ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #360 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 01:11:02 PM »
สวัสดีทุกคนค่า   :(
ขอโทษด้วยที่หายไปนาน  ติดสงกรานต์แล้วก็ไม่มีอารมณ์ มัวไปเห่อซาโตมิอยู่  แล้วหลังจากนั้นก็งานวุ่นมากมาย
กาฬได้ดูเทพสามในช่องจ๊ะทิงจาอยู่ 2-3 วันเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ค่อยเจอฉากสามศรีเลย



หายไป ยังคงไม่กลับมา
รู้สึกว่าวันนี้คนเล่าคงเหนื่อยสุดๆ กับอีกหนึ่งวันสำคัญในชีวติ....แสดงความยินดีด้วยจ้า :)

ขอบคุณพี่ Viki มากๆ ค่า :icon_question:
เหนื่อยจริงๆ แต่พอได้มาแล้วก็หายเหนื่อยนะคะ
เพิ่งเข้าใจก็ตอนนั้นเอง





พิรุณและทหารติดตามทั้งสองมารอเข้าเฝ้ายังท้องพระโรง เมื่อท้าวคันธมาศเสด็จมาก็เคารพด้วยกริยานอบน้อม
ท้าวคันธมาศพินิจชายหนุ่ม “เจ้ามาจากนครอุดมเหรอ”
“พระเจ้าค่ะ นครของหม่อมฉันอยู่ไกลไปทางทิศอุดร”
“คงจะไกลมากสินะ เพราะเราไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย” ไม่ไกลหรอกเพคะ นั่ง ฮ.แป๊บเดียวก็ถึง
“หม่อมฉันกราบทูลขอประทานอนุญาตเสด็จพ่อเสด็จแม่เพื่อออกท่องเที่ยวไปยังโลกกว้าง พอดีหม่อมฉันผ่านมาทางนี้เลยมาขอเข้าเฝ้าเพื่อเป็นสิริมงคลพระเจ้าค่ะ” อย่าๆ อย่ามาพูด แอบย่องเข้าห้องลูกสาวเค้าแล้วเพิ่งจะมาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ





ท้าวคันธมาศรู้สึกถูกชะตาจึงอนุญาต “เจ้าอยากจะอยู่ซักกี่วันก็ตามใจนะ เดี๋ยวลุงจะให้เค้าจัดตำหนักรับรองให้”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าค่ะ” พิรุณลอบสบตากับท่านลุงทั้งสอง เพื่อเริ่มจะเข้าทางผู้ใหญ่





.ฝ่ายมเหสีรัชฏาพอรู้ว่ามีเจ้าชายรูปงามตกสำรวจจากตอนเลือกคู่มาเยือนก็ตื่นเต้นยินดี ยิ่งนางกำนัลสมใจการันตีว่ารูปงามมากกกกกก
“น่าเสียดายนะเพคะที่พระธิดาสุวรรณอัมพรอภิเษกไปแล้ว” คุณท้าวเทพทองเปรย
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอก แต่ยังไงนะเราก็ต้องดูก่อนว่าเจ้าชายที่ว่าเนี่ยมีคุณสมบัติเพียบพร้อมรึเปล่าแต่ถ้าจริง เราก็จับสุวรรณอัมพรเนี่ยใส่ตระกร้าล้างน้ำได้ใหม่นี่นา”
“แล้วพระธิดาจะทรงยอมเหรอเพคะ”
“ถ้าเราทุกคนร่วมมือกันมีหรือจะพลาด (แหม ไม่รู้จักลูกสาวตัวเองซะแล้ว) แต่เราก็ต้องดูให้แน่ก่อนว่าเจ้าชายพิรุณที่เจ้าว่าเนี่ย เป็นของแท้หรือว่าของเทียม”
สมใจยืนยันอีกครั้งว่าของแท้แน่นอน มเหสีรัชฏายิ้มอย่างหมายมั่น





พิรุณเข้าเฝ้าให้พระมเหสีดูตัว มเหสีรัชฏาเห็นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถูกใจ แต่ท่าทางคุณท้าวเทพทองจะถูกใจยิ่งกว่า
“ต๊ายยย ใช่เลยเพคะพระมเหสี!!” รัชฏาขึงตาปราม ที่ออกนอกหน้าเกิน เดี๋ยวจะพาลให้ไก่ตื่น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:48:20 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #361 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 01:16:46 PM »
พิรุณพาซื่อถาม “ใช่อะไรหรือจ๊ะ คุณท้าว”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ คือว่าป้าได้ข่าวมาว่าหลานจะมาท่องเที่ยวผจญภัยทั่วโลกเลยใช่มั้ยจ๊ะ” พวกคุณท้าวนางกำนัลนั่งยิ้มบิดกระบวนไปตามๆ กัน
“พระเจ้าค่ะ แต่น่าเสียดายที่หม่อมฉันมาไม่ทันพิธีเลือกคู่ของพระธิดาทั้งสอง”





