ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

ฉันรักเธอนะ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
ฉันรักเธอนะ
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 05:36:21 PM »



“ฉันรักเธอนะ”
       
       บทประพันธ์ : นิพนธ์ ประสิทธิ์สมบัติ
       บทโทรทัศน์ : พิง ลำพระเพลิง
       กำกับการแสดง : สำรวย รักชาติ
       แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้
       ผลิต : ช่อง 7 สี โดย บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
       ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 - 22.30 น. ทางช่อง 7 สี
       ระยะเวลาการออกอากาศ : เริ่มวันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 -
       จำนวนตอน : 14+

[c] http://www.manager.co.th


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 05:46:13 PM »


ไอยูกิ แสดงโดย ไปรยา สวนดอกไม้
       
       สาวน้อยมากความสามารถ...ซุปเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น ด้วยความที่ ยูกิเป็นหญิงสาวสดใส มีสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร และความสามารถเกินตัวกับวัยเพียง 21 ปี เธอจึงกลายเป็นไอดอลของเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นทั่วประเทศ นอกจากนั้นชื่อเสียงของเธอยังดังข้ามประเทศไปทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ยูกิเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม ฐานะดี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของญี่ปุ่น แต่เธอก็ยังเป็นคนสมถะ ไม่เรื่องมากเธอหลงรักประเทศไทยมาก โดยเฉพาะทะเลไทย เธอเคยมาเที่ยวประเทศไทยกับครอบครัวบ่อยครั้ง เธอจึงสนใจฝึกเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่มัธยม อีกทั้งในอัลบั้มของเธอ ยังแต่เพลงไทยเป็นของขวัญสำหรับแฟนคลับด้วยด้วยความที่ยูกิมีความสามารถทางศิลปะ ทั้งดนตรี วาดรูป แต่งเพลง ทำให้เธอมีความเป็นศิลปินอยู่สูง รักอิสระ อารมณ์สุนทรีย์ ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต พูดจาตรงไปตรงมา ไม่แอ๊บเหมือนดาราหลายๆ คนที่ทำกัน ยูกิเป็นคนรักครอบครัวมากกว่าสิ่งอื่นใดหากต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับคู่หมั้นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นของเธอ เธอก็ยอมสละความรักของตัวเอง



นับดาว แสดงโดย ไปรยา สวนดอกไม้
       
       นับดาวเป็นหญิงสาวธรรมดาที่ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีใครสนใจ ชนิดที่หากไปสั่งอาหารก็จะได้คนสุดท้ายของโต๊ะ สวัสดีใครเขาก็จะมองข้ามหัว นับดาวโตมากับยายของเธอเพียงลำพัง เพราะพ่อแม่ทิ้งเธอไปตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เธออายุได้ 21 ปีแล้วหน้าตาเหมือนไอยูกิ นับดาวมักโทษตัวเองเสมอว่าที่พ่อแม่ทิ้งเธอไปนั้นเป็นเพราะรังเกียจที่เธอเป็นคนพิการ เธอพิการทางหู โดยหูขวาหนวกสนิทตั้งแต่กำเนิด เป็นอุปสรรคในการได้ยินอย่างมาก คือถ้าไม่พูดกับหูซ้าย (ข้างที่ไม่หนวก) กับเธอโดยตรง เธอก็จะแทบจับความไม่ได้เลย นั่นทำให้นับดาวมีความสามารถในการอ่านปากคนได้อย่างแม่นยำ นับดาวฝันอยากจะเป็นคนดัง เป็นซุปเปอร์สตาร์ เธออยากให้มีคนรู้จักและยอมรับเธอ เพราะปมด้อยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ที่ไม่เคยเป็นคนสำคัญ แถมยังโดนรังเกียจเรื่องความพิการอีก นับดาวจึงไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีคนมาจีบ แม้ว่าเธอจะมีนิสัยที่ดีไม่แพ้ใคร เธอจึงโหยหาความรักมากกว่าคนปกติ นับดาวเป็นคนรักเพลงไทย ศิลปะวัฒนธรรมไทยมาก ถึงขึ้นแอนตี้แฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น ที่เข้ามาระบาดในเมืองไทยด้วย แม้กระทั่งเจอคนต่างชาติมาถามทาง นับดาวก็จะตอบเป็นภาษาไทย เพราะมีคติไม่พูดภาษาอื่นในบ้านเกิดตัวเอง เธอเป็นคนมุ่งมั่น ตั้งใจ และมีความเชื่อว่า ถ้าคนเราพยายามก็จะไปถึงฝันได้ในวันหนึ่งและด้วยความที่เธออยู่กับยายมา ตั้งแต่เด็ก และอยู่แต่กับเพลงลูกกรุง นับดาวจึงดูเป็นคนเชยๆ ไม่ตามแฟชั่น ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ผมกระเซอะกระเซิง ใส่แว่นตาหนาเตอะ



ไท เป็นไท แสดงโดย สเตฟาน - ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์
       
       เป็นไท ชายหนุ่มวัย 27 ปี ที่ก้าวหน้ากว่าคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน ด้วยความสามารถเกี่ยวกับการจัดการที่เป็นเลิศ ทำให้ไทได้เป็นเจ้าของบ.อิสสยาม จัดงานออแกไนซ์ คอนเสริต์ต่างๆ พ่อเป็นนักธุรกิจพันล้าน แต่ตัวเค้าไม่ต้องการอาศัยเงินพ่อ โดยขอยืมเงินจากแพรวไพลินแลกกับการเป็นแฟน และประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของวงการในระดับต้นๆ ไทเป็นคนชอบเอาชนะ ยิ่งรู้ว่าสิ่งไหนได้มายากๆยิ่งอยากได้ และเขาก็สู้ไม่ถอย แต่ขณะเดียวกันเขาก็สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ อย่างคนมีน้ำใจนักกีฬา ไทเป็นนักแก้ปัญหาตัวยง ไม่ว่าจะเจอปัญหาเฉพาะหน้าอะไร หรือถ้าลูกค้าต้องการสิ่งไหน ไทจะตอบว่า “ครับ ได้ครับ” เสมอ ไทเป็นคนมีอารมณ์ขัน ใครหงุดหงิดเขาสามารถเอนเตอร์เทนให้คนๆนั้นลืมเรื่องเครียดไปได้ เขาเป็นคนคิดบวกเสมอไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน แต่เขาก็สร้างทุกอย่างมาได้ด้วยตัวเอง




ยามาดะ/ Tony แสดงโดย เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์
       
       ชายชาวญี่ปุ่นหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่า วัย 25 ปี เขาเริ่มเป็นนักเลงหัวไม้ตั้งแต่ ยังอายุ 16 ปี ด้วยความที่เป็นลูกผู้ชายตัวจริง ใจเด็ด กล้าลุย กล้าเจ็บ ไม่ กลัวตาย เขาจึงกลายมาเป็นหัวหน้ายากูซ่าตั้งแต่อายุยังน้อย หลังจากหัวหน้าเก่าได้ตายไป ยามาดะเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ แต่เขาก็ฝังใจกับรักแรกของเขาตั้งแต่สมัยมัธยมมาตลอด โดยเขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนอีกเลย แม้ใครจะว่าไม่คู่ควร เขาก็ไม่สนใจ เขาก็ยังเฝ้าตาม ถามไถ่ และสืบเพื่อให้ รู้ความเป็นไปของคนที่เขารักตลอด หากเขาต้องแลกอะไรเพื่อคนที่เขารักแล้ว แม้แต่ชีวิตเขาก็แลกได้ พ่อแม่ของยามาดะถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่เขาอายุแค่ 7 ขวบเท่านั้น เขาจึงโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วเขาก็หนีออกมาใช้ชีวิตเองตั้งแต่อายุ 11 ปี ยามาดะจึงเป็นนักสู้ทั้งเรื่องกำลัง และในเรื่องชีวิต เขาเคยมาทำงานหาปลาในเรือประมงของไทย แถวบ้านเพ จังหวัดระยอง ทำให้เขาพูดและเข้าใจภาษาไทยได้ดี และเชี่ยวชาญทะเล แถบตะวันออกเป็นอย่างมาก แม้ยามาดะจะเรียนไม่จบแต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างช่ำชอง อาศัยความรู้จากการอ่านเอง และประสบการณ์ที่ได้เจอมา ทำให้เขาก็ไม่ใช่คนโง่ในสายตาใคร



แพรว แพรวไพลิน แสดงโดย ปัณฑิตา เคาวเวลล์
       
       หญิงสาวไฮโซลูกเจ้าของศูนย์ประชุมวัย 24 ปี จบด้านแฟชั่นดีไซน์มาจากอังกฤษ เป็นลูกคุณหนู เอาแต่ใจ เพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ด้วยความที่จบแฟชั่นมา แพรวจึงเป็นคนที่แต่งตัวจัด อินเทรนด์ตลอดเวลา เวลาออกไปไหนจะแต่งเต็มตลอด ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม และแบรนด์เนมทั้งตัว เธอเป็นคนชอบเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตตัวเอง ซื้อของก็ต้องแพงที่สุด ทานอาหารก็ต้องร้านที่อร่อยที่สุด เลือกคนมาเป็นแฟนก็ต้องฮอตที่สุดในตอนนั้น ชีวิตแพรวจึงติดกับภาพลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนใหญ่ เธอจะยอมเสียหน้าไม่ได้เลย ใครจะว่าเธอไม่สมบูรณ์แบบไม่ได้ เพราะเธอทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง และเธอก็พร้อมที่จะเสียเงินก้อนโตให้กับทุกคนที่แวดล้อมชีวิตเธอให้เพอร์เฟคเช่นกัน เพื่อจะส่งเสริมความเพอร์เฟค ของเธอให้มากยิ่งขึ้น แพรวเป็นคนนิสัยดี น่ารัก มีน้ำใจ กับคนอื่นๆ ยกเว้นคนที่มาขัดผลประโยชน์กับเธอเท่านั้น ด้วยความที่เธอเป็นคน ไม่เคยถูกขัดใจมาก่อนในชีวิต ดังนั้น ถ้าใครมาขัดผลประโยชน์กับเธอ เธอก็จะเอาชนะทุกวิถีทางเพื่อจะให้ได้มา



