ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #60 เมื่อ: มกราคม 06, 2009, 11:28:13 AM »
ครุฑบางประเภทผูกเวรกับสัตว์นรกในยมโลก ก็จะสมัครใจไปเป็นเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์สัตว์นรก


กาฬเพิ่งเห็นไฮไลท์ขีดเน้นข้อความไว้  อ่า  ข้อเป็นข้อสันนิษฐานที่ใกล้เคียงพี่พยัคฆ์มารที่สุดใช่มั้ยคะ


ตอนแรกพี่ก็คิดแบบนั้นนะ เพราะพี่ว่ายน้ำไม่ค่อยได้(คือว่ายได้นิดหน่อยแล้วก็จมไปไม่รอดแต่จะเรียกให้ถูกน่าจะเรียกว่าว่ายน้ำไม่เป็นมากกว่า)  แต่พี่กลัวความสูงด้วยนี้สิเลยคิดว่าไม่น่าใช่ :P :P :P

พี่พยัคฆ์มารต้องลองทดสอบตัวเองค่ะ   เพราะเวลาขึ้นไปอยู่ที่สูงๆ  มันจะทำให้เราโล่งใจ ชื่นใจ  แต่อย่ามองลงไปข้างล่างนะคะ 

ส่วนน้ำ  กาฬชอบน้ำมากๆ เลย  ชอบเล่นน้ำ  ไม่ชอบน้ำในสระคลอรีน ทะเลก็ไม่ค่อยชอบ  แต่จะชอบพวกสระน้ำธรรมชาติมากกว่า
แต่ก็ว่ายน้ำไม่เป็น   :'(  คิดว่าถ้าจมก็คงไม่รอดเหมือนกันอ่ะค่ะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #61 เมื่อ: มกราคม 06, 2009, 11:37:33 AM »
ว่าจะมาเล่าเรื่องนาคเพิ่มเติม   แต่กำลังจะต้องไปเรียนแล้ว  ขอเล่านิดหน่อยแล้วกัน


คือตามความเชื่อโบราณของชนเผ่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้   ชนผู้รุกรานซึ่งประกาศตัวว่ามีอารยธรรมมากกว่า  เรียกชนเผ่าพื้นเมืองว่า  นาค 

ซึ่งมีความหมายในเชิงเหยียดหยามว่า ไม่มีความเป็นคน  แต่ชนผู้รุกรานก็ยังต้องเพิ่งคนพื้นเมืองซึ่งเป็นเจ้าของเหล่านี้

โดยการรวมกลุ่มเผ่าพันธุ์ให้พวกคนพื้นเมืองยอมรับให้เข้ามาปกครองดินแดน 

ว่ากันว่าปฐมกษัตริย์ (ในตำนานของเขมร) ได้อภิเษกกับธิดานาค   หมายถึงธิดาของหัวหน้าเผ่าที่ถูกเรียกว่านาค 

ดังนั้นจึงเป็นจารีตประเพณีที่กษัตริย์ทุกพระองค์จะต้องมีมเหสีเอกเป็นหญิงที่มีเชื้อสายมาจากชนเผ่าดั้งเดิมของดินแดนนั้น



กาฬเล่ามาจากที่กาฬเรียนปีที่แล้ว  แล้วก็จากที่อ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์ของอาณาจักรขอมอ่ะค่ะ     จำไม่ค่อยได้ แต่ถ้าหาข้อมูลเจอแล้วจะมาเพิ่มเติมนะคะ
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #62 เมื่อ: มกราคม 07, 2009, 11:49:56 AM »
พี่เคยขึ้นไปอยู่ที่สูงๆนะ ขามันสั่นๆ ใจมันหวิวๆ ถึงพยายามไม่มองข้างล่างแต่ก็อดไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งเสียวไส้ แต่น่าแปลกนะพี่เคยโดดหอกับโดดร่มแบบพาราเซลด้วย  :-X :-X

(พี่เป็น รด. นะ ร่มพาราเซล  ก็คล้ายกับร่มพาราเซลซิ่ง แบบที่ใช้ในทะเลนั้นแหละ  คือ จะใช้เรือลากตัวเราขึ้นไป แล้วเราก็ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ของพี่จะใช้รถฮาววี่ของทหารลากขึ้นไป  พอถึงจุดที่เรากำหนดไว้ แล้วก็จะดีดเชือกที่ลากออก แล้วตัวเราก็ค่อยๆร่อนลงมายังบนพื้น แต่ต้องระวังการดีดเชือกกับกระแสลมด้วย ถ้าลมแรงเราอาจลอยไปไกลและเสียจังหวะการลงได้ อาจจะได้รับบาดเจ็บพอสมควร แต่ถ้าเชือกมันหลุดออกไม่หมดล่ะก็ จะทำให้ตัวเราที่ตั้งฉากอยู่เสียศูนย์ จากที่จะร่อนกลายเป็นดิ่งพสุธาแทน   :( :( :( เพราะร่มที่กางอยู่มันจะคล้ายๆถูกรวบไม่ช่วยในการพยุงตัว อันนี้แหละอันตรายถึงตายแน่  :( :( :( ส่วนแบบที่ใช้เรือลากเขาไม่มีการดีดเชือกออกหรอก เพราะเขาเอาไว้ใช้ชมทิวทัศน์ เรือก็ลากไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเวลา)