“อู๊ยย  ทันจ้า” – พระมเหสี
“ทันเพค้า” – คุณท้าว
รีบออกตัวกันใหญ่กลัวเค้าจะชิ่ง พิรุณชักงงๆ
“คืออย่างนี้ ป้าเนี่ยมีลูกสาวอยู่สองคนจ้า” – พระมเหสี
“งามมากกกก ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันด้วยเพคะ” – คุณท้าว
“อัปสรสวรรค์เนี่ย เป็นลูกสาวคนเล็กได้สามีที่เหมาะสมคู่ควรกันราวกับกิ่งทองใบหยกแน่ะ” – พระมเหสีเยินยอ สุระผัดกับนันทะเสนแอบกระแอมกันอย่างหมั่นไส้ (มั้ง)






“อะไรติดคอเหรอจ๊ะพี่” สมใจถามอ่อย ทั้งสองรีบบอกว่าเปล่า
“ทีนี้ก็เหลือแต่สุวรรณอัมพร ลูกสาวป้าคนนี้ช่างเลือก เลือกเท่าไหร่ๆ ก็ไม่สมกันซักทีนึง”





“นอกจากยักษ์เพคะ” สมจิตยังอุตส่าห์ขยายความเลยโดนคุณท้าวหยิก พิรุณยิ้มรับเริ่มเก็ต แต่พอดีสนคนน้องมากกว่า
“เอ่อคือ นอกจากจะมีมนุษย์มาให้เลือกแล้วยังมียักษ์อีกด้วยเพคะ” พูดไปหารู้ไม่ จุดไต้ตำตอ นินทาพี่ชายเค้าอยู่น่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:48:41 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #362 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 01:24:29 PM »
มเหสีรัชฏายังไม่ทันจะโฆษณาขายลูกสาวต่อ อำมาตย์พิชิตก็เข้ามาบอกว่าองค์เหนือหัวมีรับสั่งให้มากราบทูลพระโอรสพิรุณว่ามีอะไรขาดเหลือมั้ย พิรุณบอกไม่มีอะไรแล้ว แล้วก็ช่วยกราบทูลด้วยว่าสำนึกในพระมหากรุณธิคุณมาก
“อำมาตย์พิชิต ดูแลหลานพิรุณเราให้ดีนะ เจ้าใจมั้ย” แล้วก็มาบอกพิรุณต้องการไร บอกได้เลย พิรุณไหว้ขอบคุณ ต่างฝ่ายต่างยิ้มมีแผน แต่เป็นคนละแผน และคนละคนกัน






“ห้ามทุกๆ คนเอ่ยชื่อถึงยักษ์ราหูให้พระพิรุณได้ยินเด็ดขาด” มเหสีรัชฏาสั่งขณะนั่งเสบี่ยงกลับ
“แล้วยักษ์ราหูกลับมาล่ะเพคะ”
“เราก็หาทางกำจัดซะก่อนสิ คราวนี้นะ สุวรรณอัมพรจะได้พบเนื้อคู่ที่แท้จริงแล้วล่ะ” ผิดคนมั้งเพคะ เสด็จแม่ น่าจะเป็นอัปสรสวรรค์มากกว่า





อัปสรสวรรค์รู้เข้าก็อดท้วงไม่ได้
“เสด็จแม่ มันจะไม่ยุ่งไปใหญ่เหรอเพคะ แล้วพี่อัมพรก็คงไม่ยอมด้วย”
“นี่ อัปสรสวรรค์ อย่ามาคัดค้านทำเหมือนกับว่าลูกเป็นสุวรรณอัมพรซะเองนะ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วนะลูก ที่จะให้พี่เค้ามีคู่ครองที่เหมาะสม”
“แล้วพระโอรสอะไรนั่นน่ะ จะไม่ทรงทราบเชียวหรือเพคะ ว่าพี่อัมพร...”





“นั่นน่ะ เป็นหน้าที่ของแม่เอง” มเหสีรัชฏาดักทุกทางจนอัปสรแย้งไรไม่ได้ “หน้าที่ของลูกน่ะนะจ๊ะ ก็แค่หว่านล้อมพี่เค้า แล้วก็เป็นแม่สื่อให้เค้าทั้งสองคน” (เคยได้ยินมั้ย –แม่สื่อแม่ชักเข้าตัว เอาวัวพันหลัก-)
“ยิ่งตอนนี้ยักษ์ราหูไม่อยู่ ยิ่งเหมาะเลยเพคะ เราทุกคนต้องรีบดำเนินการเพคะ”
“เราว่ามันยังไงก็ไม่รู้นะคุณท้าว”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:49:07 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #363 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 01:27:20 PM »
“ฟังแม่นะ อัปสรสวรรค์ ลูกน่ะมีสามีที่ดีที่สุดแล้ว แล้วลูกไม่นึกถึงพี่เค้าบ้างเหรอลูก ไหนจะพ่อกับแม่อีกล่ะจ๊ะที่ต้องอับอายขายหน้าที่พี่ของลูกได้ยักษ์มาเป็นคู่ครอง ลูกไม่คิดจะช่วยพ่อกับแม่เหรอจ๊ะ แล้วลูกคิดว่าพี่เค้ามีความสุขอยู่ในสภาพอย่างนั้นเหรอลูก”
อัปสรสวรรค์หน้าเครียดก่อนจะต้องไปหว่านล้อมพี่สาวก็โดนเสด็จแม่หว่านล้อมอยู่เนี่ย





