ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #300 เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 08:26:55 PM »
แล้วก็ย้อนความสาเหตุที่ว่าทำไมถึงรู้ เนื่องจากโคธรรพ์เป็นหนึ่งในบริวารของขันธมาร จึงได้รับแจ้งข่าวเพื่อเตรียมการทำงานใหญ่
  “เวลานี้องค์พระสยมภูวญาณเสด็จลงมายังโลกมนุษย์”
“จะเกิดกลียุคหรือพระเจ้าค่ะ”
  “แน่นอน! แล้วผู้ที่จะทำให้เกิดก็คือ...ข้า!!...แล้วก็เจ้า พระองค์เสด็จลงมาด้วยร่างของมนุษย์ธรรมดาหาได้มีอิทธิฤทธิ์อันยิ่งใหญ่เหมือนเดิม โคธรรพ์ ถึงเวลาแล้วที่เจ้ากับข้าจะได้ครองสวรรค์แล้วก็โลก เจ้าจงออกตามหาพระสยมภูวญาณในร่างมนุษย์ แล้วฆ่าซะ จากนั้นทุกอย่างก็จะเป็นของเรา”
โคธรรพ์ไตร่ตรองแล้วรับปากทำหน้าที่นี้อย่างเต็มใจ
  “ข้ารู้! เพราะข้าเป็นผู้ที่ชุบเจ้าจากโคให้เป็นมนุษย์ เจ้าต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”






โคธรรพ์เล่าแล้วก็หัวเราะก้อง สามศรียิ้มร้ายๆ “เสด็จพ่อพระเจ้าค่ะ ลูกเข้าใจทุกอย่างแล้ว เราต้องตามหาพระสยมภูวญาณให้พบ”
โคธรรพ์ตบบ่าลูกชายอย่างภาคภูมิใจ ทัศนีย์ร่วมด้วยช่วยกัน “ส่วนแม่ลูก 2 คนนั้นหม่อมฉันจะจัดการเองเพคะ” โคธรรพ์ปลาบปลื้มทั้งเมียทั้งลูกที่ร่วมมือกันดีเพื่อแผนการอันยิ่งใหญ่
(พี่ลูกศรหุ่นดีมากกกกก)






ลักษณากับทุมมาได้รับการต้อนรับอย่างดี เมื่อนางไม่กินเนื้อสัตว์ คุณท้าวทั้งสองก็จะหาส้มสูกลูกไม้มาให้ แต่ลักษณาก็ไม่ได้พอใจอะไร เบื่อหน่ายอยากไปจากที่นี่เร็วๆ พอดีทัศนีย์เดินเข้ามาถามไถ่ เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย ก่อนจะเข้าเรื่อง “เรามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจ้า”






ทัศนีย์เริ่มแผนการเกลี้ยกล่อมโดยเอาเรื่องสามีมาอ้าง “เชื่อเราเถอะ อย่าไปหวังพึ่งผู้ชายที่อยู่ด้วยกันไม่เท่าไหร่เลย เจ้าน่ะควรจะหาอนาคตที่ดีที่สุดให้กับลูกดีกว่านะ”
“แต่พ่อทุมมาไม่ได้ทิ้งข้าไป เค้ามีความจำเป็นบางอย่างเท่านั้น” ลักษณาแย้งอย่างเชื่อมั่น ก่อนที่ฟ้าจะร้องคำรามเข้าสู่วรรษสันตฤดู
“ข้ามั่นใจ! ข้ามั่นใจว่าวันนี้เค้าจะกลับมาหาข้า” ลักษณายืนยันด้วยความดีใจ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:44:10 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #301 เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 08:38:40 PM »
“ถ้าเจ้ากับทุมมาตัดสินใจอยู่กับเรา เราจะช่วยตามหา” ลักษณาไม่ตอบแต่ครุ่นคิด “และเมื่อตามหาพบแล้ว เราก็จะได้ทำงานใหญ่ด้วยกัน”
“งานอะไร”
“สร้างอำนาจไง เราจะสร้างอำนาจและความยิ่งใหญ่ชนิดที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้” ลักษณาคิดตามคำพูดของทัศนีย์ ซึ่งเป็นความทะเยนทะยานที่น่าสนใจ






