ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: มกราคม 05, 2013, 08:55:17 PM »
อวยตรีอีกซักรูปก่อนจะหายไปอีกนาน(?)^O^

จากรูปแรกเรียบๆ รูปนี้รกอย่างมาก (ก็ป่านิ^^"<<<ข้ออ้างชัดๆ!)

นั่งแปลงร่างเอโม่งป่าไปขำไป เหอๆๆ ทายซิ!กว่าจะแปลงได้เราต้องใช้กี่รูป? (ดูเฉลยท้ายรูปขี้เกียจรอเด๋วไม่มีคนตอบจะหน้าแหก=_=")^^


ปล.กันย์ชอบรูปไซส์นี้อ่า ใหญ่ไปหน่อยไม่ว่ากันนะ^^


ปล.2แก้ไขรูปรวมถึงชื่อน้องเนยที่ตกพรไปตัวนึงแล้วนะคะ^^


สรุป!ร่างแปลงของโม่งป่าเอคือ 3 รูปคับป๋ม^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2013, 10:08:38 PM โดย กันย์ »

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: มกราคม 05, 2013, 09:05:54 PM »
 ;D ;D ;D สามารถมากอ่ะน้องกันย์ จริงๆ ตอนเห็นรูปพี่โม่งป่าครั้งแรกในเฟซพี่ก็คิดว่าเป็นน้องเอ นะ แต่ก็แอบไม่แน่ใจ แบบว่าจมูกคล้ายกันมาก 555
เรื่องนี้คืออีกเรื่องในดวงใจเลยขอบอก พี่ชอบตอนพระเอกเป็นโม่งป่า มากกว่า ที่เป็น เจ้าชายซะอีกอ่ะ น้องเนยน่ารักมากมายอ่ะ

ออฟไลน์ อัคนีสีเพลิง

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: มกราคม 05, 2013, 09:36:33 PM »
ภาพของพี่กันย์ภาพนี้สวยมากค่ะ พยายามมากเลยอ่ากว่าจะเป็นโม่งป่า ชอบจัง เมื่อไหร่จาได้ดูอีกน้า :icon_question:

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: มกราคม 05, 2013, 11:36:34 PM »
โม่งป่าสวยมากครับ กว่าจะเป็นโม่งป่าเอได้ต้องใช้ถึง4รูปเลย พี่กันรีทัชเนียนมาก  :P

ออฟไลน์ ชะ

  • *
  • 673
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • เปลี่ยนจากshahเป็นชะ จะได้เรียกกันง่ายๆ
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: มกราคม 06, 2013, 10:34:41 PM »
อ๊ายในที่สุดปอนด์เจ้าพี่ไวยกูรก็ได้เป็นชาละวันจนได้ เหมาะมากกกก

โม่งป่าพี่กันย์พยายามมาก ดันตรีกันสุดๆเลยนะคะ ชะก็ชอบตรีเหมือนกันน่ารัก

มนต์นาคราช อยากดูเรื่องนี้จัง

และหลายเรื่องที่คิดถึง นางพญาไพรแต่ก่อนชอบมากกกกจันทร์เจ้าขา  เทพศิลป์ฯ หลวิชัย

เรื่ออื่นๆก็เริ่ด เห็นแล้วอยากดูทุกเรื่องเลย



ขอบคุณ ภาพองค์หญิงกำมะลอป่วนกำลัง3 จากGoogle

ออฟไลน์ ชะ

  • *
  • 673
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • เปลี่ยนจากshahเป็นชะ จะได้เรียกกันง่ายๆ
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: มกราคม 07, 2013, 10:38:03 PM »
วันนี้บอร์ดเงียบจังเลย

เห็นพี่ๆน้องๆทำภาพจิ้นกันสวยๆงามๆ ก็เลยอยากทำบ้างไรบ้าง

ดูที่สวยๆมาเยอะแล้วดูแบบสวยน้อยบ้างก็แล้วกัน อิอิ

น้องใหม่ต้องดันกันเยอะๆ หน่อย

พระรถ-เมรี ค่ะ







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2013, 11:29:31 PM โดย ชะ »


