ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 10:44:37 AM »
เห็นว่าถามหากัน  ก็เลยไปรื้อมาให้ค่ะ  แต่อย่าหวังอะไรมากเลยน้า  กาฬก็อยากแต่งต่อเหมือนกันแหละ  แต่ว่าติดอะไรหลายๆ อย่าง
แล้วพอกลับไปอ่านๆ ดู  "นี่ฉันเขียนอะไรเนี่ย....แล้วทำไมภาษายากอย่างนี้...ฉันรู้จักคำนี้ด้วยเหรอ  ทำไมปัจจุบันคำศัพท์พวกนี้มันหายไปไหนหมด"




บทที่ ๔


ราชธิดาทรงมุ่นพระขนงด้วยความประหลาดพระทัย

   “หมายความว่าอย่างไร”

   แทนคำตอบ... ขุนพลหนุ่มยื่นกริชที่เหน็บอยู่ข้างเข็มขัดหนังของตนให้แก่นางผู้มีดวงพักตร์ประดุจจันทรา หากนางอนงค์รีบคว้าไปก่อนจะถึงองค์พระธิดา

ขุนพลศรุตชะงักอย่างขัดใจ แต่จำต้องเก็บอาการนั้นไว้ หันหลับมากราบทูลความแก่สตรีสูงศักดิ์ตรงหน้าต่อไป
   
   “ปลงพระชนม์โอรสหัศดินทร์เสีย เมื่อทรงเข้าเฝ้าในวันพรุ่งนี้ แล้วพระธิดาจักเป็นฝ่าย มีชัย”


   ราชธิดาแห่งศิลามาศกระพริบเนตรงามราวกับมิแน่พระทัยในสิ่งที่เพิ่งได้ทรงสดับฟัง

หากสิ่งที่นางทรงแน่พระทัยนั้นคือ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นแววเจ้าเล่ห์แฝงเลศนัยในดวงตาคมคู่นั้นของนายทหารหนุ่มแห่งมันทราอย่างแน่แท้  นางสบเนตรกับพระพี่เลี้ยงที่นั่งคุมเชิงอยู่ไม่ห่างอย่างสงกา

   “ท่านต้องการอะไรกันแน่ จึงมายุแหย่ให้เราก่อการกบฏต่อกษัตริย์ของท่านเอง”

   ศรุตเหยียดยิ้ม ทูลตอบปุจฉาของราชธิดาอย่างกำแหงหาญอาจเอื้อมเป็นที่สุด

   “ขอเพียงพระธิดาสุวรรณอัมพรทรงเห็นพระทัยหม่อมฉันก็เพียงพอพระเจ้าค่ะ!”

   สุวรรณอัมพรทรงเหยียดมุมโอษฐ์เช่นกัน... หากแต่เป็นการแย้มสรวลที่บ่งชัดถึงความเดียดฉันท์!

   “แล้วหม่อมฉันจะคอยช่วยเหลือพระองค์ โปรดทรงวางพระทัย!” แทนคำกราบทูลลา ขุนพลหนุ่มเคลื่อนกายออกไปจากพลับพลาอย่างรวดเร็ว

   “ขุนพลศรุตผู้นี้ช่างบังอาจนัก ใฝ่สูงเกินศักดิ์ พูดจาเกี้ยวพาณพระธิดาของหม่อมฉัน”    นางอนงค์พูดน้ำเสียงชิงชัง  “แล้วพระธิดาจะทรงทำประการใดเพคะ ทรงเชื่อเขาหรือไม่เพคะ”

   พระธิดาสุวรรณอัมพรทรงปรายเนตรไปยังผู้ถาม ก่อนจะทอดแลไปเบื้องหน้า     

หน้าพลับพลา กองกูณฑ์ลุกโชนภายนอก นัยนามาดมั่นทระนง

   “เราจะลองดู แม้จะต้องตาย... เราก็จะเสี่ยง!!” 

………………………………..………………………………………….


