การอยู่หลายคน นอกจากระวังคำพูดแล้ว ก็ต้องระวังความคิดตัวเองด้วย เพราะเราอาจจะคิดว่า เค้าคิดอย่างนี้ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่ แล้วก็จะเกิดความเข้าใจผิดกัน ยิ่งหลายคน ความเข้าใจผิดก็ยิ่งมากขึ้น แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีก
ใช่แล้วค่ะ น้องกาฬ อยู่หลายคน ต้องระวังทั้งสองอย่าง ทั้งความคิดและคำพูด
ที่โบราณบอกให้เราระวังคำพูด เวลาอยู่หลายคน พี่คิดว่าโบราณสอนให้เรา "คิดก่อนพูด" อ่ะค่ะ
อยู่คนเดียวระวังแค่ความคิดอย่างเดียว ก็พอ
แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ ระวังความคิดอย่างเดียว ไม่พอซะแล้ว
ต้องระวังคำพูดด้วย
ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องกาฬและน้องกันย์เมื่อไม่นานมานี้ในบอร์ดนี้อ่ะค่ะ
ความจริงพี่น่ะ อยากเสนอให้เพิ่มเข้าไปตรงกฎ กติกา มารยาท ในการเขียนหรือใช้ภาษาในบอร์ดนะคะ
ไม่ว่าบอร์ดนี้หรือบอร์ดไหนก็ตามเหอะ
ช่วยระวังคำพูด(ในที่นี้ก็คือการเขียนคอมเมนท์) ให้มากๆ กันหน่อย จะได้มั้ย
ช่วยคิดให้มากๆ กันหน่อยจะได้มั้ย ก่อนที่จะเขียนอะไรลงไป
เพราะว่าคำพูด พูดออกไปแล้ว มันเอาคืนมาไม่ได้
เช่นเดียวกับความรู้สึกที่เสียไปของคนฟังหรือผู้รับ ที่เกิดจากคำพูดที่ไม่คิดนั้น
มันก็จะเอากลับคืนมาให้ดีดังเดิม ไม่ได้เช่นกัน
คำพูดที่ไม่คิดเนื่องจากความอ่อนเยาว์ พลอยให้เยาว์ความคิดนั้น ก็สมควรให้อภัยอยู่
เพราะหากจะมีใครที่น่าจะให้อภัยที่สุดแล้ว ก็คือผู้เยาว์
แต่ก็ต้องแยกแยะเนื้อหาที่พูดนั้นด้วยเหมือนกัน ว่าผิดพลาดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเยาว์วัย
หรือผิดพลาดที่การมีทัศนคติที่ไม่เหมาะสม
เพราะถ้าเป็นประการหลัง ก็สมควรได้รับการตักเตือน
ตั้งแต่เขายังเป็นไม้อ่อนดัดง่าย
พี่ก็เริ่มนอกเรื่องซะและ พอดีกว่า แหะแหะ :-[
การเขียนเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย กาฬรู้สึกว่า มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เป็นกานผ่อนคลายที่ช่วยกาฬได้มาก ถ้าทุกวันนี้ไม่เขียน คงอึดอัดใจตายแล้วแน่ๆ
ทุกวันนี้นอกจากเขียนฟิค เขียนนิยาย กาฬก็เขียนไดอารี่ค่ะ วันๆ ระบายสิ่งที่ได้พบเจอ ประสบการณ์เหงา เศร้า สุข มีอะไรก็เขียนไว้ได้หมด การมีไดอารี่ออนไลน์ที่ให้คนอื่นมาคอมเมนต์หลังจากอ่านได้ มันก็ดีอย่างเพราะเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในแง่มุมของเรากับของคนอื่น คนที่คิดไม่เหมือนเรา จะจำให้เราได้มองเห็นมุมมองของคนอื่น
หรือกาฬมาเขียนคอมเมนต์ที่นี่ ก็ทำช่วยกาฬได้เยอะเลยค่ะ มาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันแล้ว รู้สึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรมีประโยชน์ขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน พอเข้าเน็ตมา หลังจากเช็คเวบของตัวเองแล้วก็ต้องเข้ามาที่นี่