“ทุมมาแล้วแต่แม่จ้ะ จะไปก็ไป จะอยู่ก็อยู่”
“ถ้าอย่างนั้น เราจะอยู่ที่นี่จ้ะ” สุดท้ายนางก็เปลี่ยนความคิด ทำเอาลูกงง “บางทีเราต้องลองเสี่ยงดูนะ ทุมมา ถ้าเกิดพวกเค้าทำสำเร็จ แม่จะให้พวกเค้าแยกตัวพ่อของลูกออกมาจากร่างนั้น”
“แม่เล่าเรื่องของพ่อให้เค้าฟังเหรอจ้ะ”
“เปล่าหรอกลูก ทุมมา แม่จะดูว่ามันเป็นไปได้มั้ย ลูกก็เหมือนกัน อย่าเผลอเล่าเรื่องของพ่อให้พวกเค้าฟังหมดล่ะ”
ทุมมารับปากแล้วเดินไปกอดแม่ไว้






เอย...ครั้นได้ฤกษ์ชุบน้ำอมฤต
อันศักดิ์สิทธิ์ในบ่อก่ออาสา
ให้สามศรีคงทนต่อศาสตรา
ต้องกายาอย่างใดไม่ระคาย
เพื่อก่อเหตุเภทภัยให้เลื่อนลั่น
สะท้านสะเทือนถึงสวรรค์อันมั่นหมาย
ให้ฟ้าพลิกแผ่นดินสิ้นมลาย
ดั่งเจ้านายขันธมารที่บัญชา







ฝ่ายพระพิรุณแวะพักอยู่ที่นครโรมวิสัยก็มีงานอดิเรกอันแสนจะเป็นประโยชน์ จนงั่งยังยังค่อนแคะว่าเป็นพระโอรสดีๆ ไม่ชอบ ชอบมาเป็นคนสวน (เสื้อผ้าท่าทางขุดดินให้มากขอบอก ไปเตรียมอุปกรณ์มาจากไหนน่ะ) งั่งบ่นๆๆ ไม่เข้าใจจะทำอย่างนี้ทำไม
“อยู่เฉยๆ เถอะงั่ง~!” โดนสั่งคำเดียวหุบปากถอยกรูดเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:46:09 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #302 เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 10:01:52 PM »
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2011, 10:02:34 PM โดย กันย์ณภัทร »

ออฟไลน์ มณีจันทร์

  • **
  • 536
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • If you're my destiny I will meet you (may be !!!)
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #303 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 08:25:01 PM »
ติดเรื่องนี้มากคะ...ตอนนี้เมย์กำลังฝึกงานอยู่ ตอนเย็นต้องกลับมาเปิดช่องจ๊ะทิงจาดูทุกวันคะ
เหมือนเป็นการเติมพลังในแต่วันที่ต้องไปฝึกงานเลยคะ พระราหูกับสุวรรณอัมพรน่ารักมากมายคะ
เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันนะคะ ว่าชอบละครจักรๆวงศ์ๆ ที่พี่แย้มแสดงหลายเรื่องเหมือกกันคะ...
 
