ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

galdewis

Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #165 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2008, 09:08:01 PM »
โหย กันย์ยังไม่ได้อ่านเลยอ่ะ เทวากับซาตานอ่ะ ซื้อหนังสือมาสต๊อกไว้เป็นนาน55+

เด๋วคงได้ฤกษ์อ่านซะที มีคนมากระตุ้น หุหุ

 8)


ควรอ่านก่อนถึงวันที่ 10 กันยานะ พี่ว่า น่าจะได้อารมณ์ตื่นเต้นดีทีเดียว

อ่านจบแล้วมาบอกด้วยนะคะว่า คิดว่าวันที่ 10 จะเกิดหลุมดำอย่างที่เขากลัวกันมั้ย

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #166 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2008, 06:09:09 PM »
โบราณ(รึปล่าวหว่า...)เขาเตือนว่า อยู่คนเดียวระวังความคิด
แล้วยังไงต่อก็จำบ่ได้แล้ว จำประโยคท้ายที่มันคล้องจองกันไม่ได้อ่ะค่ะ
แต่ประมาณว่า ถ้าอยู่หลายคนก็ต้องระวังคำพูด ทำนองนั้นน่ะ


พี่ก็ฟุ้งซ่านมาก แต่หลังจากได้ลงมือเขียนแล้ว
ไม่ว่าจะเขียนคอมเมนท์ที่บอร์ดบอย เขียนบล๊อก หรือแต่งเรื่อง บันทึกอะไรเล่นๆ ไปเรื่อยเปื่อย
ก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นเยอะ
เดี๋ยวนี้เลยจะติดเขียนมาก ถ้านึกอยากเขียนอะไร ก็จะเขียนทันที รู้สึกดีมาก  :-*

ยิ่งเขียนก็ยิ่งคล่องด้วย รู้สึกว่าความคิดก็ลื่นไหลและเป็นระเบียบมากขึ้น
รู้งี้เขียนซะตั้งนานแล้ว

อยู่คนเดียวต้องระวังความคิด   จริงอย่างมากเลย  นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งซึ่งกาฬต้องพยายามแก้ไขตัวเอง
ชอบคิดนั่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย ฟุ้งซ่านกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด  ซึ่งมันจะเป็นอย่างที่คิดรึเปล่าก็ไม่รู้  แต่คิดไว้ก่อน  แล้วสุดท้ายคนที่เครียด ก็จะเป็นตัวเอง

การอยู่หลายคน  นอกจากระวังคำพูดแล้ว   ก็ต้องระวังความคิดตัวเองด้วย   เพราะเราอาจจะคิดว่า เค้าคิดอย่างนี้  ทั้งที่จริงมันไม่ใช่  แล้วก็จะเกิดความเข้าใจผิดกัน   ยิ่งหลายคน  ความเข้าใจผิดก็ยิ่งมากขึ้น   แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีก


การเขียนเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย   กาฬรู้สึกว่า มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เป็นกานผ่อนคลายที่ช่วยกาฬได้มาก   ถ้าทุกวันนี้ไม่เขียน   คงอึดอัดใจตายแล้วแน่ๆ 
ทุกวันนี้นอกจากเขียนฟิค  เขียนนิยาย  กาฬก็เขียนไดอารี่ค่ะ   วันๆ ระบายสิ่งที่ได้พบเจอ ประสบการณ์เหงา เศร้า สุข  มีอะไรก็เขียนไว้ได้หมด     การมีไดอารี่ออนไลน์ที่ให้คนอื่นมาคอมเมนต์หลังจากอ่านได้  มันก็ดีอย่างเพราะเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในแง่มุมของเรากับของคนอื่น  คนที่คิดไม่เหมือนเรา  จะจำให้เราได้มองเห็นมุมมองของคนอื่น

หรือกาฬมาเขียนคอมเมนต์ที่นี่    ก็ทำช่วยกาฬได้เยอะเลยค่ะ   มาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันแล้ว   รู้สึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรมีประโยชน์ขึ้น  หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน    พอเข้าเน็ตมา  หลังจากเช็คเวบของตัวเองแล้วก็ต้องเข้ามาที่นี่
 


อ้าว! น้องกันย์ หวัดดีค่ะ ผู้ถูกพาดพิงเข้ามาใช้สิทธิ์กันครบแล้วนะคะ นานะ อิอิ  :-X
ตานี้ก็ถึงคราวนานะเข้ามาได้แล้วนะคะ

มีข่าวมาบอกสำหรับนานะ และใครที่เคยอ่าน เทวากับซาตาน ค่ะ ไปเจอมาใน BBC

ความคืบหน้าของสถาบันวิจัยเซิร์นค่ะ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุของนิยายเรื่องนี้

เมื่อวานนี้ เซิร์นเริ่มยิงลำอนุภาคโปรตอนเข้าไปในสนามแม่เหล็กของเครื่องเร่งอนุภาค LHC เป็นครั้งแรกแล้วนะคะ แต่ว่ายังเป็นขั้นทดลอง ก่อนจะยิงจริงวันที่ 10 กันยายนนี้แล้วอ่ะค่ะ


วันที่ 10 กันยา เซิร์นจะยิงลำอนุภาคโปรตอน 2 ลำ ไปชนกันภายในท่อวงแหวนขนาดใหญ่ยักษ์ของ LHC  ซึ่งจะเป็นการสร้างสภาพของจักรวาลหลังจากเกิด Big Bang


เพราะฉะนั้นในวันที่ 10 กันยานี้ เราจะได้เห็น "กำเนิดจักรวาล" กันล่ะค่ะ
จะได้เห็นอนุภาคใหม่ๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความว่าง เหมือนที่ในนิยายเรื่องนี้บอกไว้ค่ะ


ถ้าการทดลองนี้สำเร็จ เขาว่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ที่สุดของฟิสิกส์อนุภาคเลย
และจะเป็นการมาบรรจบกันเป็นครั้งแรกของวิทยาศาสตร์กับพระเจ้าค่ะ
บางคนเลยเรียกอนุภาคใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการชนกันของโปรตอนว่า "อนุภาคพระเจ้า" ค่ะ

โหยย! พูดแล้วขนลุกอ่ะ ตื่นเต้นมากๆ เลย

จากในข่าวนี้ เจ้าของโปรเจคท์ยิงอนุภาคชนกันเพื่อไขปริศนากำเนิดจักรวาลตัวจริงชื่อ Lyn Evans นะคะ
จำไม่ได้ว่าในเทวากับซาตาน มีพูดถึงหรือเปล่า

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเซิร์นถูกฟ้องศาล ให้ระงับการยิงอนุภาคชนกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดหลุมดำ ที่จะดูดกลืนโลกทั้งโลกเข้าไป คือแทนที่โลกจะแตกอย่างที่กลัวกัน จะกลายเป็นว่า โลกอาจจะหายไปเลยก็ได้ ถ้าเซิร์นยิงโปรตอนชนกันในวันที่ 10 กันยานี้

น่ากลัวมั้ยคะ เมื่อถึงวันที่ว่านี้ มนุษย์ทั้งหมดและโลกใบนี้อาจจะหายไปในหลุมดำที่เกิดจากการทดลองของเซิร์นก็ได้นะคะ ใครจะไปรู้




