ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #90 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 12:03:44 AM »
พี่กาฬฯช่องสามเรื่องที่คล้ายๆกันชื่อเรื่องฝนสามฤดูใช่รึเปล่าคะ

แต่รู้สึกว่าตอนสุดท้ายราหูกับจินดาขึ้นไปบนสวรรค์ส่วนพระพิรุณรับนางไม้(รึเปล่าไม่แน่ใจบทเดียวกับลักษณาประมาณ :icon_mrgreen:นั้น)กลับไปอยู่ในวังด้วยกัน
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #91 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 12:14:27 AM »
พี่กาฬฯช่องสามเรื่องที่คล้ายๆกันชื่อเรื่องฝนสามฤดูใช่รึเปล่าคะ

แต่รู้สึกว่าตอนสุดท้ายราหูกับจินดาขึ้นไปบนสวรรค์ส่วนพระพิรุณรับนางไม้(รึเปล่าไม่แน่ใจบทเดียวกับลักษณาประมาณ :icon_mrgreen:นั้น)กลับไปอยู่ในวังด้วยกัน



ใช่แล้วค่ะ เรื่องนั้นชื่อเรื่อง  ฝนสามฤดู 
คนที่เล่นเป็นพิรุณคือ ภูมินทร์ในเกราะกายสิทธิ์
มันออกจะงงๆ นิดหน่อย เพราะว่า พิรุณดันไปอยู่ฤดูร้อน (แต่ชื่อพิรุณ)
ส่วนอสุรินทราหูอยู่ฤดูฝน จินดาชื่อดวงจินดา
เรื่องเกิดจากอสุรินทราหูกับดวงจินดาทะเลาะกับแล้วพิรุณมาห้าม
เลยโดนลงโทษให้ลงมาเกิดทั้งคู่เลย (มั้งนะ ไม่แน่ใจเพราะกลับบ้านไม่ค่อยทัน อาจจะเพราะพิรุณจะต้องลงมาเกิดอยู่แล้วด้วย)
มาเกิดกับมเหสีมณีเนตร (ชื่อของช่อง 3 ซึ่งน่าจะตรงกับเค้าโครงเรื่อง)
ส่วนนางไม้คือนางฟ้าที่เป็นคู่ของพิรุณตามลงมาเกิดในต้นกล้วยเป็นนางตานีชื่อ กัทลียา
มีลูกชื่อ ทุมมา ตอนหลังพิรุณช่วยแม่กลับเมืองได้แล้วก็ไปรับกัทลียากับทุมมาเข้าวัง
อสุรินทราหูกับดวงจินดาก็ขึ้นสวรรค์

ส่วนของช่อง 7 ที่เคยอ่านเรื่องย่อก็มีเสริมเติมมา มีอัปสรสวรรค์ สุวรรณอัมพร
ไม่รู้ว่าฉบับไหนของจริงกว่ากัน  แต่ก็สนุกมากๆอ่ะ  แถมมีเรื่องไปถึงรุ่นลูกด้วยแหละ
ไว้พี่จะพิมพ์เรื่องย่อที่ช่อง 7 เคยลงในเวบดีด้าตอนที่เทพสามฤดูฉายให้อ่านนะ  ถ้ามีเวลา
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #92 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 12:16:57 AM »
จริงเหรอคะที่คนที่เล่นเป็นพิรุณคือภูมินทร์จำไม่ได้เลยช่วงนั้นกลับบ้านไม่ทันเลยคะ

จำได้ว่าตอนจบมาานั่งดูที่โรงเรียนอยู่เลย แต่หนูว่านะช่องสามน่าจะตรงกับโครงเรื่องมากกว่าช่องเจ็ด
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #93 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 12:22:49 AM »
เรื่องย่อใช่รึเปล่าคะพี่กาฬ

ท้าวตรีภพ ผู้ครองเมืองอุดม มีมเหสี 2 คน ฝ่ายขวาชื่อ นางมณี ฝ่ายซ้ายชื่อ นางสุทัศน์ แต่ทั้งสองไม่มีโอรสสืบราชสมบัติ ทำให้ท้าวตรีภพเดือดร้อนใจยิ่งนัก จึงทำการ บวงสรวงเทวดา ซึ่งเนื่องจากท้าวตรีภพมีความตั้งใจอันแน่วแน่ คำขอจึงไปถึงวิมานพระอิศวร พระอิศวร จึงให้ พระพิรุณ ลงมาเกิด แต่เนื่องจากพระพิรุณมีเพื่อนรักอีก 2 คน คือ เทพหน้าเป็นยักษ์ชื่อ ราหู และนางฟ้าชื่อ เมขลา ทั้ง 3 สาบานเป็นพี่น้องกัน พระราหู และ เมขลา จึงไปอ้อนวอน พระอิศวรขอตามไปเกิดด้วย พระอิศวรเห็นใจในความรักความผูกพันของทั้ง 3 จึงตกลงใจให้ไปเกิดด้วยกัน แต่เนื่องจากท้าวตรีภพต้องการลูกคนเดียว ทั้ง 3 จึงต้องผลัดกันออกมาคนละฤดู คือ พระพิรุณ จะออกมาในฤดูฝน ในรูปร่างของเทพบุตรรูปงาม พระราหูออกมาในฤดูร้อน ในรูปร่างอัปลักษณ์ของยักษ์ร้าย (แต่ใจดี) และนางจินดาเมขลาจะออกมาในฤดูหนาว เป็นสาวงาม นี่เป็นที่มาของ "ฝนสามฤดู"
พระอิศวรเล็งเห็นว่า นางมณีเป็นคนดี ส่วนสุทัศน์มีจิตใจริษยา จึงประทานเทพ ทั้ง 3 มาเกิดกับนางมณี แต่เนื่องจากกรรมเก่าจะทำให้พลัดพราก ก็บันดาลให้นางมณีคลอดลูกตรงกับฤดูร้อน หลังจากตั้งครรภ์ถึง 5 ปี เด็กที่ออกมาจึงกลายเป็นเด็กโต และออกมาในรูปยักษ์ เพราะเป็นที่ของพระราหู สร้างความโกรธกริ้วให้กับท้าวตรีภพมาก ประกอบกับการยุแหย่ของ นางสุทัศน์ ท้าวตรีภพจึงสั่งให้ลอยแพราหูออกจากเมือง ไป โดยไม่ฟังคำขอร้องของนางมณี ส่วนนางมณีนั้นจะขอตามลูกไปด้วย แต่พระราหูเกรงแม่จะลำบากจึงปลอบใจแม่ต่างๆ นานา จนแม่เชื่อว่าพระราหูมีบุญญาธิการ และจะปลอดภัยทุกอย่างจึงปล่อยให้ไป นางมณีร้องไห้อาลัย ลูกจนสลบไป

