ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #315 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2008, 04:04:12 PM »
เมรีให้เหตุผลว่า มนุษย์ ยักษ์ หรือสัตว์อื่นๆเท่านั้นที่จะผ่านเข้าดินแดนกุตะละนครได้ แต่เพราะเมรีไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่ยักษ์
แต่เมรีเป็นครึ่งคนครึ่งยักษ์ พระรถเสนจึงว่าเรื่องแค่นี้เอง งั้นเมรีก็ให้ดวงตาพี่กลับไปคนเดียว แต่เมรีไม่ยอมให้พระรถเสนไป
พระรถเสนพยายามหาเหตุผลมาพูดอย่างไรก็ไม่ทำให้เมรีใจอ่อน เมรีไม่มีวันเชื่อคำพระสวามี



พระรถเสนก็เห็นใจเมรีแต่ตนนั้นมีความจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องนำดวงตาไปให้แม่กับป้า พี่จะรอ รอจนกว่าเมรีจะเห็นใจและยินยอม
มอบดวงตาให้กับพี่ แม้จะต้องรอไปจนตายก็ตาม พอพูดจบพระรถเสนก็เดินจากไปทันที



เมรีรู้สึกไม่ดีที่ทำเช่นนี้จึงรีบตามพระรถเสนไป แล้วแอบถามว่า ถ้าอย่างนั้นเสด็จแม่กับเสด็จป้าของเสด็จพี่ พระรถเสนจึงตรัสว่า
แม่และป้าของพี่ก็ต้องรอเช่นกัน เมรีได้ยินดังนั้นก็นิ่งเงียบไปพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินตามพระรถเสนอยู่ห่างๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:22:34 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #316 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2008, 04:24:59 PM »
วิรุณจำบังปรึกษากันถึงอนาคตตัวเอง วิรุณบอกว่า จำบังพระโอรสยังไม่เสด้จมาซักทีสงสัยพระธิดาทรงไม่ยอมปล่อยให้มา
พระเมหสีทั้ง 12 พระองค์ก็เสด็จเข้าวังกันแล้วแต่ไปองค์เหนือหัวคงมาเอาผิดกับพวกเรา พระนางสันตราลืมตาขึ้นมาล้วสั่งว่า
วิรุณจำบังกลับไปนครทานตะวันเดี๋ยวนี้แล้วบอกรถเสนว่าให้รีบกลับมาภายใน 7 วันไม่งั้นเราจะสังหารแม่และป้าของเค้าทิ้ง



เมื่อครบ 3 วันตามที่ตกลงพระรถเสนก็ยังไม่เสด็จมาเจ้าประกายเพชรจึงตัดสินใจมาตาถึงเขตราชฐานและตะโกนเรียกพระรถเสน
เสียงดังด้วยเป็นม้าวิเศษจึงก้องกังวาลไปทั่วบริเวณทหารยักษ์พากันแสบแก้วหูไปตามๆกัน



รถเสนที่อยู่ในห้องบรรทมก็ได้ยินเสียงเรียกของประกายเพชรจึงรีบออกไปหาทันที พระรถเสนเข้าไปสูบหัวเจ้าประกายเพชรแล้ว
พูดว่า ประกายเพชรเจ้ามาตามหาเราเหรอ รถเสนรู้สึกดีใจที่ได้เห็นประกายเพชร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:25:26 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ กันย์ณภัทร

  • *
  • 2248
  • -1
  • จงปลดโซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ด้วยคมดาบแห่งใจตน
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #317 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2008, 08:59:29 PM »
หุหุพี่bobenz มาต่อแล้วๆ :-*

รอฉากพระรถหลอกเมรีดื่มเหล้าอยู่น๊า

สู้ๆค่ะ^^

ออฟไลน์ PakWaRN

  • *
  • 234
  • 0
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #318 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2008, 09:48:44 PM »
กรี๊ดด ๆๆๆ พี่บอยกับพี่บีน่ารักมากกกๆๆๆเลยอ่ะคะ

