ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #105 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:32:25 PM »
ฝ่ายมณีก็ถูกลากพาหนี ร้องเรียกหาแต่พิรุณ นันทะเสนบอกลงข้างล่างเถอะ ฝ่ายอนันตวงศ์ได้เปรียบเลยท่องคาถาเด็กจู้จี้บีบหัวงั่ง แต่งั่งก็ใจเด็ดไม่ยอมปล่อยแมลงภู่ (ฉากนี้งั่งคะ คุณคือฮีโร่ตัวจริง) >:D






ฝ่ายนันทะเสนกับสุระผัดพามณีวิ่งหนีจักรวรรดิ จักรวรรดิเลยใช้พัดชีวิตจะพัดใส่






งั่งทนไม่ไหว บีบแมลงภู่แหลกคามือ อนันตวงศ์เจ็บปวดทุรนทุรายปล่อยพิรุณหลุดจากมือ จักรวรรดิได้ยินเสียงร้องก็ชะงัก แล้วร่างกายก็ระเบิด (เฮ้อออ ตายซะที)






จักรวรรดิและล่าสันรีบเข้ามาดูใจอนันตวงศ์ครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจ จักรวรรดิแค้นใจมาก หันมาทางพวกพิรุณ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:49:59 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #106 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:33:47 PM »
“พวกเจ้าทำร้ายอนันตวงศ์ ตายซะเถอะ อย่าอยู่เลย พัดชีวิต!!” จักรวรรดิกำลังจะพัด พิรุณฟาดพระขรรค์ใส่พัดชีวิตขาด ไม่สามารถใช้งานได้






สุระผัดพาทุกคนหายตัวไปจากตรงนั้นทันที ทำให้จักรวรรดิตามไม่ทัน ได้แต่แค้นใจ (เหมือนมันจะตัดไปหน่อยนึงด้วยแหละ)






จักรวรรดิกลับมาพร้อมความพ่ายแพ้และศพของอนันตวงศ์ที่โชตะนาโศกเศร้าเสียใจมาก จักรวรรดิบอกน้องสาวให้หักห้ามใจ โชตะนาว่าหักห้ามใจได้ไง ในเมื่อจากไปแบบนี้ อุตส่าห์ถอดหัวใจไว้ที่อื่นแต่ก็หนีไม่พ้นความตาย จักรวรรดิหันไปถามล่าสันว่าทำไมศัตรูถึงได้หัวใจอนันตวงศ์






โชตะนาตกใจนึกถึงหัวใจตัวเอง ว่าอยู่ที่ศัตรูรึเปล่า “เปล่าพระเจ้าค่ะ โชคดีที่หัวใจของพระมเหสีบินหนีไปได้” แล้วล่าสันก็เล่าๆๆๆ เหตุการณ์ที่เป็นไป
โชตะนาถามว่าทหารที่ไปตามหัวใจข้ากลับมารึยัง พอล่าสันบอกยัง โชตะนาก็ยิ่งใจเสีย จักรวรรดิโกรธมากแทบจะบีบคอล่าสัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:51:44 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #107 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:43:19 PM »


จักรวรรดิยังพอมีสติ จึงบอกให้ทางนี้จัดการเรื่องอนันตวงศ์ให้เรียบร้อย โชตะนาไปตามหาหัวใจ ส่วนตัวจะกลับไปซ่อมพัดชีวิตใหม่ ก็ไม่รู้จะใช้การได้เหมือนเดิมรึเปล่า โชตะนามองพระสวามีอย่างหักห้ามใจ






บนสวรรค์ พระอิศวรและมาตุลีเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม “พระองค์เสด็จลงไปขัดขวางเพื่อให้เหตุการณ์เปลี่ยนไปใช่มั้ยพระเจ้าค่ะ”
“ใช่ และอีกไม่นานเราก็ต้องลงไปเพื่อชดใช้ความผิด” มาตุลีขอตามเสด็จ “อย่าเลย มาตุลี เพราะว่าลงไปครั้งนี้เราลงไปอย่างมนุษย์ธรรมดาคนนึง ไม่มีอิทธิฤทธิ์ใดๆ เราเคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ” แต่มาตุลีก็ยังยืนยันคำเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง พระอิศวรตรัสขอบใจอย่างซาบซึ้ง