ส่วนพระราหูนั้นถูกลอยแพมาเรื่อย ผจญอันตรายต่างๆ แต่ไม่เป็นอันตราย เพราะเทพคุ้มครองไว้ จนกระทั่งมาพบผีกระหังชื่อ เจ้างั่ง งั่งจะจับพระราหูกินเพราะความหิว พอดี พระฤาษีโคดม มาช่วยเอาไว้ แล้วพาราหู และ งั่งไปอาศรม สอนให้งั่งเป็นคนดี และ เป็นพี่เลี้ยงของราหู พระราหูอยู่กับพระฤาษีต่อมาได้ร่ำเรียนศิลปะวิทยามากมาย แล้วได้เปลี่ยนร่างเป็นจินดา และพระพิรุณในที่สุด สร้างความตื่นเต้นให้กับพระฤาษี และ งั่งยิ่งนัก

ฝ่ายนางมณี นับตั้งแต่ลูกจากไปก็ไม่มีความสุข แม้ท้าวตรีภพเองก็เริ่มเบื่อหน่าย เพราะไม่พอใจที่คลอดลูกออกมาผิดมนุษย์ ประกอบกับนางสุทัศน์ใส่ร้ายว่าคบชู้เป็นยักษ์ โดยหาหลักฐานรูปปั้นยักษ์ไปลอบใส่ไว้ในตำหนักมณี นางมณีจึงถูกท้าวสุทัศน์เนรเทศออกไป จากเมือง และให้เพชฌฆาตฆ่าเสียกลางทาง

ระหว่างที่เพชฌฆาตจะลงมือประหาร มีสัตว์ประหลาด รูปร่างเหมือนมนุษย์ ปีกเท้าเป็นครุฑ แต่มีหางเหมือนไก่ ใจคอโหดร้าย ได้เดินทางเหาะผ่านมา เห็นนางเข้าก็พอใจ จึงเหาะลงไป เพชฌฆาตหนีกระเจิงไปหมด เหลือแต่มณี ตัวประหลาดหรือ ตัวอระหัน นี้ได้ลวนลามนาง แต่เกิดมีพญาลิงยักษ์ชื่อ นันทะเสน ซึ่งมีฤทธิ์มากมาขัดขวาง แย่งชิงนางอีก นันทะเสนได้ฆ่าอระหันตาย และออกปากฝากรักนาง แต่ก็ถูกยักษ์ชื่อ สุระผัด ซึ่งผ่านมาแย่งชิงนางอีก ขณะที่กำลังรบอยู่นั้น พระฤาษีชื่อ มหาโพธิ์ ได้มาขัดขวางไว้ พร้อมกับเทศน์สั่งสอน เรื่องความไม่เบียดเบียนกัน จนทั้งหมดกลับใจโดยเฉพาะนันทะเสนสำนึกบาปที่ฆ่าอระหันตาย พระฤาษีจึงพาไปชุบชีวิตขึ้นล้าง บาปให้นันทะเสนโดยควักหัวใจนันทะเสนมาใส่อระหัน แต่เนื่องจากนันทะเสนมีอิทธิฤทธิ์มาก ร่างอระหันก็กลับเป็นนันทะเสนอีก ทั้งคู่รวมกันเป็นคนเดียว ยิ่งทำให้นันทะเสน มีอิทธิฤทธิ์มากขึ้น ทั้งหมดคือมณี และ นันทะเสน และ สุระผัด สาบานกันเป็นพี่น้อง และสัญญาว่าถ้ามณีมีเรื่องเดือดร้อนจะมาช่วย โดยพระฤาษีให้ระฆังวิเศษ กับมณี ไม่ว่านันทะเสนหรือสุระผัดอยู่ที่ไหน ถ้าได้ยินระฆังสัญญาณจะมาช่วยทันที นางมณีจึงพักอยู่กับพระฤาษีมหาโพธิ์

กล่าวทางพระพิรุณได้ขอลาพระโคดมออกหาแม่ โดยมีงั่งไปเป็นเพื่อน พระฤาษี มอบของวิเศษให้ด้วย พระพิรุณ และ งั่งกราบลาพระฤาษีออกเดินทาง ระหว่างทางทั้งสองได้ผจญภัยมากมายเพราะความซื่อ และ ไม่มีประสบการณ์ของพระพิรุณ แต่ก็เอา ตัวรอดจากหมู่มารมาได้ทุกครั้ง จนกระทั่งหลงมาในวงแขนของท้าวครอบจักรวาล (ขณะนั้นพระพิรุณกลายร่างเป็นจินดาเมขลาแล้ว) พระยายักษ์ใหญ่ซึ่งนอนหลับอยู่ นางไม้บริเวณนั้นสงสารว่า ถ้า ท้าวครอบจักรวาล ตื่นขึ้น จะต้องตกเป็นเหยื่อ จึงหาทางช่วยออกมา และขอให้จินดาเป็นลูกบุญธรรม และ นางไม้ได้ให้ของวิเศษไว้ด้วย

จินดา และ งั่งเดินทางต่อมา จนกระทั่งมาพบกับนันทะเสน เกิดรบกัน แต่ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ ไม่ว่าจะรบกันอย่างไรก็ตาม จึงเกิดถามไถ่ประวัติกันขึ้น นันทะเสนนึกเอะใจว่า จินดาจะเป็นลูกของมณี จึงพากันไปหานางที่พระฤาษีมหาโพธิ์ เมื่อแม่ลูกพบกัน ทุกคนก็มีความสุข แต่จินดานั้นแค้นใจมากที่แม่ลูกสุทัศน์ใส่ร้ายจนต้องออกจากเมือง จึงคิดแก้แค้นตลอดเวลา แต่มณีห้ามไว้ว่า ใครที่ทำกรรมอะไรก็จะได้รับกรรมอันนั้น เอง โดยที่เราไม่ต้องไปลงมือ