ขอบคุณ ภาพองค์หญิงกำมะลอป่วนกำลัง3 จากGoogle

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: มกราคม 07, 2013, 11:13:07 PM »
^
^
ดูโอเคแล้วนะครับ ให้อารมณ์พระรถเมรีมาก มีเปลี่ยนสีชุดด้วยสวยๆ ภาพพระรถภาพใหญ่น่าจะลบตรงตัวออกแล้วเบลนให้เหลือครึ่งตัวเท่าเมรีจะดูสมดุลกว่านี้นะครับ  :icon_idea:
สู้ๆ แล้วทำมาให้ดูอีกน้า ชอบจังหลายคนร่วมกันทำโปรเจ็คนี้  :icon_neutral:

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 10:36:06 AM »
กนกนคร ทำนานเว่อร์ไปหน่อย 555 เห็นแบบนี้กว่าจะได้ก็จัดภาพกันนานโขอยู่ เป็นรางวัลตอบคำถามถูกนะคะ เอาซะยากด้วย แถมข้อแม้ก็เยอะอีกต่างหากจิ้นนี้กาฬรหัสย์ขอมานะคะ
อมรสิงห์ : โฟน ฆธาวุธ ปิ่นทอง
กนกเรขา : ฝน พัชรมัย สุขประเสริฐ



เรื่องย่อ กนกนคร วรรณคดีไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พญากมลมิตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในหมู่คนธรรพ์
ได้นางอนุศยินีนางฟ้ารูปงามเป็นคู่ครอง ตามพรของพระอิศวร
กมลมิตรคุยโอ้อวดกับเพื่อนคนธรรพ์ถึงความงามของภรรยาของตนว่า
อาจยั่วตบะของฤษีตนหนึ่งได้ จึงถูกฤษีนั้นสาปลงมาเกิดในโลกมนุษย์
อนุศยินีเป็นธิดากษัตริย์เมืองอินทิราลัยได้นามว่า กนกเรขา
เมื่อเจริญวัยนางไม่พอใจชายใด แต่พระบิดารบเร้าจะให้มีคู่ครอง
ในที่สุดนางรับจะอภิเษกกับชายที่มาจากกนกนครตามนิมิตฝัน
พระบิดาจึงป่าวประกาศว่า ชายใดที่เคยเห็นกนกนครจะยกพระราชธิดาให้
กมลมิตรถูกสาปไปเกิดเป็นโอรสกษัตริย์ ทรงพระนามว่า อมรสิงห์
ไม่คิดมีคู่เช่นเดียวกับนางกนกเรขา
พระบิดากำลังเร่งรัดให้อภิเษกกับเจ้าหญิงองค์ใดองค์หนึ่ง
อมรสิงห์ขัดไม่ได้รับคำที่จะมีชายา แต่ต้องเป็นหญิงอย่างในนิมิตฝัน
พระบิดากริ้วจึงให้นำไปจองจำไว้ อมรสิงห์หนีไปได้
เดินทางไปถึงเมืองของนางกนกเรขา เข้าไปลวงนางว่าเคยเห็นกนกนคร
นางจับพิรุธได้จึงให้ขับไล่ไปเสีย อมรสิงห์เสียใจออกค้นหากนกนคร
ในที่สุดหงส์พาไปปล่อยไว้ในทะเล
ได้อาศัยปลาเป็นพาหนะไปสู่กนกนครอีกต่อหนึ่ง พบศพนางกนกเรขาที่เมืองนั้น
พอตื่นขึ้นอมรสิงห์รู้สึกตัวว่ากลับมาอยู่เมืองอินทิราลัย
ขออนุญาตเข้าไปเล่าเรื่องกนกนครให้นางกนกเรขาฟัง นางระลึกความหลังได้ว่า
อมรสิงห์เคยเป็นพระสามี แต่จะต้องพรากกันอีก
เมื่อครบสองครั้งแล้วจึงจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสุขสบายเช่นเดิม
หลังจากรำพึงถึงความหลังไม่นานนางก็เป็นลมดับชีพ
ฝ่ายอมรสิงห์เมื่อเห็นนางกนกเรขาสิ้นใจไปต่อหน้า
เสียใจซัดเซพเนจรไปสู่ป่า วิญญาณของนางกลับไปสู่ร่างที่กนกนคร
ร่างนั้นจึงฟื้นขึ้น นายพาณิชผู้หนึ่งมาพบเข้า
พานางไปขังไว้ในบ้านเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เป็นภรรยา
พอดีพระราชาแห่งเมืองนั้น เสด็จมารับไปไว้ในวัง
พระมเหสีของพระราชาทราบความจึงช่วยให้นางหนีออกจากเมืองไปได้
ขณะเดินทางป่าถูกนางแทตย์ ปีศาจร้ายแกล้งหลอกหลอนตกใจจนสลบไป
เมื่อฟื้นขึ้นได้พบอมรสิงห์
ทั้งสองพ้นคำสาปพากันกลับขึ้นไปอยู่เมืองสวรรค์
เรื่องจบลงตอนพระอิศวรทรงทราบว่า กมลมิตรและนางอนุศยินีสิ้นบาปกรรม
ได้กลับไปสู่สวรรค์ ก็ทรงพระสรวล
ข้อคิดเห็น - ผู้ทรงนิพนธ์ตรัสไว้ในคำนำว่า เรื่อง
กนกนครนี้ได้เค้ามาจากเรื่อง "เมืองทอง" ในกถาสริตสาคร
ซึ่งพราหมณ์ชื่อโสมเทวแต่งไว้เป็นภาษาสันสกฤต และหนังสือ
ตริวิกรมาโธคาศรีะ
ซึ่งเป็นหนังสือสันสกฤตเช่นกันแต่ทรงดัดแปลงแก้ไขเสียใหม่
เนื่องจากต้นฉบับที่ทรงอ่านมิใช่ภาษาสันสกฤตโดยตรง
แปลเป็นอังกฤษไว้อีกต่อหนึ่ง เพราะฉะนั้น ความคิด ความเปรียบ เชิงความ
และสำนวน จึงอาจปนกันระหว่างไทย อินเดีย และฝรั่ง
พระนิพนธ์เรื่องนี้มิได้มุ่งให้เป็นบทละคร ถึงแม้จะมีคำ "เมื่อนั้น" หรือ
"บัดนั้น" ข้างหน้าบท กระบวนกลอนที่ทรงใช้ประณีตบรรจงเป็นพิเศษ
จึงต้องทรงบัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่ และใช้ศัพท์ในความหมายผิดแผกไปจากธรรมดา
ทำให้อ่านเข้าใจได้ยากในบางตอน