   วรองค์เพรียวระหงในอาภรณ์โกไสยพัสตร์ทองเฉิดฉาย ขับพระฉวีพรรณให้ผุดผาดยิ่ง และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ครบครันสมศักดิ์ราชธิดา เสด็จดำเนินเชิดตรงดั่งนางพญาเข้ามายังพระตำหนักแห่งพระโอรสหัศดินทร์แห่งมันทรา สร้างความยำเกรงให้แก่เหล่าข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิดในที่นั้น

   ดวงพักตร์นิ่งเฉย ไร้ความหวาดกลัวหรือสรวลสันต์ใด ๆ หากหัตถาเรียวเล็กที่ประคอง พานมาลาบีบแน่น!

   ราวรู้งาน เหล่าข้าราชบริพารรีบก้มกราบทูลลาและหลบออกมาโดยเร็ว สุวรรณอัมพรลอบแย้มสรวล... นี่ล่ะ... คือสิ่งที่นางต้องการ

   ราชโอรสรูปงามแห่งมันทราแย้มโอษฐ์อย่างสมปรารถนากับของบรรณาการที่ยากนักกว่าจักได้มา หัตถ์หนาหนักยกขึ้นเชยหนุนาง ราวจะชมโฉมโสภาให้ชัดเจน ราชธิดาทรงขบพระทนต์แน่นอย่างอดกลั้นเพียงชั่วแวบเดียว หากก็มิพ้นสายพระเนตรจอมทัพแห่งมันทราได้

   หัศดินทร์ทรงเหยียดพระโอษฐ์ราวเยาะหยัน

   “สุวรรณอัมพร... ในที่สุดเจ้าก็หนีเราไม่พ้น” พร้อมกับโน้มพักตร์ลงมาใกล้กับนวลปรางหอมกรุ่น

   สุวรรณอัมพรรีบขยับองค์ออกห่าง และยกมาลัยบุปผาที่ทรงถืออยู่ในหัตถ์ขึ้นป้องกันมิให้อีกฝ่ายล่วงล้ำเข้ามาใกล้ พยายามฝืนแย้มพระโอษฐ์ออดอ้อน

   “พวงมาลัยเพคะ หม่อมฉันร้อยมาถวายพระองค์”

   “มาลัยดอกไม้น่ะหรือสู้นารีงามนางนี้ได้”  ราชโอรสแห่งมันทราทรงปัดมาลาในหัตถ์นางให้พ้นทาง

ทันทีที่มาลาน้อยตกลงแทบพระบาท  นัยเนตรกลมโตอันเคยสดใสอยู่เป็นนิจ ทอประกายลุกวาวขึ้นวูบหนึ่ง พร้อมพระหัตถ์     เล็กบางตวัดจับด้ามพระแสงกริชที่ซ่อนอยู่ในสายรัดพระองค์ออกมา ปลายศัสตราวุธคมแหลมกดอยู่ที่พระศอโอรสรูปงาม!

   พระหัตถ์กำแน่นสามารถที่จะกดพระแสงศัสตราวุธให้ดื่มลึกลงไปได้ทุกเมื่อ!...

   อากัปกิริยาบุรุษหนุ่มชะงักงัน หากเพียงครู่เดียว แววเนตรยังเปล่งประกายหยอกเย้าก็ทอขึ้น มิหวั่นเกรงต่อศัสตราวุธที่หยุดอยู่ตรงหน้าพระพักตร์  ต่างจากอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง

   “ฮ่า... ฮ่า... สุวรรณอัมพร! เจ้าคิดว่าอาวุธเพียงเท่านี้จะสามารถทำร้ายเราได้กระนั้นหรือ”

   สุวรรณอัมพรเม้มพระโอษฐ์แน่น

   สุวรรณอัมพรเม้มพระโอษฐ์แน่น เริ่มไม่มั่นพระทัยขึ้นมาลางๆ หากพระหัตถ์ยิ่งกำด้ามพระแสงกริชแน่นยิ่งขึ้น

   “เจ้าไม่กล้าฆ่าเราหรอก!” ราชโอรสหัศดินทร์ตรัสด้วยสุรเสียงเยือกเย็น มิรู้สึกระคายอันใดต่อคมอาวุธที่รออยู่ที่พระศอสักนิดเดียว

   พร้อมกันนั้น หัตถ์แข็งแรงก็จับข้อพระกรบอบบางที่หมายประทุษร้ายให้เบี่ยงออกจากเป้าหมาย!!