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
โพคาฮอนทัส...ตำนานเจ้าหญิงอินเดียนแดง
« ตอบกลับ #63 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2009, 08:20:20 PM »
ไม่ได้แวะเวียนเข้ามาที่กระทู้นี้นานมากแล้ว
ไม่ใช่เพราะไม่มีเรื่องอะไรจะมาลงหรอกค่ะ  มันมีเยอะเลย  อยากลง  แต่มันต้องใช้เนื้อหา  เลยไม่ค่อยมีเวลารวบรวมเนื้อหา ::)


เทพนิยายทั้งหมดที่เคยดูมา  ทั้ง สโนไวท์  ซินเดอเรลล่า  เจ้าหญิงนิทรา ฯลฯ
พอได้มาอ่านต้นกำเนิด เค้าโครงเรื่องจริงแล้ว  ก็เฉยๆ นะ   แต่มีเรื่องนึงที่สะเทือนใจกาฬมากที่สุด ก็คือ


Pocahontas
โพคาฮอนทัส





คงมีหลายคนที่ประทับใจกับการ์ตูนเรื่องนี้  สำหรับกาฬ  การ์ตูนดิสนีย์เรื่องนี้ เป็นที่ 1 เลยค่ะ

เรื่องราวในการ์ตูน   เล่าถึงสมัยที่อังกฤษกำลังหาอาณานิคม  นำโดยแรทคลิฟฟ์ที่ละโมบหวังว่าจะมาขุดหาทองในดินแดนใหม่ และกัปต้น จอห์น สมิธ 
ทั้งหมดเดินทางมาถึงดินแดนใหม่  ซึ่งเป็นชุมชนของชาวอินเดียนเผ่าพาวฮะทาน เจ้าของดินแดนซึ่งอยู่กันอย่างสงบสุข   
โพคาฮอนทัส ธิดาของหัวหน้าเผ่า ได้ค้นพบเรือสำเภาที่นำชาวอังกฤษมาที่นี่   และเกิดความสนใจจึงเฝ้าติดตามพวกกลุ่มคนผิวขาว  จนกระทั่งได้พบกับจอห์น สมิธ 





กลายเป็นความผูกพัน  บทเพลงแห่งความรักถักทอ  แต่เพราะความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย  ทั้งโพคาฮอนทัสและจอห์น สมิธพยายามหาวิธียุติสงคราม (เพราะสู้ยังไงฝ่ายโพคาฮอนทัสก็แพ้อยู่ดี  ฝ่ายอังกฤษมีกำลังติดอาวุธที่ทันสมัย)

จนในที่สุด โพคาฮอนทัสก็สามารถยุติสงครามได้ด้วยความรักของเธอและจอห์น สมิธ    ทุกอย่างจบลงด้วยดี  แม้ว่าจอห์น สมิธจะได้รับบาดเจ็บ  ต้องเดินทางกลับไปรักษาตัวที่อังกฤษ 

แม้ว่าตอนจบ  ทั้งสองต้องแยกจากกัน  แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ติดตรึงใจคนดูจนยากที่จะลืมเลือนตำนานความรักของโพคาฮอนทัสฉบับนี้

และยังบรรดาตัวละครที่สร้างสีสัน  ทั้ง มีโก้  แรดคูนตัวยุ่ง  ฟีท นกฮัมมิงเบิร์ดเจ้าอารมณ์  เจ้าหมาน้อยเพอซี่คู่กัดกับมีโก้  ที่สำคัญ ท่านย่าต้นหลิวผู้ชี้ทางสว่างให้แก่โพคาฮอนทัส








ต่อมาในภาค 2 


พวกชาวอังกฤษเริ่มเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนของเผ่าอินเดียนแดง  แต่ชาวอังกฤษก็ยังมีท่าทีดูถูกชาวอินเดียนแดง




โพคาฮอนทัสได้รับข่าวการตายของจอห์น สมิธ  สร้างความเสียใจให้แก่เธอมาก  พร้อมๆ กับการมาของ จอห์น โรล์ฟ (พระเอกคนใหม่  กาฬรับไม่ได้  :( ถึงจะหล่อก็เถอะ)  เป็นราชทูตเชิญหัวหน้าเผ่าพาวฮะทานไปพบพระเจ้าเจมส์  กษัตริย์แห่งอังกฤษ

โพคาฮอนทัสไปแทนบิดาในฐานะเจ้าหญิงแห่งอินเดียนแดง  ต้องเจอกับการดูถูกเหยียดหยามจากผู้ดีอังกฤษ และยังได้พบกับแรทคลิฟฟ์ ตัวร้ายเจ้าเก่าที่คอยยุยงพระเจ้าเจมส์   แต่ยังดีที่ยังมีจอห์น โรล์ฟอยู่เคียงข้าง (ถึงแม้จะขัดใจกาฬก็เถอะ)





โพคาฮอนทัสถูกจับโดยหาว่าเป็นพวกป่าเถื่อน จอห์น โรล์ฟหาทางช่วยโพคาฮอนทัส โดยได้รับการช่วยเหลือจากชายลึกลับคนหนึ่ง  และโพคาฮอนทัสก็ได้รู้ว่าชายลึกลับคนนั้นคือ จอห์น สมิธ

ทำให้เธอต้องเลือกระหว่าง รักแรกและรักครั้งใหม่  จอห์น สมิธยอมจากไปโดยดี  โพคาฮอนทัสตัดสินใจร่วมทางกับจอห์น โรล์ฟ