ที่มา : http://onknow.blogspot.com/2010/02/blog-post_338.html

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 11:16:11 AM »
โม่งป่าน้องกันย์ สุดยอดมาก กว่าจะเป็นพี่โม่งเนี่ย แต่เป๊ะและน่ารักมากๆเลย

ภาพพระรถเมรีของชะ เปลี่ยนสีเนียนตาดีค่ะ ตัดเครื่องประดับก็เนียนดีไม่โดดไม่ลอย แต่เห็นด้วยกับวีนะคะ น่าจะลบช่วงตัวด้านล่างพระเอกออก
เอาครึ่งตัวเหมือนเมรีจะสวยกว่า ถ้ายังมีไฟล์ลบและแก้มาใหม่ก็จะดีจ้า 555 แต่ครีเอทดีแล้วค่ะ ตัดภาพก็ดีนะเนี่ย ลองแก้มานิดเดียว จะสวยมาก  :icon_idea:

ออฟไลน์ อัคนีสีเพลิง

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #69 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 12:08:17 PM »
พระรถเอเมรีกุ๊กกิ๊ก ได้อารมณ์เศร้าจัง เลือกภาพไดรณ์จริงๆอ่ะ แต่พระรถดูไม่ค่อยสมดุลกะเมรีเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วงามแล้วค่ะ
กนกนคร ไม่เคยดูแฮะแต่ดูจากเรื่องย่อแล้วพระเอกนางเอกมีอุปสรรคเยอะจริงๆ

ออฟไลน์ ชะ

  • *
  • 673
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • เปลี่ยนจากshahเป็นชะ จะได้เรียกกันง่ายๆ
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #70 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 12:43:59 PM »
กนกนคร สวยค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ยังไม่เคยอ่าน ถ้าทำเป็นละครน่าติดตามมาก