พี่โบเบนซ์สู้ๆๆ หวานเอาใจช่วย+รอดูอยู่คร่า :-* :-*

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #319 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2008, 10:04:54 PM »
ไม่เข้าใจว่า  ทำไมล่ะ  เมรีเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์ แต่กลับเข้านครกุตะละไม่ได้

แต่ยักษ์แท้ๆ กลับผ่านเข้าไปได้
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ PakWaRN

  • *
  • 234
  • 0
    • อีเมล์
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #320 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2008, 10:14:16 PM »
ไม่เข้าใจว่า  ทำไมล่ะ  เมรีเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์ แต่กลับเข้านครกุตะละไม่ได้

แต่ยักษ์แท้ๆ กลับผ่านเข้าไปได้

เห็นด้วยคะ ใจร้ายจังเนอะ :'(

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #321 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 10:17:54 AM »
พระรถเสนดีใจที่ประกายเพชรมาหา แต่พระองค์ยังไปไหนไม่ได้จึงสั่งให้ม้าประกายเพชรกลับไปก่อน แต่เจ้าประกายเพชร
กลับงอน พระรถเสนสัญญาว่าถ้าหากว่าตนได้ดวงตาแม่และป้าเมื่อไร ก็จะรีบไปตามเจ้าทันที ประกายเพชรเมื่อได้รับคำสั่ง
จะกลับไปรอตามเดิม



พระรถเสนระหว่างทางกลับตำหนักได้พบกับวิรุณจำบังเข้าจึงถามเรื่องที่ทั้ง 2 กลับไปเมืองกุตะละนคร แล้วถามอาการป่วยของ
พระนางสันทมาลา วิรุณจำบังกราบทูลไปว่า พระมเหสีทรงหายประชวรแล้วแต่ฝากความสำคัญมาถึงพระองค์ด้วย พระรถเสนมีทีท่าทันที
วิรุณจำบังจึงทูลไปว่า ถ้าหากพระรถเสนไม่กลับกุตะละนครภายใน 7 วัน พระนางจะประหารแม่และป้าของพระองค์



พระรถเสนกลุ้มพระทัยที่สุดหาที่ใดเปรียบได้ ยิ่งนึกถึงคำพูดของวิรุณจำบังเรื่องประหารชีวิตแม่และป้าแล้ว ยิ่งทรงหดหู่พระทัยยิ่งนัก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:33:03 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #322 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 10:26:02 AM »
เมื่อกรัดกลุ้มจนคิดอะไรไม่ออก ทรงทอดพระเนตรไปเห็นจอกสุราวางอยู่ พระองค์จึงทรงดื่มอย่างเมามายจนหมดสติ
หลับไหลไปในที่สุด



เมรีเดินตามหาพระรถเสนอยู่เมื่อเห็นอยู่ในตำหนักก็ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ และก็ร้องเรียกพระรถเสนเมื่อเห็นว่าพระองค์ทรงหลับอยู่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:30:11 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #323 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 10:48:40 AM »
เมื่อเมรีเรียกพระรถเสนเสียงดังไปทั่วตำหนัก ทำให้นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกรีบเข้ามา เพื่อจะรับใช้ แต่เมรีเห็นว่าเป็น
นางขจร จึงตวาดและไล่ออกไป



เมื่อขจรออกไปจากตำหนัก นางกำนัลที่เดินตามเข้ามาก็ลากลับด้วยแต่เมรีเรียกเอาไว้ ให้ช่วยกันพยุงพระโอรสไปนอน
บนแท่นบรรทมก่อน ทำให้นางกำนัลแต่ละนางแปลกใจ ต่างมองหน้ากันทันที จึงรีบทำตามพระกระแสรับสั่งของพระธิดา
โดยเร็ว