ถึงแม้ภาคนี้จะจบอย่างแฮปปี้ เอ็นดิ้ง  แต่ก็ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เท่าภาคแรก  เพราะภาคแรกถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ และสานความรักของโพคาฮอนทัสและจอห์น สมิธได้อย่างซาบซึ้งตรึงใจจนยากจะลืมเลือน  อุปสรรคมากมายที่ช่วยกันฝ่าฟันเพื่อจะได้รักกัน  ทำให้ความรักครั้งใหม่ของโพคาฮอนทัสไม่ตรึงใจคนดู  ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จริง คู่ชีวิตของโพคาฮอนทัสจะเป็น จอห์น โรล์ฟก็ตาม 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2009, 08:23:16 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: โพคาฮอนทัส...ตำนานเจ้าหญิงอินเดียนแดง
« ตอบกลับ #64 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2009, 08:35:04 PM »
ข้อมูลเกี่ยวกับโพคาฮอนทัสจาก วิกิพีเดีย (ฉบับภาษาไทยนะคะ)



โพคาฮอนทัส (Pocahontas) (พ.ศ. 2138 - 2160) ชื่อจริง "มาโตอาคา" เจ้าหญิงอินเดียนแดง วีรสตรีพื้นเมือง เป็นธิดาของ "พาวฮาตาน" หัวหน้าเผ่า เกิดใกล้เมืองเจมส์ทาวน์ รัฐเวอร์จิเนีย เธอเป็นตัวจักรสำคัญในการักษาสันติภาพระหว่างชาวอาณานิคมอังกฤษกับชนเผ่าอินเดียนแดง ได้เป็นผู้ช่วยชีวิตนักผจญภัยชาวอังกฤษชื่อ จอห์น สมิธ ที่กำลังจะถูกสำเร็จโทษโดยเผ่าของเธอเอง

ในปี พ.ศ. 2155 โพคาฮอนทัสได้เข้ารีตเป็นคริตส์ศาสนิกชนและได้รับการตั้งชื่อคริสเตียนว่า "รีเบคกา" เธอได้แต่งงานกับ "จอห์น โรล์ฟ" (พ.ศ. 2128-2165) เมื่อปี พ.ศ. 2157 ต่อมาในปี พ.ศ. 2159 โพคาฮอนทัสได้ติดตามสามีไปประเทศอังกฤษ และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากราชวงศ์อังกฤษ แต่เธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคฝีดาษ

โพคาฮอนทัสมีชีวิตอยู่ในสมัยระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม






และข้อมูลจาก  Bear's Island "DISNEY VILLAGE"


ในฐานะของคนที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์ โพคาฮอนทัสตัวจริงกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาถกเถียง กันอย่างกว้างขวางตลอดช่วงเวลา4ศตวรรษที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีหลายสิ่งในตัวเธอที่ยังคงลี้ลับ หาความ กระจ่างชัดไม่ได้จนถึงปัจจุบัน

เรื่องราวรายละเอียดในช่วงต้นและการผจญภัยของเธอนั้นมีเพียงชาวอังกฤษที่มา ตั้งรกรากในโลกใหม่เท่านั้นที่ทำการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งบางสิ่งบางอย่างที่บันทึกไว้อาจจะไม่ถูกต้อง ตามความเป็นจริงอันเนื่องจากอคติ ตัวจอห์นสมิธเองแม้จะรู้เรื่องโพคาฮอนทัสเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่เคยเล่าเรื่องของเธอเลย จนถึงปี1624หลังจากที่โพคาฮอนทัสเสียชีวิตเป็นเวลาหลายปี

แม้ว่าหนังการ์ตูนPocahontasฉบับดีสนีย์จะเน้นเรื่องราวความรักโดยเอาช่วงชีวิตที่เธอพบกับจอห์น สมิธและความสัมพันธ์ของ ทั้งคู่มาเป็นประเด็นหลักของเรื่อง มีการตัดเติมดัดแปลงตามความเหมาะสม แต่กระนั้นก็ตามสิ่งที่ดีสนีย์ยังคงของเดิมเอาไว้ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงคือวิญญาณที่รักเสรีและอิสรภาพของเธอ ส่วนที่ขยายขึ้นมาคือบทบาทของผู้ที่รักษาสันติภาพทำให้สงครามระหว่างอินเดียนแดง กับคนผิวขาวยุติลงโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ

ชื่อจริงของโพคาฮอนทัสคือมาโทอากา(Matoaca) เธอเกิดในเผ่าที่ค่อนข้างจะเจริญในแง่วัฒนธรรมประเพณีที่บางส่วนได้รับอิทธิพลมาจากยุโรป  อย่างไรก็ตาม เมื่อสมิธกับพวกเดินทางมายังดินแดนที่เป็นรัฐเวอร์จีเนียในปัจจุบัน เธอค่อนข้างจะให้ความสนใจกับคนเหล่านี้อย่างมาก และก็เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้คนผิวขาวผู้มาใหม่มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยโดยอาศัยกุศโลบายทางการทูตและความมีน้ำใจอารีของเธอ ในตอนนั้นเธอมีอายุประมาณ11ปีเท่านั้น





เรื่องราวในโพคาฮอนทัสที่ดีสนีย์นำมาสร้างเป็นหนังการ์ตูนเป็นเพียงช่วงชีวิตสั้นๆที่เธอได้พบและช่วยชีวิตจอห์นสมิทเท่านั้น ในขณะเดียวกันตลอดชีวิตของเธอก็มีความ น่าสนใจไม่น้อย

