ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

รามสูรกับเทพวายุ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

bobenz

รามสูรกับเทพวายุ
« เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 11:01:44 AM »

ตอนที่1     กำเนิดรามสูร-เทพวายุ(นำแสดงโดย บอยสพล-เจมส์เลอสรรค์)

หลังจากที่ขันธมารพ่ายแพ้ให้กับพระอิศวรและเทพสามฤดูในครั้งนั้นก็ถูกส่งลงนรกเวลาผ่านไปอีกกว่า100ปีตอนนี้ขันธมารกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งจึงแสดงแสงยานุภาพตีฝ่าแหกประตูนรกหนีมาจุติบนโลกมนุษย์เพื่ออำพรางเทพเทวาลงจุติ ณ เมืองกุสินารากับสนมเอกนามจันทรเนตร แห่งกษัตริย์ ธรรมลักษณ์ผู้ปกครองนคร ฝ่ายเทวารู้เห็นเหตุการณ์พระอิศวรเพ่งญาณและพบว่าพระพายหมดบุญบนสวรรค์ถึงคราวต้องลงไปจุติบนโลกมนุษย์จึงเอ่ยปากว่า

พระอิศวร "เทพมาตุลีท่านจงไปนำเสด็จพระพายให้มาเข้าเฝ้าเราที"

เทพมาตุลีได้ยินดังที่ว่าก็รีบออกไปตามคำบัญชาไป ณ ตำหนักของพระพายทันที

เทพมาตุลี "พระพายองค์พระสยมมีบัญชาให้ท่านทรงไปเข้าเฝ้า"

พระพาย "เช่นนั้นรึ เราจะไปเดี๋ยวนี้"  หลังจากนั้นก็เสด็จไปทันที

อีกมุมของสวรรค์เทพรามสูรกำลังตรอมใจเหตุเพราะรักมณีเมขลาแต่นางหามีใจไม่ขณะกำลังนั่งซดเมรัยอยู่นั้นได้ยินเหล่าเทวานางฟ้าโจทย์กันให้แซดเรื่องขันธมารหนีไปจุติบนพื้นพิภพเพื่อทำลายโลกและสวรรค์เป็นการแก้แค้นจึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวรเพื่อขออาสาทำภารกิจนี้เอง เทพทั้ง2องค์ถึงตำหนักพระอิศวรพร้อมกัน

พระอิศวร "เรามิได้เรียกหาท่านทรงเสด็จมาเพื่อการใด"

รามสูร  "หม่อมฉันใคร่ขออาสาทำภารกิจนี้เอง"

พระอิศวร "แต่เรากำลังจะส่งพระพายเพื่อลงไปทำการนี้ยู่นะท่าน"

รามสูร  "เมื่อนานมาแล้วเทพราหูกับเทวีจินดาเมขลาก็อาสาไปช่วยพระพิรุณบนโลกมนุษย์มาแล้วหม่อมฉันจะทำเช่นนั้นบ้างคงไม่เป็นไร"

พระอิศวร "แล้วท่านล่ะพระพายเห็นเป็นประการใด"

พระพาย "หม่อมฉันยังไงก็ได้พระเจ้าข้า"

พระอิศวร "งั้นรอบนี้เราจะใช้มาตราฐานเดียวกันกับคราวก่อนให้ท่านทั้ง2เกิดในร่างเดียวกันแต่สลับกันออกมาในเวลากลางวันกับกลางคืนโดยกลางวันเป็นพระรามสูรส่วนกลางคืนเป็นพระพาย พวกท่านสำรวมจิตให้ดีเราจะส่งท่านลงไปเกิดเดี๋ยวนี้"     พระอิศวรชี้เทพทั้งสองแล้วก็ลงไปจุติในทันที

ณ นครกุสินาราดวงจิตแห่งสองเทพลงมาจุติในครรภ์มเหสีมณฑารัตน์ซึ่งเป็นชายาเอกแห่งท้าวธรรมลักษณ์

(จบตอนที่1) ;D


bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 11:02:42 AM »
ตอนที่2 เนรเทศ

ณ นครกุสินาราขณะที่มเหสีมณฑารัตน์กำลังประพาสอุทยานอยู่ก็มีอาการวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมวกนางกำนัลแยกย้ายกันไปส่วนนึงพาพระมเหสีกลับตำหนักอีกส่วนเข้าเฝ้าท้าวธรรมลักษณ์และอีกส่วนไปตามหมอหลวงท้าวธรรมลักษณ์มาถึงพร้อมหมอหลวง

ท้าวธรรมลักษณ์  " รีบดูอาการชายาเราเร็วเข้า"

หมอหลวงตรวจชีพจรแล้วก็เผยยิ้มออกมา

หมอหลวง  " ไม่ต้องทรงวิตกพระมเหสีทรงตั้งครรภ์พระเจ้าข้า"

ทั้งสองพระองค์ต่างดีใจท้าวธรรมลักษณ์สวมกอดมเหสี นางกำลังผกาได้ยินเช่นนั้นแอบออกไปรายงานสนมเอกและอามาตย์เทเวทย์พ่อของนาง

