ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nanajung

ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์
« เมื่อ: เมษายน 19, 2008, 11:25:22 PM »

ใครได้ดูเรื่องตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์บ้างคะ



คือ วันนี้ออกอากาศตอนแรก เป็นหนังที่น่าประทับใจมากค่ะ ปกตินานะจังก็ชอบ เรื่องราวประมาณนี้อยู่แล้ว
ตอนแรกนึกว่าเค้าเอาเค้าโครงเรื่องมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่นานะจังเคยอ่าน ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาดูเรื่องนี้มาก
และก็ไม้ทำให้ผิดหวังเลย ซักนิด  ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ หรือ The Legend   ชื่อภาษเกาหลี คือ
แท วัง ซา ซิน กี  เป็นเรื่องที่เกาหลีระดมทุกสร้างมหาศาลถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 1600 ล้านบาทนะคะ สมเป็นละครสุดยอดแห่งปีจริงๆ  ต้องบอกว่ายอมรับในฝีมือ ทั้งฉาก นักแสดง และการเขียนบทมาก ถ้าเทียบกับหนังเกาหลีเรื่องก่อนๆ
โดยเฉพาะเรื่องแรกที่เอามาฉายทาง ช่อง 5 แล้ว ต่างกันราวฟ้าดิน ฝีมือยอมรับได้ว่าเหนือชั้นและไร้เทียมทานมาก
จนคิดว่าเราตามเค้า ไม่เห็นฝุ่นแล้วจริงๆ เรื่องที่นานะจังประทับใจมาก ก่อนหน้านี้ ก็มี แดจังกึม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เปิดประเทศเกาหลี ได้เลย สร้างรายได้และชื่อเสียงให้มากมายมหาศาล

แล้ว เรื่องนี้ ก็ยิ่งใหญ่ และน่าติดตามไม่แพ้แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง และ คนดีที่โลกรอหมอจุนเลยค่ะ
และอาจพูดได้ว่า ยิ่งใหญ่และประณีต ยิ่งกว่าแดจังกึมด้วยซ้ำ
แค่ออกอากาศ วันแรกก็ประทับใจสุดๆ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกาหลีก็มีตำนานการสร้างโลกแบบนี้ด้วย พอดูแล้วทำให้นึกถึงเทพของกรีกไปนู่นเลย ค่ะ  เรื่องนี้ นางเอกสวยมากเลยนะคะ ตอนที่ปรากฏเป็น หงส์ไฟ นี่งดงามอย่าบอกใครเลย
ไม่เคยเห็นนางเอกที่สวยงดงามถึงขนาดนี้เลย เบยองจุน ก็หล่อมากๆ และเรื่องนี้ก็เป็นละครพีเรียตเรื่องแรกของเค้าด้วย ธิดาอัคคี ของวิเศษผู้พิทักษ์ที่หลับใหล สุดยอด ค่ะ อยากให้ทุกคนได้ดูเรื่องนี้มากๆเลยค่ะอย่าเข้าใจผิดว่าได้ค่านายหน้า
หรืออะไรนะคะ ปต่ประทับใจกับเรื่องนี้มากจริงๆค่ะ พอเห็นแล้วก็ให้นึกถึง ละครพื้นบ้านของพวกเรา
ทำไมทำอย่างเค้าไม่ได้นะ  ป่าหิมมะพาน นางฟ้านางสวรรค์ ตำนานเทพ  ก็คงงดงามไม่แพ้เค้าแน่นอน แต่ บทเรื่องเนื้อหาของเรื่องนี่สิ  หายาก ที่จะหาคนเก่งขนาดนั้น ส่วนมากก็มีแต่ เขียนบท อิจฉา ริษยา ตบตี แย่งชิงกัน
วนเวียนซ้ำซากอยู่กับเรื่องเดิม ๆไม่เบื่อกันบ้างรึไงก็ไม่รู้ ก็ดำเนินเรื่อง ก็ง่ายๆแบบขอไปที ถือว่าทำละคร  แล้วอยากจะยิ่งใหญ่ครองตลาดเหมือนชาวบ้าน เค้าแค่ ฝีมือในการเขียนบท ก็ห่างไกล กันริบลับแล้วอ่ะ เน้นแค่ฉากอย่างเดียวมันไม่พอหรอก แก่นแท้คือเนื้อหาที่ต้องการน้ำเสนอต่างหาก แต่ก็นะ อาจจะเป้นเพราะพื้นฐานของสังคมก็ได้
คนไทยไม่ใช่นักอ่านอยู่แล้ว แล้วจะมีนักเขียนเยอะได้ไงล่ะจริงไหม เพราะนักเขียนส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นนักอ่านทั้งนั้น สุดท้ายก็ได้บ่นอะนะเรา ก็ไม่มีโอกาส นี่นา  ถ้าสวรรค์เมตตา ให้เราได้มีโอกาสทำละคร เราจะทำให้ดูว่าละครแท้ๆที่ให้อรรถรสและความบันเทิงและสาระกับคนดูนั้นเป็นยังไง  ถึงแม้จะเทียบชั้นไม่ได้กับเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน
แต่ก็จะไม่มีทำละคร ที่เนื้อหาวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆหรอก 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 26, 2009, 02:30:49 PM โดย นานะจัง »

nanajung

ไปหาเจอมาค่ะ

เกาหลีโบราณเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ โดยเฉพาะเชื่อกันว่าต้นกำเนิดบรรพบุรุษมาจากโอรสจากสวรรค์นั่นเอง ดังนั้น ความเชื่อในเรื่องเทพเจ้า 4 องค์ ที่คอยปกป้องคุ้มครอง องค์ชายทัมดัก ก็ไม่ได้เป็นเรื่อง แปลกประหลาด เกินจริง ของสมัยนั้น การ ที่องค์ชายทัมดัก มีบุญญาภินิหาร (บุญที่สำเร็จได้ตามความปรารถนา)
เหมือน ที่ปฐมกษัตริย์ จูมง เคยมี แต่ไม่ชัดเจนเป็นพียงอยู่ในรูปของพลังลึกลับมากกว่ามีตัวตนมาคอยพิทักษ์ปกป้อง ว่ากันว่าเทพเจ้า 4 องค์ นี้ ที่ญี่ปุ่นและจีน ก็ให้ความเคารพนับถือเหมือนเกาหลีและเรื่อง ความเชื่อไสยศาสตร์ก็มิใช่มีแต่เกาหลีเท่านั้นที่เชื่อถือ ก็น่าทั่วเอเชีย รวมทั้งไทยด้วย

