ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #210 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 11:08:42 PM »
:icon_frown:  อ้าว...น้องกาฬค้างไว้แค่นี้ได้งัยเนี่ยะ มาเล่าต่อเดี๋ยวนี้เลยนะ...ไม่ยอมอ่ะ...แงงงงงงงงง

พอดีมันแคปค้างไว้แค่นี้ไงคะ  พี่  555+ :P

:icon_frown:  อ้าว...น้องกาฬค้างไว้แค่นี้ได้งัยเนี่ยะ มาเล่าต่อเดี๋ยวนี้เลยนะ...ไม่ยอมอ่ะ...แงงงงงงงงง

หึๆๆๆ พี่กาฬค้างไว้แบบทรมานใจจริงๆ 555+++
จัดการเลยดีมั้ยค่ะพี่ viki

มาต่อเร็วๆนะคะ อยากรู้ว่าอัมพรจะกระทืบราหูให้จมดินยังไง 555++

จัดการไร  เดี๋ยวเหอะ  55555+ :icon_neutral:
แน่นอน  เจ้าพี่ราหู  จมดินแน่นอน
  :-X




ฝ่ายดวงดาราเมื่อรู้ข่าวเรื่องคู่ครองที่สุวรรณอัมพรเลือกก็หัวเราะคิกคักนินทากันใหญ่ แล้วก็สมน้ำหน้ามเหสีรัชดาที่อยากได้ลูกเขยนัก
“อะไรก็ไม่กลัวเท่ากับว่าสุวรรณอัมพรจะเป็นอาหารของมันแทนที่จะเป็นเมียน่ะสิ 555+” (เอ่อ อันนี้ต้องระวังตัวเองมากกว่านะคะ)
นางแช่มนางช้อยฟังแล้วกลัวว่าจะกลายเป็นอาหารยักษ์กันไปหมด ดวงดารานึกได้ก็เกิดสยองขึ้นมา






มเหสีรัชดารีบแจ้นมาฟ้องพระสวามี แต่ท้าวคันธมาทน์กลับสงบนิ่งทำสมาธิต่ออย่างไม่ทุกข์ร้อน ขนาดลูกเลือกคู่เป็นยักษ์นะ แถมยังโดนย้อน
“รัชดา ในเมื่อน้องบังคับให้ลูกต้องเลือกคู่แล้วลูกก็ตามใจ ทำตามคำสั่งแล้ว เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น”
“หม่อมฉันให้เจ้าพี่ช่วยคิดแก้ปัญหานะเพคะ แต่เจ้าพี่ไม่ช่วย กลับมาซ้ำเติมหม่อมฉันอีกเหรอเพคะ”
“พี่ไม่ได้ซ้ำเติมนะ แต่พี่พูดตามความจริง”
“ก็ได้เพคะ ในเมื่อสุวรรณอัมพรอยากลองดีกับหม่อมฉัน ดี๊ จะได้รู้เพคะว่าใครจะชนะ เชิญเจ้าพี่นั่งสมาธิไปคนเดียวเถอะเพคะ”
ท้าวคันธมาทน์ส่ายหน้าระอาที่เลือกคู่แล้วเรื่องก็ไม่จบซะที






ในเมื่อพระสวามีไม่สน มเหสีรัชดาเลยเป็นผู้ตัดสินใจเอง กลางท้องพระโรง สุวรรณอัมพร อัปสรสวรรค์นั่งอยู่บนแท่นด้านขวา ปราบไตรจักรนั่งบนแท่นด้านซ้าย พระราหูของเราน่าสงสารโดนเบียดมาอยู่ปลายแท่นเหยียดฐานะกันจริงๆ
มเหสีรัชดาเดินเข้ามาเอาเรื่อง “สุวรรณอัมพร เจ้าทำให้เราขายหน้ามากเลยรู้มั้ย คนมีตั้งเยอะแยะไม่เลือก กลับไปเลือกยักษ์” (แหม ก็คนแต่ละคนหล่อสู้ยักษ์ไม่ได้เลยอ่ะนะ เป็นกาฬก็เลือกยักษ์อ่ะค่ะ (= ∧ д ∧ = ) )
สุวรรณอัมพรเถียงอะไรไม่ออก