ต่อมามณี และ พิรุณ (ซึ่งถือเวลาเปลี่ยนร่างต่อจากจินดา) และ งั่งก็กราบลาพระฤาษี เดินทางกลับบ้านเมือง ระหว่างทางได้พบเสือสมิง เสือสมิงจะเข้าทำร้าย แต่เจ้างั่งขวางไว้ ขณะที่สมิงจะเสียทีนั้น พระพิรุณได้ห้ามงั่ง สร้างความประทับใจให้สมิงมาก จึงขอเข้าเป็นพวก ทั้งหมดเดินทางต่อ จนกระทั่งพระยายักษ์ตนหนึ่งชื่อ อนันตะวงศ์ มาพบเข้า ก็พอใจนางมณีจึงรมยาพระพิรุณและพรรคพวก แล้วลักพานางมณีไป
อนันตะวงศ์นั้นมีชายาชื่อ นางโชตะนา นางโชตะนานั้นเบื่อท้าวอนันตะวงศ์ พานางมนุษย์มาก็โมโห ให้คนไปบอกบิดาคือ ท้าวจักรวรรดิ ว่าสามีตนได้นางเชลยหน้าตา สวยงามมา ขอให้บิดามาดู ถ้าชอบใจก็จะได้ขอไป

ทางฝ่ายมณีถึงแม้จะหวาดกลัวอนันตะวงศ์เพียงใด แต่ก็แกล้งผัดผ่อนขอให้ตน สบายใจเสียก่อน คือในเย็นวันรุ่งขึ้นจึงจะยินยอมพร้อมใจ
ทางฝ่ายพระพิรุณตื่นมาไม่เห็นแม่ก็ตกใจ สั่นระฆังเรียกพรรคพวกทุกคนมา แล้วแยกย้ายกันค้นหา ทางด้าน นันทะเสนมาพบท้าวจักรวรรดิ ซึ่งมีอาวุธวิเศษคือพัดชีวิต ซึ่งถ้าพัดไปทางหนึ่งคนจะตาย พัดอีกทางหนึ่งคนจะฟื้น นันทะเสนทำทีเป็นจงรักภักดี ท้าวจักรวรรดิเอ็นดูจึง บอกว่า ตนกำลังจะไปดูนางเชลยมนุษย์ที่ลูกเขยจับมาได้ นันทะเสนเอะใจ จึงไปด้วย และได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกเอาพัดมาพัดท้าวจักรวรรดิตาย ตนเองแปลงกายเข้ามา จนหานางมณีพบ นันทะเสนแยกตัว ให้ส่วนหนึ่งพามณีออกไป อีกส่วนหนึ่งอยู่ล่อ ท้าวอนันตะวิก และ ฆ่าท้าวอนันตะวิกในที่สุด

ขณะที่นันทะเสนพามณีตามหาพระพิรุณนั้น ก็ถูกยักษ์อีก 2 ตนชื่อ อนันตะวิก และ อนันตะเวก สองพี่น้องทำเล่ห์กลเอามณีไปอีก ส่วนอนันตะเวกแปลงกายเป็นมณีแทน (อนันตะวิกและอนันตะเวกนั้นเป็นสหายท้าวอนันตะวงศ์และจักรวรรดิ) ระหว่างทาง อนันตะเวกทราบว่า สหายตนถูกนันทะเสนฆ่าตาย ก็คิดจะแก้แค้น โดยเมื่อพบพระพิรุณและพรรคพวกแล้วก็หลอก พาไปเมืองตน ทุกคนหลงเชื่อเพราะนึกว่าเป็นมณีตัวจริง

ฝ่ายมณีตัวจริงนั้น เทวดาได้ช่วยให้ร่างกลายเป็นชาย เพื่อท้าวอนันตะวิกจะได้ ทำอะไรไม่ได้ อนันตะวิกโกรธ จึงสั่งขังไว้
อนันตะเวกหลอกพิรุณและพรรคพวกมาขังไว้ในห้องกล ซึ่งอาวุธวิเศษต่างๆ ก็ช่วยไม่ได้ จนในที่สุดนางไม้แม่เลี้ยงจินดาก็มาช่วย ทุกคนปลอดภัย ท้าวอนันตะวิกและ อนันตะเวก ถูกจับ แต่พิรุณไม่ถือโทษ ทั้งสองเลยกลับใจมาช่วยพิรุณอีก
ทั้งหมดลาอนันตะวิก และ อนันตะเวกกลับเมืองอุดม ครั้นมาถึงก็ได้ทำอุบายหลอกท้าวตรีภพให้ยกนางสุทัศน์ให้ ท้าวตรีภพไม่ยอม จึงต้องใช้เล่ห์กลกันอีก
เมื่อท้าวตรีภพได้ทราบความจริงทั้งหมดก็โกรธสุทัศน์ สั่งให้ประหาร แต่มณีสงสาร ได้ขอชีวิตไว้ สุทัศน์จึงถูกเนรเทศไป ระหว่างเดินทางในป่า สุทัศน์ถูกยักษ์ชื่อ อัศตัน จะจับตัวไปเป็นชายา พอดีมีผู้วิเศษ โคธรรพ์ มาช่วยไว้ อัศตันสู้ไม่ได้จึงยอมเป็นศิษย์โคธรรพ์ ต่อมาสุทัศน์ ได้กับโคธรรพ์เพื่อหวังกลับไปแก้แค้นตรีภพ และ มณี ทั้งสองมีลูกชื่อ สามศรี

ทางฝ่ายเมืองอุดม พิรุณซึ่งโตเป็นหนุ่มขอพ่อออกมาเลือกคู่เอง ระหว่างทาง ได้นางไม้ เป็นชายา มีลูกชื่อ ทุมมา มีฤทธิ์เดชมาก พระพิรุณอยู่กับนางไม้จนกลายร่างเป็นจินดาและราหูในที่สุด ราหูออกเดินทางต่อไปจนไปพบเมืองโรมวิสัย ซึ่งมี ท้าวคันธมาศ และ นางรัชฎา ปกครองอยู่ ทั้งคู่มีธิดาสองคนชื่อ สุวรรณอัมพร กับ อัปสรสวรรค์ ท้าวคันธมาศได้ประกาศหาคู่ให้ธิดาทั้งสอง มีคนมามากมาย แต่ทั้งคู่ไม่พอใจ จนมียักษ์ร้ายชื่อ ปราบไตรจักร แปลงร่างเป็นมนุษย์รูปงามเข้ามาเที่ยวเล่น พร้อมกับราหูซึ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้เช่นกัน ผู้คนพลเมือง ต่างก็ตกใจในความที่หน้าเป็นยักษ์ของราหู พอๆกับ ที่ตื่นเต้นในความงามของปราบไตรจักร
ในที่สุดอัปสรสวรรค์ก็เลือกปราบไตรจักรเป็นคู่ครอง ในขณะที่สุวรรณอัมพร เลือกพระราหู ทำให้ท้าวคันธมาศโกรธที่ไปเลือกยักษ์ จึงไล่ให้สุวรรณอัมพร และ ราหูไปอยู่กระ ท่อมท้ายวัง

