ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 10:29:10 PM »
เจ้างั่งนี่ โลภมากจัง

ราหูกับอัมพรคงมีฉากหวานหลายฉากใช่ป่ะคะ

เยอะแยะมากมาย บานตะไท ให้อิ่มหนำสำราญ  55+
เอาเป็นว่าเป็นเรื่องที่มีฉากหวานของพระนางเยอะสุดอ่ะ
 :icon_smile:
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ Nus

  • *
  • 270
  • -1
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2010, 11:45:58 AM »
แล้วองค์อิศรา  จินดา  สามศร๊ ล่ะค่ะ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:07:02 PM »
แล้วองค์อิศรา  จินดา  สามศร๊ ล่ะค่ะ


นี่ก็รันทดทั้งสามคน  มีฉากสามศรีจีบจินดาหน่อยเดียวเอง แถมไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวด้วย
ส่วนกับองค์อิศราก็น่าสงสาร  ต้องประพฤติตนให้เหมาะสม พองามกับความเป็นเทพแล้วยังต้องแคล้วคลาดไม่ได้เจอหน้ากันอีก
 :icon_surprised:





เอย...เมื่อนั้นยักษ์ร้ายใจฉกาจ
อาจสามารถครองเมืองเรืองศักดิ์ศรี
ทรงพระนามอนันตวงศ์ทรงฤทธี
มเหสีมีนามโชตะนา
แม้ใครฆ่าก็ไม่ตายวายชีวิต
ถอดดวงจิตเก็บไว้ไกลหนักหนา
เก็บอยู่ในแมลงภู่อสุรา
สถิตในคูหาพนาวัลย์







ท้าวอนันตวงศ์ กับมเหสีโชตะนาก็ไม่ค่อยจะรักกันหวานชื่นเท่าไหร่ออกจะเป็นไม้เบื่อไม้เมามากกว่า
โชตะนากำลังกินเนื้อช้างกับนางตัวเล็กตัวน้อย (ชื่อนางกำนัลค่ะ) โชตะนาว่าอยากกินเนื้อคน
อนันตวงศ์เข้ามาบอกว่าจะไปให้อาหารแมลงภู่ที่ถ้ำนิลคูหา โชตะนากระดี๊กระด๊าจะไปด้วย
อนันตวงศ์ว่าไปได้ไงพร้อมกันสองคน ต้องมีคนดูแลที่นี่คนนึง หรือน้องจะไปให้อาหารแมลงภู่เอง โชตะนาเลยอยู่ให้อาหารตัวเองดีกว่า






อนันตวงศ์มากับล่าส่ำเหาะมา อนันตวงศ์ก็นินทามเหสีไป เบื่อนางยักษ์ไม่เจริญหูเจริญตาแถมโชตะนาก็อ้วนขึ้นทุกวันเพราะมีนางตัวเล็กตัวน้อยเป็นคู่หูเสวย
อนันตวงศ์ว่าจะต้องหาเมีใหม่แล้วล่ะคราวนี้จะเอานางฟ้าเลย






จินดาเมขลากับมณีรอนแรมอยู่ในป่า ให้งั่งไปหาอาหาร แต่รอนานแล้วงั่งก็ไม่กลับมาซะที มณีคิดว่างั่งอาจจะหนีท่าทางไม่น่าไว้ใจ
“เค้าก็คงอยากจะหนีเหมือนกันแหละจ้ะ แต่หนีไม่ได้ เพราะจินดามีมนตร์ที่จะตามเค้ากลับมา” พูดถึงงั่งก็กลับมาพอดี ถามว่านินทาไร
จินดาว่าเยอะแยะ ย่างเนื้อสิจะได้เล่าให้ฟังว่านินทาอะไร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:40:30 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:12:31 PM »
งั่งไม่พอใจที่โดนใช้ นึกในใจว่าอย่าให้ถึงทีของตนบ้างแล้วกัน จินดาชวนมณีไปเก็บดอกไม้ระหว่างรองั่งย่างเนื้อ
อนันตวงศ์เหาะผ่านมาเห็นเข้า “มนุษย์!!” ล่าส่ำบอกว่าให้พระองค์เสวยสองคน ขอตนคนนึง






