ตอนที่ 7 เชลย
สองพระพี่เลี้ยงวิ่งกระหืดกระหอบมายังพลับพลาของโอรสวรเทพ
พระโอรสเพคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ ตอนนี้พระธิดาแก้วโกมุทถูกจับเป็นเชลยแล้วเพคะ
เจ้าว่าอะไรนะ น้องแก้วของเราถูกศัตรูจับไปอย่างงั้นหรือ
เสียงตวาดดังลั่น สองพระพี่เลี้ยงตกใจพูดตะกุกตะกัก
เพคะ ได้โปรดสั่งทหารออกติดตามเถิดเพคะ
ทหาร จัดกำลังทหารม้าที่มีฝีมือ แยกย้ายกันออกตามหาน้องแก้วของเราให้พบโดยเร็วที่สุด
เราจะบั่นคอไอ้ศัตรูที่บังอาจมาจับน้องแก้วของเราไปด้วยมือของเราเอง
ทหารรับคำรีบจัดกำลังออกตามโดยเร่งด่วน
วรเทพควบม้าคู่ใจติดตามไป ด้วยดวงใจที่ร้อนรน โอรสแห่งคีรีนครรู้สึกห่วงหานางอันเป็นที่รักยิ่งนัก
ไม่อยากแม้แต่จะคิดว่าป่านนี้ นางจะหวาดกลัวเพียงใด เจ้ารอพี่ก่อนนะน้องแก้วพี่จะรีบไปช่วยเจ้ากลับมา
เดี๋ยวนี้
ฝ่ายโอรสนครินทร์ที่จับตัวเชลยไว้ ก็ได้พานางควบม้าตะบึงเพื่อไปยังจุดนัดพบกับพระอนุชาที่ประตู
พระนครให้เร็วที่สุด อย่างน้อยอีกสามราตรีคงถึงประตูเมือง ค่ำคืนเดือนแรมเช่นนี้ ยากนักที่ทัพทหารที่ไม่
ชำนาญทางจากคีรีนครจะค้นหาราชธิดาได้โดยง่าย เสียงนกแสกกรีดร้องจนแสบแก้วหู
แก้วโกมุทผวาร้องด้วยความตกใจที่จู่ ๆ เจ้านกบ้า ก็กรีดร้องพร้อมกับบินผ่านหน้านางไป นางจึงผวาไปกอด
คนที่นั่งซ้อนอยู่บนหลังม้าแน่นพร้อมกับหลับตาปี๋ ตัวสั่นด้วยความกลัว โอรสนครินทร์หยุดม้าเพราะนึกไม่ถึง
ว่านางจะโผมาซบกับอกตนแนบแน่น เป็นเวลานานกว่านางจะรู้สึกตัวแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบสายพระเนตร
ของคนที่จ้องอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดที่อีกฝ่ายก็มองไม่ชัดเนื่องจากเป็นคืนเดือนแรม
นางรีบปั้นหน้าและบอกเสียงกร้าวกับคนที่นั่งชิดอยู่บนหลังม้า
เจ้าถอยออกไปหน่อยได้ไหม เราอึดอัดเต็มทีแล้ว
เจ้าจะให้เราถอยไปไหนในเมื่อม้าก็ตัวแค่นี้ อย่าเรื่องมากเลยอย่าลืมซิเจ้าเป็นเชลยของเรา เราไม่ปล่อยให้เจ้า
เดินตามหลังม้าก็บุญแล้ว
เรายินดีลงไปเดิน ดีกว่านั่งอยู่กับเจ้า
ยังคงเถียงด้วยความถือดี โอรสนครินทร์ชักหมั่นไส้พ่อหนุ่มน้อยคนเก่ง ดีล่ะจะปล่อยให้เดินซะให้เข็ด
อวดดีนัก เมื่อสั่งม้าหยุดก็กระโดดลงจากหลังม้าทันที