 :-*

ออฟไลน์ augustle

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • iNUTTi
    • มาย ทวิต^^
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #304 เมื่อ: มีนาคม 28, 2011, 06:30:23 PM »






พี่บอยหล่อมากกกกกกก(ใจละลายเลย :o)
พี่ลูกศรก้อหุ่นดี(อิจฉา >:D)

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #305 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 06:50:18 PM »
แต่ไม่ทันไรก็รี่เข้ามาอีก “ที่งั่งบอกไปพระโอรสสนรึเปล่า...พระธิดาสุวรรณอัมพรน่ะช่างสวยเลิศศศศศเลอ...เอางี้มะ งั่งจะพาไปให้ยลโฉม”
“งั่ง! ถ้าพูดอีกโดนดีแน่ๆ”
“ก็งั่งจะพูดอ่ะ ทำไมเล่า” จะเชียร์เต็มที่ การสนทนาหยุดลงเพราะเสียงหัวเราะซิกซี้ดังมา พิรุณหันไปมองแล้วก็รีบไล่งั่งให้หลบๆ ไปก่อน งั่งว่าเห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้เลย กะฮุบไว้คนเดียวเหรอไม่ยอมๆๆ พิรุณรำคาญใช้ไม้ตายท่องคาถาเด็กจู้จี้ งั่งเลยยอมหลบไปอย่างเคืองๆ






แล้วตัวเองก็ปั้นท่าสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยมขุดดินเฉยเมื่ออัปสรสวรรค์และพวกนางกำนัลเดินมาชมอุทยาน พิรุณเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วก็ตะลึงงันเมื่อได้พินิจใกล้ๆ ว่างดงามเพียงใด






อัปสรสวรรค์มองเห็นคนสวนแล้วก็เลยผ่านไปเหมือนจะไม่สนใจอะไร แต่ก็อดไม่ได้ต้องหันกลับมามองอย่างแปลกใจ (อย่างแรกที่ต้องแปลกใจคือคนสวนอะไรหน้าตาดีอย่างนี้ ( ≧з<) )







หันมองแล้วมองอีก สุดท้ายก็ต้องถามนางกำนัล “สมใจ คนสวนคนนี้ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ”
สมใจหันไปทางคนสวนหน้าหล่อแล้วก็ชี้หน้าตวาด “นี่เจ้า! ก้มหน้าลงเดี๋ยวนี้นะ!” รีบก้มหลบวูบทันที “ไม่เคยมีใครสั่งใครสอนเหรอว่าห้ามจ้องมองพระธิดาน่ะ!”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:46:45 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #306 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 07:09:56 PM »
“ทำไมล่ะ” พิรุณที่กำลังเป็นคนสวนพาร์ทไทม์ถามกลับอย่างไม่เก็ต “โอ๊ย ยังจะมีหน้ามาถามอีก เจ้าก็จะได้โดนตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรยังไงล่ะ”
“เรามันตัวคนเดียวจะให้เอาโคตรที่ไหนไปตัดหัวล่ะ” ย้อนหน้าซื่อตาใส 555+ ทำเอาสมใจกรี๊ดอย่างขัดใจหันไปอ้อนฟ้องอัปสรสวรรค์






“เอะอะอะไรกัน เค้าเป็นแค่คนสวนน่ะ เค้าจะไปรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีในวังได้ยังไง พวกเจ้าอยากไปขู่เค้าก่อน” พิรุณมองหญิงสาวที่งดงามทั้งกายทั้งใจอย่างสุดซึ้ง (แต่พี่อ้อมใส่สไบสีนี้แล้วสวยเลิศจริงๆ) อัปสรสวรรค์กำลังจะเดินต่อไปแต่แล้วก็ต้องชะงัก
“พระธิดา!!” พิรุณเรียกซะดังเชียว






สมใจกรี๊ดกร๊าดไม่พอใจที่คนสวนต่ำต้อยบังอาจมาเรียกพระธิดา แต่อัปสรสวรรค์กลับไม่ถือตัวซ้ำยังเดินเข้าไปคุยด้วยอย่างมีเมตตา
“เจ้าเรียกเราเหรอ”
“พระเจ้าค่ะ” ตอบเสียงหวานก่อนจะเอาช่อดอกเบญจมาศขาว (มั้ง) ที่ซ่อนเอาไว้ข้างหลัง (ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้) ออกมา ยืนขึ้นเต็มความสูงมอบให้ถึงมือหญิงสาว






