ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

รวมรูปภาพ เทพพราหมณ์-ฮินดู - เทพนพเคราะห์

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์


ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพเทพพราหมณ์ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:21:00 PM »


พระแม่กาลี หรือ กากิลา (काली, Kālī, แปลว่า หญิงดำ) เป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวี ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีกายสีดำสนิท มีลักษณะดุร้าย มี ๑๐ พระกร ถืออาวุธร้ายอยู่ในพระกรทั้งสิบนั้น แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก ที่ริมฝีปากมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว เครื่องประดับเป็นหัวกะโหลก มีงูใหญ่ร้อยคาดองค์ดั่งสังวาลย์

พระแม่กาลี หรือ เจ้าแม่กาลี มีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง มีเทวานุภาพอันแรงกล้า สร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรอย่างรุนแรง เด็ดขาด แฝงเร้นไว้ซึ่งความน่ากลัว ผู้บูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และอำนาจเหนือผู้อื่น

พระแม่กาลี ยังมีพลังอำนาจในการขจัดคุณไสย ลบล้างไสยเวทย์ด้านมืด หากบุคคลใดถูกกระทำทางไสยศาสตร์ เมื่อผู้นั้นได้สวดบูชาอ้อนวอนต่อพระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านก็มักให้พร ขจัดสิ่งอาถรรพ์ชั่วร้ายให้มลายหายไป

ผู้ใดกระทำการสวดบูชา สรรเสริญ และถวายเครื่องสังเวยแด่พระแม่กาลีเป็นประจำ พระองค์ท่านจะประทานความปลอดภัยมาสู่ผู้นั้น ทรงดลบันดาลให้เกิดความสันติผาสุกแก่ผู้ครองเรือนทั่วไป คุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุร้ายแรง

พระแม่กาลีทรงมีบุคลิกภาพที่ยากแก่การเข้าใจ มีความลึกลับที่สุดในบรรดาเทพเทวาทั้งปวง พระนางมีความดุดัน เกรี้ยวกราด รูปลักษณ์และอุปนิสัยล้วนเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว แต่พระนางก็จะทำลายเฉพาะอสูร ปีศาจ และมนุษย์ที่กระทำการชั่วร้ายเท่านั้น เนื่องจากพระแม่กาลีก็คือเทพ และเทพก็มักปกป้องคุ้มครองผู้กระทำความดีเช่นเดียวกันทุกพระองค์ ฉะนั้น แม้ผู้ที่บูชาพระแม่อย่างเคร่งครัด แต่เป็นคนที่ไม่ดี มีความคิดที่ชั่วร้าย เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น พระแม่ท่านก็จะทำลายบุคคลผู้นั้นเสียโดยไม่ละเว้น

ตำนานกล่าวว่า พระอุมาซึ่งอยู่ในปางอัมพิกา พระสิริโฉมงดงามเสด็จสู่สนามรบ เมื่อเหล่าอสูรได้เห็นก็พยายามจะได้นางเป็นชายา แต่นางได้ต่อสู้กับเหล่าอสูรด้วยความพิโรธ ในปางพระแม่กาลี จนอสูรทั้งหลายตายจนเกือบหมด เหลือเพียงมาธูอสูร ที่ทรงสังหารอย่างไรก็ไม่ตาย เพราะเคยได้รับพรจากพระศิวะให้มีชีวิตเป็นอมตะ หากเลือดหยดถึงพื้นดินก็จะเกิดเป็นอสูรอีกมากมายไม่สิ้นสุด [1] ร้อนถึงพระศิวะ ทรงประทานวิธีให้พระแม่กาลีดื่มเลือดอสูรทุกครั้งอย่าให้ตกถึงดิน มาธูอสูรจึงถึงแก่ความตาย

หลังจากชนะอสูรมาธู พระนางทรงดีพระทัย กระโดดเต้นเพื่อฉลองชัยชนะ แต่ด้วยตบะอันแรงกล้าทำให้เกิดความเดือดร้อน ต่อด้วยโลกธาตุทั้งปวงเมื่อพระนางกระทืบพระบาท พระศิวะจะเข้าห้ามปรามก็เกรงความดุร้ายของพระนาง จึงใช้อุบายทรงทอดพระกายลงบนพื้นที่พระนางจะกระทืบพระบาท เมื่อพระกาลีเห็นพระศิวะที่พื้น ด้วยปางหนึ่งที่เป็นพระปารวตี ซึ่งรักและภักดีในพระศิวะยิ่ง ก็ทรงชะงัก และแลบลิ้นด้วยความขวยเขิน [2]

