ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ วิกานต์

  • *
  • 41
  • 0
  • **********น้องอัมวิกานต์จ้า-*************

 ;)
url=http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=157488bfaf.jpg][/url]

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 09:55:39 PM »
เอาไงดีหละ เอาตั้งแต่ตอนแรกเลยแล้วกัน ตอนที่โลกใหม่ได้ถือกำเนิดและเหล่าเทพได้เทพอาวุธคืนจากเทพอสูรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(เวอร์ชั่นนี้ไม่มีเทพจ๊ะ..."

บนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า เหล่าเทพสังวาลย์กำลังสนทนากันอยู่

   "โลกใหม่นี้ช่างดูสงบร่มเย็นยิ่งนัก หลังจากที่พวกเราได้สังวาลย์คืนมาแล้ว คงจะสื้นเรื่องร้ายๆทุกอย่างเสียทีนะเพคะ" เทพีกรุณาเอ่ยขึ้นอย่างหารู้ไม่ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ของเรื่องราวร้ายๆที่อาจเกิดขึ้น
   "จะชะล่าใจมิได้นะเทพี... บางทีอสูรอาจพยายามเก็บความแค้นเอาไว้เพื่อรอวันเดือดพล่านก็เป็นได้" เทพศัสตรารับสั่งอย่างไม่ไว้ใจ เทพกาลเวลาได้ยินแล้วก็พยักหน้ารับดั่งว่า
เห็นพ้องต้องกันตามนั้นแลหันมาถามเทพีหยั่งรู้
   "แล้วท่านหละเทพีหยั่งรู้ ท่านมองเห็นอะไรในอนาคตบ้างไหม" เทพกาลเวลาเอ่ยถาม
   "อนาคตยังคงเป็นสิ่งที่มืดมัวเพคะ หม่อมฉันเห็นแค่เพียงว่าโลกนี้จะผาสุกได้ระยะหนึ่ง แล้วต่อจากนั้น... หม่อมฉันก็เห็นแต่ความมืด..." เทพีหยั่งรู้เอ่ยขึ้น
   "หา... ท่านว่าอย่างไรนะเทพี ความมืดอย่างนั้นรึ นั่นหมายความว่าโลกใบนี้จะต้องตกอยู่ในความมืดงั้นรึ" เทพศัสตราเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน
   "ช้าก่อนเพคะ นั่นอาจหมายความว่าอนาคตนั่นไกลเกินกว่าญาณหยั่งรู้ก็ได้ รอดูไปก่อนเถิดนะเพคะ" เทพีกรุณาเอ่ยขึ้น ---

