ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 07:04:14 PM »
งดงามมากมายทุกรูปเรย เห็นแล้วฟินเว่อร์ รอดูเรื่องต่อไป

เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ^^ :o

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 10:21:32 PM »
อยากได้เรื่องน้ำใจแม่รีเมค แบบว่าพี่บอยเป็นมณี  :icon_neutral:
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 10:49:35 PM »
โคบุตร
-จิ้นดารารุ่นใหม่บ้างครับ^^

โคบุตร : เอกราช กฤตสิริทิพย์
มณีสาคร : กชกร ส่งแสงเติม
อำพันมาลา : นันทรัตน์ ชาวราษฎร์
มณีกลีบสมุทร : ภคมน เจริญวโรดม

ขอบคุณรูปรีทัชพระนางสวยๆไม่มีอะไรคาดหน้าผากจากพี่นิคและพี่โบเบนซ์ด้วยครับ




เรื่องย่อ......

วันนี้ผมมีวรรณคดีเรื่อง โคบุตร มาเล่าให้ฟัง (ที่ผมเอาความรู้มาโพสบ่อยๆ ก็เพราะว่า ผมเจอกับตัวเองมาเยอะ แบบครูสั่งให้ทำรายงาน แล้วหาตามเว็บไม่ค่อยเจอ หรือหายากมาก ผมก็เลยเอาขึ้นเว็บซะ เผื่อใครจะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง)