ขอให้เพื่อนๆ ที่ชมละครthe legend ทำใจกับยอมรับกับอภินิหารจากสวรรค์ หรือเทพเจ้า อย่างน้อยก็ถอยยุคกลับไป อย่างน้อย 1 พัน หกร้อยกว่าปี ( เทียบจาก ค.ศ.2008 และ ค.ศ. 391) และนอกจากประวัติศาสตร์แล้ว เรื่องขององค์ชายทัมดักบางส่วน ก็เมาจากตำนาน ความเชื่อของคนเกาหลีเขาด้วย

แต่แรก ก็นึกว่า the legend จะเป็น ละครประวัติศาสตร์ (รวมถึง ยงจุนของเราด้วยที่รับงานนี้) แต่ ยงจุน เป็นคน ที่เริ่มคัดค้านทีมงานและผู้กำกับ ในระหว่างถ่ายทำว่า กษัตริย์กวางแกโต คือใคร แล้ว ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการถ่ายทำ แต่เท่าที่ ได้ดูมา น่าจะเป็นแค่ ละครอิงตำนานประวัติศาสตร์

องค์ชายทัมดัก เป็นนักวางแผนชั้นเยี่ยม มากกว่าเป็นขุนพลกล้าศึก ทรงมีฝีมือยอดเยี่ยมบุกยึด เมืองต่างๆตั้งแต่พระชนมายุ 18 ชันษา ทรงเชี่ยวชาญการใช้ธนู ตามบรรพบุรุษ รวมถึงการใช้ทวน ด้วย
ก็เลย วาดจินตนาการ เกี่ยวกับละครเรื่องนี้ ว่า กษัตริย์พระองค์นี้ เก่งกล้าสามารถ มาก การจะทำศึก แผ่ขยายอาณาเขตขนาดนี้ได้ ไม่มีทางที่ คน ๆเดียว จะทำได้ ดังนั้น กองทหาร ของโคคุเรียว ในสมัยนั้น ต้องเป็นกองทหารที่เข้มแข็ง พลทหารจะเข้มแข็ง ก็ต้องมี แม่ทัพนายกอง ที่เก่งมากเช่นกัน คนเกาหลี คงยกย่องว่า แม่ทัพนายกองเหล่านั้น เหมือนเป็น ผู้วิเศษ เป็นเทพเจ้า (และของจีนเอง แม่ทัพ กวนอู เอง คนจีนก็นับกวนอู เป็นเทพเจ้า แห่งความซื่อสัตย์) รวมทั้งเกาหลีโบราณ เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์

แต่แรก เรื่องย่อที่มาก่อนฉายละคร คือผู้พิทักษ์สัญลักษณ์ ตามหาเจ้า นาย พอเป็นละคร ก็ มีแต่เต่าดำ เท่านั้นที่ออกหาเจ้านาย คนอื่น ๆ รอเจ้านายไปหา แถมเจ้านายองค์จริง ก็ไม่ได้คิด ที่จะไปเสาะแสวงหา มีแต่พวกผู้ร้ายที่ตามหาอยู่ (ก็ไม่ได้ต่อว่าทีมงาน เพราะ เขาคงปรับเปลี่ยนบท จนตัวเองก็ คงเวียนหัวไปเหมือนกัน

หากไม่ได้วาดภาพไว้ล่วงหน้า แล้วภาพพลิกกลับ ไม่เหมือนที่คาดคิด ละคร เรื่องนี้ ก็ดีมาก ๆ อยู่แล้ว หลากหลายสีสันหลากหลาย ความรู้สึก อรรถรสที่ได้จาก การชมละคร ละครเรื่องนี้ ถ้า เป็น ซับไทเทิล ไม่พากษ์ไทย ถ้าผู้ชม กระพริบตา จะพลาด ประโยคเด็ด วลีเด่น บทแสดงเยี่ยม ต้องดูชม แบบ จิตใจจรดจ่อต่อเนื่องบอก ที่ว่าบทแสดงเยี่ยม ก็ ไม่ใช่บทพระเอก นางเอก เท่านั้น ขนาด บท ผู้ร้าย อย่าง แทจังโร คุย กับเสนาบดี ยอน ก็ ยังน่าสนใจ รวมทั้งบทพูดของตัวประกอบอื่นๆ ก็น่าสนใจ
หากไม่ได้คิดว่า นี่เป็นการ สื่อ เรื่องประวัติศาสตร์ ของเกาหลี และ ความยิ่งใหญ่ ของกษัตริย์กวางแกโต อย่างน้อย ละคร ก็สื่อ อุปนิสัย ใจคอ ความเฉลียวฉลาดถึงขั้นว่าปราดเปรื่อง มีไหวพริบ(สื่อได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม เหนือละครเรื่องจูมง (ตามความรู้สึกของผู้เล่า) ความฉับไวในการพินิจพิเคราะห์ในเรื่องราวต่าง ๆ รู้ทันคน เป็นกษัตริย์ น้ำพระทัย ดี มีเตตาต่อพสกนิกร คำว่า มีแทคติก มีให้เห็นชัดเจน
ที่ใช้ ดินแดนจูชินและ กษัตริย์จูชิน ทั้งเรื่อง ก็คงมาจาก ที่กษัตริย์พระองค์นี้ แผ่ขยายอาณาเขต กว้างใหญ่ไพศาล ละครสื่อว่า นั่นมิใช่การแผ่ขยายดินแดน เป็นเพียงการรวบรวม ดินแดน เก่า ที่กระจัดกระจายกันอยู่ กลับมารวมกันใหม่เหมือนครั้งอดีตกาล เสียมากกว่า

credit : http://twssg.blogspot.com/

kalrahud

อ้าว    ออกอากาศแล้วเหรอ

ไม่ทันได้ดูอ่ะ   พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ดูแน่ๆ   อาทิตย์หน้า  ก็คงไม่ได้ดู  เฮ้ออออ

แต่เรื่องนี้ตอนเห็น cm แล้วอึ้งมากๆ  เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายไม่มีผิด  ทั้งเทคนิคอะไรก็สวยมาก

เห็นหงส์ไฟแล้ว  อยากให้ละครพื้นบ้านทำออกมาสวยอย่างนี้บ้างจัง   เอาไปฉายต่างประเทศ  รับรองดังไม่แพ้เรื่องไหนๆ วรรณคดีไทยเนี่ย