พระรถเมรี ขอไปหาไฟล์ก่อนนะคะ :icon_exclaim:


ขอบคุณ ภาพองค์หญิงกำมะลอป่วนกำลัง3 จากGoogle

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #71 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 08:15:38 PM »
พระรถเมรี กรอบหน้าตัวนางแปลกๆค่ะ แล้วก็เห็นด้วยกับน้องวี เมรีน่าจเลื่อนลงมาอีกอ่ะ

กนกนครงามมาก ไม่เคยจิ้นคู่นี้เลยอ่ะ
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ ชะ

  • *
  • 673
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • เปลี่ยนจากshahเป็นชะ จะได้เรียกกันง่ายๆ
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #72 เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 11:34:10 PM »
แก้ไขมาแล้วนะคะ ลงที่เดิม ไม่รู้เป็นไงมั้งดีขึ้นหรืเปล่า

กรอบหน้าแต่งเพิ่มไปค่ะ ดูแปลกๆหรือคะ

  :icon_rolleyes:


ขอบคุณ ภาพองค์หญิงกำมะลอป่วนกำลัง3 จากGoogle

ออฟไลน์ อัคนีสีเพลิง

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #73 เมื่อ: มกราคม 09, 2013, 07:52:19 AM »
 :icon_confused: พระรถเมรีแก้ไขแล้วเวิร์คมากค่ะ หุหุหุ ความสมดุลเท่ากันแล้วล่ะ  :icon_idea:

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #74 เมื่อ: มกราคม 09, 2013, 03:35:57 PM »
โสวัต ภาพนี้ยากเนอะ555 พระเอกถือพวงมาลัยมีที่มาด้วยนะคะ เดี๋ยวลงเรื่องย่อให้ในบอร์ดค่ะ
โสวัต : โฟน ฆธาวุธ ปิ่นทอง
ประทุมวดี : หน่อย อุษณียาภรณ์ ผลเจริญ
ศรีวรดี : น้ำผึ้ง ธนภัทร ดิษฐไชยวงศ์
ศุภลักษณ์ : แยม ทิชา ตันติประสุติ



เรื่องโสวัตหรือโสวัตนางประทุม เป็นนิทานโบราณที่ได้รับคามนิยมในสังคมไทยสมัยอยุธยาสืบมาถึงสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น กวีไทยในอดีตนำเรื่องนี้มาประพันธ์เป็นบทละคร บทสำหรับเล่นหุ่นและคำกาพย์หรือกลอนสวด แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่ปรากฏในปัญญาสชาดก แต่ในเอกสารสมุดไทยเรื่อง “โสวัตกลอนสวด” ระบุว่าเป็นเรื่องของพระโพธิสัตว์ จึงจัดเป็นชาดกอีกลักษณะหนึ่ง เรื่องย่อตามที่กล่าวในกลอนสวดสรุปได้ดังนี้

พระเจ้าพรหมทัตกษัตริย์แห่งเมืองพรหมกุฎ มเหสีชื่อสุมณฑาเทวี ประสูติโอรสนามว่า โสวัตกุมาร ขณะที่กำลังทรงพระครรภ์นั้น นางม้าตัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ใต้ถุนปรางค์ปราสาทก็ตั้งท้องและตกลูกเป็นม้าอาชาไนยวันเดียวกับที่โสวัติประสูติ ยังมีนางฟ้าองค์หนึ่งจุติลงมาเกิดในดอกบัวใกล้อาศรมของพระดาบสที่ปาหิมพานต์ พระดาบสพบเข้าก็นำมาเลี้ยงเป็นธิดา ให้นามตามชาติกำเนิดว่า ประทุมวดี อยู่มาจนอายุย่างเข้ารุ่นสาว วันหนึ่งนางเก็บดอกไม้ร้อยกรองเป็นพวงมาลัย เสี่ยงไปตามสายธารใกล้อาศรมทั้งอธิษฐานว่า หากใครเป็นคู่ของนางขอให้มาลัยนี้ลอยไปคล้องข้อมือผู้นั้นไว้ วันนั้นโสวัตกุมารลงสรงสนานในแม่น้ำ พวงมาลัยของนางประทุมวดีก็ลอยเข้าสวมข้อพระกรไว้ โหรทำนายว่า หากพระองค์เสด็จไปทางทิศตะวันออกจะได้เจ้าของมาลัยเป็นคู่ครอง