นางกำนัลผกา  "พระมเหสีทรงตั้งพระครรภ์เพคะ"

จันทรเนตร  "ตั้งท้องนางมณฑารัตน์มันก็ตั้งท้อง ท่านพ่อทำไงดี"

อามาตย์เทเวทย์  "หัวหมู่คงเจ้าไปตามโหรหลวงมาพบเราเร็ว"

ลูกน้องรีบลงจากเรือนอามาตย์ซักพักก็กลับมาพร้อมโหรหลวง

โหรหลวง " ท่านอามาตย์มีอะไรให้เรารับใช้หรือท่าน"

อามาตย์เทเวทย์  "ช่วยตรวจดวงพระมเหสีมณฑารัตน์ให้เราที"

โหรหลวงวินิจฉัยดวงพระมเหสีตามตำราอยู่ซักพักแล้วเอ่ยว่า

โหรหลวง  "บุตรในครรภ์พระมเหสีเป็นอภิชาติบุตรแต่เกิดมาจะทำให้แม่ลำบาก"

จันทรเนตร  "งั้นพวกมันก็เสวยสุขอยู่ได้ไม่นานนักล่ะสิ" สีหน้าพอพระทัยอย่างมาก

จำเนียรกาลผ่านเลยมา 9 เดือนพระสนมเอกและพระมเหสีเจ็บท้องพร้อมๆกันช่วงเช้ามืดและเวลาสายๆสนมเอกก็ให้กำเนิดพระโอรสรูปงามท้าวธรรมลักษณ์ดีพระทัยมากหลังจากนั้นเกือบเที่ยงพระมเหสีก็มีประสูติกาลพระโอรสบ้างแต่............

ท้าวธรรมลักษณ์  "หมอตำแยเหตุใดทำสีหน้าแบบนั้นชายาเราเป็นอะไร"

หมอตำแย  "หม่อมฉันไม่กล้ากราบทูลเพคะ"

เมื่อได้ยินดังนั้นเลยเข้าไปดูให้เห็นกับตาท้าวธรรมลักษณ์ทั้งโกรธและตกพระทัยพระโอรสมีพระพักต์เป็นยักษ์เมื่อเห็นแบบนั้นก็คิดว่าชายาแอบสมสู่กับยักษ์จึงสั่งว่า

ท้าวธรรมลักษณ์  "ท่านอามาตย์เทเวทย์จงนำมณฑารัตน์และอ้ายลูกชู้ไปลอยแพ"

อามาตย์เทเวทย์  "พระเจ้าข้า"  สีหน้าอำมหิตที่เปรี่ยมปิติยินดี

พระมเหสีที่ทรงพึ่งคลอดบุตรยังไม่แข็งแรงและพระรามสูรที่พึ่งถือกำเนิดขึ้นมาถูกเหล่าทหารทำตามราชองค์การนำตัวไปลอยแพทันทีท่ามกลางเสียงคัดค้านของข้าราชบริพารที่จงรักภักดีเมื่อถึงชายหาดพระมเหสีถูกนำขึ้นแพพร้อมโอรสน้อยทหารช่วยกันดันแพออกทะเล แพลอยออกห่างชายฝั่งไปเรื่อยๆ

ณ บนสวรรค์พระอิศวรก็กำลังทอดพระเนตรเหตุการณ์ข้างล่างอยู่เช่นกัน

(จบตอนที่2) :D

bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 11:03:50 AM »
ตอนที่3   พัดพราก

ณ บนสวรรค์พระอิศวรที่กำลังทอดพระเนตรเหตุการณ์ข้างล่างพร้อมมาตุลี

มาตุลี  "พระองค์จะไม่ช่วยอะไรเลยหรอ? พุทธเจ้าข้า"

พระอิศวร  "เดี๋ยวก่อนซิยังไม่ถึงเวลา ดูเหตุการณ์กันไปก่อน"

แพลอยล่องสู่กลางทะเลมเหสีมณฑารัตน์ประคองกอดลูกน้อยพระโอรสดื่มนมจากอกแม่ที่มีน้ำตาอาบแก้มเมื่อตะวันตลงจากฟ้านางก็ได้แปลกพระทัยโอรสน้อยกลายร่างเป็นเด็กทารกที่มีพระพักต์เป็นมนุษย์แถมรูปงามเป็นเลิศ