ในปี1613 อินเดียนแดงเผ่าหนึ่งได้รับการยุยงจากกัปตันแซมวล อาร์กอลล์จับตัวโพคาฮอนทัสไว้ต่อรองให้พาวฮาทัน พ่อของเธอปล่อยตัวทหารอังกฤษที่ถูก จับเป็นเชลย พาวฮาทันยอมปล่อยตัวนักโทษให้เป็นอิสระแต่กลับถูกหักหลังเพราะโพคาฮอนทัสไม่ได้รับการปล่อยตัวอย่างที่ตกลงกันไว้

หนึ่งปีให้หลัง จอห์น รอฟ คนอังกฤษชาวอาณานิคม ประกาศให้สาธารณชนรู้ว่าเขารักโพคาฮอนทัสและปรารถนาจะแต่งงานกับเธอ และช่วงเวลาก่อนจะเข้าพิธีแต่งงานในเดือนเมษายน1614 โพคาฮอนทัสก็เข้าพิธีล้างบาปและได้รับชื่อ อังกฤษว่าคุณหญิงรีเบคกา รอล์ฟ(Lady Rebecca Rolfe)

ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี1616 รอล์ฟกับภรรยาและลูกชายตัวน้อยๆชื่อโทมัสเดินทางกลับประเทศอังกฤษ บริษัทvirginia Companyต้องการที่จะใช้โพคาฮอนทัสเป็นจุดโฆษณาชักชวนให้ นักลงทุนทั้งหลายหันมาสนใจที่จะลงทุนในโลกใหม่ โพคาฮอนทัสจึงเป็นข่าวดังไปทั่วอังกฤษถึงขนาดที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้ากษัตริย์เจมส์ในพระบรมมหาราชวังกับยังได้พบ บุคคลชั้นสูงในวงศ์สังคมผู้ดีอังกฤษอีกด้วย

และในงานสังคมครั้งหนึ่งที่เธอได้พบกับจอห์น สมิทโดยบังเอิญหลังจากที่จากกันไปถึง7ปีเต็ม  ซึ่งก่อนหน้านี้เธอรู้เพียงว่าสมิทนั้นเสียชีวิตแล้ว ทำให้เธอถึงกับ ตะลึงไปเหมือนกัน

ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปี1617 ครอบครัวรอล์ฟเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับเวอร์จีเนีย แต่ก็ไปได้ไกลแค่ท่าเรือเกรฟเซนด์ซึ่งยังอยู่บนฝั่งของทะเลอังกฤษ โพคาฮอนทัสติดเชื้อโรคไข้ทรพิษและเสีย ชีวิตอย่างฉับพลันขณะที่อายุแค่21ปีเท่านั้น

ร่างอันไร้ลมหายใจของเธอถูกฝังไว้ใต้ผืนดินในสุสานของโบสถ์เซนต์ยอร์จที่เมืองเกรฟเซนด์นั่นเอง



http://www.geocities.com/disneythaitown/BePoHerMu/pocalife.html
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ ninda

  • *
  • 334
  • 0
Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #65 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2009, 08:04:24 AM »
โอ้วววน่าสนใจเนอะ
พี่ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้เลยค่ะน้องกาฬ ยอมรับอ่ะ
แต่ทำไมในการ์ตูนจึงเลือก คนที่สองล่ะคะ มีบอกไว้หรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2009, 08:06:11 AM โดย ninda »

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #66 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2009, 09:24:13 AM »
โอ้วววน่าสนใจเนอะ
พี่ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้เลยค่ะน้องกาฬ ยอมรับอ่ะ
แต่ทำไมในการ์ตูนจึงเลือก คนที่สองล่ะคะ มีบอกไว้หรือเปล่า



คือจริงๆ แล้ว เรื่องจริง คนที่แต่งงานกับโพคาฮอนทัสก็คือ  จอห์น โรล์ฟ  ที่เป็นพระเอกภาค 2 ค่ะ

แต่จอห์น สมิธก็เคยมีบทบาทในชีวิตของโพคาฮอนทัสมาเหมือนกัน  จึงเป็นเรื่องราวของภาค 1  กาฬก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงๆ สมิธกับโพคาฮอนทัสรักกันรึเปล่า 

แต่การ์ตูนเล่าเรื่องเป็นเรื่องราวความรัก  เป็นตำนานที่ประทับใจ  จนคนดูติดใจ

พอมาถึงภาค 2  เพราะว่าโพคาฮอนทัสคิดว่าจอห์น สมิธตายไปแล้ว  และพอดีกับจอห์น โรล์ฟ เป็นคนพาโพคาฮอนทัสเข้าลอนดอน ตามทำเชิญของกษัตริย์อังกฤษ   และต้องเจอกับการดูถูกเหยียดหยาม  ประเภทพวกเหยียดสีผิวอ่ะค่ะ

จอห์น โรล์ฟคอยเชื่อเหลือโพคาฮอนทัสทุกอย่าง  จนเกิดเป็นความรักครั้งใหม่ขึ้น

เมื่อได้มาพบกับจอห์น สมิธอีก  ก็เหมือนว่า เรา 2 คนไปด้วยกันไม่ได้แล้ว  แตกต่างความคิด อะไรประมาณนั้น