ทางฝ่ายปราบไตรจักรก็ไม่สามารถเข้าใกล้อัปสรสวรรค์ได้ เพราะอัปสรไม่ใช่เนื้อคู่ของ ตน จึงทำให้ตัวร้อนทุกครั้งที่เข้าใกล้ ในที่สุดก็แยกตำหนักออกมา ปราบไตรจักรออกจับ ประชาชนพลเมืองกิน แล้วใส่ร้ายว่าเป็นราหู ทุกคนเชื่อเพราะราหูหน้าเป็นยักษ์ ในที่สุดปราบไตรจักรก็ลักพาเอาสุวรรณอัมพรเหาะกลับเมืองตน แต่ถูกนันทะเสนชิงตัวไว้ได้ระหว่างทาง นันทะเสนรู้ว่าอัมพรเป็นชายาราหูก็ดีใจ ออกติดตามราหู ฝ่ายราหูถูกจับฆ่า แต่ไม่ว่าจะฆ่าด้วยวิธีใดๆ ราหูก็ไม่ตาย ปราบไตรจักรจึงใช้ จักรวิเศษฆ่า แต่ราหูกลับขาดเป็น 2 ท่อน ไม่ตายอีก จึงให้ขังไว้

ปราบไตรจักรเอาใจพ่อตาแม่ยายโดยเอาของวิเศษของราหูคือ พัดชีวิตกับระฆังมาให้ รัชฎา เมื่อใช้พัดๆ ตนก็ตายทันที ปราบไตรจักรจึงสั่นระฆังเพราะคิดว่าจะแก้กันได้ จึงทำให้ พรรคพวกพระราหูมากันหมด เมื่อได้ยินเสียงระฆัง ความจึงแตกออกว่าที่แท้ปราบ ไตรจักรเป็นยักษ์ร้าย แต่ปราบไตรจักรก็หนีไปได้ ฝ่ายราหูถูกจำจองจนเข้าฤดูหนาวก็กลายร่างเป็นจินดา พอดีกับพรรคพวกมาช่วยไว้ ทุกคนเข้าใจกัน จินดาพักอยู่โรมวิสัยจนกลายร่างเป็นพระพิรุณ ท้าวคันธมาศยกอัปสรสวรรค์ให้พระพิรุณ และอยู่กันมาด้วยความสุข

ทางฝ่ายสุทัศน์ได้พยายามพูดจาให้ลูกได้ทราบถึงความเจ็บแค้นของตน พอดีกับ โคธรรพ์ได้ชุบฝาแฝดอีก 2 คนให้มีลักษณะเหมือนสามศรีทุกประการ เพื่อไว้ป้องกันสามศรี พอสบโอกาส สุทัศน์ก็เล่าเรื่องราวของตนโดยพลิกแพลงเอาความดีใส่ตัวเอง สามศรีแค้นมากเพราะอารมณ์เด็กจึงชวนอัศตันออกไปเมืองอุดม ทั้งสามศรีได้ตัวท้าวตรีภพ และ มณีมาขังไว้ในถ้ำ ปิดทางออกเพื่อให้อดอาหาร และขาดอากาศตาย แต่เทวดารักษาถ้ำช่วยเอาไว้ โดยให้มีทาง ช่องเปิด และเกิดรังผึ้งวิเศษให้มีน้ำผึ้งไหลออกมาตลอดเวลา ทั้งคู่จึงอยู่ในถ้ำอย่างปลอดภัย
โคธรรพ์เมื่อได้ทราบเรื่องก็สั่งสอนสามศรีไม่ให้ทำเช่นนี้อีก เพราะอาจจะเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านก็ได้ แต่สุทัศน์รู้สึกสะใจ
ฝ่ายพิรุณเกิดฝันร้าย สังหรณ์ว่าบิดามารดาคงตกอยู่ในอันตราย จึงขอลาท้าวคันธมาศออกไปนอกเมือง แต่เนื่องจากเกรงว่าปราบไตรจักรจะย้อนกลับมาอีก จึงเรียกทุมมาและ นันทะเสนมาเฝ้าเมืองไว้ ตนเองออกเดินทางพร้อมกับงั่ง และ สุระผัด ซึ่งพอมาถึงเมืองอุดม ก็ได้รู้ว่าพ่อแม่หายไป จึงออกติดตาม โดยให้งั่ง และ สุระผัดช่วยเฝ้าเมือง แต่เนื่องจากกรรมเก่าจึงทำให้ไม่พบ

ทางเมืองโรมวิสัย ปราบไตรจักรย้อนกลับมาใหม่ แต่ถูกทุมมา และ นันทะเสนฆ่าตาย ครั้นเสร็จศึก ทุมมาก็กลับป่า ส่วนนันทะเสนออกไปเมืองอุดมตามพระพิรุณ ทางงั่ง และ สุระผัด ได้พยายามออกตามหาท้าวตรีภพ และ มณีด้วยความเป็นห่วง อีกแรงหนึ่ง จึงขัดคำสั่งของพิรุณ ทั้งสองมาถึงเมืองของโคธรรพ์ จึงลงไปดูด้วยความ ประหลาดใจว่าเมืองอะไรมาอยู่กลางป่า สมิงรู้สึกประทับใจโคธรรพ์ ในขณะที่งั่งสงสัย ขณะเดียวกันสุทัศน์มาเห็นเข้า ก็จำงั่งได้ จึงรีบหลบไป แล้วเล่าให้โคธรรพ์ฟัง ทั้งสองจึงกำจัดงั่ง และ สมิง โดยผลักลงไปในเหวพิษพญานาค แต่เนื่องจากงั่ง และ สมิงมีอาคมแก่กล้า จึงไม่ตาย แต่ก็ขึ้นมาไม่ได้
นันทะเสนเดินทางมาเมืองอุดมก็มาพบเมืองโคธรรพ์เช่นกัน นันทะเสนเห็นสุทัศน์ด้วยก็สงสัยว่ามาอยู่ทำไมที่นี้ จึงเข้ามาสืบโดยปลอมตัวเป็นกุมารน้อยชื่อ นันทะกุมาร สุทัศน์รู้สึกชอบเด็กคนนี้ในขณะที่โคธรรพ์นึกสงสัย แต่ยังไม่ทันทำอะไร เพราะโคธรรพ์ถึงเวลาต้องจำศีลภาวนาในถ้ำเดิม