ยังไงฝากดูแล้วเล่าเรื่องให้ฟังด้วยนะคะ  กาฬไม่ได้ดูแน่ๆ

nanajung

อ้าว    ออกอากาศแล้วเหรอ

ไม่ทันได้ดูอ่ะ   พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ดูแน่ๆ   อาทิตย์หน้า  ก็คงไม่ได้ดู  เฮ้ออออ

แต่เรื่องนี้ตอนเห็น cm แล้วอึ้งมากๆ  เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายไม่มีผิด  ทั้งเทคนิคอะไรก็สวยมาก

เห็นหงส์ไฟแล้ว  อยากให้ละครพื้นบ้านทำออกมาสวยอย่างนี้บ้างจัง   เอาไปฉายต่างประเทศ  รับรองดังไม่แพ้เรื่องไหนๆ วรรณคดีไทยเนี่ย

ยังไงฝากดูแล้วเล่าเรื่องให้ฟังด้วยนะคะ  กาฬไม่ได้ดูแน่ๆ

บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมากเลยจ้ะน้องกาฬ พี่คงต้องซื้อวีซีดีเก็บไว้แน่นอน

วันนี้ เป็นตอนที่กล่าวถึงตำนาน ของ เทพจูซุง กับ เซโอ ธิดาอัคคี และผู้พิทักษ์ทั้งสี่ คือ มังกรเขียว หงษ์ไฟ เสือขาว ยอนมู(หมีขาว)
หงษ์ดำ เด๋วเอาเรื่องย่อมาแปะไว้ละกันนะจ๊ะ แต่เรื่องย่อไม่พูดถุงตอนแรกที่ออกอากาศวันนี้เลยอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2008, 10:15:31 AM โดย นานะจัง »

bobenz

ได้ดูมาแล้ว สุดยอดซีจีสวยมากๆ เพราะแบบนี้ไงละครจักรๆวงศ์ถึงต้องมีซีจี แต่ต้องพัฒนานะ
เนื้อเรื่องสวนติดตามดีเคยเข้าไปดูในเวบป๊อบคอนมาแล้วเรื่องเนี้ย ไอ้ตำนานเทพฮวางวุงนี้ในหนังสือแนะนำประเทศเกาหลี
มันก็มีเล่าให้ฟังเหมือนกันแต่แตกต่างจากเรื่องนี้ตรงทีเค้ากล่าวว่ามีเสือกับหมีตัวเมียบูชานับถือเทพฮวางวุงท่านเลยให้พรเป็นมนุษย์
ทั้งคู่แต่เสือสาวไม่รักดีหลังเป็นคนแล้วเปลี่ยนใจไปนับถือเทพแห่งไฟแทนก็เลยถูกกำจัดและเลือกนางหมีเป็นคู่ของตนและให้กำเหนิด
ลูกด้วยกันแล้วจะเป็นผู้ก่อตั้งโซอนโบราณแบบที่ในละครกล่าวถึง

ปล. แต่อยากแนะนำให้ดู coffee prince ตอนเช้าต่อจากสังข์ทองโคตรสนุก(ดังสุดในเกาหลีปีที่แล้ว)
ดูแล้วชอบน้องยูนอึนเฮทันทีกับบททอมบอยสู้ชีวิตที่โดนบังคับเป็นแฟนปลอมๆของเพลย์บอยพระเอกที่ถูกย่าบังคับแต่งงาน
และบังคับให้เปิดร้านกาแฟชื่อ คอฟฟี่ ปริ๊น  ที่รับแต่พนักงานชายล้วนและนางเอกก็ยังปลอมตัวมาทำงานที่นี่ต่อ
ลองดูกันนะแล้วจะหลงรัก โกอึนชาน :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2008, 07:45:25 AM โดย bobenz »

liger

พี่มาอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ดูอะไรเลย ในห้องไม่มีทีวีด้วย :'( :'(  สงสัยต้องรอให้มีตังค์ก่อนค่อยซื้อมาดู ::) ::)

nanajung

พี่มาอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ดูอะไรเลย ในห้องไม่มีทีวีด้วย :'( :'(  สงสัยต้องรอให้มีตังค์ก่อนค่อยซื้อมาดู ::) ::)

 ;) ไปอยู่กรุงเทพ สู้ตายนะคะ สู้ๆ

nanajung

<a href="http://img100.imageshack.us/img100/2852/introvn3.swf" target="_blank" class="new_win">http://img100.imageshack.us/img100/2852/introvn3.swf</a>


เรื่องย่อค่ะ

เรื่องย่อ

สองพันปีก่อน...ณ ดินแดนเกาหลีโบราณ เกิดการสู้รบกันระหว่างเผ่าสองเผ่าคือเผ่าพยัคฆ์และเผ่าหมี สวรรค์จึงส่งโอรสแห่งสวรรค์ “ฮวางวุง” พร้อมด้วยเทพผู้พิทักษ์ 3 องค์ คือ จ้าวเมฆา (มังกรเขียว-อูนซา),  วายุเทพ (พยัคฆ์ขาว-พองแบ็ค), และพิรุณเทพ (เต่านิล-ยอนมู) ลงมาเพื่อทำให้โลกเกิดความสงบสุข แต่ “เสือ” ย่อมมีสัญชาตญาณของนักล่าเผ่าพยัคฆ์เองก็เช่นกันประกอบกับเผ่า นี้มีความสามารถในการบังคับพลังอัคคีได้ ซึ่งเผ่าพยัคฆ์ก็ได้ใช้พลังวิเศษนี้ในการต่อต้านฮวางวุงและเผ่าหมี  ฮวางวุงรู้ถึงความน่ากลัวของพลังอัคคีดีจึงได้ดึงเอาพลังอัคคีจาก “คาจิน” หญิงสาวผู้ครอบครองพลังนี้แห่งเผ่าพยัคฆ์   และได้ส่งมอบพลังให้กับ “เซโอ” ราชินีแห่งเผ่าหมี พร้อมทั้งได้แต่งตั้งให้พลังอัคคีเป็นเทพหงส์ไฟ