ในการ์ตูน  ภาค 2 โพคาฮอนทัสคู่กับจอห์น โรล์ฟ ตามเรื่องจริงที่บันทึกไว้ 




การ์ตูนเค้าถ่ายทอดภาค 1  ออกมาดีมากจนภาค 2 ไม่ถูกใจคนที่เคยประทับใจจอห์น สมิธน่ะค่ะ  ถึงแม้ว่ามันจะดำเนินมาตามเรื่องจริงก็ตาม
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
The Hunchback of Notre Dame โศกนาฏกรรม คนค่อมแห่งนอร์ท-ดาม
« ตอบกลับ #67 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:22:13 PM »
ไม่ได้อัพกระทู้นี้มานานมากแล้ว
ช่วงนี้ได้กลับมาอ่านตำนานเทพนิยายอีกครั้ง เลยได้ค้นพบต้นฉบับเรื่องราวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่ดิสนีย์นำมาทำเป็นการ์ตูน 


The Hunchback of Notre Dame
คนค่อมแห่งนอร์ท-ดาม



จริงๆ มันก็ออกมานานตั้งแต่กาฬยังเด็กๆ แล้วล่ะ  แต่ว่าเพิ่งจะมีโอกาสได้ดูตอนแก่  เป็นการ์ตูนที่สนุกและมีเนื้อหาเข้มข้นมาก   





เรื่องราวเกี่ยวกับคนตีระฆังแห่งวัดนอร์ท-ดาม ในกรุงปารีส ที่เก็บตัวอยู่แต่บนหอคอย ด้วยรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด หลังค่อม จึงได้ชื่อว่า ควอซีโมโด (แปลว่า กึ่งมนุษย์) มีตัวการ์กอยล์เป็นเพื่อน  และวันหนึ่งเขาก็อยากจะออกไปเผชิญกับโลกกว้างที่ได้แต่เฝ้ามองดูจากหอระฆังมาเป็นเวลา 20 ปี
ในงานเทศกาลจำอวด เขาได้พบกับ เอสเมอรัลดา  สาวยิปซีแสนสวย ผู้มีใจเมตตา  ช่วยเขาไว้จากการดูถูกเหยียดหยาม ในขณะเดียวกันเอสเมรัลดาก็ต้องหนีการตามล่าของฟร็อลโล ที่ตามกวาดล้างพวกยิปซี  ควอซีโมโดช่วยนางหนีจากการจับกุม แม้จะต้องผิดหวังเพราะนางไปหลงรักกับเฟบุส (ในการ์ตูนออกเสียง ฟีบัส) ทหารหนุ่มหล่อ (แน่ละ ก็พระเอกของเราอัปลักษณ์ คงทำใจกันยาก) และร่วมมือกับเฟบุสช่วเอสเมรัลดาจากการถูกเผาทั้งเป็น เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
การ์ตูนเรื่องนี้ลุ้นมากเลย  แล้วก็คิดว่าจะจบแบบโศกนาฏกรรมซะอีก  ที่ไหนได้....เซ็งเลย  สุดท้ายก็แฮปปี้ เอ็นดิ้ง





ได้รับข้อมูลนิยาย เรื่อง The Hunchback of Notre Dame หลังจากดูการ์ตูนจบ  ซึ่งพออ่านแล้ว ทำให้อยากดูฉบับที่เคยสร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นมาทันที  เพราะคิดว่า มันคงไม่ได้หวานแหววเหมือนกับในการ์ตูนดิสนีย์แน่นอน





คนค่อมแห่งนอทร์-ดาม The Hunchback of Notre Dame

มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า Notre-Dame de Paris ประพันธ์โดย  วิกตอร์ อูโก (Victor Hugo) ออกวางขายในปี 1831

นวนิยายเรื่องนี้ เริ่มขึ้นในกรุงปารีส วันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1482 อันเป็นหน้าอีพิฟานี และเป็นวันเทศกาลจำอวด ณ วันดังกล่าว กาซีโมโด คนตีระฆังวัดนอทร์-ดาม ซึ่งมีรูปกายอันพิกลพิการและหลังค่อม ได้ปรากฏกายต่อสาธารณชน เพราะเขาได้รับรางวัลเป็นมงกุฎสำหรับ "ราชาแห่งคนเขลา" (Pope of Fools)

ในวันนั้น นางแอสเมรัลดา หญิงนักร้องระบำชาวยิปซีผู้มีรูปโฉมงดงามเช่นเดียวกับจิตใจของนาง ได้ครองหัวใจของชายทั้งหลาย รวมถึง ร้อยเอกเฟบุส เดอ ชาโตแป และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กาซีโมโด และเจ้าคุณโกล็ด ฟร็อลโล ผู้เป็นอัครสังฆานุกร (Archdeacon) แห่งวัดนอทร์-ดาม และเป็นบิดาบุญธรรมของกาซีโมโด

เจ้าคุณฟร็อลโลยอมละเมิดวินัยสงฆ์ เพื่อความใคร่ทางกามารมณ์ของตน เขาสั่งให้กาซีโมโดลักตัวนางแอสเมรัลดามา ซึ่งกาซีโมโดยินยอมทำ เพราะเขาก็หลงรักนางอยู่ดุจกัน แต่กาซีโมโดถูกร้อยเอกเฟบุสและกองทหารจับตัวแล้วช่วยนางแอสเมรัลดาไว้ได้เสียก่อน ศาลพิพากษาให้ทวนกาซีโมโด แล้วนาบด้วยเหล็กร้อน ฝูงชนพากันมาชมดูการลงโทษกาซีโมโด และร้องร่ำเย้ยหยันแสดงความเหยียดหยามและสาแก่ใจ เจ้าคุณฟร็อลโลปฏิเสธที่จะช่วยเหลือกาซีโมโดเมื่อเขาร้องเรียก ฝ่ายนางแอสเมรัลดา เมื่อเห็นว่ากาซีโมโดออยากน้ำ จึงฝ่าผู้คนเข้าไป แล้วส่งน้ำให้เขาดื่ม นี้ยิ่งทำให้กาซีโมโดรักนางมากขึ้น แต่นางแอสเมรัลดากลับรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเมื่อเห็นความอัปลักษณ์ของกาซีโมโด