ราหูเห็นเหตุการณ์ไม่ค่อยจะดี เลยรีบออกตัว “ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า หม่อมฉันไม่ใช่ยักษ์กินคนพระเจ้าค่ะ”
“อ้าว ยักษ์ไม่กินคนแล้วกินอะไรล่ะ สหาย” ปราบไตรจักรถามทันทีอย่างสงสัย ก่อนจะนึกได้ว่าเข้าตัวเอง เลยรีบแก้ตัวกับอัปสรสวรรค์ “พี่จำเป็นต้องพูดกับยักษ์ตนนี้ให้กระจ่างชัดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในนครแห่งนี้”
สาวเจ้ากำลังลุ่มหลงยักษ์ในคราบมนุษย์ก็ขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:11:32 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #211 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 11:17:47 PM »
“ใช่ ถ้าเจ้าไม่กินคนแล้วเจ้ากินอะไร” งั่งอดไม่ได้ “ความจริงยักษ์ราหูน่ะไม่ชอบกินคนร๊อก แต่ต่อไปน่ะไม่แน่ถ้าหากคนยังสร้างความรำคาญอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เนอะ พระโอรสเนอะ!”
รัชดาแปลกใจ “พระโอรส? นี่เจ้าเรียกยักษ์ตนนี้ว่าพระโอรสเหรอ”
“ช่ายย...” งั่งจะเผยไต๋ แต่โดนเหยียบเท้าเบรคไว้ซะก่อน ลงทุนแต่งชุดซอมซ่อมาทั้งที (รองเท้ายี่ห้อไรคะพี่)






“งั่งแค่พยายามอยากจะยกย่องหม่อมฉันให้เท่าเทียมกับพระธิดาสุวรรณอัมพรเท่านั้นแหละพระเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องมาอ้างถึงเรา!” สุวรรณอัมพรแทรกทันที (นั่นไงล่ะ ออกคำสั่งตั้งแต่ยังไม่ทันได้อภิเษกเลย) ราหูหน้าหมอง
อัปสรสวรรค์ขอร้องให้เปลี่ยนใจเถอะ แต่สุวรรณอัมพรยังทิฐิ “พี่ทำตามพระประสงค์ของเสด็จแม่จะเปลี่ยนได้ยังไง อัปสร”






มเหสีรัชดากริ้วจัดกับความดื้อดึงลองดีของลูกสาว “นังลูกอกตัญญู! เราขอไล่เจ้ากับเจ้ายักษ์ตนนี้ไปอยู่ที่กระท่อมปลายนา!” ราหูตกใจ สุวรรณอัมพรอึ้ง “ทำมาหากินกันเอาเองห้ามใครไปเยี่ยมเด็ดขาด!”
“เสด็จแม่!” อัปสรสวรรค์คาดไม่ถึงว่าจะลงโทษเด็ดขาดขนาดนี้






แม้แต่คุณท้าวเทพทองพยายามทัดทานยังโดนสั่งให้หยุดพูด “ไปสิ ไม่ได้ยินรึไง!” สุวรรณอัมพรยังนั่งนิ่งอึ้ง น้ำตาจะไหลที่มเหสีรัชดาตัดขาดราวกับไม่มีความผูกพัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:12:31 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #212 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 11:54:50 PM »
อัปสรสวรรค์รีบลุกขึ้นมาจะขอร้อง ก็ถูกเสด็จแม่สั่งไม่ต้องพูดขออะไรทั้งนั้น (กับคนนี้ลูกสาวคนโปรดเลือกลูกเขยได้ถูกใจแม่)
ในเมื่อเสด็จแม่ทรงเห็นสมควรอย่างนั้น ก็ไม่คิดจะอ้อนวอนขอร้อง






สุวรรณอัมพรก็ทรุดลงกราบพระบาททูลลาทั้งน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ






ราหูและงั่งรีบทูลลาตามออกไป อัปสรสวรรค์ร้องไห้ด้วยความสงสารพี่สาว ในขณะที่มเหสีรัชดาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ซีนนี้ปราบไตรจักรแอบทำหน้าอ่อนโยนด้วยอ่ะ