ณ วิมานกลางหาว

   "เราไม่เชื่อหรอกนะเทพีว่าท่านจะหยั่งรู้เรื่องราวภายหน้ามิได้... ท่านรู้ ท่านเห็นสิ่งใด ท่านบอกเรามาเถิด" เทพศัสตรารับสั่งกับองค์เทพีหยั่งรู้ขณะอยู่กันเพียงลำพัง
   "คือ... หม่อมฉันไม่เห็นอะไรจริงๆเพคะ" เทพีหยั่งรู้ให้การปฏิเสธ
   "เป็นไปไม่ได้..." เทพศัสตรารับสั่ง
   "แต่มันก็เป็นไปแล้วนะเพคะ หม่อมฉันมองไม่เห็นอะไรจริงๆ แม้แต่... อนาคตของตัวเอง" เทพีหยั่งรู้เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่เริ่มโกรธเคืองขึ้นมา
เทพศัสตรายังคงคิดมากกับเรื่องนี้ คว้ามือองค์เทพีมากุมเอาไว้
   "ท่านเอ่ยเหมือนกำลังหวาดกลัวสิ่งใดอยู่... ทำไมหละเทพี... ทำไมท่านจึงบอกเราไม่ได้..." เทพศัสตราเอ่ยขึ้น
   "หม่อมฉัน... หม่อมฉันมองไม่เห็นอนาคต หม่อมฉันกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพคะ" เทพีหยั่งรู้เริ่มฟายน้ำตา เทพศัสตราเห็นทีท่าองค์เทพีก็ยกมือขึ้นจะเช็ดน้ำตา
ให้ แต่องค์เทพีกลับหลบลี้มิได้นำพา "อย่าเพคะ... เท่านี้เราก็มีความผิดมามากพอแล้ว..."
   "เรากับท่านหาใช่ใครอื่น... เทพี... ให้เราได้ช่วยคลายความทุกข์ในใจของท่านบ้างก็ยังดี" เทพศัสตรารับสั่ง เทพีหยั่งรู้ก้มหน้าแลน้ำตาไหล อยู่ๆก็รู้สึกคลื่นไส้
   เทพศัสตรามองนางไม่วางตาด้วยความแปลกพระทัยนัก "เทพี... นี่ใช่สิ่งที่ท่านหวาดกลัวหรือไม่" เทพศัสตรารับสั่งถามขึ้น
   เทพีหยั่งรู้เช็ดน้ำตาแลว่า "เพคะ..."
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 03:51:20 PM »
(ต่อค่ะ)   เมื่อเวลาผ่านไปเทพน้อยถือกำเนิดขึ้นโดยขัดต่อโองการแห่งสวรรค์ ณ วิมานกลางหาว เทพีหยั่งรู้โอบอุ้มร่างทารกน้อยไว้ในอ้อมกอดอย่างแสนรัก องค์เทพีมองลูกก็อดฟายน้ำตามิได้ เทพศัสตราเองก็ประทับอยู่เคียงข้างจึงรับสั่งว่า
   "อย่าเสียน้ำตาไปเลยเทพี วันนี้เป็นวันที่ท่านและเราควรจะมีความสุข เป็นวันที่เทพน้อยองค์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก เขาจะเป็นโซ่ทองคล้องใจของสองเราเอาไว้"
   "พอเถอะเพคะหม่อมฉันขอร้อง..." เทพีหยั่งรู้เอื้อนเอ่ยขึ้นทำน้ำตา
   เทพศัสตราเลิกคิ้วแลรับสั่งขึ้นอย่างน้อยพระทัยว่า "ท่านลืมความรักของเราแล้วหรือ เทพี..." คำถามนี้สร้างความรู้สึกสับสนให้กับเทพผู้ครองสังวาลมรกตไม่เบา พระนางได้แต่ก้มหน้าอย่างไร้คำตอบ
   เทพศัสตราจ้องมองนางอย่างไม่วางตาอย่างรอคำตอบก่อนที่เสียงร้องของทารกจะสะกิดให้รู้สึกพระองค์อีกที
   เทพน้อยร้องไห้กระจองอแงราวกับรู้ว่าตนเป็นเหตุให้พ่อแม่ทะเลาะกัน... "โอ๋... ลูกจ๋า อย่าร้องไห้เลยนะจ๊ะ แม่จะขาดใจตายอยู่แล้ว..." เทพีหยั่งรู้ปลอบขวัญลูกรักพลางหันมาสบตาผู้อยู่เบื้องหน้า
   "พระองค์เพคะ... เราจะปล่อยให้เค้าเติบโตบนวิมานกลางหาว หรือที่ไหนๆบนสรวงสวรรค์ไม่ได้นะเพคะ เพราะถ้าองค์มหาเทพทรงทราบ ลูกของเราอาจจะต้องถูกทำลาย"
   "แล้วเราจะพาเค้าไปฝากใครเล่า มีใครที่เราจักไว้ใจได้" เทพศัสตราเอ่ยขึ้นพลางนิ่งคิด
   เทพีหยั่งรู้หลับตาก่อนจะลืมตาขึ้นมาแลว่า "หม่อมฉันนึกออกแล้วเพคะ..."
   เทพศัสตราหันมาจ้องเทพีอย่างฉับพลัน "เจ้าจะนำลูกของเราไปฝากใครรึเทพี"
   "พญาเวนไตยเพคะ..."


