เมื่อกี๋ เพิ่ง ซันเดย์ สเปเชียล ของ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อ่ะค่ะ เค้าพูด ถึง จูล่ง วีรบุรุษ ผู้ไม่แพ้ จาก สามก๊ก ถ้าจำไม่ผิดพี่ galdewis เคยบอกไว้ว่า จูล่งเป็นฮีโร่ ของพี่ใช่ไหมคะ ถ้าเข้ามาช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังด้วยนะคะ รู้สึกว่าช่วงนี้ห้องสนทนากลายเป็นหมันไปเลยนะเนี่ย
จูล่ง คงจะเป็นพระเอกในฝันคนแรกของเราเลยอ่ะค่ะ หลงรักตัวละครตัวนี้มาตั้งแต่ยังไม่เต็มสิบขวบเลยมั้ง (น่าเสียดายดูสามก๊กทีไร ยังไม่เคยเห็นคนเล่นจูล่งหล่อถูกใจซักทีเลยอ่ะ)
ตอนเด็กๆ รู้สึกว่าจูล่งช่างเป็นพระเอ๊กพระเอก ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ทั้งดี ส่วนที่ว่าเคยเป็นฮีโร่ของเราคงจะเป็นเมื่อตอนเราเด็กๆ อ่ะค่ะ เพราะสำหรับตอนนี้รู้สึกจะเข็ดฮีโร่ และคงจะเปลี่ยนใจไปชอบแอนตี้ฮีโร่ซะและล่ะ เพราะรู้สึกว่าภาพของฮีโร่นั้น มักจะเป็นภาพที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนหลงเท่านั้นเอง สุดยอดคนอย่างจูล่งนี่ ก็ไม่รู้จะมีจริงๆ หรือเปล่า
แต่ตอนเด็กๆ คลั่งไคล้จูล่งเอามากๆ แต่ไม่ใช่ตอนที่อ่านสามก๊กครั้งแรก แต่เป็นตอนที่ได้ไปอ่านฉบับของ "ยาขอบ" ซึ่งจะเขียนถึงตัวละครเด่นๆ ในสามก๊กทีละตัว ตัวละเล่ม เล่มของจูล่งนี่ "ยาขอบ" ตั้งชื่อหนังสือว่า "จูล่ง วีรบุรุษแห่งเสียงสาน" ฉายาที่ต่อท้ายชื่อของตัวละครอย่างของจูล่งนี่ ซึ่งค่อนข้างจะติดปากคนอ่านไปแล้ว อย่างเช่น "ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร" "เล่าปี่ ผู้พนมมือทั้งสิบทิศ" และ "โจโฉ ผู้ไม่ยอมให้โลกทรยศ" เราเข้าใจว่า "ยาขอบ" น่าจะเป็นคนที่คิดฉายาพวกนี้ขึ้นมา เพื่อตั้งเป็นชื่อหนังสือชุดสามก๊กฉบับวณิพกของท่านเองนะคะ โดยตั้งขึ้นมาจากการที่ "ยาขอบ" สรุปลักษณะเด่นของตัวละครแต่ละตัว
ตอนอ่านสามก๊กฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" จำได้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านสนุกมากๆ ดังนั้น พอเห็น "ยาขอบ" บอกว่า ใช้ข้อมูลจากสามก๊กฉบับภาษาอังกฤษของบริวิต เทเลอร์ เพราะความที่ชอบฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" มากๆ เลยไปพยายามหาหนังสือสามก๊กฉบับภาษาอังกฤษที่ว่านั้นดูที่ห้องสมุด แต่ก็ไม่เจอ
ส่วนตอนที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจจูล่งสุดๆ ก็คงจะตอนที่คนอ่านสามก๊กคุ้นเคยกันดี คือตอนที่จูล่งบุกเดี่ยวไปช่วยอาเต๊ากลางสนามรบ รู้สึกจะชื่อตอน "จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า" กับอีกตอนนึงตอนที่เล่าปี่ไปง่อก๊ก แล้วขงเบ้งให้จูล่งเพียงคนเดียวติดตามไปคุ้มครองเล่าปี่