ไค - ไคคุง แสดงโดย ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์
       
       นักธุรกิจหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่อายุเพิ่งจะ 25 ปี ลูกเศรษฐีเจ้าของอุตสาหกรรมอาหารทะเลส่งออกที่มาดูแลกิจการของครอบครัวต่อ เบื้องหลังค้ายาเสพติด ไคเป็นคนไม่ยอมคน โผงผาง และเขายอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาเสียหน้า ไคเป็นคนหลงตัวเอง เขาคิดเสมอว่า ถ้าเขาจีบใครก็ติดหมด เขาจึงชอบจีบเฉพาะดาราดังๆในญี่ปุ่นเท่านั้น ไคเป็นคนชอบวิธีลัด ไม่ว่าจะรวยทางลัด ชนะคนอื่นด้วยการโกง อะไรที่ จะย่นระยะทางเพื่อไปถึงเป้าหมาย ไคมักจะเลือกทางนั้น แต่ไคก็มีข้อดีบ้างเหมือนกัน คือเขาเป็นคนสุภาพ พูดจาเพราะ ดูแลเทคแคร์คนเก่ง แถมยังมีคารมคมคาย สามารถพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้เสมอ ร่วมมือกับซีซี เพื่อแยกไอยูกิกับเป็นไท สุดท้ายทั้งคู่ได้เสียกัน



นุ้ย วราพรรณ แสดงโดย กุญแจซอล - ป่านทอง บุญทอง
       
       นักข่าวสาววัย 21 ปี ที่ถูกสำนักพิมพ์ใช้งานเยี่ยงทาส แต่เธอก็ก้มหน้าทำงกๆ เพื่อหวังจะก้าวหน้าในอาชีพ นุ้ยมีนิสัยห้าวๆ ลุยๆ ให้ไปทำข่าวที่ไหนเธอไปได้ทุกที่ไม่เกี่ยง คนไม่ค่อยกล้าเข้ามาจีบเธอเพราะคิดว่าเธอเป็นทอม แล้วเธอก็ไม่เคยแสดงออกให้ใคร เห็นว่าสนใจผู้ชายเลยซักที แต่จริงๆแล้วนุ้ยก็เป็นผู้หญิงอ่อนไหวคนหนึ่ง ที่ชอบเก็บงำความรู้สึกไว้ในใจ ไม่ว่าเวลารักหรือชอบ ใครเธอก็ไม่เคยแสดงอาการออกมาแม้แต่นิดเดียว เธอจึงได้เป็น แค่เพื่อนกับคนๆ นั้นเสมอ นุ้ยเป็นคนมีน้ำใจและรักเพื่อนมาก ใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไรนุ้ยพร้อมจะช่วยเสมอ ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยโคลนที่ไหน นุ้ยก็จะไป ถ้าหากเพื่อนต้องการ นุ้ยเป็นคนสองบุคลิก จะสงวนท่าทีเวลาอยู่ต่อหน้าคนไม่รู้จัก ทำเข้ม ทำขรึม แต่ ถ้ากับคนสนิทจะเหมือนเป็นคนละคนเลย ทั้งน่ารัก ทั้งตลก มีมุกมาปล่อยตลอด แถมยังชอบเต้นบ้าๆ บอๆ ด้วย ทำให้นุ้ยเป็นที่รักของเพื่อน



องอาจ แสดงโดย วิชญ จารุจินดา
       
       โปรดิวเซอร์วัย 27 ปี ที่ทุ่มทั้งชีวิตให้กับงานที่ตัวเองรัก เป็นคนช่างจัดการ เจรจาต่อรองเก่ง และเป็นคนเจ้าระเบียบ อะไรวางไม่ถูกที่ถูกทาง เขาก็จะไปจัด ไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย เขายังเป็นคนชอบดูแลคนอื่น ชอบเห็นคนอื่นมีความสุขที่ได้สมดังหวัง ใครๆ จึงคิดว่าเขาเป็นเกย์ ควรจะไปทำ wedding studio มากกว่า แต่จริงๆ เขาไม่ใช่ เขาแค่ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนมาก่อนเท่านั้นเอง เพราะมัวทำแต่ ทำงาน องอาจเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องตัวเอง เช่นใครทักว่าผมสั้นไป เขาก็จะไปต่อผม ใครทักว่าผอมไป เขาก็จะรีบกินให้อ้วน แต่ในเรื่องการทำงานเขาฉะฉานและมั่นใจมาก องอาจถือคติว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เขาจึงเต็มที่กับทุกอย่างที่เขาทำ จะไม่มักง่ายและ ปล่อยงานให้ค้างๆคาๆ เด็ดขาด เขาจึงเป็นโปรดิวเซอร์มือทองที่มีงานจ้างอยู่ตลอด แต่เขาก็เลือกจะทำแต่กับคนที่เขาสบายใจเท่านั้น



ซีซี แสดงโดย ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล
       
       อดีตดาราชื่อดังลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่ตกกระป๋องไป เพราะถูกดาราหน้าใหม่ที่เก่งกว่า สาวกว่าขึ้นมาเบียด ด้วยอายุเพียง 25 ปี แต่กลับถูกมองว่าแก่ไปสำหรับวงการบันเทิง ซีซีจึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะกลับมาดังอีกครั้ง เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อกำจัดคนที่มายืนใน ตำแหน่งที่เธอเคยยืน ซีซีอายแม่ของเธอมาก เพราะแม่เธอเป็นเมียเช่าที่บังเอิญโชคดีได้สามีเป็นญี่ปุ่น ซีซีจึงพยายามจะเบียดตัวเองขึ้นไปให้สูงกว่าปกติเพื่อไม่ให้มาดูถูกเธอ และตอนเธอเป็นดาราก็ไม่เคยพูดถึงแม่ หรือเอาแม่ไปออกรายการทีวีด้วยเลย ซีซีคิดว่าที่เธอตกกระป๋องเพราะเธอมีเชื้อไทย ญี่ปุ่นเป็นประเทศชาตินิยม เธอจึงหมดอนาคตในวงการอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่เคยดูตัวเองเลยว่า ตั้งแต่เธอเป็นดารา เธอลืมตัว เอาแต่ใจ ขี้วีน แสดงนิสัยแย่ๆ จน ไม่มีใครจ้างจึงจ้างยามาดะจับตัวไอยูกิ เพื่อให้ได้งานกลับมา และร่วมมือกับไคคุงแต่พลาดจึงได้เสียกับไคคุง เมื่อทั้งสองขัดใจกันซีซีจึงแฉว่าไคคุงว่าค้ายาเสพติด



รจนา แสดงโดย ดร.ปัฑมาฆะ สุคนธมาน
       
       หญิงชราวัยราวๆ 55-60 ปี อดีตนักร้องวงสุนทรีภรณ์ชื่อดัง เธอเป็นคนที่รักการร้องเพลงมากเธอร้องเพลงตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าโต้ตอบเป็นเพลงได้เธอก็จะทำ รจนายึดติดกับอดีตวัยสาวที่ตนเป็นนักร้องชื่อดัง มีคนนับหน้าถือตา เธอจึงพร่ำบ่นกับโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนไป นำเอาวัฒนธรรมฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น มา แม้กระทั่งเพลงไทยเดิมก็แทบจะไม่มีคนฟังแล้ว เธอปลูกฝังหลานคนเดียวของเธอให้ชาตินิยม แม้จะแก่แล้วแต่ก็ไม่เคยอยู่นิ่ง เธอยังทำงานที่เธอรักคือร้องเพลง แต่ก็ไม่มีใครจ้างเท่าไหร่ จะได้ไปก็แต่ งานแต่งงานของลูกหลานคนในวงเดียวกันเท่านั้น และจะใจหายทุกครั้งที่คนในวงตายไปทีละคนสองคน รจนาอยากมีโอกาสขึ้นเวทีประกาศความเป็นไทยอีกครั้ง ด้วยเพลงของเธอ ที่คนปัจจุบันมอง ข้ามไป เวลาว่างจากการร้องเพลง รจนาก็จะบ่น บ่น บ่น โลกที่ไม่เป็นดั่งใจเธอให้กับหลานฟังแต่นั่นก็ทำให้รู้ว่าเธอยังแข็งแรงดีอยู่

สังวรณ์ แสดงโดย แซม โชติบันฑ์ / แมทธิว ดีน
       
       เจ้าของบริษัทอีเวนต์และสิ่งพิมพ์ โดยหนึ่งธุรกิจของเขาที่กำลังรุ่งก็คือ นิตยสารเอเชี่ยนฮิต แม้ว่าจะอายุปาเข้าไป 35 ปีแล้ว สังวรณ์ก็พยายามทำตัวเองให้เป็นวัยรุ่น แต่งตัวจัด ตามแฟชั่น อินเทรนด์ไม่แพ้ใคร โดยไม่ดูตัวเองเลยว่าเหมาะรึเปล่า อีกทั้งพยายามตั้งชื่อเกาหลีให้ ตัวเองตามกระแสเกาหลีฟีเวอร์ โดยเขาบอกใครๆว่าเขาชื่อ ซีซังวอน สังวรณ์เป็นคนฉลาดแกมโกง เขาอาศัยประสบการณ์และคอนเน็คชั่นที่มากกว่าคนอื่นในตลาดอีเวนต์ และสิ่งพิมพ์ พยายามเขี่ยพวก ธุรกิจเล็กๆที่เปิดใหม่ให้ร่วงไปหลายราย ทำให้เขายังครอง ตลาดมาได้ ถึงทุกวันนี้สังวรณ์เป็นคนชอบพรีเซ็นต์ตัวเอง เพราะจริงๆ ลึกๆแล้ว สังวรณ์อยากเป็นดารา อยากมีโอกาสได้เป็นพระเอกหนังซักเรื่อง เขาจึงใช้สื่อที่มีในมือลงรูปตัวเองบ้าง ออกทีวีในวิจารณ์ดาราบ้าง เผื่อ จะมีคนมาชวนไปถ่ายโฆษณาหรือเล่นหนังซักเรื่อง แต่อยู่มาเป็นสิบปีก็ไม่มีซักที สังวรเลยตั้งใจจะขยายตลาด ธุรกิจที่มีอยู่ เพื่อหาเงินก้อนใหญ่มาสร้างหนังให้ตัวเองเล่นซักเรื่อง