วันหนึ่งสามศรีกับอัศตันไม่อยู่ เพราะเป็นคราวเคราะห์ของสุทัศน์ นันทะกุมารได้หลอก สุทัศน์ไปแล้วถามเอาความจริง สุทัศน์สารภาพ นันทะเสนจึงต้องฆ่าปิดปาก แล้วแกล้งทำเป็นว่านางผูกคอตายเอง ตนเองกลับมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วแกล้งเขียนเป็นลาย มือสุทัศน์ว่าถูกยักษ์ป่ามาลอบปล้ำ ตนอายจึงขอลาตายจากไป วันนั้นเองขณะที่โคธรรพ์กำลังจำศีลเกิดลางสังหรณ์ เป็นห่วงสุทัศน์รีบกลับ สามศรีก็เช่นกัน พอมาเห็นสุทัศน์ ตายก็เสียใจ พร้อมทั้ง ไล่นันทะกุมารไป เพราะไม่เฝ้าสุทัศน์ให้ดี

โคธรรพ์ทำพิธีชุบสุทัศน์ แต่สุทัศน์มีกรรมมากมาย จึงไม่ฟื้น และ กลับกลายเป็นผีดิบ มาเล่าความจริงให้ฟัง โคธรรพ์ และ อัศตันตามนันทะเสนไปโดยแปลงเป็นงั่ง และ สมิงเพื่อแก้แค้นบ้าง นันทะเสนหลงเชื่อ ถูกงั่ง และ สมิงปลอมพามาที่บ่อเหวพิษพญานาค และผลักตกไป แต่นันทะเสนก็ไวพอที่จะดึงเอาโคธรรพ์ และ อัศตันลงไปด้วย
กล่าวถึงพิรุณ เห็นหาพ่อแม่ไม่เจอแน่แล้วก็สั่นระฆังเรียก แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาได้เลย จึงรู้ว่าต้องมีอันตรายแน่ จึงอธิษฐานขอให้พบพ่อแม่ คราวนี้พิรุณมาพบสามศรีเฝ้าวัง อยู่ เกิดมีการไต่ถามกันขึ้น ปรากฏว่าสามศรี และ พิรุณต้องรบกัน ไม่แพ้ไม่ชนะ

ทางฝ่ายพญานาคพอถึงเวลาพ่นพิษก็ขึ้นมา เห็นผู้คนในเหวด้วยความเป็นนาคถือศีลก็ เกิดเมตตา พาขึ้นจากเหวจนหมด โคธรรพ์กับอัศตันรบกันต่อกับนันทะเสน, งั่ง และ สุระผัด พอดีพิรุณซึ่งกำลังรบกับสามศรีถอยมาทางนี้พอดี พญานาคจึงห้ามปรามทั้ง 2 ฝ่าย โคธรรพ์ไม่ฟัง เรียกไฟกลดมาเผา พญานาคจึงช่วยพวกพิรุณไว้ โคธรรพ์, อัศตัน และ สามศรีหนีรอดไปได้ พวกพิรุณจึงติดตามท้าวตรีภพ และ มณีต่อ ในที่สุดต้อง บวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขา จึงได้พบพ่อแม่ และ พากลับเมือง
ฝ่ายปีศาจสุทัศน์ยังเจ็บแค้นไม่หาย จึงพาปีศาจป่ามาหลอกหลอน พวกพิรุณตกอยู่ในวงล้อมของปีศาจ จนกระทั่งทุมมาต้องมาช่วยพากลับเมืองได้โดยปลอดภัย
ทางฝ่ายโคธรรพ์, อัศตัน และ สามศรีได้ปลอมตัวหนีมาที่เมืองๆ หนึ่ง ชื่อ กาญจราช มี ท้าวจิตภักดิ์ ซึ่งเป็นยักษ์ครองอยู่ มเหสีชื่อ มาลีมาศ โคธรรพ์ทำอุบายจนกำจัดจิต ภักดิ์ไปได้ และ ให้อัศตันแปลงร่างแทน ทั้งหมดจึงอาศัยอยู่ที่กาญจราชด้วยความสุข

ทางฝ่ายสุวรรณอัมพร พอครบกำหนดก็คลอดลูกชายรูปงามชื่อ ตรีสุริวงศ์ ขณะเดียวกัน อัปสรสวรรค์ก็คลอดลูกชื่อ ตรีสุริยา ทั้ง 2 กุมารฉลาด และ เก่งกล้าสามารถตามบิดาคือ ราหูและพิรุณ
ทางฝ่ายพระอิศวรเล็งไปในโลก เห็นจินดาอยู่คนเดียว ก็ไม่เห็นใครจะเหมาะสม เท่าตน จึงลงมาในรูปเทพบุตรรูปงามอยู่กับจินดาจนตั้งครรภ์ คลอดบุตรออกมาเป็นหญิงชื่อ แก้วฟ้า
ต่อมาตรีสุริวงศ์เป็นหนุ่มขอเดินทางลาไปเยี่ยมญาติทางฝ่ายบิดา ระหว่างทางพบพราหมณ์ชื่อ วิชายง เกิดถูกชาตากัน จึงร่วมเดินทางไปถึงเมืองๆ หนึ่ง ชื่อ จักรพรรดิมี ท้าวมหาวงษ์ และ มเหสีกาญจนา มีธิดาสวยมากชื่อ สร้อยสวรรค์ สร้อยสวรรค์นี้เองที่โคธรรพ์หมายมั่นไว้จะให้สามศรี แต่ถูกวิชายงวางแผนแย่งชิงเอามาให้ตรีสุริวงศ์ ในที่สุดก็เกิดสงครามขึ้น ตรีสุริวงศ์จึงสั่นระฆังเรียกพรรคพวกมาช่วย ปรากฏว่าโคธรรพ์สู้ไม่ได้ จึงไปเฝ้าพระอาทิตย์ และ ขโมยเอาแสงอาทิตย์มาส่องพวกพิรุณจนสลบหมด ร้อนถึงพระจันทร์ต้องเอา แสงจันทร์มาช่วยแก้ไขให้ฟื้น สามศรีถูกฆ่าตาย ปีศาจสุทัศน์เป็นห่วงลูกจึงเอาหัวสามศรีไปให้โคธรรพ์ต่อ โคธรรพ์แปลงเป็นแมลงภู่ไปเอายา พระอาทิตย์มาต่อหัวลูกอีก
ครั้นสำเร็จ โคธรรพ์, อัศตัน และ สามศรี จึงก่อสงครามขึ้นอีก คราวนี้พระอิศวรได้บันดาลให้สามฤดูออกปรากฏตัว พร้อมๆ กัน จึงฆ่าโคธรรพ์ อัศตัน และสามศรีได้ ทุกคนจึงอยู่ด้วยความสงบสุขตลอดไป

เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #94 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 01:40:21 PM »
น้องเรนโบว์ยังเก็บไว้อีกเหรอเนี่ย  สุดยอดมากเลย  ของพี่มันหายไปนานแล้ว  :'(



มาตุลีว่าทีอย่างนี้มาร้องหาความยุติธรรม ทีพวกเจ้าแปลงร่างไปหลอกคนอื่นล่ะ “แล้วทำไมพระอิศวรผู้เป็นใหญ่ถึงต้องลงมาปกป้องมนุษย์พวกนั้น”
“นั่นไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า แต่หากว่าพวกเจ้ายังทำตัวเป็นพวกยักษ์อันธพาลอีกอย่าหาว่าเราไม่เตือนก็แล้วกัน” แล้วพระอิศวรกับมาตุลีก็กลับขึ้นสวรรค์ไป






พระอิศวรทรงกลับมายังขายหน้ากับพวกยักษ์ไม่หาย มาตุลีว่าอย่าถือสาคำพูดพวกยักษ์เลย “พวกมันพูดถูกอยู่อย่างหนึ่ง เราไม่ควรปลอมแปลงตัวไปหลอกล่อให้พวกมันติดกับอย่างเมื่อกี้นี้เลย”
“แต่พระองค์ทรงทำไปก็เพื่อช่วยชีวิตเทพทั้งสาม ซึ่งมาภาระหน้าที่ปราบทุกข์เข็ญนำความร่มเย็นมาสู่โลกมนุษย์นะพระเจ้าค่ะ”
“จำคำเราไว้นะ มาตุลี ครั้งต่อไปที่เราจะลงไปบนโลกมนุษย์ เราจะลงไปอย่างมนุษย์ธรรมดาคนนึง”
(เพราะคำปฏิญาณนี้แหละ ถึงได้เกิดเรื่องใหญ่โต) มาตุลีตกใจ    “หมายความว่าจะทรงไม่มีอิทธิฤทธิ์!...แล้วจะรอดเหรอพระเจ้าค่ะ”
“ในเมื่อมนุษย์เค้ายังอยู่ได้ แล้วทำไมเราจะไม่รอด” มาตุลีขอตามเสด็จไปถวายความปลอดภัย  “ไม่เป็นไรหรอก มาตุลี เพราะว่าเจ้าเองก็ต้องคอยพยายามเอาตัวให้รอดเหมือนกัน เจ้าก็ต้องตามเราไปโดยปราศจากอิทธิฤทธิ์เช่นกัน...และเมื่อถึงเวลานั้น บรรดายักษ์ทั้งหลายก็จะว่าเราไม่ได้”






นันทะเสนกับสุระผัดแปลงเหาะมาหาพวกจินดา บอกว่าคิดดูแล้วไม่อยากปล่อยให้ไปกันตามลำพัง มณีกับจินดาดีใจที่ทั้งสองจะร่วมทางไปด้วย งั่งกระซิบบอกอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนเดี๋ยวจะจนใจเอง






คืนนั้นสุระผัดแปลงแกล้งยั่วยุให้งั่งโกรธแล้วเดินหนีไป เพื่อจะหาทางจัดการกับมณีและจินดาได้สะดวก แล้วก็หลอกถามล้วงความลับไปเรื่อย หลอกจนได้รู้ว่าคาถาปราบเจ้างั่งท่องยังไง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:11:47 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #95 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 01:43:16 PM »
แล้วงั่งก็ถูกจักรวรรดิที่แปลงเป็นนันทะเสนท่องคาถากำราบ แต่งั่งก็ไม่ยอมหนีไปแถมรู้ทันด้วยว่าไม่ใช่นันทะเสน จักรวรรดิท่องคาถาจนงั่งสลบไป แล้วเสกคนโทขึ้นมาเก็บงั่งไว้ข้างใน






มณีกับจินดารองั่งอยู่ด้วยความเป็นห่วง นันทะเสนกลับมาบอกว่าไม่รู้มันไปอยู่ที่ไหน สุระผัดบอกให้จินดาท่องคาถา ถ้าเจ็บปวดจนทนไม่ไหวเดี๋ยวก็กลับมาเอง จินดาจึงท่องคาถาเรียกงั่ง






งั่งอยู่ในคนโทปวดหัวแทบระเบิดออกไปก็ออกไม่ได้ จินดาแปลกใจที่ท่องคาถาแล้วงั่งไม่มา ต่างคิดไปต่างๆ นานา สุระผัดว่าช่างมันเถอะ มีแค่ลุงกับเจ้านันทะเสนก็สามารถพาหลานกลับบ้านเมืองได้เหมือนกัน






ฝ่ายงั่งฟื้นขึ้นมาก็ตะโกนโวยวายหาทางออก บ่นว่าถูกขังอย่างนี้แล้วใครจะช่วยพระธิดาล่ะ คืนนี้ย่างเข้าวรรษสันต์(เวียนถอยหลังอีกแล้ว) ฟ้าครึ้มฝนลั่นครืน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:15:00 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #96 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 01:53:19 PM »


สองยักษ์รอจนมณีกับจินดาหลับแล้วก็คิดจะลอบเข้าไปเอาพัดวิเศษและจัดการกับทั้งสองซะ แต่มณีพลิกไปพลิกมาหยิบไม่ได้ซะที ทั้งสองเลยกะใช้อาวุธเผด็จศึกซะเลย