ตอนที่อ่านรู้สึกตอนนี้จูล่งช่างเท่ห์สุดๆ กล้าหาญสุดๆ ถ้าเป็นในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ จูล่งก็ต้องได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์แหง็มๆ แล้วขงเบ้งสั่งให้ไปคนเดียว พี่แกก็ไปคนเดียว ไม่เคยมีการสงสัยในคำสั่งของขงเบ้ง แล้วแค่จูล่งคนเดียวยืนเฉยๆ อย่างสุภาพ อยู่ข้างหลังเล่าปี่ แค่นี้ก็ทำเอาทหารทั้งง่อก๊กต้องระย่อครั่นคร้าม กิตติศัพท์การบุกเดี่ยวช่วยลูกชายเล่าปี่ของจูล่ง ทำให้ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดแตะต้องเล่าปี่แม้แต่ปลายเล็บ
ส่วนตอนที่จูล่งบุกเดี่ยวช่วยอาเต๊านี่ เป็นตอนที่ผู้แต่งสามก๊กแต่งได้เยี่ยมมากอีกตอนนึง เป็นตอนที่มีจุดซาบซึ้งสะเทือนใจหลายจุด สามก๊กนี่เป็นนิยายรุ่นเก่าที่เขียนด้วยสำนวนที่ไม่ได้ทันสมัยเหมือนกับแฮร์รี่ พอตเตอร์หรือหนังสือสมัยนี้ แต่เขียนได้อย่างมีสีสันมากๆ ตอนจูล่งบุกเดี่ยวช่วยอาเต๊านี่ แหม! มันช่างเท่ห์ประทับใจจ๊อดอะไรจะขไหนขนาดนี้ แล้วจูล่งนี่มีเอกลักษณ์คือใส่ชุดขาวตลอด จำได้ตอนนี้หนังสือบรรยายอย่างตื่นตาตื่นใจว่า ชุดขาวๆ ของจูล่งซึ่งอยู่บนหลังม้า เมื่อเคลื่อนไปทางไหนในสนามรบ ก็จะกลายเป็นสีแดงฉาน ซึ่งมาจากเลือดของทหารฝ่ายศัตรู ที่สังเวยคมทวนของจูล่ง (จำไม่ได้ว่าจูล่งใช้ดาบหรือทวน แต่น่าจะเป็นทวน)
ส่วนตอนที่ไปเจอตัวอาเต๊าก็เศร้าสะเทือนใจสุดๆ เพราะอาเต๊าอยู่กับฮูหยินรองของเล่าปี่ ซึ่งเป็นแม่รองคือไม่ใช่แม่จริงของอาเต๊า จูล่งจะช่วยทั้งฮูหยินรองกับอาเต๊า แต่ฮูหยินรองได้รับบาดเจ็บเลยเสียสละชีวิตโดดบ่อฆ่าตัวตาย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้จูล่ง เดี๋ยวจะพากันตายทั้งหมด แต่อาเต๊าตายไม่ได้เพราะเป็นทายาทคนเดียวของเล่าปี่ อ่านแล้วสะเทือนใจสุดๆ นับถือความใจเด็ดและการเห็นแก่ส่วนรวมของฮูหยินรองของเล่าปี่มากๆ ถ้าเธอไม่พลีชีพทั้งจูล่งและอาเต๊าคงจะไม่รอด ทั้งๆ ที่อาเต๊าไม่ใช่ลูกของเธอด้วยซ้ำ