พ่อไอยูกิ แสดงโดย เคน สทรุทเกอร์
       พูดภาษาไทยได้บ้าง เพราะช่วยกันฝึกลูกให้พูดภาษาไทย
       
แม่ไอยูกิ แสดงโดย YUMI OMEDA
       พูดภาษาไทยได้บ้าง เพราะช่วยกันฝึกให้ลูกพูดภาษาไทย

เลขาสังวรณ์ แสดงโดย พศิน ศรีธรรม

เลขาเป็นไท แสดงโดย ณัฐธยาณ์ สุวรรณโรจน์

เจ้าของค่ายเพลง ต้นสังกัดของไอยูกิ แสดงโดย ทากาโต คิตาโมโต

พิธีกร แสดงโดย เทวินทร์ คุณารัตนวัฒน์

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 05:48:15 PM »





ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 05:49:40 PM »

ตอนที่1

ภาพบนจอทีวีภายในห้องประชุมขณะนั้น เป็นการแสดงคอนเสิร์ตในห้องส่ง ของยูกิ ศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่น มีนักข่าวจำนวนมากมาออถ่ายรูปอยู่ด้านหน้าเวที ยูกิออกมายืนร้องเพลงฮิต โดยมีแฟนคลับจำนวนมากชูป้ายไฟชื่อของเธอบ้าง ป้ายที่เขียนว่ารักยูกิตลอดไปบ้าง ยูกิถ่ายทอดเสียงเพลงของเธอได้อย่างจับใจ แฟนคลับทั้งกรี๊ด ทั้งตะโกนเรียกชื่อเธอ พร้อมกับร้องเพลงตามกันอย่างสนุกสนาน



เป็นไทกดรีโมทหยุดภาพของยูกิ ทุกคนในห้องประชุมตั้งใจฟังเขา
       “ไอ ยูกิ ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของญี่ปุ่นในตอนนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนในที่นี้คงเคย ได้ยินชื่อเสียงของเธอมาบ้าง และก็น่าจะพอรู้ว่าแฟนคลับในประเทศไทยของ เธอมีมากขนาดไหน ตอนนี้เธอตอบตกลงจะมาเล่นคอนเสิร์ตที่บ้านเรา โดยมีบริษัทเราเป็นคนดูแลการจัดงานทั้งหมด”
       เป็นไทยิ้มแก้มปริเมื่อได้บอกข่าวดี ทุกคนในห้องประชุมตื่นเต้นดีใจกันออกนอกหน้า โดยเฉพาะองอาจที่เพิ่งเดินเข้ามาหลังจากที่ประชุมปิดดีวีดีไปแล้ว องอาจทำเป็นดีใจกลบเกลื่อนการมาสายของตน
       “นี่เราจะได้จัดงานใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาใน ชีวิตโปรดิวเซอร์ ไม่เค้ย ไม่เคย ได้จัดงานระดับประเทศแบบนี้มาก่อน แฮปปี้มากๆ”




       เป็นไทมองอย่างระอา
       “สายตลอด...นี่รู้มั้ย หน้าตาศิลปินเป็นยังไง”
       “หน้าตาเป็นญี่ปุ่นสิ...ไม่ต้องห่วงน่า ลูกพี่ถึงจะสาย ผมทำการบ้านตลอด”
       “ให้มันจริงเหอะ งานนี้เราจะพลาดไม่ได้เลยล่ะ” เป็นไทหน้าตาเอาจริงเอาจังขึ้นมา “เอาล่ะ ที่ฉันเรียกประชุมพวกเราวันนี้ ก็แค่จะแจ้งข่าวนี้กับทุกคนเท่านั้นแหละ เป็นการบอกให้รู้ว่าตั้งแต่นี้ไป งานเราจะหนักขึ้น แต่ถ้ามันสำเร็จลงด้วยดีละก็โบนัสงามๆก็จะเป็นของเราทุกคน”
       พนักงานตื่นเต้นดีใจกันใหญ่
       “เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายไปทำงานต่อได้”
       พนักงานแยกย้าย ทยอยกันออกไปจากห้องประชุม เป็นไทหันมาหาองอาจ
       “แล้วงานศิลปวัฒนธรรม ที่จัดเย็นนี้เตรียมพร้อมหมดแล้วใช่มั้ย”
       “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
       “ดี” เป็นไทพยักหน้าพอใจ



เย็นนั้น...สภาพรถในถนนวิ่งกันวุ่นวาย นับดาวผมกระเซอะกระเซิง แต่งตัวทะมัดทะแมง ใส่แว่นตากรอบใหญ่แทบจะเท่าใบหน้า หิ้วถุงเสื้อผ้าใบใหญ่มาอย่างทุลักทุเล ปากก็บ่นพึมพำ มายืนโบกแท็กซี่ริมถนนกับรจนาซึ่งเป็นย่าของเธอ ที่แต่งหน้าทำผมพร้อมกับชุดราตรีแบบครบเครื่อง ดูประหลาดสายตากับคนแถวนั้น นับดาวพยายามจะโบกแท็กซี่แต่ไม่มีคันไหนจอด




       “เฮ้ย...อะไรวะ เดี๋ยวฉันจะจดทะเบียนรถไปฟ้องกรมขนส่งทางบก คอยดู”
       นับดาวโบกแท็กซี่อีก แต่คราวนี้มีคนโบกตัดหน้าเธอแล้วก็ขึ้นไป
       “มันอะไรกันนักหนาเนี่ย นิสัยนะ...มาโบกตัดหน้าแบบนี้ได้ยังไง” นับดาวโมโห
       รถแท็กซี่วิ่งไปแล้ว นับดาวก็ยังโวยวายไม่หยุด รจนายืนอยู่ด้านขวาซึ่งเป็นด้านหูข้างที่หนวกของนับดาวเริ่มบ่นบ้าง
       “แล้วนี่เราจะไปทันงานเค้ามั้ยเนี่ย”
       นับดาวนิ่งไป ไม่ได้ยินที่ย่าบ่น ชะเง้อมองแท็กซี่ต่อไป รจนาจึงเดินมาสะกิดหลานสาวให้หันไปหา
       “ย่าถามว่าเราจะไปทันงานมั้ยเนี่ย”
       “ห๊ะ...จะกินเบียร์ ย่าจะกินอะไรตอนนี้คะ แค่นี้เราก็จะไปไม่ทันงานอยู่แล้วเนี่ย”
       “ไม่ได้จะกินเบียร์ บอกจะทันมั้ยเนี่ย”
       “ห๊า...เพลีย...เพลียอะไร นี่ยังไม่ได้เริ่มงานเลย”
       รจนามองหลานสาวอย่างเอือมระอา
       “ฉันล่ะไม่ไหวกับไอ้หลานคนนี้”
       “โทนี่...ใครกัน โทนี่...ย่ารู้จักฝรั่งด้วยเหรอ”
       รจนาเดินมาพูดใกล้ๆหูซ้ายของนับดาวซึ่งเป็นข้างที่ไม่หนวก
       “เรารีบไปจากตรงนี้เถอะ ก่อนที่ย่าจะเริ่มหงุดหงิดแล้วฆ่าใครตายซักคน”
       “หงุดหงิดอะไรเนี่ย ไม่เห็นมีเรื่องน่าหงุดหงิดซะหน่อย นี่จะบอกให้นะย่า หนูก็อยากไปจากที่นี่เหมือนกัน” นับดาวถอนใจ




       เป็นไทอยู่หลังแผงควบคุม คอนโทรลแสงสีเสียงภายในงาน เขาดูนาฬิกา แล้วก็พูดกับองอาจ
       “คิวการแสดงทุกอย่างเรียบร้อยนะ”
       “ครับ”
       “นัดคนที่จะขึ้นโชว์ครบนะ”
       “ก็นัดทุกคนห้าโมง เลตสุดหกโมงครึ่ง”
       “เลตสุดทำไม ทำไมต้องมีเลตสุดด้วย นัดไปเลยห้าโมงไม่ได้เหรอ”
       องอาจยิ้มแหยๆ
       “ก็นิสัยคนไทย”
       เป็นไทส่ายหน้าเอือมๆ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2012, 05:54:54 PM โดย วี »

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 05:57:49 PM »
       มอเตอร์ไซค์รับจ้างขับผ่านมา 2 คันพอดี นับดาวโบกมือเรียก
       “มอไซค์พี่มอไซค์”
       มอเตอร์ไซค์จอดตรงหน้านับดาวและรจนาทั้ง 2 คัน รจนาตะลึง
       “นี่แกจะให้ย่าใส่ชุดราตรีซ้อนมอเตอร์ไซค์รึไง”
       นับดาวพยักหน้า
       “ไม่เอา แกก็รู้ว่าย่าไม่ซ้อนมอไซค์คนแปลกหน้า...ดูหน้ามันซิ ไว้ใจได้ที่ไหน”
       คนขับหน้าเหี้ยมมากได้ยิน ที่รจนาพูดก็ทำหน้าไม่ถูก
       “ย่า...อย่าดูคนที่หน้าตาสิ ถึงเขาจะหน้าตาขี้เหร่ แต่เขาก็ไม่มีการศึกษานะ”
       คนขับเหมือนจะอาการดีขึ้น แต่ก็จ๋อยลงอีก รจนามองทั้งสองคน
       “ย่าไม่ติดที่วุฒิการศึกษา...แต่ติดที่ชาติตระกูลมากกว่า”
       คนขับอึ้งนึกว่าจะพูดให้ดีขึ้น กลับยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
       “คนเราเลือกเกิดไม่ได้นะย่า...ถ้าพี่เค้าเลือกเกิดได้ เค้าก็เลือกเกิดเป็นควายไถนาไปแล้ว” รจนาหันไปพยักหน้ากับคนขับมอเตอร์ไซค์แบบหาพวก ประมาณว่า ย่าตนเองไม่ได้ความ “เค้าไม่มานั่งหน้าซ้นเป็นแบบนี้หรอก...นี่หน้าพี่ไปโดนอะไรมาถึงซ้น”
       คนขับโกรธ
       “โดนด่ามั้งครับ...”
       รจนาไม่ยอมขึ้นมอเตอร์ไซค์
       “ไม่รู้ล่ะ ยังไง ย่าก็ไม่ซ้อนรถคนแปลกหน้า”
       “ไม่ไปไม่ได้ มันจะไม่ทันนะย่า”
       “ไม่...ย่าไม่ไว้ใจ”
       นับดาวอ่อนใจ หันไปพูดกับคนขับมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคัน
       “งั้นก็เดือดร้อนพี่แล้วล่ะ”




