เมื่อได้รับประทานอนุญาต เทวนาคาจึงถวายบังคมทูลลาพร้อมมุ่งสู่ภพมนุษย์อีกคราดังเสียงเรียกร้องจากดวงหทัย
วันที่ 20 ธันวาคม 2547 เที่ยงบินแอร์เอเชีย THB จากท่าอากาศยานดอนเมืองได้แตะลานเวย์สนามบินนานาชาติภูเก็ตผู้โดยสารได้ทยายกันเดินลากสำภาระ ออกจากตัวสนามบิน สาวสวยวัยประมาณ 28 ใส่ชุดเดรสสีขาวผมยาวสวมแว่นกันแดดสีดำเดินลากสำภาระทักทายกับผู้ชายใส่เสื้อสูทสีน้ำเงิน
“พี่วิทย์ คิดถึงอากงจังเลย ท่านเป็นยังไงบ้างคิดถึงนิดบ้างมั๊ย”
“คิดถึงสิ คุณหนูใจร้ายจบปริญญาโทแล้วไม่รีบกลับมาท่านเป็นห่วง”
ชายหนุ่มอายุประมาณ 30 พูดคุยอย่างสนิทสนมก่อนจะลากประเป๋าให้แล้วเดินนำมาที่รถ บีเอ็ม คันงามสีดำพร้อมเปิดประตูรถ หญิงสาวก้าวเข้าไปนั่งเบาะด้านหลัง รถเคลื่อนตัวออกจากสนามบินมุ่งสู่อำเภอป่าตอง...หาดป่าตองที่ตั้งของโรงแรมขนาดห้าดาว SEAQEEN
“อานิด...คิดถึงจริงมาให้อาโกวกอดเลื้อหน่อย” หญิงวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดราคาแพง พูดทักทายเมื่อมาถึงที่หมาย
“อาโกวนิดก็คิดถึงทุกคน” พูดพร้อมกับสวมกอดและเดินตามผู้เป็นน้าเข้าไปด้านใน
“อานิด ...อั๊วคิดถึงเลื้อมากรูมั๊ยหา...อานิคมกับอาสุพรรณษาถ้ายังอยู่คงภูมิใจในตัวเลื้อ..”
“อากง....นิดคิดถึงอากงมาก...ฮื่อๆ” หลานสาวสวมกอดกับผู้เป็นปู่ที่รับช่วงดูแลเธอแต่จากพ่อและแม่ตั้งแต่เธออายุเพียง 19 ปี
เมื่อครั้งธอเรียนปริญญาตรีธุระบริหารธุระกิจอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปี1 เธอได้รับแจ้งข่าวร้ายจากมาเก๊าว่าผู้เป็นบิดาและมารดาได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางทะเลเรือสำราญที่ท่านทั้ง 2 ได้โดยสารไปจมลง....เป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอ...เธอรักทะเลและผูกพันกับทะเลอย่างประหลาดเธอโตขึ้นมากับทะเลเพราะกิจการโรงแรมอยู่มีหาดและท้องทะเลที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งนึงของโลกก็ว่าได้....และเธอก็เกลียดทะเลเพราะทะเลมาพรากจากคนที่เธอรักไปอย่างไม่มีวันกลับเช่นกัน