อัปสรสวรรค์เลยต้องมาเลียบๆ เคียงๆ ดูอาการของพี่สาวก่อน โดยการหาข้ออ้างมาอ้าง
“นะเพคะพี่อัมพร ไปประทับเป็นเพื่อนน้องซักแป๊บนึง” แต่สุวรรณอัมพรก็แน่วแน่ “พี่ตั้งใจละ ว่าพี่จะไม่ย้อนกลับไปอีก”
“โธ่ พี่อัมพร...”
“อัปสร...นี่เสด็จแม่รับสั่งให้น้องมาตามพี่กลับไปใช่มั้ย” สุวรรณอัมพรหันมาคาดคั้นอย่างรู้ทัน





อัปสรสวรรค์พูดไม่ออกไม่รู้จะแก้ตัวว่ายังไง “พี่รู้นะว่าน้องโกหกใครไม่เป็น”
“โธ่เอ๊ย เสด็จแม่ต้องกริ้วน้องแน่ๆ เลยที่ทำไม่สำเร็จ” อัปสรบ่น ก่อนจะหันมาถามตาใส “พี่อัมพรรับสั่งความจริงกับน้องซักอย่างได้มั้ยเพคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เรามีกันแค่สองคนพี่น้องเอา ถ้าพี่ไม่ไว้ใจอัปสรพี่จะไว้ใจใคร”





อัปสรไหว้ขอบคุณก่อนจะเริ่มถาม “คือ...คือน้องอยากทราบว่า...พี่อัปสร (พี่อ้อมหลุดบทเรียกชื่อตัวเอง) ...เอ่อ...ทรงรักยักษ์ราหูรึเปล่าเพคะ”
พอฟังแล้วที่ยิ้มๆ ก็หุบทันที “หน้าเค้าพี่ยังไม่อยากจะมองเลย!” พูดจาใส่อารมณ์แค้นฝังหุ่นมาก ในขณะที่น้องสาวยิ้มร่าไม่มีเหตุผล

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:49:31 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #364 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2011, 11:51:41 PM »
“ยิ้มอะไร”
“น้องสบายใจเพคะ” ยังยิ้มไม่เลิก
“สบายใจ?” ยิ่งงงหนักเลย
“เพคะ! ถ้างั้นน้องทูลลานะเพคะ” มาเร็วเคลมเร็วไปเร็วจนอัมพรตามไม่ทัน





“เดี๋ยวอัปสร!”  อัปสรสวรรค์หันมายิ้มแป้นลา “แล้วน้องจะกลับมาเฝ้าใหม่เพคะ” แล้วก็เดินออกไปจากกระท่อม ทิ้งให้สุวรรณอัมพรนั่งงงอยู่คนเดียว





มเหสีรัชฏาปลาบปลื้มสุดๆ ที่ลูกสาวคนเล็กยอมร่วมมือด้วย
“ต๊าย อย่างนี้สิลูกเค้าถึงเรียกว่ารักพี่เค้าจริง”
“ทีแรกลูกก็อดตะขิดตะขวงใจไม่ได้เพคะ เพราะว่าพี่อัมพรทรงรักยักษ์ราหู มันก็เป็นบาปที่เราไปพรากพวกเค้าออกจากกัน แต่พอพี่อัมพรรับสั่งว่าไม่ได้รักยักษ์ราหูเลย ลูกก็เลยค่อยสบายใจเพคะ”
แหม น้องอัปสรต้องเรียนรู้อีกเยอะว่าอาการปากไม่ตรงกับใจเป็นยังไง