เรื่อง เทวากับซาตาน นี่  พี่นานะแนะนำมานานแล้วค่ะ   แต่กาฬยังหาอ่านไม่ได้    กำลังรอความอนุเคราะห์จากพี่นานะอยู่     
ถ้าเรื่องแบบนี้   กาฬสนใจมากเลย  ชอบอะไรที่มันเป็นความก้าวหน้า หรือวิทยาศาสตร์ โลก ดวงดาว  ไม่ว่าจะหนังสือ หรือ หนัง  ทั้งที่ตัวเองก็ไม่สามารถจะเรียนสายวิทย์ได้

อ่านตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ  แต่สนใจมากๆ เลย  การดูดกลืนของหลุมดำ  แทนที่โลกจะแตกแต่กลับหายไปเลย   แล้วการหายไปนั้น มันหายไปได้ยังไง   มนุษย์เรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้มั้ย    หรือว่ามันจะทำให้เราไปอยู่ในจักรวาลที่แตกต่างไปจากเดิม   เหมือนว่า ได้เข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง   สิ่งที่อยู่ในโลกนี้  จะอยู่ได้อีกมั้ย  สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   เทคโนโลยีอย่างที่เรามี  ยังสามาถใช้งานได้อีกรึเปล่า  (แล้วนี่กาฬคิดไปถึงไหนเนี่ย)
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #167 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2008, 06:36:55 PM »

น้องกันย์เปิดประเด็นใหม่ ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาถึงกระทู้นี้ได้ไงคะ
เรียกว่าเปิดประเด็นก่อนประวัติศาสตร์ของกระทู้นี้กันเลย อิอิ :-X

วันก่อนพยามจะเปิดประเด็นภาษาไทย ภาษาวิบัติเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จแฮะ  :-[


โหยย!! ตำนาน เอ๊ย! ประวัติดึกดำบรรพ์การเริ่มอ่านหนังสือของเราสองคนคล้ายกันเลยอ่ะ น้องกันย์
แต่ต่างกันตรงรายละเอียดชนิดหนังสือน่ะ

พี่เริ่มต้นอ่านหนังสือเพราะหนังสือของพ่อที่มีอยู่ในบ้านเหมือนกัน
แล้วก็ตอนเปิดเทอมซื้อตำราเรียนใหม่ จะต้องรีบคว้าหนังสือภาษาไทยมาอ่านแบบแทบหายใจหายคอไม่ทัน อยากอ่านแบบตัวซี้ตัวสั่นเลย จิงๆ นะ


หนังสือจีนของพ่อที่เริ่มอ่านก็มีสามก๊ก เปาบุ้นจิ้น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน
แต่ตอนแรกยังไม่ได้อ่านเองหรอกค่ะ ฟังพ่อเล่าหนุกกว่า ง่ายกว่าด้วย เรื่องบู๊สง เรื่องขงเบ้ง
แต่บางทีพ่อก็ไม่มีเวลา อยากอ่านมากก็เลยต้องพยามอ่านเอง
 
ตอนเด็กๆ ก็ชอบสามก๊ก แต่ไม่ค่อยชอบเปาบุ้นจิ้น กับผู้ยิ่งใหญ่ฯ เท่าไหร่
มีการ์ตูนจีนด้วยเรื่องซำเหมา เคยได้ยินกันมั้ยคะนี่ เรื่องนี้
อีกอันเป็นการ์ตูนตลก 3 เกลอ แต่ไม่ใช่พล นิกร กิมหงวนนะคะ
อันนี้เป็นการ์ตูนตลกจีน มี 3 คนเหมือนกัน แต่ตัวเด่นรู้สึกจะชื่อลุงเชยมั้งคะ 
แถมยังฟังเพลงจีนตามพ่อด้วย เติ้งลี่จวิน เพลงจากหนังฮ่องกงยุคที่กำลังรุ่งโรจน์สุดขีดอ่ะค่ะ
จนเดี๋ยวนี้ก็ยังร้องได้อยู่ พวกเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คมเฉือนคม ฤทธิ์มีดสั้น 8 เทพอสูรมังกรฟ้า


ที่อ่านหนังสือแตกได้ ก็เพราะสามก๊กนี่แหละค่ะ 
และทำให้เป็นคนไม่เคยมีปัญหาในการอ่านชื่อจีนในนิยายกำลังภายในเลย
ในขณะที่เพื่อนหลายคนขอบายนิยายกำลังภายในของ "กิมย้ง" หรือแม้กระทั่งสามก๊ก
ด้วยเหตุผลว่า งงชื่อจีนของตัวละคร
แถมเขายังบ่นกันว่า เรื่องยาวมากๆ ตัวละครเยอะไปหมด เลยเลิกอ่าน
เพราะอ่านแล้วจำชื่อตัวละครไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นใคร


หลังจากอ่านสามก๊กแล้วติดใจ ทีนี้อ่านแหลกเลยค่ะ
นับว่าสามก๊กเป็นหนังสือที่มีคุณูปการต่อตัวเองเป็นพิเศษเลย
ทำให้อ่านหนังสือแตกและยังทำให้กลายเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาถึงเดี๋ยวนี้ด้วย


แล้วที่น้องกันย์บอก รู้สึกตอนเด็กอ่านหนังสือมีสาระกว่าตอนนี้
พี่ก็รู้สึกเหมือนกันอ่ะ
ที่จริงต้องบอกว่า ช่วงที่อ่านหนังสือมากๆ ก็คือตอนเด็กอ่ะค่ะ
ช่วงที่อ่านมากที่สุดก็คือช่วงหลังจากอ่านสามก๊กแล้ว
ประมาณป.3 ป.4 จนถึงประมาณแค่มัธยมเองมั้ง

หลังจากนั้นรู้สึกเหมือนเกือบจะหยุดอ่านหนังสือไปเลยนะ
ตอนโตมานี่ เหมือนจะอ่านหนังสือเป็นพักๆ เวลาเพิ่งเจอนักเขียนถูกใจหรืองานถูกใจ
ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่นักเขียนใหม่ หรืองานเขียนใหม่หรอก
เพียงแต่ตัวเองเพิ่งจะค้นพบน่ะ


ตอนเด็กๆ นี่อ่านงานดีๆ ของนักเขียนดีๆ มากมายกว่าตอนโตอีก แต่ส่วนใหญ่พี่อ่านแต่นิยายนะ
ของ พนมเทียน นี่ อ่านตั้งแต่ตอนอยู่ประถมทั้งนั้นเลยอ่ะ
ทั้งศิวาราตรี ละอองดาว แวว มยุรา มัสยา จุฬาตรีคูณ แต่เรื่องเพชรพระอุมานี่มาอ่านตอนโต
แล้วก็ใช่ว่าจะอ่านแล้วรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกนะ แถมจำไม่ค่อยได้ด้วย

เรื่องละอองดาวนี่ จำได้อยู่ประโยคเดียวของละอองดาว
ที่ถามพระเอกว่า จะเอาตะพดแช่อิ่มมั้ยน่ะ
จำได้ว่าอ่านแล้วขำมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าขำทำไม
รู้แต่ว่าคำว่าตะพดแช่อิ่มน่ะ มันตลกเหลือเกิน ในความรู้สึกของเด็กอ่ะ