โชตะนามาที่ถ้ำ มีทหารสองตนยืนเฝ้าอยู่ ล่าสันถามว่าไม่ได้ไปตามหาผึ้งเหรอ พวกมันบอกไล่ต้อนจนผึ้งเข้าถ้ำแล้ว แล้วก็เฝ้าอยู่เนี่ย กลัวมีใครมาเอาไปอีก
โชตะนาชมที่ทำดี และให้ล่าสันกับทหารคอยอยู่ข้างนอก ตนกับนางกำนัลเข้าไปในถ้ำ






โชตะนาคิดไม่ตกว่าจะเอาหัวใจซ่อนไว้ในผึ้งต่อไป หรือเอากลับมาใส่ไว้ในตัวดี นางตัวเล็กกับตัวน้อยก็ดันตอบไปคนละอย่าง ตัวเล็กว่าเอาไว้ในนี้ศัตรูจะได้ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเกิดไรขึ้นจะได้แก้ไขทัน
ตัวน้อยว่าถ้าดีขนาดนั้นแล้วทำไมองค์เหนือหัวถึงพลาดได้ล่ะ “ตัวน้อยคิดว่าหัวใจควรจะอยู่กับตัวผู้เป็นเจ้าของนะเพคะ เพราะถ้าถึงคราวตายไม่ว่าหัวใจจะไปอยู่ที่ไหนก็ตายเพคะ”
ตัวเล็กจะค้าน “พอ เราตัดสินใจแล้ว หัวใจก็ควรจะอยู่กับตัวผู้ที่เป็นเจ้าของเสมอ ใจกับกายก็ควรจะไปด้วยกัน ตัวน้อยเจ้าออกไปบอกล่าสันให้กลับไปดูแลบ้านเมืองก่อน หลังจากที่ข้าทำพิธีนำหัวใจกลับมาไว้ในตัวแล้ว ข้าจะกลับไป”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:52:46 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #108 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 10:48:19 AM »
สุระผัดและนันทะเสนพามณีกับพิรุณเดินทางเหาะมาจนกระทั่งถึงนครอุดมในที่สุด (น่าจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว) ประชาชนค้าขายอยู่ดีกินดี
“นี่น่ะเหรอจ๊ะ บ้านของแม่ ใหญ่โตดีจังเลย เราเข้าไปหาพ่อกันเถอะจ้ะ”
“เดี๋ยวก่อนลูก แม่ไม่อยากให้วิ่งพรวดพราดเข้าไปแบบนี้” มณียังคิดเจ็บแค้นอยู่ งั่งว่ากลัวอะไร มีพวกตนอยู่แล้วก็ทะเลาะกับนันทะเสนนิดหน่อย
สุระผัดบอกว่า “ข้านึกออกแล้ว นันทะเสน เราจะต้องพาน้องมณีเข้าเมืองอย่างมีศักดิ์ศรี” พิรุณถามว่าศักดิ์ศรีคืออะไร สุระผัดตอบเดี๋ยวหลานก็รู้เอง






อยู่ๆ ก็เกิดมีปราสาทราชวังปรากฏขึ้นราวเนรมิตที่ข้างหน้าประตูวัง ทหารและประชาชนเห็นเข้าก็แตกตื่นไปมุงดูกัน






เรื่องที่อยู่ๆ ก็มีเมืองใหม่ผุดขึ้นมาลือกระฉ่อนไปทั่วจนทุกฝ่ายในวังทั้งฝ่ายดีฝ่ายร้ายต่างพากันไปมุงดู






ทุกคนต่างพากันมาดูเมืองใหม่ที่ปรากฏขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจ อำมาตย์อาจองกราบทูลว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องรีบกำจัดโดยเร็ว แต่อำมาตย์เดชาให้รอดูก่อนเพราะต้องมีคนอาศัยอยู่แน่