โดนเนรเทศออกมาอยู่กับธรรมชาติ กลางไร่กลางนามีอำมาตย์และทหารมาส่งถึงที่กระท่อม สุวรรณอัมพรขอบใจเสียงเศร้าและให้อำมาตย์กลับไปได้แล้ว อำมาตย์คนนึงยื่นห่อผ้าให้บอกว่าคุณท้าวเทพทองแอบฝากมาถวาย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:13:26 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #213 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 11:58:46 PM »
สุวรรณอัมพรถามอะไร “เครื่องเสวยพระเจ้าค่ะ” อัมพรรับมาคิดอย่างเศร้าน้อยใจแม่ “คนอื่นแท้ๆ ยังเห็นใจเราเลย” ก่อนจะปรับสีหน้าให้เข้มแข็งบอกให้อำมาตย์กลับไปเถอะ เหลือเพียงตน ยักษ์ราหูและงั่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป






ราหูมองตามสุวรรณอัมพรที่เดินเศร้าเข้าไปในกระท่อมไม่พูดอะไร “ตามเข้าไปสิพระโอรส ตามเข้าไปเลย” งั่งยุ
“ตามเหรอ?” ถามอย่างไม่รู้ว่าต้องตามยังไง “ใช่พระเจ้าค่ะ ตามเข้าไปสิ”
“ก็เค้ายังไม่เรียกนี่นา” พระราหู...มีมารยาทมากเพคะ นี่มาเป็นสามีเค้านะไม่ใช่เป็นทาส มิน่าล่ะ ทำให้อัมพรได้ใจตั้งแต่ต้นเลยโดนโขกสับสารพัด







งั่งรำคาญ ดิ้นพล่านอย่างขัดใจ “โอ๊ย พระโอรสจะให้งั่งสอนอะไรนักหนา ลองว่าเค้าโยนพวงมาลัยมาให้เราแล้วนะ แสดงว่าเค้าเรียกเราแล้วล่ะ”
“แน่นะงั่ง” แหม ยิ้มอย่างปริ่มเปรม งั่งยืนยันเต็มที่ รับรองดูไม่ผิดหรอก แล้วก็ทั้งผลักทั้งดันให้ตามสาวเจ้าเข้าไป ก่อนเข้าไปนี่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม






พอเปิดประตูปุ๊บ “เข้ามาทำไม!”
ตุ๊บ!
เสียงตวาดลั่นจนห่อผ้ามาถือมาหลุดตกมือ “เรายังไม่สั่งให้เข้ามาก็ไม่ต้องเข้า” ยืนอึ้งๆ งงๆ อยู่ครู่ “เอ่อ...คือ...พี่เอาของมาให้...” พูดหงอยซะไม่เข้ากับเขี้ยวในปากเล้ยยยย แล้วก้มลงเก็บห่อผ้าเตรียมเอาไปประเคนให้ถึงตัก
"ใครเป็นพี่เป็นน้องกับเจ้า!” โดนเข้าอีกดอกนึง เค้าว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือยักษ์ยังมีเมียยักษ์...เพราะฉะนั้นเมียยักษ์ต้องดุกว่ายักษ์  555+


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:14:43 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #214 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 12:36:03 AM »
“จำไว้นะ ทีหลังไม่ต้องมาเรียกเราว่าพี่ว่าน้อง” กฏข้อที่ 1 ห้ามขัดใจเมีย (แหม เค้าไม่ได้เรียกในฐานะนั้นซะหน่อย)
“ออกไปได้ล่ะ” ราหูเศร้า เซ็ง ทำไมไม่เห็นเป็นไปตามที่งั่งบอกเลยง่า “เราบอกให้ออกไปไง ไปสิ! อ้อ หรือว่าคิดจะเข้ามากินเรา”






“เปล่า! พี่...เอ่อ...ข้า...ข้าไม่ใช่ยักษ์กินคน” โดนตวาดหลายซ้ำหลายซ้อนพูดติดขัดเลยแฮะ “ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก จะกินเราก็กินเลยสิ จะได้พ้นทุกข์พ้นร้อนซะที” สุวรรณอัมพรประชดประชันพลางร้องไห้เศร้าใจในโชคชะตาตัวเอง (กาฬว่าชะตาราหูนี่น่าเศร้ากว่านะ)
เห็นนางร้องไห้แล้วก็อยากปลอบใจ ถึงแม้เค้าจะไม่อยากให้อยู่ใกล้ก็ตาม “อย่ากรรแสงเลยพระธิดา”