   “ทำไมเราจะไม่กล้า!” นางยังคงอวดดี ทว่าพระกรนั้นถูกยื้อยุดไปตามกำลังของอีกฝ่ายอย่างมิอาจต้านทานได้!

   “งั้นจักช้าอยู่ไยเล่า เจ้ามีโอกาสแล้วนี่” คำตรัสท้าทายนั้นเจือสุรเสียงสรวลเยาะหยันไว้ ยั่วให้ราชธิดาแห่งศิลามาศมิอาจละซึ่งทิฐิแห่งศักดิ์ศรีได้

   เพียงออกพระกำลังตวัดปลายพระแสงกริชแค่ชั่วฝ่าพระหัตถ์เท่านั้น ก็สามารถปึกตรึงอุราโอรสผู้หยิ่งยโสได้มิยาก!

   …หากจะกระทำได้อย่างไรเล่า... ในเมื่อตรงหน้านี้คือ บุคคลผู้หนึ่ง…มีเลือดเนื้อ….ชีวิตจิตใจ….มิต่างจากนางเอง  ต่อให้มากด้วยทิฐิเพียงเท่าใดก็คงมิอาจฤทัยแข็งสังขารได้ลงคอ!

   “นางอาจจะไม่อาจหาญพอที่จะสังหารพระองค์ได้ แต่หม่อมฉันคงจักทำได้!”

   ขุนพลศรุต!!

   หัศดินทร์เพียงเหลือบสายพระเนตรมองเท่านั้น

   “คิดไม่ถึงว่าสตรีเพียงนางเดียวจักสามารถทำให้เจ้าทรยศต่อบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าได้!”  โอรสแห่งมันทราทรงเอ่ยหยามหยัน มิได้หวั่นพระทัยสักนิดแม้ว่าจะมีอีกผู้หนึ่งลอบกัดทางเบื้องหลัง  คมศาสตราวุธกดแนบพระปฤษฎางค์!!

   พลันโดยมิทันได้มีผู้ใดตั้งตัวได้ โอรสหัศดินทร์กลับพระองค์เผชิญหน้า กับผู้ทรยศและชักพระแสงดาบที่ติดอยู่ข้างพระองค์ออกมาฟาดฟันเข้าใส่ขุนพลหนุ่ม

   สุวรรณอัมพรตะลึงถอยห่างออกมาโดยเร็วด้วยสัญชาตญาณระแวงระวัง  ในขณะเดียวกันเสียงปะทะกันระหว่างศัสตราวุธต่างฐานันดรก็เล็ดลอดออกไปยังด้านนอกพระตำหนัก  เหล่าทหารเริ่มกรูกันเข้ามาเพื่อถวายการอารักขาแก่จอมกษัตริย์แห่งมันทรา

   “พระธิดา! สังหารพระโอรสหัศดินทร์เสียพระเจ้าค่ะ เพื่อพระองค์จะได้เป็นอิศระ” ขุนพลศรุตร้องบอกเมื่อรู้แน่ว่าตนเองกำลังจะเพลี่ยงพล้ำ หากราชธิดายังทรงรีรอ

   “ท่านทำอย่างนี้เพื่ออะไร”

   ขุนพลศรุตล้มลงตามแรงฟาดฟัน คมดาบกรีดลึกลงไปในผิวหนังอันกำยำ โลหิตสีแดงทะลักรินออกมาจากรอยแยกของเนื้อหนัง มีเพียงแววตาที่บ่งบอกความปรารถนาชัดเจน แม้จักมิต้องเอ่ยออกมาเป็นพจนา!

   สุวรรณอัมพรสูดอัสสาสะตัดสินพระทัยมั่น... สิ่งใดจักเกิด ก็มิมีทางหลีกหนีพ้น จักกลัวไปไย...!

   แล้วตรงรี่เข้าไปเสียบอุระอริราชด้วยพระแสงกริชที่ทรงกำแน่นอยู่ในหัตถ์ วรกายสั่นระริก น้ำพระเนตรไหลรินด้วยความหวาดกลัว... นางกล้าสังหารเขา!!