คนขับมอเตอร์ถสองคนมองหน้ากัน งงๆ ไม่เข้าใจว่านับดาวหมายถึงอะไร
       นับดาวใส่หมวกกันน๊อก สวมเสื้อวินบิดมอเตอร์ไซค์มีย่านั่งซ้อนมาด้วย ส่วนมอเตอร์ไซค์อีกคัน เป็นคนขับวิน ที่นั่งซ้อนกันเอง ขับตีคู่มากับคันที่นับดาวขับให้ย่าซ้อน
       “ระวังท่อไอเสียนะย่า”
       “ไม่ต้องห่วง ย่าเป็นสก๊อยรุ่นเสียกรุง บิดไปเล้ย”
       คนแก่แต่งหน้าแต่งตัวจัดซ้อนมอเตอร์ไซค์อย่างเมามัน




ในหอประชุมที่ใช้จัดงาน ผู้คนมากมายกำลังแต่งตัวกันให้วุ่น บางคนใส่ชุดลิเก บางคนแต่งเป็นเงาะป่า บ้างใส่หัวโขน บ้างซ้อมเชิดหุ่นละครโรงเล็ก เสียงดนตรีไทย ปี่พาทย์ ดังไปทั่วงาน องอาจถือวอกับสคริปต์เช็กความเรียบร้อย และไล่รายชื่อคนขึ้นทำงานแสดง
       “ฉุยฉายพราหมณ์มาแล้วนะ ลิเกมาแล้ว คราวนี้โหมดเพลงบ้าง เดี๋ยวต้องขึ้น เปิดเลยนี่ ตัวแทนเพลงลูกทุ่ง คุณสายัณห์ มารึยัง”
       ผู้ควบคุมเวทีหันมาบอก
       “มาแล้วครับ รออยู่หลังเวที พร้อมขึ้นแล้วครับ”
       “คุณรจนา ตัวแทนเพลงลูกกรุงล่ะ”
       “ยังไม่เห็นเลยครับ”
       “เฮ้ย...ตอบยังไม่เห็นเลยไม่ได้ เช็กสิเค้าอยู่ไหน ยังไงเนี่ยบนเวทีจะรันอยู่แล้ว มัวทำอะไรกันอยู่”
       ขณะเดียวกันนั้นฝ่ายประสานงานวิ่งเข้ามา
       “ตอนนี้คุณรจนาใกล้ถึงแล้วค่ะ กำลังรีบมาอยู่”
       องอาจหงุดหงิด
       “โอ๊ย...อะไรเนี่ย อีก 2 นาทีงานเริ่มแล้ว ยังมาไม่ถึง แล้วขึ้นคนที่ 2 ด้วยเนี่ยนะ ยังไงๆ ใครเป็นคนตามศิลปินเนี่ย”
       องอาจเครียด เพราะยังไม่ทันได้เริ่มงานก็เริ่มมีปัญหาจุกจิกเข้ามาอีกแล้ว


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:07:43 PM »
นับดาวขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้างาน นับดาวถอดหมวกกันน๊อกคืน แต่ลืมถอดเสื้อวิน เธอยังใส่เสื้อกั๊ก วินติดมาด้วย นับดาว หน้าดำ เพราะเขม่าควันรถ
       “ล้างหน้าหน่อยมั้ย เอ๊งน่ะ” รจนาเตือน
       นับดาวไม่ได้มองหน้าตัวเอง
       “ขับตามรถสิบล้อก็งี้แหละ ย่า”
       “นึกว่าขับตามหลังปลาหมึก” รจนาประชด
       นับดาววิ่งไปบ่นไปเมื่อเห็น รจนาวิ่งในชุดราตรีแบบทุลักทุเล
       “แค่เขาบอกจะถ่ายออกทีวีนิดๆหน่อยๆ ก็แต่งเต็มซะขนาดนี้ แล้วนี่ดูซิ” นับดาวเขย่าถุงเสื้อผ้าที่ตัวเองแบกอยู่ “ร้องเพลงเดียว เอาชุดมาทำไมเยอะขนาดนี้ ก็อต จักรพรรณ ทัวร์คอนเสิร์ตทั้งปีชุดยังไม่เยอะเท่านี้เลย”
       “ความสุขเล็กๆน้อยๆของคนแก่น่า อย่าว่าย่านักเลย เราน่ะบ่นได้บ่นดีมาตลอดทางเลยนะ”
       นับดาวกับรจนารีบเข้าไปในงาน ฝ่ายประสานงานวิ่งหน้าตื่นมาเจอทั้งคู่พอดี
       “คุณรจนานะคะ”
       ฝ่ายประสานชะงักกึก เห็นนับดาว หน้าคล้ำดำมาก เหมือนเพิ่งไปเตะบอลข้างเตาเผาถ่าน รจนารีบบอก
       “ใช่ค่ะ...ใช่”
       “เดี๋ยวรีบเข้าไปในงานเลยนะคะ”
       “นี่ฉันไม่ได้กำลังรีบอยู่หรอกเหรอคะเนี่ย”
       “รีบกว่านี้ได้มั้ยคะ คิวต่อไปเป็นคุณแล้วค่ะ”
       “รีบกว่านี้คงไม่ต้องไปร้องเพลงแล้วค่ะ ไปวิ่ง 4x100 ดีกว่า”




ทั้งหมดรีบตามกันเข้าไปในงาน เป็นไทเดินหน้าไม่พอใจมองนาฬิกาข้อมือสวนออกมา เขากับนับดาวชนเข้าอย่างจังเขม่าที่หน้าเธอเลอะอกเสื้อเขา
       “ขอโ...”
       นับดาวยังพูดไม่ทันจบ เป็นไทอารมณ์ไม่ดีสวนทันควัน
       “ระวังหน่อยคุณ”
       นับดาวมองเป็นไทอย่างหงุดหงิด เขาไม่สนใจเธอเลย ฝ่ายประสานงานเข้ามา
       “นี่คุณรจนาที่ต้องขึ้นร้องคิวต่อไป”
       “พาไปเตรียมตัวด้านในเลยไป”
       ฝ่ายประสานงานลากรจนาจ้ำๆเข้าไป เป็นไทหันมองนับดาว ที่ยังยืนหน้าเขม่าเกาะมองเขาอยู่
       “วิ่งอยู่วินไหนล่ะ เรา”
       นับดาวไม่พอใจ
       “นี่...” การที่ฉันวิ่งเฉี่ยวคุณนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้หมายความว่คุณจะมาดูถูกว่าฉันเป็น พวกมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้นะ”
       “ผมไม่ได้ดูถูก...ผมแค่อยากรู้ ว่า ยายป้านั่นนั่งมอไซค์มาจากไหน”
       “ยายป้างั้นเหรอ...มอเตอร์ไซค์รับจ้างงั้นเหรอ...คุณไม่คิดว่าเราสองคนจะนั่งรถเก๋งมากันมั่งรึไง”
       นับดาวขยับชายเสื้อวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่างยังไม่รู้สึกตัว เป็นไทมองๆ
       “ผมเพียง...”
       “เพียงอะไร...เพียงอะไร...ฉันแต่งตัวงี้ คุณพูดได้ไงว่าฉันเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง...”
       นับดาวกำลังเข่นเขี้ยวเขาอยู่ แล้วเธอก็เห็นในกระจกสะท้อนแถวนั้น ว่าเธอสวมเสื้อกั๊ก และหน้าดำมาก“ เธอเฉไฉเสียงอ่อนลง
       “คนเราหน้าเขม่าเกาะเป็นรอยหมวกกันน๊อก...แล้วสวมเสื้อก๊กสีส้ม อาจไม่ใช่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเสมอไปก็ได้”
       เป็นไทชี้ที่เสื้อวิน
       “มันปักว่า ห้วยขวาง มีเบอร์ด้วย”
       นับดาวนิ่งไปนิดนึงก่อนจะเถียงข้างๆคูๆ
       “เป็นนักบอลไม่ได้เหรอ...อยู่ทีมห้วยขวาง มีไรมั้ย”
       เป็นไทมองนาฬิกาข้อมือ อย่างไม่อยากตอแยด้วย
       “ผมขอตัวแล้วกัน”
       เป็นไทเดินหายเข้าไปด้านใน นับดาวมองเงาสะท้อนตัวเองแล้วก็กุมขมับส่ายหน้า
       “สภาพนี้ ขับมอไซค์มาจากศรีสะเกษแน่ๆ”
       