“แม่บอกแล้วเห็นมั้ยว่าไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกที่จะรักยักษ์จริง ใช่มั้ยลูก...ทีนี้เราก็ต้องพาสุวรรณอัมพรมา ถ้าไม่มาเราก็ต้องพาพระพิรุณไปให้เห็นสิลูก”
“พระพิรุณ?” อัปสรสวรรค์แปลกใจเมื่อได้ยินชื่อคุ้นๆ “จ้ะ ทำไมเหรอลูก?”
อัปสรสวรรค์ทำหน้างง “เปล่าเพคะ ลูกรู้สึกว่าคุ้นๆ กับชื่อนี้”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:54:27 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #365 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2011, 06:51:40 PM »
“แล้วใครจะเป็นคนพาพระพิรุณไปให้พระธิดาสุวรรณอัมพรทอดพระเนตรล่ะเพคะ” คุณท้าวเทพทองถาม
“ก็อัปสรสวรรค์น่ะสิ” ลูกสาวอ้าปากค้าง แย้งไม่ออก “ลูกจะต้องทำทีเป็นว่าพาพระพิรุณไปเที่ยวชมวังให้ทั่วแล้วก็บังเอิญพาไปเจอกับสุวรรณอัมพร แต่ถ้าแม่พาไปเองมันไม่เหมาะสมจ้ะลูก”
วางแผนแนบเนียนมาก แต่หารู้ไม่เหมือนส่งเนื้อเข้าปากจระเข้ชัดๆ เค้าตั้งใจจะงาบลูกสาวคนเล็กอยู่พอดี





คนต้องรับหน้าที่แม่สื่อเริ่มหนักใจ ไหงงานหนักมาตกที่ตนล่ะ
“แต่ว่าลูกยังไม่รู้จักพระพิรุณเลยนะเพคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เรื่องนั้นน่ะแม่จัดการเอง”
มเหสีรัชฏาปลาบปลื้มกับแผนการจับลูกเขยนัก ในขณะที่อัปสรสวรรค์ชักแหย คิดผิดคิดถูกเนี่ยที่รับงานนี้





พิรุณเดินมากับนันทะเสนและสุระผัดที่แปลงเป็นสองทหารคอยติดตาม มาเจอคุณท้าวกับสมใจมาเข้าเฝ้า บอกว่าพระมเหสีให้ไปเข้าเฝ้า (จริงๆ ฉากนี้กะจะเอาแค่ภาพเดียว แต่พี่เจมส์หล่อ เลยจัดไป)





“ท่านทั้งสองไม่ต้องตามมาหรอก พักผ่อนให้สบายเถอะ” พิรุณบอกกับท่านลุงแล้วก็ให้คุณท้าวนำไป สมใจเดินตามหลังหันมาชม้ายชายตาให้สองหนุ่ม
นันทะเสนมองงงๆ สยองๆ ว่าทำหน้าพิลึก สุระผัดแซวว่านางคงชอบเอ็ง แล้วก็เกี่ยงยกให้กันไปมา ไม่อยากได้ 555+

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:54:49 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #366 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2011, 06:59:11 PM »
พิรุณมาเข้าเฝ้าพระมเหสีที่ริมอุทยาน โดยมีอัปสรสวรรค์อยู่ด้วย
“อ้าว มาแล้วเหรอจ๊ะ พิรุณ”
“เสด็จป้าทรงมีพระประสงค์จะใช้อะไรหลานเหรอพระเจ้าค่ะ”
อัปสรสวรรค์ได้ยินเสียงโดยไม่ได้หันไปมองหน้าก็แปลกๆ คุ้นๆ ‘เอ๊ะ เสียงอย่างนี้เคยได้ยินที่ไหนนะ’





แต่แล้วก็ปัดความคิดนั้นออกไปอย่างไม่อยากจะสนใจอะไรมากนัก
“แหม ป้าน่ะเหรอ จะใช้หลาน...คืออย่างนี้จ้ะ ไหนๆ หลานก็ดั้นด้นมาถึงนครโรมวิสัยแล้วเนี่ย ป้าก็อยากจะให้อัปสรสวรรค์ลูกสาวคนเล็กของป้าพาหลานเนี่ยเที่ยวชมวังให้ทั่ว”
(สังเกตสีหน้าพี่เจมส์ตั้งใจฟังมาก ไม่รู้อินตามบทว่ารอคอยโอกาสจิ๊กลูกสาวเค้า หรือว่าแอบท่องบทตัวเองในใจอยู่)





“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันว่าจะกราบทูลขอประทานอนุญาตเที่ยวชมเมืองอยู่พอดี”
“อู๊ย พอดีกันเชียว...อัปสรสวรรค์ รู้จักพี่เค้าสิลูก” นางหันไปบอกลูกสาวคนเล็กที่เลือกชมผ้าไม่สนใจจะหันมาคุย
อัปสรสวรรค์หันมาอย่างไม่คิดอะไร หากเมื่อได้ประสบพบพักตร์พระพิรุณก็ถึงกับอึ้งไป ใบหน้าที่เหมือนคนที่นางเคยพบราวกับพิมพ์เดียวกัน