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:53:24 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #109 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 10:51:35 AM »
คุณท้าวผกา ฝ่ายทัศนีย์บอกคนอะไรจะทำได้อย่างนั้น เป็นตายก็ไม่ใช่คนหรอก ทัศนีย์เห็นด้วย ท้าวตรีภพถามอำมาตย์อาจองว่าคิดจะทำยังไง “เผามันเลยพระเจ้าค่ะ เผาให้สิ้นซาก”
“ตกลงท่านรีบไปจัดการ”






ฝ่ายพวกมณีเตรียมรับมือกับการต้อนรับของท้าวตรีภพอยู่แล้ว ในขณะที่อำมาตย์อาจองและหมื่นมิตรคุมทหารมาเตรียมสุมไฟ






แต่แล้วอยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาดับไฟจนหมด อำมาตย์อาจองต้องล่าถอยกลับมา คิดว่ามันคงไม่ธรรมดาแล้ว “น้องกลัวเพคะเจ้าพี่”
ท้าวตรีภพกำลังเครียด “กลัวก็กลับเข้าไปข้างในก่อน” แล้วให้คุณท้าวพาทัศนีย์กลับตำหนัก






อำมาตย์อาจองเสนอให้ใช้กำลังทหารเลย อำมาตย์เดชาค้านว่าไฟยังทำอะไรไม่ได้เลย เปลืองกำลังเปล่าๆ แล้วก็ค้านกันไปมา แต่ตอนนี้ท้าวตรีภพก็เชื่อคำแนะนำของอำมาตย์อาจองมากกว่า อนุมัติให้ใช้กำลังทหารจู่โจมได้ แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็รอดูท่าทีอย่างที่อำมาตย์เดชาบอก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:54:55 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #110 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 01:37:19 PM »


ทหารใช้ท่อนซุงพังประตูก็พังไม่ได้ ใช้บันไดพาดก็มีมนตรากั้นไว้เข้าไปไม่ได้ ท้าวตรีภพเห็นว่าทำอะไรไม่ได้ จึงสั่งให้อำมาตย์เดชาจัดกำลังรอบกำแพง ถ้ามีอะไรผิดปกติให้ไปรายงานทันที







เมื่อกลับเข้ามาในตำหนัก ทัศนีย์ก็รีบถาม “เราไม่มีทางรู้เลยว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น นอกจากคนในนั้นจะปรากฏตัวออกมาเอง” สองคุณท้าวเสริมสีตีไข่แล้วก็เถียงกันเอง จนทัศนีย์ไล่ออกไปด้วยความรำคาญ






เมื่อออกไปกันแล้ว ทัศนีย์ก็ปลอบใจอย่ากังวลเพราะเชื่อว่าพ่อของตนจัดการได้ ท้าวตรีภพบอกว่าอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่เรื่องนี้มันไม่ธรรมดา ทัศนีย์เสนอให้หาคนดีมีฝีมือมาปราบ คงหาไม่ยากหรอก ท้าวตรีภพคิดตาม







ตกกลางคืนมีเวรยามเฝ้าดูเหตุการณ์หน้าเมือง อยู่ๆ ประตูเมืองก็เปิดมีทหารชุดเขียวกรูกันออกมาประจันหน้า มีกระหังเป็นแม่ทัพ หมื่นมิตรเลยพาทหารถอยหนี


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:55:39 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #111 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 01:42:08 PM »
คุณท้าวต้องมาเคาะประตูเรียกท้าวตรีภพและทัศนีย์กลางดึก บอกว่าอำมาตย์อาจองขอเข้าเฝ้าด่วน






ท้าวตรีภพออกมาเจอทหารประจันหน้ากัน หมื่นมิตรกราบทูลว่ามีกระหังด้วย แล้วก็ชักรอกคุณหนำเลี๊ยบแลบลิ้นปลิ้นตา ทัศนีย์กรีดร้องอย่างหวาดกลัว