“เราจะร้อง ใครจะทำไม!” กฏข้อที่ 2 ห้ามสั่งเมีย “ไปเลยนะ ไปให้พ้น!”
ราหูยังนั่งเอ๋อ หน้าเศร้า อัมพรไม่รอช้า ตรงเข้าไปฉุดกระชากลากถูกผลักให้ออกไปจากกระท่อม น่าสงสารจริงๆ งั่งผลักเข้ามาด้วยรอยยิ้ม แต่อัมพรถีบ เอ๊ย ผลักออกด้วยน้ำตา แล้วปิดประตูซ้ำ






ราหูเดินคอตกออกมา พร้อมบอกงั่งที่รอดูผล “ถูกไล่ออกมา T+T” 
“อ้าวววววววว”
“นางเกลียดขี้หน้าเรา (〓△〓)”
“แหม แต่มันก็น่าเกลียดอยู่ร๊อก” เจองั่งซ้ำเติมเข้าไปอีก เลยหันมองด้วยสายตา...(เฮ้ย พูดใหม่ดิ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:15:28 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #215 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 12:00:21 PM »
งั่งรีบขอโทษ “แล้วพระโอรสไม่บอกนางไปเลยล่ะพระเจ้าค่ะว่าพระโอรสเป็นใคร มาจากไหน แล้วไอ้เขี้ยวเนี่ย ถอดเก็บซะก่อนเถอะ” (เก็บม่ายด้ายยยยย  นี่มันเขี้ยวเสน่ห์ ที่หลงรักกันหัวปักหัวปำก็เพราะเขี้ยวคู่นี้นี่แหละ)
“ถ้าหากจะมีใครซักคนมารักเรา ใครคนนั้นต้องรักตัวตนที่แท้จริงของเรา ไม่ใช่แต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น”
น้ำเน่ามากกกกกกกก งั่งถึงกับละลายกัดเข้าให้ “คมอ่ะ คมจริงจริ๊ง ดูสิงั่งบาดเหวอะหวะไปหมดแล้ว” 
ราหูนั่งเศร้า เจอรักครั้งแรก ผู้หญิงเค้าก็รังเกียจเพราะเป็นยักษ์ต่ำต้อยด้อยศักดิ์






โชตะนาแปลงเป็นแมลงภู่บินตามหาจักรวรรดิกับปราบไตรจักร ในขณะที่ทั้งสองกับยืนคุยกันอยู่ “พ่อไม่ได้ชอบนางคนนั้นเล้ยย ปราบไตรจักร”
“พี่พระเจ้าค่ะ ไม่ใช่พ่อ” ปราบไตรจักรเตือน
“เออ ลืมไป”
“อย่าทรงลืมสิ เพราะเราบอกพวกนั้นว่าเราเป็นพี่น้องกัน”







โชตะนาตามมาพบทั้งสองก็คืนร่างเดิม พร้อมกับเอาเรื่อง “เจ้าพี่! หลานปราบไตรจักร! หืมม พอได้ดีแล้วก็พากันหนีหน้าหมดเลยนะเพคะปล่อยให้หม่อมฉันหาแทบตาย”
จักรวรรดิฮึดฮัดว่าได้ดีที่ไหนล่ะ “นางคนที่พี่จองเอาไว้มียักษ์จรจัดที่ไหนก็ไม่รู้ได้นางไปแล้ว”







“อย่าเรียกยักษ์จรจัดนะเพคะ!!” จักรวรรดิงงที่โชตะนาเป็นเดือดเป็นร้อนแทน ก่อนจะค่อยๆ เก็ต เมื่อโชตะนาพร่ำเพ้อตาลอย “หม่อมฉันน่ะไม่เคยเห็นยักษ์ตนไหนสง่างามเท่านี้มาก่อนเลย ถึงจะอยู่ในอาภรณ์ธรรมดาแต่ก็สามารถทำให้หม่อมฉันล้มเลิกความคิดที่จะมีสามีมนุษย์”
“งั้นก็ดีเลย!” ปราบไตรจักรปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ ทั้งสองงงว่าดียังไง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:16:03 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #216 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 12:43:56 PM »
“เราจะบอกทุกคนว่าเสด็จอาโชตะนาเป็นน้องคนเล็กของพวกเรา” โชตะนาแอบกรี๊ดที่ได้ลดวัย “ทีนี้เสด็จอาต้องพยายามแยกไอ้ยักษ์จรจัดนั่น” โชตะนาหวงแม้กระทั่งห้ามเรียกยักษ์จรจัด เลยต้องเปลี่ยนคำ ซึ่งความหมายดีขึ้นมาหน่อย
“ไอ้ยักษ์พเนจรนั่น...ออกจากสุวรรณอัมพรให้ได้ ทีนี้ลงตัวพอดี หม่อมฉันคู่กับอัปสรสวรรค์ เสด็จพ่อคู่กับสุวรรณอัมพร ส่วนเสด็จอาก็คู่กับไอ้ยักษ์จร...เอ๊ย ยักษ์พเนจรตนนั้นไป พวกมนุษย์ที่เหลือมันก็คือเสบียงอาหารของพวกเรา”
แล้วก็หัวเราะกันลั่นอย่างพอใจ