อยากเดินใช่ไหม ดี งั้นเจ้าลงมาเดี๋ยวนี้เลย
ธิดาแห่งรัตนะนคร นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเอาจริง นางจึงเผลอค้อนให้ชายหนุ่ม ทำให้อีกฝ่ายรอบอมยิ้มกับ
ท่าทางแสนงอนของนาง
ม้ามันสูงนี่ เราจะลงได้อย่างไร หาข้ออ้างไปเรื่อย
ลงมาเถอะ เจ้าบอกว่าชอบเดินมิใช่หรือ
ตรัสพลาง มองคนบนหลังม้า ที่ยังคงทำหน้าอิดออด เพื่อหาข้ออ้างไม่อยากลงจากหลังม้าเอาดื้อๆ
เราหิวแล้ว และเราก็ง่วงด้วย นางเปลี่ยนเรื่องทันที
หิวเราก็จะให้เจ้ากินไปด้วย และก็นอนบนหลังม้านี่ล่ะ ขืนหยุดพักเสียเวลา เดี๋ยวพรรคพวกของเจ้าก็ตามมา
พอดี
จะนอนไปได้อย่างไร บนหลังม้า
นางยังคงสงสัย โอรสหนุ่มแห่งโรมวิสัยยิ้มที่มุมพระโอษฐ์พลางตรัสว่า
ก็นอนมาที่ไหล่เรานี่งัย เจ้าตัวนิดเดียวเอง เราไม่หนักหรอก อีกอย่างเจ้าก็เป็นชายมิใช่หรือ แล้วจะไปเกรง
อะไรเล่า พ่อหนุ่มน้อย
นางจึงคิดได้ว่า นางได้แสดงตนว่าเป็นชายมาแต่แรก เจ้าทึ่มนี่ท่าทางจะเชื่อนางเสียด้วย ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว
ก็ขอทำตัวเป็นเจ้าแก้วหนุ่มน้อยคนนั้นต่อไปก็แล้วกัน
เออ ก็ใช่ เราเป็นชาย แต่เราก็สูงศักดิ์พอที่จะถือตัว มิให้ผู้ใดมาตีตนเสมอได้ ดังนั้นเจ้านั้นล่ะ ควรลงไปจูงม้า
ให้เรานั่ง คิดว่าตนเป็นต่ออยู่มากโข
คงมิได้กระมังพ่อหนุ่มน้อย เพราะเราก็หาได้ต่ำศักดิ์ไปกว่าเจ้าไม่ เราคือนครินทร์โอรสแห่งนครโรมวิสัย
ผู้ฟังถึงกับสะดุ้ง พระพักตร์งามเปลี่ยนสีไปทันที
อ๋อ ท่านก็เป็นศัตรูของเราน่ะสิ ท่านทำไมใช้อุบายสกปรกเยี่ยงนี้ จับตัวเรามาเพื่อเป็นตัวต่อรอง
กับเจ้าพี่วรเทพอย่างนั้นหรือ ทำไมท่านไม่ใช้วิธีที่ชายชาตินักรบเขาทำกันเล่า ข้าว่าควรจะทำการศึกที่ยุติธรรม
รู้แพ้รู้ชนะด้วยการรบกันจักดีกว่านักนะ นางยังคงใช้วาจาหว่านล้อมให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจปล่อยนางกลับไป
คงไม่ได้กระมัง พ่อหนุ่มน้อย เออเจ้ามีนามว่ากระไรหรือ
ข้าชื่อพ่อแก้ว คนตอบ ก็ตอบแบบห้วนๆ
คงมิได้หรอกพ่อแก้ว เพราะโรมวิสัยของเราเองก็มิเคยเป็นศัตรูกับใคร แล้วเหตุไฉนคีรีนคร จึงต้องยกทัพมา
ข่มเหงเยี่ยงนี้ นครินทร์แสร้งทำทีเรียกนางว่าพ่อแก้วตามที่นางได้บอกกล่าว