เมรีเอาแต่จ้องหน้าพระรถเสนโดยไม่วางตา และก็ไล่พวกนางกำนัลทั้งหมดให้ออกไป เมรีผิดสังเกตุที่พระรถเสนหลับหมดสติ
และได้กลิ่นสุรา จึงู้ได้ทันทีว่าพระสวามีทรงเมาสุรา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:38:09 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #324 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 11:13:11 AM »
เมรีกำลังอยู่ในภวังค์แห่งรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น อาการทีแสดงออกมาถึงรักครั้งนี้ช่างรุนแรงนัก



พระรถเสนกลัดกลุ้มคิดหนักด้วยห่วงมากมายห่วงแม่ป้าจะตกอยู่ในอันตรายจึงอยากจะรีบกลับไปหาแม่ป้าไวๆ แต่อีกใจ
ก็ห่วงทางนี้ห่วงเมรีเพราะนางชอบขู่ตลอดถ้าจากไปนางก็จะตายให้ดูถ้าไปจริงๆก็กลัวว่านางจะคิดสั้น จึงคิดหาหนทางว่าจะ
ทำอย่างไรดี เมื่อนึกขึ้นได้ และคิดว่าพระรถเสนจะใช้วิธีมอมเหล้าเมรีในที่สุด



ในที่สุดพระรถเสนก็คิดจะใช้วิธีมอมเหล้าเมรีขึ้นมาจริงๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:41:03 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #325 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 11:31:11 AM »
แม่ย่าเมื่อการกลับมานครทานตะวันของวิรุณจำบัง จึงเรียกยักษ์ทั้ง 2 ตนมาสอบถามว่าพระแม่เจ้าสันตราจะจัดการกลับ
พระโอรสรถเสนอย่างไร แต่วิรุณจำบังก็ไม่รู้เช่นกัน รู้เพียง 2 วิธี คือ  ให้พระโอรสนำดวงตาไปคืนให้นาง 12 แล้วฆ่า
พระโอรสรถเสนส่วนแม่กับป้าให้รอดชีวิต หรือว่า ฆ่าทั้งหมดให้ตายตกไปตามกัน แต่ไม่รู้พระนางจะเลือกใช้วิธีไหน



พระรถเสนตั้งใจจะมอมเหล้าเมรีภายในวันนี้ จึงนึกเคริ้มใจดื่มเหล้าแต่เช้า และก็ทรงรู้ว่าเมรีจะต้องตามมาหาพระองค์
และในที่สุดเมรีก็เข้ามาจริงๆ



เมื่อเมรีเข้ามาตามแผนที่ตนคิดไว้ พระรถเสนจึงชวนเมรีให้ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนตนทันที เมรีเมื่อได้ยินดังนั้นก็หน้าเสีย และอ้ำอึ้ง
แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธพระสวามี


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:44:10 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #326 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 12:06:02 PM »
เมรีนึกถึงตอนเด็กๆที่ตนได้สาบานกับแม่ย่าว่าจะไม่แตะต้องสุราอีก หากผิดคำสาบานขอให้มีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิต
พระรถเสนเห็นเมรีนิ่งเงียบไปพระถามว่า "ทำไม ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพี่ แค่นี้ไม่ได้เชียวหร์อ" เมรีคิดหนัก แต่ก็เพราะ
รักพระรถเสนมากกว่า และไม่อยากขัดใจพระสวามี ตนจึงตอบตกลง



ระหว่างที่เมรีกำลังจะดิ่มเหล้าตามคำชวนของพระรถเสน แม่ย่าก็รีบเข้ามาทักทวงได้ทัน ว่าพระธิดาได้ลืมคสาบาน
แล้วหรือเพคะ พระรถเสนได้ยินแม่ย่าพูดเช่นนั้นก็ถามเมรีทันที



