเรียกไว้เสียก่อน

นางกำนัล – แล้วนั่นคุณหนูจะไปไหนเพคะ

อัมพิกา – ก็ไปตามอัญญาณีน่ะสิถามได้
                           *****************************************************
ตกเย็นที่เวียงวนาลัย

อัญญาณี – พี่โม่งจ๋า อัญญาณีคิดถึงพี่โม่งจัง พี่โม่งกลับมาหาอัญญาณีได้ไหม

ซึ่งขณะนั้นสุริยะก็มาตามหาปอบปุโลหิตเช่นเดียวกันและบังเอิญ(ช่างบังเอิญจริงๆ)ไปได้ยินเสียงรำพึงรำพันนั่น

พอดี

สุริยะ – อัญญาณี นั่นเจ้าเหรอ  อัญญาณี เจ้าจริงๆด้วย

อัญญาณี – สุริยะ เจ้ามาที่นี่ทำไม นี่มันใกล้ค่ำแล้วนะ

สุริยะ – แล้วเจ้าล่ะ 

อัญญาณี – เอ่อ..ก็เวียงวนาลัยเป็นของเรา เราจะมาเมื่อไหร่ก็ได้

สุริยะ – อัญญาณีเจ้าไปอยู่กับเราที่รัตนบุรีได้ไหม เราจะอธิบายให้เสด็จแม่เข้าใจเอง

อัญญาณี – มันเป็นไปไม่ได้หรอก เจ้ากลับไปเถอะสุริยะแล้วอย่ากลับมาอีก เราอยากอยู่กับพี่โม่ง(หมายถึงความทรงจำน่ะ)

สุริยะ – แต่โม่งป่าตายไปแล้วนะ

อัญญาณี – ใช่พี่โม่งอาจจะตายไปแล้วแต่สำหรับเราพี่โม่งยังอยู่ในใจเราเสมอ

สุริยะ – ที่เจ้ามีใจให้เรา เป็นเพราะเจ้ารักเราหรือเห็นเราเป็นเพียงตัวแทนของโม่งป่าเท่านั้น

อัญญาณี – เราไม่รู้เราสับสนไปหมดแล้ว 

อัญญาณีทำท่าจะเดินหนีแต่สุริยะคว้าข้อมือไว้ก่อน

อัญญาณี – ปล่อยเรานะสุริยะ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวเรา

สุริยะถึงกับอึ้ง

สุริยะ – นี่เจ้ารังเกียจเราขนาดนี้เลยเหรอ

อัญญาณี – ใช่ รู้ไว้ก็ดี กลับไปซะแล้วอย่ากลับมาให้เราเห็นหน้าอีก

อัมพิกาโผล่ออกมาจากบุรีปลายฟ้าเห็นคนทั้งสองก็คิดว่ากำลังหยอกล้อกันอยู่จึงเดินเข้าไปทัก

อัมพิกา – โธ่ ถ้าข้ารู้ว่ากำลังหวานกันอยู่เนี่ยข้าไม่มารับดีกว่า

อัญญาณี – อัมพิกาอย่าพูดแบบนี้อีกนะ กลับบุรีปลายฟ้าเถอะ

อัมพิกา – อ้าว..ทำไมล่ะ

อัญญาณีหน้าบึ้งเดินหนีไป

อัมพิกา – อ้าว เป็นอะไรของเค้า

สุริยะ – พานางกลับไปเถอะอัมพิกา นางคงไม่อยากเห็นหน้าเรา ฝากดูแลอัญญาณีให้ดีๆนะ
อัมพิกา – เจ้าทะเลาะกับนางเหรอสุริยะ  อะ..อ้าว..สุริยะ  โอ๊ย ไปเร็วจริงๆ

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:40:52 PM »
จันทราภาพาบัวมาที่ตำหนักของตนแล้วเล่าเรื่องต่างๆของไอศูรย์ให้ฟัง

บัวแย้ม – ดูเจ้ารู้จักไอศูรย์ดีจัง

จันทราภา – ยิ่งกว่ารู้จักเสียอีก

บัวแย้ม – ถามจริงๆนะจันทราภา เจ้าเป็นอะไรกับไอศูรย์กันแน่

จันทราภา – เป็นศัตรูไงถามได้

บัวแย้ม – จริงอ่ะ

จันทราภา – ก็จริงน่ะสิ เราไม่คุยด้วยแล้ว ไปหาพุทรัตน์ดีกว่า

ว่าแล้วจันทราภาก็เดินออกไป

บัวแย้ม – อะ..อ้าว..จันทราภารอด้วยสิ

บัวแย้มวิ่งตามจันทราภามาแต่ก็ตามไม่ทัน บัวแย้มวิ่งมาเรื่อยๆจนมาชนกับใครคนหนึ่ง

บัวแย้ม – อะ..อุ้ย..เราขอโทษ  ... อังคาส

อังคาส – บัว..เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า

บัวแย้ม – ไม่เป็นไรท่านล่ะ

อังคาส – ไม่  แล้วเจ้าจะไปไหน

บัวแย้ม – เรา..เอ่อ..หม่อมชั้น..วิ่งตามพระธิดาจันทราภาน่ะเพคะ

อังคาส – เจ้าไม่จำเป็นต้องกลับไปใช้สรรพนามเดิมๆกับเราก็ได้ ในเมื่อตอนนี้ฐานะ

เจ้าก็ทัดเทียมเราไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนเจ้าตายอีกแล้ว

บัวแย้ม – พระโอรส...