มณีกับจินดากำลังจะกินเนื้อย่าง ยักษ์ก็เหาะลงมาเสียก่อน งั่งคิดไม่ซื่ออีกแล้ว เพราะอยากเป็นอิสระ
อนันตวงศ์เห็นมณีก็ถูกใจ มณีขอร้องว่าอย่าทำอะไรพวกเราเลย อนันตวงศ์ว่าไม่ทำอะไรหรอกจะเอาไปชุบเลี้ยง รับรองด้วยชาติกำเนิดอันสูงส่งของยักษ์






จินดาว่างั้นก็กลับไปสิ มาทางไหนกลับไปทางนั้น อนันตวงศ์ถามว่าเจ้าตัวน้อยนี่เป็นอะไรกับนาง งั่งตอบแทนว่าลูก
“ในเมื่อเจ้าเป็นลูกของนางก็เท่ากับเป็นลูกของข้า ข้าจะพาเจ้าสองแม่ลูกไปเลี้ยงดูให้มีความสุข”
“ท่านไม่ใช่พ่อของหนู หนูมีพ่อแล้วและหนูกำลังจะตามหาพ่อ” อนันตวงศ์ไม่พอใจที่จินดาอวดดี มณีขัดขวางอย่าทำอะไรลูกเรานะ







จินดาเมขลาคายลูกแก้วออกมาขู่ให้อนันตวงศ์เห็นว่าไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน “หนูจะพาแม่กับงั่งไปอย่าตามมานะ” แล้วก็พากันวิ่งหนี แต่พวกยักษ์มีหรือจะฟังก็ตามไปสิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:41:58 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:18:55 PM »

บนสวรรค์ พระอิศวรทรงเล็งเห็น ก็ยิ้มเอ็นดูจินดาเมขลา มาตุลี “กล้าบ้าบิ่นไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะพระเจ้าค่ะ”
“ถ้าเปลี่ยนแปลง นางก็ไม่ใช่จินดาเมขลาน่ะสิ” พระสุรเสียงอ่อนโยนเชียว
ทั้งสามวิ่งหนียักษ์มาเจอพวกมันเหาะมาดักหน้า “เจ้าจะพานางไปไหนไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ เราเป็นแม่ลูกกันไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน” จินดากล้าหาญมาก






อนันตวงศ์ย่างสามขุมเข้ามา จินดาชูลูกแก้วขู่ พวกมันชะงัก จินดาโยนลูกแก้วขึ้นไปเป็นแสงเรืองรองยิงระเบิดลงมาใส่
แล้วอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีต่อ อนันตวงศ์โกรธมากที่ทั้งหมดหายไป





จึงกลายร่างให้ใหญ่โตตามมา งั่งสะดุดล้มเลยเสกกระด้งออกมาบินหนี จินดาโยนลูกแก้วขึ้นไปเป็นแสงสว่างไสว จนไม่อาจทนได้






ทั้งสามหนีต่อไป อนันตวงศ์ทนไม่ไหวต้องย่อกายเล็กลง แล้วกล่าวอาฆาตจินดาเมขลา
ฝ่ายจินดาก็พามณีวิ่งมาไม่หยุด เดี๋ยวยักษ์จับกิน งั่งถ้าไม่อยากถูกยักษ์จับกินก็อย่าหยุดวิ่งนะ งั่งลิ้นห้อยจะหัวใจวายก่อนถูกยักษ์กินแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:42:43 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:42:07 PM »
พลันมีหมอกขาวมาบดบังจนมองไม่เห็นอะไร เมื่อหมอกจางหายร่างมณีก็หายไปแล้ว






จินดาร้องเรียกหาแม่ งั่งว่าอาจถูกยักษ์จับไปแล้ว ฝ่ายมณีถูกอนันตวงศ์จับตัวเหาะไปในอากาศ พยายามดิ้นรนหนีแต่ก็ทำอะไรไมได้






จินดาร้องไห้ไม่รู้จะไปตามหาแม่ที่ไหน อุตส่าห์ตามหาแม่จนพบยักษ์บ้านั่นก็มาพาตัวแม่ไปอีก งั่งสงสารปนรำคาญบอกร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์
จินดายืนยันจะตามหาแม่ งั่งว่ารู้เหรอว่ามันจับไปไว้ที่ไหน งั่งว่าเมืองยักษ์ไม่ใช่ว่าจะไปกันได้ง่ายๆ นะ