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:08:32 PM »
ด้านหลังเวทีกำลังวุ่นวายมาก องอาจร้อนรน ขณะเดียวกันนั้นฝ่ายประสานงานพารจนา วิ่งมาหาองอาจ
       “มาแล้วค่ะพี่”
       “โอ๊ย...หัวใจจะวาย แล้วนี่ใคร”
       องอาจมองหน้านับดาวที่เพิ่งเดินตามมาหน้าดำมาก ฝ่ายประสานงานงงๆ
       “คุณรจนาค่ะ”
       องอาจพูดกับนับดาว
       “ไวท์เทนนิ่งหน่อยมั้ย” แล้วองอาจก็หันไปพูดกับรจนา “วันหลังมาตอนงานเลิกเลยซิครับคุณพี่รจนา”
       “มาตอนงานเลิกแล้วจะได้ร้องเหรอ”
       องอาจเอือมๆ
       “ผมประชด”
       รจนาหน้าเหวอ
       “อ้าว เหรอ”
       องอาจมองเสื้อกั๊กวินห้วยขวางที่นับดาวใส่อยู่แบบงงๆว่านี่มันอะไร หันไปหาคนควบคุมเวที
       “มาพาไป...เร็วสิ คนต่อไปแล้วไม่ใช่เหรอ หรือจะรอให้ผลเลือกตั้งคราวหน้าออกก่อนห๊ะ”
       คนควบคุมเวที วิ่งมาพารจนาไปหลังเวที นับดาวส่งยิ้มกับคำอวยพรเป็นกำลังใจ
       “สู้ตายนะคะย่า”
       รจนาหันมายิ้มให้หลานสาวก่อนจะเดินไป นับดาวเดินไปเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อกั๊กแล้วไปล้างหน้าจนสะอาด เธอเงยหน้าจากอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ หน้าตาไม่มีเขม่าเกาะแล้ว
       “สวยขนาดนี้...ดูซิ เจอกันอีกที ใครจะว่า เราเป็นเด็กแว้นอีกมั้ย”
       นับดาวสวมแว่น แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:09:49 PM »
บนเวทีคึกคัก คนดูปรบมือกันเกรียวให้กับศิลปินที่ร้องจบไป พิธีกรออกมาคั่นระหว่างเพลง
       “จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับเพลงลูกทุ่ง เราปฏิเสธไมได้เลยนะครับว่าเพลงลูกทุ่งเนี่ย เป็นส่วนหนึ่งของคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย แต่เพลงอีกประเภทนึงที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ถ้าพูดถึงเพลงไทย นั่นคือเพลงลูกกรุง ซึ่งวันนี้เราได้รับเกียรติจากคุณรจนา อดีตนักร้องนำวงสุนทรีภรณ์ ได้ขับร้องบทเพลงอันไพเราะให้ทุกท่านได้ฟัง เชิญเลยครับ”
       รจนาขึ้นมาอย่างคนเจนเวที ไม่ประหม่าแม้แต่น้อย ดนตรีเพลงพรหมลิขิตดังขึ้น เธอดำดิ่งลึกลงไปกับเพลง ขับร้องมันออกมาได้อย่างไพเราะจับใจทุกคนในหอประชุม เป็นไทที่ยืนฟังอยู่บริเวณจุดคอนโทรลเสียง ฟังแล้วยิ้ม เคลิ้มไปกับเพลง...เสียงเพลงของรจนาดังคลอเข้ามาทางด้านหลังเวที นับดาวก็เคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลงของย่าตัวเอง ยืนเกาะเสา ตาเหม่อลอยไปไกล องอาจเดินมาสะกิด นับดาวหลุดจากภวังค์
       “นี่เธอมาทำอะไรเนี่ย”
       องอาจยืนถามอยู่ด้านขวางข้างหูหนวกพอดี นับดาวไม่ได้ยิน จึงยืนนิ่ง องอาจถามอีกครั้ง
       “เธอมาทำอะไรตรงนี้”
       นับดาวได้ยินเป็นอย่างอื่น
       “ฉันไม่ได้สูบบุหรี่นะ สักครั้งก็ไม่เคย”
       องอาจส่ายหน้า
       “ไม่ใช่...เธอเป็นใคร มาทำอะไรหลังเวทีนี่”
       “เปล่าค่ะ ไม่ได้ชื่อเมทินี ชื่อนับดาวค่ะ”
       องอาจเซ็ง
       “โอ๊ย...หูตึงรึไงเนี่ย”
       “ไม่ใช่ค่ะ...หูหนวก”
       “ทีแบบนี้ละได้ยิน”
       “คือหูข้างนี้ฉันไม่ได้ยินน่ะค่ะ” นับดาวชี้ที่หูขวา “แต่ฉันอ่านปากเก่งนะคะ”
       องอาจมองหน้าเห็นหน้ายังมีน้ำจับอยู่
       “เหงื่อแตกเชียว ร้อนเหรอ”
       “ฉันเพิ่งล้างหน้ามา คุณต้องพูดช้าๆหน่อยๆ”
       “จะอะไรของเธอก็ช่างเถอะ ฉันไม่สนแล้ว เสียเวลา”
       องอาจเดินไป ไม่สนใจ นับดาวเซ็งเลย
       “เออ ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะ ถ้าวันไหนฉันเป็นนักร้องดังขึ้นมานะ ฉันจะไม่เห็นหัวเลยคอยดู”
       องอาจเดินไปสั่งงานคนหลังเวที
       “อ้าว แป้งที่ทางตลกเค้าจะเอามาทำผมขาวได้รึยัง”
       “มีแต่แป้งมันได้เปล่าพี่”
       “แป้งอะไรก็เอามาเหอะ ให้ไว”
       นับดาวมององอาจที่ทำท่าสั่งงานคนโน้นคนนี้อย่างหมั่นไส้
       “ชิ...ทำเป็นจิกหัวใช้คนอื่น วางมาด มีปมด้อยมาจากที่บ้านละสิ”


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:11:21 PM »
       นับดาวบ่นไปเรื่อย เธอเห็นกระจกวางอยู่บนโต๊ะๆหนึ่ง เธอมองซ้ายมองขวาไม่มีใครสนใจจึงหยิบกระจกมาส่องหน้า
       “ฉันออกจะสวย...มีแต่พวกตาไม่ถึงเท่านั้นแหละมองไม่เห็น...หน้าเปียกเชียวเรา ไม่มีกระดาษทิชชู่มั่งเลยรึไงเนี่ย”
       นับดาว เหลียวหน้าเหลียวหลังมองหาทิชชู่ ฝ่ายประสานงานเดินถือจานแป้งตรงรี่มา
       “ขอทางหน่อยค่ะ ขอทางหน่อยค่ะ”
       ฝ่ายประสานงานชนนับดาวเต็มๆ หน้าที่เปียกของนับดาว รับแป้งที่กระเด็นเข้าเต็มหน้าขาววอก คนที่มองเห็นต่างหัวเราะกันใหญ่ ฝ่ายประสานงานขำๆ
       “ขอโทษทีนะน้อง”
       นับดาวเซ็งกับใบหน้าขาววอกของตัวเอง
       
       เสียงเพลงพรหมลิขิตดังคลอมาด้วย นับดาวเดินเซ็งหน้าขาว กำลังจะเดินไปล้างในห้องน้ำ
       “ฉันไม่ใช่ตัวตลกนะ หัวเราะกันอยู่ได้ อย่าให้ฉันดังขึ้นมาเมื่อไหร่ก็แล้วกัน”
       เป็นไทเดินสวนกับนับดาว กำลังจะเข้าไปหลังเวทีเห็นหน้านับดาวก็ตกใจ
       “แต่งหน้าจัดจังเลยนะครับ”
       “แหม คุณก็ชมกันเกินไป ปกติฉันสวยกว่านี้อีกนะคะ” นับดาวประชด
       เป็นไทงงไม่เข้าใจว่านับดาวพูดเรื่องอะไร
       “ขอตัวไปคุยงานก่อนนะครับ”
       “อะไรนะ”
       “ขอตัวก่อนนะครับ”
       นับดาวพยักหน้า
       “เชิญ...”
       เป็นไทเดินมาหาองอาจที่หลังเวที โดยไม่รู้ว่านับดาวแอบมาฟังอยู่ไม่ไกล เธอเอาหูขวาหันเพื่อแอบฟังว่าคุยอะไร แล้วเธอก็รู้ตัวว่าไม่ได้ยิน
       “อุ๊ย ไม่ได้ยิน ต้องอีกข้าง”
       นับดาวหันหูซ้ายที่ใช้การได้แอบฟังเป็นไทคุย
       “ต้องพูดถึงฉันแน่ๆเลย”
       “คุณปล่อยคนบ้าเข้ามาเดินเพ่นพ่านหลังเวทีได้ไง เดี๋ยวก็วุ่นกันหมดหรอก”
       พอได้ยินคำว่าคนบ้า นับดาวถึงกับตาโตตกใจ
       “คนบ้าที่ไหน...น่ากลัวจริงๆ”
       องอาจงงๆ
       “คนบ้าที่ไหน ไม่เห็นเลย”
       “เพิ่งเดินสวนกับผมไปเมื่อกี้นี่เอง พูดจาก็ไม่รู้เรื่อง แถมทาหน้าขาวยังกับละครลิงเดี๋ยวหน้าดำ เดี๋ยวหน้าขาว ไม่บ้าก็ไม่รู้จะเรียบกว่าอะไรแล้ว”
       องอาจหัวเราะ
       “แบบนั้นเลยเหรอครับ เดี๋ยวผมให้เด็กไปดูให้”
       นับดาว ที่แอบฟังอยู่พึมพำเบาๆปลอบใจตัวเอง
       “คงไม่ได้หมายถึงเราหรอกมั้ง”
       เป็นไทบ่นต่อ
       “คงประสาทไม่ดี ทีแรกก็เอาเสื้อกั๊กมาใส่ เมื่อกี๊ไม่รู้ไปถอดทิ้งไว้ไหน”
       นับดาวชะงักไปนิดพึมพำกับตัวเอง
       “อาจจะหมายถึงเรา”
       “ผู้หญิงที่มากับคุณรจนาไง” เป็นไทยเสริม
       “ชัดเลย”
       นับดาวเสียหน้าที่ได้ยิน แล้วจากความอายก็กลายเป็นความโกรธ


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:13:35 PM »
แพรวไพลินขับรถคันหรูแล่นเข้ามาในลานจอดรถ พุ่งเข้าไปจอดในช่องจอดรถคนพิการ ยามเดินปรี่เข้ามา
       “นี่ที่จอดรถคนพิการ”
       แพรวไพลินเชิดหยิ่ง
       “ฉันดูเหมือนคนปกติงั้นเหรอ”
       ยามมองงงๆ
       “คุณเป็นอะไร”
       “ฉันสวย ผิดปกติ”
       