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 18, 2009, 01:25:09 PM »
   นครรักตปักษ์...
   "เราขอร้องเถิดนะท่านพญาเวนไตย... มณีแดงน่าสงสาร ไร้ที่พึ่ง ท่านช่วยดูแลเค้าที... หรือท่านจะให้เราคุกเข่าลงตรงหน้าท่านตอนนี้เลยก็ได้"
น้ำเสียงองค์เทพีผู้ครองสังวาลมรกตรับสั่งขึ้นอย่างร้องขอทั้งน้ำตา ในความรู้สึกของคนเป็นแม่ แม้จะสูงส่งเพียงไหน สิ่งหนึ่งที่นางปรารถนาเป็นที่สุดก็คือความปลอดภัยของลูก

   พญาเวนไตยฟังก็เห็นใจแต่ก็ครุ่นคิดหนัก "ข้าพระองค์อยากจะรับไว้ แต่องค์เทพน้อยมีสายเลือดเป็นชาวสวรรค์ จักอยู่ท่ามเหล่าครุฑที่ต่ำต้อยเห็นจะไม่เป็นการควร" พญาเวนไตยเอ่ยขึ้นอย่างหลีกเลี่ยง
เทพศัสตราเห็นทีท่าจึงรับสั่งขึ้นด้วยพระสุรเสียงสนั่นดัง
   "เจ้าก็น่าจะเข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นพ่อสิ นางวินตามมเหสีเจ้าก็กำลังตั้งครรภ์นี่นา ถ้าจะมีใครมาทำร้ายลูกของเจ้า เจ้าจะปกป้องไหม..."
พญาเวนไตยอึกอักอยู่มิอาจตอบตกลงได้อย่างทันทีแต่ก้สุดจะหลีกเลี่ยงได้
   "ถ้างั้น... ข้าพระองค์จะรับไว้ก็ได้พระพุทธเจ้าข้า" พญาเวนไตยตอบรับไม่เต็มเสียง
   เทพีหยั่งรู้รีบส่งร่างบุตรรักให้กับพญาแห่งครุฑก่อนที่จะถอดธำรงค์มรกตมอบให้กับท้าวเวนไตย... "นี่เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ เราขอมอบให้กับลูกของท่านในครรภ์ของนางวินตา
ถ้าลูกของท่านเป็นชาย ของให้เค้าเป็นเพื่อนรักกับมณีแดง คอยดูแล และช่วยเหลือซึ่งกันและกันเหมือนพี่เหมือนน้อง แต่ถ้าลูกของท่านเป็นหญิง ธำมรงค์วงนี้เราขอหมั้นหมายนางให้กับ
มณีแดงในภายภาคหน้า... เราฝากท่านช่วยดูแลและอบรมสั่งสอนมณีแดงให้เป็นคนดีด้วย"
   "รับด้วยเกล้าพระพุทธเจ้าข้า..." พญาเวนไตยน้อมรับ
   สองเทพพยักหน้าก่อนที่เทพศัสตราจะปลดปลงเอาสังวาลแห่งพระองค์มาวางไว้บนร่างพระโอรสแลว่า "สังวาลนี้จะเป็นของมณีแดง จงบอกเค้าว่าเป็นสิ่งเดียว ที่ผู้เป็นพ่อจะมอบให้เค้าได้..."
สิ้นพระกระแสรับสั่ง สองร่างแห่งองค์เทพสังวาลย์ก็ถอยพลางหายตัวไปพร้อมกัน...


   เจ็ดปีต่อมา....


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 18, 2009, 03:05:05 PM »
อ่า...น้องบุษบงกชจ๋า  อันนี้พี่ไม่ได้จับผิดนะ แต่พี่ว่าอย่าให้มเหสีของพญาครุฑชื่อ "วินตา" เลย เพราะคำว่า "เวนไตย" มีความหมายแปลว่า ลูกของนางวินตา  เวลาอ่านแล้วมันทำให้ความรู้สึกแปร่งๆนะ ถ้าจะให้ดี มเหสีของพญาครุฑเวนไตยให้ชื่อว่า วินายกา จะดีกว่า (อ้างอิงจากท่านพระยาสัจจาภิรมย์(สรวงศรีเพ็ญ) ได้เล่าไว้ว่า พญาครุฑ มีภริยาชื่อ อุนนติ หรือวินายกา และมีบุตร ชื่อ สัมปาติ)

อีกอย่างถึงพญาครุฑจะเป็นกึ่งเทพแต่ก็ยังรบเสมอกับพระนารายณ์ พี่จึงคิดว่าจริงๆแล้วพญาครุฑน่าจะไม่จำเป็นต้องเกรงเทพศาสตราแต่อย่างใด  น่าจะไม่สนใจและแยแสเทพและเทพีทั้งสองมากกว่า แต่พอเทพศาตราพูดถึงเรื่องที่มเหสีของครุฑเองก็ตั้งครรภ์เช่นกันก็เลยรู้สึกเห็นใจทั้งสองพระองค์จึงตัดสินใจรับมณีแดงเอาไว้ เหตุผลน่าจะรับฟังได้มากกว่า เพราะถ้าเกิดมหาเทพรู้เรื่องขึ้นมาก็ไม่ต้องหวั่นเกรงว่ามหาเทพจะทำอะไรมณีแดงได้เพราะได้อำนาจบารมีของพญาครุฑเวนไตยคุ้มครองอยู่ 