โชตะนาชมอย่างปลาบปลื้ม “ต๊ายยย ตาย น้ำเน่าดีจริงๆ เลยน้า แหมหลานรักของอาเนี่ยฉล๊าดดฉลาด โอ๊ยจะมีใครมีความสุขไปกว่าอามั้ยเนี่ย” (ยังไม่ทันได้ลงมือทำเลยเจ๊ คิดว่าจะได้มาง่ายๆ อย่างนั้นเชียวเหรอ)
ปราบไตรจักรเตือนให้เรียกตนว่าเสด็จพี่ไปเคยปากด้วย จะได้ไม่มีคนสงสัย โชตะนาก็พร้อมจะเรียกเพื่อให้ลดวัยของตัวเองอยู่แล้ว ถึงจะเรียกผิดเรียกถูกบ้างก็เถอะนะ






และแล้วคืนนั้นก็ถึงเวลาทำพิธีส่งตัวเข้าหอ ปราบไตรจักรเฝ้ารออย่างชื่นมื่นก่อนที่ท้าวคันธมาทน์และมเหสีรัชดาจะพาอัปสรสวรรค์มาส่ง ปราบไตรจักรก้มกราบพ่อตาแม่ยาย






มเหสีรัชดาให้อัปสรสวรรค์กราบพี่เค้าด้วย อัปสรสวรรค์ยิ้มหวานก้มกราบปราบไตรจักรในฐานะพระสวามีตามธรรมเนียม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:16:52 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #217 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 12:47:19 PM »
แล้วมเหสีรัชดาก็คอยสะกิดกำกับพระสวามีให้ทำนั่นทำนี่ เริ่มจากกล่าวอวยพร
“ขอให้ลูกทั้งสองจงครองรักกันให้ยั่งยืนนานนะ”
“หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องอภัยให้กันนะลูก ดูตัวอย่างพ่อกับแม่ไว้นะจ๊ะ เราสองคนเนี่ยไม่เคยทะเลาะกันเลยนะลูก ถ้าเสด็จพ่อทรงเป็นไฟ แม่ก็ต้องเยือกเย็นเป็นน้ำ”






“แต่ส่วนมากแล้วพ่อจะเป็นน้ำซะมากกว่านะ” ท้าวคันธมาทน์ขัดอย่างไม่อารมณ์ขัน มเหสีรัชดาตีแปะเข้าที่แขน “แม่ฝากน้องด้วยนะลูก ปราบไตรจักร”
“เสด็จแม่ไม่ต้องทรงเป็นห่วงพระเจ้าค่ะ ลูกจะรักและทะนุถนอมน้องอัปสรสวรรค์เหมือนที่เสด็จพ่อเสด็จแม่ทรงกระทำมา”






เสร็จพิธีส่งตัวมเหสีรัชดาก็ชวนกันกลับ ให้คู่ข้าวใหม่ปลามันเค้ามีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ทั้งสองมองกันยิ้มเอียงอาย