อังคาสเดินหนีออกไปโดยไม่หันกลับมามองบัวอีก  บัวแย้มได้แต่ยืนน้ำตาคลอด้วย

ความเสียใจอยู่ตรงนั้น...
                    * * *********************************************
ระหว่างทางที่จันทราภาจะไปหาพุทธรัตน์นั้น.จันทราภาก็เจอกับอัมพิกาที่มาเดิน

ตามหาภูมินทร์

จันทราภา – อัมพิกา เจ้ามาที่นี่ได้ยังไงน่ะ

อัมพิกา – ข้าก็มาจากบุรีปลายฟ้าน่ะสิถามได้ แล้วนี่เจ้ามาเดินหาพี่ชายข้าอยู่รึไง

จันทราภา – บ้าสิ  ทำไมข้าต้องตามหาพี่ชายเจ้าด้วย  เจ้าไม่ควรมาที่นี่ กลับบ้านเมือง

เจ้าไปซะ

อัมพิกา – แล้วทำไมข้าจะต้องเชื่อเจ้าด้วย   

ทันใดนั้นไอศูรย์ก็ออกมาจากบุรีปลายฟ้าทันที

อัมพิกา – พะ..พี่ไอศูรย์

ไอศูรย์ – อัมพิกา เจ้ามาที่นี่ทำไม

อัมพิกา – แล้วพี่ล่ะมาทำไม

ไอศูรย์ – ไม่ใช่เรื่องของเจ้า แล้วนี่อัญญาณีอยู่ไหน ไปพานางมาแล้วกลับไปซะ 

จันทราภา – อะไรนะ..อัญญาณีมาด้วยงั้นเหรอ  แย่แน่คราวนี้

ไอศูรย์ /อัมพิกา – อะไรแย่

จันทราภา – สุริยะก็ต้องไปหานาง ก็เท่ากับว่าสุริยะขัดพระกระแสรับสั่งของเสด็จพ่อ

เสด็จแม่ แล้วมันก็จะเป็นเรื่องอีกน่ะสิ แล้วอีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่รัตนบุรี ถ้าเกิดเรื่องพวก

เราต้องอับอายเป็นแน่

อัมพิกา – ไม่หรอกน่า 

ไอศูรย์ – ไปตามนางกลับมาอัมพิกา ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกลงโทษ

อัมพิกา – ก็ได้
 
อัมพิกาเดินออกไปอย่างไม่พอใจ

จันทราภา – แล้วเจ้าล่ะเมื่อไหร่จะไป รึว่ากำลังรอหาโอกาสเหมาะชิงเกราะกายสิทธิ์รึ

ไง

ไอศูรย์ – นี่เจ้า

จันทราภา – ทำไมข้าพูดแทงใจดำเจ้ารึไง  ไม่พอใจก็มาสู้กันเลยดีกว่า

ไอศูรย์ไม่พอใจอย่างมากที่ถูกกล่าวหา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงเดินหนีไป

จันทราภา – จะไปไหน

ไอศูรย์ไม่ตอบแต่เลือกที่จะเดินหนีไปแทน

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:41:35 PM »
ทางด้านอัมพิกาก็มาเดินตามหาอัญญาณีแต่กลับมาเจอพระมเหสีสไบทองกับพระมเหสีสินิทราที่กำลังเดินเก็บดอกไม้ด้วยกันกับเหล่านางกำนัล
สไบทอง – อัมพิกา...เจ้ามาทำอะไรที่นี่
อัมพิกา – เสด็จแม่..คือ..ข้า
สินิทรา -  นางเป็นใครน่ะ สไบทอง
อัมพิกา – .......  (ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก)
ระหว่างนั้นภูมินทร์เดินเข้ามาเจอพอดี
ภูมินทร์ – สาธุ สาธุหนูอัม มาทำอะไรที่นี่  อะ..อ้าวเสด็จแม่ เสด็จอา
สินิทรา – ภูมินทร์ หลานรู้จักนางด้วยหรือ
ภูมินทร์ – พระเจ้าค่ะ  นางคือ อัมพิกา
สไบทอง – ภูมินทร์..ตามแม่มา ส่วนเจ้าอัมพิกากลับไปซะ
อัมพิกาเดินหนีออกไป  ภูมินทร์มองตาม  สไบทองลากลับตำหนัก โดยเรียกให้ภูมินทร์ไปด้วยกัน
ที่ตำหนัก..
สไบทอง – พวกเจ้าออกไปก่อน  ภูมินทร์มาหาแม่ซิลูก  แม่ขอถามอะไรเจ้าอย่าง
ภูมินทร์  - อะไรหรือพระเจ้าค่ะ
สไบทอง – ลูกชอบนางใช่มั๊ย
ภูมินทร์ - ...... (อึ้ง...เด็จแม่รู้ได้ไง?????)
สไบทอง – ภูมินทร์..ลูกชอบอัมพิกาใช่มั๊ย
ภูมินทร์ – พะ..พระเจ้าค่ะ
สไบทอง – ลูกไปพักผ่อนเถอะ
ภูมินทร์ได้แต่งง แต่ก็เดินออกไป  สไบทองยิ้ม..
               **********************************************************
พุทธรัตน์ยืนเหม่อลอยอยู่หน้าตำหนัก  อาธารเดินผ่านมาพอดี จะเข้าไปทักก็ไม่กล้า  จนพุทธรัตน์เหลือบมาเห็น
พุทธรัตน์ – นั่นใครน่ะ  อาธารเหรอ
อาธาร – พระธิดาทรงรู้ได้อย่างไรพระเจ้าค่ะว่าเป็นข้าพุทธเจ้า
พุทธรัตน์ – ไม่รู้สิ แล้วเจ้ามีอะไรกับเรารึเปล่า
อาธาร – มะ..ไม่มีพระเจ้าค่ะ
พุทธรัตน์ – เจ้าไปได้แล้วเราอยากอยู่คนเดียว
อาธารหน้าเสียเล็กน้อยแต่ก็ยอมไปแต่โดยดี
           ************************************************************
ด้านบัวแย้มก็มานั่งซึมเศร้าอยู่ที่ริมน้ำ  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่อัมพิกาเดินผ่านมา
อัมพิกา – อ้าว. ...บัว
บัวแย้มเงยหน้าขึ้นมา ก็ตกใจที่ได้พบกับอัมพิกาที่เมืองของตน
บัวแย้ม – อัมพิกาเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง
อัมพิกา – อย่าเพิ่งถามเลยน่า เจ้าเห็นอัญญาณีบ้างรึเปล่า
บัวแย้ม – พระธิดามาด้วยเหรอ  แต่เรายังไม่เห็นเลย
อัมพิกา – แย่แล้วไง  เออ....บัว.สุริยะอยู่ที่ไหน บางทีนางอาจจะอยู่กับสุริยะก็ได้
บัวแย้ม – คงไปดูอานนท์ซ้อมพวกทหารมั้ง
อัมพิกา – งั้นพาข้าไปหน่อยสิ
          ************************************************************
สุริยะเรียกทุกคนประชุมเรื่องกองทัพอสูรที่จะบุกไปยึดรัตนบุรีซึ่งในนั้นมีอัญญาณีและไอศูรย์รวมอยู่ด้วย
 บัวแย้มพาอัมพิกามาที่สนามซ้อมแต่ทั้งคู่ไม่พบอัญญาณี  ทั้งคู่จะเดินไปทางอื่นแต่อานนท์วิ่งมาขวางไว้
บัวแย้ม – อานนท์เจ้ามาขวางเราทำไม เรารีบอยู่นะ
อานนท์ – ข้าพุทธเจ้าขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ แต่พระโอรสสุริยะทรงให้หม่อมชั้นมาตามพระธิดาพระเจ้าค่ะ
บัวแย้ม – ให้เจ้ามาตามเรา...ทำไม
อานนท์ – ปรึกษาเรื่องกองทัพอสูรที่จะบุกยึดรัตนบุรีพระเจ้าค่ะ ตอนนี้พระธิดาอัญญาณีกับท่านไอศูรย์ก็อยู่ที่ตำหนักด้วยพระ          เจ้าค่ะ
บัวแย้ม –  งั้นอัมพิกาไปกับเรา
บัวแย้มอานนท์และอัมพิกาเดินมาถึงตำหนัก  แต่ระหว่างนั้นบัวแย้มก็เกิดอาการประหม่าไม่กล้าสู้หน้าอังคาสสาเหตุก็มาจากเรื่องเมื่อกลางวัน(ที่บัวร้องไห้อ่ะ)  แต่ก็ยังไม่วายโดนอัมพิกาลากเข้าไปอีก