พลันฝนแรกของฤดูก็เทลงมา ร่างจินดาเมขลาก็กลายเป็นพิรุณ สองยักษ์เห็นก็ตกใจ มณีตื่นมาตกใจเรียกหาจินดาเมขลา






พิรุณตื่นขึ้นมาอธิบาย “หนูไปอยู่ในนี้แล้วจ้ะ ถ้าเกิดฝนหลงฤดูก็จะเป็นหน้าที่ของลูก พิรุณ”
“พิรุณเหรอลูก” จักรวรรดิเผลอตวาด งงเพราะเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นเด็กผู้หญิงเดี๋ยวเป็นเด็กผู้ชาย มณีเลยรู้ว่าไม่ใช่นันทะเสน ยักษ์ทั้งสองคืนร่างเดิมพร้อมกับทวงพัดคืน






งั่งรู้ว่าฝนตก รู้ว่าพิรุณต้องออกมาแล้วเลยตะโกนขอความช่วยเหลือ มณีพัดชีวิตใส่ทั้งสอง แต่พวกมันหลบได้ แล้วถูกกระชากแย่งพัดไปได้ มณีรีบบอกให้พิรุณสั่งระฆัง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:15:54 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ ปากกาเวทมนตร์

  • รักการอ่าน รักเสียงเพลง
  • **
  • 1161
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • เฟซบุ๊คของเราเอง
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #97 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2010, 01:56:45 PM »
เออแฮะ จากฝนไปร้อน  จากหนาวไปฝนเลย  ชักสับสนกับฤดูเรื่องนี้แล้วแฮะ  :icon_confused:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2010, 01:57:24 PM โดย เพียงฟ้า »



ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #98 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 06:00:11 PM »
ฝนหลงฤดูไง พิรุณเลยออกมา  :icon_rolleyes:
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #99 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 06:04:56 PM »
ฝนหลงฤดูไง พิรุณเลยออกมา  :icon_rolleyes:


พิรุณก็บอกงั้นแหละค่ะ  แต่หลังจากนี้ไปก็หน้าฝนไปอีกนานเลยอ่ะ  สงสัยหลงแล้วหลงเลย   :icon_question:



v
v
v


สุระผัดกับนันทะเสนตัวจริงกระโดดลงมาช่วย บอกให้มณีกับพิรุณหนีไปก่อน ทางนี้จัดการเอง






จักรวรรดิจะดูดนันทะเสนเข้าคนโท แต่กลับโดนพลังจากนันทะเสนกระแทกล้มลง คนโทหลุดมือ งั่งเลยกระเด็นออกมา นันทะเสนเข้าไปอยู่ในนั้นได้ไง งั่งฟ้องว่าไอ้ยักษ์นั่นจับเข้าไป จักรวรรดิเจ็บใจที่งั่งหลุดออกไปได้ จะใช้พัดชีวิต






นันทะเสนสกัดเอาไว้ และบอกให้งั่งรีบตามพระโอรสไป พิรุณกับมณีได้ยินเสียงงั่งเรียกก็รีบซ่อน เมื่อเห็นงั่งบินลงมา พิรุณก็เริ่มท่องคาถาทันที






งั่งอยู่ๆ ก็เจอคาถาเด็กจู้จี้ปวดหัว พิรุณเห็นงั่งทุรนทุรายก็เดินออกมา “อย่างนี้แปลว่าตัวจริงเสียงจริง” นี่ทดสอบกันเหรอเนี่ย 555+
งั่งว่านึกแล้วว่าต้องเป็นพระโอรส “ขอโทษนะงั่ง เวลานี้มันไว้ใจใครไม่ได้เลยต้องพิสูจน์กันหน่อย”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:17:16 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #100 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 06:08:30 PM »
งั่งงอนบอกตามสบาย มณีปลอบและขอโทษ เพราะไว้ใจใครไม่ได้จริงๆ ถูกหลอกมาตลอดทางเลย งั่งเลยค่อยหายงอน “งั่งรู้รึเปล่าว่ายักษ์ตนนี้มันถอดหัวใจไว้ที่อื่น ถ้าไม่ได้หัวใจมันมาท่านลุงทั้งสองคงสู้มันไม่ได้แน่”
งั่งว่าแย่แน่ “เราต้องไปเอาหัวใจมันมา”  มณีถาม “แล้วเราจะไปเอาหัวใจที่ไหนล่ะลูก พิรุณ ใครมันจะไปรู้นอกจากพวกมันเอง”
“นึกออกแล้ว!!”






งั่งงานงอก ทำหน้าที่ไปสืบหาหัวใจยักษ์ที่เมืองยักษ์ แปลงเป็นอนันตวงศ์ ทำเนียนเดินอาดๆ ไป “หยุด!! ข้าบอกให้หยุด!!”
เสียงล่าสันตวาด งั่งในคราบอนันตวงศ์ตกใจหันมามอง พอเห็นว่าเป็นอนันตวงศ์ล่าสันกับทหารก็ทำความเคารพ รีบถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง






งั่งก็ฉลาดทำเนียนบอกว่าถูกอาวุธร้าย ขนาดถอดหัวใจแล้วยังเจ็บขนาดนี้ (เพิ่งเห็นว่าถึงมันจะปลอมตัวแต่มงคลหัวก็ยังครอบอยู่ มิน่าล่าสันมันมองแปลกๆ)
งั่งแถต่อไปอีกว่า พวกมันจับเจ้าพี่จักรวรรดิไว้ แล้วกำลังจะไปเอาหัวใจข้าเพื่อจะมาฆ่าพร้อมกัน เลยต้องกลับมาซ่อนตัว ล่าสันถามถึงหัวใจ “เจ้ารีบไปเอามาให้ข้าก่อนที่พวกมันจะไปถึง” ล่าสันจะไปส่งที่ตำหนักก่อน งั่งแกล้งไล่ให้รีบไปเอาหัวใจ งั่งยิ้มกริ่มตามแผน







พอเห็นพวกมันเหาะไปแล้วก็คืนร่างเดิม แล้วรีบตามไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:18:04 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #101 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 06:14:16 PM »