วันหนึ่งเมื่อคาจินได้รับบาดเจ็บจากการรบกับเผ่าหมี ฮวางวุงได้ใช้พลังแห่งเทพรักษาเธอด้วยความสุภาพและอ่อนโยนของ เขาทำให้คาจินตกหลุมรักฮวางวุง ถึงขนาดยอมทรยศต่อเผ่าของตัวเองเพื่อฮวางวุง แต่แล้วฮวางวุงกลับเลือกแต่งงานกับเซโอ เหตุการณ์นี้ ยังความโกรธแค้นให้กับคาจินอย่างมาก เธอจึงกลับมาเป็นผู้นำแห่งเผ่าพยัคฆ์อีกครั้ง  เธอนำเผ่าพยัคฆ์จู่โจมเผ่าหมีและได้ลักพาตัวลูกที่เพิ่งเกิดของเซโอไป  เซโอเข้าใจผิดคิดว่าคาจินได้ฆ่าลูกของเธอแล้ว ปลุกให้เทพหงส์ไฟในตัวของเธอตื่นขึ้นความโกรธทำให้เทพหงส์ไฟกลายเป็นหงส์ดำ ซึ่งมาพร้อมกับพลังทำลายล้างที่เธอเองก็ไม่สามารถควบคุมได้  ฮวางวุงได้เรียกให้เทพผู้พิทักษ์ทั้ง 3 มาปราบหงส์ดำนั้น แต่ก็ไม่สามารถปราบลงได้ ผู้เดียวที่จะสามารถทำลายหงส์ดำได้คือฮวางวุง เขาจึงตัดสินใจสังหารหญิงอันเป็นที่รักด้วยมือของเขา  คาจินรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย การสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักด้วยน้ำมือตัวเองกับอีกหนึ่งชีวิตที่ดับสลายไปต่อหน้าต่อตาทำร้ายจิตใจ ฮวางวุงเกินกว่าที่เขาจะทนอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไปได้  เหตุการณ์นี้ทำให้โลกได้รู้ถึงพลังอำนาจของเทพทั้ง 4 และก่อนที่ฮวางวุงจะกลับสวรรค์เขาได้สะกดพลังของเทพทั้ง 4 เอาไว้ และได้ทำนายไว้ว่าเมื่อดวงดาวแห่งราชาส่องแสงนั่นคือสัญญาณการจุติของมหากษัตริย์ผู้รวบรวม แคว้นโกคูรยอเป็นหนึ่งเดียวและวันนั้นจะเป็นวันที่พลังแห่งเทพทั้งสี่ที่ถูกผนึก ไว้จะถูกปลุกขึ้นอีกครั้งสองพันปีต่อมา...ชาวโคกูรยอต่างพากันรอคอยการกำเนิดของมหากษัตรย์ในตำนาน และแล้วในคืนหนึ่งเมื่อดวงดาวแห่งราชาปรากฏ...

นั่นคือสัญญาณบ่งบอกถึงการจุติของจอมกษัตริย์ในตำนานที่ทุกคนรอคอย.... การเสาะแสวงหาของวิเศษทั้ง 4 จึงเริ่มต้นขึ้น ทุกชีวิตในอดีตกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งโดยที่พวกเขา จำสิ่งที่เคยทำมาในอดีตไม่ได้เลย เทพทั้ง 3 กลับมาเกิดใหม่ ราชินีแห่งเผ่าหมีและเผ่าพยัคฆ์ก็กลับมาเกิดใหม่เป็นพี่น้องกัน โดยที่ยังคงได้เป็นผู้สืบทอดพลังอัคคีเช่นเดียวกันกับในอดีตชาติ ซึ่งเธอต่างจำไม่ได้เลยว่า เคยเป็นคู่แข่งในสงครามเหนือความรักและความตายเมื่อสองพันปีก่อน..ในคืนที่มหากษัตริย์ในตำนาน ได้ถือประสูติขึ้นมานั้น กลับมีโอรสเชื่อสายของกษัตริย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาถึงสองพระองค์ องค์หนึ่งเป็นทายาทสกุลยอนซึ่งสืบสายเลือดกษัตริย์มีชื่อว่า ยอนโฮเก


credit : http://www.thaitv3.com/film/legend/syn.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2008, 05:13:10 PM โดย นานะจัง »

nanajung

อีกคนหนึ่งเป็นลูกชายของ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาก็ได้ถือกำเนิดในคืนนี้เช่นเดียวกัน แต่โอจีจีกลับให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายของตนได้ถือกำเนิด สี่วันหลังจากคืน ที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ทารกนี้มีชื่อว่า ทัมต๊อก บางทีอาจไม่ถือเป็นเรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว.... เนื่องจากฐานะโอจีจี ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าใดนัก อีกทั้งเหินห่างกับชนชั้นสูง โอจีจีไปตั้งรกราก ณ สถานที่ที่ไกลจากวังหลวงมาก โดยเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ยังชีพ โอจีจี จงใจปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ด้วย ไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าทัมต๊อกและยอนโฮเก ถือกำเนิดในวันเดียวกัน ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเชื่อว่าจะต้องนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างแน่นอน เนื่องจากหนึ่งแผ่นดินจะมีพระราชาสองพระองค์ไม่ได้
พระราชาผู้ปกครองแผ่นดินทรงไม่มีทายาท ยอนฮูหยินพระขนิษฐาของพระองค์ซึ่งเป็นแม่ของยอนโฮเกจึงทูลเสนอให้ยอนโฮเกเป็นองค์รัชทายาท แต่กลับถูกปฏิเสธ
โอจีจี พระอนุชาของพระราชาดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท

   
ก่อนที่พระราชาสวรรคต พระองค์ทรงมีรับสั่งเรียกประชุมเชื้อพระวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ ทำให้ทุกคนได้พบกับโอจีจี และทัมต๊อกลูกชายซึ่งตั้งรกรากยังสถานที่ไกลแสน ไกลอีกครั้ง ในเวลานี้เองทุกคนถึงรู้ว่าพระราชาทรงสถาปนาโอจีจี เป็นองค์รัชทายาท พระราชาพระองค์ใหม่เถลิงราชย์ในพระนามพระเจ้ายังวัง แต่พระองค์กลับทรงไม่ได้ รับความไว้วางใจจากชนชั้นสูง นอกจากนี้ยังต้องรับศึกเหนือใต้ที่ข้าศึกเข้ามารุกราน พระเจ้ายังวังทรงตั้งพระทัยว่าพระองค์เพียง รักษาบัลลังก์ไว้ชั่วคราวเท่านั้น พระราชาที่แท้จริงคือทัมต๊อก สิ่งที่พระองค์ทรงต้องทำคือคุ้มครองทัมต๊อกให้ปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันที่ทัมต๊อกขึ้นครองราชย์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวด ต่อทัมต๊อกเป็นพิเศษ เนื่องจากทัมต๊อกเฉลียวฉลาด รวมทั้งมีความสามารถที่โดดเด่น ทัมต๊อกจะแสดงสิ่งเหล่านี้ให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถ ของทัมต๊อกที่เหนือกว่ายอนโฮเก