nidajung

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:41:57 PM »
อย่าลืมเรื่องทะลุเวลาพาวุ่นด้วยล่ะ

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:42:26 PM »
เมื่ออัมพิกา บัวแย้มและอานนท์เดินเข้ามาถึงทุกคนหันมาทางผู้เข้ามาใหม่

อังคาสมองบัวอย่างไม่ว่างตา  บัวเห็นดังนั้นก็ไม่กล้าสบตา

สุริยะเห็นกริยาของคนทั้งคู่ก็ได้แต่อ่อนใจ

สุริยะ - ครบกันแล้วนะจะได้ไม่เสียเวลา ตอนนี้เราต้องเตรียมทหารให้พร้อมรวบรวม
กำลังให้ได้มากๆ และต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยรัตนบุรีด้วย

จันทราภา - แล้ว..ตอนนี้ไม่ได้มีใครไปเฝ้ารัตนบุรีหรอกหรือ

ภูมินทร์ - สาธุ สาธุ นั่นสิ ลืมไปเลย เจ้าไปกับเรานะศนิวาร สาธุ สาธุ

ศนิวาร - งั้นเรากับภูมินทร์ไปล่ะ

ไอศูรย์ - ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้ากลับล่ะ ไปอัมพิกา อัญญาณี

อัมพิกา - ดะ..เดี๋ยวก่อนพี่ไอศูรย์ ข้าขออยู่ที่นี่ก่อนนะ

ไอศูรย์ - ไม่ได้

สุริยะ - ไอศูรย์ เราขอคุยกับอัญญาณีก่อนได้ไหม

อัมพิกา - นั่นไง

ไอศูรย์ - ตามใจเจ้า แต่ห้ามเจ้ากับอัญญาณีไปเวียงวนาลัยเด็ดขาด ถ้าเจ้าอยากจะออมาเที่ยวนอกบุรีปลายฟ้าข้าให้มาได้แค่ที่นี่เท่านั้น

สุริยะดึงมืออัญญาณีเดินออกไป  อัมพิกาขอตามภูมินทร์กับศนิวารไปด้วย

จันทราภา - น้องมาอยู่ที่นี่จะได้ตามมาแย่งเกราะได้ง่ายๆใช่มั๊ยล่ะ

ไอศูรย์ - จันทราภา  (ไอศูรย์เอ่ยเสียงเข้ม)

พุทธรัตน์ - พอทีเถอะคู่นี้ ทะเลาะกันอยู่ได้ไม่เบื่อบ้างหรือไง

ว่าแล้วพุทธรัตน์ก็เดินออกไปด้วยความรำคาญ

จันทราภาหงุดหงิดที่พุทธรัตน์ไม่เข้าข้างตน จึงเดินตามพุทธรัตน์ออกไป

ไอศูรย์กลับเข้าบุรีปลายฟ้า  ในห้องนั้นจึงเหลือแค่อังคาสและบัวแย้มเท่านั้น

บัวแย้มทำท่าจะเดินออกไปแต่อังคาสคว้ามือไว้ได้ บัวแย้มตกใจ

บัวแย้ม - โอ๊ย..ปล่อยหม่อมชั้นนะเพคะ หม่อมชั้นจะไปข้างนอก  

อังคาส - ทำไม ทีกับไอ้บดีสร กับอานนท์ เจ้าอยู่ได้เป็นนานสองนาน รังเกียจเรามากนักรึไง

บัวแย้ม - ก้อแล้วแต่พระโอรสจะคิดเถอะเพคะ หม่อมชั้นก็ไม่เคยดีหรือมีค่าอะไรในสายตาพระโอรสอยู่แล้วนี่เพคะ แต่หม่อมชั้นบอกไว้ก่อเลยว่าหม่อมชั้นไม่เคยรังเกียจพระโอรสหรือว่าใครทั้งนั้น  (บัวแย้มพูดทั้งน้ำตา)

อังคาสได้แต่อึ้ง บัวแย้มสบโอกาสสะบัดมืออังคาสที่จับตนไว้แล้ววิ่งออกไปทันที
            *************************************************
บัวแย้มวิ่งออกมาจากตำหนักเจอกับไอศูรย์

ไอศูรย์ - บัวนี่เจ้าเป็นอะไรน่ะ ร้องไห้ทำไม

บัวแย้ม - เปล่า

ไอศูรย์ - นี่เจ้าอังคาสทำร้ายเจ้าอีกใช่มั๊ย

บัวแย้ม - เราบอกว่าเปล่า แล้วพระโอรสอังคาสก้อไม่ได้ทำอะไรเราด้วย

ว่าแล้วบัวแย้มก็วิ่งหนีกลับตำหนักไป ไอศูรย์ได้แต่มองตาม

ไอศูรย์ - ทำไมเจ้าต้องปกป้องอังคาสด้วย เจ้ารักอังคาสมากขนาดนี้เชียวหรือ
      
ทางด้านประกายพรึก(ขวัญใจใครหว่า)หลังจากเดินหนีออกมาข้างนอก

นางก็ได้มาเดินเล่นอยู่แถวริมน้ำคิดอะไรเรื่อยเปื่อย  ในขณะนั้นเองเภตราก็เดินมา

จากท้ายวังเห็นประกายพรึกเข้าก็ดีใจ จะเดินไปหา แต่ก็ไม่กล้า จึงจะเดินกลับไปแต่ประกายพรึกหันมาเห็นพอดี

ประกายพรึก - เดี๋ยวก่อน จะไปไหนน่ะเภตรา

เภตรา - ข้าพุทธเจ้าจะไปท้ายวังพระเจ้าค่ะ

ประกายพรึก - ไปทำไม เจ้าเปลี่ยนเวรกับอาธารแล้วนี่

เภตรา - เอ่อ..คือ..