ทางนี้ก็สู้กันไม่เลิก พิรุณกับมณีกลับมาดูสถานการณ์ มณีว่าท่านลุงต้องแย่แน่ๆ พิรุณเลยเอางี้ หนูน้อยเริ่มร่ายเวทย์






เกิดฝนฟ้าคะนองกระจายจนสู้กันไม่ได้ พิรุณตะโกนเรียกท่านลุงทั้งสอง นันทะเสนกับสุระผัดขอบใจพิรุณที่ช่วยไว้ไม่งั้นแย่แน่ มณีกับพิรุณไม่รู้จะทำยังไงดี งั่งก็ยังไม่กลับมา ทั้งสองจึงพามณีกับพิรุณไปซ่อนตัวก่อน






ยักษ์ทั้งสองหมุนคว้างอยู่ท่ามกลางพายุฝน อยู่ๆ ฝนก็หยุดตก พายุไม่มี เหตุการณ์ปกติ แถมตัวไม่เปียกอีกตะหาก อนันตวงศ์ว่ามันต้องเป็นอาคมแน่ๆ แต่เป็นของใคร “หือ องค์พระอิศวร” จักรวรรดิคิดไรหาเรื่องล่ะ “ต้องเป็นองค์พระอิศวรแน่ๆ เมื่อตอนกลางวันก็พยายามขัดขวางเราทีนึงล่ะ ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าองค์พระอิศวรมายุ่งเรื่องนี้ทำไม” อนันตวงศ์ว่ายังไงก็ต้องหาพวกนั้นให้พบก่อน ถ้าปล่อยให้หลุดรอดไปได้ พวกเราจะลำบากทีหลัง






พวกพิรุณมาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ สุระผัดกับนันทะเสนว่าคงอยู่ได้ไม่นานพวกยักษ์ก็ตามมาเจอ มณีบอกว่าคิดในแง่ดีกว่าพวกมันจะเจอ งั่งคงกลับมาพร้อมหัวใจ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:19:02 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #102 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:09:36 PM »
พวกยักษ์ก็แปลงกายให้ใหญ่โตแล้วออกตามหามณีกับลูก ฝ่ายพวกพิรุณก็เก็บตัวซ่อนอยู่แต่ในถ้ำ






ล่าสันมาถึงถ้ำนิลคูหาเก็บแมลงภู่ ฝ่ายงั่งก็ติดตามมาโดยเกาะอยู่บนหินผาด้านบน







ล่าสันปรึกษากับทหารว่าจะเอาไปกี่ตัว ทหารว่าองค์เหนือหัวบอกให้เอาแค่หัวใจพระองค์ ล่าสันว่าถ้าไม่เอาหัวใจพระมเหสีไปด้วยแล้วพวกนั้นมาเจอ พระมเหสีไม่สิ้นพระชนม์เหรอ “องค์เหนือหัวจะได้เปลี่ยนพระมเหสีใหม่ไง” 555+ พูดดีนะ “ระยะหลังๆ พระองค์ทรงเบื่อหน่ายพระมเหสีเต็มที” ทหารอีกตนว่าคงไม่ถึงกับอยากให้มีอันเป็นไปหรอก แล้วก็ตัดสินใจ
“ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า เวลานี้ศัตรูใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว ข้า’พุทธเจ้าขอเชิญทั้งสองพระองค์ไปกับข้าง’พุทธเจ้าเพื่อความปลอดภัยพระเจ้าค่ะ” แม้แต่หัวใจยังต้องกราบทูล






แมลงภู่ทั้งสองตัวบินมาสู่มือล่าสัน ล่าสันประคองแมลงภู่ไปอย่างดี งั่งสบรออยู่ สบโอกาสยิงระเบิดใส่ล่าสันที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทันที

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 07:19:37 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #103 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:10:43 PM »
ล่าสันล้มลง แมลงภู่หลุดจากมือ งั่งกระโดดคว้าแมลงภู่ได้หนึ่งตัว อีกตัวคว้าไม่ทัน เพราะล่าสันเกาะขาไว้ พวกทหารจะฆ่างั่ง งั่งเลยเอาแมลงภู่ในมือขู่






แถมไม่รีรอ เอาเก็บไว้ในปากทันที งั่งเอาสากกระเบือออกมาต่อสู้ จัดการทหารยักษ์ซะสะบักสะบอม คายแมลงภู่ออกจากปากแล้วก็รีบกลับไป ล่าสันให้ทหารตามแมลงภู่อีกตัวไป ตัวเองจะตามกระหังป่า






ล่าสันเหาะตามงั่งมา จนกระพือกระด้งแทบไม่ทัน ทางฝ่ายสองยักษ์ก็มัวแต่คุ้ยหาพวกพิรุณ อีกฝ่ายก็ต้องหลบซ่อนอยู่เงียบๆ






ล่าสันยิงพลังใส่งั่ง แต่งั่งหลบได้ ฝ่ายพวกยักษ์ก็มาเจอถ้ำเข้าจนได้ เลยเหยียบซะแผ่นดินสะเทือน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:47:15 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #104 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 11:15:50 PM »

ถ้ำสะเทือนจนทุกคนต้องออกไปก่อนที่ถ้ำจะถล่มลงมา พวกยักษ์เห็นรีบตาม ข้างบนก็กำลังไล่ตามกันอยู่






พิรุณวิ่งหนีไม่พ้น สะดุดล้ม อนันตวงศ์จับตัวไว้ได้ มณีกรีดร้องคร่ำครวญ แต่ถูกสุระผัดกับนันทะเสนลากเอาตัวรอดก่อน





พิรุณยิงแสงเข้าตาอนันตวงศ์ จนโกรธจะกินเสีย พิรุณร้องตะโกนอย่ากินเราๆๆ ช่วยด้วยๆๆๆ
“หยุดๆๆๆ” และแล้วฮีโร่งั่งก็มา






“เห็นมั้ยว่านี่อะไร ปล่อยพระโอรสลงมาเดี๋ยวนี้”
“งั่ง!!”
อนันตวงศ์ต่อรองว่าให้ส่งผึ้งคืนมาก่อน งั่งไม่ยอม อนันตวงศ์สั่งให้ล่าสันจัดการ  เอาเป็นว่าต่อรองกันอยู่นั่นแหละ งั่งก็ฉลาดล้ำรู้ว่ายักษ์มันเจ้าเล่ห์เลยไม่ยอมคืนแมลงภู่ให้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 09:48:41 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**