(โสวัตพบนางประทุมวดี)

โสวัตกุมารสั่งให้เตรียมม้าอาชาไนยคู่บารมี ครั้นเสด็จประทับ ม้าก็โผนขึ้นบนอากาศ พาเหาะไปจนถึงอาศรมของพระดาบส ขณะนั้นพระดาบสไม่อยู่ โสวัตซุ่มดูอยู่พบนางประทุมวดีกำลังไกวชิงช้า ขับลำนำถึงมาลัยที่นางเสี่ยงไปตามสายน้ำ โสวัตจึงแสดงตนว่าเป็นผู้ได้มาลัยเสี่ยงทายของนางและติดตามมาจนพบเจ้าของ ทั้งสองฝากรักกันด้วยความเสน่หา

เมื่อพระดาบสกลับมาโสวัตกุมารก็ฝากตัวเป็นศิษย์ ขอศึกษาวิชาอยู่ที่อาศรมนั้น อยู่มาพระดาบสก็จัดการอภิเษกโสวัตกับนางประทุมวดีให้ครองคู่กัน เวลาล่วงไปจนนางประทุมวดีตั้งครรภ์อ่อนๆ ฝ่ายม้าอาชาไนยท่องเที่ยวไปตามลำพังจนถึงกรุงชนบทของท้าวจิตราสูรจึงถูกพญายักษ์เจ้าเมืองจับขังไว้ในกรงเหล็ก

(พรานป่ายิงโสวัตด้วยธนูพิษและบังคับให้นางประทุมวดีเดินทางไปกับตน)

วันหนึ่งโสวัตกับนางประทุมวดีเที่ยวแสดงหาผลไม้ในป่าไปถวายพระดาบส พรานป่านายหนึ่งเที่ยวล่าสัตว์ได้เห็นรูปนางประทุมวดีเข้า ก็ใคร่จะได้นางไปถวายพระราชาของตน จึงใช้ธนูพิษลอบยิงโสวัตจนสิ้นพระชนม์ แล้วบังคับให้นางประทุมวดีเดินทางไปกับตน เวลาล่วงไป ๑๕ วัน นางประทุมวดีทำอุบายให้พรานป่าวางใจแล้วใช้มีดทำร้ายจนพรานป่าถึงแก่ความตาย

นางประทุมวดีเดินป่าตามลำพังจนถึงริมฝั่งแม่น้ำใหญ่แห่งหนึ่ง มีนายสำเภาแล่นเรือมาพบเข้า เห็นนางมีรูปโฉมงดงามก็ใคร่จะได้นางเป็นภริยา จึงบังคับให้ลงเรือไปด้วย นางทำอุบายหลอกนายสำเภาลงเรือเล็กหนีไปได้
(พระดาบสพบโสวัตถูกทำร้าย)

ฝ่ายพระดาบสคอยทั้งสองอยู่ที่อาศรมจนค่ำ เห็นผิดสังเกตก็ออกตามหา พบโสวัตถูกทำร้ายสิ้นชีพอยู่เพียงผู้เดียว จึงชุบชีวิตให้ฟื้นขึ้นและให้รีบติดตามนางประทุมวดีไป โสวัตได้รับความช่วยเหลือและได้ข่าวม้าอาชาไนยจากนางเงือกน้ำ กระทั่งเดินทางไปถึงกรุงชนบทของท้าวจิตราสูรและลอบได้นางพี่เลี้ยงศรีวรดีกับนางศุภลักษณ์ธิดาของท้าวจิตราสูรเป็นชายา โสวัตอยู่กับนางได้ระยะหนึ่งก็ทำอุบายจนได้ม้าอาชาไนยคืนแล้วออกติดตามหานางประทุมวดีจนพบและกลับคืนยังบ้านเมือง

ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=visutthisiri&date=25-07-2010&group=12&gblog=14