ณ นครเวหานั้นเป็นที่พำนักของพญายักษ์พ่อม้ายนามว่า ไตรรงค์มีโอรสชรรษา9ขวบนามว่าตระศิลาเวลานั้นยามค่ำคืนเป็นเวลาที่เงียบสงบพญายักษ์ที่ส่งบุตรไปเรียนวิชาอาคมทีเดินแดนอสูรกับเจ้าอสูรใช้เวลาทำสมาธิขณะฝึกจิตอยู่นั้นเกิดเห็นในนิมิตรมีมนุษย์งามนักหนาลอยแพมาพร้อมลูกน้อยอยู่กลางทะเลควางามของนางจับใจพญายักษ์เหลือเกินจึงออกจากสมาธิพร้อมเสด็จออกจากเมืองทางหน้าต่างห้องเมื่อมุ่งหวังลักพานางมาเป็นมเหสีที่นี่พญายักษ์เหาะเหินเดินอากาศอยู่นานก็พบมเหสีมณฑารัตน์หมดสติอยู่บนแพพร้อมลูกน้อยนอนเคียงข้างอยู่ใกล้ๆพญายักษ์ค่อยลงบนแพเบาๆแล้วเข้าโอบอุ้มมเหสีมณฑารัตน์พร้อมเหาะกับเมืองของตนเมื่อยักษ์ลักพาเสด็จแม่ไปแล้วพระอิศวรก็ร่ายมนต์เปลี่ยนแพให้กลายเป็นเรือเหาะรูปสุวรรณ์หงส์พร้อมลอยขึ้นแล้วเหาะไปในเวหาเพื่อส่งเสด็จไปหาพระฤาษีเมื่อพญายักษ์มาถึงเมืองก็บรรจงวางนางลงเบาๆหลังจากนั้นก็ไม่สามารถจะแตะต้องตัวนางได้อีกเลยเกิดความคับแค้นใจ

ยักษ์ไตรรงค์  "ปุโลหิตนี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้"

ปุโลหิตยักษ์ตรวจดวงอยู่ซักพักก็กราบทูลรายงาน

ปุโลหิต  "ที่เป็นแบบนี้เพราะอำนาจเทวาคุ้มครองนางอยู่พระเจ้าข้า"

ยักษ์ไตรรงค์  "งั้นนางคงมีบุญญาธิการซินะ ดีเราจะเอาเป็นชายาให้จงได้"

ปุโลหิต  "เทวาที่ว่าเป็นเลือดเนื้อของนาง อีก8ปีจะเสด็จมาที่นี่พระเจ้าข้า"

ยักษ์ไตรรงค์  "อ้ายเด็กนั่นหรอ? เราน่าจะโยนทิ้งทะเลนักเชียวแต่มันจะทำอะไรเราได้เรามีวิชาคงกระพัน"

ส่วนพระโอรสเมื่อเสด็จถึงอาศรมพระฤาษีก็ออกมารับด้วยตนเองเนื่องจากรู้ว่าสวรรค์ได้มอบหมายภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ให้รับเลี้ยงดูแล้วฝึกศิลปะวิทยาการต่อสู้อาคมต่างๆ

ณ นครเวหาเวลาเช้านางมณฑารัตน์ตื่นขึ้นมาก็ตกพระทัยนางกำนัลยักษ์จึงทักทายเมื่อเห็นหญิงสาวมีสีหน้าตื่นแบบนั้น

นางกำนัลยักษ์  "ตื่นบรรทมแล้วหรอ?เพคะ พระแม่เจ้า"

มณฑารัตน์  "ที่นี่ที่ไหนกันแล้วลูกของเราล่ะ"

ท้าวไตรรงค์เดินเข้ามาพอดี  " นครเวหาจ้า ส่วนลูกเจ้าคงอยู่กลางทะเลมั้ง"

มณฑารัตน์  "ท่านเป็นใครทำไมเรามาอยู่ที่นี่"

ท้าวไตรรงค์  "เรารับตัวเจ้ามาเป็นชายาของเราไง"

มณฑารัตน์  "ที่ดูไม่เหมือนเมืองมนุษย์เราไม่ยอมท่านเป็นยักษ์"

ท้าวไตรรงค์  "เราเป็นกษัตริย์ที่นี่ชื่อ ไตรรงค์ ถึงเจ้าไม่ยอมก็ไม่มีทางเลือก"

เมื่อพูดจบพญายักษ์ก็เดินจากไปปล่อยให้นางมณฑารัตน์เอาแต่ร้องไห้ในห้อง

(จบตอนที่3)

nanajung

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 11:10:47 AM »
ขอบคุณมากนะคะพี่ แต่งเก่งจังเลย  จะคอยติดตามตอนต่อไปนะคะ

ninda

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 11:56:13 AM »
พี่บอยเล่นเป็นใครคะพี่
มาลงชื่ออ่านค่ะ...อิอิ

nidajung

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 02, 2007, 03:09:10 PM »
เย้...มีนิยายมาให้อ่านอีกแล้ว ;D

bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 03, 2007, 11:44:42 AM »
ตอนที่4 กาลเวลา
หลังจากนั้นท้าวไตรรงค์ก็เปล่าประกาศไปทั่วอาณาจักรว่าแต่งตั้งมณฑารัตน์เป็นมเหสีของตนนางจึงต้องจำใจยอมอยู่กับยักษ์เพราะป็นกรรมเก่าของนาง
ส่วนพระโอรสที่ได้มาอาศัยกลับพระฤาษีท่านก็ได้เนรมิตให้ลูกลิงที่อาศัยต้นไม้ใกล้ที่เลี้ยงไว้กลายเป็นมนุษย์วานรเพื่อเป็นพระสหายให้ภายภาคหน้าพระฤาษีประทานนามพระโอรสในตอนกลางวันว่ารามสูรและตอนกลางคืนว่าเทพวายุกาลเวลาผ่านพ้นไปพระโอรสเจริญชรรษาขึ้นพระฤาษีพารามสูรในตอนกลางวันและเทพวายุในตอนกลางคืนไปฝึกพระเวทย์อาคมแบบนี้เรื่อยมาจนพระโอรสอายุได้ 8 ชรรษา
รามสูร "วานรหลบให้ทันล่ะ"  พูดจบก็ปล่อยพลังซัดใส่วานรน้อยเป็นชุด
วานร  "เล่นบ้าๆ" พูดจบก็กระโดดหลบไปมาต้นไม้ต้นนู้นต้นนี้อย่างรีบเร่ง
พระฤาษี "เลิกแกล้งเจ้าวานรได้แล้วเดี๋ยวตาจะสอนเรียกอาวุธให้"
รามสูร "จริงเหรอท่านตาทำยังไงล่ะ"
พระฤาษี "ทรงต้องทำจิตให้สงบชูแขนขึ้นแล้วเรียกขวานฟ้า"
รามสูรรีบทำตามทันที  "ขวานฟ้า"
ท้องฟ้าแปรปวนกัมปนาทเกิดฟ้าผ่าหนึ่งทีแล้วขวานฟ้าก็มาปรากฎในมือ
พระฤาษี  "อาวุธประจำพระองค์ของพระโอรสคือขวานฟ้าเล่มนี้"
รามสูรลองอาวุธโดยแกว่งไปมาเกิดลำแสงเป็นรัศมีวงกว้างแล้วเกิดระเบิดรุนแรงตามวิถีลำแสงตกกระทบ
ยามค่ำคืนในความสงบเจ้าวานรกำลังหลับฝันหวานก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงระเบิดเจ้าของเสียงคือพระโอรสรูปงามกำลังฝึกปล่อยพลังอยู่
วานร  "พระโอรสเทพวายุทำไมไม่ไปฝึกที่อื่นคนจะหลับจะนอน"
เทพวายุ  "ก็เราจะฝึกตรงนี้นี่ใครจะทำไม"
วานร  "แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง"
เทพวายุ "ช่วยไม่ได้สมน้ำหน้า"
พระฤาษี " เจ้าก็เลิกแกล้งวานรซะทีเดี๋ยวตาจะสอนเรียกอาวุธ"
เทพวายุ "อาวุธของฉันเหรอ?โอ้ยอดเลย"
พระฤาษี  "ทีนี้ทำจิตให้สงบพนมมือแล้วเรียกตรีศูร"
เทพวายุรีบทำตามเช่นกัน  "ตรีศูร"
ท้องฟ้าแปรปวนอีกครั้งทีนี้เกิดลมกันโชกแรงแล้วตรีศูรก้ลอยลงมาจากฟากฟ้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า
พระฤาษี  "รีบหยิบซิ ตรีศูรเล่มนี้เป็นอาวุธประจำกายของพระองค์"
พระโอรสหยิบมาทดลองตวัดไปทางต้นไม้ที่วานนรนอนอยู่ลำแสงกระทบต้นไม้ระเบิดตูมใหญ่ดีเจ้าวานรเร็วกระโดดลงมาทัน
วานร "นี่จะฆ่ากันรึไง เล่นบ้าๆอีกคนแล้ว"
เทพวายุ  "ล้อเล่นน่า ฉันรู้ว่านายต้องหลบได้แน่ถึงกล้าทำไง"
พระฤาษีให้ทุกคนไปพักผ่อนวันพรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่

(จบตอนที่4)


bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 04, 2007, 09:45:16 AM »
พี่บอยเล่นเป็นใครคะพี่
มาลงชื่ออ่านค่ะ...อิอิ

ลืมตอบ บอยเป็นยักษ์รามสูรส่วนเจมส์เป็นพระพายเทพวายุ (ตอนเด็กน้องกันเป็นยักษ์น้องกัสเป็นเทพวายุ)

bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 04, 2007, 10:34:34 AM »
ตอนที่5  ตามหาบุพการี