พวกขายหัวเราะก็อ่านนะ แต่ชอบอ่านหนังสือมากกว่าการ์ตูนอ่ะ ไม่รู้ทำไม
ถ้าให้เลือกระหว่างขายหัวเราะ กับพล นิกร กิมหงวน เลือกพล นิกร กิมหงวนอ่ะ
ชอบอ่านแต่เรื่องตลกๆ กับนิยาย อ่านอยู่แค่เนี้ยอ่ะค่ะ อายเหมือนกันนะเนี่ย


ตะพดแช่อิ่ม  :)   55555+   กาฬจำได้แต่ ลูกปืนแช่อิ่ม   :-X  ที่คุณดารินเตรียมจะเสิร์ฟให้รพินทร์ที่กวนประสาทไม่เลิก  แล้วยังมีอะไรอีกก็ไม่รู้  จำไม่ได้แล้ว 

กาฬก็เป็นอย่างที่พี่ galdewis  กับ พี่กันย์ ค่ะ  ตอนเด็ก  อ่านหนังสือมีสาระกว่า ตอนนี้อีก   

เมื่อตอนประถม  ก็เริ่มจากอ่านนิทานพื้นบ้านเล่มเล็กๆ  ที่เมื่อก่อนจะมีขาย  อย่าง  พระรถ-เมรี  แก้วหน้าม้า (เวอร์ชั่นที่เล่าต่อไปจนถึงรุ่นหลานๆ ของพระปิ่นทอง) พระลอ   แล้วก็เริ่มเป็นเทพนิยาย  ตำนาน  แล้วก็มาเป็นวรรณคดี  บทกลอนต่างๆ
พอขึ้นมัธยมมาก็อ่านนิยายอย่างของ พนมเทียน  ทมยันตี  แก้วเก้า  นิยายเรื่องแรกที่กาฬอ่าน คือ  หุบเขากินคน  และ บ้านบุษบาบัณ  เรื่องที่ 3  นี่  มิติมหัศจรรย์ รึเปล่าไม่แน่ใจ จนอ.ที่ห้องสมุดบอกว่า กาฬอ่านหนังสือเกินตัว 
เพราะตามเกณฑ์ที่เค้ากำหนดหนังสือที่เหมาะสมสำหรับแต่ละวัยนั้น   
รุ่นมัธยมควรจะอ่าน วรรณกรรมเยาวชน  ประเภทแฮร์รี่ พอตเตอร์ (แต่ตอนนั้นกาฬติดเพชรพระอุมาอยู่ เลยไม่ได้อ่านแฮร์รี่)  เจ้าชายน้อย 


ส่วนตอนนี้  กาฬอ่านอะไรเนี่ย  นานๆ จะได้หนังสือมีสาระซักเล่มนึง   ที่เหลือก็อ่านฟิคจากในเน็ต  ไม่ได้ว่านิยายในเน็ตไม่ดีหรอกนะคะ  บางเรื่องดีมากจนประทับใจไม่รู้ลืม ไม่แพ้นิยายของนักประพันธืชื่อดังเลย   แต่ว่ามันเหมือนอ่านอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันซักเท่าไหร่ 
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

galdewis

Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #168 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 07:59:54 PM »


การอยู่หลายคน  นอกจากระวังคำพูดแล้ว   ก็ต้องระวังความคิดตัวเองด้วย   เพราะเราอาจจะคิดว่า เค้าคิดอย่างนี้  ทั้งที่จริงมันไม่ใช่  แล้วก็จะเกิดความเข้าใจผิดกัน   ยิ่งหลายคน  ความเข้าใจผิดก็ยิ่งมากขึ้น   แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีก


ใช่แล้วค่ะ น้องกาฬ อยู่หลายคน ต้องระวังทั้งสองอย่าง ทั้งความคิดและคำพูด

ที่โบราณบอกให้เราระวังคำพูด เวลาอยู่หลายคน พี่คิดว่าโบราณสอนให้เรา "คิดก่อนพูด" อ่ะค่ะ

อยู่คนเดียวระวังแค่ความคิดอย่างเดียว ก็พอ
แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ ระวังความคิดอย่างเดียว ไม่พอซะแล้ว

ต้องระวังคำพูดด้วย

ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องกาฬและน้องกันย์เมื่อไม่นานมานี้ในบอร์ดนี้อ่ะค่ะ

ความจริงพี่น่ะ อยากเสนอให้เพิ่มเข้าไปตรงกฎ กติกา มารยาท ในการเขียนหรือใช้ภาษาในบอร์ดนะคะ
ไม่ว่าบอร์ดนี้หรือบอร์ดไหนก็ตามเหอะ
ช่วยระวังคำพูด(ในที่นี้ก็คือการเขียนคอมเมนท์) ให้มากๆ กันหน่อย จะได้มั้ย
ช่วยคิดให้มากๆ กันหน่อยจะได้มั้ย ก่อนที่จะเขียนอะไรลงไป
เพราะว่าคำพูด พูดออกไปแล้ว มันเอาคืนมาไม่ได้
เช่นเดียวกับความรู้สึกที่เสียไปของคนฟังหรือผู้รับ ที่เกิดจากคำพูดที่ไม่คิดนั้น
มันก็จะเอากลับคืนมาให้ดีดังเดิม ไม่ได้เช่นกัน

คำพูดที่ไม่คิดเนื่องจากความอ่อนเยาว์ พลอยให้เยาว์ความคิดนั้น ก็สมควรให้อภัยอยู่
เพราะหากจะมีใครที่น่าจะให้อภัยที่สุดแล้ว ก็คือผู้เยาว์

แต่ก็ต้องแยกแยะเนื้อหาที่พูดนั้นด้วยเหมือนกัน ว่าผิดพลาดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเยาว์วัย
หรือผิดพลาดที่การมีทัศนคติที่ไม่เหมาะสม
เพราะถ้าเป็นประการหลัง ก็สมควรได้รับการตักเตือน
ตั้งแต่เขายังเป็นไม้อ่อนดัดง่าย

พี่ก็เริ่มนอกเรื่องซะและ พอดีกว่า แหะแหะ :-[




การเขียนเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย   กาฬรู้สึกว่า มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เป็นกานผ่อนคลายที่ช่วยกาฬได้มาก   ถ้าทุกวันนี้ไม่เขียน   คงอึดอัดใจตายแล้วแน่ๆ 
ทุกวันนี้นอกจากเขียนฟิค  เขียนนิยาย  กาฬก็เขียนไดอารี่ค่ะ   วันๆ ระบายสิ่งที่ได้พบเจอ ประสบการณ์เหงา เศร้า สุข  มีอะไรก็เขียนไว้ได้หมด     การมีไดอารี่ออนไลน์ที่ให้คนอื่นมาคอมเมนต์หลังจากอ่านได้  มันก็ดีอย่างเพราะเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในแง่มุมของเรากับของคนอื่น  คนที่คิดไม่เหมือนเรา  จะจำให้เราได้มองเห็นมุมมองของคนอื่น

หรือกาฬมาเขียนคอมเมนต์ที่นี่    ก็ทำช่วยกาฬได้เยอะเลยค่ะ   มาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันแล้ว   รู้สึกว่า ตัวเองได้ทำอะไรมีประโยชน์ขึ้น  หลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน    พอเข้าเน็ตมา  หลังจากเช็คเวบของตัวเองแล้วก็ต้องเข้ามาที่นี่