พระเจ้ายังวังทรงจำกัดบริเวณทัมต๊อก ถึงแม้ว่าทัมต๊อกปฏิบัติตามความประสงค์ของพระบิดา  ในใจกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวดกับตนเช่นนี้
นอกจากนี้พระเจ้ายังวังยังทรงห้ามไม่ให้ทัมต๊อกคบหาเพื่อนที่หอบัณฑิต รวมทั้งฝึกวรยุทธ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่าทัมต๊อกสุขภาพไม่แข็งแรง พระองค์จึงทรงทำเช่นนี้
แต่ทัมต๊อกรู้แก่ใจดีว่าตนแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงแอบศึกษาวรยุทธ แอบเข้าไปในหอหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้   วันหนึ่ง   ขณะที่ทัมต๊อกแอบเข้าไปอ่านหนังสือที่หอหนังสือ   ทัมต๊อกได้พบกับ คีฮา ธิดาเทพแห่งพรรคอัคคี เข้าโดยบังเอิญ


คีฮาไม่มีความทรงจำเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่ออายุได้ห้าขวบถูกถูกพรรคอัคคี จับตัวไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาบนไหล่ของนางก็มีรอยสักมาโดยตลอด ความทรงจำของนางสูญสิ้น แม้แต่ความทรงจำที่พรรคอัคคีฆ่าพ่อแม่ของนางก็สูญสิ้นไปด้วย นางจำได้แต่เพียงมีน้องสาวเท่านั้น แต่ก็หายสาบสูญไป คีฮามีฐานะสูงศักดิ์ในพรรคอัคคี  แม้แต่ผู้เฒ่า ในพรรคยัง ให้ความเคารพยำเกรงนาง สำหรับคนพรรคอัคคี  คีฮาเป็นธิดาอัคคีที่ลงมาจุติตามตำนาน คืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ได้มีหงส์ไฟปรากฏ ขึ้นที่บ้านสกุลเฮ ในเมืองแพกเจ     พรรคอัคคีซึ่งรอคอยเหตุการณ์นี้อุบัติขึ้นนานนับพันปีต่างพากันมาที่บ้านสกุลฮุ่ย ทุกคนพบว่าเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบสามารถ ใช้อำนาจหยกแดงสะกด เพลิงไม่ให้ทำร้ายนางเอง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงปักใจเชื่อว่าเด็กน้อยคนนี้ก็คือธิดาอัคคีอย่างแน่นอน พรรคอัคคีพาเด็กน้อยพร้อมด้วยยกแดงกลับไปที่พรรคอัคคี ทำให้ทุกคนมีความหวังว่าชัยชนะอยู่เบื้องหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น คีฮาทำได้แต่เพียงใช้หยกแดงจุดเทียนไข หรือไม่ก็จุดฟืนเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนแรกเริ่มที่สามารถ สำแดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยเรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าของพรรคเชื่อว่าเมื่อครั้งที่มหาเทพสะกดของวิเศษสามสิ่งไว้นั้น อิทธิฤทธิ์ของหงส์ไฟก็สูญสลายไปด้วย เว้นแต่จะทำลายมนต์สะกด ธิดาอัคคีก็จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง ผู้เฒ่าพรรคอัคคีคิดว่าของวิเศษอีกสามสิ่งที่ถูกสะกดไว้จะต้องตกเป็นของพรรคด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อคีฮาอายุได้สิบห้าปีก็ต้อง ติดตามบรรดาผู้เฒ่าพรรคไปที่แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาฟ้าดินได้มอบชีวิตใหม่ให้คีฮา โดยมีภารกิจสำคัญสองอย่างที่นางต้องทำภารกิจแรกต้องจับกุมตัวยอนโฮเกซึ่งถือ กำเนิดในคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาวมาให้ได้การทำลายมนต์สะกดนั้นต้องใช้เลือดของมหาราชา ภารกิจที่สองคือพำนักอยู่ที่แท่นบูชาฟ้าดินเพื่อรอรับฟังข่าวคราวของวิเศษ
คีฮาซึ่งถูกยกให้เป็นธิดาอัคคีนั้น สำหรับนางแล้วการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพรรคอัคคี ภารกิจสองอย่างเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนาง อย่างน้อยที่สุด ก่อนที่จะได้พบกับทัมต๊อก  นางก็คิดเช่นนี้มาโดยตลอด

   

ทัมต๊อกและคีฮา ทั้งสองซึ่งอ้างว้างโดดเดี่ยวได้พบกันในที่สุด ทัมต๊อกต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระบิดาอย่างเคร่งครัด ทำให้ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ส่วนคีฮานั้นได้รับแรง กดดันจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่ต้องเป็นธิดาอัคคี  ทำให้นางไม่สามารถดำรงชีวิตตามที่นางต้องการ ในเวลานี้นางถูกส่งมายังดินแดนข้าศึก นางจะต้องเป็นสายรายงาน ความเคลื่อนไหว ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเห็นใจกันและกันเป็นอย่างดี ความจริงแล้วสำหรับคีฮานั้น ทัมต๊อกไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของนางแต่อย่างใด คนที่นางต้องให้ความสำคัญคือยอนโฮเกต่างหากที่นางต้องนำข่าวคราวไปรายงาน แต่ไม่แน่ว่าทัมต๊อกอาจเป็นคนที่ขัดขวางภารกิจของนางก็เป็นได้ แต่เมื่อคีฮาคบหา กับทัมต๊อกได้ระยะหนึ่ง ความรู้สึกที่นางมีต่อทัมต๊อกก็เปลี่ยนไป นางรู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่กับทัมต๊อกเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด บรรดาผู้เฒ่าของพรรคอัคคีต่าง พากันย้ำเตือนคีฮาอย่าได้ใจอ่อนเป็นอันขาด สำหรับทัมต๊อก ทัมต๊อกรู้สึกว่าคีฮาเป็นคนสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทัมต๊อกซึ่งสูญเสียแม่ตั้งแต่เล็กนั้น คีฮาเป็นเหมือนแม่ เป็นเหมือนพี่สาวที่มอบความรักความอบอุ่นที่ตนไม่เคยได้รับจากพ่อ ทุกคืนขณะที่ฝึกวรยุทธ คีฮาก็เป็นเหมือนเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง กาลเวลาผ่านไป ทัมต๊อกและคีฮาก็รักกัน
ทัมต๊อกหลบหนีออกจากวังหลวงราวกับนักโทษที่แหกคุกออกมา ทัมต๊อกชอบแต่งตัวเป็นชาวบ้านเดินไปตามท้องถนน โดยสามารถรับฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย ต่อมา ทัมต๊อกก็ได้พบกับ ซูจีนี