       แพรวไพลินเดินเข้าไปในตัวตึกไม่สนใจจะขยับเปลี่ยนที่จอดรถแต่อย่างไร


       ด้านใน...นับดาวยังคงแอบฟังอยู่อย่างโมโหกระฟัดกระเฟียด เป็นไทยังคงคุยกับองอาจ
       
       “แล้วนี่ข้างหลังไม่มีปัญหาอะไรนะ”
       “ไม่มีครับ...ตอนแรกมีคุณรจนามาช้าหน่อย แต่ก็ขึ้นเวทีทันครับ”
       เป็นไทส่ายหน้า
       “ทำงานกับพวกคนมีอายุก็งี้แหละ เวิ่นเว้อ กว่าจะทำโน่นทำนี่ มันไม่กระฉับกระเฉงเหมือนทำงานกับเด็กๆ เดี๋ยวเรื่องโน้นเรื่องนี้”
       “ก็จริงนะครับ”
       “ผมว่าจะไม่เอาแล้ว พวกงานแบบนี้ กำไรก็น้อย ความสุขในการทำงานก็น้อยสู้จัดงานพวกวัยรุ่นไม่ได้กำลังซื้อสูง ล่อใจง่าย อย่างไอยูกิ นักร้องญี่ปุ่นที่เราจะจัดเนี่ย ยิ่งกระแสนักร้องต่างประเทศกำลังฟีเวอร์ด้วยเนี่ย เปิดขายบัตรแค่สามชั่วโมงก็หมด เชื่อผมสิ ไม่ต้องรอลุ้นจะขายออกมั้ย แถมมาในงานแบบนี้ ก็เจอแต่คนสูงอายุทั้งนั้น คุณลองชะโงกไปดูสิ รวมทั้งฮอลล์นี่ไม่ต่ำกว่าหมื่นปีละมั้ง”
       “ซื้อผ้าสามสีมาผูกเลยดีกว่า” องอาจพูดขำๆ
       “อย่างคุณรจนาที่ร้องอยู่เนี่ย เสียงก็ไม่ขี้เหร่หรอกนะ แต่ถ้าไม่ใช่งานแบบนี้ใครเค้าจะจ้าง คงต้องรอไปร้องตามงานศพเพื่อนซะละมั้ง”
       องอาจกับเป็นไทหัวเราะกันสองคน นับดาวทนไม่ไหว ปรากฏตัวออกมา
       “พวกคุณนี่เป็นผู้ชายรึเปล่า ว่าฉันลับหลังฉันยังทนได้ แต่มีสิทธิ์อะไรมาว่าย่าฉัน มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกศิลปะไทยว่าขายไม่ได้ ขายไม่ดี เพราะมีคนอย่างคุณเนี่ยแหละ ประเทศถึงไม่ได้พัฒนาไปไหน”
       องอาจกับเป็นไทตกใจ
       “เฮ้ย มาจากไหนวะเนี่ย” องอาจหันไปสั่งลูกน้อง “เคลียร์ออกไปดิ๊”
       เป็นไทมองนับดาวกลัวๆ
       “นี่ไง คนบ้าที่ว่า”
       ฝ่ายเวทีหลายคนมารุมจับ นับดาวดิ้น
       “ปล่อยนะ...ปล่อยฉัน”
       รจนาเดินเข้ามา
       “นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันคะ”
       “คนบ้าอาละวาดครับ” องอาจบอก
       นับดาวเห็นรจนาก็วิ่งถลาเข้าหา
       “ย่าคะ เรากลับกันเถอะ คนพวกนี้มันว่าเรา ดูถูกเรา”
       รจนาจำไม่ได้ เพราะนับดาวยังหน้าขาววอกอยู่
       “แล้วนี่เธอเป็นใครเนี่ย”
       นับดาวไม่ได้ยินที่ย่าพูด
       “กลับกันเถอะค่ะ”
       รจนาจับหน้านับดาวหันควับกลับมา
       “เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูด แปลว่าเป็นนับดาวละสิ แล้วทำไมรองพื้นผิดเบอร์ขนาดนี้”
       “กลับกันเถอะย่า ดูคนพวกนี้มองเราสิ”
       รจนาหันไปหาทุกคน
       “ขอโทษทีนะคะ หลานฉันเอง ก่อเรื่องเป็นประจำ อย่าถือเลยนะคะ”
       “ถ้าสติไม่ดี ก็ไม่ควรจะมาออกนอกบ้านนะครับ” องอาจแนะ
       “ขอโทษค่ะ”
       รจนาหยิบถุงกระเป๋าเสื้อผ้า ลากนับดาวออกไปข้างนอก


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:14:51 PM »
รจนาพานับดาวเดินออกมาข้างนอกอย่างร้อนรน เพราะอายคน ทั้ง 2 คน เดินสวนกับแพรวไพลิน ที่เดินเฉิดฉายชะเง้อมองหาคนเข้ามา ทั้ง 2 คนเหลียวมองแพรวไพลินอย่างละสายตาไม่ได้เพราะสวยมาก แต่แพรวไพลิน กลับมองทั้งคู่ด้วยหางตาเหยียดๆ
       แพรวไพลินเดินเข้ามาหาเป็นไทที่หลังเวที
       “หาตั้งนาน เป็นไงบ้างคะ ขอโทษทีที่แพรวมาช้า ไม่ทันตอนเปิดงาน พอดีว่าสไตลิสต์ประจำตัวของแพรวเค้าแวะเอาคอลเล็คชั่นใหม่ของแอร์เมส มาให้แพรวเลือกดูน่ะค่ะ”
       เป็นไทยิ้มให้
       “จ้ะ...ไม่เป็นไร”
       “เห็นพี่ไทบอกว่าเป็นงานพวกวัฒนธรรมไทยไม่ใช่เหรอคะ เมื่อกี้แพรวเห็นคนทาหน้าขาวเป็นผีด้วย กลายเป็นงานแฟนซีไปแล้วเหรอคะ”
       “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ มีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อย แต่จัดการเรียบร้อยแล้ว”
       “ก็ดีค่ะ อย่าไปผิดพลาดบนเวทีก็แล้วกัน ไม่งั้นแพรวเสียแน่ๆ เพราะไปการันตีพี่ไทกับท่านรัฐมนตรีไว้ซะดิบดี”
       เป็นไทยิ้มเจื่อนๆ รู้สึกเหมือนถูกข่มต่อหน้าลูกน้องตัวเอง ที่ทำงานอยู่แถวนั้นเต็มไปหมด
       
       ค่ำคืนนั้น...เป็นไทกับพลอยไพลินมานั่งทานอาหารในร้านสุดโรแมนติกด้วยกัน
       “จริงๆแพรวน่าจะทานอาหารที่หลังเวทีนะ เพราะพี่มีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ”
       “แหม พี่ไท...จะปล่อยให้แพรวกินข้าวกล่องพวกทีมงานได้ยังไง เดี๋ยวก็ท้องเสียหมด”
       “ถ้างั้นพี่คงท้องเสียแล้วล่ะ”
       “พี่ก็รู้ว่าแพรวเป็นคนธาตุอ่อน แพ้โน่นแพ้นี่อยู่เรื่อย ก็ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษหน่อยสิคะ”
       “เอาเถอะ ไหนๆแพรวก็ลากพี่มากินถึงนี่แล้ว”
       “พักนี้ พี่ไทเอาแต่ทำงาน จนเราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะคะ”
       “ก็ดีกว่าพี่ไปกิ๊กสาวที่ไหนไม่ใช่เหรอ”
       “ก็ใช่ค่ะ แต่คนเป็นแฟนกันก็น่าจะมีเวลาให้กันบ้าง”
       “แพรวก็รู้ว่าพี่กำลังถือโปรเจ็กต์ใหญ่ของไอ ยูกิอยู่”
       “แต่พี่ไทก็อย่าลืมว่าพี่ไทชนะประมูลโปรเจ็กต์นี้เพราะใคร...ถ้าพี่ไทไม่ได้เงิน 20 ล้านจากแพรว พี่ไทก็คงแห้วไปละ ดังนั้นพี่ไทก็ควรจะมีเวลาให้แพรวบ้างนะคะ”
       เป็นไทเซ็งๆ
       “ทำไมแพรวต้องคอยทวงบุญคุณพี่ตลอดเวลาด้วย”
       “แพรวรู้ค่ะ ว่าผู้ชายรักศักดิ์ศรี ขนาดไม่ยอมแบมือขอเงินพ่อตัวเอง ทั้งที่พ่อก็เป็นนักธุรกิจพันล้าน ไม่ชอบให้ใครมาพูดอะไรแบบนี้ แต่แพรวแค่จะเตือนสติพี่ไท ว่าอย่าบ้างานให้มาก เอาใจใส่แฟนอย่างแพรวบ้างก็เท่านั้น แพรวขอแค่นี้ได้มั้ยคะ”
       เป็นไทถอนหายใจ แล้วพยักหน้ารับแบบไม่เต็มใจนัก
       “อืม”
       แพรวไพลินยื่นมือมาจับมือเป็นไทไปหอม
       “พี่ไทน่ารักที่สุดเลย”
       แพรวไพลินมีความสุขมาก ขณะที่เป็นไทเซ็งๆ