ส่วนเรื่องที่อยู่ของพญาครุฑพี่ว่าก็ดีแล้วนะ "นครรักตปักษ์" ชื่อเพราะดี อันนี้เป็นจิตนาการของเราเอง ไม่จำเป็นต้องยึดถือว่าว่าจะต้องเป็นวิมานฉิมพลี เพราะอย่างเรื่องของพี่เองก็แต่งให้ พญาสุบรรณ(ทายาทของพญาครุฑเวนไตย) พำนักอยู่ที่ ปราสาทเทพปักษา เชิงเขาไกรลาส

อันนี้เป็นความคิดเห็นของพี่นะ น้องไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยทั้งหมดก็ได้นะ ;) :icon_cool:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2009, 03:09:55 PM โดย พยัคฆ์มาร »

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 18, 2009, 09:59:59 PM »
ขอบคุณค่ะ พี่พยัคฆ์มาร ตอนแรกไม่ได้ค้นไม่ได้ดูอะไรเลยสำหรับตำนานแต่ก็ขอบคุณที่แวะมาตักเตือนนะคะ เดี๋ยวจะแก้ไขใหม่แล้วกลับมาโพสต์นะคะ
ฟังๆดูแล้วก็ปิ๊งไอเดียใหม่ๆขึ้นมาตั้งเยอะ แต่อาจไม่ได้อิงในตำนานสักเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยจะถนัดสักเท่าไหร่ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ ยังไงก็สู้ๆ สู้ต่อไปอยู่แล้วค่ะ :icon_idea: :icon_idea:


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ iceice

  • *
  • 12
  • 0
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2009, 06:50:33 PM »
นางวิตาเป็นชื่อของมเหสีกัศยป กัศยปมีมเหสีขององค์  คือ  วินตากับ กัทรุ  นางวิตาให้กำเนิดครุฑ  นางกัทรุให้กำเนิดนาค
ทั้งสองไม่ค่อนยลงรอยกัน  นางวินตาอิจฉานางกัทรุจึงไปบอกกัศยปให้ครุฑสามารถจับนาคกินเป็นอาหารได้กัศยปก็ยอมทั้งที่ทั้ง
2เป็นลูกของตน  นะคะ

ออฟไลน์ Moon

  • **
  • 782
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 06:20:56 PM »
ขอต่อให้นะคะ ยิมมาต่อไวๆนะจ๊ะ
.............................................................................

เจ็ดปีต่อมา พญาเวนไตยและนางวินตาได้ให้กำเนิดลูกเป็นบุตรชายนามว่า  " แสงสุรีย์ " และตามสัญญาที่ให้ไว้กับเทพีหยั่งรู้  แสงสุรีย์จึงเป็นเพื่อนเล่นกับมณีแดง

" พี่มณีแดง.." แสงสุรีย์ร้องเรียกก่อนจะเดินเข้ามาในพระตำหนักของพระเชษฐาบุญธรรม มณีแดงมอง
" เจ้ามีอะไรเหรอ "
" เสด็จพ่อทรงมีพระกระแสรับสั่งให้หาพระเจ้าค่ะ " แสงสุรีย์บอก  มณีแดงครุ่นคิด
" เรื่องอะไรล่ะ "
" เรื่อง...พี่มณีแดงได้เข้าเฝ้าก็รู้เองแหละ " แสงสุรีย์บอกในน้ำเสียงแสดงความอิจฉาอยู่ในที  มณีแดงไม่เข้าใจแต่ก็ยอมตามออกไปด้วย


ที่ท้องพระโรงของนครรักตปักษ์  พญาเวนไตยและนางวินตาประทับรออยู่แล้ว  สองกษัตริย์แห่งครุฑมองสองพระโอรสเสด็จตามกันเข้ามา คนหนึ่งเป็นสายเลือดในอก  ส่วนอีกคนเป็นโอรสบุญธรรม แต่ทั้งสองก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้กลับใครมีเพียงชาวนครรักตปักษ์เท่านั้นที่รู้