ซูจีนีเป็นน้องสาวของคีฮา ในวันที่สกุลเฮถูกพรรคอัคคีทำลาย แม่ได้มอบหัวใจของหงส์ไฟให้คีฮา จากนั้นก็กำชับให้คีฮาดูแลซูจีนีให้ดี ขณะที่เทพแห่งความตายมาเอา ชีวิตของเด็กทั้งสองนั้น หัวใจของหงส์ไฟก็สำแดงอิทธิฤทธิ์คุ้มครองสองพี่น้องเอาไว้ พรรคอัคคีไม่พบซูจีนีซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถังข้าว ดังนั้นจึงพาแต่คีฮาและหงส์ไฟกลับไปเท่านั้น พรรคอัคคีหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่ทำให้หงส์ไฟสำแดงอิทธิฤทธิ์คือคีฮาหรือซูจีนีกันแน่  เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกสาวบ้านสกุลเฮด้วยกันทั้งคู่ คนที่พบซูจีนีที่ซ่อนตัวอยู่ ในถังข้าวในคืนนั้นก็คือ ยอนโก ซึ่งก็คือพิรุณเทพกลับชาติมาเกิดนั่นเอง ในเวลานั้นยอนโกมีอายุครบสิบห้าปี เมื่อซูจีนีพบเห็นยอนโก นางก็ยิ้มให้ยอนโก


บรรดาผู้เฒ่าของหมู่บ้านเมื่อพบเห็นซูจีนี   เนื่องจากหงส์ดำเป็นอัปมงคล ทำให้ไม่มีใครกล้าชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ มีเพียงยอนโกเท่านั้นที่เชื่อว่าซูจีนีเป็นหงส์ไฟ ไม่ใช่หงส์ดำ ด้วยเหตุนี้ ยอนโกจึงอุ้มซูจีนีซึ่งอายุไม่ถึงขวบขอร้องให้บรรดาผู้เฒ่าชุบเลี้ยงนางไว้ บรรดาผู้เฒ่าไม่อยากฆ่าเด็กบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ สำหรับทุกคนแล้วต่างหวาดกลัวทายาทของหงส์ดำด้วยกันทั้งนั้น หงส์ไฟซึ่งกลับมาจุติพร้อมกับมหาราชานั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นไปตามตำนานหรือไม่ หากเป็นไปตามตำนาน   เมื่อใดที่โกรธแค้นขึ้นมาก็จะกลายเป็นหงส์ดำทำลายล้างบ้านเมืองหรือไม่  โลกใบนี้จะลุกเป็นไฟอีกครั้งหรือไม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ควรจะรีบขจัดภัยพิบัตินั้นโดยเร็วที่สุด
แต่ยอนโกกลับคัดค้านความคิดเห็นนี้มาโดยตลอด

   
ในคืนนั้น   ผู้เฒ่าเตือนยอนโกซึ่งอุ้มซูจีนีว่านับแต่นี้เป็นต้นไป    ขอให้ดูแลเด็กคนนี้ให้ดี    ถ้าหากวันใดยอนโกพบว่าซูจีนีเป็นหงส์ดำก็ขอให้ยอนโกกำจัดนางทันที
ซูจีนีเป็นผู้หญิงคนเดียวของหมู่บ้าน นางเคารพนับถือยอนโกเป็นอาจารย์ นางถอดอุปนิสัยของอาจารย์มาจนหมดสิ้น นางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เติบโตในหมู่บ้าน ทำให้อุปนิสัยนางไม่เหมือนผู้หญิง   สิ่งที่ผู้ชายทำได้ นางทำได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการพนัน ลักขโมย ยิงธนู วรยุทธ
วันหนึ่ง ก่อนที่ผู้เฒ่าจะสิ้นใจได้เรียกชาวบ้านมาชุมนุมกัน ผู้เฒ่าได้มอบพลองวิเศษให้ผู้นำหมู่บ้านคนใหม่ ทันใดนั้นเอง พลองวิเศษก็ลอยขึ้นฟ้า หมุนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ตกลงตรงหน้าผู้นำคนใหม่ ..... ยอนโก

ผู้นำคนใหม่ของหมู่บ้านได้ถูกเลือกสรรแล้ว ชะตากรรมของ ทัมต๊อก, คีฮา, ซูจีนีและยอนโฮเกที่ต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรต่อไป  เมื่อเส้นทางแห่งสงครามเหนือความรักและความตายเมื่อสองพันปีก่อนกำลังหวนกลับมา พบเรื่องราวอันเข้มข้นของการแย่งชิงอำนาจ และเรื่องราวของตำนานจอมกษัตริย์กับเทพผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ได้ใน “ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์” ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 18.00 น.

 

nanajung

นานะจังชอบ ฉากที่ เซโอ หลั่งน้ำตา จนทำให้ ฮวางจุงตื้นตัน สวยมาก
แล้วก็ ฉาก ที่ เซโอ ปลุกพลังหงส์ไฟให้ตื่นขึ้นจากความโกรธแค้นจนกลายเป็นหงส์ดำเผาทำลายทุกอย่าง บอกได้คำเดียว เหมือนตกเข้าไปสู่ห้วงของเทพนิยายเลยอ่ะ งดงาม ไม่มีที่ติ จริง ๆ ค่ะ
ถ้าเราทำซีจีได้อย่างเค้าบ้างจะยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ไม่รู้ ป่าหิมพาน ไม่ใช่ซีจี ที่ไม่สมจริงดูแล้วขัดลูกตาอย่างทุกวันนี้ เห็นแล้วก็เซ็ง


..........................................................
ตอนที่ออกอากาศไปเมื่อวานค่ะ