           วรรณคดีเรื่อง โคบุตร เป็นนิทานเรื่องแรกที่สุนทรภู่แต่งขึ้น และยังเป็นนิทานเรื่องแรก ที่แต่งโดยคำกลอน ซึ่งก่อนหน้านั้น นิทานส่วนใหญ่จะแต่งเป็นร่ายบ้าง ลิลิตบ้าง
           สำหรับเรื่องโคบุตรนี้ เรื่องราวเริ่มต้นที่ พระอาทิตย์ ได้ลงมามีความสัมพันธ์กับเทพธิดาในดอกบัวจนเกิดโอรส ด้วยกฎแห่งสวรรค์ ทำให้พระอาทิตย์ไม่สามารถเลี้ยงดูโอรสได้ จึงได้นำโอรสน้อยมาฝากให้ราชสีห์สองผัวเมียช่วยเลี้ยงดู
           ราชสีห์สองผัวเมียเลี้ยงดูโอรสของพระอาทิตย์จนเจริญวัย จนวันหนึ่ง พระอาทิตย์ก็ได้ปรากฏองค์ขึ้น พร้อมกับพระราชทานนามให้โอรสน้อยว่า โคบุตร และยังได้มอบเครื่องทรงกับสร้อยสังวาล และลูกแก้ววิเศษที่ทำให้เหาะได้ให้พระโคบุตร
            พระอาทิตย์ได้ให้พระโคบุตรผู้เป็นโอรสออกท่องไปในโลกกว้างเพื่อหาเมืองเพื่อขึ้นปกครอง พระโคบุตรจึงออกเดินทางทันที โดยที่ราชสีห์ได้มอบผงยาวิเศษที่ใช้ชุบชีวิตคนขึ้นมาได้ให้พระโคบุตรด้วย
             พระโคบุตรออกเดินทางจนมาถึงสระบัวแห่งหนึ่ง ได้กับ เจ้าหญิงมณีสาคร กับพระอรุณกุมารผู้เป็นอนุชากำลังจะถูกยักษ์สี่ตนทำร้าย จึงได้เข้าไปช่วยและฆ่ายักษ์ทั้งสี่ตนตาย
             เจ้าหญิงมณีสาครได้เล่าว่า ตนและพระอนุชาเป็นโอรสและธิดาของ ท้าวพรหมทัต และพระนางปทุมทัศ แห่งนครพาราณสี แต่ได้มีปุโรหิตชั่วคนหนึ่ง สมคบคิดกับลูกชายโค่นล้มราชบัลลังก์และปลงพระชนม์ท้าวพรหมทัตกับพระนางปทุมทัศสิ้นพระชนม์ ส่วนตนและพระอรุณกุมารหนีออกมาได้ พระโคบุตรจึงได้อาสาที่กู้ราชบัลลังก์กลับคืนมาให้ นอกจากนี้ พระโคบุตรยังได้นำผงยาวิเศษที่ได้จากราชสีห์ชุบชีวิตยักษ์สี่ตนขึ้นมาเพื่อให้ช่วยในการนี้ด้วย
             พระโคบุตรกอบกู้ราชบัลลังก์แห่งเมืองพาราณสีกลับคืนมาได้สำเร็จ และชุบชีวิตท้าวพรหมทัตกับพระนางปทุมทัศขึ้นมา ทำให้ทั้งสองพระองค์ซึ้งในน้ำใจของพระโคบุตรยิ่งนัก จึงได้รับพระโคบุตรเป็นลูกบุญธรรม
             พระโคบุตรอาศัยในเมืองพาราณสีได้ปีกว่าๆ ก็ออกเดินทางอีกครั้ง โดยคราวนี้ พระอรุณกุมารได้ขอติดตามไปด้วย
             ทั้งสองออกได้เหาะข้ามทะเล และได้พบกับ ยักษ์หัสกัณฐ์มัจฉา ซึ่งเป็นยักษ์ครึ่งปลา มี ๒๐ มือ หมายจะทำร้าย จึงได้เกิดการต่อสู้กัน แต่พระโคบุตรไม่สามารถฆ่าหัสกัณฐ์มัจฉาได้ เทวดาจึงปรากฏกายขึ้น และบอกพระโคบุตรว่า หัสกัณฐ์มัจฉาเคยได้พรว่าต้องตายด้วยน้ำมือของสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น และในบริเวณไม่ไกลจากนั้น มีฝูงลิงอาศัยอยู่ ให้พระโคบุตรไปตามพญาลิงเผือกซึ่งเป็นจ่าฝูงมา
            พระโคบุตรไปตามพญาลิงเผือกมา และมอบแหวนวิเศษให้ พญาลิงเผือกจึงขว้างแหวนวิเศษนั้นใส่หัสกัณฐ์มัจฉา ถึงแก่ความตายทันที
            หลังจากนั้น พระโคบุตรและพระอรุณกุมารก็อาศัยอยู่กับฝูงลิงจนเติบโตเป็นหนุ่ม จึงลาฝูงลิงและออกเดินทางต่อ
            พระโคบุตรและพระอรุณกุมารออกเดินทางมาจนถึงเมืองกาหลง ของท้าวหลวิราช ซึ่งท้าวหลวิราชมีธิดานามว่า นางอำพันมาลา เลิศด้วยสิริโฉมยิ่งนัก พระโคบุตรหลงรักนางแต่แรกเห็น และได้พานางหนีออกมา
             พระโคบุตร นางอำพันมาลา และพระอรุณกุมารได้เดินทางกลับสู่เมืองพาราณสีอีกครั้ง ซึ่งท้าวพรหมทัต เตรียมจะยกราชบัลลังก์ให้แก่พระโคบุตร แต่พระโคบุตรกล่าวว่า ตนมิได้มีเชื้อสายแห่งนครพาราณสีแต่กำเนิด ราชบัลลังก์แห่งเมืองพาราณสีควรจะเป็นของพระอรุณกุมารมากกว่า
             พระอาทิตย์ผู้เป็นบิดาเห็นดังนั้น จึงได้สร้างเมืองใหม่ให้พระโคบุตรปกครอง ชื่อว่า เมืองปราการบรรพต โดยมีนางอำพันมาลา และนางมณีสาครเป็นมเหสีอยู่เคียงข้าง
             หลังจากอภิเษกสมรสแล้ว พระโคบุตรก็เอาแต่หลงใหลนางมณีสาคร จนนางอำพันมาลาที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เกิดความอิจฉายิ่งนัก นางสร้อย ซึ่งเป็นนางรับใช้ของนางอำพันมาลาจึงได้ไปหา เถรกระอำ พระจอมขมังเวทย์ให้ช่วยทำเสน่ห์ให้พระโคบุตรหลงใหลนางอำพันมาลา และพิธีก็ได้ผล พระโคบุตรเอาแต่หลงใหลนางอำพันมาลาจนไม่สนใจกิจการงานเมือง
             จนกระทั่งความจริงปรากฏ พระโคบุตรก็ทรงกริ้วมาก และเนรเทศนางอำพันมาลาออกจากเมือง ซึ่งนางอำพันมาลาได้รอนแรมอยู่ในป่าจนสลบไป