ณ นครกุสินาราในยามค่ำคืนวันเดียวกันพระโอรสธรรมราชบุตรแห่งนางจันทรเนตรซึ่งเป็นพญาขันธมารมาจุติเกิดสุบินนิมิตเห็นเจ้าอสูรซึ่งบอกกับตัวเองว่าในมาพบที่ชายป่านอกนครกุสินาราและจะพาไปฝึกวิชาที่ดินแดนอสูรด้วยกันพร้อมสัญญาว่าพวกเราจะช่วยกันเพื่อเป็นใหญ่ในสามภพพระโอรสธรรมราชแม้มีพระชรรษา8ปีแต่กับมีนิสัยก้าวร้าวดุดันพระทัยร้ายมักใหญ่ใฝ่สูงและต้องการเป็นใหญ่เหนือผู้ใดอยู่แล้วจึงสนพระทัยในความฝันนี้ทันทีในวันรุ่งขึ้นจึงเข้าเฝ้าพระบิดาทันที
ธรรมราช  "เสด็จพ่อพระเจ้าข้าลูกมีเรื่องจะทูลขอ"
ท้าวธรรมลักษณ์  "มีอะไรก็ว่ามาซิ พ่อให้ลูกได้ทุกอย่างอยู่แล้ว"
ธรรมราช  "หม่อมฉันต้องการออกไปฝึกวิชาการต่อสู้และคาถาอาคมต่างๆพระเจ้าข้า"
ท้าวธรรมลักษณ์  "เรื่องแค่นี้เองเดี๋ยวพ่อจัดการให้เหล่าทหารนำเสด็จไปด้วยว่าแต่จะไปเมื่อไร่ล่ะ"
ธรรมราช  "หามิได้หม่อมฉันจะไปคนเดียวและจะไปเดี๋ยวนี้ด้วยพระเจ้าข้า"
อามาตย์เทเวทย์  "เดี๋ยวนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ?แล้วหลานหาอาจารย์ได้แล้วรึไง"
ธรรมราช  "ได้แล้วท่านตาไม่ต้องห่วงแล้วหลานฝากทูลเสด็จแม่ด้วยว่าจะไปเรียนวิชา"
พูดจบก็ขอตัวไปเก็บข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าเครื่องทรงแล้วรีบเสด็จออกจากเมืองด้วยม้าเมื่อควบไปถึงชายป่าก็พบกลับเจ้าอสูรทีมาดักรออยู่จริงทรงลงจากหลังม้าอสูรบอกม้าให้กลับพระนครไปม้าวิ่งกลับไปอย่างชื่อฟังแล้วหันมาพูดกับพระโอรสว่า
เจ้าอสูร  "พร้อมแล้วรึยัง"
ธรรมราช  "เราพร้อมแล้ว"
เจ้าอสูรเรียกเมฆลมกรดพาหนะประจำตัวแล้วเชิญธรรมราชขึ้นมายืนด้วยกันเมฆลอยตัวขึ้นสู่ฟากฟ้าแล้วพุ่งไปในอากาศอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าสู่ดินแดนอสูร

ด้านพระโอรสรามสูรที่อาศัยอยู่กับพระฤาษีออกมาเที่ยวเล่นในป่าพร้อมเจ้าวานรสหายคู่ใจเที่ยวเล่นเพลินๆเดินมาถึงแถวน้ำตกเห็นคนป่าพ่อแม่ลูกเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนามก็รู้สึกสะท้อนใจเมื่อกลับมาที่อาศรมจึงเอ่ยถามพระฤาษีเกี่ยวกับเรื่องชาติกำเหนิดของตนเองทันที
รามสูร  "ท่านตาพ่อแม่หลานเป็นใครพอจะรู้ไหมจ๊ะ"
พระฤาษี  "พ่อของพระองค์เป็นพระราชาปกครองเมืองกุสินาราส่วนแม่ก็เป็นมเหสีเมืองนั้นแต่ด้วยเข้าใจผิดจึงเนรเทศเสด็จแม่พระโอรสพร้อมด้วยพระองค์ออกนอกเมือง ตอนนี้เสด็จแม่ของพระโอรสติดอยู่นครยักษ์ชื่อเมืองเวหา"
รามสูร  "เสด็จพ่อรังเกียจที่ฉันเป็นยักษ์ใช่ไหม" พูดจบพร้อมสีหน้าน้อยใจ
วานร  "อย่าทรงน้อยพระทัยเลยพระองค์หารู้ความจริงไม่ต่างหาก"
พระฤาษี  "เจ้าวานรพูดถูกพระโอรสควรจะหาทางช่วยเสด็จแม่ก่อนดีกว่า"
รามสูร  "เรื่องนี้ท่านตาช่วยหลานไม่ได้ หลานต้องไปติดตามหาทางช่วยเองใช่ไหม"
พระฤาษีพยักหน้าให้ศิษย์รักรับรู้ว่านี่เป็นชะตาของพระองค์
รามสูร  "วานรคืนนี้เจ้าบอกเทพวายุให้เตรียมตัวให้พร้อมพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางตามหาเสด็จแม่กัน"
วานร  "ได้เลยน้องรัก"
เมื่อตะวันตกดินร่างของพระโอรสยักษ์ที่รูปงามก็เปลี่ยนเป็นมนุษย์น้อยรูปงามแทนขณะทำสมาธิอยู่เจ้าวานรรีบเขย่าร่างทันที
เทพวายุ  "มีอะไรวานร"
วานร  "มีเรื่องจะบอกเดี๋ยวลืม พรุ่งนี้รามสูรจะไปจากที่นี่เพื่อตามหาแม่"
เทพวายุ  "แม่หรอ? เราก็อยากเจอแม่แต่เราจะไปที่ไหนกันล่ะ"
วานร  "นครยักษ์ชื่อเวหาท่านถูกกักขังอยู่ที่นั่น"
เทพวายุ  "แล้วพ่อเราล่ะเป็นใครทำไมปล่อยให้แม่ถูกกักขัง"
วานร  "พ่อพระโอรสเป็นกษัตริย์เมืองกุสินาราทรงเนรเทศพระโอรสกับเสด็จแม่ออกมา"
เทพวายุ  "ท่านตาเป็นคนบอกเรื่องนี้กับรามสูรหรอ? "
วานร  "ใช่ พี่ก็ฟังด้วยอีกทีแล้วมาบอกน้องให้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม"
เทพวายุ  "ฉันพร้อมแล้ว งั้นฉันคงต้องไปลาท่านตาก่อนพรุ่งนี้คงไม่มีโอกาสได้เจอกันแล้ว"