ประกายพรึก - อ้อ..เจ้าคงนัดกับมนตราไว้ท้ายวังสินะ

ประกายพรึกประชด

เภตรา - ถ้าพระธิดาทรงคิดเช่นนั้น ข้าพุทธํเจ้าก็คงไม่มีอะไรต้องอธิบาย ทูลลาพระเจ้าค่ะ

ประกายพรึก - เดี๋ยวก่อนเภตรา เรายังไม่บอกให้เจ้าไป เจ้าต้องอยู่ก่อน เภตรา

ประกายพรึกไม่พอใจ จึงวิ่งเข้าไปผลักเภตรา (น่านวีนแตกอีกแว้วว)

เภตราก็ยืนนิ่งยอมให้ประกายพรึกทุบตีโดยไม่หลบหลีกหรือต่อว่าอะไรนางเลยแม้แต่
น้อย ในขณะนั้นมนตราผ่านมาพอดีเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปห้าม ประกายพรึกเห็นมนตราปกป้องเภตราก็เข้าใจผิด

ประกายพรึก - อ๋อ..นี่คงรักกันมากสินะ เจ้าถึงได้ออกโรงปกป้องเองเลยแบบนี้

มนตรา - ไม่ใช่นะเพคะพระธิดา พระธิดาทรงกำลังเข้าใจผิดนะเพคะ หม่อมชั้นเพียงแต่..

ไม่ทันที่มนตราจะได้อธิบาย เภตราก็ขัดขึ้นมาก่อน

เภตรา - ช่างเถอะมนตรา

มนตรา - พี่เภตรา

ประกายพรึก - ถ้ารักกันมากนัก แล้วเจ้าไปตอบตกลงกับเสด็จแม่ว่าจะแต่งงานกับเราทำไม

ประกายพรึกตวาด  แล้ววิ่งหนีไปด้วยความเสียใจ  เช่นเดียวกับเภตราที่เสียใจไม่แพ้กัน

มนตรา - เป็นเพราะมนแท้ๆ

เภตรา - ไม่หรอก มนตรามีอะไรก็ไปทำเถอะ พี่ก็จะไปแล้ว

เภตราเดินหนีไปท้ายวัง มนตราก็มองตามไปด้วยความสำนึกผิด(ไม่น่ามาเลย)
                ****************************************
จันทราภา - วันที่จะต้องเดินทางกลับ มาถึงแล้วสินะ

จันทราภาปรารภออกมา เพราะเพีงเวลาไม่กี่วันก็รู้สึกว่าตนผูกพนธ์กับที่นี่มาก

พุทธรัตน์ - แล้วนี่บัวอยู่ไหน ไม่ไปส่งอังคาสหรือไง

ภูมินทร์วิ่งมาตามทั้งสองสาว

ภูมินทร์ - สาธุ สาธุ จันทราภา พุทธรัตน์ ไปกันได้แล้วเสด็จแม่ให้มาตาม

พุทธรัตน์ - เราจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ไปกันเถอะจันทราภา

จันทราภา - อืม

     ที่หน้าเมือง  ศุภเชษฐ์และสินิทราตามเสด็จมาด้วยท่ามกลางความแปลกใจของ
ทุกคน ศาตราจึงอธิบายให้ฟัง

ศาตรา - พ่อชวนศุภเชษฐ์ กับ สินิทรา ไปรัตนบุรีด้วยลูก

ทุกคนพยักหน้ารับรู้ อังคาสอยากจะถามเสด็จพ่อของตนเหลือเกินว่าบัวแย้มจะไป
ด้วยหรือไม่แต่ก็ไม่กล้า (สงสัยกลัวเสียฟอร์ม ฟอร์มจัดนะยะ เชอะ อิอิ)

จันทราภารู้ใจจึงโพล่งถามว่า

จันทราภา - เสด็จพ่อ เสด็จอาเพคะ แล้วบัวแย้มไม่ไปกับพวกเราด้วยหรือเพคะ

ศุภเชษฐ์ - ไปสิหลาน แต่บัวบอกว่าจะตามไปทีหลัง

อังคาสดีใจ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์

จันทราภากับประกายพรึกมองหน้ากันยิ้มๆ

ศาตรา - งั้นเราก็ไปกัน จะได้ไม่เสียเวลาป่านนี้ไม่รู้ว่ารัตนบุรีจะเป็นอย่างไรบ้าง

สไบทอง - นั่นสิเพคะ อ้าว..แล้วศนิวารล่ะลูก

สุริยะ - ลูกส่งศนิวารไปรัตนบุรีตั้งแต่เมื่อวานแล้วพระเจ้าค่ะ  แล้วนี่ลูกก็ขอล่วงหน้า
ไปก่อนนะพระเจ้าค่ะ

สไบทอง - จ้ะ

สุริยะ - ลูกทูลลา

ว่าแล้วสุริยะก็เหาะไป

ศาตรา - ไปได้แล้วล่ะ
        ***********************************************

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:42:49 PM »
เมื่อทั้งหมดเดินทางมาถึงรัตนบุรี..(ถึงเร็วจัง)