การเขียนสำหรับพี่ นอกจากใช้ระงับความฟุ้งซ่านแล้ว ที่สำคัญยังเป็นการคิดด้วยค่ะ

การได้เขียนออกมา เหมือนได้มองเห็นความคิดของตัวเองชัดขึ้น
เพราะถ้าไม่เขียน มันก็เอาแต่วนไปเวียนมาอยู่ในหัวของเรา เหมือนเขาวงกต มองไม่เห็นทางออก

แต่พอได้เขียนออกมา เหมือนจิตใจมันสงบลง ไม่ฟุ้งซ่าน
เหมือนได้ทบทวนความคิด จัดลำดับความคิดได้อย่างเป็นระเบียบ
เห็นอะไรสำคัญ ไม่สำคัญได้ง่ายขึ้น รู้ว่าอะไรควรตัดทิ้ง อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ
และอะไรอาจเป็นทางออก
 



อ่านตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจ  แต่สนใจมากๆ เลย  การดูดกลืนของหลุมดำ  แทนที่โลกจะแตกแต่กลับหายไปเลย   แล้วการหายไปนั้น มันหายไปได้ยังไง   มนุษย์เรายังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกได้มั้ย    หรือว่ามันจะทำให้เราไปอยู่ในจักรวาลที่แตกต่างไปจากเดิม   เหมือนว่า ได้เข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง   สิ่งที่อยู่ในโลกนี้  จะอยู่ได้อีกมั้ย  สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   เทคโนโลยีอย่างที่เรามี  ยังสามาถใช้งานได้อีกรึเปล่า  (แล้วนี่กาฬคิดไปถึงไหนเนี่ย)



แหะ สงสัยพี่จะแปลไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะค่ะ โทดที  :P

คือในเรื่องเทวากับซาตานนี่ เวลาปฏิสสารมันระเบิ่ด ตอนแรกมันจะกลายเป็นแสงที่สว่างจ้ามากๆ ก่อน และทำลายทุกสิ่งภายในรัศมีการทำลาย จากนั้นมันจะดูดกลืนตัวเองกลับเข้าไปในตัวเอง จนสุดท้ายก็หายไปทั้งหมด เหลือแต่หลุมใหญ่ๆ อ่ะค่ะ เหมือนกับหลุมดำในอวกาศน่ะ พี่เข้าใจว่าอย่างนี้นะ ไม่รู้ผิดถูกประการใด เพราะไม่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์เลย

ถ้าเกิดว่าไม่เคยอ่านเรื่องเทวากับซาตานมาก่อนนี่ คงไม่ได้สนใจข่าวของเซิร์นอ่ะค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือสถาบันอะไร

ส่วนปฏิสสารนี่ พี่พูดถึงไปยังคะ ลืม รู้สึกจะยังมั้ง ปฏิสสาร ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว มันคือสิ่งตรงข้ามกับสสารค่ะ ในหนังสือบอกว่า มันก็มีหน้าตาเหมือนกับสสารทุกอย่างนี่แหละ แต่ต่างกันที่ประจุไฟฟ้าเท่านั้นค่ะ จำได้แค่นี้อ่ะ ต้องรอนานะมาเพิ่ม แต่สงสัยตอนนี้นานะยุ่งกับการ up ข่าวคุณบอยเล่นสังข์ทองนะ วันนี้เปลี่ยนรูปคุณบอยตรงหัวบอร์ดใหม่ด้วย บอร์ดดูสดใสขึ้นทันตาเลย บรรยากาศของบอร์ดตอนนี้ก็ดูสดชื่นรื่นเริงดีจัง ดีใจกับบอร์ดบอยอีกครั้งนะคะ ที่จะได้ชื่นชมคุณบอยกันแล้ว

อ้อ อีกนิดสำหรับเทวากับซาตาน เพิ่งนึกขึ้นได้
เซิร์น เป็นสถาบันที่คิดค้น World Wide Web ค่ะ และได้รางวัลจากการคิดค้นนี้ด้วย
แต่คนมักเข้าใจผิดว่าคนคิดคืออเมริกา

เรื่องเทวากับซาตานนี่ ยังทำให้พี่สนใจใครจะรู้เรื่องกลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์ด้วย
ตอนนั้นหาข้อมูลมาอ่านซะยกใหญ่เลย แต่...ลืมไปเกือบหมดแล้ว แหะแหะ  :-[

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #169 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 08:22:36 PM »
พี่รู้ใจกันใจจริงเลยค่ะ อยากตอบเรื่องปฏิสสารมากกกกกกกกกกกกกกกกถึงมากที่สุด แต่ตอนนี้ขอ
แก้งานให้เสร็จก่อนนะคะ แล้วเด๋วจะมาพูดเรื่องนี้ต่อนะคะ อย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ

ปล.กลัวพี่ galdewis หายที่สุด เพราะเวลานานะจังเข้ามา ถ้าเห็นเป็นพี่ตอบต้องคลิกเข้าไปอ่านเป็นกระทู้แรกเลยค่ะ
น้องกาฬรหัสย์ก็คงเหมือนกัน ใช่ไหมน้อง 555
ไปกองถ่ายมาเมื่อวาน พอมาวันนี้ก็อัพข่าวและรุปของพี่บอย งานตัวเองเลยค้างเติ่งเลยค่ะ T_T :'( :'(
เด๋ววันพฤหัสกลับมาตอยทุกกระทู้นะคะ ขอบคุรที่ head ใหม่นะคะพี่ ปลาบปลื้ม :-*

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #170 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 08:29:27 PM »
ใช่แล้วค่ะ น้องกาฬ อยู่หลายคน ต้องระวังทั้งสองอย่าง ทั้งความคิดและคำพูด

ที่โบราณบอกให้เราระวังคำพูด เวลาอยู่หลายคน พี่คิดว่าโบราณสอนให้เรา "คิดก่อนพูด" อ่ะค่ะ

อยู่คนเดียวระวังแค่ความคิดอย่างเดียว ก็พอ
แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ ระวังความคิดอย่างเดียว ไม่พอซะแล้ว

ต้องระวังคำพูดด้วย

ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับน้องกาฬและน้องกันย์เมื่อไม่นานมานี้ในบอร์ดนี้อ่ะค่ะ


ความคิดและคำพูดทำให้เกิดเรื่องหลายอย่างมากมาย

อย่างตอนนี้  กาฬไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว  ดีที่ยังมีที่ไว้สนทนาที่นี่ได้  
ความคิดและคำพูดทำให้กาฬเจอเรื่องอะไรต่างๆ มากมายเลย   ถ้าอย่ากรณีของกาฬกับพี่กันย์ที่เกิดขึ้นในบอร์ดนี้  มันเล็กน้อยมากเลย  แต่กับคนใกล้ตัวนี่สิ   ที่เป็นปัญหาแก้ยาก
บางอย่าง  ทั้งที่คำพูดของเราไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับใคร  และไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอะไร  แต่เรากลับจะต้องเจอปัญหาเพราะคำพูดนั้น
และความคิดที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจกัน  ก็ยิ่งทำให้เกิดเรื่องไปกันใหญ่
กาฬไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง   แต่สิ่งที่กาฬทำได้มากที่สุด  คือยืนหยัดในจุดที่กาฬเคยอยู่ให้มั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้   ยึดมั่นในใจความจริงใจของเรา  
ถึงแม้จะต้องเสียอะไรไปก็ตาม

