มาต่อแล้วนะจ๊ะ
พี่การวิกก็ไหว การเวกตอบแทนพี่ชาย พระโอรสพระเจ้าข้า ข้าพระองค์เกรงว่า... ท่านกรองฤทธิ์พูด กลัวเราจะแพ้ลูกท่าน หรือว่ากลัวลูกท่านจะแพ้เราหละ เมษกรพูด ยังไงซะ การวิก กับ การเวกก็ต้องพ่ายแพ้พระโอรสอยู่แล้ว อย่าเลยนะพระเจ้าข้า ท่านกรองฤทธิ์พูด เราจะฟันซะอย่าง กล้าห้ามเรารึไง เมษกรพูด ถ้างั้นก็ตามพระทัยพระโอรสพระเจ้าข้า ท่านกรองฤทธิ์พูด
ที่ลานซ้อมรบ พวกศิษย์ของท่านกรองฤทธิ์นั่งล้อมรอบพระโอรสเมษกร การวิก และ การเวก การวิกเรียกดาบมาในมือสามเล่ม พร้อมนะ การวิกพูด เราไม่ใช้ดาบก็ได้ เมษกรพูด พี่การวิกถนัดดาบคู่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ การเวกพูด การวิกพยักหน้าแล้วโยนดาบหนึ่งเล่มให้การเวก การเวกรับดาบที่พี่ชายโยนให้แล้วพุ่งเข้าโจมตีพระโอรสเมษกรทันที เมษกรเอนตัวหลบแล้วต้านกลับด้วยมือปล่าว การเวกจู่โจมเข้าไปเรื่อยๆทั้งที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ คมดาบฟันลงไปเกราะกาลจักรก็กันไว้ได้ มีแต่สะท้อนออกทำให้เด็กผู้หญิงแก่นแก้วคนนี้ต้องบาดเจ็บ การวิกเข้ามาช่วยน้องสาวที่ท่าทางจะเสียเปรียบอยู่ด้วยดาบคู่ เมษกรก็ยังหลบได้ทันแล้วต้านกลับไปได้อยู่ดี การต่อสู้ดำเนินไปอย่างที่เมษกรเป็นฝ่ายได้เปรียบ การเวกเสียหลักเซถอยออกมาบาดเจ็บที่ต้นแขนข้างขวา การเวก การวิกเรียกชื่อแล้วเข้าไปช่วยประคองน้องสาว พวกข้าพระองค์ยอมแพ้แล้วพระเจ้าข้า การวิกพูด ไม่... ถ้าแน่จริง พระโอรสก็ถอดเกราะนั่นออกสิ การเวกพูด ทำไมเราต้องทำทุกอย่าง ตามที่เจ้าบอกด้วย เมษกรพูด จะทรงไม่ก็ได้ หากว่าไม่แน่จริง การเวกพูด พอทีการเวก เจ้าแพ้แล้วก็ให้รู้จักแพ้สิ ท่านกรองฤทธิ์เข้ามาหยุดการต่อสู้ ไม่แพ้หรอก หากว่าพระโอรสถอดเกราะ ทุกอย่างก็จะยุติธรรมกว่านี้ การเวกพูด การเวก การวิกเรียกอย่างห้ามปราม เมษกรมองการเวกด้วยสายตาที่กร้าวแข็งแล้วเดินเข้ามา เมษกรใช้พลังจากเกราะกาลจักร เกราะสีโลหิตเปล่งแสงขึ้นมาใส่การเวก บาดแผลของการเวกกลับกลายมาเป็นปกติ เมื่อรักษาให้แล้ว เมษกรก็จะเดินไปจากนั้นก็ลมพัดเยือกเย็นเข้ามา แสงสว่างเจิดจ้าขึ้นทั่วทิศานุทิศ แสงเหล่านั้นกลายมาเป็นร่างของเทพบริวารแห่งเตชภาสเทพ ทุกคนมองอย่างตกใจและแปลกใจ เหล่าศิษย์ของท่านกรองฤทธิ์ยืนขึ้น เหล่าเทพพวกนั้นโจมตีมาด้วยดาบ ทุกคนพร้อมตั้งรับกันอย่างดี
ที่ลานซ้อมรบหน้าเรือนของท่านกรองฤทธิ์เกิดการปะทะกันครั้งใหญ่ระหว่างพวกพระโอรสเมษกร การวิก การเวก ท่านกรองฤทธิ์ กับ เหล่าเทพ พระโอรสรีบพาพระมารดาเสด็จหนีไปก่อนเถอะพระเจ้าข้า ทางนี้ข้าพระองค์จะกันไว้ให้ ท่านกรองฤทธิ์พูด จะไหวเหรอขอรับท่านพ่อ การวิกพูด ใช่เจ้าค่ะ ท่าทางพวกนี้ไม่ใช่คนซะด้วย การเวกพูด พวกนี้เป็นเทพหนะ เมษกรพูด นี่พระโอรสไปทำอะไรมาเนี่ย ไปมีเรื่องกับเทพมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เจ้าวานรตัวกวนโผล่มาตรงเวลาพอดีเปะ ก็ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องกับเจ้านั่นแหละ เมษกรพูดกระแทกหูเจ้าวานร โอ๊ย แสบหูหมดแล้ว พูดกันดีๆไม่ได้รึไง เจ้าวานรพูด เสด็จไปเถอะพระเจ้าข้าพระโอรสไม่ต้องทรงกังวลไป ท่านกรองฤทธิ์พูด ขอบใจท่านมาก เมษกรพูดแล้วกระโดดขึ้นไปบนเรือน