" มาแล้วเหรอ  มณีแดง " พญาเวนไตยเอ่ยขึ้น
" แสงสุรีย์บอกว่าเสด็จพ่อมีเรื่องต้องพูดกับลูก " มณีแดงอ้างอิงถึงพระอนุชา  แสงสุรีย์เดินไปนั่งกับพระนางวินตา
" พ่อมีสิ่งๆหนึ่งจะมอบให้เจ้า " พญาเวนไตยบอก  ก่อนจะแบพระหัตถ์ขวาออกปรากฏสังวาลทับทิมขึ้นมา  รัศมีเจิดจ้าจนพญาครุฑต่างเบือนสายตาให้ออกห่าง
" สังวาลทับทิม " มณีแดงอุทานด้วยความประหลาดใจ " ของลูกหรือพระเจ้าค่ะ "
" ใช่  มันควรเป็นของเจ้ามาตั้งนานแล้ว " พระนางวินตาเสริม
" ของลูกหรือ ? สวยงามเหลือเกิน แสงสุรีย์มาลองเล่นสังวาลกับพี่สิ " มณีแดงเอ่ยชวนพระอนุชา   แต่พญาเวนไตยลืมตัวร้องตวาดก้อง
" ไม่ได้นะ ! เจ้าจะแสงสุรีย์ไม่ได้ ! " พญาเวนไตยเผลอตวาดมณีแดง  แต่มณีแดงไม่ได้ตกใจนัก  คนที่ทั้งเจ็บปวดและน้อยเนื้อต่ำใจก็คือแสงสุรีย์ พระนางวินตารู้ว่าพระสวามีพูดเกินไปจึงหันมาหาแสงสุรีย์ที่หน้าเสีย
" ใช่ว่าลูกจะไม่มีของขวัญนะจ๊ะ " พระนางวินตาบอกยิ้มๆ  แสงสุรีย์เปลี่ยนท่าทีเป็นดีใจขึ้นมา
" จริงเหรอพระเจ้าค่ะ "
" นี่จ้ะ " พระนางวินตาส่งแหวนมรกตให้กับแสงสุรีย์  แสงสุรีย์รับมาสวมอย่างพอใจ
" ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ " แสงสุรีย์บอก  แต่ไม่ยอมสบตาผู้เป็นพระบิดาเลย  และด้วยความน้อยใจจึงเดินหนีไปเงียบๆ

ออฟไลน์ วิกานต์

  • *
  • 41
  • 0
  • **********น้องอัมวิกานต์จ้า-*************
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2009, 08:26:03 PM »
 :icon_idea:
url=http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=157488bfaf.jpg][/url]

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2009, 10:20:32 PM »
คือ... อันที่จริงคิดว่าลูกของครุฑจะเป็นหญิงนาค่ะ เอาเป็นว่าเริ่มใหม่ตั้งแต่เทพีหยั่งรู้จะเอาลูกไปฝากเลยละกันน้อ...

ไม่ว่ากันนะ

  นครรักตปักษ์...
   "หม่อมฉันขอร้องเถิดนะเพคะท่านพญาเวนไตย... มณีแดงน่าสงสาร ไร้ที่พึ่ง ท่านได้โปรดช่วยเมตตาดูแลเค้าที... "
น้ำเสียงองค์เทพีผู้ครองสังวาลมรกตรับสั่งขึ้นอย่างร้องขอทั้งน้ำตา ในความรู้สึกของคนเป็นแม่ ย่อมปรารถนาก็คือความปลอดภัยของลูกเป็นที่สุด