นางแอสเมรัลดาหลงรักร้อยเอกเฟบุสผู้ช่วยเหลือนางไว้เป็นอันมาก ร้อยเอกเฟบุสปดนางว่าเขาก็รักนาง แต่อันที่จริงเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว ทั้งคู่จุมพิตกัน และขณะจะสมสู่กันนั้น เจ้าคุณฟร็อลโลเห็นเข้าและคับแค้นใจเป็นอันมาก จึงลอบแทงร้อยเอกเฟบุสข้างหลัง นางแอสเมรัลดาตกใจเป็นอันมากถึงแก่สลบไป เมื่อนางฟื้นขึ้นมา กลับพบว่าตนกำลังเป็นแพะรับบาปแทน และถูกศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ขณะที่นางกำลังถูกพาตัวไปยังตะแลงแกงหน้าวัดนอทร์-ดามนั้น กาซีโมโดโหนสายระฆังวัดลงมา แล้วชิงตัวนางเข้าไปในวัด ที่ซึ่งทุกชีวิตได้รับอภัยทานตามกฎหมาย และเจ้าคุณฟร็อลโลรับปากจะให้นางอาศัยร่มพระศาสนาเป็นกำบังคุ้มภัยได้

ขณะเดียว โกลแป็ง ทรูยีโฟ หัวหน้าชาวยิปซี ซึ่งรวมกลุ่มกันเป็นอั้งยี่ และเรียกซ่องของตนว่า "วังปาฏิหาริย์" (Court of Miracles) ทราบเรื่องนางแอสเมรัลดาถูกจับ ก็ระดมชาวยิปซีเข้าล้อมวัดเพื่อช่วยเหลือนาง เวลานั้น ชาวปารีสพากันหาว่านางแอสเมรัลดาเป็นแม่มดบันดาลให้เมืองปั่นป่วน และเจ้าพนักงานกราบบังคมทูลพระเจ้าหลุยส์ที่ 11 พระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ทราบถึงเหตุจลาจลในกรุงปารีส พระองค์ทรงเข้าพระทัยว่าผู้คนมาชุมนุมเพื่อจะตามล่าสังหารแม่มด รัฐสภาจึงตราพระราชบัญญัติให้นางแอสเมรัลดาพ้นจากการอภัยทานตามกฎหมาย และพระเจ้าหลุยส์ที่ 11 ทรงบัญชาให้กองทัพเข้าควบคุมสถานการณ์ แล้วประหารเหล่าผู้ก่อจลาจล ซึ่งรวมถึง "นางแม่มดแอสเมรัลดา" เสียให้สิ้น
ขณะเมื่อชาวยิปซีเข้าล้อมวัดนั้น กาซีโมโดเข้าใจว่าคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อจะทำร้ายนางแอสเมรัลดา จึงเข้าประจันเพื่อปกป้องนาง กองทัพมาถึงในเวลานั้น และสังหารชาวยิปซีจนสิ้น รวมถึงโกลแป็งด้วย ในระหว่างนั้นเอง เจ้าคุณฟร็อลโลให้นางแอสเมรัลดาตัดสินใจว่า จะยอมเป็นของเขาหรือไม่ นางปฏิเสธโดยไม่รีรอ เจ้าคุณจึงส่งตัวนางให้แก่เจ้าพนักงาน โดยกล่าวว่า ถ้าเขาไม่ได้นาง ใครก็อย่าได้นางอีก และเห็นว่าเป็นการทำลายนางมารที่ล่อลวงให้เขาหลงใหลมัวเมา
เจ้าคุณยืนอยู่บนหอระฆังชมดูการแขวนคอนางแอสเมรัลดาที่จัตุรัสเบื้องล่าง และระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับปิศาจขณะที่นางกำลังดิ้นตายในห่วงเชือก กาซีโมโดจึงผลักเจ้าคุณผู้เลี้ยงตนมาจนเติบใหญ่ตกลงจากหอระฆัง เจ้าคุณร่วงลงห้อยกับตัวปนาลีคาอยู่กลางอากาศ แต่เขาอ่อนแรงเกินกว่าจะยื้ดยุดสิ่งใดไว้ได้ เขาคาอยู่อย่างนั้นชั่วระยะหนึ่ง ก่อนหล่นลงกระแทกกับหลังคาอาคารบ้านเรือนลดหลั่นกันไปรอบ ๆ วัด แล้วกระทบกับบาทวีถีกลางใจเมืองถึงแก่ความตาย จากนั้น กาซีโมโดก็มุ่งตรงไปยังสุสานประจำเมือง เขาเปิดหลุมศพของนาง แล้วนอนลงข้างเคียงกับศพนาง เพื่อสมรสกับนาง กาซีโมโดกอดศพเจ้าสาวเขาไว้ และที่สุดก็ขาดใจตายเพราะความหิว