(จบตอนที่5)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2007, 10:59:03 AM โดย bobenz »

bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 05, 2007, 10:37:22 AM »
ตอนที่6  คนบูชายันต์

พระโอรสเทพวายุเสด็จออกมานอกอาศรมที่แค่ร์ไม้พระฤาษีกำลังเข้าสมาธิแล้วกราบลงไปที่พื้นข้างแค่ร์
เทวายุ  "ฉันกราบลาท่านตาแล้วซักวันฉันจะมาเยี่ยม"
พระฤาษี  "ตาก็ขอให้พระโอรสโชคดี กลับไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้ยังต้องเจอกับอะไรอีกมากมาย"
พระโอรสเชื่อฟังโดยดีเช้าวันรุ่งขึ้นพระฤาษีออกมาส่งพระโอรสรามสูรกับเจ้าลิงน้อยพร้อมทั้งมอบเรือเหาะลำจิ๋วให้
พระฤาษี  "เรือเหาะนี้เป็นของคู่บุญพระโอรสถ้าอยากให้มันพาเหาะก็เอ่ยว่าเรือเหาะขยายแล้วถ้าเลิกใช้ก็บอกว่าเรือเหาะย่อส่วน"
รามสูรรับมันใส่ถุงย่ามแล้วกล่าวลาอาจารย์  "ท่านตาหลานลาก่อน"
ทั้งสองสหายออกเดินทางลัดเลาะป่าเขาระหว่างทางก็ชมทิวทัศน์เนื่องจากไปเคยเผชิญโลกกว้างมาก่อนทรงเดินทางมาได้สามวันสามคืนก็มาถึงชายป่าใกล้เขตอยู่อาศัยของคนทั่วไปพบชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะใช้เชือกผูกคอตายจึงรีบเข้าไปห้าม
รามสูร  "พี่ชายกำลังจะทำอะไรอย่าคิดสั้นเลยนะ"
ชายหนุ่ม "อย่ามาห้ามฉันช่วยแม่ลำพึงไม่ได้ฉันจะไปรอที่ยมโลกก่อน"
รามสูร  "นี่มันเกิดอะไรขึ้นพี่ชาย"
ชายหนุ่ม  "ยักษ์  เจ้ายักษ์เด็กเจ้ารีบกินข้าเลยก็ได้"
รามสูร  "เราไม่กินคนพี่เดือดร้อนอะไรขึ้นชื่อว่ายักษ์ก็มีฤทธิ์เพื่อเราจะช่วยได้"
ชายหนุ่ม  "แม่ลำพึงคนรักของฉันถูกหัวหน้าเผ่าเลือกเป็นเหยื่อบูชายันต์"
รามสูร  "บูชายันต์...บูชายันต์ใคร"
ชายหนุ่ม  "แม่มด...นางแม่มด2000ปี"
วานร  "ฟังดูน่าขนลุกอย่าบอกนะว่าจะสู้กัแม่มด"
รามสูร  "ไม่เพียงสู้หรอกวานรเราจะฆ่ามัน"
ชายหนุ่ม  "เรามีทางรอดแล้วแม่ลำพึงเจ้ายักษ์ตามมาเร็ว"
ชายหนุ่มวิ่งนำรามสูรไปทางทิศตะวันตกห่างจากเขตหมู่บ้านราว500ไมล์พบหญิงสาวงดงามพอใช้ถูกมัดตึงไว้กับไม้รูปไม้กางเขนหญิงสาวเอ่ยทักชายหนุ่ม
แม่ลำพึง  "พี่ทัพมาทำไมฉันไม่อยากให้พี่เห็นวินาทีที่ฉันจะต้องตาย"
พ่อทัพ  "เรารอดแล้วเจ้ายักษ์เด็กนี่จะมาช่วยเรา"
ยังไม่ทันพูดอะไรได้มากว่านั้นก็มีสายลมพัดมาพร้อมกลับผู้หญิงที่งดงามเป็นเลิศกำลังเคลื่อนเข้ามาโดยเท้าไม่ติดพื้นแน่นอนนางคือแม่มด
แม่ลำพึง  "พี่ทัพหนีไป"
พ่อทัพ "ไม่พี่จะอยู่กับเจ้า"
แม่มด  "ดีมาเป็นอาหารข้าให้หมดจะได้ดื่มเลือดซะทีเดียวเลย"
นางแม่มดจู่โจมเข้าทำร้ายชายหนุ่มก่อนหมายจะดูดเลือดหญิงสาวกรีดร้องรามสูรก็ซัดพลังเข้าใส่นางแม่มดอย่างจังนางแม่มดไม่ทันตั้งตัวกระเดนออกไปและกระอักเลือดแม่มดหันไปดูเห็นเด็กยักษ์ก็นึกโกรธคิดว่าจะมาแย่งอาหารกับตนจึงปล่อยพลังใส่รามสูรเป็ยชุดรามสูรหลบไปมาหรอกล่อความสนใจแม่มดส่วนเจ้าวานรก็ไปแก้เชือกหญิงสาวเมื่อเชือกหลุดหมดทั้งคู่ก็หลบหนีไปด้วยกันเมื่อเห็นทั้งคู่ปลอดภัยทีนี้รามสูรก็ปล่อยพลังบ้างพลังนังแม่มดกับของรามสูรต้านกันไปมารามสูรฤทธิ์มากว่าพลังทั้งหมดจึงตีกลับใส่ร่างนางแม่มดนางกระเดนไปไกลก่อนร่างจะตกลงมาจมกองเลือดนางแม่มดหมดทางสู้คิดจะหนีแต่รามสูรไม่ยอม
รามสูร  "ขวานฟ้า"
นางแม่มดพยุงตัวลุกขึ้นมาเพื่อหายตัวหนีแต่รามสูรเร็วพอจะฟาดลำแสงฟันขวานไปที่นางแม่มดนางกรีดร้องอย่างโหยหวนก่อนร่างจะแตกสลาย
รามสูร  "อโหสิให้เราด้วยเถอะเราจำเป็นต้องฆ่าเจ้าไม่งั้นเจ้าจะก่อกรรมไม่มีสิ้นสุด"
วานร  "ไปเถอะก่อนชาวบ้านจะแห่กันมาป่านนี้สองคนนั้นคงไปถึงหมู่บ้านแล้วเล่าเหตุการณ์หมดแล้ว"
รามสูร  "นั่นสิเราเป็นยักษ์ยังไงพวกชนเผ่าคนอื่นคงไม่ไว้ใจเรา เรือขยาย"
แล้วรีบขึ้นเรือเหาะพร้อมขึ้นสู่ฟ้าชาวบ้านพึ่งจะมาถึงหลังจากนั้นไม่นานจริงๆ  "ดูสิเจ้ายักษ์เด็กมันเหาะไปนู่นแล้ว"