อนันตวงศ์พามณีมาถึงเมืองยักษ์ นคร...อะไรไม่รู้ฟังชื่อไม่ถนัด มณีอ้อนวอนขอให้ปล่อยตนไป เรามีสามีมีลูกแล้ว
“ข้าก็มีเมียแล้ว” หน้าด้านมาก “ไม่มีลูก ถ้านางตัวจิ๋วตัวดีนั่นไม่ฤทธิ์มากข้าก็จะเลี้ยงมันเป็นลูก เพื่อเห็นแก่เจ้า แต่นี่มันไม่รักดีข้าก็ไม่รู้จะทำยังไง”
มณีคุกเข่าอ้อนวอนปล่อยไปเถอะ อนันตวงศ์จะตามใจทุกอย่างแต่ไม่ปล่อยไป “ถึงท่านเลี้ยงดูเราดียังไง เราก็ไม่มีวันมีความสุข”
“มันก็ไม่แน่ ข้าจะให้เวลาเจ้าทบทวนดู”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:43:21 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:44:53 PM »
โชตะนากินแล้วก็นอนหลับไปกับกองเนื้อช้าง ตัวเล็กตัวน้อยมีข่าวจะมากราบทูลแย่งกันเข้าเลยติดอยู่ตรงประตูเสียงดังเอะอะจนโชตะนาตื่น
โชตะนาถามว่ามีเรื่องอะไร “องค์เหนือหัวทรงพาผู้หญิงกลับมาด้วยเพคะ” โชตะนาเดือดดาลเดินออกไปชนทั้งสองตนกระเด็นเมืองสะเทือนเลยทีเดียว






อนันตวงศ์กำลังเตรียมตัวหล่อให้สมกับมณี กำลังคิดว่าถ้าถอดคราบยักษ์ออกนางจะต้องหลงใหลในความงามสง่า ล่าส่ำว่ายักษ์สง่างามที่สุดในบรรดาสามโลก แต่ข้ากำลังจะมีเมียมนุษย์
“แล้วเมียยักษ์ล่ะเพคะ!!” อนันตวงศ์ตกใจหันมาเห็นโชตะนา“ว่ายังไงเพคะ เอาเมียยักษ์อย่างหม่อมฉันไปเก็บไว้ที่ไหนเพคะ”






“ก็เอาไปเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไงล่ะจ๊ะ” อนันตวงศ์ตอบเอาใจ“อ๋อ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไป งั้น...ก็เป็นแม่!!!พระองค์น่ะสิเพคะ” เด็ดมาก
นางตัวเล็กตัวน้อยหัวเราะเกรียวกราวจากเมียเป็นแม่ พวกข้าทาสเลยโดนไล่ออกไปหมด โชตะนามองสวามีตาดุ






พวกบ่าวๆ ออกมาถามกันข้างนอกว่าไปได้นางมนุษย์นั่นมาจากไหน สวยได้ครึ่งนึงของพระมเหสีมั้ย
“แม่ตัวน้อยต้องถามใหม่ว่าพระมเหสีทรงพระสิริโฉมได้ครึ่งนึงของนางมนุษย์หรือเปล่า”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:46:36 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 12:46:27 PM »
“พระองค์ต้องทรงเลือก เอาคนใดคนนึง หม่อมฉันหรือว่านาง”
“นาง!!!” ตอบโดยไม่คิดเลย โชตะนาอยากจะกรี๊ด อนันตวงศ์บอกอย่าบังคับให้ต้องเลือก น้องอยู่ส่วนน้อง นางอยู่ส่วนนางจะได้สงบสุข
โชตะนาว่ารับสั่งเอาแต่ได้หม่อมฉันไม่ยอม ต่างคนต่างไม่ยอม โชตะนาว่าจะฉีกเนื้อนางเป็นชิ้นๆ แล้วแบ่งนางตัวเล็กตัวน้อยกิน