สองปีต่อมา ชาวปารีสช่วยกันตามหาศพนักโทษประหารที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 11 พระราชทานพระราชานุญาตให้ประกอบพิธีอย่างสมเกียรติได้ พวกเขามาถึงสุสานประจำเมือง และค้นพบโครงกระดูกสองโครง โครงหนึ่งเป็นหญิง มีรอยหักที่คออันเนื่องมาจากถูกเชือกรัด และอีกโครงหนึ่ง มีลักษณะช่วงหลังงุ้มงอผิดปรกติ โครงกระดูกที่สองนี้กอดรัดไว้โครงแรกเอาไว้โดยแน่น เมื่อชาวเมืองพยายามแยกทั้งสองจากกัน โครงกระดูกที่สองก็แตกสลายเป็นผงธุลีไป

นอทร์-ดามเดอปารี (Notre-Dame de Paris) เป็นชื่ออย่างเป็นทางการของวัดนอทร์-ดาม
 
นิยายนี้แสดงความเป็นไปในยุคกอธิก ซึ่งสถาปัตยกรรม กิเลสตัณหา และศาสนาล้วนแต่สุดโต่ง มีการนำเสนอลัทธินิยัตินิยม (determinism) หรือลัทธิความเชื่อที่ว่า การกระทําทุกอย่างของมนุษย์ หรือเหตุการณ์ทั้งหลาย ได้ถูกกําหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ตลอดจนนำเสนอภาพการจลาจลและปฏิวัติ กับทั้งการต่อสู้ทางชนชั้น การถือวรรณะดังกล่าวปรากฏในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างกาซีโมโด นางแอสเมรัลดา และผู้ลากมากดีในหนังสือ อนึ่ง จะพบว่ามีแนวคิดเรื่องพลวัตทางเพศแทรกอยู่ในนิยายด้วย โดยเฉพาะส่วนที่ว่า นางแอสเมรัลดาเป็นวัตถุทางเพศของตัวละครอื่น ๆ ในลักษณะที่แตกต่างกันไป





เศร้าเนอะ  ดราม่ามากมาย  ดิสนีย์ดัดแปลงเยอะมาก เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กๆ ที่มีจินตนาการและความฝันอันบรรเจิด  ซึ่งพอโตมาก็ไปค้นหาต้นฉบับเรื่องราวชวนฝันที่โดนหลอกกันในวัยเด็กว่าแท้จริงแล้ว เรื่องราวมันโหดร้ายปานใด 
และดูเหมือนจะชื่นชมความระทมของต้นฉบับมากกว่ากันซะด้วยสิ


http://th.wikipedia.org/wiki/The_Hunchback_of_Notre_Dame
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ Moon

  • **
  • 782
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: หากเทพนิยาย...ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
« ตอบกลับ #68 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 12:27:23 PM »
เรื่องคนค่อมฯนี่หนูชอบมากค่ะ ถึงแม้ดิสนีย์จะดัดแปลงตอนจบ แต่ก็สนุกค่ะ เพลงประกอบสุดยอดจริงๆ
ชอบ theme ของเรื่องนี้มากๆเลย คลาสสิกมากๆ
และเนื้อหาก็เข้มข้นมากๆค่ะ  ดูแล้วสงสารควอซีจัง ร่างกายก็อัปลักษณ์พอเจอผู้หญิง  ผู้หญิงก็ไม่ได้รักตอบอีก

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
http://pantip.com/topic/30890635

จำได้ว่ากระทู้นี้เคยพูดถึงความโหดร้ายในวรรณคดีไทยเอาไว้ด้วย  ก็เลยขี้เกียจตั้งกระทู้ใหม่



ในวรรณคดีไทย ตอนไหนจากเรื่องใดที่คุณคิดว่าโหดร้ายที่สุด


สำหรับผมคิดว่าในขุนช้างขุนแผน ตอนที่ขุนแผนเอามีดผ่าท้องนางบัวคลี่แล้วเอาลูกมาทำกุมารทอง อันนี่ดูโหดร้ายที่สุดละ มาแชร์กันนะครับ

Boythekiller 
วันอาทิตย์ เวลา 20:01 น.




ความคิดเห็นที่ 1
นางผีเสื้อสมุทรข่มขืนพระอภัยมณีครับ สงสารพระอภัยมณี คงจะอึดอัดเหมือนตายทั้งเป็น ร้องไห้

CHISWICK   
วันอาทิตย์ เวลา 20:04 น.




ความคิดเห็นที่ 1-1
คำตอบข้างบนผมล้อเล่นนะครับ ผมว่านางสิบสองถูกควักลูกตานี่ก็โหดร้ายน่าดู เศร้า

CHISWICK   
วันอาทิตย์ เวลา 20:08 น.




ความคิดเห็นที่ 1-4
ตอนควักว่าโหดแล้ว ตอนยัดกลับนี่น่าจะโหดกว่า - -*....