“ขอบใจมาก” นางรับมาอย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์ ก่อนจะหันหลังเดินไปทางอื่น โดยมีพิรุณมองตามไปอย่างประทับใจ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:48:01 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #307 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 08:04:30 PM »
เบญจมาศขาวช่อนั้นเป็นที่โปรดปรานของอัปสรสวรรค์จนนางกำนัลหมั่นไส้ไปถึงคนให้ พอจรดปลายนาสิกลงดมกลิ่นหอม สมจิตก็รีบห้าม
“อุ๊ย อย่าดมนะเพคะ เผื่อเจ้าคนสวนต่ำช้านั่นอาจจะใส่ยาพิษอะไรลงไปก็ได้นะเพคะ”
“ทางที่ดีหม่อมฉันว่าทรงโยนทิ้งไปเถอะเพคะ” สมใจเสริม






อัปสรสวรรค์ฟังแล้วนึกอยากแกล้งเลยเอาดอกไม้ในมือไปแยงจมูกสองนางพี่เลี้ยงที่ถอยหนี อัปสรชอบใจ “เห็นมั้ยล่ะ ถ้ามียาพิษจริงน่ะนะ เจ้า 2 คนน่ะตายไปแล้ว”






“เจ้าคนสวนนั่นช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลยนะเพคะ”
“สมจิต!” อัปสรปรามอย่างไม่พอใจ “เจ้าพูดอย่างนั้นนะก็หมายความว่าเจ้าดูถูกเราด้วย”
สมจิตปฏิเสธเสียงอ่อยอย่างไม่ได้คิด “ถ้าอย่างนั้นก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว แล้วเจ้าสองคนออกไปด้วย”
ทั้งสองจำต้องออกไปปล่อยให้อัปสรสวรรค์ชื่นชมโสมนัส (อย่างไม่มีสาเหตุ) กับช่อเบญจมาศต่อไปเพียงลำพัง






ฝ่ายคนสวนพาร์ทไทม์ก็อู้งานมานั่งฝันหวานถึงหน้าสวยๆ ของพระธิดาคนงาม กำลังหวานๆ งั่งก็กระโจนเข้ามาทำลายความสุขตื่นจากฝันทันที
“พระโอรส! เป็นอะไรไปอีกล่ะ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:49:52 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #308 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 08:07:56 PM »
“ไหนลองเล่าเรื่องพระธิดาอัปสรสวรรค์ให้เราฟังอีกทีสิ”
“ฮะ??!! พระธิดาอัปสรสวรรค์น่ะเหรอ” งั่งงง & มึน ไหงผิดฝาผิดตัว “ฮั่นแน่ หมายความว่าไปหลงเสน่ห์นางเข้าแล้วล่ะสิ อย่าไปยุ่งกับนางเชียวนะ นางน่ะเป็นเมียยักษ์...ถ้าจะยุ่งล่ะก็ ยุ่งกับพระธิดาสุวรรณอัมพรดีกว่า” (แล้วสุวรรณอัมพรมิได้เป็นเมียยักษ์รึ?)
“เจ้าจะยุให้พี่น้องเค้าแตกแยกกันหรือไง เล่าเรื่องพระธิดาให้ฟังสิ เอาแต่เรื่องจริงนะไม่ต้องต่อเติมเสริมแต่ง”
“สุดแล้วแต่พระโอรสจะแยกแยะแล้วกันว่าอันไหนน้ำ อันไหนเนื้อ” แล้วก็เริ่มเล่าๆๆๆๆๆ ฉายทุกบททุกตอนที่ผ่านมาให้พิรุณฟัง





ชื่นชมดอกเบญจมาศอยู่ได้ไม่นาน อัปสรสวรรค์ก็กลับมาเศร้าสร้อยอีก เมื่อระลึกถึงพระสวามี (แต่ในนาม) ที่จากไป
“เจ้าพี่ ไม่รู้ป่านนี้เสด็จไปถึงไหนแล้ว”