ท้าวคันธมาทน์เอ่ยถามเมื่อเสด็จออกมา “ส่งตัวอัปสรแล้วไม่ส่งตัวอัมพรเหรอ” เค้าไม่ได้ประชดนะ
“เจ้าพี่! อย่าเอ่ยถึงนังลูกหัวดื้อให้หม่อมฉันได้ยินอีกนะเพคะ ถ้าคืนนี้ถูกผัวจับกินล่ะ อย่าโทษกันเชียว” ท้าวคันธมาทน์ชักไม่พอใจ
“นี่รัชดา ไม่เป็นห่วงลูกบ้างเลยหรือ”
“ดื้อดึงออกเพียงนั้นจะต้องห่วงทำไมเพคะ...ถ้าเจ้าพี่ทรงวิตกถึงเรื่องเจ้ายักษ์นั่นที่จะอาละวาดจับคนกินแล้วล่ะก็ ลูกปราบไตรจักรน่ะเรียกพระเวทย์มนตรามาพอสมควรที่จะปราบเจ้ายักษ์นั่นให้อยู่หมัดนะเพคะ” ไปสัมภาษณ์มาเสร็จสรรพแล้วเหรอเนี่ย ระวังเจอวุฒิการศึกษาปลอมนะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:17:58 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #218 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 02:39:04 PM »
“ชื่อปราบไตรจักรก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าลูกเขยเราคนนี้เก่งกล้าสามารถเพียงใดนะเพคะ” ท้าวคันธมาทน์ระอากับท่าทีเห่อเป็นปลื้มกับเขยขวัญนัก






ฝ่ายข้างในห้อง ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากมองสบสายตากัน ก่อนที่อัปสรสวรรค์จะเป็นฝ่ายหลบอย่างเอียงอาย เมื่อปราบไตรจักรยื่นมือไปแตะมือบางก็สะดุ้ง “น้องไม่สบายรึเปล่า”





อัปสรสวรรค์ตอบเปล่าแบบงงๆ “แล้ว...แล้วทำไม?...” หญิงสาวยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ปราบไตรจักรแปลกใจ แต่แล้วก็คิดจะลองใหม่อีกที คงไม่มีไรหรอก แล้วก็เผยรอยยิ้มก่อนจะเคลื่อนเข้าใกล้





คราวนี้มือที่กำลังจะโอบบ่าอัปสรสวรรค์ลุกไหม้เป็นไฟวูบขึ้นมาทันที ปราบไตรจักรสะดุ้งชักมือกลับ “เป็นอะไรเพคะ” อัปสรสวรรค์ถามด้วยความแปลกใจ แต่อีกฝ่ายยังส่ายหน้าปฏิเสธ
“พี่ว่าน้องอัปสรไปอาบน้ำก่อนดีมั้ย” อัปสรสวรรค์ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไร จึงไปอาบน้ำโดยไม่คิดติดใจสงสัย
“เป็นไปได้ยังไง ทำไมนางถึงตัวร้อนจนเราแตะต้องไม่ได้”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:19:11 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ sk

  • อดีตก็คือวันวานที่ผ่านไป
  • *
  • 839
  • 1
  • เพศ: หญิง
  • ทางเดินย่อมไม่มีวันสิ้นสุด
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #219 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 03:10:33 PM »
:icon_frown:  อ้าว...น้องกาฬค้างไว้แค่นี้ได้งัยเนี่ยะ มาเล่าต่อเดี๋ยวนี้เลยนะ...ไม่ยอมอ่ะ...แงงงงงงงงง

หึๆๆๆ พี่กาฬค้างไว้แบบทรมานใจจริงๆ 555+++
จัดการเลยดีมั้ยค่ะพี่ viki

มาต่อเร็วๆนะคะ อยากรู้ว่าอัมพรจะกระทืบราหูให้จมดินยังไง 555++

จัดการไร  เดี๋ยวเหอะ  55555+ :icon_neutral:
แน่นอน  เจ้าพี่ราหู  จมดินแน่นอน
  :-X


หึๆๆๆ จัดการในข้อหาซาดิสต์ลงทีละนิดให้(ตัวเอง)จิตแจ่มใส

แต่คนรอคอยนั้นทรมาน เพราะฉะนั้น ระวัง พี่viki จะลงทัณฑ์ 555++

ง่า อยากอ่านอีก แงแงแง

ออฟไลน์ viki

  • *
  • 217
  • 0
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ?เทพสามฤดู?
« ตอบกลับ #220 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 07:41:50 PM »
 :icon_confused: พระราหูของเจ๊...พระธิดาไม่ให้อยู่ มาอยู่กับเจ๊ดีก่า
***คำว่ารักส่งมาจากฟากฟ้าไกล ส่งไปเป็นกำลังใจให้พี่บอย***