เมรีแกล้งตอบปัดไปว่าเป็นคำสาบานเล่นๆสมัยเด็กๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกเพคะ พระรถเสนซักหนักขึ้น ว่าสาบานไปว่า
อะไร เมรีเลี่ยงไม่ตอบ เฉไฉไปว่า แม่ย่าเมรีจะไปส่งแม่ย่าที่ห้องนะจ๊ะ แม่ย่าไม่พอใจพระรถเสนที่จะมอมเหล้าพระธิดาเมรี
จึงขอทูลลาทั้ง 2 พระองค์ออกไป เมรีรีบตามแม่ย่าไปทันที เพราะรู้ได้ว่าแม่ย่ากำลังโกรธตน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:47:33 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #327 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 12:28:15 PM »
พระรถเสนเห็นท่าทางของเมรีที่ลุกหนีออกไป และก็สงสัยคำพูดของแม่ย่า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้
ด้านเมรีที่รีบตามแม่ย่าออกไป เมรีรู้ว่าแม่ย่ามีเรื่องจะพูดกับตนแต่เมรีไม่สามารถเชื่อฟังแม่ย่าได้ เพราะเมรี
ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจริงๆ



แม่ย่ามองดูเมรีและนึกใจหายว่าพระธิดาเมรีมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย แม่ย่าจึงชวนเมรีไปที่ตำหนักเพราะเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน
อีกนาน เมรีก็นึกหวั่นใจกลัวพระรถเสนจะหนีตนไป แต่แม่ย่าบอกว่า คราวนี้พระโอรสไม่เสด็จหนีไปไหนหรอกเพคะ เมรีจึงยอมตาม
แม่ย่าไปโดยดี



พระรถเสนกลุ้มใจที่ตนเองมีเวลาที่จะช่วยแม่กับป้าแค่ 7 วัน ภายใน 7 ราตรีนี้ถ้าห้องสรรพยาไปเปิดเราจะเข้าไปเอาดวงตาได้อย่างไร


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:50:02 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #328 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 12:47:30 PM »
เมื่อมาถึงเมรีก็ถามว่าแม่ย่ามีธุระอะไรก็รีบๆบอกเมรีมา แม่มองว่าเมรีมีท่าทางกระวนกระวายก็ถามว่าเมรีจะรีบร้อนไปไหน
เมรีบอกว่าตนนั้นทิ้งเสด็จพี่มาแม่ย่าก็รู้ แม่ย่าจึงพูดว่า อนิจจา ความเอ๋ยความรัก เหมือนโคถึก ที่ถูกกักขังไว้ ก็จะโลดจะแล่นไป
บ่อยอมอยู่ ณ ที่ขัง



เมรีไม่พอใจที่แม่ย่าเปรียบเปรยตนเอง แม่ย่าพูดถึงความหลังให้เมรีฟังว่าทรงเป็นทารกที่น่ารัก เป็นพระธิดาองค์น้อยที่ซุกซน ข้าราชบริภาร
แม้จะเอมระลา แต่ในส่วนลึกแล้วทุกคนรักพระธิดายิ่งนัก เพราะน้ำพระทัยนั้นหาใครเปรียบปานได้ ใครอดใครอยาก ใครยากใครจน ใครเจ็บ
ใครใคร่ทรงยื่นพระหัตรช่วยเหลือเสมอมา ตราบจนกระทั่งเจริญวัยที่งดงาม



แม่ย่าตรัสต่อไปว่าทรงมีตวามรักกับเจ้าชายสวยสง่ามาจากแดนไกลโพ้น "แต่ถ้าความรักนั้นนำมาซึ่งความตายของพระธิดา แม่ย่ายอมไม่ได้"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 23, 2009, 02:54:14 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง "นางสิบสอง"
« ตอบกลับ #329 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2008, 01:16:29 PM »
ใกล้จบ พี่โบว์เบนซ์เลยเล่ายาวเลย

สงสารเมรี  ไปทางไหนก็ไม่ได้  เพราะทุกคนต่างเคร่งครัดกับคำทำนายมากเกินไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 16, 2008, 01:22:58 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**