ศุภเชษฐ์ - อืม..รัตนบุรีนี่ ยังสวยงามเหมือนเดิมเลยจริงๆ

สินิทรา - จริงเพคะเสด็จพี

ศาตรา - สไบทองน้องพาสินิทราไปชมเมืองก่อนนะ พี่มีอะไรจะปรึกษากับศุภเชษฐ์สักหน่อย

ศาตราเดินนำศุภเชษฐ์เข้าตำหนักไป

สินิทรา - หวังว่าคงไม่รบกวนเจ้าเกินไปนะสไบทอง

สไบทอง - ไม่หรอก เราเต็มใจ ไปกันเถอะ

สองมเหสีเดินออกไปพร้อมด้วยนางกำนัลจำนวนหนึ่ง
บริเวนนั้นจึงเหลือเพียงแค่ เกราะกายสิทธิ์5คนและเภตราอาธาร
ทันใดนั้นอัมพิกาก็ออกมาจากบุรีปลายฟ้าจนเกือบจนชนกับภูมินทร์(อีกแล้ว)
ทั้งคู่เกือบจะทะเลาะกันอีก แต่ก็ถูกจันทราภากับพุทธรัตน์ห้ามปรามไว้

ประกายพรึก - ตอนนี้คงไม่มีอะไร เราขอตัว
ประกายพรึกเดินออกไปอาธารสะกิดให้เภตราตามไป เภตราจึงทูลลาเกราะกายสิทธิ์ที่เหลือแล้วตามประกายพรึกออกไป

จันทราภา - ถ้างั้นเราก็ขอตัวเหมือนกัน

อัมพิกา - เดี๋ยวก่อน พี่ชายข้าถามหาแน่ะ

จันทราภา - ก็ช่างสิ

จันทราภาบอกแล้วก็เดินออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

อัมพิกา - เฮ้อ..ปากแข็งด้วยกันทั้งคู่  แล้วพุทธรัตน์เจ้าไม่ไปกับอาธารเหรอไง

อาธาร - พูดอะไรออกมาน่ะอัมพิกา

พุทธรัตน์ - เจ้าไม่ต้องมาจับคู่ให้พวกเราหรอกนะ แค่สุริยะกับอัญญาณี จันทราภากับพี่ชายเจ้าแค่นี้ยังไม่พออีกหรือไง ไม่ต้องลามมาถึงเราหรอก

อัมพิกา - แหม  ข้าก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยทำไมเจ้าสองคนต้องร้อนตัวด้วยล่ะ

พุทธรัตน์ - เราไม่ได้ร้อนตัว เจ้านี่พูดอะไรไม่รู้เรื่อง

อังคาส - พอได้แล้วน่ารำคาญกันจริงๆ

อังคาสโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิด (เพราะคิดถึงบัว หุหุ)แล้วก็เดินออกไป
พุทธรัตน์ก็ทำเป็นโมโหกลบเกลื่นความเขินอาย แล้วก็ออกไป อาธารมองตาม

อัมพิกา - อยากตามไปก็ไปสิ 

อาธาร - บ้าสิ  ข้าพุทธเจ้าทูลลาพระเจ้าค่ะ (ไม่อยากไปแล้วทูลลาทามมาย??)

อัมพิกา - เฮ้อ..ทีนี้เหลือเจ้ากับข้า งั้นข้าไปดีกว่า
อัมพิกาทำท่าจะเดินไปแต่ภูมินทร์คว้ามือไว้ก่อน

อัมพิกา - เฮ้ย..ปล่อยนะ มาแตะต้องตัวข้าทำไม

ภูมินทร์ - สาธุ สาธุ...เราขอโทษ

อัมพิกา - หืม..เราจะฆ่าเจ้า
อัมพิกาจะปล่อยพลังใส่แต่ภูมินทร์คว้าข้อมือไว้(อีกแล้ว)

ภูมินทร์ - ขันติเถอะขันติ  ทำไมเจ้าเจ้าคิดเจ้าแค้นนักนะ

อัมพิกา - หืม ขันติ เดี๋ยวได้ขันแตก

ว่าแล้วอัมพิกาก็สะบัดมือของภูมินทร์ที่จับอยู่ออกไป...

อัมพิกาเหยียบเท้าภูมินทร์ไปเต็มแรง

ภูมินทร์ - โอ้ย

อัมพิกา - สมน้ำหน้า

แล้วอัมพิกาก็งอนกลับบุรีปลายฟ้าไป ภูมินทร์มองตามยิ้มๆ(เจ็บขนาดนั้นยังยิ้มได้อีก)
        ***********************************************
ที่..พิณราช..

บัวแย้มนั่งคิดอยู่ในห้องของตนเองว่าจะตามพ่อกับแม่ของตนไปรัตนบุรีอีกดีหรือไม่

บัวแย้ม - เราจะทำยังไงล่ะเนี่ย รับปากเสด็จพ่อเสด็จแม่ไปแล้วด้วย...โอ๊ยย
บัวแย้มกังวลว่าถ้าไม่ไปเสด็จพ่อเสด็จแม่จะโกรธ แต่ถ้าไปก็กลัวจะไม่กล้ามองหน้า
อังคาส

บัวแย้ม - อะไรเนี่ย แค่ผู้ชายคนเดียว ทำให้เราขี้ขลาดได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

บัวแย้มถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

.....-นั่นน่ะสิ เห็นเราบ่นมาตั้งนานแล้ว

บัวแย้มหันไปทางต้นเสียง  ก็ต้องฉีกยิ้มออกมาอย่างดีใจสุดขีด

บัวแย้ม - พี่ธนบดี กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เพคะ (หุหุ  พี่ชายน้องบัว โผล่มาจากสมองเราเองหุหุ  คิดว่าดีป่าว??)

ธนบดี - กลับมาตั้งแต่เราบ่นถึงผู้ชายคนที่ทำให้เจ้าขี้ขลาด

บัวแย้มหลบตาอย่างอายๆ

ธนบดี - เอ..พี่ชักอยากรู้แล้วไงว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

บัวแย้ม - อย่าไปรู้เลยเพคะ  ไม่มีอะไรหรอกน่า

ธนบดี - จ้าๆ แล้วนี่เสด็จพ่อเสด็จแม่ไปไหน

บัวแย้ม - ไปรัตนบุรีเพคะ

ธนบดี - รัตนบุรี?? แล้วน้องไม่ไปหรือไง

บัวแย้ม - บัวรับปากเสด็จพ่อเสด็จแม่ไปแล้วว่าจะไป แต่...