การบูชาพระแม่กาลี ต้องใช้เลือดบริสุทธิ์ ในอดีตมีการใช้หญิงพรหมจารีย์ไปบูชายัญด้วยเลือดจากลำคอ แต่เมื่ออังกฤษเข้าปกครองอินเดีย ได้สั่งห้ามการฆ่าคนเพื่อบูชายัญ ปัจจุบันนี้การบูชาพระแม่กาลีใช้เลือดแพะแทน

จากการที่พระแม่กาลีเป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวีที่ดุร้าย มีรูปลักษณ์คล้ายปีศาจและใช้เลือดและชีวิตในการบูชายัญ จึงมีความเข้าใจผิดกันว่า พระแม่กาลีเป็นเทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย ในสำนวนภาษาไทยจึงมีคำว่า "กาลี" ซึ่งหมายความว่า สิ่งที่ชั่วร้าย เช่น "กาลีบ้านกาลีเมือง" หมายถึง "สิ่งที่ชั่วร้ายต่อบ้านเมือง" เป็นต้น บ้างก็ว่าเจ้าแม่กาลีเป็นเทพเจ้าที่โจรบูชา แต่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าคนไม่ดีบูชาเจ้าแม่กาลี ก็จะมีอันเป็นไปในเร็ววัน

วิธีการบูชาเจ้าแม่กาลีจะต้องถวายน้ำแดง และดอกไม้แดงในเช้าวันเสาร์ การนำบูชาครั้งแรกให้นำผงแดงและผงขาวมาด้วย โดยเปิดฝาไว้ข้างๆ องค์เจ้าแม่กาลี 7 วัน 7 คืน จากนั้นให้ปิดฝา ผู้บูชาต้องสวดบทบูชาเจ้าแม่กาลีทั้งเช้าเย็นว่า"โอม มหากาลี เจนะมะฮา"ครั้งละ 3 จบ ตอนเช้าถวายน้ำแดง ตอนบ่ายลาท่านมารับประทาน จะช่วยแก้ไขสิ่งอัปมงคลที่เข้ามาในร่างกายได้ เจ้าแม่กาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยคือที่วัดแขก สีลม ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมโดนรังแก สามารถไปไหว้ท่านเพื่อแก้ไขดวงชะตาได้

credit : วิกิพีเดีย

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพเทพพราหมณ์ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:25:54 PM »
พระศิวะ พระอุมา

















พระอุมา








พระศิวะ






ดวงตาที่สามของพระศิวะ




พระกฤษณะ



ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพเทพพราหมณ์ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:27:06 PM »
พระอุมา



พระแม่อุมาเทวี เทวีแห่งพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่
http://file.siam2web.com/paramatee/20101023_45871.jpg

พระอุมาเทวี (เทวนาครี) หรือพระศรีมหาอุมา หรือ ปาร วตี เป็นธิดาของท้าวหิมวัตและพระนางเมนกา พระอุมาเป็นชายาขององค์พระศิวะบรมเทพแห่งสวรรค์ มีพระโอรส 2 พระองค์ คือ พระบรมเทพขันทกุมาร ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม และ พระบรมเทพศรีมหาคเนศ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการขจัดอุปสรรคทั้งมวล พระอุมานั้นทรงมีหลายปางด้วยกันแต่ปางที่เป็นที่รู้จักมากคือ

ปางพระแม่กาลี (พะนางกรีกกาลราตรี) โดยมีลักษณะดังนี้ มี 10 พระกร ถืออาวุธครบมือ แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก เครื่องประดับเป็นหัวกระโหลก สังวาลเป็นงูมีลักษณะดุร้าย
พระศรีมหาทุรคาเทวีโดย มีลักษณะดังนี้ มี 8 ถึง 12 พระกร ลักษณะดุทรงเสื้อ เทศกาลที่มีการบูชาพะอุมาคือเทศกาลนวราตรีคุเซราห์
บางตำนานกล่าวว่า พระอุมา เดิมกำเนิดในร่างมนุษย์ นามว่า สตี เป็นธิดาของพระทักษะประชาบดี มีพระขนิษฐาพระนามว่าพระคงคา ได้เป็นชายาของพระศิวะ ที่ทรงอวตารลงมาในภาคของมุนีภพ ไว้ผมหนวดเครารุงรัง นำกระดูกมาร้อยเป็นสังวาลสวมคอ นอนตามป่าช้า มีกลิ่นตัวเหม็นสาบ เป็นที่รังเกียจของพระทักษะ แต่ด้วยบารมีของพระนางสตี จึงมองเห็นรูปกายที่แท้จริงว่าพระมุนีองค์นี้ ว่าเป็นภาคหนึ่งขององค์พระศิวะ