อนันตวงศ์ตามมาขัดขวางไม่ให้โชตะนาเข้าไปในตำหนักของมณี มณีได้ยินเสียงทะเลาะกันข้างนอก
อนันตวงศ์ให้โชตะนากลับไปสงบจิตสงบใจแล้วค่อยมาพูดกันใหม่ โชตะนาโวยวายไม่กลับ เกลียดนางมนุษย์นั่น





ในเมื่อห้ามไม่ฟังฉุดกระชากลากถูกันก็เลยถึงขั้นลงไม้ลงมือตบเลย มณีตกใจ นางกำนัลกล่อมให้โชตะนากลับไปก่อน มณียิ่งรู้สึกหวาดกลัวอนันตวงศ์มากขึ้น






โชตะนาเสียใจอ่อนระโหย แต่เพียงแป๊บเดียวก็ฮึดสู้ นึกหาแผนการกำจัดนางมนุษย์ให้ได้ ตัวเล็กตัวน้อยไม่อยากให้เข้าไปเอาเรื่องนางมนุษย์นั่น
“เรื่องอะไรเราจะต้องลงมือเองล่ะ”  ว่าและโชตะนาก็เหาะขึ้นไป ตัวเล็กเลยรีบตามไปให้ตัวน้อยอยู่รอที่นี่



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:48:09 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ Nus

  • *
  • 270
  • -1
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 07:58:41 PM »
โชตนานี่ใช่คนที่มาปิ๊งราหูตอนโตรึป่าวคะ   เคยดูแล้วแต่จำไม่ได้เท่าที่จำได้คือมียักษ์มาปิ๊งราหู และนางไม้มาปิ๊งพิรุณ

ออฟไลน์ viki

  • *
  • 217
  • 0
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 11:06:18 PM »
เรื่องนี้เจ้างั่งก็น่ารักดีนะ  แม้จะดู้ร้ายๆ แต่ลึกๆแล้วเจ้างั่งเนี่ยะเค้าเป็นคนดีนะ  อ่า เอ่อ ไม่ใช่คนซินะ

พระพิรุณตอนเด็กเนี่ยะ น่ารักมากกกกกกกก  ตอนนี้โตเป็นหนุ่มรูปหล่อมากกกกกกกกกก น้องเก้าของป้าๆอ่ะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 12, 2010, 11:07:30 PM โดย viki »
***คำว่ารักส่งมาจากฟากฟ้าไกล ส่งไปเป็นกำลังใจให้พี่บอย***

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 02:18:17 PM »
โชตนานี่ใช่คนที่มาปิ๊งราหูตอนโตรึป่าวคะ   เคยดูแล้วแต่จำไม่ได้เท่าที่จำได้คือมียักษ์มาปิ๊งราหู และนางไม้มาปิ๊งพิรุณ

ใช่แล้วค่ะ  ก็ยักษ์แก่ช้ากว่ามนุษย์อ่ะนะ
แต่นางไม้เนี่ย ไม่ได้แค่ปิ๊งพิรุณอย่างเดียวนะ เพราะพิรุณก็เล่นด้วย

เรื่องนี้เจ้างั่งก็น่ารักดีนะ  แม้จะดู้ร้ายๆ แต่ลึกๆแล้วเจ้างั่งเนี่ยะเค้าเป็นคนดีนะ  อ่า เอ่อ ไม่ใช่คนซินะ

พระพิรุณตอนเด็กเนี่ยะ น่ารักมากกกกกกกก  ตอนนี้โตเป็นหนุ่มรูปหล่อมากกกกกกกกกก น้องเก้าของป้าๆอ่ะ อิอิ

หวัดดีค่ะ  พี่ viki  คิดถึงจังเลย จะพยายามอัพบ่อยๆ นะคะ  พี่จะได้แวะเข้าบอร์ดบ่อยๆ
เอาจริงๆ นะ  คุณหนำเลี๊ยบเล่นเรื่องนี้ดีสุด   กาฬแคปไปรู้สึกได้เลยว่า  ทำไมเค้าเล่นเป็นธรรมชาติจังเลยอ่ะ
เล่นดีกว่าตอนเป็นเจ้าเงาะในสังข์ทองซะอีก   
เนอะๆๆ   น้องเก้าโตมา จะบ้าตาย  น่ารักอะไรปานนั้น