(จบตอนที6)



nidajung

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 05, 2007, 07:15:26 PM »
 :D

nanajung

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 05, 2007, 10:17:23 PM »
 ;D ชอบมากเลยค่ะ รีบมาต่อเร็วๆนะคะ

bobenz

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 06, 2007, 10:52:16 AM »
ตอนที่7  ป่าอาถรรพ์

หลังจากนั้นรามสูรกับเจ้าลิงน้อยก็นั่งเรือเหาะหนีออกจากเขตปกครองของชนเผ่าชาวเขาเรือแล่นไปเรื่อยๆจนยามเย็นด้วยใช้แรงมากตอนกลางวันและก็เริ่มรู้สึกหิวรามสูรจึงสั่งให้เรือลงจอดในเขตป่าข้างล่างเพื่อลงไปหาอะไรกินรามสูรและเจ้าวานรเดินเก็บผลไม้ป่ามากินและนั่งพักย่อยอาหารเพื่อจะเดินเท้าต่อในภายหลังพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าร่างนั้นเปลี่ยนเป็นเด็กมนุษย์เช่นทุกครั้งพร้อมทั้งสองสหายก็ออกเดินทางต่อด้วยเท้าระหว่างเดินทางรู้สึกเหมือนมีใครจับจ้องคอยเวลาเล่นงานอยู่ทั้งสองรู้สึกระแวงเจ้าวานรก็พูให้บรรยากาศน่ากลัวขึ้นไปอีก
วานร  "เทพวายุเคยได้ยินตำนานป่าอาถรรพ์รึเปล่าเค้าว่ากันว่าเจ้าอสูรแอบนำต้นกล้าต้นไม้ปีศาจมาปลูกบนพื้นพิภพเพื่อให้สังหารทุกชีวิตที่หลงเข้ามา"
เทพวายุ  "วานรเจ้าพยายามจะบอกว่าเราอยู่ในป่าอาถรรพ์งั้นซิ"
วานร  "ก็ดูบรรยากาศรอบๆเราซิจะให้คิดเป็นอื่นได้ยังไง"
เทพวายุ  "ถ้านี่เป็นโชคชะตาฉันคงต้องทำลายมันเพื่อพิทักษ์โลก"
หลังจดๆจ้องๆอยู่นานต้นไม้ปีศาจก็เริ่มจู่โจมสองชีวิตโดยยกตัวขึ้นจะพยายามจะใช้เถาวัลย์เล่นงานเทพวายุซัดพลังใส่ต้นไม้เหล่านั้นต้นไหนโดนลูกพลังก็ระเบิดแล้วไหม้ไฟต้นต่อไปก็ดาหน้าเข้ามาแทน
วานร  "มันลุกฮือกันทั้งป่าแล้วในป่านี้ก็คงมีประมาณร้อยต้นจะเอาอยู่ไหม"
เทพวายุ  "อย่าบ่นเลยน่าถ้าแพ้ก็แค่ตายเท่านั้นเอง"
เทพวายุเร่งความเร็วและถี่ในการปล่อยพลังเป็นชุดต้นไม้ปีศาจก็พยายามปล่อยเถาวัลย์ออกมาบางต้นก็พยายามจะใช้กิ่งก้านฟาดตอนนี้ก็สังหารต้นไม้ปีศาจไปได้กว่า30ต้นแล้วแต่มันก็บีบเข้ามาจากทุกทิศทางทำให้อยู่ในวงล้อมของมันทันที
วานร  "ไม่ไหวแล้วนะเทพวายุทำอะไรซักอย่างซิ"
เทพวายุ  "ตรีศูร"
เทพวายุเรียกอาวุธคู่กายออกมาแล้วตวัดไปทางซ้ายลำแสงฟาดต้นไม้ปีศาจด้านซ้ายก็ระเบิดทั้งแทบแล้วหันมาตวัดด้านหลังก็ระเบิดทั้งแทบเช่นเดียวกันด้วยอนุภาพแห่งอาวุธเทวาทำให้มีฤทธิ์ในการทำลายล้างสูงคราวนี้ตวัดด้านขวาก็ระเบิดทั้งแนวแบบโดมิโน่และสุดท้ายตวัดให้ระเบิดด้านหน้าเท่านี้ต้นไม้ปีศาจก็สูญพันธ์ไปจากโลกทันทีเนื่องจากเป็นปีศาจชั้นต่ำแต่เน้นพวกเยอะเข้าว่าก็ตายเกลี้ยงในพริบตาทีนี้ก็เหลือแต่ต้นไม้ในป่าธรรมดา