ธนบดี - แต่บัวไม่กล้า  ใช่ไหม

บัวแย้มพยักหน้าแทนคำตอบ

บัวแย้ม - พี่ไปกับบัวนะเพคะ

ธนบดี - งั้นเจ้าพาพี่ไปหน่อยสิ

บัวแย้ม -เพคะงั้นไปกันเลย

ธนบดี - อืม

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:43:59 PM »
บัวและธนบดีพากันเหาะมาที่รัตนบุรี

ธนบดี - ที่นี่น่ะเหรอ รัตนบุรี ช่างสวยงามจริงๆ

บัวแย้ม - เพคะ  เราไปเดินเล่นกันก่อนดีมั๊ยเพคะ เดี๋ยวค่อยไปหาเสด็จพ่อเสด็จแม่
เพราะตอนนี้บัวยังไม่รู้เลย ว่าทท่านทั้งสองอยู่ที่ไหน

ธนบดี - ตามใจน้องเถอะ

ทั้งคู่เดินคุยกันตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้พบเจอกันมานานเนื่องจากธนบดีไปร่ำเรียนวิชาอยู่ในป่ากับพระอาจารย์เป็นเวลานาน จึงทำให้พี่น้องทั้งสองไม่ได้พบกัน
เมื่อมาถึงริมน้ำสองพี่น้องหยุดนั่งคุยกัน

ธนบดี - แล้วตกลงคนไหนล่ะที่ทำให้เจ้าขี้ขลาดถึงขนาดไม่กล้ามารัตนบุรีน่ะ

บัวแย้ม - ไม่ทราบสิเพคะ

บัวแย้มหลบสายตาของธนบดีที่มองมา

ธนบดี - ได้ข่าวมาว่า เสด็จพ่อเสด็จแม่มีพระประสงค์ให้น้องแต่งงานกับองค์ชายเมืองนี้เหรอ  ใครล่ะ

บัวแย้ม - เอ่อ..พี่ทรงทราบได้อย่างไรเพคะ  ก็ในเมื่อ...

ธนบดี - ได้ยินพวกนางกำนัลเค้าพูดกันน่ะ แล้วตกลงโอรสองค์ไหนล่ะเห็นว่าเมืองนี้มีโอรสถึง 4 พระองค์นี่

บัวแย้ม - คือ..พะ..พระโอรสอังคาสเพคะ

ธนบดี - อืมถ้าเจอเจ้าก็ช่วยแนะนำด้วยล่ะ พี่อยากเห็นคนที่จะได้มาเป็นคู่ครองของน้องพี่

บัวแย้ม - แล้วถ้าคนคนนั้น..เอ่อ..เป็นคนที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ล่ะเพคะ


ธนบดี - ตกลงคนคนนั้นเนี่ย คืออังคาส ใช่มั๊ย

บัวแย้ม - เพคะ

ธนบดี - แต่คนคนนั้นทำให้น้องขลาด แค่เมืองเมืองเดียวทำให้น้องไม่กล้ามา

ธนบดีเสียงเข้ม บัวแย้มตกใจ คิดว่าธนบดีคงไม่ชอบอังคาสแน่

ธนบดี - แต่ถ้าน้องรักเค้า พี่ก็ไม่ว่าอะไร

บัวแย้มยิ้มดีใจ  กอดพี่ชายของตน ด้วยความรัก ธนบดีกอดน้องสาวตอบ
เป็นจังหวะเดียวกับที่อังคาสเดินมาซึ่งมีจั๊กแหล่นแอบตามมาด้วย
จั๊กแหล่นเห็นบัวกำลังกอดกับผู้ชาย(ไม่รู้ว่าเค้าเปงพี่น้องกัน)

จั๊กแหล่น - อุ้ยตายว้ายกรี๊ด พระโอรสดูนั่นสิเพคะ นังบัวกำลังกอดอยู่กับผู้ชาย

อังคาสเงยหน้ามอง จ้องหน้าบัวแย้ม

บัวแย้มได้ยินเสียงจั๊กจึงผละออกห่างธนบดี และตกใจสุดขีดเมื่อเห็นอังคาสยืนมองมา

อังคาสเดินหนีไปด้วยความโกรธระคนกับความหึง แต่ก็ไม่ทำอะไร ได้แต่ตัดใจ ให้ลืมบัวเสียที

บัวแย้มเห็นอังคาสเดินออกไป จะวิ่งตามไปแต่มีจั๊กมาขวาง บัวแย้มหงุดหงิด จึงผลักจั๊กแหล่นแล้ววิ่งตามไป  ธนบดีมองตามอย่างงวย เพราะไม่รู้ว่าอังคาสคือใคร
       *************************************************
บัวแย้มวิ่งตามอังคาส เรียกเท่าไหร่อังคาสก็ไม่ยอมหยุด บัวแย้มวิ่งไปสะดุดก้อนหินล้มลง  อังคาสเห็นบัวแย้มหยุดเรียกจึงหันไปพบบัวแย้มนั่งอยู่บนพื้น ข้อเท้ามีเลือดไหลอังคาสวิ่งไปอุ้มบัวแย้ม ถามไถ่อาการอย่างเป็นห่วง
อังคาส - เป็นไงบ้าง เจ้านี่ซุ่มซ่ามซะจริง
บัวแย้ม - ก็บัววิ่งตามพระโอรสนี่เพคะ
อังคาส - ใครใช้ให้เจ้าวิ่งตามเราล่ะ ยุ่งเสียจริง
อังคาสตะคอกใส่อย่างหงุดหงิด พลางก้มไปดูข้อเท้าบัว
บัวแย้ม - ก็แล้วทำไมต้องตะคอกกันด้วยเล่า
บัวแย้มพึมพำออกมา แต่อังคาสได้ยิน
อังคาส - ก็เพราะรำคาญคนซุ่มซ่ามอย่างเจ้าไงล่ะ ไปพักเถอะ
อังคาสอุ้มบัวแย้มไปที่ตำหนักของตน  พร้อมกับเรียกนางกำนัลไปดูแลบัวแย้ม
ส่วนตนรออยู่หน้าตำหนัก
       *************************************************
   ยี่สุ่นแม่ของเภตราเพิ่งกลับมาจากนอกวัง จึงให้เหล่านางกำนัล(เรียกถูกป่าวหว่า??)นำข้าวของไปเก็บที่ครัวส่วนตนกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้อง
เมื่อยี่สุ่นเปิดประตูห้องเข้าพบกับหญิงสาวนางหนึ่ง นางตกใจมาก
ยี่สุ่น - จะ..เจ้าเป็นใคร
หญิงสาวผู้นั้นสะกดยี่สุ่น ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนางแม่มดเกลียวทองนั่นเอง
เกลียวทอง - เจ้าจงจำไว้ ว่าเราชื่อ เข็มหอม เป็นหลานสาวของเจ้า
ยุ่สุ่น - เข็มหอม เป็นหลานสาวของเรา
ยุ่สุ่นทวนคำ
ยี่สุ่นพาแม่มดเกลียวทอง(เข็มหอมนั่นแหละ)ไปเข้าเฝ้าพระมเหสีสไบทอง
ระหว่างทางพบกับเภตราที่กำลังคุมทหารอยู่
เภตรา - ท่านแม่จะไปไหนหรือจ้ะ แล้วนี่ใครล่ะจ้ะ
ยี่สุ่น - นี่เข็มหอมเป็นหลานของแม่ แม่จะพานางไปเข้าเฝ้าพระมเหสีน่ะลูก
เภตรา - ลูกว่าลูกเคยเห็นนาง..แต่ลูกก็จำไม่ได้
เภตราพยายามนึก พอนึกออกกำลังจะบอกว่านางคือแม่มดเกลียวทองก็ถูก(สายตาเลเซอร์)แม่มดเกลียวทองสะกดเสียแล้ว
เภตรา - ช่างมันเถอะ ท่านแม่ไปเถอะจ้ะ
แล้วเภตราก็หันไปคุมทหารต่อ