แล้วพอตอนจูล่งต้องพาอาเต๊าฝ่าทหารทั้งสนามรบกลับไปหาเล่าปี่ คนแต่งก็แต่งได้สุดยอดตื่นเต้นสนุกสุดๆ เพราะจูล่งไม่สามารถจะอุ้มอาเต๊าได้เพราะจะทำให้รบไม่ถนัด ต้องเอาอาเต๊าซึ่งยังเป็นทารกแบเบาะยัดใส่เข้าไปในเสื้อเกราะ และอธิษฐานว่า ถ้าอาเต๊ามีบุญจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินของจ๊กก๊กต่อไปในภายภาคหน้า ก็ขออย่าให้เป็นอันตรายใดๆ พอจูล่งช่วยอาเต๊ากลับไปหาเล่าปี่ได้สำเร็จ ตอนที่ยังไม่แก้เกราะเอาอาเต๊าออกมา จูล่งนึกว่าอาเต๊าตายแล้ว เพราะไม่ร้องเลยซักแอะ แต่ที่ไหนได้ พอแก้เกราะออกมา อาเต๊ายิ้มแฉ่ง ไม่เป็นอันตรายใดๆ เลยซักนิด จูล่มดีใจสุดขีดยิ้มหน้าบาน ที่ช่วยลูกนายได้สำเร็จ แต่พอส่งอาเต๊าให้เล่าปี่ เล่าปี่กลับโยนลูกทิ้ง จูล่งรับแทบไม่ทัน แล้วเล่าปี่ก็ด่าลูกว่าเป็นต้นเหตุทำให้ทหารเอกคือจูล่งเกือบตาย ทำให้จูล่งซาบซึ้งมาก แต่เราว่าเล่าปี่ตอนนี้สร้างภาพมากไปหน่อย แต่จูล่งเป็นคนซื่อ คงจะดูไม่ออก เลยซาบซึ้งกับเล่าปี่เอามากๆ เรียกว่าตอนนี้เล่าปี่ใช้กลยุทธ์ "โยนลูกซื้อใจทหารเอก"
ตอนอ่านสามก๊กรู้สึกว่า เวลาขงเบ้งจะเลือกใช้ทหารเอกที่สามารถทำงานได้อย่างหมดจด และแน่ใจว่าจะไม่มีการนอกคำสั่ง จะปฏิบัติตามคำสั่งของขงเบ้งอย่างเคร่งครัดล่ะก็ จะต้องใช้จูล่งเสมอ และจูล่งก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง จูล่งนับเป็นทหารอาชีพตัวอย่าง เพราะมีวินัยสูงและไม่เคยทำนอกคำสั่ง
จูล่งยังเป็นคนที่ใครๆ ก็รัก เพราะนอกจากจะเก่งแสนเก่ง นิสัยดีสุดๆ แล้ว ยังเป็นคนถ่อมตัว ไม่โอ้อวด เล่าปี่นั้นรักจูล่งมาก จนรู้สึกว่าจะนับจูล่งเป็นน้องร่วมสาบานคนสุดท้องด้วย แม้จะไม่ได้ร่วมสาบานที่สวนดอกท้อด้วยกัน เหมือนกวนอูกับเตียวหุย ส่วนกวนอูกับเตียวหุยก็รักจูล่งเหมือนน้องเช่นกัน เตียวหุยดูจะเอ็นดูจูล่งเป็นพิเศษด้วยเพราะแซ่เตียวเหมือนกัน ความจริงชื่อเต็มของจูล่งคือ เตียวจูล่ง ส่วนคำว่า จูล่ง แปลว่า ลูกมังกร ส่วนขงเบ้งก็รักจูล่งมากเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดตอนจูล่งตาย ขงเบ้งร้องไห้รักเสียดายจูล่งอย่างมาก และกล่าวสรรเสริญจูล่งมากมายด้วย
จูล่งนี่ท่าจะต้องเอ็กเซอร์ไซส์ฟิตเนสเป็นประจำ เพราะอายุยืนถึง 70 กว่าแถมยังออกรบได้ด้วย และเท่าที่จำได้ไม่เคยแพ้ใครเลยนะ มีครั้งนึงตอนอายุ 70 กว่านี่แหละ ขงเบ้งใช้ทหารเอกคนอื่นไปรบหมด แต่ไม่ใช้จูล่ง จูล่งถึงกับไปต่อว่าขงเบ้งด้วยความน้อยใจว่าเห็นว่าตัวเองแก่หรือเนี่ย ถึงไม่ยอมเรียกใช้อ่ะ แต่ต่อว่าด้วยความสุภาพนะ เพราะจูล่งเป็นคนสุภาพมาก ชนิดที่ว่า ถ้าไม่บอกว่าเป็นทหารเอกนี่ คนนึกว่าเป็นบัณฑิตไปซะงั้น นี่แหละ ยอดคนงำประกายตัวจริง
ทั้งหมดนี้เขียนจากความจำนะคะ ถ้าจำผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปบ้างต้องขออภัย ช่วยทักท้วงด้วยค่ะ