ในห้องพระมเหสีมาลย์มินตรา เสด็จแม่พระเจ้าข้า เมษกรกระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง เมษกรลูกแม่ ทำไมเข้ามาแบบนี้หละลูก มาลย์มินตราพูดอย่างตกใจ เรื่องเร่งด่วนหนะพระเจ้าข้า ก็เลยต้องเข้ามาอย่างเร่งด่วน เมษกรพูด แล้วเรื่องอะไรหละลูก ไอ้ที่เจ้าว่าเร่งด่วน มาลย์มินตราพูด ก็เทพบริวารของเทพแห่งแสงสว่างองค์นั้นนาสิพระเจ้าข้า พากันมาเป็นกองทัพเลย ข้างนอกก็ปะทะกันอยู่ เมษกรพูด ตายจริง... จริงเหรอลูก มาลย์มินตราพูด พระเจ้าข้า เรารีบไปกันเถอะพระเจ้าข้า เมษกรพูด
กลางป่า สองแม่ลูกพากันเดินป่า ตรงนี้คงห่างพอที่จะทำให้ที่เรือนท่านกรองฤทธิ์ปลอดภัย หากว่าพวกเทพบุกมานะพระเจ้าข้า เสด็จแม่คงเหนื่อยแล้ว พักกันก่อนก็ได้ เมษกรพูด จะลูก มาลย์มินตราพูดอย่างหอบแล้วลูบศีรษะพระโอรสน้อยอย่างเอ็นดู
อรุณรุ่ง ดวงอาทิตย์ล่องลอยขึ้นสาดแสงทั่วหล้า แผ่นดินหนึ่งช่างอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้าน ชาวเมือง ได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข สมกับชื่อเมือง ภิรมย์วงศ์
ราชวังภิรมย์วงศ์นั้นช่างเป็นจิตรกรรมที่วิจิตรพิสดารและงดงามยิ่งนัก ในตำหนักหนึ่ง มเหสีฝ่ายซ้ายยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เสด็จแม่ ทรงดำริเรื่องอะไรอยู่เหรอเพคะ พระธิดาน้อยของมเหสีฝ่ายซ้ายเอ่ยถามพระมารดา อย่าสนใจแม่เลยภาสสุนันท์ เจ้าหนะยังเด็กนัก อย่าอยากรู้อยากเห็นอะไรให้มันมากนักเลย ศรีสุภาพูด ถ้าเสด็จแม่ไม่อยากจะบอก ลูกไม่อยากรู้ก็ได้เพคะ ลูกขอออกไปเที่ยวป่าได้ไหมเพคะ ภาสสุนันท์พูด เจ้าจะไปกับใคร ศรีสุภาพูด ไปกับน้องสุพรรณวิลาส แล้วก็ชบาหนะเพคะ ภาสสุนันท์พูด ไปสิลูก เออ ภาสสุนันท์ แม่เตือนเจ้าอย่างหนึ่งนะลูก ดูแลพระน้องดีๆ พระธิดาสุพรรณวิลาส สูงศักดิ์กว่าเจ้าแม้จะเป็นน้อง ศรีสุภาพูด เพคะ ภาสสุนันท์ยกมือไหว้พระมารดาแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างดีใจ พระมเหสีศรีสุภายังคงเหม่อมองออกไปอย่างกลัดกลุ้ม เจ้ากลุ้มใจเรื่องใดรึศรีสุภา บอกพี่มาได้นะ องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูดพร้อมกับเดินเข้ามา ถวายบังคมเพคะ ศรีสุภายกมือไหว้ ว่ายังไง องค์ภินท์ไพรีกษัตริย์พูด คือหม่อมฉันกำลังคิดเรื่องภัคบุรีอยู่หนะเพคะ น้องมาลย์มินตรา กับ เมษกรไม่น่าหนไปเลย ศรีสุภาพูด พี่ว่า เรายกไพร่พลพยุหโยธาไปที่ภัคบุรีดีไหม องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูด ไปทำไมเพคะ ศรีสุภาพูด ชิงนครภัคบุรีให้กับหลานชายไง องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูด หลานชาย... ศรีสุภาพูด ก็เมษกรไงหละ เหนือหัวภินท์ไพรีพูด ขอบพระทัยเพคะ แต่ไม่รู้ว่าเราจะหาหลานพบไหม ศรีสุภาพูด พี่จะช่วงชิงนครภัคบุรีมาขึ้นต่อภิรมย์วงศ์เสียก่อน หาหลานพบเมื่อใด ค่อยให้ไปครอบครองเมือง องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูด ศรีสุภายิ้มออกแล้ว ก็เป็นการดีเหมือนกันนะเพคะ เอาภัคบุรีมาอยู่ในสายตาเราก่อน ศรีสุภาพูด