ในขณะที่อีกคนเหมือนไม่คิดอะไร เหมือนไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน “ได้ข่าวว่าพระสวามีของน้องอัปสรสวรรค์ทั้งรูปงามและมีความเก่งกล้าสามารถ”
อัปสรสวรรค์ยังนั่งอึ้งตั้งสติไม่ทัน มีแต่มเหสีรัชฏาที่ตอบแทน “ใช่จ้ะ อัปสรสวรรค์มีความสุขมากกกเชียวแหละจ้ะ อัปสรสวรรค์...จริงมั้ยลูก”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:55:32 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #367 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 11:42:57 PM »
อัปสรสวรรค์ได้สติพยายามจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พระพิรุณเร่งมา  “เราไปได้รึยัง น้องอัปสรสวรรค์”
หญิงสาวทำอะไรไม่ถูก จนมเหสีรัชฏาเข้ามาประคองให้ลุกขึ้น “ไปสิลูก จะได้พาพี่เค้าเที่ยวชมวังให้ทั่วเลยนะลูก แล้วก็อย่าลืมล่ะพาพี่เค้าไปกระท่อมปลายนาด้วยนะลูกนะ อากาศแถวนั้นน่ะดีเหลือเกิน”





อัปสรสวรรค์มองหน้าพระพิรุณได้ไม่เต็มตา พยายามระงับเสียงไม่ให้สั่น “เชิญเสด็จเพคะ” แล้วก็รีบเดินนำไปแทบจะไม่รอทันที






มเหสีรัชฏามองสองหนุ่มสาวที่เดินไปด้วยกันอย่างมาดหมายไปถึงลูกสาวคนโต
“สุวรรณอัมพร จะต้องชอบพระพิรุณแน่ๆ เชียว...ส่วนพระพิรุณไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุวรรณอัมพรทั้งสาวทั้งสวย มีหรือจะไม่ใจอ่อน”
ลืมไปรึเปล่าเพคะเด็จแม่ ว่าคนน้องก็สวยไม่แพ้กัน





อัปสรสวรรค์ต้องพาแขกมาเดินเล่นอย่างจำใจ
“ธรรมชาติในนตรโรมวิสัยช่างสวยงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ที่พี่เคยผ่านมาเลยนะ” พระพิรุณชวนคุย
“เดี๋ยวพอถึงกระท่อมปลายนาจะยิ่งสวยงามยิ่งกว่านี้อีกเพคะ” คุณท้าวสปอย สมจิตสมใจก็คอยผสมโรง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:56:02 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #368 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 11:46:28 PM »
อัปสรสวรรค์เบื่อจะทน “คุณท้าว ช่วยนำเสด็จพระพิรุณต่อด้วยนะ เรารู้สึกไม่ค่อยสบาย” พูดไปก็เมินพระพิรุณไปทั้งที่เขามองตาหวานละนั่น
คุณท้าวถามอย่างตกใจว่าเป็นอะไร






“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆ ก็รู้สึกวิงเวียนขึ้นมา” อัปสรตอบเผาไปเรื่อย  สมจิตสมใจกระดี๊กระด๊า ใช่แล้ว!!
สมจิต “พระธิดาต้องทรงพระครรภ์แน่ๆ เลยเพคะ”
สมใจ “ใช่แน่ๆ เพคะ” อัปสรสวรรค์อึ้งไป
“ถ้าอย่างนั้นน้องอัปสรสวรรค์ก็ควรกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”





ไม่รออิดออด อัปสรสวรรค์สะบัดหน้าเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์ปนสับสนทันที พิรุณมองตามก่อนจะหันมาบอกคุณท้าวให้ไปดูแลอัปสรเถอะ ตนจะเดินเที่ยวเอง ประมาณไล่ๆ ไปซะจะได้ไม่เกาะจอน่ารำคาญ
“เพคะ...เอ่อ แล้วอย่าทรงลืมแวะกระท่อมปลายนา” ยังอุตส่าห์หยอดทิ้งท้าย