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #221 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 09:58:31 PM »
นี่ก็นั่งหงอยเฝ้าอยู่หน้ากระท่อม งั่งเห็นแล้วสมเพชเวทนา “โธ่เอ๊ย พระโอรส รู้จักคำว่าเจ้าชู้ยักษ์มะ?” เป็นยักษ์ทั้งทีแต่ต้องให้ผีกระหังมาสอน
“ทำไม?”
“ก็ทำไม...พังประตูเข้าไปรวบรัดเลย พระโอรสน่ะเป็นผู้ชายแถมยังเป็นยักษ์ซะด้วย นางน่ะไม่มีทางขัดขืนได้หรอก” แนะนำดีนักไม่รู้จักฤทธิ์แม่คุณซะแล้ว
ราหูส่ายหน้าหวาดๆ “เราไม่กล้า (〒◇〒) ” นอบน้อมเคารพเมียมาก






“โอ๊ย เชื่องั่งเถอะ นะ” งั่งแทบอยากจะลงไปนอนดิ้นเพราะนายตัวเอง “ก็บอกแล้วไงว่าเราไม่กล้า”
งั่งล่ะขัดใจ “งั้นก็ตามพระทัยแล้วกัน นี่ถ้าเป็นพระพิรุณล่ะก็...เรียบร้อย” มีการยกอีกคนขึ้นมาเปรียบเทียบ ราหูมองเขม็งก่อนจะถามเสียงเขียวอย่างเสียเซลส์ “แล้วเจ้ารู้ได้ยังไง”






“แหมมม ขนาดนางไม้อยู่ในต้นไม้นะ พระพิรุณยังตามเข้าไปหาถึงในต้นไม้เลย ตามพระทัยพระโอรสแล้วกันอยากจะนอนตบยุงอยู่กับงั่งก็...ตามสบาย” (ไม่ทำอย่างพระพิรุณก็ดีแล้วเพคะ เพราะพระธิดาองค์นี้เฮี้ยนยิ่งกว่านางไม้อีก)
พระราหูฟังแล้วก็ครุ่นคิดอย่างหนักใจ โดนเลือกมาแล้วแต่เค้าดันรังเกียจ ไม่รู้จะเลือกมาทำไม






จนดึกดื่นคืนค่อนนอนไม่หลับ
ชะตากลับเปลี่ยนไปไม่นึกฝัน
เคยแวดล้อมข้าเฝ้าเหล่ากำนัล
ทุกคืนวันไม่รู้ซึ้งถึงทุกข์ใจ
แม้นต้องการสิ่งใดได้ดั่งคิด
เนรมิตเสกสรรค์วันสดใส
แต่แล้วเหมือนฟ้าผ่ามาทันใด
ทุกอย่างมลายไปในพริบตา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 12:26:28 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ sk

  • อดีตก็คือวันวานที่ผ่านไป
  • *
  • 839
  • 1
  • เพศ: หญิง
  • ทางเดินย่อมไม่มีวันสิ้นสุด
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #222 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 10:08:51 PM »
555++ หงอ กลัวเมียมากมาย อิอิ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #223 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 12:05:06 AM »
แต่งแก้วไม่ออกอ่า   :-X :-[ :icon_mad:



ข้างนอกก็นอนพลิกไปพลิกมา ยุงกัดหรือคิดไม่ตกกันแน่คะ สุดท้ายก็ต้องผุดลุกขึ้นมา มองไปยังกระท่อม คำพูดของงั่งยังวนเวียนให้คิด ‘พังประตูเข้าไปรวบรัดเลย พระโอรสน่ะเป็นผู้ชายแถมยังเป็นยักษ์ซะด้วย นางน่ะไม่มีทางขัดขืนได้หรอก’
แต่แล้วสุดท้ายก็หักห้ามใจได้ ‘ไม่! ถ้าจะมีเมียซักคนเราต้องได้นางมาด้วยความเต็มใจของนางเอง ไม่ใช่ใช้กำลัง’
แล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ (ปฏิญาณแบบนี้เอาชนะใจไปเลยเพคะ ส่วนถ้าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นก็...ถือว่าสถานการณ์มันบังคับก็แล้วกัน (*ノ∧б。) )