pim_4262

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 09:47:38 PM »
พระธิดาเกราะกายสิทธิ์ทั้งสามพระองค์กลับมาจากนอกวังโดยที่ยังไม่ได้รับรู้เรื่อง

อะไร  ยังไม่ทันจะเข้าประตูเมือง พระโอรสสี่พระองค์ก็มาดักหน้าไว้ ทั้งสามงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จันทราภา - นี่พวกเจ้าเป็นอะไรกัน

จันทราภาถามด้วยความงงงวย  แต่ชายหนุ่มไม่โต้ตอบ แต่กลับพุ่งเข้าทำร้ายโดยไม่ให้พระธิดาทั้งสามได้ตั้งตัว   พระธิดาไม่ได้อยากจะต่อสู้กับพี่น้องร่วมสายเลือดของตนเลยสักนิด แต่ด้วยความไม่เข้าใจและเพื่อความปลอดภัย ก็ต้องสู้ป้องกันตัวไว้ก่อน
จั๊กแหล่นกับสุดหล่อเห็นเหตุการณ์เข้า  จั๊กแหล่นก็รีบไล่ให้สุดหล่อไปตามพี่หิ้งห้อยกับตาหวาน

   ทางด้านเภตราอาธารกำลังนำทหารไปช่วยพระโอรสต่อสู้กับพระธิดา แต่ระหว่างทางเจอกับอัญญาณีและอัมพิกาที่เพิ่งออกมาจากบุรีปลายฟ้า ทั้งสองคนยังไม่รู้เรื่องอะไ รจึงทักทายเภตราอาธารตามปกติ

อัมพิกา - ว่าไง แล้วนี่พวกเจ้าจะนำทหารไปไหนเหรอ

อัญญาณี - นั่นสิ ทหารตั้งมากมาย ทำอย่างกับจะเอาไปโจมตีใครงั้นล่ะ

เภตราไม่ตอบกลับปล่อยพลังใส่สองสาว  อัมพิกาดึงอัญญาณีหลบไปได้อย่างหวุดหวิด

อัมพิกา - อะไรกันเนี่ย

อัญญาณี - ไปนอกเมืองกันดีกว่า เร็ว
ทั้งสองวิ่งไปจะออกนอกเมือง  แต่เจอจั๊กแหล่นที่ซุ่มดูเหตุการณ์

อัญญาณี - มีอะไรกันน่ะจั๊กแหล่น

จั๊กแหล่น - ว้าย..พระธิดามาเงียบๆ  ก็พวกพระโอรสรูปหล่อน่ะสิเจ้าคะ โดนนังแม่มด
สะกด  เลยเป็นแบบเนี๊ยะ

อัญญาณี - งั้นก็หมายความว่าเกลียวทองมาที่นี่แล้ว..เภตราอาธาร..ก็โดนสะกดด้วยงั้นหรือ

จั๊กแหล่น - เจ้าค่ะ

ทางด้านจันทราภา พุทธรัตน์และประกายพรึกต่อสู้กับเหล่าโอรสเกราะกายสิทธิ์อยู่นั้น

อัมพิกาและอัญญาณีได้กลับไปตามไอศูรย์ที่บุรีปลายฟ้าโดยมีจั๊กแหล่นคอยเฝ้าดู
พระธิดาทั้งสามพระองค์ที่รัตนบุรี

อัมพิกา - พี่ไอศูรย์ๆ  รีบไปรัตนบุรีเร็วเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

ไอศูรย์ - อะไร   

อัญญาณี - ก็จะอะไรซะอีกล่ะ  ตอนนี้นางแม่มดเกลียวทอง สะกดพวกเกราะกายสิทธิ์ที่เป็นผู้ชายหมดแล้วตอนนี้ จันทราภา พุทธรัตน์กับประกายพรึกต่อสู้กับพวกนั้นอยู่

ไอศูรย์ - อะไรนะ...เอ่อ...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า<ปากแข็งไปงั้นแหละแต่ในใจห่วง
จันทราภาจะตาย>

อัมพิกา - โธ่..พี่ไอศูรย์ให้พวกเค้ามาอยู่กับเราได้ไหม

ไอศูรย์ - ข้าไม่รู้ มันไม่เกี่ยวกับข้า 
ว่าแล้วไอศูรย์ก็เดินหนีไป   อัญญาณีได้ยินคำตอบของไอศูรย์ก็กระวนกระวายใจเป็น
ห่วงคนที่รัตนบุรี

อัญญาณี - นี่..อัมพิกาเรากลับไปรัตนบุรีกันก่อนเถอะ

อัมพิกา - ก้อได้
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

อัมพิกากับอัญญาณีกลับมาที่รัตนบุรี

อัญญาณี - จั๊กแหล่นทางนี้เป็นไงบ้าง

จั๊กแหล่น - เหมือนพระธิดาทั้งสามพระองค์จะไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ

อัมพิกา - งั้นเราไปพาตัวพวกนั้นมาก่อน
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
อัมพิกาวิ่งมาแถวๆที่พระโอรสและพระธิดากำลังต่อสู้กัน

อัมพิกา - จันทราภาๆ

อัมพิกาตะโกนเรียก

ทั้ง7คนหันมา  ภูมินทร์จะปล่อยพลังใส่อัมพิกาแต่พุทธรัตน์ขวางเอาไว้แล้ววิ่งหนีกันไป

สุริยะ - หยุดเดี๋ยวนี้นะ..