คีรีนครไม่ใช่สุนัขลอบกัดใครก่อน เรามาทำการศึกเพื่อความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ให้บรรดาเมืองน้อยใหญ่ได้รู้
ว่าเราเป็นหนึ่ง มิใช่เมืองอ่อนแอที่ใครจะมารุกรานได้ในภายภาคหน้าต่างหาก และเจ้าพี่วรเทพ
ก็ทรงพระปรีชาสามารถเหนือผู้ใด นางยังคงเถียงอย่างไม่ลดละ โอรสนครินทร์ทรงรู้สึกหมั่นไส้
คนช่างเจรจาบนหลังม้าเหลือกำลัง รวมไปถึงเจ้าพี่วรเทพที่พ่อหนุ่มแก้วมักจะกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ นั่นด้วย
เราไม่สนหรอกว่า เจ้าจะมีเหตุผลอันใดในการบุกรุกพระนครของเรา แต่เราขอบอกเจ้าตรงนี้ว่า โรมวิสัยมิใช่
เมืองอ่อนแอที่ใครจะมาข่มเหงได้ง่ายๆ ต่อให้เจ้าพี่วรเทพของเจ้าจะมีพระปรีชาสามารถมากแค่ไหนก็ตาม
โอรสนครินทร์กล่าวอย่างมุ่งมั่น ทำให้หนุ่มน้อยที่อ้างตนว่าชื่อแก้วต้องแอบลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง
พลางนึกไปว่าถ้าขืนต้องร่วมเดินทางกับเจ้าทึ่มหน้าดุนี้ มิรู้ว่า จะโดนเอาเปรียบแตะเนื้อต้องตัวอีกมากน้อย
แค่ไหน ลำพังให้นั่งอิงแอบบนหลังม้าก็เกินกำลังที่ราชธิดาผู้สูงศักดิ์อย่างนางจะรับได้ แล้วถ้าหากถึงยาม
รุ่งทิวาเล่า เจ้าทึ่มจะจับได้หรือไม่ว่านางเป็นหญิง มิใช่หนุ่มน้อยตามที่นางกล่าวอ้าง ดูเอาเถิดขนาดนางบอกว่า
เป็นชายก็ยังโดนเอาเปรียบ แล้วถ้าให้ล่วงรู้ว่าเป็นหญิงเล่า นางจะโดนเอาเปรียบหรือโดนรังแกมากแค่ไหน
เจ้าไม่ต้องกลัวหรอกหนุ่มน้อย เรามิได้วิปริตเห็นว่าเจ้าเป็นหญิงงดงามเสียจนอยากนั่งใกล้เจ้าหรอก เจ้ามันก็
แค่หนุ่มน้อยตุ้งติ้งเหมือนบัณเฑาะว์ ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน เมื่อถึงโรมวิสัยเราจะไม่เข้าใกล้เจ้าเลยสักเพียงนิด
พูดเหมือนรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย
เจ้า จะพาเราไปโรมวิสัยอย่างนั้นหรือ ถามเสียงสูงด้วยความตกใจ
อ้าว ก็นั่นบ้านเมืองของเรา เราจับตัวเจ้ามาเป็นเชลย เราก็ต้องพาตัวเจ้ากลับบ้านเมืองของเราซิ แค่นี้เจ้าก็
เบาปัญญาที่จะคิดได้หรือ พ่อแก้ว ข้าอยากรู้จังว่าโอรสวรเทพนำเจ้าติดตามมาด้วยได้อย่างไร เพราะนอกจาก
จะมิได้ช่วยอะไรแล้ว หากแต่จะเป็นภาระมากกว่าเดิมเสียอีก
นี่ หยุดนะ เจ้าบังอาจมาว่าเราโง่เขลาได้อย่างไร ขนาดเจ้าพี่วรเทพยังมิกล้าต่อว่าเราเยี่ยงนี้เลย