งั่งกระโดดลงมาทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี ทัศนีย์กรีดร้องกรี๊ด ท้าวตรีภพเลยไล่กลับไป ทัศนีย์ไม่พอใจที่ถูกต่อว่าท่ามกลางข้าราชบริพารแต่ก็กลัวกระหังเลยรีบกลับตำหนัก







ท้าวตรีภพประกาศถามว่าเจ้าต้องการอะไร งั่งก็ลีลาไปเรื่อย บอกว่ามาแทนนาย อำมาตย์อาจองถามว่าใครเป็นนาย งั่งไม่ตอบ แต่พูดเป็นเชิงขู่ว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตอบแทน ก่อนจะบินกลับไป ท้าวตรีภพไม่เข้าใจที่งั่งพูด แต่อำมาตย์อาจองชักร้อนๆ หนาวๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:57:01 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #112 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 01:55:03 PM »
คืนนั้น มณียังไม่นอนนั่งเหม่อลอย พิรุณตื่นขึ้นมาเห็นก็ถาม “แม่นึกอะไรเหรอจ๊ะ”
“เปล่าหรอกลูก แล้วลูกล่ะยังไม่หลับเหรอ”
“เอ่อ ลูกแค่ตื่นเต้นที่จะได้พบพ่อ” มณีฟังแล้วไม่ตอบอะไร







“แม่ยังโกรธพ่ออยู่เหรอจ๊ะ” มณีเลี่ยงไปพูดอีกเรื่อง
“ต้องเรียกเสด็จพ่อนะลูก เสด็จพ่อทรงเป็นกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง”
“งั้นก็ต้องเรียกเสด็จแม่ด้วยใช่มั้ยจ้ะ”
“เรียกแม่เฉยๆ ก็ได้จ้ะ”
“ไม่เอาถ้าเรียกเสด็จพ่อก็ต้องเรียกเสด็จแม่ด้วย” มณีบอกจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ไปนอนได้แล้ว พิรุณยอมไปนอน มณีห่มผ้าให้
พิรุณยังถาม “แล้วพรุ่งนี้ลูกจะได้พบเสด็จพ่อใช่มั้ยจ้ะ”
“อันนี้ลูกก็ต้องถามท่านลุงทั้งสองของลูกดูเองนะ หลับตาได้แล้วจ้ะ”







พิรุณหลับตาแต่ยังไม่หลับ “นั่นแน่ แม่ยังมองอยู่นะ”
“แม่นอนด้วยสิจ๊ะ ถ้าแม่ไม่นอนลูกก็ไม่หลับ” มณีก้มลงจุมพิตหน้าผากลูกแล้วนอนลงข้างๆ “ทีนี้หลับได้แล้ว แม่จะได้นอนด้วย” แล้วสองแม่ลูกก็หลับไปด้วยกัน







ขณะเดียวกัน ท้าวตรีภพเครียดจนนอนไม่หลับ ในขณะที่ทัศนีย์เกิดนิมิตร้ายขึ้นมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:58:57 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #113 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 02:27:56 PM »
คิดถึงน้องเก้า   น่ารักแบบนี่พี่รับเลี้ยง  เด็กน่ารัก

เนื้อเรื่องขุดมาดูจนรู้หมดทุกรูขุมขน  เลยไม่อ่านล่ะแต่มาให้กำลังใจคนเล่า   >:D

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #114 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 04:42:51 PM »


คิดถึงน้องเก้า   น่ารักแบบนี่พี่รับเลี้ยง  เด็กน่ารัก

เนื้อเรื่องขุดมาดูจนรู้หมดทุกรูขุมขน  เลยไม่อ่านล่ะแต่มาให้กำลังใจคนเล่า   >:D

ประมาณว่าถ้ามีแข่งแฟนพันธุ์แท้เทพสามฤดู  พี่โบว์เบนซ์ชนะเลิศค่ะ
 ;D





ในนิมิตนั้นว่าตนเองเดินอยู่ในอุทยาน และเอื้อมเก็บดอกหางนกยูงลงมา แต่แล้วก็มีกระหังป่าบินลงมา บนหลังมีเด็กชาย (พิรุณ) นั่งมาด้วย ทัศนีย์กรีดร้องตกใจวิ่งหนี