ด้วยความรังเกียจ พระทักษะประชาบดี จึงได้ลบหลู่เกียรติของพระศิวะในงานพิธี พระนางสตีจึงทรงเข้าตบะเพื่อขับเพลิงออกมาจากร่าง เพื่อสังหารพระองค์เอง (บางตำรากล่าวว่า พระนางกระโดดเข้ากองไฟ) ด้วยความพิโรธ พระศิวะทรงส่งอสูรชื่อ วีรภัทร ไปทำลายงานพิธี และตัดศีรษะพระทักษะประชาบดี ต่อคืนด้วยหัวแพะที่ใช้บูชายัญในพิธีนั้น พระศิวะทรงเศร้าโศกเสียใจด้วยความรักที่มีต่อพระนางสตี จึงทรงทรงพาร่างของพระนางสตีออกไปจนสุดจักรวาล และบำเพ็ญพรตบารมีอยู่เป็นเวลานาน ต่อมาพระนางได้กลับมาเกิดเป็นธิดาของท้าวหิมวัตและพระนางเมนกา และเป็นชายาของพระศิวะอีกครั้ง ในร่างของพระอุมาเมวี (ปารวตี)

ชาวอินเดียที่นับถือพระศิวะ และพระอุมา มีพิธีกรรมที่เรียกว่า สตี เมื่อสามีเสียชีวิต ภรรยาจะฆ่าตัวตายตามโดยกระโดดเข้ากองไฟ เพื่อบูชาความรักและการเสียสละของพระนางสตี ที่มีต่อพระศิวะ ในบางครั้งภรรยาของผู้ตายไม่ยินยอมเข้าพิธีสตี ก็ยังถูกญาติพี่น้องของสามี บังคับให้เผาตัวตายตาม พิธีบูชายัญนี้ถูกระงับไปเมื่ออินเดียตกอยู่ในการปกครองของอังกฤษ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18


รูปบูชาพระแม่อุมา แบบมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป
พระแม่อุมาเทวี เทพแห่งชัยชนะ
ชายาแห่งพระศิวะ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่
พระแม่อุมาเทวี... เจ้าแม่อุมา หรือ ปารวตี คือพระนามแห่งพระ แม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล เป็นเทวีแห่งอำนาจวาสนาและบารมีอันสูงสุด พระองค์ทรงประทานยศถาบรรดาศักดิ์ และความเป็นใหญ่แก่ผู้หมั่นบูชาต่อพระองค์อย่างสม่ำเสมอ..!!!

อำนาจแห่งพระแม่อุมานั้น ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบได้ พระองค์ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ประทานกำลังวังชาแห่งอิสตรี ทำลายสิ่งชั่วช้า ตลอดจนประทานบริวารและอำนาจในการปกครอง พระองค์ยังทรงประทานพรด้านความสมบูรณ์ ความอิ่มเอม ความผาสุขในการครองเรือน ครอบครัวที่เปี่ยมสุข ตลอดจนการคุ้มครองผู้ศรัทธาให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

พระแม่อุมา ทรงเป็นมารดาแห่ง พระพิฆเนศ... เป็นชายาแห่ง พระ ศิวะ มหาเทพผู้ทำลายโลก 1 ใน 3 แห่ง พระ ตรีมูรติ พระแม่อุมาจึงเป็น 1 ใน 3 แห่งพระตรีศักติ ด้วย (ตรีศักติ หมายถึง พระแม่ทั้งสาม ได้แก่ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวตี) พระองค์มีวิมานสถิต ณ เขาไกรลาส เช่น เดียวกับพระศิวะเทพ มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์คือ โยนี (ฐานรองศิวลึงก์) มีทิพยรูปเป็นหญิงที่งดงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เป็นมารดาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง ฉลองพระองค์ด้วยอาภรณ์หลากสีสัน ประดับด้วยทองคำอย่างวิจิตร



รูปภาพบูชาพระศิวะและพระแม่อุมา ขาว-ดำ-ทอง สวยงามแปลกตา

พระศิวะและพระแม่อุมาเทวี
image from dollsofindia.com

พาหนะแห่งพระแม่อุมาเทวี คือ เสือ อันหมายถึงพลังอำนาจ ความยิ่งใหญ่ และความสง่างาม

ศาสตราวุธ แห่งพระแม่ อุมาเทวีคือ
- ตรีศูล เป็น สัญลักษณ์แห่งการปราบปรามสิ่งชั่วร้าย และ
- ดาบ คือสัญลักษณ์แห่งความเฉียบขาด เป็นผู้ตัดสิน และอยู่เหนือผู้อื่น

พระแม่อุมาเทวี (เจ้าแม่อุมา) มี อวตารอยู่หลายปาง ปางที่สำคัญที่สุดอีก 2 ปางจากพระแม่อุมา คือ ปางพระแม่ทุรคา (ทุรกา) และ ปางพระแม่กาลี (เจ้าแม่กาลี) อ่านได้จากบทความตำนานพระแม่ทุรคาและพระแม่กาลี ในบทต่อๆไป