ที่กระท่อมปลายนา...อีกหลังนึง องค์อิศรากับมาตุก็วุ่นวายกับการจุดไฟ จุดเท่าไหร่ก็ไม่ติดซะที ซ้ำองค์อิศรายังบ่นว่าตอนอยู่บนสวรรค์ไม่คิดว่าไฟจะร้อนขนาดนี้ =_=”  ซ้ำยังจุดยากอีกตะหาก -_-;
มาตุลีว่าถ้าพวกมารรู้ว่าพระองค์เสด็จมาใช้ชีวิตธรรมดาในเมืองมนุษย์มันต้องหาทางกำจัดพระองค์แน่ องค์อิศราคิดตาม “มารที่ไหน”
“ก็...ขันธมารแหละตนนึงพระเจ้าค่ะ”
แต่องค์อิศรายังชะล่าพระทัย “โลกใบนี้แสนกว้างใหญ่มีมนุษย์อยู่ตั้งมากมาย ใครจะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน...แต่ก็ขอบใจนะ ที่เจ้าเป็นห่วง”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:56:30 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #369 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 11:54:41 PM »
พอดีเห็นพระพิรุณเดินมา องค์อิศราก็เลยเตือนให้มาตุเลิกพินอบพิเทา แล้วก็ทำตัวตามปกติ
พิรุณเดินมานั่งบนแคร่หน้าเครียด องค์อิศราถามเป็นไงบ้าง “ท่าทางจะไม่สำเร็จ อัปสรสวรรค์อาจจะตั้งครรภ์ ถึงนางจะรู้ว่าปราบไตรจักรเป็นยักษ์ก็คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้” หนักใจเรื่องใหญ่นะเนี่ย
“โอ่ นี่ๆ นางจะตั้งครรภ์ได้ยังไงก็ในเมื่อนาง...” มาตุลีหลุดปากยาวเหยียด แต่ก่อนจะหลุดหมดก็โดนกล้วยยัดปากเสียก่อน





องค์อิศราขึงตาใส่ ในขณะที่พระพิรุณทวงถามด้วยความอยากรู้
“จะพูดอะไรนะ ท่านมาตุ?”
“ก็ๆ...นางเพิ่งจะแต่งงานไง” (อย่างน้อยก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วเน้อ) องค์อิศราสนับสนุน “ใช่ มันเร็วเกินไปนะ”





แล้วก็นั่งลง ‘สอน’ แนวคิดและให้ความหวัง “เคยได้ยินเรื่องบุพเพสันนิวาสรึเปล่า คนเราเมื่อเกิดมาทุกคนน่ะก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าใครจะคู่กับใคร และเมื่อเป็นเนื้อคู่กันแล้ว ถ้าหากเกิดอุปสรรคขวากหนามมากมายแค่ไหน ก็ต้องได้คู่กันอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ”
พระพิรุณยิ้มรับ อย่างน้อยก็มีกำลังใจที่สู้ต่อไป!






อัปสรสวรรค์กลับตำหนักมาครุ่นคิดถึงเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่มีเทวดามาเตือน แล้วยังเจ้าชายต่างเมืองที่บังเอิ๊ญญญ หน้าเหมือนกับเทวดาองค์นั้นไม่มีผิด แล้วก็สรุปได้เอง
“ใช่สิ ต้องใช่คนเดียวกันแน่ๆ เลย...แล้วเค้าต้องการอะไรนะ”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:57:20 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #370 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 11:58:30 PM »
ข่าวเรื่องพระพิรุณล่วงรู้ไปถึงหูดวงดาราให้มีท๊อปปิกใหม่เมาส์กันว่ามเหสีรัชฏาคงจะให้ได้กับสุวรรณอัมพรแน่ๆ ใครจะอยากมีลูกเขยเป็นยักษ์ แถมพระโอรสพิรุณรูปโฉมสง่างามมาก
“หึ งามสง่ายังไงก็สู้เสด็จพี่จักรวรรดิของเราไม่ได้หรอก...เฮ้ออ พูดถึงเสด็จพี่จักรวรรดิแล้วน่าเป็นห่วงเหลือเกิน ป่านนี้ทรงค่อยยังชั่วรึยังก็ไม่รู้ ถึงจะมีอิทธิฤทธิ์ยังไงแต่ก็ไม่ใช่พวกยักษ์ จะมาทนทานอาวุธอะไรได้มากมาย...เฮ้อ ถ้าเสด็จมาคาวนี้ เราจะให้เจ้าพี่พาเราไปอยู่บ้านเมืองของพระองค์ให้หมดเรื่องหมดราว เบื่อ เบื่อที่จะเห็นอะไรแปลกๆ ในบ้านนี้เมืองนี้เต็มทีละ”
แหม ถ้าไปเมืองนั้นจะเจอแปลกกว่านี้เยอะ เจ๊





ทางฝ่ายพวกยักษ์ โชตะนากับปราบไตรจักรก็ล่วงหน้ากลับมายังโรมวิสัยก่อนในขณะที่จักรวรรดิยังรักษาตัวอยู่ แล้วก็หอบหิ้วนางตัวเล็กตัวน้อยมาด้วย นางสองตัวพอเห็นกระดูกมนุษย์ก็รุมแทะตะกรุมตระกรามจนโชตะนารับไม่ได้ เป็นยักษ์แทะกระดูกยังกะหมา ปราบไตรจักรรำคาญไล่ให้ไปจับสัตว์ป่ากิน โชตะนาทนไม่ไหวสั่งให้ทิ้งกระดูกแล้วไล่ไปจับสัตว์กินไกลๆ โชตะนาบ่นที่หลานชายตามใจพวกมัน