ฝ่ายพิรุณได้ฟังเรื่องราวอันอาภัพของอัปสรสวรรค์ก็แสนสงสาร “น่าเสียดายทั้งสาวทั้งสวยอย่างนั้นแต่ต้องตกเป็นเมียยักษ์”
“อะไรก็ไม่ว่าแต่ถูกยักษ์มาหลอกนี่สิ คิดว่าจะได้เทพบุตรสุดสง่า แต่กลับกลายเป็นยักษ์ร้าย”
“เราต้องหาวิธีบอกนาง” เริ่มปรารถนาดีโดยหวังผลล่ะ






“ฮึ้ยย งั่งว่านะอย่าไปยุ่งกับนางเลยดีกว่า ถึงบอกไปนางก็ไม่เชื่อหรอก...สู้พระธิดาสุวรรณอัมพรก็ไม่ได้ฉลาดกว่าพระธิดาอัปสรสวรรค์ตั้งเยอะ งั่งรับรองได้เลยนะว่ายักษ์ราหู....”
“เก้าอี้ จู้จี้.......” งั่งโวยวายจนพิรุณยอมหยุดท่อง “ถ้าเจ้ายังขืนยุให้รำตำให้รั่วอีกล่ะก็ ได้ตายแน่ๆ”
“ก็...เค้าหวังดีอ่ะ” ทำตาเล็กตาน้อย
“เจ้าเนี่ยนะ ไม่เคยหวังดีกับใครหรอก เราน่ะอ่านเจ้าออกเหมือนอ่านพระเวทย์!” งั่งเลยเถียงไม่ออก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:50:19 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ ปากกาเวทมนตร์

  • รักการอ่าน รักเสียงเพลง
  • **
  • 1161
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • เฟซบุ๊คของเราเอง
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #309 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 08:11:27 PM »
อัปสรสวรรค์สวยมาก  สามศรีกับพระพิรุณก็ล๊อหล่อ  :icon_evil:

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #310 เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 08:12:10 PM »
องค์อิศราผ่าฟืนใช้ชีวิตตามประสาชาวบ้าน มาตุลีก็เกะกะน่ารำคาญตามเดิม มาตุลีก็ไปจับปลา พอควักออกมาจากข้องก็มีแต่ลูกปลาทั้งนั้นแล้วจะกินยังไงล่ะ มาตุลีบอกพ่อปลาแม่ปลามันหนีไปหมดนี่






งั่งโผล่มาจากไหนไม่รู้หัวเราะจนงอหงาย แล้วก็ทะเลาะถากถางกันไปมา องค์อิศรากับพิรุณต้องมาลากแยกออกจากกัน พิรุณขู่จะให้ฟังคาถาเด็กจู้จี้ งั่งชะงักกึกทันที แต่ยังไม่วายฝากอาฆาตกัน
“งั่ง! ไปจับปลามา”
“อะไรนะ งั่งเหรอ” สุดท้ายก็ต้องยอมไปจับปลา






“มาตุ เอาลูกปลาไปปล่อย!” โอ๊ยย มันไม่ตายหมดแล้วเหรอเพคะ
มาตุหน้าเหวอกับคำสั่ง แล้วก็ต้องทำตามนั้น พิรุณเดินเลี่ยงไปอีกทาง องค์อิศราเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามไป






สองหนุ่มมาเดินชมทุ่งนาเขียวขจี บรรยากาศสดชื่น พระพิรุณหันกลับมาขอคำปรึกษาตรงๆ “ถ้าท่านรู้สึกติดใจผู้หญิงซักคนนึง ท่านจะทำยังไง”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:51:30 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #311 เมื่อ: มีนาคม 31, 2011, 02:23:23 PM »
“ก็บอกให้นางรู้สิ” ไม่เห็นจะยากเลย
“แล้วท่านเคยคิดชอบใครแล้วรึยัง” ก็น้องสาวตัวไง
องค์อิศราหัวเราะ “มันก็มีบ้าง...ท่านล่ะ?”
“ไม่...เรายังไม่มีใคร” ตอบได้เต็มปากเต็มคำไม่นึกถึงนางไม้ที่เค้าเฝ้าติดตามเลยนะ
“ถ้าคู่กันแล้วน่ะนะ มันก็คงไม่แคล้วกันหรอก” รับสั่งให้ความหวังแล้วก็เดินจากไป