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:15:55 PM »
บ้านที่รจนกับนับดาวอยู่ เป็นบ้านไม้เก่าๆ ที่แม้จะไม่ใหญ่โตโอ่อา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขตามประสาย่าหลาน...ขณะที่เดินจะเข้าบ้าน รจนานับเงินค่าตัวที่ได้มา ส่วนนับดาวบ่นๆ
       “อย่าให้เจออีกนะ โธ่เอ้ย คิดว่าตัวเองหน้าตาดี แล้วจะว่าคนอื่นยังไงก็ได้ ไม่มีใครโกรธลงงั้นเหรอ ทุเรศ ผู้ชายแบบนี้หนูเกลียดที่สุดเลย คอยดูนะ ถ้าดังเมื่อไหร่จะเอามาเป็นทาส หึ หึ”
       “พูดว่าจะดัง จะดัง มาตั้งแต่สิบขวบ ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว ก็เห็นมันจะไปไหน” รจนาพึมพำนับดาวไม่ได้ยิน
       นับดาวนึกอะไรได้
       “นี่ย่า...หนูนึกออกแล้ว ว่าหนูจะเป็น ซูเปอร์สตาร์ได้ยังไง”
       “ว่ามา”
       “หนูเอารูปไปทิ้งไว้ที่โมเดลลิ่งดีกว่า ใช่ๆ วิธีนี้ดีที่สุดเลย”
       “หางานทำก่อนดีมั้ย ตกงานมาหลายเดือนแล้วนี่เรา”
       “วิธีนี้ต้องเวิร์คสุดๆ ทำไมเพิ่งคิดได้นะ ไม่งั้นป่านนี้ก็ดังไปแล้ว”
       รจนาส่ายหน้าเอือมระอา นับดาวหันมาเห็นย่าตนกำลังนับเงิน เธอก็กระโดดคว้าแบงค์พันมาหนึ่งใบ
       “หนูขอยืมเงินก่อนนะย่า หนูจะเอาไปถ่ายรูปสวยๆ”
       นับดาวไม่ฟังคำตอบวิ่งเข้าไปในบ้าน ไม่สนใจคำบ่นของย่า
       “ไอ้หลานคนนี้”
       รจนาส่ายหน้าถอนหายใจกับพฤติกรรมของหลาน ขณะที่นับดาวเมื่อเข้าไปในห้องนอน เธอเปิดนิตยสารดาราไทยนั่งอ่านอยู่ที่โต๊ะ แล้วเธอก็ฝันไปไกล เหม่อมองไปที่ดาวบนท้องฟ้า ราวกับเด็กน้อยที่จินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด
       ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เป็นไทนั่งเอกเขนกอยู่ริมระเบียงมีเอกสารงานวางอยู่บนโต๊ะ มีรูปไอ ยูกิ เป็นเปเปอร์ในเอกสารด้วย ในมือถือกาแฟร้อนควันฉุย เขามองดาวบนท้องฟ้า
       “ไอ ยูกิ คอนเสิร์ตคุณครั้งนี้ จะต้องทำให้บริษัทผมดังเป็นพลุแตก”
       เป็นไทยิ้มกับรูปไอ ยูกิ ที่แปะอยู่ในเอกสาร โดยไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่เขานึกว่าเป็นคนบ้านั้น หน้าตาเหมือนกับไอ ยูกิราวกับเป็นคนเดียวกัน !
       
       สายๆของวันต่อมา...สังวรณ์เจ้าของหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ คุยกับเลขาของเขาอย่างเคร่งเครียด
       “หมายความว่าไง บริษัทไอ้เป็นไทมันประมูลคอนเสิร์ต ไอ ยูกิ ไปได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นแค่บริษัทเล็ก เพิ่งเปิดไม่นาน มันจะเอาเงินมาจากไหน”
       “ได้ข่าวว่ามันมีแบ็คอัพดีครับคุณสังวร”
       สังวรณ์มองเลขาอย่างไม่พอใจ
       “หืม...เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ”
       “คุณสังวรณ์ครับ”
       สังวรณ์โมโห
       “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกฉันว่า ซังวอน...ซี ซังวอน มันจะได้สมกับการเป็นเจ้าของนิตยสารเอเชี่ยนฮิตหน่อย แล้วอีกอย่าง หน้าฉันมันก็เกาหลีซะขนาดนี้จะมาชื่อสังวรณ์ได้ยังไง”
       เลขาฯจ๋อยๆ
       “ครับ”
       “แกไปสืบมาเลยนะ ว่าไอ้เป็นไทมันไปเอาเงินมาจากไหน หาช่องโหว่ของมัน มาให้เยอะที่สุด มันจะได้รู้ว่ามันเล่นกับใครอยู่”
       “ครับคุณสัง...เอ่อ ซังวอน”
       “ดีมาก ออกไปได้แล้ว”
       พอเลขาฯออกไป สังวรณ์ก็หยิบนิตยสารเอเชี่ยนฮิตหน้าปก ไอ ยูกิ ขึ้นมา แล้วก็เอามือขึ้นลูบไล้
       “ไอ ยูกิ ผมต้องจัดคอนเสิร์ตคุณให้ได้ เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกันจริงๆซักที”
       สังวรณ์เอาหน้าเข้าไปหอม ไปไซ้ ปกหนังสือ เหมือนคนโรคจิต แล้วเลขาฯก็เปิดประตูเข้ามาเห็นสังวรณ์พอดี เลขาตกใจ สังวรณ์ก็ตกใจ
       “อะไรของแกอีก เคาะประตูไม่เป็นรึไง”
       “ขอโทษครับ คือทางบก.นิตยสารซูเปอร์สตาร์ เค้าฝากรูปเด็กๆจากโมเดลลิ่งมาให้คุณซังวอนดูนะครับ เผื่อว่าจะคุณซังวอนอยากจะเลือกปั้นใครเป็นพิเศษน่ะ ครับ”
       เลขายื่นซองใส่รูปให้ สังวรณ์รับมา
       “เออ...ขอบใจ จะไปไหนก็ไป”
       สังวรณ์ทำเป็นเก๊กเข้ม เลขาออกไปจากห้องแอบกลั้นขำ


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:16:51 PM »
นับดาวนั่งชื่นชมรูปตัวเองในมือ วราพรรณเพื่อนสนิทของเธอเดินเข้ามา สั่งอาหาร
       “ผัดซีอิ๊วกุ้ง ที่นึงนะป้า”
       วราพรรณเดินเข้ามาอย่างคุ้นเคยมาที่โต๊ะที่นับดาวนั่งอยู่ เธอมองนับดาวตั้งแต่หัวจรดเท้า นับดาวแต่งตัวเชยเหมือนข้าราชการเก่าๆ
       “เฮ้ย...ทำไมวันนี้แต่งตัวเป็นทางการจังวะ”
       “จะไปหางานทำ”
       “โดนไล่ออกอีกแล้วเหรอเนี่ย”
       นับดาว พยักหน้าเซ็งๆ
       “”ไง...โทรเรียกมาแต่เช้า มีไรล่ะวันนี้”
       “นุ้ย ฉันมีเรื่องรบกวนหน่อย”
       “แหม เข้าเรื่องเร็วจริงนะ ไม่คิดจะถามสารทุกข์สุกดิบหน่อยรึไง”
       “นี่...รูป” นับดาวยื่นรูปให้ “ฉันฝากแกไปลงหนังสือดาราของแกหน่อยสิ ฉันเคยอ่านนะ มันจะมีคอลัมน์แนะนำดาราหน้าใหม่ เผื่อใครสนใจอยากเรียกไปทำงานน่ะ”
       วราพรรณมองรูป
       “แกจะให้ฉันเอารูปแบบนี้ไปให้บก.ลงหนังสือเนี่ยนะ ฉันคงโดนด่าตาย”
       “แกพูดว่าอะไรนะ ยาวๆ ฉันไม่เข้าใจ”
       “ไม่เข้าใจหรือไม่ได้ยิน”
       “อ่านปากไม่ทัน”
       วราพรรณจับหน้านับดาวหันไปด้านขวาเพื่อให้หูซ้ายหันมาที่เธอ
       “สรุปง่ายๆเลยนะ ไม่เอาเว้ย ฉันไม่อยากเอาหน้าที่การงานมาเสี่ยง ชัดมั้ย”
       “เฮ้ยแก...ฉันเสียเงินถ่ายรูปไปตั้งเยอะนะ”
       “เสียเยอะ แล้วได้รูปแบบนี้มาเนี่ยนะ หนอนชาเขียวยังดูดีกว่าเลย”
       “แกก็พูดเกินไป”
       “แว่นหนาเตอะ หน้าก็ไม่แต่ง หัวก็ฟู ถึงลงไป ใครเค้าจะเรียกแกไปทำงานวะ”
       “โอ๊ย...ฉันก็สวยสุดได้แค่นี้แหละ”
       นับดาวบ่นอย่างหงุดหงิด
       
       สังวรณ์เปิดดูรูปผู้หญิงจากซองที่เลขาให้มา เขาดูรูปมากมาย แต่ก็ไม่มีถูกใจซักคน
       “โอ้โห...น้องคนนี้ ไปฉีดคาร์บ็อกซี่ให้ขาเล็กก่อนมั้ย ค่อยมาเป็นดารา ไม่ไหวๆดูคนนี้ วิวัฒนาการยังไม่ถึงขีดสุดเลย กล้าส่งรูปมานะ...” ดูรูปแต่ละรูปอย่างเร็วๆเซ็งๆ “โอ๊ย...มีแต่พวกอยากเป็นดารา แต่สภาพหน้าตาไม่ให้ มันจะไม่มีใครสวยพร้อมเลยรึไงเนี่ย แบบนี้ต่อให้ลงหนังสือไป ใครเค้าจะมาจ้าง”
       สังวรณ์ส่ายหน้าระอาใจกับรูปภาพที่ได้รับมาบนโต๊ะ
       