ขอโทษที่นอกเรื่องค่ะ  




กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์  คืออะไรคะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

galdewis

Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #171 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 09:56:31 PM »


ความคิดและคำพูดทำให้เกิดเรื่องหลายอย่างมากมาย

อย่างตอนนี้  กาฬไม่รู้จะหันไปทางไหนแล้ว  ดีที่ยังมีที่ไว้สนทนาที่นี่ได้  
ความคิดและคำพูดทำให้กาฬเจอเรื่องอะไรต่างๆ มากมายเลย   ถ้าอย่ากรณีของกาฬกับพี่กันย์ที่เกิดขึ้นในบอร์ดนี้  มันเล็กน้อยมากเลย  แต่กับคนใกล้ตัวนี่สิ   ที่เป็นปัญหาแก้ยาก
บางอย่าง  ทั้งที่คำพูดของเราไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับใคร  และไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอะไร  แต่เรากลับจะต้องเจอปัญหาเพราะคำพูดนั้น
และความคิดที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจกัน  ก็ยิ่งทำให้เกิดเรื่องไปกันใหญ่
กาฬไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง   แต่สิ่งที่กาฬทำได้มากที่สุด  คือยืนหยัดในจุดที่กาฬเคยอยู่ให้มั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้   ยึดมั่นในใจความจริงใจของเรา  
ถึงแม้จะต้องเสียอะไรไปก็ตาม


กะลังจะไปนอนแล้วนะคะเนี่ย แต่ก็ต้องแวะเข้ามาก่อนทุกที
รู้สึกน้องกาฬจะมีเรื่องไม่สบายใจพอดู
ก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ
แล้วมันจะต้องผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ น้องกาฬ

ใครไม่รู้บอกไว้ว่า ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต
พี่เองก็เจอมาไม่น้อย กว่าจะเติบโต
และก็ต้องยอมรับว่า มันเป็นความจริง
แต่ถามว่า ให้เจ็บปวดอีกมั้ย ไม่เอาแล้วดีกว่า

พี่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของน้องกาฬเป็นยังไง
แต่จะเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องการอธิบายความคิดให้คนอื่นเข้าใจ
หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์บ้างค่ะ

บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจความคิดเรา
ถ้าเขาไม่พยายามจะเข้าใจ หรือไม่เปิดใจ เหมือนที่เราเปิดใจกับเขา

เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่มีอะไรจะต้องพูดให้เคลียร์ๆ กันไปเลย
แต่ต่อมาก็พบว่า มันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น

แต่กับอีกหลายคน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ว่าเราจะจริงใจแค่ไหนก็ตาม
เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงใจของเราอ่ะค่ะ

หลังๆ ก็เลยปลง ตัด แม้ว่าจะไม่ขาด
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราควบคุมอะไรไม่ได้หรอก และเราก็ทำได้แค่นี้
ไม่ผิดต่อความรู้สึกของตัวเอง ก็พอแล้ว




กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ กับกลุ่มฟรีเมซันส์  คืออะไรคะ


เดี๋ยวพี่ขอทบทวนความจำก่อนนะคะ...
กลุ่มภราดรอิลลูมินาติ ซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่องเทวากับซาตาน เป็นกลุ่มภราดรโบราณที่มีตัวตนจริงแต่สาบสูญไปประมาณร้อยปีแล้ว ถือเป็นการรวมกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกในโลก เกิดขึ้นที่กรุงโรม เมื่อ 400 ปีก่อน (เวลานี่ไม่แน่ใจ)

ผู้นำกลุ่มคนสำคัญคือ กาลิเลโอ สัญลักษณ์ของกลุ่มนี้คือ รูปสมมาตร (ambigram) และธาตุทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิทยาศาสตร์โบราณมีแค่ 4 ธาตุ คือ ปฐวี วาโย เตโช อาโป (ดิน ลม ไฟ น้ำ)

อิลลูมินาติเป็นปฏิปักษ์กับคริสตศาสนาตั้งแต่ต้น เพราะวิทยาศาสตร์กับศาสนาก็เปรียบเหมือนน้ำกับน้ำมัน ไม่มีทางจะเข้ากันได้

ตามประวัติศาสตร์อิลลูมินาติดูเหมือนจะถูกคริสตจักรรังแกมาโดยตลอด (หรืออย่างน้อยก็ในมุมมองของอิลลูมินาติ หรือผู้ที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์ และมองว่าศาสนาเป็นเรื่องงมงาย) จนในที่สุดก็ถูกเนรเทศออกจากกรุงโรม อิลลูมินาติจึงลี้ภัยไปที่อเมริกา (เข้าใจว่าไปที่อื่นๆ ด้วยนะคะ จำไม่ได้แล้ว) แต่การลี้ภัยไปอเมริกานี่ค่อนข้างสำคัญ เพราะกลุ่มที่ให้พี่พักพิงแก่อิลลูมินาติที่อเมริกาคือ กลุ่มภราดรช่างอิฐแห่งบาวาเรีย ซึ่งเรียกตัวเองว่า กลุ่มเมซันส์ หรือฟรีเมซันส์

กล่าวกันว่า อิลลูมินาติได้แทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างอำนาจของกลุ่มเมซันส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทรงอิทธิพลในวงการเมืองและวงการเศรษฐกิจการธนาคารของอเมริกา รู้สึกว่า นักการเมืองสำคัญๆ ของอเมริกาในอดีต ล้วนแต่เป็นสมาชิกเมซันส์ เช่น ประธานาธิบดีรูสเวลท์ แม้แต่ประธานาธิบดีจอร์จ บุชผู้พ่อของจอร์จ บุชคนปัจจุบัน ก็เป็นสมาชิกเมซันส์ด้วย (ยังมีอีกหลายคนอ่ะค่ะ แต่ลืม)


แต่สิ่งที่ทำให้กลุ่มเมซันส์เป็นที่กล่าวขวัญถึงคือ เคยได้ยินเรื่อง "การจัดระเบียบโลกใหม่" หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า New World Order ใช่มั้ยคะ นั่นแหละค่ะ มาจากกลุ่มเมซันส์ ซึ่งเป็นเพราะอิทธิพลของอิลลูมินาติที่แทรกซึมอยู่ในเมซันส์อีกทีนึง

เรามักเข้าใจกันว่า การจัดระเบียบโลกใหม่ หมายถึงโลกยุคหลังจากที่สงครามเย็นสิ้นสุด แต่จากหนังสือเทวากับซาตาน การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่จริงต้องพูดสลับคำเป็นว่า การจัดระเบียบใหม่ "ทางโลก" ค่ะ คือหมายถึงไม่เกี่ยวกับศาสนา หมายถึงโลกที่ไม่มีศาสนา มีแต่วิทยาศาสตร์ ซึ่งก็หมายถึงกลุ่มอิลลูมินาติ ที่บูชาวิทยาศาสตร์เป็นพระเจ้า และเป็นปฏิปักษ์กับศาสนานั่นเอง