ออกอากาศ 19-20 เมษายน 2551

ยอนโกหัวหน้าหมู่บ้านเล่าตำนานเทพเมื่อสองพันปีให้ซูจีนีฟังมหาเทพนำวายุเทพ(พยัคฆ์ขาว), พิรุณเทพ(ยอนมู), จ้าวเมฆา(มังกรเขียว)ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ แท่นบูชาฟ้าดินตระเตรียมการบวงสรวงเทพเพื่อ ให้มวลมนุษย์ มีความผาสุก ธิดาอัคคีนำชนเผ่าพยัคฆ์เปิดศึกสงครามเพื่อแย่งชิงสิทธิในการปกครองมนุษย์ ทำให้แผ่นดิน ลุกเป็นไฟ มหาเทพต้องการหลีกเลี่ยงศึกสงคราม ดังนั้นจึงช่วงชิงอิทธิฤทธิ์อัคคีของคาจินไป โดยสะกดอิทธิ ฤทธิ์อัคคี  ไว้ในสร้อยหยกแดง   ต่อมา คาจินหลงรักมหาเทพ ขณะที่คาจินเลิกล้มความคิดที่จะปกครองชนเผ่า พยัคฆ์เพื่อติดตามมหาเทพ  คาจินกลับพบเห็นมหาเทพกำลังพลอดรักกับเซโอ ด้วยเรื่องนี้เองทำให้คาจิน ทั้งรักทั้งเกลียดมหาเทพ

ในช่วงที่ต้องต่อสู้กับชนเผ่าพยัคฆ์   เซโอเห็นคาจินโยนเลือดเนื้อเชื้อไขของนางลงหน้าผาด้วยความเคียด แค้นและ      ความเสียใจทำให้เซโอไม่สามารถควบคุมเพลิงซึ่งลุกโชน ในจิตใจนางได้จึงทำให้นางกลาย ร่างเป็นหงส์ดำ เพลิงเผาผลาญโลกมนุษย์ราวกับทะเลเพลิง แม้ว่ามหาเทพใช้อิทธิฤทธิ์ของวายุเทพ ,พิรุณเทพและจ้าวเมฆาก็ไม่สามารถรับมือกับหงส์ดำได้ มหาเทพไม่มีทางเลือกจึงต้องปลิดชีวิตหงส์ดำ ด้วยตนเอง จากนั้นก็สะกดอิทธิฤทธิ์อัคคีไว้ในสร้อยหยกแดง เพื่อกำจัดเพลิงที่ลุกไหม้จากอิทธิฤทธิ์อัคคี ของหงส์ดำ โลกมนุษย์ต้องจมอยู่ใต้น้ำ มหาเทพสะกดอิทธิฤทธิ์ของสี่เทพเอาไว้กลับสู่สรวงสวรรค์ จากนั้นก็ประกาศว่าในวัน ที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว มหาราชผู้รวบรวมแคว้นโกคูรยอ เป็นหนึ่งเดียว จะถือกำเนิดขึ้นมา พร้อมด้วยสี่เทพก็จะอุบัติขึ้นด้วย นับพันปีมานี้ ชาวโกคูรยอต่างพากัน รอคอยการถือ กำเนิดของมหาราช แต่ในคืนเดียวกันนั้นเองกลับมีราชาที่ถือกำเนิดขึ้นมาถึงสองพระองค์...... พรรคอัคคีรุกรานไปทั่วเพื่อเสาะแสวงหาของวิเศษทั้งสี่

ผู้เฒ่าพรรคอัคคีเชื่อว่าคีฮาคือธิดาอัคคีที่มาจุติ พรรคอัคคีให้การชุบเลี้ยงคีฮาจนเติบโตเป็นสาว คีฮาซึ่งมีอายุครบสิบห้าปีได้ถูกพรรคอัคคีนำตัวไปยังแท่นบูชาฟ้าดิน
ซูจีนีเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีผู้หญิงมาก่อน  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อุปนิสัยของนางไม่เหมือน กับผู้หญิงสักเท่าใดนักซูจีนี เป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดซุกซน เพื่อสืบหาข่าวต่างๆ ซูจีนีได้ติดตามยอนโกตั้งแผงทำนายดวงชะตาที่ตลาด การนี้เพื่อสืบความเคลื่อนไหวในวังหลวงอีกด้วย ทางด้านพระเจ้ายังวัง แม้ว่าในเวลานี้พระองค์เป็นผู้ปกครองแผ่นดินก็ตาม แต่บัลลังก์ของพระองค์ก็ไม่ได้มั่นคงมากมาย แต่ถึงกระนั้นก็ตามพระองค์ก็ไม่ทรงละความพยายาม พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่าจะปกป้องดูแลทัมต๊อกให้เติบโตเจริญงอกงาม จากนั้นพระองค์ก็จะทรงมอบบัลลังก์ให้ทัมต๊อก ทั้งหมดนี้เป็นพระราชประสงค์สำคัญของพระเจ้ายังวัง

คีฮาต้องรับภาระหน้าที่ธิดาอัคคีแห่งพรรคอัคคี นางเป็นผู้ที่จะต้องบรรลุภารกิจสำคัญของพรรคอัคคี แต่แล้วคีฮาก็ได้รู้จักกับทัมต๊อกองค์รัชทายาท โกคูรยอซึ่งไม่ได้เกี่ยวพัน กับภารกิจของนางแต่อย่างใด จนกระทั่งโชคชะตาก็ทำให้นางหลงรักทัมต๊อก ยอนโฮเกเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งถือกำเนิดในวันเดือนปีเดียวกับทัมต๊อก ยอนโฮเกเป็นคนมองโลก ในแง่ดี จิตใจดีงาม ยึดถือคุณธรรมเป็นที่ตั้ง ยอนโฮเกและทัมต๊อกนับถือกันเป็นพี่น้อง ยอนโฮเกเป็นเชื้อพระวงศ์ อันสืบเนื่องมาจากแม่ของยอนโฮเกนั้นเป็น พระขนิษฐา ของพระราชารัชกาลก่อน แม่ของยอนโฮเกทำทุกอย่างเพื่อให้ยอนโฮเกได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ นางเคยทูลขอให้พระราชารัชกาลก่อนทรงมอบราชบัลลังก์ให้ยอนโฮเก แต่กลับไม่เป็นไปตามที่ปรารถนา ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องพึ่งกำลังของนางเอง ....
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2008, 04:49:44 PM โดย นานะจัง »

nanajung

เรื่องนี้ได้รางวัลเยอะมากค่ะ

ที่สุดของ Production  ใช้ Scale เทียบเท่ากับภาพยนตร์  ด้วยทุนสร้างกว่า 1,600 ล้านบาท 
ที่สุดของ Computer Graphic สุดอลังการซึ่งไม่เคยปรากฏในละครย้อนยุคเรื่องใดมาก่อน
ที่สุดของเพลงประกอบละคร ที่ได้วง Boy Band ที่สุดแห่งเอเชีย “ทงบังชินกิ” ร้องเพลงประกอบให้
ที่สุดของนักแสดง เป็นการกลับคืนสู่จอโทรทัศน์อีกครั้งในรอบ 4 ปี ของสุดยอด Super Star แห่งเกาหลี “เบยองจุน”