 

ฝ่ายพวกยักษ์ที่ออกเดินทางจากนครโรมวิสัยก็อาศัยจับมนุษย์ทหารที่มาอารักขากินเป็นอาหาร






แล้วก็เก็บไปเป็นเสบียงเผื่อจักรวรรดิที่ยังบาดเจ็บอยู่ แต่จักรวรรดิกินไม่ลงเพราะปวดแผล ปราบไจตรจักรบอกต้องเสวยให้มีแรง อีกไกลกว่าจะถึงเมือง
“นึกไม่ถึงเลยว่าอาวุธของมันจะร้ายแรงขนาดนี้”
ปราบไตรจักรยื่นเนื้อสดมาให้ โชตะนาก็คะยั้นคะยอด้วยความเป็นห่วง จักรวรรดิจึงยอมคว้าเนื้อแดงๆ ชุ่มเลือดมากัดเคี้ยวๆๆ






ฝ่ายดวงดาราก็นอนกระสับกระส่ายคิดถึงพระสวามี ผุดลุกผุดนั่ง (เมื่อก่อนเตียงนอนสวยกว่านี้อ่ะ มีม่านมุ้งด้วย ทำไมช่วงนี้ไม่มีเลย) นอนไม่หลับเลยต้องเรียกนางแช่มนางช้อยเข้ามาปรับทุกข์
นางแช่มบอกมีหทารไปถวายอารักขาตั้งหลายคนอย่าห่วงเลย แต่นางช้อยก็ขัดว่าในป่ามีอันตรายตั้งเยอะ เถียงกันไปเถียงกันมาจนดวงดาราเซ็ง พวกนางกำนัลเลยต้องนวดถวายคลายกลุ้ม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:53:11 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #312 เมื่อ: มีนาคม 31, 2011, 03:25:15 PM »
จักรวรรดิกินจนอิ่ม ปราบไตรจักรจึงเร่งให้ออกเดินทางต่อ ไม่มีทหารแล้วค่อยสะดวกหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นหลานปราบไตรจักรพาเสด็จพ่อกลับไปก่อนแล้วกัน”
“แล้วเสด็จอาล่ะ”
“เวลานี้ทุกคนที่โรมวิสัยคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับบ้านกลับเมือง แต่อาน่ะจะย้อนกลับไปลักพาตัวยักษ์ราหู” พูดสีหน้าฝันหวานเชียว คิดว่ามันจะง่ายขนาดโปะยาสลบแล้วอุ้มพาดบ่าเหรอ






“อย่านะโชตะนา อย่าก่อเรื่องอีกเป็นอันขาดพี่ขอร้อง” จักรวรรดิรีบห้าม
“หลานไม่ชอบหน้ามันพระเจ้าค่ะ”
“หลานไม่ชอบ แต่อารักเข้าไปแล้วนี่ จะให้ทำยังไงล่ะ” อายุก็ปาเข้าไปหลายพันหลายหมื่นปี พูดซะเหมือนสาวอายุ 16
“เสด็จอา...” จักรวรรดิขี้เกียจจะห้าม “ปล่อยอาเค้าไปเถอะ รีบพาพ่อกลับเมืองดีกว่า”






ทั้งสามเลยแยกกันตรงนั้น ปราบไตรจักรประคองจักรวรรดิเหาะกลับเมือง ส่วนโชตะนาก็แปลงเป็นยักษ์กลับไปยังโรมวิสัย