          *เนื้อเรื่องของโคบุตรที่กรมศิลปากรชำระและพิมพ์เผยแพร่จบลงเพียงเท่านี้ แต่ได้มีผู้สืบค้นต่อไป และพบว่า สุนทรภู่ยังได้แต่งเรื่องโคบุตรต่อจากนั้นอีก

            หลังจากนางอำพันมาลาสลบอยู่กลางป่า ราชสีห์ที่เลี้ยงดูพระโคบุตรเมื่อครั้งเยาว์วัยมาพบเข้า จึงได้พาไปอาศัยอยู่ด้วยจนนางให้กำเนิดโอรสที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายพระโคบุตรยิ่งนัก ด้วยความสงสัย ราชสีห์จึงได้ถามจนทราบความว่าเรื่องมีที่มาอย่างไร ราชสีห์จึงพานางอำพันมาลาไปเข้าเฝ้าพระโคบุตรทันที
         เมื่อได้เห็นหน้าโอรสน้อย พระโคบุตรก็ใจอ่อน จึงรับนางอำพันมาลาซึ่งสำนึกผิดแล้วและพระโอรสกลับเข้ามาอยู่ในเมือง ซึ่งขณะนั้น นางมณีสาครเองก็มีโอรสน้อยเช่นกัน พระโคบุตรจึงตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางมณีสาครว่า มณีสุริยัน และตั้งชื่อโอรสอันเกิดจากนางอำพันมาลาว่า อำพันสุริยา
        กล่าวถึง ตะวันยักษ์นาคา สหายของหัสกัณฐ์มัจฉา เกิดความแค้นที่พระโคบุตรสังหารสหายของตน จึงได้ส่ง นางมณีกลีบสมุทร ซึ่งเป็นธิดา ให้ไปจับตัวพระโคบุตรมาให้ตนสังหารเสีย ซึ่งนางมณีกลีบสมุทรได้แปลงกายเป็นสาวสวยเข้ามายั่วยวนจนพระโคบุตรหลงใหล
         วันเวลาผ่านไปจนนางมณีกลีบสมุทรตั้งครรภ์อ่อนๆ ก็นึกถึงหน้าที่บิดาของตนสั่งมาได้ จึงจับตัวพระโคบุตรไปให้ตะวันยักษ์นาคา แต่ก็ขอร้องให้บิดาไว้ชีวิตพระโคบุตรด้วย เพื่อเห็นแก่ลูกในท้องของตน ในที่สุด ตะวันยักษ์นาคาก็ใจอ่อน จึงยอมปล่อยพระโคบุตรไป
         พระโคบุตรและมเหสีทั้งสามจึงปกครองเมืองปราการบรรพตสงบสุขนับแต่นั้นมา

cr.http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1653022
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 02, 2013, 11:15:53 PM โดย วี »

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 12:17:25 PM »
มีแคสติ้งละครกันหลายเรื่องเชียว 
ทำสวยกันทั้งนั้นเลย และก็อยากให้เป็นอย่างที่จิ้นจริงๆ ด้วย
น้องวี เขียนนามสกุลตรีผิดปะค่ะ

วรรณคดีไทยมีอีกหลายเรื่อง  ทำกันมาให้ได้ยลเยอะๆ น้า  :)
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 12:46:48 PM »
ผมหาชื่อตรีในgoogleครับพี่เค้าบอกพิมพ์แบบนี้ผมก็ก๊อปมาเลย ที่พิมพ์ตกหล่นคือเครติดรูป(พึ่งเห็น!)สามเศียร.om O{}O!!