เด็กคนนั้นก็ยังสั่งให้กระหังบินตาม พิรุณกระโดดลงจากหลังงั่ง งั่งบินมาโฉบทัศนีย์ลอยขึ้นฟ้า นางร้องสั่งให้ปล่อย งั่งก็ปล่อยตกลงมาจากอากาศ






ทัศนีย์สะดุ้งตื่นขึ้นมาตกใจ ขวัญผวากอดท้าวตรีภพไว้แน่น จนต้องปลอบให้สงบสติอารมณ์ ทัศนีย์รู้ว่าฝันไปก็โล่งอก ทัศนีย์ว่าไม่ตามเจ้าพี่ออกไปจนเห็นผีนั่นเลย (ตัดไปหน่อยนึงอ่ะ)







รุ่งเช้าท้าวตรีภพปรึกษากับอำมาตย์ทั้งสองอยู่ในท้องพระโรง ไม่รู้ว่าพวกมันต้องการอะไรกันแน่ หมื่นมิตรมากราบทูลว่ามีตัวประหลาดมาขอเข้าเฝ้า อำมาตย์อาจองว่าบังอาจ ไล่มันไป หมื่นมิตรว่ามันเป็นตัวแทนของคนในเมืองประหลาดนั่นมาเจรจา ท้าวตรีภพอนุญาตให้ไปพาเข้ามา
นันทะเสนกระโดดหยองแหยงเข้ามาสร้างความแตกตื่น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:59:54 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #115 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 04:48:58 PM »

และเพื่อให้มีเกียรติเท่าเทียม นันทะเสนก็เลยเสกหางของตัวเองออกมายาวขดยันตัวให้สูงเท่ากับบัลลังก์ของท้าวตรีภพ อำมาตย์เดชาตวาดว่าไม่ใช่มนุษย์ทำไมจึงกล้านั่งเทียบองค์เหนือหัว






นันทะเสนย้อนว่า องค์เหนือหัวของเจ้าไม่ใช่ของข้า ทำไมจะนั่งอย่างนี้ไม่ได้ เอาความจริงจะนั่งให้สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ อำมาตย์ทั้งสองจะเรียกทหารมาจัดการ แต่ท้าวตรีภพห้ามไว้ “เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร”
“เอาอย่างนี้ท่านถามตรงๆ ข้าก็จะตอบตรงๆ คืออย่างนี้เจ้านายของข้าเนี่ย ได้ข่าวมาพระองค์มีพระมเหสีที่ทรงสิริโฉมงดงามมาก เจ้านายของข้าอยากจะได้ จึงส่งข้ามาสู่ขอนางท่านจะให้มั้ย”






ท้าวตรีภพเดือดดาล “บังอาจ กลับไปบอกเจ้านายของเจ้า ไปตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง แล้วเราจะไม่มีวันยกนางให้กับใครเป็นอันขาด”
นันทะเสนถามแม้ว่าจะต้องแลกกับนครแห่งนี้ (อะไรประมาณนี้แหละ ฟังไม่ถนัด)
“แน่นอน!!”
“ดี!” นันทะเสนหัวเราะชอบใจ






มณีรู้คำตอบก็ปลดปลงปนน้อยใจ “ช่างเถอะ ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ เราก็จะกลับ”
“กลับ? กลับไปไหนจ๊ะแม่ ในเมื่อบ้านของเราอยู่ที่นี่”
“โลกใบนี้กว้างใหญ่ที่พอให้เราแม่ลูกได้อยู่อาศัย”
สุระผัดหันไปซัดนันทะเสนที่ไปเจรจาไม่สำเร็จ แล้วทะเลาะซัดกันไปมา มีงั่งคอยเป็นกรรมการ มณีกับพิรุณเลยเดินหนี