เฮ้อ! เหนื่อย จำได้แค่นี้อ่ะ น้องกาฬ ไงต้องรอนานะว่างก่อนนะคะ คงจะบอกอะไรได้มากกว่าพี่อ่ะค่ะ แหะ  :-[

ไปนอนแล้วล่ะ น้องกาฬ
ขอให้ผ่านพ้นเรื่องไม่สบายใจไปได้ด้วยดีนะคะ

galdewis

Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #172 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 10:07:47 PM »
พี่รู้ใจกันใจจริงเลยค่ะ อยากตอบเรื่องปฏิสสารมากกกกกกกกกกกกกกกกถึงมากที่สุด แต่ตอนนี้ขอ
แก้งานให้เสร็จก่อนนะคะ แล้วเด๋วจะมาพูดเรื่องนี้ต่อนะคะ อย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ

ปล.กลัวพี่ galdewis หายที่สุด เพราะเวลานานะจังเข้ามา ถ้าเห็นเป็นพี่ตอบต้องคลิกเข้าไปอ่านเป็นกระทู้แรกเลยค่ะ
น้องกาฬรหัสย์ก็คงเหมือนกัน ใช่ไหมน้อง 555
ไปกองถ่ายมาเมื่อวาน พอมาวันนี้ก็อัพข่าวและรุปของพี่บอย งานตัวเองเลยค้างเติ่งเลยค่ะ T_T :'( :'(
เด๋ววันพฤหัสกลับมาตอยทุกกระทู้นะคะ ขอบคุรที่ head ใหม่นะคะพี่ ปลาบปลื้ม :-*


ยังนอนไม่ได้ ต้องตอบนานะก่อนจิ

พี่ก็เหมือนกันค่า  ;) ยุ่งยังไงก็ต้องแวะเข้ามาซะหน่อยก่อน ถ้าเห็นพวกเราที่คุยกันอยู่เนืองๆ อย่างนานะ น้องกาฬ น้องกันย์ ก็จะต้องคลิกเข้ามาอ่านก่อนก็ยังดี แม้บางที(หลายที)จะยังไม่มีเวลาตอบก็ตามที

ไม่ต้องรีบก็ได้ค่า นานะ ระวังสุขภาพนะคะ วันก่อนพี่ปวดหัวปวดตามากเลย สงสัยจะใช้คอมพ์มากไปอ่ะ ต้องเพลาๆ ลงหน่อยแล้ว ทำไงได้ ก็มันอยากคุยอ่ะนะ แถมตัวเองก็พูดมากซะด้วย ติดเบรคซะเมื่อไหร่ล่ะ ให้คุยทั้งวันทั้งคืนยังคุยได้เลยนะนี่ หุ  :-X

แต่เห็นนานะมีความสุข มีชีวิตชีวา ก็ดีใจค่ะ มันสะท้อนมาถึงบอร์ดด้วยเลย ทำให้บอร์ดดูมีความสุข มีชีวิตชีวาไปด้วยอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

ปล. ปลาบปลื้มเช่นกัน ที่นานะบอกคลิกอ่านคอมเมนท์พี่เป็นกระทู้แรกอ่ะ
แต่อาทิตย์นี้จนถึงอาทิตย์หน้าพี่คงจะงานเยอะอ่ะค่ะ
แต่คงจะแวะเข้ามาคุยล่ะค่ะ แต่คงคุยได้แค่แป๊บๆ อ่ะ
แล้วตอนนี้ก็เริ่มเซิร์ชเรื่องเย้ยฟ้าท้าดินแล้วด้วย หาข้อมูลคุณภูน่ะค่ะ
เพราะวันนี้เห็นช่อง 7 ฉายตัวอย่างแล้ว แต่ยังไม่บอกวันเริ่มฉาย แต่ในตัวอย่างยังไม่เห็นคุณภูเลยค่ะ

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #173 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2008, 11:30:10 PM »
ขอบคุณพี่ galdewis มากๆ เลยค่ะ 

กาฬก็เป็นเหมือนกัน อย่างน้อยต้องเปิดเข้ามาดูทุกวัน  โดยเฉพาะในกระทู้นี้     

ที่บอกว่า  ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต  กาฬรู้ชัดก็ตอนขึ้นมหาลัยนี่แหละค่ะ  มันใช่เลย  ทั้งที่เมื่อก่อน  กาฬก็ผ่านอะไรมามากมาย แต่ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดเท่าตอนที่โตมานี่เลย  ยิ่งโตก็ยิ่งเจ็บปวดกับปัญหามาก  ทั้งที่ปัญหามันไม่ต่างกันกับตอนที่เคยเจอ  แต่ทำไมพอมาเจออีก  ถึงได้รู้สึกว่ามันย่ำแย่สุดๆ

กาฬก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านพ้นไปด้วยดี  หรือว่าต้องเสียอะไรไปอีก


บางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้เลยอ่ะค่ะ ที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจความคิดเรา
ถ้าเขาไม่พยายามจะเข้าใจ หรือไม่เปิดใจ เหมือนที่เราเปิดใจกับเขา

เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่มีอะไรจะต้องพูดให้เคลียร์ๆ กันไปเลย
แต่ต่อมาก็พบว่า มันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น

แต่กับอีกหลายคน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ว่าเราจะจริงใจแค่ไหนก็ตาม
เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจริงใจของเราอ่ะค่ะ

หลังๆ ก็เลยปลง ตัด แม้ว่าจะไม่ขาด
แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราควบคุมอะไรไม่ได้หรอก และเราก็ทำได้แค่นี้
ไม่ผิดต่อความรู้สึกของตัวเอง ก็พอแล้ว


ประเด็นของกาฬ   กาฬก็เคยเจอมากับคนที่สามารถพูดด้วยตรงๆ ได้  (ซึ่งโชคดีที่ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น)  เคยต้องเสียน้ำตากันหลายทอดเลย  กว่าจะเข้าใจกันและกันและกัน (หลายคนเกิน)  หรือกับคนที่พูดไม่รู้เรื่อง   กาฬก็ตัดทิ้งไปเลย  คือไม่สนใจ  ถ้าเค้าไม่ได้มีความสำคัญอะไร

แต่กับสถานการณ์นี้   มันคือ  กาฬกลายเป็นคนที่เค้าไม่ไว้ใจไปซะแล้ว  เป็นเหมือนคนแปลกหน้า
ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา  เข้าใจกันได้ดี  มีเรื่องอะไรก็ไว้ใจกัน  ช่วยเหลือกัน   
เรื่องมันไม่ได้ยาวเลยค่ะ  แค่ปีเดียวเท่านั้นเอง   แต่รายละเอียดมันสลับซับซ้อน   
เพราะความไว้ใจของกาฬเองรึเปล่า   ที่สิ่งที่พูดออกไปนั้น  มันเลยกำลังจะย้อนกลับมา   
กาฬอาจจะลืมคิดไปว่า  สิ่งที่กาฬพูด ถึงมันไม่ได้เป็นอันตรายกับใคร แต่มันสามารถย้อนกลับมาเล่นงานกาฬได้   
ถึงแม้มันจะเป็นความจริง  แต่ความจริงบางอย่าง  ไม่มีใครรู้มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ   ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร  มันเป็นเรื่องดีๆ ของกาฬเอง  เป็นความทรงจำดีๆ