นั่นมันก็เรื่องของเจ้ากับเจ้าพี่ของเจ้า เราก็คือเรา ไม่ใช่วรเทพ อย่าเอาไปเปรียบ เพราะมันไม่เหมือนกันโดย
สิ้นเชิง คนพูดเสียงดุเข้ม อย่างไม่พอพระทัยนัก
แล้วนี่ ก็จวนจะสว่างแล้ว เจ้าไม่สงสารม้าตัวนี่หรอกหรือ มันเดินมาทั้งคืนแล้วนะ
ม้าของเราก็มีความอดทน เช่นเดียวกับเรานั่นล่ะ ต่อให้เดินอีกสามราตรี ก็ยังไม่เมื่อยล้า อ่อนแรงหรอก
แต่เราเหนื่อย และก็หิวด้วย บอกเสียงแผ่ว เหมือนอ่อนล้าเต็มที เพราะนางต่อล้อต่อเถียงกับ
โอรสแห่งโรมวิสัยมาทั้งคืนแล้ว
ก็ได้ เราจะให้เจ้าพัก เราหาลำธารแถว ๆนี้ก่อนก็ได้ ทัพของเจ้าพี่วรเทพของเจ้าคงตามมาไม่ทันแล้วล่ะ
พรุ่งนี้ เราคงถึงจุดนัดหมายที่อนุชาของเรารออยู่
ธิดาแห่งรัตนะนคร ลงจากหลังม้าโดยมีหัตถ์แข็งแกร่งของอีกฝ่ายช่วยประคอง นางจักขัดขืนการช่วยเหลือนั้น
แต่เมื่อเจ้าทึ่มบอกว่า เป็นบุรุษเหมือนกัน นางจึงปล่อยให้โอรสหนุ่มถูกเนื้อต้องตัว โดยที่มิเห็นแววตามี
ประกายขบขันของอีกฝ่าย นครินทร์คิดหาวิธีจะแกล้งนางที่แสนจะเจ้าเล่ห์นี่นัก จึงเอ่ยชวนนางไปอาบน้ำที่
ลำธาร ธิดาแห่งรัตนะนครได้ฟังก็สะดุ้ง ตกใจ ตายล่ะถ้าขืนไปอาบน้ำกับเจ้าทึ่มนี่ มีหวังโดนจับได้แน่นอน
อะไร หรือเจ้ากลัวว่า เราจะเคลิบเคลิ้มพิศวาสเจ้า ไม่ต้องกลัวหรอกน่า เพราะต่อให้เจ้าเป็นหญิง ด้วยรูปร่าง
หน้าตาแสนจะธรรมดา และองค์เอวแบนราบไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเจ้า ไม่ใช่แบบที่เราใฝ่ฝันเลยสักนิด
ตรัสพลางชำเลืองมองและอมยิ้มยียวน เจ้าเล่ห์ แก้วโกมุทหลงกลจึงยืนปั้นปึงด้วยความโมโห หนอย!
บังอาจมาว่าเราไม่มีความงามเยี่ยงสตรี ถ้าเจ้ารู้ว่าเราเป็นหญิง อยากรู้นักเจ้าจะทำหน้าอย่างไร เจ้าทึ่ม
นางยืนเก้ๆกังๆ อยู่ริมลำธาร ขณะที่โอรสนครินทร์ทรงปลดฉลองพระองค์ออกช้า ๆ สายตาจับจ้องใบหน้า
หนุ่มน้อยที่บัดนี้เริ่มแดงระเรื่อ พร้อมกับรีบสะบัดหน้าหนีภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
คนบ้า เจ้านี่มันบ้าชัด ๆ ข้าจะไปรอเจ้าข้างบนนะ พูดพลางรีบหันหลังกลับหากแต่นครินทร์เร็วกว่าที่คิด
หัตถ์บางถูกหัตถ์แกร่งของอีกฝ่ายยึดเอาไว้ก่อนที่จะ ออกแรงเหวี่ยงร่างอรชรลงไปในลำธาร
ว้าย...