ที่กระท่อมปลายนา สุวรรณอัมพรกำลังนอนหลับอยู่แผ่นดินก็สะเทือนเลื่อนลั่น งั่งที่นอนอยู่บนแคร่ข้างนอกก็กลิ้งตกมาเหมือนกัน หันซ้ายหันขวาเกิดไรขึ้น สุวรรณอัมพรรีบลุกออกไปดู

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:53:40 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #313 เมื่อ: มีนาคม 31, 2011, 03:30:22 PM »
แต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็ต้องตกตะลึง กรีดร้อง “อ๊า!!  ยักษ์!!”






แรงสะเทือนไหวหนักไปถึงกระท่อมขององค์อิศราที่อยู่ไม่ไกลกันนัก มาตุลีว่าเป็นพวกยักษ์แน่ๆ เลย พระพิรุณจะออกไปดู แต่มาตุลียังเมาขี้ตาห้ามไว้อยากโชว์ออฟ คุยโวว่าเคยปราบมานักต่อนักแล้ว แม้องค์อิศราจะห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง ทรงรำคาญเลยไล่ส่งซะเลย






“มาตุพูดเหมือนกับว่าเคยปราบยักษ์มานับไม่ถ้วน” พิรุณหันมาพูดกับองค์อิศราเป็นเชิงถาม
“แต่ว่าถ้าท่านจะออกไปช่วยด้วยก็จะดีไม่น้อยนะ”
พิรุณพยักหน้ารับแล้วเดินตามออกไปโดยไม่ถามอะไร องค์อิศราได้แต่บ่น “หาเรื่องจริงๆ เล้ย มาตุลี”






สุวรรณอัมพรถูกนางยักษ์ตัณหากลับไล่ต้อนทวงถามหาสามีตัวเอง หนีไปไหนไม่ได้
“ราหูอยู่ไหน!!”
“เราไม่รู้!”
“โกหก!! ตายซะเถอะ” สุวรรณอัมพรกรีดร้องอย่างหวาดกลัว สู้อะไรก็ไม่ได้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:55:44 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #314 เมื่อ: มีนาคม 31, 2011, 03:40:48 PM »
นางยักษ์เงื้อเท้าขึ้นจะเหยียบกระท่อม งั่งอาสาเป็นหน่วยกล้าตาย บินไปจิ้มเท้าโชตะนา แล้วตกลงมา โชตะนาเลยหันมาเล่นงานงั่งก่อน หิ้วกระด้งขึ้นมากะชำระแค้น งั่งเล่นลิ้นเอาตัวรอดบอกว่าถูกบังคับ






โชตะนาไม่หลงเชื่อง่ายๆ งั่งเลยเสนอจะบอกให้ว่ายักษ์ราหูอยู่ไหน ฝ่ายมาตุลีแอบย่องเข้ามาแล้วกระหน่ำฟันๆๆๆ มือนางยักษ์ไม่ยั้ง โชตะนาหันมามองเหมือนมองแมลงวัน ก่อนจะตบพื้นอย่างรำคาญ คิดว่ายุงซะอีก สุวรรณอัมพรเฝ้ามองอย่างลุ้นระทึกหวาดหวั่น






มาตุลียังไม่ประมาณตนพยายามจะปล่อยพลัง แต่มันมีที่ไหนกันเล่า เกือบจะโดนจับกินทั้งงั่งทั้งมาตุลี พอดีกับที่พระพิรุณมาถึงพอดี สุวรรณอัมพรมองชายแปลกหน้าอย่างประหลาดใจ






องค์อิศราเฝ้ารอฟังเหตุการณ์แต่ก็เงียบกันไปหมดจึงออกไปตาม
ฝ่ายพิรุณเสกพระขรรค์ออกมาจัดการกับนางยักษ์ร้ายให้ปล่อยงั่งกับมาตุลีตกลงมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 10:56:17 AM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**