กับเรื่องที่ไว้ใจกัน  กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่ไว้ใจกันได้   
ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับกาฬเพราะเรื่องนี้    กาฬเลยต้องทำใจว่า  กาฬต้องต่อสู้เรื่องนี้ไปด้วยความบริสุทธิ์ของตัวเอง   และอาจจะต้องเสียใครไป  ซึ่งถ้าคนๆ นั้น  ไม่ใช่คนที่เค้าไว้ใจกาฬแล้ว ก็คงต้องละทิ้ง


ภายในความทรงจำดีๆ  มักจะแฝงเอาไว้ด้วยความทรงจำที่ไม่น่าจดจำ





คำว่า New World Order   กาฬจะได้ยินมาจากอะไรที่เกี่ยวกับอเมริกาค่ะ   แต่ไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงหรอก   คำว่า New World  ของกาฬ   กาฬเข้าใจว่ามันเกิดขึ้น   ตอนที่อเมริกาเริ่มเป็นประเทศใหม่ๆ  การรุกรานชนชาติเดิม  ที่เป็นเจ้าของดินแดน  และเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ทันสมัย 
เกิดเป็นลัทธิทุนนิยม  ยึดถือวัตถุเป็นของมีค่า   


ความเครียดทำให้กาฬหัวไม่แล่นเลยค่ะ  ช่วงนี้ที่ตอบน้อยก็เพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจ  จริงๆ อยากคุยเยอะๆ  อยากรู้อะไรมากมาย 



นิทราสวัสดิ์ค่ะ  พี่ galdewis  พี่นานะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

galdewis

Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #174 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2008, 08:53:19 PM »


ความเจ็บปวด ความจริง การสูญเสีย

ตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้น ก็คงต้องเผชิญกับมันอยู่ร่ำไป

ตราบใดที่เลือกที่จะยอมรับความจริง เลือกที่จะไม่หลอกตัวเอง

ก็อาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจ็บปวด เมื่อต้องสูญเสีย

เรามักเชื่อกัน และพูดกันว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

เหมือนจะให้คำพูดนี้เป็นดั่งเกราะป้องกัน เป็นเครื่องกระตุ้นให้เรามั่นใจ ไม่หวั่นไหว ที่จะพูดความจริง
กระทั่งเป็นเครื่องปลอบประโลม เมื่อเราต้องได้รับผลร้าย จากการพูดความจริงนั้น

แต่บางทีเราอาจจะลืมไปว่า...

ความจริงเป็นสิ่งที่มีค่า และเพราะมันมีคุณค่า จึงมีราคาที่ต้องจ่าย มิใช่ได้มาฟรีๆ

และราคาที่ต้องจ่าย อาจหมายถึงความเจ็บปวด และการสูญเสีย

นี่ก็คือความจริงที่เจ็บปวดอีกประการหนึ่ง

แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเราเองด้วยว่า

เราเชื่อมั่นในความจริง ดั่งที่เรากล่าวอ้าง จริงหรือไม่



 
ถึงแม้มันจะเป็นความจริง  แต่ความจริงบางอย่าง  ไม่มีใครรู้มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ   ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร  มันเป็นเรื่องดีๆ ของกาฬเอง  เป็นความทรงจำดีๆ



พี่เคยสงสัยมานานแล้ว ที่โบราณบอกว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง นี่น่ะ มันเพราะอะไร

แต่ไม่เคยหาข้อมูลอ่าน เพราะชอบที่จะลองคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองมากกว่า

พี่คิดว่า สุภาษิตนี้คือการเตือนเรื่องการพูด แม้ว่าสิ่งที่พูดจะเป็นความจริงก็ตาม

หลายครั้งที่ความจริงเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ และความสามารถในการยอมรับความจริงของหลายคนก็แตกต่างกัน

บางครั้งแม้แต่ตัวเราเอง ระดับความสามารถในการยอมรับความจริง ยังแตกต่างไปตามวัย และปัจจัยอื่นๆ ถ้าหากจะมี

จึงไม่แปลกที่ความจริงที่เรายอมรับได้ ไม่เห็นว่าเสียหายอะไร แต่คนอื่นกลับไม่สามารถยอมรับได้เหมือนเรา

เพราะฉะนั้นโบราณจึงเตือน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

 


กาฬก็ไม่รู้ว่ามันจะผ่านพ้นไปด้วยดี  หรือว่าต้องเสียอะไรไปอีก


เคยเสียใจเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าเป็นความสูญเสียมามาก ในหลายๆ รูปแบบ

แต่มาถึงวันนี้ จำความสูญเสียหรือความเสียใจเจ็บปวดเหล่านั้นไม่ได้แล้วอ่ะ

ทุกวันนี้รู้สึกสุขกายสบายใจดี ที่ไม่เคยสูญเสียตัวเองไป

และก็ไม่แน่เหมือนกัน ว่าสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นความสูญเสียที่ผ่านๆ มานั้น เราเป็นฝ่ายสูญเสียจริงๆ


ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #175 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 12:38:33 PM »
ไม่ได้ตอบกระทู้นี้นานมากเลย  คิดถึง พี่ galdewis จังค่ะ   

ตอนนี้ปัญหาของกาฬ  มันอยู่ๆ ก็หายไปเลย  บอกไม่ถูกอ่ะ  แต่ในเมื่อมันกลับมาเป็นปกติ  กาฬก็ไม่อยากจะไปสะกิดให้เกิดตะกอนขึ้นมา  แล้วยังมีเหตุการณ์ที่บางที เค้าอาจจะเข้าใจเหตุผลของกาฬก็ได้

ตอนนี้  ปัญหาชีวิตเลยลดไปแล้ว  เหลือแต่ปัญหาเรื่องเงินที่ต้องดิ้นรน  :D

กาฬคงไม่ได้มาตอบอะไรยาวๆ นะคะ ช่วงนี้    เพราะว่า คอมที่บ้านเสีย   หนังสือก็ไม่ได้หาอ่าน


ปล.อยากอ่าน เทวากับซาตาน อ่ะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: งานเขียนเรื่องไหนโดนใจบ้าง
« ตอบกลับ #176 เมื่อ: กันยายน 19, 2008, 10:00:09 PM »
รู้สึกว่ากระทู้นี้ไม่ได้เคลื่อนไหวนานแล้วอ่ะ    คิดถึงมากๆ เลย
คิดถึงพี่ galdewis ด้วยค่ะ   ตอนนี้ยุ่งอยู่รึเปล่าคะ


มีข่าวเล็กน้อยมาบอกค่ะ   สำหรับเรื่องเพชรพระอุมา

วันก่อน  กาฬได้ไปทัศนศึกษา ที่กาญจนบุรี  แล้วได้ไปชมกองถ่ายสมเด็จพระนเรศวร   เลยได้ข่าวว่า  เค้ากำลังสร้างฉากสำหรับถ่าย เพชรพระอุมา ค่ะ   
สมเด็จพระนเรศวรภาค 3 เสร็จเมื่อไหร่ก็จะลุยเรื่องเพชรพระอุมาต่อทันที