“อาอยากจะไปให้ถึงนครโรมวิสัยให้ซะวันนี้เดี๋ยวนี้ไปเลย อาคิดถึงทั้งยักษ์ราหู แล้วก็คิดถึงพวกมนุษย์รูปงามพวกนั้นด้วย”
“ตกลงเสด็จอาโปรดใครกันแน่พระเจ้าค่ะ” ปราบไตรจักรถามอย่างระอา โชตะนาก็ตอบปัดๆ ไปว่าโปรดทั้งนั้นแหละ
“แต่ถ้าจะให้พูดถึงความประทับใจน่ะนะ มันก็ต้องเป็นยักษ์ราหู เพราะว่ายักษ์ราหูเนี่ย เป็นยักษ์ที่รูปงามที่สุดเท่าที่อาเคยพบมา (กาฬรหัสย์ก็เหมือนกัน^^ )…ไม่นับหลานปราบไตรจักรนะจ๊ะ” ต้องเผื่อไว้ก่อน





“แต่หลานยังสงสัยว่ายักษ์ราหูมันเป็นใครมาจากไหน เสด็จอาไม่แปลกพระทัยบ้างเหรอพระเจ้าค่ะ มันมีบางอย่างไม่เหมือนพวกเรา”
“หรือว่า...จะเป็นยักษ์ลูกครึ่ง!” ปราบไตรจักรใคร่ครวญ “เอ่อ...ครึ่งยักษ์ครึ่งเทพน่ะ” (แหม๊ ตาแหลม)
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้ ต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ ไม่ใช่ดูซอมซ่ออย่างที่เราเห็น”
“แต่จริงๆ เค้าอาจจะมีอิทธิ์ฤทธิ์ก็ได้นะ แต่อาจจะมีเหตุผลบางอย่างถึงได้ปลอมตัวมา...ต๊ายยย ลึกลับ! อาชอบผู้ชายลึกลับน่ะ”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:57:50 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #371 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2011, 12:06:51 AM »

โชตะนาวี๊ดว๊ายกับความคิดตัวเอง แต่ปราบไตรจักรกลับเห็นตรงกันข้าม “อันตรายมากกว่าพระเจ้าค่ะ กลับไปคราวนี้ เราต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร”
ทั้งโชตะนาทั้งปราบไตรจักรมีสีหน้ามุ่งมั่นมาก






ฝ่ายอัปสรสวรรค์ครุ่นคิดถึงปริศนาที่เกิดขึ้นยังไงก็คิดไม่ตกซะที จึงเดินออกไปมองยังอุทยานแก้เซ็ง ก็เห็นคนสวนหนุ่มกำลังขุดดินขมีขมันเข้าพอดี ดวงหน้าหวานสดใสขึ้นมา แล้วตัดสินใจเดินลงไปข้างล่าง





พระพิรุณที่ยังไม่เลิกรับจ๊อบเป็นคนสวนพาร์ทไทม์พอเห็นพระธิดาเดินเข้ามาก็ถวายบังคม
“เจ้าเคยบอกเราว่าชื่อพิรุณใช่มั้ย”
“ใช่พระเจ้าค่ะ” ตีหน้าได้ใสซื่อมาก
“แปลก...เจ้ารู้ตัวรึเปล่าว่าเจ้าชื่อเดียวกับเจ้าชายที่มาจากนครอุดมเลย” อัปสรสวรรค์ก็พาซื่อรู้ไม่เท่าทันเล่ห์กลหนุ่มเจ้าชู้





“อ๋อ พระโอรสพิรุณ...ข้าพุทธเจ้าเพิ่งเคยได้ยินเค้าพูดกันว่าทรงสง่างามมาก” มันชมตัวเองชัดๆ!
“หลอกลวงน่ะสิไม่ว่า” ด่าต่อหน้าโดยไม่รู้ตัว แล้วก็เดินเข้าไปในศาลา พิรุณตามเข้าไปเฝ้า คอยนั่งฟังเค้าระบายทุกข์ (ที่ตัวเองสร้าง)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 12:58:49 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #372 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2011, 12:10:35 AM »
“เจ้าจำเทวดาที่เราเคยคุยกันได้มั้ย”
“จำได้พระเจ้าค่ะ”
“นั่นแหละ เป็นคนเดียวกับพระโอรสพิรุณเลยแหละ”
“เป็นไปได้ยังไง” แหม่ เล่นละครแนบเนียนเชียว





“เราถึงได้บอกว่าหลอกลวงไง” อืม โดนด่าใส่หน้าดอกที่ 2 แล้ว แล้วตามมาอีกทั้งกระทง “พระโอรสพิรุณน่ะทรงปลอมตัวเป็นเทวดาแล้วก็มาใส่ร้ายเจ้าพี่ปราบไตรจักรของเราว่าเป็นยักษ์น่ะ”
“เค้าอาจจะหวังดีก็ได้นะพระเจ้าค่ะ” ยังกล้าแก้ตัวให้ตัวเอง
“ไม่จริงอ่ะ เค้าคงต้องการให้เรากับเจ้าพี่แตกแยกกันมากกว่า” พิรุณได้แต่อ่อนใจกับความดื้อดึงของนาง แต่ก็ยังคงนั่งฟังหญิงสาวพล่ามระบายทุกข์ต่อไป