อนันตวงศ์เข้ามาหามณี บอกเห็นรึยังว่าพี่จริงใจกับน้องแค่ไหน แม้แต่เมียพี่ยังไม่ไว้หน้ามันเลย มณีถอยหนีไปทั่วห้อง อนันตวงศ์ว่าอย่าพยายามถ่วงเวลาอีกเลย ยังไงเจ้าก็หนีข้าไปไม่พ้น
มณีคิดออก “ถ้าอย่างนั้นท่านก็ไม่ได้คิดจะยกย่องเราจริงๆ อย่างที่พูด ลูกผู้หญิงน่ะสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือการแต่งงานอย่างสมเกียรติยศ...เราจะยอมเป็นมเหสีของท่านก็ต่อเมื่อมีการแต่งงานอย่างถูกต้องและยิ่งใหญ่”
อนันตวงศ์ว่างั้นพรุ่งนี้จะจัดงานแต่งงานให้อย่างยิ่งใหญ่ มณีตกใจว่าเร็วเกินไป ไม่ได้เตรียมตัวเลย อนันตวงศ์ก็เจ้าอยากได้ก็ให้แล้ว มณีไม่รู้จะหาทางรอดต่อไปยังไง






อนันตวงศ์เริงร่าฝันหวานว่าจะจัดงานแต่งงานให้มณียิ่งใหญ่ถูกใจนางที่สุด ในวันพรุ่งนี้ แต่ยังติดใจเรื่องลูกแก้วของเด็กน้อยนั่น ไม่เคยมีอาวุธอะไรหยุดข้าได้มาเป็นร้อยปีแล้ว นี่มันมาจากไหน
ล่าสันแนะนำให้ถามคนแม่ดู อนันตวงศ์ว่านางคงไม่บอกหรอก นอกจากเจ้าจะไปตามหากับข้า อยู่มาเป็นพันปีจะใช้ปัญญาหลอกเด็กไม่ได้เลยเหรอ เด็กก็คือเด็ก แล้วบอกให้ล่าสันไปจัดการแต่อย่าให้เด็กกลัว เดี๋ยวเตลิดไปอีก






โชตะนามาฟ้องท้าวจักรวรรดิพี่ชายเรื่องพระสวามีมีผู้หญิงใหม่ มายุยงว่าสวยสมกับเจ้าพี่ “แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าสามีของน้องเค้าจะยกให้พี่ นางสวยขนาดนั้นน่าจะเก็บไว้เองมากกว่า”  
โชตะนาว่าเจ้าพี่เป็นพี่ชายหม่อมฉัน ถ้าพอใจเชลยมนุษย์นั่น ก็ต้องเกรงพระทัยยกให้ ตัวเล็กว่าเห็นแก่พระขนิษฐาเถอะ ประมาณช่วยเอามันออกไปที
“เราเองก็ตกเป็นพุ่มหม้ายมานาน ดีเหมือนกัน ปราบไตรจักรจะได้มีแม่กับเค้าเสียที”






“เออ พูดถึงปราบไตรจักร ตั้งแต่น้องมาถึงยังไม่เห็นหลานเลยเพคะ” 
“พี่ส่งไปเรียนพระเวทย์ที่ดินแดนอสูรโน่น”   ตัวเล็กกระลิ้มกระเหลี่ยว่าจะเก่งกล้าเหมือนพ่อ อยากเห็นจัง เลยโดนโชตะนาขึงตาดุ แล้วหันมาชวน
“เสด็จพี่เสด็จไปทอดพระเนตรนางมนุษย์นั่นกับน้องดีกว่าเพคะ”   ท้าวจักรวรรดิเห็นดีด้วย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:48:59 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 02:22:38 PM »
ฝ่ายจินดาเมขลาก็ยังดั้นด้นตามหาแม่ งั่งสงสัย “เด็กพวกนี้ทำไมรักแม่กันจังนะ แม้จะไม่มีจุดหมายแต่ก็ยังดั้นด้นตามหา แทนที่จะเล่นสนุกสนานตามประสาเด็กๆ”
 อยู่ๆ จินดาก็หันมา พวกยักษ์แอบมองอยู่ “งั่งพอจะรู้จักใครที่จะพาเราไปเมืองยักษ์บ้างมั้ย”
งั่งบอกเมืองผีพอมี แต่เมืองยักษ์ไม่กล้าไป