อีกปางหนึ่งที่อยากแนะนำ แต่ไม่ค่อยมีคนไทยรู้จัก นั่นคือ ปางพระแม่อุมาตากี คือการอวตารของพระแม่อุมาเทวี ที่รวมเอาพระแม่อีก 2 พระองค์เข้าไว้ด้วย คือ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี ได้อวตารรวมเป็นร่างเดียวกัน เหมือนกับพระตรีมูรติ นิยมนับถือกันในหมู่ผู้นับถือนิกายศักติ หรือนิกายที่นับถือเฉพาะเทพสตรีทั้ง 3 พระองค์ว่ายิ่งใหญ่เหนือกว่า พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ อันเป็นเทพบุรุษสูงสุดแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

credit : http://paravatee.blogspot.com/

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพเทพพราหมณ์ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:30:24 PM »


พระวิษณุ (พระนารายณ์) 

พระวิษณุ มหาเทพแห่งจักรวาล 

พระวิษณุ (พระนารายณ์)
มหาเทพผู้ปกปักรักษาโลกมนุษย์
พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ คือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นหนึ่งใน 3 มหาเทพสูงสุด อันได้แก่ พระพรหม-พระวิษณุ-พระศิวะ
พระวิษณุ มหาเทพผู้ประทานความสงบสุข และประทานพรทุกๆประการแก่ผู้จงรักภักดีพระวิษณุและพระแม่ลักษมี ณ เกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม ที่ประทับแห่งพระวิษณุนารายณ์)  image from dollsofindia.com
พระพรหม หรือ พระพรหมมา เป็นมหาเทพ ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ เป็นมหาเทพ ผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่ง
พระศิวะ หรือ พระอิศวร เป็นมหาเทพ ผู้ทำลายทุกสรรพสิ่ง

มหาเทพทั้ง 3 พระองค์นี้ เมื่อรวมกันจะเรียกว่า พระตรีมูรติ องค์พระเป็นเจ้าแห่งพลังอำนาจทั้งสามประการ ผู้เป็นพระเป็นเจ้าแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง

พระวิษณุ ทรงมีเทวานุภาพขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง พระองค์ทรงคุ้มครองทุกสรรพชีวิต ทรงบันดาลอำนาจวาสนาแก่มนุษย์ทุกคนที่ระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ อสูรและเหล่ามารทุกตนล้วนแล้วแต่เกรงกลัวอานุภาพแห่งพระองค์
พระวิษณุ อวตารเป็น พระกฤษณะ และพระนางราธาเทวี ชายาผู้อยู่เคียงข้างพระองค์เสมอ image from dollsofindia.com
พระวิษณุยังอวตารไปเป็น พระกฤษณะ (มหาเทพผู้ให้กำเนิดคัมภีร์ภควัทคีตา ในมหากาพย์เรื่องมหาภารตะ)
พระวิษณุ อวตารเป็น พระราม ปราบ ทศกัณฑ์ ในเรื่องรามเกียรติ์ หรือ รามายณะ image from dollsofindia.com พระกฤษณะและพระนางราธา image from dollsofindia.com 
อวตารไปเป็น พระราม (มหาเทพแห่งความยุติธรรม ในมหากาพย์รามายณะ หรือ รามเกียรติ์)

และ อวตารไปเป็น พระพุทธเจ้า (ก่อให้เกิดศาสนาพุทธในภายหลัง ตามปุราณะของศาสนาพราหมณ์)

พระวิษณุยังอวตารไปเป็นเทพเจ้าองค์อื่นๆ อีกถึง 10 ปาง (หรือ นารายณ์ 10 ปาง) และอวตารมากกว่า 10 ปางในบางปุราณะ เพื่อภารกิจปกป้องโลกมนุษย์จากอสูรชั่วร้าย
พระวิษณุเทพ มีพระชายาคือ พระแม่ลักษมี พระแม่เจ้าผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ และความผาสุกแก่ผู้ศรัทธา ผู้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างพระวิษณุ และคอยอวตารไปเป็นชายาพระวิษณุในทุกๆภารกิจ


พระวิษณุเทพและพระแม่ลักษมีเทวีมักอวตารไปคู่กันเสมอเช่น พระวิษณุอวตารเป็นพระราม พระแม่ลักษมีเป็นพระแม่สีดาพระวิษณุอวตารเป็นพระกฤษณะ พระแม่ลักษมีเป็นราธาเทวี



      พระวิษณุ เป็นผู้ประทานแสงสว่างส่องกระจายไปยังทุกสากลโลก ทรงล่วงรู้ความเป็นไปทุกอย่าง ทรงล่วงรู้ความนึกคิดภายในจิตใจของสรรพชีวิต ทรงตัดสินปัญหาด้วยสำนึกอันสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้า ทรงขจัดบาปและความขัดข้องแก่ผู้ปฏิบัติโยคะและนั่งสมาธิระลึกถึงพระองค์

       พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ มักปรากฎให้ประจักษ์ในรูปกายอันงดงามที่สุด ฉลองพระองค์ด้วยอาภรณ์สดใส สว่างราวกับทองคำ เรือนร่างประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์อันวิจิตรตระการตา มีความอ่อนโยน ยิ้มแย้มอยู่เสมอ พระองค์โปรดการเอื้อเฟื้อ โปรดการมอบความสุขแก่มวลมนุษย์ พระองค์เป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิฐานและการชนะทุกสิ่ง
ที่ประทับของพระวิษณุ
       สวรรค์ที่พระวิษณุประทับอยู่นั้น จะอยู่ในมหาสมุทร เรียกว่า เกษียรสมุทร อันเป็น ทะเลน้ำนม ร่วมกับพระชายา (พระแม่ลักษมี) พระองค์จะประทับอยู่ที่นั่นเสมอ และคอยรับฟังปัญหาต่างๆ จากเหล่าฤาษี เทวดา และมนุษย์ ทั้งพระวิษณุและพระแม่ลักษมี จะอยู่เคียงข้างกับผู้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีเสมอ



พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี เสด็จไปทุกหนแห่งด้วย "พญาครุฑ" สัตว์เทพผู้เป็นสหายและพาหนะแห่งพระองค์
image from dollsofindia.com

 สัตว์บริวาร
1. พญาครุฑ เป็น พาหนะบริวาร
พระวิษณุจะทรงพญาครุฑไปทุกหนทุกแห่ง ยามเสด็จในภารกิจต่างๆ
2. พญานาค เป็น บัลลังค์บริวาร
พระวิษณุจะประทับบนพญานาค ณ เกษียรสมุทร
ในยามว่าง หรือ ขณะบรรทม
ศาสตราวุธ
หรือ อาวุธ แห่งพระวิษณุ ที่ปรากฎให้เห็นบ่อยที่สุด ได้แก่
1. หอยสังข์
2. จักร
3. คฑา
4. พระขรรค์
5. ลูกศร, ธนู
6. ดอกบัว

นิกาย
นิกายที่นับถือพระวิษณุเป็นใหญ่สูงสุด คือ นิกายไวษณพ และในไวษณพนิกายนี้ ยังแบ่งออกเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่อีก 3 นิกายหลักๆ จากหลายร้อยนิกาย คือ
1. นิกายที่นับถือพระวิษณุในตัวพระองค์เอง และทุกๆอวตารของพระองค์
2. นิกายที่นับถือพระวิษณุในอวตาร พระกฤษณะ เป็นพิเศษ (ศึกษาคัมภีร์ภจากมหากาพย์มหาภารตะ)
3. นิกายที่นับถือพระวิษณุในอวตาร พระราม เป็นพิเศษ (ศึกษาคัมภีร์จากมหากาพย์รามายณะ)
4. นิกายที่นับถือพระวิษณุในอวตาร พระพุทธเจ้า เป็นพิเศษ (ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า)
พระวิษณุหรือพระนารายณ์ คือมหาเทพที่ชาวไทยสามารถเห็นได้บ่อยที่สุดและมากที่สุด ในภาพเขียนศิลปะตามประตูและผนังวัดต่างๆ เนื่องจากพระวิษณุเป็นมหาเทพที่กษัตริย์ ราชาในอดีต ทั้งอินเดีย เนปาล พม่า กัมพูชาและไทย ทรงมีพระราชศรัทธามากกว่าเทพองค์อื่นๆ

ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา เมื่อเราเข้าไปยังวัดต่างๆและมองขึ้นไปบนหน้าบัน ก็มักจะเห็นรูปปั้นหรือภาพเขียน พระนารายณ์ทรงครุฑ (หรือ นารายณ์ทรงสุบรรณ) และตัวละครในเรื่อง รามเกียรติ์ อยู่แทบจะทุกแห่ง รวมทั้ง หนุมาน เทพ เทวดา ฤาษี และ ยักษ์ ที่เฝ้าประตูวัดทุกแห่งในประเทศไทย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นยักษ์ในมหากาพย์เรื่องรามเกียรติ์ทั้งสิ้น



...มนุษย์เจ้าเอ๋ย...
คราใดที่ฝ่ายธรรมะในโลกมนุษย์เกิดเสื่อมถอย
และฝ่ายอธรรมกำเริบเสิบสาน
ยามนั้น เราจักมาปรากฎ
เพื่อคุ้มครองผู้ภักดี...และลงโทษผู้ประพฤติบาป
โองการศักดิ์สิทธิ์แห่งพระวิษณุ