ฝ่ายข้างในปราสาทราชวังคู่นี้แม้นอนร่วมเรียงเคียงหมอนก็มีปัญหาเหมือนกัน เปิดฉากมาที่อัปสรสวรรค์นอนร้องไห้อยู่บนแท่นบรรทม
(ตอนดูครั้งแรกในทีวีตกใจหมด คิดว่าจะเข้าตำรับเดิม เสียตัวแล้วร้องไห้  ...เฮ้ย! มนต์เสน่ห์คลายแล้วเหรอ แล้วอัปสรตกเป็นของปราบไตรจักรแล้วเลยนอนร้องไห้ ว่าแต่เมื่อกี้ยังแตะตัวไม่ได้อยู่นี่หว่า) 8)
ที่ไหนได้ นางน้อยใจพระสวามีหมาดๆ ‘เราทำผิดสิ่งใด เจ้าพี่ปราบไตรจักรถึงได้ไม่อยมแตะต้องตัวเรา’ แล้วก็นอนสะอึกสะอื้นอย่างบอบบาง
ปราบไตรจักรเห็นก็อยากจะแตะตัวแต่ก็กลัวความร้อน อัปสรสวรรค์รู้ตัวก็รีบชักมือกลับ หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งร้องไห้






ปราบไตรจักรรีบลุกตามถามว่าเป็นอะไร อัปสนตัดสินใจพูด “เจ้าพี่! น้องทำผิดหรือว่ามีสิ่งใดน่าเกลียดน่าชังนักหรือเพคะ”
“อัปสรเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่พี่เคยพบมา” หญิงสาวไม่เข้าใจ







“ทำไมพี่ไม่แตะต้องตัวน้องใช่มั้ย” ปราบไตรจักรถามอย่างเตรียมหาเหตุผลไว้แล้ว อัปสรหลบตาไม่กล้ารับเพราะเหมือนกับตนเองเป็นผู้หญิงที่เรียกร้องผู้ชาย
ปราบไตรจักรจะเชยคางนางด้วยความเสน่หา แต่ก็ไม่กล้ายิ่งทำให้อัปสรสวรรค์คลางแคลงใจ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:22:57 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #224 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 01:01:23 AM »
ปราบไตรจักรอึกอัก “เอ่อ...คือ...พี่ต้องบอกความจริงกับอัปสรแล้ว” อัปสรถามว่าอะไร “อ๋อ ก่อนเดินทางมาเนี่ย พี่ต้องฝึกพระเวทย์อย่างหนัก โดยมีข้อแม้ว่าต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง”
พูดพลางลุกขึ้นมาเดินอ้อมเตียงเพื่อให้เข้ากล้อง “ไม่เช่นนั้นพี่อาจถึงตายได้” ข้ออ้างก็สมเหตุสมผลดี
“ตายจริง!” อัปสรสวรรค์ลุกขึ้นมากุมมือพระสวามี เพียงแค่สัมผัสนิดเดียวก็ร้อนราวกับถูกไฟผลาญ







ปราบไตรจักรตกใจสะบัดออกด้วยความเจ็บปวด อัปสรสวรรค์หน้าเสีย “อัปสรไม่ได้ตั้งใจเพคะ อัปสรเสียใจ”
แขนที่ถูกอัปสรสวรรค์จับเป็นรอยแดงอย่างเห็นได้ชัด “ที่ทำให้เจ้าพี่ทรงบาดเจ็บ Y_Y”






ปราบไตรจักรบอกไม่เป็นไรไปนอนเถอะ อัปสรสวรรค์จะถามว่าจะไปไหน “พี่จะออกไปรับลมข้างนอก”
มองอัปสรสวรรค์อย่างไม่อาจปิดบังความกังวลใจเอาไว้ได้ ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวมองตามด้วยความเศร้าเสียใจและไม่เข้าใจเท่าไรนัก






โชตะนาต้องเล่นละครเป็นน้องของหลานตัวเอง ได้รับการต้อนรับอย่างดีหรอก แต่เบื่อ...หิว...หงุดหงิด...อิจฉา...(มีไรอีกมั้ย เจ๊)
“สองคนนั่นน่ะ สบายไปแล้วเหลือแต่เรา ว้าเหว่เอกาอยู่คนเดียว” ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพวกทหารก็ยิ้มอย่างกระหาย ก่อนจะหายตัวออกไปจากตำหนัก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 10, 2011, 11:24:15 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**