งั่งว่าเปลี่ยนใจเหอะ ไม่มีทางไปได้หรอก มันยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก “ยากยังไงเราก็จะไป”
 แล้วก็สุ่มทางไปต่อ งั่งพูดไม่ก็ไม่เป็นผลได้แต่ตามไป ล่าสันคอยสะกดรอยตามไป






จินดาเมขลาเดินมาซักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนตัดไม้อยู่ข้างหน้าเลยรีบวิ่งไป ที่แท้เป็นพวกยักษ์วางแผนแล้วแอบซุ่ม จินดาเห็นคนตัดไม้อยู่ก็รีบเดินเข้าไปถาม ล่าสันที่แปลงเป็นมนุษย์หันมาก็แกล้งร้องเตือนให้ระวังกระหัง
จินดาว่าไม่เป็นไรหรอกงั่งเป็นเพื่อนหนูเอง ล่าสันว่าหน้าตางี้ไว้ใจไม่ได้หรอก งั่งว่าเดี๋ยวจับกินหรอก จินดารีบถามเข้าเรื่องว่ารู้จักทางไปเมืองยักษ์รึเปล่า






ล่าสันแกล้งเตือนให้กลับบ้านไปเถอะ งั่งว่าไม่รู้แล้วทำเก็ก ล่าสันบอกรู้แต่ให้หนูกลับบ้านไปเถอะ จินดาขอร้องให้พาตนไปเมืองยักษ์ กลับไปหาพ่อแม่ซะ
“ก็นี่ไงจ๊ะ หนูกำลังจะไปหาแม่ แม่หนูถูกยักษ์จับไป ลุงช่วยพาหนูไปเมืองยักษ์หน่อยนะจ๊ะ หนูจะไปช่วยแม่”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:52:19 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 02:36:32 PM »

ทั้งสองเดินตามล่าสันมา งั่งว่าทำไมรู้ทางไปเมืองยักษ์หรือว่าเป็นพวกเดียวกับยักษ์ ล่าสันไม่พอใจ จินดาดุงั่งให้เดินตามอย่างเดียวไม่ต้องพูดมาก ล่าสันบอกไม่ได้อยากไปหรอก
แต่เห็นความกตัญญูของแม่หนูนี่แล้วรับรองว่ามีของวิเศษป้องกันตัวถึงได้ยอม งั่งบอกใครว่าไรล่ะ เวลานี้จินดาเชื่อคนแปลกหน้ามากกว่างั่งเพราะหวังว่าจะได้เจอแม่ แล้วเดินตามล่าสันไปต่อ โดยมีทหารยักษ์สองตนสะกดรอยตาม






จักรวรรดิไปกับโชตะนาถามว่านางมนุษย์นั่นสวยมากแน่นะ โชตะนาว่าแน่ยิ่งกว่าแน่  (ตัวเองก็ยังไม่เห็นเลยวุ้ย) ตัวเล็กมองลงไปข้างล่างเห็นพวกจินดา เลยชวนกันลงไปกินมนุษย์ก่อน






จักรวรรดิโชตะนาลงมาดักหน้าล่าสัน ล่าสันเห็นก็เผลอคุกเข่า โชตะนาเห็นล่าสันก็จำได้ จินดาเลยรู้ว่าโดนหลอก งั่งว่า ไหมล่ะใครว่าผีชอบหลอก ยักษ์หลอกเก่งกว่าผีอีก ทีนี่ควรจะเชื่อยักษ์หรือเชื่อผี
“เชื่อไม่ได้ทั้งหมดแหละ” จักรวรรดิถามว่าเด็กนี่เป็นใคร “ขอเดชะ มันเป็นลูกของแม่นางมณี นางมนุษย์ที่องค์เหนือหัวทรงได้ตัวมาพระเจ้าค่ะ”
“ดีเลยเพคะ เจ้าพี่เอาแม่มันไป ส่วนลูกหม่อมฉันจะเคี้ยวทั้งกระดูกอ่อนเลยเพคะ”
“พวกท่านใช่มั้ยที่เอาแม่ของหนูไป”