“เสด็จแม่อ่ะนะก็ดูว่าจะทรงโปรดเอามากๆ เลยล่ะ...แต่ไม่เป็นไร เราจะทูลฟ้องเสด็จพ่อเอง” สีหน้าประโยคท้ายนี่เหมือนเด็กซนๆ เลย
“ถ้าอย่างนั้น ข้าพุทธเจ้าจะคอยสังเกตการณ์พระพิรุณอีกทางนึงนะพระเจ้าค่ะ” ตอแหลได้โล่ห์เลยเหอะ เป็นพระโอรสเป็นเทวดา รับจ๊อบคนสวน แล้วยังจะเป็นหน่วยสอดแนมอีก
อัปสรสวรรค์ก็ใสซื่อจนตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของชายหนุ่ม “ขอบใจมากนะ เดี๋ยวเราจะไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อก่อนล่ะ”
แล้วหญิงสาวก็กลับไป พิรุณมองตามอย่างหนักใจ “ถ้าพระธิดารู้ว่าทั้ง 3 คนเป็นคนเดียวกัน คงจะไม่ให้อภัยเราแน่ๆ” รู้นะ แต่ก็ยังเล่น






พิรุณกลับมายังตำหนักที่นันทะเสนและสุระผัดกำลังเอกเขนกนั่งเล่นนอนเล่นกันอยู่ นันทะเสนถามว่าหายไปไหนมา พิรุณตอบเลี่ยงๆ ว่าออกไปแถวนี้แหละ สุระผัดเดินเข้ามาพูดจริงจัง
“หลานพิรุณ ลุงว่านะหลานปลอมเป็นคนนั้นที คนนู้นที คนนี้อีกที ลุงว่ามันจะยุ่งไปกันใหญ่นะ”
“หลานก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 01:31:16 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ InJune

  • *
  • 14
  • 0
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #373 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2011, 06:06:52 PM »
กรี๊ดดดดดดดดด พี่กาฬมาต่อแล้ว ดีใจมากๆเลยค่าา

รีบมาต่ออีกเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่าา

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ⊹เทพสามฤดู⊹
« ตอบกลับ #374 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2011, 12:10:17 PM »
กรี๊ดดดดดดดดด พี่กาฬมาต่อแล้ว ดีใจมากๆเลยค่าา

รีบมาต่ออีกเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่าา

ขอบคุณมากค่า  >:D



“งั้นเอาอย่างนี้หลาน...หลานพูดความจริงไปเลยบอกความจริงไปเลยหลาน” นันทะเสนแนะนำ แต่สุระผัดว่าขืนบอกตอนนี้ยุ่งตายชัก นันทะเสนก็เถียงไม่บอกก็ยุ่งตายชัก เถียงกันไปเถียงกันมาจนพิรุณต้องห้าม (ตั้งแต่เด็กยันโต) ตัวเองยิ่งกลุ้มๆ อยู่ ถ้าอึดอัดมากก็ออกไปสู้กันซักยกก่อนแล้วค่อยกลับมา นันทะเสนกับสุระผัดออกไปดวลกันเล่น พิรุณก็เลยมีเวลาสงบคิดอะไรคนเดียว





อัปสรสวรรค์นำความมาบอกท้าวคันธมาศ แต่ท้าวคันธมาศฟังแล้วก็ไม่พูดอะไร อัปสรใจร้อนอยากรู้ว่าพ่อคิดยังไง
“อาจจะทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้”
“นี่ทรงไม่เชื่อลูกเหรอเพคะ”
“พ่อบอกว่าทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ต่างหากล่ะ” อัปสรหน้าง้ำ “ยังไงลูกก็ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเจ้าพี่ปราบไตรจักรจะเป็นยักษ์”





ท้าวคันธมาศเลยให้หมื่นธงไปเชิญโอรสพิรุณมาพบ อัปสรสวรรค์เลยทูลลา ท้าวคันธมาศว่าไม่อยู่รอถามให้รู้เรื่องก่อนเหรอ
“ไม่เพคะ ลูกน่ะทนเห็นหน้าคนอย่างนั้นไม่ได้”





“ไม่ว่าโอรสพิรุณจะรับสั่งยังไงอย่าทรงเชื่อนะเพคะ”
“ลูกก็รู้ว่าพ่อไม่ใช่คนที่จะปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ นะ” อัปสรสวรรค์ค่อยสบายใจทูลลากลับไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2011, 01:34:39 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**