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 04:40:26 PM »
 :o เริ่ดดดดดดดดดดดดดค่ะน้องวี แต่งภาพสวยชวนฝันมาก 

เห็ฯด้วยกับน้องเรนโบว์ นะอยากได้ได้น้ำใจแม่อ่ะ ใครเล่นก็ได้ อิอิ

ออฟไลน์ rainbow

  • *
  • 2482
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 06:08:24 PM »
:o เริ่ดดดดดดดดดดดดดค่ะน้องวี แต่งภาพสวยชวนฝันมาก 

เห็ฯด้วยกับน้องเรนโบว์ นะอยากได้ได้น้ำใจแม่อ่ะ ใครเล่นก็ได้ อิอิ

เวลาดูไปก็คิดนักแสดงที่จิ้นไปอ่ะค่ะ เห็นพี่บอยตอนบทอังคาสแล้วคิดว่าพี่บอยเหมาะกับเป้นพี่มณีมากกก  :icon_confused:
เมื่อไร้รัก   ไร้ชีวิต   ไร้จิตใจ

ยังอยู่ได้   แค่ร่างกาย    ไร้วิญญาณ

ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2012, 09:07:20 PM »
ไชยทัต

ไชยทัต : โอภาภูมิ รัชชารมย์
อุทุมพร : กชกร ส่งแสงเติม
สุพรรณทลิกา : ตวงรัตน์ คะชะสะ
วรจันทร์ : นภิศา ป้อมเสน



เรื่องย่อ..........

พระไชยทัตเป็นโอรสของท้าวโกมลกับนางแก้วจิตราผู้ครองเมืองพรหมกุศนครเมื่อตอนเกิดมาก็มีศรวิเศษและม้าคู่บุญบารมีเกิดตามมาด้วย ต่อมาไชยทัตก็ได้อภิเษกกับนางสุพรรณทลิกาซึ่งเป็นธิดากษัตริย์ที่ท้าวโกมลได้เลือกไว้ให้ วันหนึ่งไชยทัตพานางสุพรรณทลิกาขี่ม้าชมอุทยาน พญายักษ์กระเวน ออกหาอาหารในป่า เห็นมนุษย์ก็คิดจับกินจึงแปลงเป็นกวางทองมาล่อให้ไชยทัตออกตาม จนพลัดกับเหล่าทหารเสนา ยักษ์กุเวรกลับคืนร่างเดิมแล้วไล่จับกิน พระไชยทัตหลบหนีเข้าไปซ่อนในโพรงไม้ด้วยความช่วยเหลือของรุกขเทวดา ยักษ์กุเวรครั้นหาไม่พบจึงจับม้ากินแล้วกลับไป

กล่าวถึงพระดาบสเก็บกุมารีน้อยได้จากผลมะเดื่อใหญ่ จึงนำมาเลี้ยงดูจนโตแล้วตั้งชื่อว่า นางอุทุมพรนางอยู่คอยปรนบัติอุปัฏฐากพระฤๅษี จนกระทั่งวันหนึ่งพญายักษ์คนธรรพ์ครองเมืองอินทปัทม์ ผ่านมาเห็นนางก็ชอบใจ จงได้มาสู่ขอกับพระฤๅษีแต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากพระฤๅษีได้ดูดวงชะตาแล้วนางอุทุมพรต้องเป็นชายาของกษัตริย์ไชยทัตเท่านั้น

จนกระทั่งพระไชยทัตรอนแรมมาในป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี ได้พบกับนางอุทุมพรแล้วได้นางเป็นชายาพระฤๅษีจึงทำพิธีวิวาห์ให้ ยักษ์คนธรรพ์ยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ จึงแปลงเป็นพระไชยทัตเข้ามาสวมรอยหานาง ขณะที่พระไชยทัตตัวจริงออกหาผลไม้ในป่า พระฤๅษีเสกมนต์ขัดขวางไว้ได้ทัน พญายักษ์จึงบันดาลให้หมอกคลุมไปทั่วแล้วอุ้มนางเหาะหนีไป พระไชยทัตจึงแผลงศรวิเศษเป็นตาข่ายเพชรกั้นไว้ พญายักษ์สู้ไม่ได้จึงต้องเหาะหนีไป