      พระวิษณุ คู่กับ พระแม่ลักษมี รูปปั้นลักษณะนี้มักปรากฎตามวัดฮินดูใน "ไวษณพนิกาย"ตามคติความเชื่อของไวษณพนิกายนั้น พระวิษณุ เป็นมหาเทพที่ทรงอำนาจเหนือเทพองค์ใดๆในสามโลก ชาวไวษณพถือว่า พระวิษณุได้มีอยู่ก่อนแล้ว เป็นผู้ให้กำเนิดวงจรต่างๆในจักรวาล จากนั้นพระองค์ประสงค์จะสร้างโลกและสรรพชีวิตขึ้น จึงให้กำเนิด พระพรหม โดยพระพรหมได้ผุดขึ้นมากลางสะดือของพระวิษณุ เพื่อภารกิจสร้างโลกมนุษย์ พระวิษณุจึงเป็นผู้ออกคำสั่งให้พระพรหมสร้างโลกในคติความเชื่อนี้
image from exoticindiaart.com

นารายณ์ 10 ปาง อวตารสำคัญแห่งองค์พระวิษณุเทพ image from hindujagruti.comพระวิษณุ อวตารใน นรสิงหาวตาร image from dollsofindia.com

นารายณ์ 10 ปาง...อวตารแห่งพระวิษณุในยุคต่างๆ

ยุคที่ 1 : กฤดายุค
(มนุษย์ตั้งอยู่ในศีลธรรม ประพฤติตนเป็นคนดี มีจิตสำนึก พระวิษณุจึงปรากฎวรรณะเป็นสีขาว)

1. มัตสยาวตาร - อวตารเป็นปลาใหญ่
ปราบสังขอสูร หรือ หัยครีพอสูร ผู้ขโมยคัมภีร์พระเวทของพระพรหมไปในขณะที่พระพรหมบรรทม
2. กูรมาวตาร - อวตารเป็นเต่ายักษ์
หรือ กัจฉปาวตาร อวตารเพื่อปราบอสูรมัจฉา ที่คิดจะทำลายเขาพระสุเมรุให้พังทลาย
3. วราหาวตาร - อวตารเป็นหมูป่า
ปราบอสูรนาม เหรัญยักษ์ ผู้ต้องการม้วนแผ่นดินไปทิ้งบาดาล
4. นรสิงหาวตาร - อวตารเป็นมนุษย์กึ่งสิงห์
ปราบหิรัณตะอสูร ผู้ก่อกวนให้ทวยเทพเกิดความไม่สงบสุขบนสวรรค์

ยุคที่ 2 : ไตรดายุค
(ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไป 1 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงปรากฎวรรณะเป็นสีแดง)

5. วามนาวตาร - อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย
หรือ ทวิชาวตาร คือ พราหมณ์ร่างเตี้ย เพื่อปราบ ตะวันตาอสูร ผู้ก่อกวนรังแกมนุษย์และสรรพสัตว์
6. ปรศุรามาวตาร - อวตารเป็นพราหมณ์ถือขวาน
อวตารเพื่อปราบกษัตริย์การตวิรยะ ผู้ก่อกวนเหล่าพราหมณ์

ยุคที่ 3 : ทวาบรยุค
(ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไปเป็น 2 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงเปลี่ยนวรรณะเป็นสีเหลือง)

7. รามาวตาร - อวตารเป็นพระราม
ในมหากาพย์รามายณะ หรือ รามเกียรติ์
อีกพระนาม คือ รามจันทราวตาร อวตารเพื่อปราบ ยักษ์ทศกัณฐ์
8. กฤษณาวตาร - อวตารเป็นพระกฤษณะ
ในมหากาพย์มหาภารตะ และ คัมภีร์ภควัทคีตา
ปราบท้าวพาณาสูร และปราบอสูรนามพญากงส์ เป็นสารถีขับรถม้าให้แก่ อรชุน ในสงคราม ณ ทุ่งคุรุเกษตร

ยุคที่ 4 : กลียุค (ยุคปัจจุบัน)
(ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไปเป็น 3 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงเปลี่ยนวรรณะเป็นสีดำ)

9. พุทธาวตาร - อวตารเป็นพระพุทธเจ้า (จนถึงยุคปัจจุบัน)
อวตารเพื่อเอาศิวลึงก์คืนมาจากท้าวตรีปุรัม ปราบท้าววัสดีมาร และเพื่อมาประทานธรรมะแก่ชาวโลก
10. กัลกยาวตาร - อวตารเป็นพระกัลกิ หรือ บุรุษผู้ขี่ม้าขาว( ยังไม่อวตาร จะมาปรากฎในอนาคต)บุรุษขี่ม้าขาว ยังไม่ปรากฎในปัจจุบัน โดยพระองค์จะอวตารมาในอนาคตทำนองเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตยในศาสนาพุทธ

องค์เทวรูปพระวิษณุและแม่ลักษมีหินอ่อน ในวัดวิษณุ ยานนาวา กรุงเทพ ภาพจากเว็บไซต์วัดวิษณุ vishnutemple.com image from photobucket.com

แท่นบูชาพระวิษณุ
โต๊ะ หิ้ง หรือแท่นบูชาพระวิษณุ ควรปูด้วยผ้า สีทอง สีเหลือง สีแดง หรือสีขาว (ห้ามสีดำล้วน ถ้าสีดำควรมีลายทอง) เครื่องบูชาถ้าเป็นโลหะควรเป็นสีทอง ถ้าเป็นหินอ่อนควรเป็นสีขาว เช่น เชิงเทียนควรทำจากโลหะทองเหลือง หรือกระถางธูปควรเป็นหินอ่อน (แต่ก็เป็นในแง่ของสัญลักษณ์และความหมายเท่านั้น หากจัดหาไม่ได้ก็ให้จัดวัสดุหรือสีอื่นทดแทนได้)
ดอกไม้บูชาพระวิษณุ
พระองค์โปรดดอกไม้ทุกชนิด และเป็นพิเศษคือ ดอกบัว ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ทุกสีทุกพันธ์
ธูป กำยาน เครื่องหอม
แนะนำให้ใช้กลิ่น มะลิ ไม้จันทน์ หรือ ไม้กฤษณา ควรเผากำยานหอมถวายเป็นประจำ สามารถใช้กำยานจุดแทนธูปได้ น้ำมันหอมระเหยแบบอะโรมากลิ่นต่างๆก็สามารถใช้ได้เช่นกัน



ในรูปนี้ปรากฎพระพรหมผุดขึ้นมากลางพระนาภี (สะดือ) ของพระวิษณุเนื่องจากในไวษณพนิกายจะเชื่อว่า พระพรหมนั้นกำเนิดมาจากพระวิษณุเพื่อภารกิจสร้างโลกมนุษย์ร่วมกัน
image from williemswebs.com
 

เทศกาลสำคัญสำหรับพระวิษณุ
วันบูชาพระวิษณุเรียกว่า วันเอกาดาศี (Ekadashi) ตรงกับวันขึ้นและแรม 11 ค่ำของทุกๆเดือน ปีหนึ่งจึงมีวันเอกาดาศี รวมเป็นจำนวน 24 วัน และใน 24 วันนี้จะมีอยู่วันหนึ่งเป็นวันพิเศษ ชื่อว่า วันนิรจาลา เอกาดาศี (Nirjala Ekadashi) ในวันนี้ศาสนิกชนชาวฮินดู ทั้งผู้นับถือพระวิษณุ และผู้นับถือพระศิวะและพรพรหม จะอดอาหารและน้ำทั้งวัน เพื่อจัดพิธีบูชาพระวิษณุอย่างยิ่งใหญ่ มีการถวายน้ำ ปัญจมาริตา (Panjamarita) คือ น้ำนมสด เนยสด นมเปรี้ยว น้ำผึ้ง และน้ำตาล มีการถวายหญ้าแพรกและดอกไม้นับหมื่นนับแสนดอก เทวาลัยและวัดต่างๆมีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปด้วยธูป กำยาน เครื่องหอมนานาชนิด สวดบูชาและท่องมหามนต์แห่งพระวิษณุตลอดคืน จนถึงเช้าตรู่ของอีกวัน



คาถาบูชาพระวิษณุ
ก่อนการสวดบูชาต่อพระวิษณุต้องสวดมนต์ต่อพระพิฆเนศก่อนเสมอเมื่อได้กระทำการสวดบูชาพระวิษณุด้วยจิตที่ตั้งมั่นและหมั่นทำความดีอยู่เสมอ พระองค์จะประทานความสุข ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นพระเจ้าผู้ช่วยเหลือให้ผู้บูชาฟันฝ่าอุปสรรค ช่้วยแก้ไขปัญหา ประทานอำนาจบารมี และคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัย

บทสวดมนต์พระวิษณุนารายณ์นั้นมีหลายบท ให้เลือกสวดได้ดังต่อไปนี้

- โอม นะโม นารายะนา ยะนะมะฮา

- โอม ศรี นารายณ์ โอม

- โอม วิษณุ เวนะมะ

- โอม นารายะนา เวนะมะ

- โอม นารายะนายะ นะมัส สวาฮา

- โอม วิษวา มิทรา ปริยายะ นะมะฮา

- โอม ชยะ ศรี วิษณุ รามะ กฤษณา ยะนะมะฮา

- โอม นะโม นารายะณา นามะ ภะวันตุเม
ทุติยัมปิ นะโม นารายะณา นามะ ภะวันตุเม
ตะติยัมปิ นะโม นารายะณา นามะ ภะวันตุเม