สุริยะร้องเรียกด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถกำจัดพวกนางไปได้

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

จันทราภา พุทธรัตน์ ประกายพรึก และคนอื่นๆ  พากันมาหยุดที่ชายป่าด้าหนึ่งของ
รัตนบุรี

จันทราภา - แล้วเราจะทำยังไงกันดี

อัมพิกา - นั่นสิ เราจะไปอยู่ไหนกันดี...ไปเวียงวนาลัยดีมั๊ย

พุทธรัตน์ - คงไม่ได้หรอก  เวียงวนาลัยกลายเป็นเมืองเปิดไปแล้ว

พี่หิ้งห้อย - งั้นเราก็ต้องไปให้ไกลจากรัตนบุรีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยตกลงกันอีกที่ว่าจะไปที่ไหนต่อ

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่หิ้งห้อย

ป่าแห่งหนึ่ง...

พุทธรัตน์ - ถ้าพวกเราอยู่ที่นี่ อีกไม่นานพวกนั้นคงตามเจอ

พุทธรัตน์พูดออกมาด้วยความกังวล

อัมพิกา - งั้นไปบุรีปลายฟ้ากัน

ประกายพรึก - แล้วพี่ชายเจ้าจะยอมเหรอ

จันทราภา - นั่นสิ...พี่ชายเจ้าคงยังโกรธเราคงไม่ให้พวกเราไปที่นั่นหรอก

อัมพิกา - แหม..ไม่ลองก็ไม่รู้สิ  แต่ถ้าจันทราภาไปขอร้องพี่ไอศูรย์อาจจะยอมก็ได้

จันทราภา - แล้วทำไมต้องเป็นเรา

อัมพิกา - ก็เพราะเจ้า...เป็น...คนที่พี่ข้าชอบน่ะสิ

จันทราภา - ไม่ใช่ซักหน่อย..เจ้านี่พูดอะไรไม่รู้เรื่อง..พี่เจ้าออกจะทั้งโกรธทั้งเกลียดเราขนาดนั้น

ทุกคนต่างยิ้มกับความปากแข็งของจันทราภา โดยไม่สังเกตุสีหน้าเศร้าของพุทธ
รัตน์เลย

ประกายพรึก - เอาน่า...ไปเถอะจันทราภา  เพื่อพวกเรานะ

จันทราภา - ก็ได้ก็ได้  แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ

ว่าแล้วอัมพิกาก็ดึงมือจันทราภาเข้าไปบุรีปลายฟ้า

ที่บุรีปลายฟ้า...

อัมพิกา - เอ..พี่ไอศูรย์หายไปไหนนะ

จันทราภา - ถ้าเค้าไม่อยู่เรากลับกันเถอะ

อัมพิกา - เจ้านี่กลัวอะไร ไม่เข้าเรื่อง

จันทราภา - เราไม่ได้กลัวซักหน่อย

จันทราภาเสียงแข็ง

อัมพิกา - เออๆ ไม่กลัวก็ไม่กลัว  งั้นเจ้ารออยู่นี่ก่อนแล้วกันเดี๋ยวข้าจะไปตามหาพี่
ไอศูรย์ก่อน   

จันทราภา - รีบกลับนะ

อัมพิกา - อืม  อย่าออกจากห้องล่ะ

     เวลาล่วงเลยไปนานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าอัมพิกาจะกลับมาเสียที จันทราภาเริ่มเป็นกังวล(ไม่ได้ห่วงอัมพิกาแต่กลัวจะเจอไอศูรย์)

จันทราภา - โอ๊ย..ทำไมป่านนี้อัมพิกายังไม่มาอีกนะ

จันทราภาเดินออกไปนอกห้องโดยลืมนึกถึงที่อัมพิกาบอกไว้ว่าห้ามออกจากห้อง
จันทราภาเดินไปเดินมาแถวหน้าห้อง  พอจะเดินกลับเข้าห้องจันทราภาก็ต้องตกใจ
เพราะไอศูรย์เดินมาขวางไว้

จันทราภา - อะ..อะ..ไอศูรย์

ไอศูรย์ - จันทราภา  เจ้ามาทำอะไรที่นี่เหรอ

ไอศูรย์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าปกติ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับจันทราภาไม่
น้อย

จันทราภา - เอ่อ..คือเรา..มากับอัมพิกาน่ะ

ไอศูรย์ - อืม...เรามีอะไรจะถามเจ้าหน่อย

จันทราภา - อะไรเหรอ

ไอศูรย์ - คือเจาอยากจะ..

เป็นจังหวะเดียวกับที่อัมพิกาเดินกลับมา

อัมพิกา - อ้าวพี่ไอศูรย์..ข้าหาแทบตายที่แท้ก็หนีมาอยู่กับจันทราภา

ไอศูรย์ - เปล่า..ข้าเดินผ่านมาแถวนี้เลยเจอนาง

อัมพิกา - เอาล่ะๆ  เชื่อก็ได้  คืดว่าข้ามีอะไรให้พี่ช่วย

ไอศูรย์ - อะไร




ลงแค่นี้ก่องน้าค้าบบ

เจ๋งจิงสาวน้อย รวดเร็วทันจายมั่กๆ

โฮะๆ

อย่าลืมเรื่องทะลุเวลาพาวุ่นด้วยล่ะ

ไม่ได้เซฟไว้อ่าเจ้ - -"

nidajung

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2007, 10:32:26 PM »
อ่าวๆ มะเปงไรค่อยรอก๊อปจากบอร์ดก็ได้ :)

nanajung

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 09:13:02 PM »
น้องการ์ตูนหายเงียบเลย เป็นไรป่าวจ๊ะเนี่ย .... :-[

nidajung

Re: เกราะกายสิทธิ์ [pim_4262]
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 09:26:57 PM »
นั่นจิ