พระไชยทัตได้ติดตามไปจนพบกระดูกม้าซึ่งถูกยักษ์กระเวนจับกิน จึงเก็บมาให้พระดาบสชุบชีวิตให้ใหม่ และมีฤทธิ์มากกว่าเดิมเหาะเหินเดินอากาศได้ พระไชยทัตจึงอำลาพระฤๅษีแล้วพานางอุทุมพรกลับเมือง พระฤๅษีได้มอบของวิเศษเป็นน้ำมันชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นมอบติดตัวไป ระหว่างแวะพักหลับนอนกลางทาง ม้าวิเศษถูกพญายักษ์คนธรรพ์ลักไป พระไชยทัตออกติดตามม้าจึงพลัดพรากจากนางอุทุมพร ระหว่างทางนางยักษ์วาสันซึ่งเป็นมเหสีของยักษ์กระเวนออกมาเที่ยวป่าเห็นนางอุทุมพรกระเซอะกระเซิงจึงไม่คิดจับกิน กลับจับนางไปเป็นสาวใช้ซึ่งขณะนั้นนางกำลังตั้งครรภ์อยู่

พระไชยทัตออกติดตามม้ากลับมาไม่พบนางอุทุมพรจึงออกติดตาม พบยักษ์คนธรรพ์นอนสิ้นชีวิตอยู่ในป่าจึงใช้น้ำมันชุบขึ้นมา พญายักษ์ซาบซึ้งบุญคุณจึงยอมถวายตัวเป็นทาสรับใช้แล้วเล่าความจริงให้ฟังว่า ตนขี่ม้าเหาะข้ามเมืองของท้าวสนตรา ถูกยักษ์สนตราฆ่าตายแล้วแย่งเอาม้าไป แล้วทั้งสองจึงพากันออกติดตามไปจนถึงเมืองของท้าวสนตรา

พญายักษ์คนธรรพ์ออกอุบายชักนำให้พระไชยทัตลอบเข้าหานางวรจันทร์ซึ่งเป็นธิดาของยักษ์สนตรา จนได้นางเป็นชายา ความล่วงรู้ไปถึงท้าวสนตราก็โกรธกริ้วยิ่งนัก สั่งให้สุนธรน้องชายของนางวรจันทร์ไปตาม ก็แพ้พระไชยทัตกลับมา ท้าวสนตราจึงให้วาทีขุนยักษ์นำไพร่พลล้อมจับพระไชยทัตขังไว้ในกรงเหล็กรวมกับม้าของพระองค์ พญายักษ์คนธรรพ์ลอบเข้ามาฆ่าพลทหารยักษ์แล้วทำลายกรงเหล็กช่วยพระไชยทัตออกมาได้สำเร็จ พระไชยทัตต่อสู้กับยักษ์สนตราจนสามารถแผลงศรไปฆ่ายักษ์สนตราได้สำเร็จ แล้วจึงอภิเษกให้ยักษ์สุนธรซึ่งเป็นน้องชายของนางวรจันทร์ครองเมืองต่อไป พร้อมทั้งฝากนางวรจันทร์ไว้ ส่วนพระองค์พร้อมทั้งยักษ์คนธรรพ์และม้าก็ออกติดตามนางอุทุมพรต่อไป

ระหว่างทางก็พบกับยักษ์กระเวนนอนตายอยู่กลางป่า จึงชุบชีวิตให้ฟื้นแล้วไต่ถามได้ความว่านางวาสันส่งนางอุทุมพรไปอยู่ที่สวนขวาพญาครุฑเอานางกลับไปยังวิมานฉิมพลี ฝ่ายพญาครุฑก็ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้เพราะนางอธิษฐานขอให้เป็นกระเทย ไชยทัตจึงได้ออกติดตามแล้วฆ่าพญาครุฑเสีย