ได้ยินแล้วเนื้อเต้น  กระดี๊กระด๊าดีใจมากเลยค่ะ   
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
เอโดงาวะ รัมโป
« ตอบกลับ #177 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2008, 03:31:15 PM »
นานะจังเพิ่ง อ่าน คินดะอิจิของอาจารย์ เซชิ ไปค่ะ ตอนคดีฆาตรกรรมในห้องปิดตาย ประเด็นมีอยู่ว่าเรื่องนี้ กล่าวถึงงานเขียน
ของ อาจารย์ เอโดงาวะ รัมโป   ที่เขียนเรื่องสยองขวัญค่ะ ทำให้ นานะจังรู้ทราบ เอโดงาวะ รัมโป   เป็นนักเขียนนิยายแนวสยองขวัญ
ที่เก่าแก่ คินดะอิจิ ของ อาจารย์ เซชิ ซะอีก เพราะงานของอาจารย์เซชิ เป็นช่วง
สงครามโลกครั้ง 2 อ่ะค่ะ แล้วอาจารย์ก็เสียชีวิตไปปี ค.ศ.1981
ด้วยวัน 78 ปี แล้วงานของ เอโดงาวะ รัมโป เป็นที่กล่าวถึงและนับถือของอาจารย์เซชิซะด้วยสิ น่าทึ่งมาก เอโดงาวะ รัมโป จะเขียน เรื่อง สยองขวัญ ที่เล่มเล็กมาก และในปริมาณงานเขียนต่างจาก อาจารย์ เซชิ มากก็ตาม แต่ถือว่าปรมาณจารย์ นวนิยายแนว สยองขวัญของโลกก็ว่าได้เลย
 แล้วที่นานะจัง สันนิษฐาน ว่า ยอดนักสืบโคนัน ที่ คุโด้ ชินอิจิเปลี่ยน ชื่อ
เป็น เองาวะ โคนัน ก็เอามาจาก นามสกุล ของ เอโดงาวะ รัมโป  จริงๆด้วยค่ะ พี่ galdewis (ถ้ายังเข้าบอร์ดบอยอยู่ ตอบนานะจังด้วยนะคะ)
แล้วพอไปข้อมูลมา ก็จริงๆด้วย

เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ

http://www.zheza.com/index.php?a=blog&b=entry&uid=416235&eid=4

คือนานะจังอ่าน โคนันเล่มแรกตอน ม.2 อ่ะค่ะเลยลืมรายละเอียด 5555

ถ้าใครยังไม่เคยอ่านงานของ เอโดงาวะ รัมโป   ไปหาอ่านนะคะ สุดยอดมาก


ประวัติ เอโดงาวะ รัมโป

เอโดงาวะ รัมโป เป็นนักเขียนเรื่องสั้นแนวระทึกขวัญที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นที่รู้จักของนักอ่านผู้สนใจเรื่องแนวนี้เกือบทั่วโลก หนังสือของเขาทุกเล่มมีผู้แปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา และเป็นหนังสือติดอันดับขายดี
          จุดเด่นของเรื่องที่รัมโปเขียน นอกจากจะให้ความรู้สึกตื่นเต้น ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ยังแทรกข้อคิดเชิงปรัชญาไว้เสมอ โดยที่เขาสนใจจิตวิทยา ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และวิชาการแขนงอื่นๆ จึงทำให้เรื่องของเขาผิดแผกไปจากเรื่องสืบสวนสอบสวน หรืออาชญากรรมตามแนวของนักเขียนทั่วไป
          ---เช่นเรื่อง 'กระจกสยองขวัญ' สะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ในแง่จิตวิทยาข้อหนึ่งที่ว่า มนุษย์ผู้หลงตนเองจะมีความปรารถนา ต้องการชื่อเสียงปรารถนาเกียรติยศไม่รู้จบสิ้นไม่รู้จักพอ การหลงตัวเองนั้นทำให้เกิดความต้องการตลอดเวลา จนในที่สุดถึงกับทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว---เรื่องเช่นนี้ปรากฏให้เห็นในสังคมทุกยุค แต่น้อยนักที่นักเขียนจะสามารถหยิบมาเขียนให้เห็นชัดเจน โดยไม่สมมติเหตุให้ดูบังเอิญ
          เรื่องสั้นของเอโดงาวะ รัมโป ทุกเรื่อง จะบอกความนัยอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างแก่ผู้อ่านเสมอ นอกเหนือไปจากความตื่นเต้นระทึกขวัญที่ดำเนินไปตามแบบฉบับของเขา
          นักอ่านเรื่องระทึกขวัญในเมืองไทย อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับชื่อของเอโดงาวะ รัมโป แต่ในยุโรปและอเมริกา รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่อ่านฉบับแปลภาษาอังกฤษแพร่หลาย ต่างรู้จักชื่อเสียงและผลงานของนักเขียนผู้นี้ดี และยกย่องให้เป็นนักเขียนแนวระทึกขวัญที่ยอดเยี่ยมฅนหนึ่งของวงการวรรณกรรม

                              ปาริฉัตร เสมอแข, ผุสดี นาวาวิจิต (มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒)
   
   


http://www.bflybook.com/BookDetail.aspx?CategoryID=0&SortID=0&PageNumber=11&CoverDesignID=115

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เอโดงาวะ รัมโป
« ตอบกลับ #178 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2008, 05:22:14 PM »
เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ


เหมือนว่าตอนนี้กาฬจะได้ดูค่ะ   ชินอิจิหันไปเห็นชื่อหนังสือ  เลยเปลี่ยนเป็น เอโดงาวะ
รู้สึกจะดูมาจาก โคนัน ที่เป็นหนังมั้ง   


แต่คินดะอิจิรุ่นเก่าๆ กาฬยังไม่ค่อยได้อ่านซะที   


พี่นานะ   กาฬซื้อ เทวา กับ ซาตาน มาแล้วค่ะ  ตอนนี้กำลังหาเวลาอ่านอยู่  เล่มหนามาก  ไม่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2008, 05:23:08 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: เอโดงาวะ รัมโป
« ตอบกลับ #179 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2008, 10:34:15 PM »
เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร.อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร.อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ


เหมือนว่าตอนนี้กาฬจะได้ดูค่ะ   ชินอิจิหันไปเห็นชื่อหนังสือ  เลยเปลี่ยนเป็น เอโดงาวะ
รู้สึกจะดูมาจาก โคนัน ที่เป็นหนังมั้ง   


แต่คินดะอิจิรุ่นเก่าๆ กาฬยังไม่ค่อยได้อ่านซะที   


พี่นานะ   กาฬซื้อ เทวา กับ ซาตาน มาแล้วค่ะ  ตอนนี้กำลังหาเวลาอ่านอยู่  เล่มหนามาก  ไม่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก

ดีแล้วจ้าน้องกาฬที่หนูซื้อเทวาซาตานมา เพราะถ้าหนูอ่านอล้วหนูจะบอกว่า ไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย พี่ใช้เวลาอ่าน ประมาณ 2 วันกว่าๆ
เพราะวางไม่ลง เป็นหนังสือที่หนาที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลยอ่ะ รู้สึกจะหนากว่า แฮร์รี่เล่ม 5อีกมั้ง อิอิ อ่านแล้วคุยกันน้า