   หัศดินทร์สะอึกอึ้ง เจ็บปวดเคืองแค้น พระโลหิตหลั่งรินออกมาอาบด้ามพระแสงกริช โอรสแห่งมันทราก้มลงทอดพระเนตรขุนพลทรยศที่กำลังจะสิ้นลมหายใจ  ก่อนจะหันมาตรัสแก่ผู้ที่ฝังคมอาวุธไว้ในดวงฤทัยของพระองค์ สุรเสียงเย็นชา

   “ในเมื่อเราไม่ได้เจ้า…ก็อย่าหวังเลยว่าเจ้าจักได้จากไปแต่โดยดี…สุวรรณอัมพร!”

   สิ้นคำตรัส…พระแสงดาบก็ถูกเงื้อขึ้นสูง และจ้วงลงมาเต็มแรงด้วยพระกำลังสุดท้าย!!

   วรองค์น้อยต้องคมศัตราวุธทรุดลง  พร้อมกับโอรสหัศดินทร์ที่สิ้นพระกำลัง…สิ้นลมปราณสุดท้ายไปพร้อมกับขุนพลผู้ทรยศล้มเกลือกอยู่ไม่ห่างกันนัก

   มโนสำนึกสุดท้ายปรีดิ์เปรม…

   ก็ยังดีกว่าที่จักต้องเป็นเพียงบรรณาการอันไร้ค่า…ฤๅตกเป็นของขุนพลศรุตผู้ทรยศผู้นั้น!

   นางเป็นอิศระ แล้ว!

   ภาพอดีตสมัย ที่ผ่านมาหมุนวนลอยคว้างดั่งกระแสมหานทีอยู่ภายในห้วงสำนึก!

   พิธียัญญะบูชาอสุรเทพ…

   วันที่ศิลามาศสิ้นอิศรภาพ…

   วันที่นางต้องสูญสิ้นพระราชบิดา…

   แหละ…ภาพนิมิตอสุรินทราหูในร่างอสูรร้ายประทานความพินาศย่อยยับให้แก่นาง!

……………………………………………………………………………………..


   เทพธิดาสุวรรณอัมพรทรงสะอื้นรำพันด้วยมิอาจอดกลั้นได้  ภาพจากภพอดีตที่เจ็บช้ำย้อนกลับมาทำร้ายพระราชหฤทัย  หยาดอัสสุชลใสรินออกมาจากดวงมณีนิลราวอัญมณีมุกตาหลุดจากสาย

   บัดนี้ นางประทับอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์องค์พระสยมภูวญาณ จอมเทพผู้เป็นใหญ่เหนือไตรภพ  ณ ไกรลาศคีรี…

เรื่องราวในภพนั้น จบลงแล้ว!

นางเงยพักตร์อันอาบไปด้วยอัสสุธาราหากยังคงงดงามมิแปรเปลี่ยนขึ้นทูลตอบปุจฉาขององค์อิศรา (ไม่รู้จำคำถามกันได้รึเปล่า  ที่ถามเอาไว้ตอนต้นบทที่ 2  แล้วน้องอัมพรยังไม่ได้ตอบนั่นแหละค่ะ)

“หม่อมฉันจำได้แล้วเพคะ…หม่อมฉันตายแล้ว”  ประโยคหลังราวกับทรงตรัสย้ำกับตนเอง  พลันระลึกได้ถึงบุรุษอันเป็นผู้ให้กำเนิด

“แล้วเสด็จพ่อของหม่อมฉันเล่าเพคะ?”

องค์อิศราบดีแย้มพรโอษฐ์ปรานี  รับสั่งสุรเสียงอ่อนโยน แลพระเมตตาการุณ

“บิดาของเจ้าได้จุติไปในชั้นพรหมแล้ว อย่าได้กังวลต่อสิ่งใดอีกเลย”

เมื่อได้สดับดังนั้น  รอยแย้มสรวลชื่นบานก็จุดกระจ่างบนดวงพักตร์อันงดงามปานดวงจันทราได้อีกครา   (คือ…เห็นหน้าแยมบนดวงจันทร์บ่อยน่ะค่ะ…)

……………………………………………………………………………………..
   