จากนั้นทั้งหมดก็พากันกลับเมืองพรหมกุศ ไชยทัตก็ฝากนางไว้กับพระมารดาและนางสุพรรณทลิกา ส่วนตนจะกลับไปรับนางวรจันทร์กลับมา นางสุพรรณทลิกามีจิตริษยานางอุทุมพร จึงกระทำทารุณนางต่าง ๆ นา ๆ ใช้ให้ทำงานหนักแล้วส่งไปอยู่กับตายายที่สวนขวา ครั้นทางอุทุมพรคลอดโอรส ก็สั่งให้นางกำนัลจับไปใส่หีบทิ้งน้ำ พร้อมทั้งกล่าวหาว่านางอุทุมพรคบชู้ พระฤๅษีซึ่งเป็นบิดาของนางอุทุมพรทราบด้วยญาณจึงมารับพระกุมารไปเลี้ยงตั้งชื่อให้ว่าไชยสุริวงศ์

พระไชยทัตเมื่อกลับมาถึงเมืองพร้อมกับนางวรจันทร์ และพระโอรสชื่อทรงภานุต แล้วพากันเข้าเฝ้าพระชนนี นางแก้วจิตราเมินหมางกับนางอุทุมพร นางอุทุมพรก็เข้าเฝ้าแล้วเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด นางแก้วจิตราจึงให้ตามนางสุพรรณทลิกามาซักถาม นางสุพรรณทลิกาไม่ยอมรับกลับเข้าตบตีนางอุทุมพร พระไชยทัตกริ้วจึงให้ลงโทษนางสุพรรณทลิกา นางสุพรรณคีรีซึ่งเป็นมารดาของนางสุพรรณทลิกาจึงให้หลวงชีสัทธามาทำเสน่ห์ถึง ๒ ครั้ง พระไชยทัตต้องคุณจนคลุ้มคลั่ง แต่นางแก้วจิตราเข้าแก้ได้ โดยให้วาทีขุนยักษ์เรียกรูปรอยที่หลวงชีสัทธาทำไว้มาทำลาย นางสุพรรณทลิกาไม่เห็นพระไชยทัตมาหาจึงทำพิธีอีก วาทีขุนยักษ์จึงเข้าแก้ไขโดยให้ยักษ์คนธรรพ์ไปห้ามรถพระอาทิตย์ไว้ไม่ให้ขึ้นสู่ขอบฟ้าก่อนพระไชยทัตฟื้น เพราะพระไชยทัตคือองค์นารายณ์อวตารมา และให้เก็บใบจักรนารายณ์มาเป็นยาแก้

เมื่อพระไชยทัตอาการเป็นปกติแล้ว ยักษ์คนธรรพ์ก็รับอาสาไปจับหลวงชีสัทธา พร้อมทั้งสมุนคือ เณรชัย และ เณรพร โดยมีการแปลงเป็นสัตว์ต่าง ๆ ไล่จับกันจนได้ตัว นางสุพรรณทลิกาไม่ยอมรับในเรื่องทำเสน่ห์ กลับกล่าวหานางอุทุมพรโดยมีพยานปรักปรำ นางอุทุมพรจึงขอพิสูจน์ความดีด้วยการลุยไฟเทวดาจึงพรมน้ำทิพย์รักษาไว้เพราะนางบริสุทธิ์ ส่วนนางสุพรรณทลิกาถูกไฟลวกจนปวดแสบปวดร้อน เมื่อความจริงปรากฏ ไชยทัตจึงให้ประหารชีวิตนางสุพรรณทลิกา หลวงชีสัทธา เณร และตายายที่บังคับนางอุทุมพรทำงานหนัก แต่นางอุทุมพรขอชีวิตไว้เนื่องจากนางสุพรรณทลิกาตั้งครรภ์จึงถูกลดโทษเพียงแค่เนรเทศออกจากเมืองไป เนื้อความตามต้นฉบับตัวเขียนจบลงเพียงเท่านี้

cr.http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%95
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 02, 2013, 11:17:09 PM โดย วี »