KamenRider_V1   
3 ชั่วโมงที่แล้ว




ความคิดเห็นที่ 1-5
นางสิบสอง พี่ๆกินลูกตัวเอง เม่านอนไม่หลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ 3 ชั่วโมงที่แล้ว

maniastyle 
3 ชั่วโมงที่แล้ว




ความคิดเห็นที่ 1-6
ขออนุญาตตอบความคิดเห็นที่ 1-2, 1-3 นะครับ

ถ้าเคยอ่านตัวบทเรื่องพระอภัยมณี จะเห็นครับว่าพระอภัยมณีไม่เต็มใจที่ต้องร่วมรักกับนางผีเสื้อสมุทร แม้ว่าจะแปลงเป็นสาวงามแล้วก็ตาม เพราะพระอภัยฯมองว่า ยังไงยักษ์ก็ยังเป็นยักษ์ครับผม แต่ต้องยอมร่วมรักกับนางเพราะเลี่ยงไม่ได้ครับ
 
จักกิด   
1 ชั่วโมงที่แล้ว




ความคิดเห็นที่ 1-7
แล้วทำไมพอเป็นเงือกถึงได้ยอมเนอะ พระอภัยช่างลักลั่น เม่าคัทลอส

Tuey_re 
1 ชั่วโมงที่แล้ว




ความคิดเห็นที่ 2
ตอนที่พระลอ เพื่อนแก้วและแพงทอง โดนธนูยิงตายพร้อมกันทั้ง 3 คน  เม่าในกองไฟ

Matthia 
วันอาทิตย์ เวลา 20:10 น.





ความคิดเห็นที่ 2-1
อันนี้แอบสมน้ำหน้าค่ะ สงสารพระนางลักษณวดี รู้ทั้งรู้แต่ก็ยอมให้ไป ใจกว้างจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันอาทิตย์ เวลา 22:24 น.

แค่ติดนวดค่ะ   
วันอาทิตย์ เวลา 22:24 น.





ความคิดเห็นที่ 2-2
พระไปแม้พระได้ สมสอง

ไหนจะคงคืนครอง ครอบเกล้า

อย่าคิดอย่าจงปอง สองปล่อย มาฤา

สองจะลองโล้มเล้า อยู่ว้า วังขัง


เราชอบบทนี้มาก เขียนจากความจำ อาจมีผิดบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ลักษณวดีใจกว้างจริงค่ะ ^^

Matthia 
วันอาทิตย์ เวลา 23:54 น.





ความคิดเห็นที่ 2-3
คิดเช่นนั้นเช่นกันค่ะ

สุดทานสุดทัดท้าว สุดบุญ
ทรงโศกพัตรซบซุน ร่ำไห้
เหนือบาทยุคลขุน ครวญคร่ำ ไปนา
สยายเกศเช็ดบาทไท้ ธิราชไว้เปนเฉลิมฯ

เป็นบทที่พระนางลักษณวดีรู้ว่าไม่อาจทัดทาน
ทำได้แค่เพียงยินยอมปล่อยพระสวามีไป ก่อนจากยังสยายเกษาลงเช็ดบาทบาทาเพื่อเป็นที่ระลึกอีกแน่ะ

Pranapee Network 
3 ชั่วโมงที่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2013, 02:59:18 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
ความคิดเห็นที่ 34
วรรณคดีไทย ปลูกฝังค่านิยม ฆ่าทั้งเป็น ให้กับผู้หญิงผู้ถูกกระทำ
ผู้ชายจะมีกี่เมียก้ได้ ได้มา ถ้าไม่ใช้เล่ห์ ก็กำลัง เมื่อสมใจ เสร็จแล้วก็ทิ้งให้เลี้ยงลูกลำพัง
หรือไม่ก็เอาแต่ความคิดตัวเป้นใหญ่ ขี้ระแวง ผู้หญิงในวรรณคดีเหมือนทาสรองรับอารมณ์ผู้ชาย

เช่น พระอภัย ทิ้งนางเงือก   ขุนแผน ฆ่าบัวคลี่
 
ดอกไม้มีพิษมักสีขาว   
วันจันทร์ เวลา 11:30 น.





ความคิดเห็นที่ 35
-ตอนขุนช้างขุนแผนค่ะ นางวันทองโดนสั่งประหารชีวิตเพราะเลือกไม่ได้
(สำหรับเราคนที่สมควรตายคือขุนแผน 555 เจ้าชู้นัก แต่ก็อย่างว่าค่านิยมคนไทยสมัยก่อนผู้ชายมีเมียหลายคนได้)

วรรณคดีเรื่องโปรดเราคือนางสิบสองกับพระสุธน มโนราห์ ชอบตรงที่ตอนจบเรื่องนางสิบสอง นางเมรีอธิษฐานไว้ว่าชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้าให้พี่ตามน้องบ้าง เลยเกิดเป็นเรื่องราวในชาติใหม่คือพระสุธน ต้องติดตามนางมโนราห์ ซึ้งดีค่ะ

Peter Pan Syndrome   
วันจันทร์ เวลา 11:39 น.





ความคิดเห็นที่ 36
นางสิบสอง
- ตอนพี่น้องโดนควักลูกตา 11 คนและน้องคนสุดน้อง นางเภา โดนควักนัยน์ตาข้างเดียว
- ทั้งหมดต้องอดอาหาร เอาลูกตัวเองที่คลอดออกมาแล้วตาย แบ่งกันกินประทังชีวิต
- พระรถ ลูกของนางเภา ไปทำให้นางเมรีช้ำใจ อกแตกตาย (นิสัยไม่ดี นางเมรีไม่ได้ทำอะไรผิดนิ) เลยกลายเป็นตำนาน พระสุธนต์-มโนราห์

ศรีธนญชัย
- ผ่าท้องน้อง เอาไส้ออกมาล้าง
- ตอนเอาแมวมาไล่ตี แมววิ่งหนีรอบเมือง เพราะพระราชาบอกว่าจะประทานที่เท่าแมวดิ้นตาย ศรีธนญชัยเลยตีแมวจนตาย T^T สงสารแมว

ladydunce   
วันจันทร์ เวลา 13:44 น.
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**