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 10:00:35 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #116 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2010, 04:52:04 PM »
พิรุณตามมาปลอบ “แม่อย่าเสียใจเลยนะจ๊ะ ใครไม่รักแม่ก็ช่าง พิรุณรักแม่คนเดียว รักที่สุดในโลกเลย”
“โถ พิรุณ”
“ถ้าแม่ยังรักพ่ออยู่ พิรุณก็จะไปชิงเอาพ่อมาคืนแม่ให้ได้” มณีไม่ตอบแต่น้ำตาไหลพราก






“แม่ยังรักพ่ออยู่ใช่มั้ยจ๊ะ” มณีไม่ตอบ พิรุณเอามือประคองหน้ามณีให้หันมามองตน “แม่ยังรักพ่ออยู่แน่ๆ เลย”
มณีตัดใจ “เราไปกันเถอะลูก ไปที่ไหนก็ได้”
“แต่พิรุณอยากเห็นพ่อ อยากรู้จักพ่อ”






“ไหนลูกบอกว่าลูกรักแม่คนเดียวไงล่ะ”
“ใช่จ้ะ พิรุณรักแม่คนเดียว แต่...พิรุณก็อยากรู้จักพ่อเหมือนกัน”
“ไม่มีประโยคหรอกลูก เสด็จพ่อทรงปักพระทัยเชื่อว่าเราแม่ลูกเป็นคนไม่ดี พระองค์ทรงเชื่อคนอื่น”
“แต่พิรุณอยากจะลองดู ถ้าหากพ่อ เอ๊ย...เสด็จพ่อเป็นอย่างที่แม่บอก เราก็จะไปจากที่นี่ทันที นะจ๊ะแม่” พิรุณอ้อนวอนจนมณีเริ่มใจอ่อน







นันทะเสนกับสุระผัดยังบีบคอกันไม่เลิก พิรุณเข้ามาห้ามทัพ “หยุดๆ! หยุดกันได้แล้ว สงสัยต้องฆ่ากันตายก่อนที่จะไปสู้กับพวกศัตรู”
งั่งผสมโรงบอกห้ามแล้วห้ามอีก มันก็ยังสู้กันไม่เลิก งั่งล่ะอ่อนใจ คราวนี้ทั้งสุระผัดกับนันทะเสนแทคทีมกันโยนความผิดให้งั่งที่คอยยุดีนัก งั่งยั่วโทสะเลยโดนซัดกลับมาทีนึง งั่งหนีไปหลบหลังพิรุณ
“หยุดๆ บอกให้หยุด ทุกคนอยากจะสู้กันเองหรืออยากจะช่วยหนู”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 10:02:06 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ Vincent

  • *
  • 163
  • 1
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #117 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2010, 04:13:55 PM »
 :icon_sad: ชอบเรื่องนี้จังคะ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #118 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2010, 12:45:27 AM »
:icon_sad: ชอบเรื่องนี้จังคะ

เรื่องนี้นี่อยู่ในความทรงจำทุกคนจริงๆ  :icon_evil:



ทุกคนพร้อมใจกันช่วย งั่งสอพลอว่างั่งจงรักภักดีอยู่แล้ว“เอาล่ะๆ ถ้าจะทะเลาะกันน่ะกลับไปได้เลย แต่ถ้าจะช่วยหนูฟังทางนี้” แล้วพิรุณก็ว่าแผนการ







เมื่อมีการประชุมกัน ทัศนีย์ก็พูดเสียน่าสงสาร “เพื่อเจ้าพี่ เพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อราษฎร เพื่อทุกคน น้องขอเสียสละชีวิตเพคะ”
ท้าวตรีภพตกใจ “ไม่ได้นะ พี่จะไม่ยอมให้น้องทำอย่างนั้นเป็นอันขาด” อำมาตย์อาจองยกยอลูกสาวตัวเอง “พระมเหสีเป็นสตรีที่กล้าหาญเสียสละเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”