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ !!✿ คีตกานต์ ✿!!

  • Boysapolclub: คลับของเด็กสพล
  • *
  • 145
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 11:17:49 AM »
เย้ๆ เอามาลงเพิ่มแล้ว  :icon_evil:

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 09, 2011, 01:15:24 PM »
เริ่ดค่ะพี่ ชักอยากอ่านตอนต่อไปแล้วสิ  :'(
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ augustle

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • iNUTTi
    • มาย ทวิต^^
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 07:21:20 PM »
มาลงต่ออีกนะคะ :icon_eek:

ออฟไลน์ chonly

  • *
  • 11
  • 0
    • อีเมล์
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มีนาคม 23, 2012, 04:31:32 PM »
สู่้สู้นะคะ
เปนกำลังใจให้พี่กาฬ นะคะ ติดตามผลงานพี่ทุกเรื่องเลย :icon_neutral:


ออฟไลน์ maycute_11

  • *
  • 124
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • ศรีมหาคเณศดอทคอม
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 28, 2012, 08:44:32 PM »
จำได้ว่าคุณพี่แต่งไว้ถึงตอนอัปสรด้วยใช่ไหมคะ?  อยากอ่านอีกค่ะ  เหอะๆ   :icon_evil:
จึ่งเห็นจารึกอักษร     นามกรพระโอรสา
ชื่อหยังหยังหนึ่งหรัดอินดรา  อุดากันสาหรีปาตี
อิเหนาเองหยังตาหรา  เมาะตาริยะกัดดังสุรสีห์
ดาหยังอริราชไพรี     เองกะหนะกะหรีกุเรปันฯ

--ศรีมหาคเณศดอทคอม-- http://www.srimahaganesh.com

ออฟไลน์ อัคนีสีเพลิง

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    • อีเมล์
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2012, 10:45:58 AM »
พี่กาฬหนูรักพี่กาฬค่ะ 555+ชอบจังเลย อัมพร ราหู

Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 10:36:11 PM »
สวดยอดมว๊ากกกกค่ะ จับแค่ฉากเดียว(ที่พระราหูนึกถึงอดีตชาติ ที่เห็นอัมพรเป็นนางฟ้า)มาผูกเป็นเรื่อง ทำเอาคนอ่านติดกันงอมแงม อันตัวอิชั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย :) จะรออ่านต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ ไม่อยากบอกว่าตอนนี้กำลัติดพระราหูกับสุวรรณอัมพรมาก  :icon_surprised:

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2012, 09:29:15 AM »
เอ่อ......ไมมีแต่คนมารอเรื่องนี้
ต้องขอบอกคนอ่านให้ทำใจก่อนว่า เรื่องนี้เปอร์เซ็นต์ในการแต่งต่อ น้อยมาก
เพราะเนื่องจากตอนนั้นที่เริ่มแต่ง ยังมีความคิดความรู้สึกแบบเด็กๆ อยู่เลย
พล็อตไม่มีไรมาก อย่างที่บอกว่าได้อินสไปรมาจากแค่ฉากราหูกับสุวรรณอัมพรบนสวรรค์ฉากนั้นฉากเดียวจริงๆ
คำราชาศัพท์ก็ยังมีผิดอยู่เยอะ
เอาไว้ถ้าหากมีพล็อตกระจ่างแล้วและมีเวลามาคิดทบทวนก็อาจจะมีการรีไรท์ใหม่นะคะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2012, 10:33:06 PM »
ราหู กลับมาเกิดเป็นหัศดินทร์ป่าวคะ :( :(

ออฟไลน์ snowwy

  • *
  • 2
  • 0
    • อีเมล์
Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2012, 05:38:20 AM »
อยากอ่านต่อนะรู้สึกว่าเริ่มจะติดแล้วล่ะ แต่งเพิ่มเร็วๆนะคะ :)

Re: เทพสามฤดู ภาคอดีตชาติ
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2016, 10:54:59 AM »
ตามอ่านต่อได้ที่ไหนค่ะ ชอบมากๆ เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2016, 10:55:31 AM โดย Cutemiw »