       รูปถ่ายของนับดาวถูกวางโยนลงบนโต๊ะ วราพรรณส่ายหน้าระอาใจ
       “ไหนมานี่ซิ ขอดูหน้าใกล้ๆหน่อย”
       นับดาวยื่นหน้ามา วราพรรณถอดแว่นหนาๆของ นับดาวออก นับดาวหรี่ตาทันที เหมือนคนสายตาสั้นมองไม่เห็น
       “แกจะใส่ทำไมวะ ไอ้แว่นเนี่ย เชยก็เชย ปิดบังความสวยหมด”
       “แกว่าอะไรนะ ขออีกทีดิ๊ ฉันอ่านปากไม่เห็น”
       “เออ ดี...หูก็หนวก แล้วยังตาบอดอีก”
       “ห๊ะ อะไรนะ จะวัดปรอทอะไร”
       “แล้วผมเนี่ยหวีมั่งมั้ยเนี่ย ปล่อยกระเซิงเป็นรังนกไปได้”
       “แกพูดไม่เหมือนเดิม”
       “เออ สิ...แล้วนี่ดูแต่งตัว ยังกับจะไปงานเลี้ยงรุ่นกับป้าๆที่สนามม้านางเลิ้งไหวป่ะเนี่ย”
       “แกเอาแว่นมาหน่อย ฉันปิดรับสื่อมากเลยว่ะ ฟังก็ไม่รู้เรื่อง มองก็ไม่เห็น”
       วราพรรณยื่นแว่นให้
       “แล้วเนี่ยนะ อยากจะเป็นดารา ฉันอยากจะบ้าตาย”
       นับดาวใส่แว่น
       “แกว่าอะไรซะยาว มีปรอท ตายาย อะไรไม่รู้ ใครป่วยรึเปล่า”
       “แกนั่นแหละป่วย”
       “จริงเหรอ” นับดาวเอามือจับหัวตัวเอง “ทำไมไม่รู้ตัวเลยล่ะ”
       “เป็นบ้าไง”
       นับดาวสะดุ้ง
       “เฮ้ย...อะไร มาว่ากันทำไม”
       “จริงๆ แกก็หน้าตาดีนะ หน้าเหมือนกับดาราญี่ปุ่นคนนึงเลย”
       “จริงป่ะ”
       นับดาวเอามือจับหน้าตัวเองแล้วยิ้ม วราพรรณถอนใจ
       “แต่แกทำลายมันไม่เหลือชิ้นดีเลยว่ะ”
       “พูดเกินไป”
       “หัดแต่งหน้าแต่งหน้า แต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อยดิวะแก จะได้ไม่เสียชาติเกิด”
       “แล้วแกล่ะ ว่าแต่ฉัน ไม่เห็นแต่งเลย”
       “ก็ฉันไม่ได้อยากเป็นดาราอย่างแกนี่หว่า อีกอย่างฉันก็ห้าวซะขนาดนี้ แต่งหญิงคนก็หาว่าเป็นกะเทยพอดี”
       “แล้วตกลง รูปที่ถ่ายมานี่ใช้ไม่ได้เหรอ”
       วราพรรณยักคิ้ว
       “นี่ถ้าแกอยากเป็นดาราจริงๆนะ ไว้วันหลังฉันจะพาไปฝากตัวกับบก.รูปน่ะไม่ต้องใช้หรอก แต่ต้องไม่ใช่สภาพนี้นะ”
       “จริงๆนะ ถ้าฉันทำตัวสวยๆ แกจะพาฉันไปจริงๆนะเว้ย”
       วราพรรณพยักหน้ารับ นับดาวดีใจจนออกนอกหน้า
       

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:17:33 PM »
นับดาวเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า เธอสวมแว่นตา ทรงผมปิดหน้าเชยๆเดินผ่านร้านเสื้อผ้าหรู มองชุดเหล่านั้นร้านผ่านกระจกแววตาฝันไปไกล
       ...ภาพในฝัน เธอใส่ชุดที่โชว์ในหุ่นอย่างเฉิดฉายดูสวยเริ่ดกว่าใคร เดินไปตามทางของห้าง มีแต่คนเหลียวมองดูเป็นตาเดียว นับดาวยิ้มมีความสุขมาก...และแล้วเธอก็ฝันสลาย กลับกลายเป็นนับดาวเชยๆคนเดิม เมื่อพนักงานร้านมายืนกระแอมเบา มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก เธอได้แต่ยิ้มเก้อๆแล้วเดินผ่านไป พลางบ่น
       “ขอแค่ยืมฝันนิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้ ใจดำจริงๆ”
       นับดาวเดินผ่านจากหน้าร้านขายเสื้อผ้าไม่ได้เท่าไหร่ เธอก็เห็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของทางห้าง ประกาศรับสมัครพนักงานเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่พอดี เธอสนใจทันที
       นับดาวเดินเก้ๆกังๆมาที่ส่วนออฟฟิศที่สัมภาษณ์งานของห้าง คนกำลังทยอยเดินสวนออกไป เธอเข้าไปถามพนักงานชายคนหนึ่ง
       “เอ่อ คือมาสมัครงานเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์น่ะค่ะ”
       “สมัครงาน...มาเอาตอนนี้เนี่ยนะครับ นี่มันพักเที่ยง คุณก็นั่งรอไปก่อนละกัน ช่วงบ่ายค่อยว่ากัน”
       นับดาวพยักหน้าเจื่อนๆ ไปนั่งรอที่เก้าอี้ยาว ระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามา สวยเอ็กซ์ มาก เข้ามาถามพนักงานคนเดิม
       “พอดีมาสัมภาษณ์งาน AE น่ะค่ะ”
       พนักงานคนนั้นรีบยิ้มรับ
       “เชิญเลยครับ ผมก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมา”
       “แต่นี่พักเที่ยงนะคะ”
       พนักงานยิ้มกรุ้มกริ่ม
       “ผมไม่ทานข้าวเที่ยงน่ะครับ”
       สาวสวยทำหน้าสงสัย
       “จริงๆผมไม่อยากลงไปทานคนเดียวมากกว่า แต่ถ้าคุณลงไปทานด้วยละก็...”
       “งั้นมาสัมภาษณ์กันก่อนมั้ยคะ”
       “ได้ครับ”
       พนักงานชายพาสาวสวยเข้าไปสัมภาษณ์งาน ต่อหน้าต่อตานับดาวที่ปล่อยให้นั่งรออยู่ตรงนั้น นับดาวหมั่นไส้ แล้วเธอก็หันไปมองเงาสะท้อนในกระจกใสของออฟฟิศ ที่พอจะมองเห็นหน้าเธอเลือนๆ เธอพยายามจะทำหน้าตาเซ็กซี่บ้าง พยายามดันหน้าอกให้ดูดูมดูม แต่ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเลย ใครเดินผ่านก็สมเพชพฤติกรรมของเธอ นับดาวเห็นคนอื่นมองก็เขินๆ ทำนั่งนิ่งๆเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
       นับดาวนั่งนิ่งอย่างไม่ค่อยมีความมั่นใจนัก พนักงานชายคนเดิมสัมภาษณ์ เธอนั่งเบี่ยงตัวด้านซ้ายเข้าหาคนสัมภาษณ์เพื่อเธอจะได้ยินชัด พนักงานดูใบประวัติไปด้วย สัมภาษณ์ไปด้วย
       “ฟัง พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”
       “ต้องพูดด้วยเหรอคะ”
       “เอ้า...ห้างสรรพสินค้ามีแต่คนไทยเดินรึไงครับ ถ้าฝรั่งมาถามอะไรจะตอบได้รึเปล่าล่ะ”
       “ได้ค่ะ”
       “ดี...แล้วนี่ปกติแต่งตัวแบบนี้รึเปล่า”
       “เปล่าค่ะ ชุดนี้ของย่าตอนสาวๆ ยืมมาใส่สมัครงานน่ะค่ะ”
       “ดี...วันหลังไม่ต้องยืมมาหรอก ผมหันไปเห็นทีไร คิดถึงแม่ทุกที”
       นับดาวยิ้มอายๆ
       “ตกลงผมรับให้คุณทำงานนี้ คุณรู้ใช่มั้ยว่างานประชาสัมพันธ์ มันเป็นหน้าเป็นตาของห้างเราด้วย แล้วคุณ ถ้ามองลึกๆ ลึกเท่าที่จะลึกได้ ก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะไรผิวพรรณก็โอเค หน้าตาก็ถ้ามองลึกๆก็โอเค แต่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้ดีกว่านี้โอเคมั้ย”
       “ได้ค่ะ”
       “แล้วเริ่มงานได้เมื่อไหร่ พรุ่งนี้ได้มั้ย”
       “ได้ค่ะ ได้”
       “นี่ ผมถามคุณอีกอย่างนะ ทำไมคุณต้องนั่งหันข้างให้ผมด้วย เห็นแล้วมันอึดอัดสายตา”
       “เอ่อ คือ...มันเป็นท่าถนัดน่ะค่ะ นั่งแล้วจะมั่นใจ”
       “แต่มันดูประหลาดๆนะผมว่า ทำอย่างกับคนหูตึงข้างนึงแล้วกลัวไม่ได้ยินอย่างงั้นแหละ”
       นับดาวกลืนน้ำลายเอื๊อก
       “ผมล้อเล่น เอาเป็นว่าเวลาทำงานนั่งให้มันดีๆละกัน”
       “แหะ แหะ ค่ะ”
       นับดาวยิ้มดีใจที่ได้งานแต่ก็ร้อนตัวเรื่องหูหนวกด้วย เมื่อเดินออกมาจากส่วนออฟฟิศ เธอเดินมาที่ส่วนของห้างมาหยุดที่ร้านแว่น
       “เป็นหน้าเป็นตาของห้างเลยนะนับดาว แปลว่าเธอจะสวยและเด่นที่สุด”
       เธอหันไปเห็นโฆษณาคอนแทคเลนส์ในร้านแว่น พร้อมกันพรีเซนต์เตอร์บิ๊กอายตากลมแป๋ว


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ฉันรักเธอนะ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มีนาคม 03, 2012, 06:18:30 PM »
นับดาวนั่งอยู่หน้ากล่องคอนแทคเลนส์ วราพรรณนั่งแนะนำอยู่ด้วย
       “บิ๊กอายก็ดีนะ ตอนนี้กำลังนิยมกันมากในหมู่วัยรุ่น”
       “แกก็รู้ ว่าฉันสายตาสั้นด้วย”
       “บิ๊กอายก็มีแบบเลนส์สายตาด้วยเหรอ นี่แกซื้อมาสั้นเท่าไหร่”
       “400”
       วราพรรณ์ตกใจ
       “โอ้ว แม่เจ้า...ตาบอดไปเลยดีกว่า”
       นับดาวเอียงหูข้างที่ดีพยายามฟัง
       “อะไรนะ”
       “ไม่มีอะไร”
       “ใส่ยังไง แกใส่เป็นมั้ย สอนฉันหน่อย”
       วราพรรณหน้าเบื่อๆ แล้วสาธิตให้ดู พร้อมอธิบาย
       “ก็แหกตาออกแบบนี้นะคะ แล้วก็เอาเลนส์วางบนปลายนิ้วชี้แบบนี้ แล้วก็ยัดมันลงไปที่ลูกกะตา ของข้างขวาก็ข้างขวา ข้างซ้ายก็ข้างซ้าย อย่าไปสลับล่ะ แค่นี้แหละค่ะ ไม่ยาก”
       นับดาวหวาดๆ
       “ยัดไปเลยเหรอ น่ากลัวจัง”
       “แรกๆก็พูดแบบนี้ทุกคนแหละ แต่พอใส่บ่อยๆก็ชินไปเองไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยคะ”
       “อ๋อ...ค่ะ” นับดาวพูดไพเราะประชดเพื่อน