แล้วขุนนางฝ่ายอำมาตย์อาจองก็ยอกันเองขัดกับฝ่ายอำมาตย์เดชา อำมาตย์เดชาคิดว่าคงไม่มีวิธีการใดนอกจากระดมไพร่พลปกป้องบ้านเมืองอย่างสุดความสามารถ โดนอำมาตย์อาจองกัดว่าคิดได้แค่นี้เอง ท้าวตรีภพจึงให้อำมาตย์เดชาไปเตรียมไพร่พล







คุณท้าวนางกำนัลฝ่ายมณีที่อยู่กันอย่างเงียบๆ พูดคุยกันเรื่องข้าศึกมาขอมเหสีทัศนีย์ “ไหมล่ะ ฉันว่าแล้วว่าเวรกรรมมีจริง” คุณท้าวอีกคนว่ากลัวแต่องค์เหนือหัวจะไม่ส่งมเหสีทัศนีย์ออกไปแล้วประชาชนจะเดือดร้อน
“แหม อยากรู้จังเลยนะเจ้าคะ ว่าพวกที่มาขอพระมเหสีทัศนีย์เป็นใคร เค้าไม่รู้หรือยังไงว่าผู้หญิงคนนี้เนี่ยเป็นตัวอันตราย เข้าที่ไหนก็พินาศที่นั่นนะเจ้าคะ” นางกำนัลอีกคนว่าพูดไรระวังบ้าง หน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะ
คุณท้าว (คุณน้ำเงิน) บอก “หน้าต่างกับประตูมาแล้ว”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 10:04:34 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #119 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2010, 12:49:06 AM »
คุณท้าวฝ่ายทัศนีย์เดินเข้ามาหาเรื่องถามว่ากำลังนินทาอะไรกันอยู่  เห็นนะ คุณท้าวฝ่ายมณีว่าจัดดอกไม้กันอยู่ดีๆ ก็เข้ามาหาเรื่องเลยชวนกันย้ายหนี แสดงออกว่ารำคาญทั้งสองคุณท้าวเต็มทน คุณท้าวฝ่ายทัศนีย์ได้แต่เจ็บใจ จะไปทูลฟ้องตอนนี้ก็ไม่ได้ เพราะทัศนีย์กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ เลยอาฆาตแค้นไว้ว่ารอให้ศัตรูมันยกทัพกลับไปให้หมดก่อนเถอะ






คืนนี้ทัศนีย์ก็ฝันอีกว่าเดินอยู่ที่ไหนไม่รู้ พลางเรียกหาเจ้าพี่กับท่านพ่อ แต่ก็ไม่พบใครเลย พลันมีแสงอะไรพุ่งลงมาแล้วกลายเป็นดวงวิญญาณสีเขียวลอยลิ่วไล่ตาม
ทัศนีย์วิ่งหนีสุดชีวิต วิญญาณนั้นพุ่งมาดักหน้าแล้วก็บีบคอทัศนีย์ (วิญญาณมีท่อนล่างเหมือนปลาหมึกด้วยอ่ะ 55+)







ทัศนีย์สะดุ้งตื่น เรียกหาเจ้าพี่ แต่กลับไม่พบท้าวตรีภพที่นอนอยู่ข้างๆ กัน เมื่อออกมาถามมหาดเล็กข้างนอกก็บอกว่าองค์เหนือหัวไม่ได้เสด็จออกมา ทัศนีย์โวยวายจะสั่งโบยที่ไม่มีใครเห็นแล้วสั่งให้มหาดเล็กออกไปตามหา







ฝ่ายท้าวตรีภพถูกนันทะเสนลักพาตัวมา สุระผัดเข้ามาจ้องแล้วแอบคิดในใจอย่างเคืองๆ ‘รูปงามอย่างนี้นี่เอง น้องมณีถึงไม่มองข้าเลย’ ไอ้งั่งก็ไม่คิดอะไรนอกจากน่ากิน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 10:05:45 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**