วานร  "เราชนะแล้ว วู้ดีใจจัง"
เทพวายุ  "ออกเดินทางต่อเถอะวานร"
ทั้งสองสหายออกเดินทางไม่ลดละเดินฝ่าป่าไปเรื่อยๆจนมาทะลุออกจากเขตป่าเห็นหาดทรายอยู่ตรงด้านหน้าถึงเขตทะเลแล้วเทพวายุตื่นเต้นยิ่งนักด้วยไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนส่วนเจ้าวานรรู้สึกอ่อนแรงด้วยเดินทางมาแล้วสี่คืนยังไม่ได้หลับเลยซักงีบจึงเอ่ยปากกับนายน้อยว่า
วานร  "เทพวายุคืนนี้เรานอนพักเอาแรงซักคืนก่อนได้ไหมพรุ่งนี้ค่อยให้รามสูรพาเดินทางต่อ"
เทพวายุ  "วานรเจ้าเนื่อยเหรอ? เราขอโทษนะงั้นพักที่นี่ซักคืนก่อนพรุ่งนี้เดินทางต่อก็ได้"
ทั้งสองตัดสินใจพักแรมริมชายหาดเทพวายุและวานรก็ไปนอนพักผ่อนแถวแนวโขดหินบริเวณหาดนั้นนั่นเองด้วยออกมาได้เฉพาะกลางคืนเทพวายุจึงไม่ง่วงยามราตรีเขานอนมองท้องฟ้าคืนนี้ฟ้างามนักมีดาวเรียงรายนับพันเมื่อมองฟ้าก็หวนคิดถึงคนๆนึงที่ตามหามารดาของตนนั่นเองขณะมองฟ้าเพลินๆก็ปรากฎเหตุการณ์ประหลาดกลุ่มดาวเกิดเรียงตัวเป็นตัวอักษรที่เขียนว่า
                                                         
                                                             เมื่อสายลมและสายฟ้ามาประสาน
                                                                ก็สยบหมู่มารทุกย่อมหญ้า
                                                                ส่งจุติสองเทพสู่โลกา
                                                                อหังกาจอมมารก็วอดวาย

ณ บนสวรรค์กล่าวถึงเทพผู้เป็นใหญ่กับเทพคู่ใจที่บรรดาลให้เกิดปฎิหารบนฟากฟ้า
เทพมาตุลี  "จะให้รามสูรกับเทพวายุออกตามหาแม่โดยไม่รู้เหนือรู้ใต้แบบนี้เนี้ยนะพระเจ้าข้า"
พระอิศวร  " พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็แปลงกายเป็นชาวประมงลงไปบอกทางให้รามสูรซิอยากช่วยนักนี่"
เทพมาตุลี  "ถือเป็นคำบัญชานะพระเจ้าข้า"
พระอิศวร  "เอาตามงั้นก็ได้ถือว่าเราสั่งนั่นแหละถือว่าเราช่วยทางอ้อมอีกครั้ง"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 06, 2007, 10:56:31 AM โดย bobenz »

Bootsabongkot

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 06, 2007, 05:45:11 PM »
สนุกดีติดตามอยู่เรื่อยๆนะจ้า

nidajung

Re: รามสูรกับเทพวายุ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 06, 2007, 07:08:57 PM »
 ;)