- โอม ศรี วิษณุ นะโม นะมะฮา
โอม ศรี กฤษณา นะโม นะมะฮา
โอม ศรี รามจันทรา นะโม นะมะฮา
โอม มหา นารายะนา นะโม นะมะฮา

- โอม ศานตะการัม ภุชะคะศายะนัม ปัทมานาภัมสุ เรศัม วิศวาธารัม คะคานะสัทฤศัม เมฆาวารณัม ศุภางคัม
ลักษมีกานธัม กามะลานะยานัม
โยคิภีร์ ธยานะกัมยัม วันเทวิษณุม
ภวะภยาะหารัม สารวา โลกัยนาธาฮัมฯ

- โอม เมกาศยามัม ปีธา เกาเสยา สาสัม
ศรีวาธสางกัม เกาสะธูโภธะบา อสิธางกัม
ปัญโญเภธัม ปัญดารีกายาธะศากัม
วิษณุม วันเท สารวาโลกัยกา นาถัม

- โอม สะศางขะจักรัม สะกิริตะ กุณตะลัม สปิตะวัสตรัม สะระสีรูเหกษณัม สะหาระวักษะสถะละ เกาสตุภะ ศริยัม นะมามิ วิษณุม ศิระสา จตุรภุซัมฯ

- โอม หะระติทิสะ นารายะณะเทวะตา
สะหะคะณะปะริวารายะ อาคัจฉันตุ ปะริกุญชะตุ สะวาหะ สะวาหายะ
โอม สัพพะอุปาทะวะ สัพพะทุกขะ สัพพะโสกะ สัพพะโรคะ สัพพะภะยะ
สัพพะอุปัททะวะ สัพพะศัตรู
วินาสายะ ปะมุจจันติ โอม นารายะณเทวะตา
สะทา รักขะตุ สะวาหะ สะวาหายะ

- โอม นารายะนายะ วิดมาเฮ
วะสุเดวายะ ดีมาฮี / ตันโณ วิษณุ ประโจดะยาต
(บูชาพระวิษณุ)

- โอม ดาสาราธาแย วิดเมเฮ
สิทา วัลลาภายะ ดีมาฮี / ตันโณ รามะ ประโจดะยาต
(บูชาอวตารพระราม)

- โอม ดาโมธาราเย วิดเมเฮ
รุขะมณี วัลลาภายะ ดีมาฮี / ตันโณ กฤษณา ประโจดะยาต
(บูชาอวตารพระกฤษณะ)

- โอม ศรี วิษณุ / ชยะ วิษณุ / ชยะ ชยะ วิษณุ
โอม ศรี รามา / ชยะ รามา / ชยะ ชยะ รามา
โอม ศรี กฤษณา / ชยะ กฤษณา / ชยะ ชยะ กฤษณา
(บูชาพระวิษณุ พระราม พระกฤษณะ)


credit : http://www.indiaindream.com/


ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: รวมรูปภาพ เทพพราหมณ์-ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:38:42 PM »
รวมภาพพระศิวะ พระอุมา พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระพิฆเนศ

































พระพรหมธาดา














































ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: รวมรูปภาพ เทพพราหมณ์-ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:48:42 PM »
รวมภาพพระศิวะ พระอุมา พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระพิฆเนศ พระขันทกุมาร























































พระขันทกุมาร พระอังคาร












พระสุริยทิตย์






























































ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: รวมรูปภาพ เทพพราหมณ์-ฮินดู - เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2014, 12:58:05 PM »
รวมภาพพระศิวะ พระอุมา พระนารายณ์ พระแม่ลักษมี พระพิฆเนศ พระขันทกุมาร





































































































































ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
เทพนพเคราะห์
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 09:10:51 PM »
เอาภาพเทพนพเคราะห์ มาฝากค่ะ ไม่รู้เคยเห็นกันรึยัง

credit ภาพ : Fanpage สายญาณพญานาคราชและมหาเทพเทวามหาเทพเทวี

พระอาทิตย์เทวา   : โอม สุริยะ เทวายะนะมะฮา


พระจันทร์เทวา : โอม พระจันทร์ เทวายะนะมะฮา


พระอังคารเทวา : โอม พระอังคาร เทวายะนะมะฮา


พระพุธเทวา :  โอม พระพุธ เทวายะนะมะฮา


พระพฤหัสเทวา : โอม พระพฤหัส เทวายะนะมะฮา


พระศุกร์เทวา :  โอม พระศุกร์ เทวายะนะมะฮา


พระเสาร์เทวา : โอม พระเสาร์ เทวายะนะมะฮา



พระราหูเทวา :  โอม พระราหู เทวายะนะมะฮา



พระเกตุเทวา : โอม พระเกตุ เทวายะนะมะฮา