กล่าวถึงเมืองยักษ์ หลังจากที่สามีสิ้นไปแล้วโชตะนาก็ครองตัวเป็นโสดเป็นพระแม่เจ้าปกครองอาณาประชาราษฎร์เรื่อยมา จนกระทั่ง...
ถึงเวลาแล้ว! โชตะนาโพล่งขึ้นมาหลังจากเดินวนไปวนมาคิดอยู่ตั้งนาน
ถึงเวลาเสวยแล้วเหรอเพคะ นางตัวเล็กตัวน้อยกระดี๊กระด๊า โชตะนารำคาญว่าเอาแต่กิน ถึงได้อ้วนอย่างนี้ไง
(คุณเธอก็อวบนะคะ)ที่เราบอกว่าถึงเวลาเนี่ย หมายถึง...เวลาที่จะมีคู่อีกครั้งนึง! นางทั้งสองอยากกรี๊ดแต่ต้องสงบปาก
พอเห็นพระแม่เจ้าจะมีสามีใหม่ตัวเล็กตัวน้อยก็เลยจะถือโอกาสหาบ้าง แต่จะไปหาที่ไหนล่ะ ตัวเล็กว่าในนคร
(ฟังชื่อไม่ออกอ่ะ อัศคีรีวัน เหรอ?) ไม่เอานะ ยังไม่เห็นมีใครหน้าตาดีซักคน
เราว่าจะไปเมืองมนุษย์! นางทั้งสองเกือบกรี๊ดอีกรอบ
ช่าย พวกมนุษย์น่ะรูปร่างหน้าตาล้วนแต่อรชรอ้อนแอ้นดีๆ ทั้งน้านน ไม่น่าเกลียดน่าชังเหมือนพวกยักษ์หรอก ตอนเอ่ยถึงมนุษย์นี่หน้าตาหยาดเยิ้มแต่พอพูดถึงยักษ์ขยะแขยงมาก
นางตัวเล็ก
แล้วเค้าจะชอบพวกยักษ์เหรอเพคะนางตัวน้อย
ใช่เพคะ พวกเรายังไม่ค่อยปลื้มเลยโอ๊ย จะโง่ให้รู้ว่าเป็นยักษ์ทำไมล่ะ จะมีผัวมนุษย์ก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ซี้ วิธีนี้ใช้ได้เป็นร้อยเป็นพันปีแล้วล่ะท้าวจักรวรรดิคัดค้านเมื่อได้ฟังความคิดของน้องสาว
คิดดีๆ โชตะนา พวกมนุษย์น่ะพอมันรู้ว่าเราเป็นยักษ์ก็หนีกระเจิดกระเจิงทั้งนั้นแหละ ไม่มีมนุษย์หน้าไหนหรอกที่จะรักยักษ์จริงสักรายถึงยังไงน้องก็อยากจะลองดูซักครั้ง อกหักก็ยังดีกว่ารักไม่เป็นเพคะ ชีมั่นใจเต็มที่ นางตัวเล็กตัวน้อยแอ็คโค่ประโยคสุดท้าย
อกหักดีกว่ารักไม่เป็นเหรอ! เสียงที่ 3
(นับเฉพาะพวกเจ้านาย) แทรกเข้ามาพร้อมการปรากฏตัวของปราบไตรจักร