ออฟไลน์ อัคนีสีเพลิง

  • *
  • 549
  • 0
  • เพศ: หญิง
  • อะ วิช สุ นุต สา นุ ติ
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2012, 06:24:36 PM »
ภาพจิ้นงามมากค่า กรี๊ดอีกครั้งชอบเจ้าหญิงนกกระจาบมากมาย ชอบพี่แยมพอมาเห็นเป็นนางวิมาลาแล้วก็ยิ่งกรี๊ดๆ ชอบจังเลยอ่าหลวิชัยคาวีก็ชอบมากๆเลยอ่า โอยๆๆๆ พี่บอยนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าสีไหนก็หล่อเนอะ หุหุหุ  :icon_biggrin:

ออฟไลน์ Soulinda

  • *
  • 93
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2012, 12:07:27 AM »
โคบุตร
-จิ้นดารารุ่นใหม่บ้างครับ^^

โคบุตร : เอกราช กฤตสิริทิพย์
มณีสาคร : กชกร ส่งแสงเติม
อำพันมาลา : นันทรัตน์ ชาวราษฎร์
มณีกลีบสมุทร : ภคมน เจริญวโรดม

ขอบคุณรูปรีทัชพระนางสวยๆไม่มีอะไรคาดหน้าผากจากพี่นิคและพี่โบเบนซ์ด้วยครับ




เอกราช remain me of Porshe Saran with this picture
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 30, 2012, 12:09:27 AM โดย Soulinda »

credit all the picture goes to p'vee

ออฟไลน์ lovely

  • *
  • 292
  • 0
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2012, 09:23:52 AM »
ชอบจังค่ะ อยากเห็นเรื่องบัวแก้วบัวทองกับมาลัยทองจังค่ะ

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 03:46:11 PM »
จันทโครพ ว่าทำมุจลินทร์ยากแล้ว ทำภาพนี้ยากกว่า 555 ไม่รู้จะมืกซ์ยังไง มั่วๆไปแล้วกันอ่ะ เหอะๆๆ จิ้นนี้ของน้องนิค นานๆจะมาร่วมจิ้นด้วยกันสักที ขอบคุณนะคะ

จันทโครพ : ฟิวส์ กิตติวงศ์ โพธิ์ปี
มุจลินทร์ : ฟ้า นภิศา ป้อมเสน
โมรา : อ้อม ตวงรัตน์ คะชะสะ


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 03:47:18 PM »
กายเพชรกายสุวรรณ อยากให้รีเมคมากกกกกจำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้วด้วย รู้แค่ตัวหลักของเรื่องและชื่อนางเอกจากเนื้อเพลง 555
กายเพชร : โฟน ฆธาวุธ ปิ่นทอง
กายสุวรรณ : ฟิวส์ กิตติวงศ์ โพธิ์ปี
กายแก้ว : เอ เอกราช กฤตสิริทิพย์
อำพันเรขา : มิน พีชญา วัฒนามนตรี


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 03:48:14 PM »
พระไชยมงคล จิ้นนี้เพื่อกาฬรหัสย์นะ กำลังทำมินให้พอดี 55 ไม่รู้จะจิ้นเป็นใครเรื่องอะไร ขอมาก็จัดไป
พระไชยมงคล : บอย สพล ชนวีร์
เทพพนม : มิน พีชญา วัฒนามนตรี
สกุณี : โบว์ ภคมน เจริญวโรดม
ขินีนาถ : ฝน พัชรมัย สุขประเสริฐ


ออฟไลน์ วี

  • *
  • 3897
  • 1
  • นัยจัยน้อย
    • อีเมล์
Re: ภาพ คู่จิ้นพระนาง จักรๆวงศ์ๆ ในวรรณคดีไทย
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 10:31:18 PM »
สวยงามมากทุกรูปเลยครับพี่โบเบนซ์ มินมาสองเรื่องงามมาก  :o พี่โบเบนซ์รีทัชเนียนสุดยอดมาก :icon_idea:
เสียดายเล่นปลาบู่ทองเรื่องเดียวก็ไปหลังข่าวซะแล้ว  :icon_biggrin:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 02, 2013, 10:32:29 PM โดย วี »