ตัวเล็กว่าใช่แล้วทำไม ตัวเล็กเท่าขี้ตาทำยังกับราชสีห์ จินดาบอกให้คืนแม่มา พวกยักษ์หัวเราะเยาะคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าท้าทายยักษ์ทั้งฝูงแบบนี้
ล่าสันเตือนว่ามันมีของวิเศษขนาดองค์เหนือหัวยังสู้เกือบไม่ได้เลย จักรวรรดิเลยให้เอาของวิเศษออกมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:53:26 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 02:45:09 PM »
จินดาเมขลาคายลูกแก้วออกมา จักรวรรดิพึมพำว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จินดาขู่ว่าให้พาตนไปหาแม่ถ้าไม่อยากให้ใช้ลูกแก้ววิเศษนี่ 
“ลูกแก้วของหนูอาจจะวิเศษก็จริง แต่ลองดูพัดของข้านี่สิ...พัดชีวิต!...ตาย!!” แล้วก็โชว์พัดออกมา มันสามารถหุบให้ใบเล็กได้ด้วย






จินดาตกใจยังไม่ทันได้หลบ ก็ถูกพัดชีวิตพัดตายทันทีอย่างง่ายดาย จักรวรรดิภูมิใจในอาวุธวิเศษของตัวเอง ที่จะชนะได้โดยไม่ต้องออกแรง






ล่าสันเข้าไปเก็บลูกแก้ว จักรวรรดิบอกให้ส่งมาให้ตน จะได้เอาไปสะสมไว้ โชตะนาขอกินเด็กเลย จักรวรรดิว่าเอาไปกินในเมืองดีกว่า อยากเห็นหน้านางมนุษย์จะแย่แล้ว โชตะนาไม่พอใจแต่ก็โอเค ให้ล่าสันเอาอาหารของตนไป






มณีหาทางเอาตัวรอด แล้วก็นึกถึงคำพูดของนันทเสนขึ้นมาได้ว่าถ้าจะเรียกตนและสุระผัดให้สั่นระฆังแก้ว แต่พอกำลังจะสั่นระฆัง นางยักษ์ก็เข้ามาเห็นแล้วก็ขู่ให้เอามาให้ตน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:54:43 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 06:22:26 PM »
ยื้อแย่งกันไปมา จนระฆังร่วงหลุดจากมือมณี (ไม่เข้าใจว่าระหว่างยื้อแย่งกันมันสั่นไม่ได้เหรอ) นางยักษ์จะไปเก็บมณีก็ยื้อไว้ เลยโดนผลักกระเด็น






พอดีกับที่อนันตวงศ์เข้ามาพอดี นางยักษ์จึงถวายระฆังให้ มณีขอระฆังคืน อนันตวงศ์บอกจะคืนให้หลังแต่งงานแล้ว นางยักษ์ว่าอาจจะเป็นของวิเศษก็ได้
อนันตวงศ์สั่งให้ดูแลนางให้ดี ถ้ามีของแปลกปลอมมาอีกให้เอาไปให้ตน แล้วเดินออกไปพร้อมระฆัง มณีจนหนทางไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี






อนันตวงศ์กลับตำหนัก พินิจดูระฆังแก้วด้วยความแปลกใจ คงจะดูว่ามันใช้ยังไงล่ะมั้ง
ฝ่ายโชตะนากลับมาพร้อมท้าวจักรวรรดิ ตัวน้อยรีบรายงาน “พระมเหสีเสด็จกลับมาพอดีเพคะ องค์เหนือหัวจะเข้าพิธีอภิเษกกับนางมนุษย์พรุ่งนี้เพคะ” โชตะนาแทบกรี๊ดด้วยความเจ็บใจ






“เจ้าพี่!! ทำอะไรไม่ทรงคิดถึงเมียบ้างเลย” ท้าวจักรวรรดิไม่พอใจแทนน้อง “ไม่ต้องกลัวโชตะนา เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เอง”
แล้วก็รีบไปพบอนันตวงศ์ ตัวเล็กตัวน้อยปลอบใจว่ายังไงพระเชษฐาก็ต้องช่วย เดี๋ยวไปเอาศพลูกมันมาให้เสวย โชตะนาบอกรีบไปเอามาเลย อยากกินเต็มแค้นแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 06:56:56 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**