การเขียนสำหรับพี่ นอกจากใช้ระงับความฟุ้งซ่านแล้ว ที่สำคัญยังเป็นการคิดด้วยค่ะ
การได้เขียนออกมา เหมือนได้มองเห็นความคิดของตัวเองชัดขึ้น
เพราะถ้าไม่เขียน มันก็เอาแต่วนไปเวียนมาอยู่ในหัวของเรา เหมือนเขาวงกต มองไม่เห็นทางออก
แต่พอได้เขียนออกมา เหมือนจิตใจมันสงบลง ไม่ฟุ้งซ่าน
เหมือนได้ทบทวนความคิด จัดลำดับความคิดได้อย่างเป็นระเบียบ
เห็นอะไรสำคัญ ไม่สำคัญได้ง่ายขึ้น รู้ว่าอะไรควรตัดทิ้ง อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ
และอะไรอาจเป็นทางออก
อ่านตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่สนใจมากๆ เลย การดูดกลืนของหลุมดำ แทนที่โลกจะแตกแต่กลับหายไปเลย แล้วการหายไปนั้น มันหายไปได้ยังไง มนุษย์เรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้มั้ย หรือว่ามันจะทำให้เราไปอยู่ในจักรวาลที่แตกต่างไปจากเดิม เหมือนว่า ได้เข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง สิ่งที่อยู่ในโลกนี้ จะอยู่ได้อีกมั้ย สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง เทคโนโลยีอย่างที่เรามี ยังสามาถใช้งานได้อีกรึเปล่า (แล้วนี่กาฬคิดไปถึงไหนเนี่ย)
แหะ สงสัยพี่จะแปลไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะค่ะ โทดที :P
คือในเรื่องเทวากับซาตานนี่ เวลาปฏิสสารมันระเบิ่ด ตอนแรกมันจะกลายเป็นแสงที่สว่างจ้ามากๆ ก่อน และทำลายทุกสิ่งภายในรัศมีการทำลาย จากนั้นมันจะดูดกลืนตัวเองกลับเข้าไปในตัวเอง จนสุดท้ายก็หายไปทั้งหมด เหลือแต่หลุมใหญ่ๆ อ่ะค่ะ เหมือนกับหลุมดำในอวกาศน่ะ พี่เข้าใจว่าอย่างนี้นะ ไม่รู้ผิดถูกประการใด เพราะไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์เลย
ถ้าเกิดว่าไม่เคยอ่านเรื่องเทวากับซาตานมาก่อนนี่ คงไม่ได้สนใจข่าวของเซิร์นอ่ะค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือสถาบันอะไร
ส่วนปฏิสสารนี่ พี่พูดถึงไปยังคะ ลืม รู้สึกจะยังมั้ง ปฏิสสาร ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว มันคือสิ่งตรงข้ามกับสสารค่ะ ในหนังสือบอกว่า มันก็มีหน้าตาเหมือนกับสสารทุกอย่างนี่แหละ แต่ต่างกันที่ประจุไฟฟ้าเท่านั้นค่ะ จำได้แค่นี้อ่ะ ต้องรอนานะมาเพิ่ม แต่สงสัยตอนนี้นานะยุ่งกับการ up ข่าวคุณบอยเล่นสังข์ทองนะ วันนี้เปลี่ยนรูปคุณบอยตรงหัวบอร์ดใหม่ด้วย บอร์ดดูสดใสขึ้นทันตาเลย บรรยากาศของบอร์ดตอนนี้ก็ดูสดชื่นรื่นเริงดีจัง ดีใจกับบอร์ดบอยอีกครั้งนะคะ ที่จะได้ชื่นชมคุณบอยกันแล้ว
อ้อ อีกนิดสำหรับเทวากับซาตาน เพิ่งนึกขึ้นได้
เซิร์น เป็นสถาบันที่คิดค้น World Wide Web ค่ะ และได้รางวัลจากการคิดค้นนี้ด้วย
แต่คนมักเข้าใจผิดว่าคนคิดคืออเมริกา
เรื่องเทวากับซาตานนี่ ยังทำให้พี่สนใจใครจะรู้เรื่องกลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์ด้วย
ตอนนั้นหาข้อมูลมาอ่านซะยกใหญ่เลย แต่...ลืมไปเกือบหมดแล้ว แหะแหะ :-[