   พญาเวนไตยฟังก็เห็นใจแต่ก็ครุ่นคิดหนัก "ข้าก็เห็นใจ.. แต่มิใคร่รับเรื่องร้อน เกรงจะเกิดสงครามใหญ่กับชาวสวรรค์" พญาเวนไตยเอ่ยขึ้นอย่างหลีกเลี่ยง
เทพศัสตราเห็นทีท่าจึงรับสั่งขึ้นด้วยพระสุรเสียงเศร้า
   "ข้าพระองค์ทราบดี ว่าสายเลือดสูงส่งของเฝ้าพันธุ์ครุฑผู้ไม่เคยพ่ายแพ้มิสมควรมาเกลือกกลั้วกับราคีของเทพที่เกิดมาบนความไม่ถูกต้อง แต่ผู้ผิดขอพ่อและแม่ของเค้า
อย่างไรเสียเด็กก็คือผูบริสุทธิ์ ท่านก็น่าจะเข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นพ่อสิ พระนางอุษาแสงมเหสีท่านก็กำลังทรงครรภ์ วอนเถิด เราทั้งสองสุดจะหาที่พึ่งให้กับมณีแดงแล้ว"
พญาเวนไตยอึกอักอยู่มิอาจตอบตกลงได้อย่างทันทีแต่ก็แสนเห็นใจจึงรับไว้
   "ถ้างั้น... ข้าจะรับไว้ก็ได้แต่หากเด็กน้อยผู้นี้ก่อให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นในวันข้างหน้า ข้าจำเป็นต้องเนรเทศ" พญาเวนไตยตอบรับไม่เต็มเสียง
   เทพีหยั่งรู้รีบส่งร่างบุตรรักให้กับพญาแห่งครุฑก่อนที่จะถอดธำรงค์มรกตมอบให้กับท้าวเวนไตย... "หม่อมฉันของถวายสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ให้กับโอรส ไม่ก็ธิดาของพระองค์ในครรภ์ของพระนางอุษาแสง
หวังว่าพระองค์ท่านจะไม่รังเกียจ หม่อมฉันฝากพระองค์ท่านช่วยดูแลและอบรมสั่งสอนมณีแดงให้เป็นคนดีด้วย"
   "อย่าห่วงเลย เราจะเลี้ยงดูให้เหมือนลูกแท้ๆ..." พญาเวนไตยรับสั่ง
   สองเทพพยักหน้าก่อนที่เทพศัสตราจะปลดปลงเอาสังวาลแห่งพระองค์มาวางไว้บนร่างพระโอรสแลว่า "สังวาลนี้จะเป็นของมณีแดง ท่านช่วยบอกเค้าที่ว่านี่จะเป็นสิ่งเดียว ที่ผู้เป็นพ่อจะมอบให้เค้าได้..."
สิ้นเสียง สองร่างแห่งองค์เทพสังวาลย์ก็ถอยพลางหายตัวไปพร้อมกัน...

เจ็ดปีต่อมา...

   "มณีแดง..." เสียงน้อยๆแห่งธิดาพญาครุฑเพรียก แต่มีเพียงความเงียบงัน
มณีแดงหลบอยู่ตรงไหนไม่มีใครเห็น ธิดาน้อยแห่งพญาครุฑเริ่มพรั่นใจ
   "มณีแดง... อย่าเล่นแบบนี้สิ..." กุมารีเอ่ยขึ้นเสียงสั่นเครือ ก่อนจะถูกสะกิดเบาๆจากด้านหลัง เด็กน้อยตกใจร้องลั่นปิดหน้าปิดตา แต่เด็กผู้ชายที่มาใหม่กลับหัวเราะชอบใจในอารมณ์
   "พระธิดาพญาครุฑขวัญอ่อนจัง"
   "นี่เจ้า... แกล้งเราเหรอ..." น้ำเสียงเริ่มจะเอาเรื่อง
   "ก็แค่ล้อเล่น... ใครจะกล้าแกล้งท่าน ขืนทำท่านร้องไห้ไปฟ้องเจ้าพญาเวนไตยอีกเราก็ถูกกักบริเวณหมดสนุกทุกที..." มณีแดงน้อยเติบโตขึ้นในเมืองครุฑ ลูกเทพอยู่ในฐานะพระโอรสบุญธรรม
แต่อย่างไรก็ตามก็มิอาจจะเป็นที่รักของครุฑได้เหมือนกับพระธิดาแท้ๆในเจ้าพญาเวนไตยได้...



"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ Aomm

  • *
  • 20
  • 0
    • อีเมล์
Re: เทพสังวาลย์ เรื่องใหม่ช่วยกันเขียนเข้ามานะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 08:21:28 PM »
ศาสตราเขียนอย่างนี้ไม่ใช่เหรอค่ะไม่ได้เขียนศัตราอย่างนี้