รางวัลแห่งความสำเร็จ จากงาน MBC 2007 Performance Awards

รางวัลที่สุดด้านการแสดง ได้แก่  เบยองจุน
นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ได้แก่  ลีจีอา
รางวัล Golden Preformance ประเภทซีรีส์ประวัติศาสตร์ ได้แก่ ชอยมินซู
รางวัล Best Project
รางวัลนักแสดงชายยอดนิยม ได้แก่ เบยองจุน
รางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยม ได้แก่  ลีจีอา
รางวัลนักแสดงคู่ขวัญยอดนิยม   ได้แก่  เบยองจุนและลีจีอา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2008, 04:43:03 PM โดย นานะจัง »

nanajung

ภาพของ  เซโอ  อดีตชาติของนางเอกค่ะ 
ชอบ มากค่ะ ออกแบบเครื่อง แต่งกายได้งดงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่ทำไมไม่มีวอลเปอร์ ตอนที่ หงส์ไฟ เปลี่ยนเป็น หงส์ดำไม่รู้อ่ะ ภาพนั้นงดงามมากจริงๆ

[/

ซูจีนี หรือ เมื่อ 2000 ปี ที่แล้วคือ เซโอ ค่ะ พอผมสั้นแล้วเปลี่ยนลุคไปเลยอ่ะ ดูแล้ว เหมือนนางเอกเอกที่หลุดออกมาจากไฟนอลแฟนตาซีเลยอ่ะ

[URL=http://imageshack.us][/

ตอนนี้ยอมรับว่า บ้าเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ เหอๆ  :)

amadaRi

เห็นอยู่แวบนึงค่ะ แต่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าภาพเค้าสวยมาก ฉากที่ดูก็ไม่มีซีจีหรอกค่ะ แต่ก็ดูรู้ว่าคนกำกับภาพเก่ง 55+

ต้องบอกตามตรงว่าเกาหลีไม่ใช่แนวของเราเลย ก็เลยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูอีก
อันที่จริงอุปสรรคในการดูละครเกาหลีสำหรับเราแล้วคงเป็นเรื่องความยาวมากกว่า
หลังๆ ดูมา ไม่เคยดูจบสักเรื่องเลย(ดูแผ่นเอานั้นล่ะค่ะ พอใกล้จะจบก็เบื่อเฉย)
ยิ่งดูทีวีเอานี้ยิ่งเหนื่อย เลยคิดว่าไม่ดูดีกว่า ฮา~

แต่ก็ยอมรับค่ะว่าน่าดู ถ้ามีแรงจูงใจอื่นอย่างตัวนักแสดง รึอะไรก็ตามสำหรับเราแล้วก็คงจะดูแน่นอน
เพราะปกติจะดูละครก็ดูที่นักแสดงก่อนอยู่แล้ว 55+

nanajung

เห็นอยู่แวบนึงค่ะ แต่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าภาพเค้าสวยมาก ฉากที่ดูก็ไม่มีซีจีหรอกค่ะ แต่ก็ดูรู้ว่าคนกำกับภาพเก่ง 55+

ต้องบอกตามตรงว่าเกาหลีไม่ใช่แนวของเราเลย ก็เลยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูอีก
อันที่จริงอุปสรรคในการดูละครเกาหลีสำหรับเราแล้วคงเป็นเรื่องความยาวมากกว่า
หลังๆ ดูมา ไม่เคยดูจบสักเรื่องเลย(ดูแผ่นเอานั้นล่ะค่ะ พอใกล้จะจบก็เบื่อเฉย)
ยิ่งดูทีวีเอานี้ยิ่งเหนื่อย เลยคิดว่าไม่ดูดีกว่า ฮา~

แต่ก็ยอมรับค่ะว่าน่าดู ถ้ามีแรงจูงใจอื่นอย่างตัวนักแสดง รึอะไรก็ตามสำหรับเราแล้วก็คงจะดูแน่นอน
เพราะปกติจะดูละครก็ดูที่นักแสดงก่อนอยู่แล้ว 55+

ถ้าพูดตามจริงแล้ว พี่ไม่ได้คลั่งกระแสเกาหลีหรอกนะ ดูบางเรื่องที่สนุกจริงๆเท่านั้น อย่างเรื่องนี้ก็เพิ่งมาดูจริงจังนั่นแหละ
คือไม่ดูนานแล้ว พอจบเรื่อง แดจังกึม หมอโฮจุน ก็แทบไม่ได้ดูเลยอ่ะ ช่อง3 ช่อง 7 ก็ดูล่าสุด ก็ เรื่อง รักนี้มาจากไหนมั้ง ดูบางเรื่องจริงๆ
เพราะชอบบทที่เข้ม เค้าเขียนได้ดีจริงๆเลยอ่ะ ยืดก็ไม่ไร้สาระเหมือนบ้านเรายืด แล้วอีกอย่างที่ดูเรื่อง The Legend เพราะว่าเห็นฉากแล้วพี่เข้าใจว่าเอาค้าโครงเรื่องมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่พี่เคยอ่านน่ะจ็เลยตั้งตาดูเป็นพิเศษ แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย พระเอกฉลาดล้ำลึกซะจริงๆ

ninda

ก็เรื่องนี้แหละ...ป๋าเบกลับมาทวงบัลลังก์...

ปีที่แล้ว ขนาดว่า แฟนคลับจุนกิ นั่งระดมทุนจิ้มโหวต คนละประมาณ 4-5 รอบ ต่อวัน (เกาหลีนั่งจิ้มหนักกว่านี้)
แถมยังระดมตัวกันทั้งแฟนคลับ จีน เกาหลี ไทย สิงคโปร์ อินโด...ช่วยกันส่งผลโหวต

มั้นนนนก็ยังได้แค่ 30 เปอร์เซนต์ของป๋าเบเลย

สรุปป๋าเบชนะเลิศไปแบบที่ กองยู ก็ชวด (ปีที่แล้ว กองยู พระเอก coffee prince ดังมาก แต่จุนกิก็ดังเพราะแฟนคลับมีมาก 555)

เรื่องนี้มาฉายไทยเร็วมากเลยนะ ตอนแรกเห็นแล้วงงว่าช่อง 3 ทำไมเร็วจัง

แต่ว่าคงจะสนุกมากและเจ๋งมากล่ะเนอะ เพราะเรื่องนี้ กวาดไปหมดแทบจะทุกรางวัล