ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

กลอนวรรณคดี

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

bobenz

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2007, 02:41:49 PM »
ภาพเจ้าเงาะเหาะเหิรเดินอากาศ           ทั้งสามารถน่าชมสมศักดิ์ศรี
งามประเทืองเหลืองทองผ่องอินทรี      บนปะรำพิธีมีโคมไฟ
จัดพิธีรับขวัญกันอึงมี่                  บ้างชวนชี้ให้ดูหมู่เขยใหญ่
จมูกโหว่หูแหว่งแสลงใจ              เทียบไม่ได้กับองค์พระสังข์ทอง
ท้าวสามลปรีเปรมเกษมสานต์           นางมณฑาหน้าบานปานฝาห้อง
เข้าลูบหน้าลูบหลังนั่งประคอง          เขยสุดท้องเข้าทีมีบุญญา
จึงตกลงปลงใจไม่ข้องขัด              ประกาศยกสมบัติให้ดังว่า
พระสังข์ทองครองคู่รจนา              ครองพารา"สามล"คนต่อไป 
                                 
                      ..........จบ............

nidajung

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2007, 04:08:10 PM »
โห เยอะมากเลย แต่งเก่งมากเลยค่ะ

bobenz

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2007, 04:25:22 PM »
โห เยอะมากเลย แต่งเก่งมากเลยค่ะ

พี่ไม่ได้แต่งเองจ้าน้องนิด้า Seach เจอก็เอามาลงให้อ่านกันดู แต่ไม่รู้เว็บไรเอามานานแล้วอ่ะ หาเครดิตไม่เจอ อ่านให้จบนะจ๊ะสนุกจริงๆน้า

pakwarn

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2007, 06:47:54 PM »
อ่านแล้วก็อยากให้พี่บอยเล่นสังข์ทองด้วยจังเลยอ่ะอ่ะคะ  ;D

แพรจัง

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2008, 05:54:25 PM »
มันเพราะดีอ่าค่ะ

ขอนะคะ

เอาไปทำการบ้านแหะๆ

มันเพราะหมดเลย

ยกเว้นตอนที่ว่า

นางมณฑาหน้าบานปานฝาห้องน่ะ

แหะๆ ;D ;D ;D ;D

kalrahud

Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2008, 06:48:42 PM »
เท่าที่เคยๆ อ่านบทกลอนวรรณคดีมา

เรื่องสังข์ทอง จัดว่าเป็นเรื่องที่บทกลอน ออกจะขำๆ หน่อย  ไม่ได้เน้นว่าต้องใช้โวหารงดงาม

จะออกแนวพูดกันพื้นบ้าน   อย่างที่ในละคร  ท้าวสามลเรียกพระมเหสีว่า  "แม่มณฑา"

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2008, 07:43:02 PM »
กลอนวรรณคดี
   จะกล่าวถึงความงามที่เคยพบ        เคยประสบสำนวนทั้งโวหาร
ที่ร้อยเรียงเรื่องราวสุดตระการ          ที่เคยพานพบเจอมาแต่เยาว์
สุนทรภู่เอกกวีกรุงสยาม                 สร้างความงามความรักความหมองเศร้า
ตำนานรักยักษีที่เคียงเงา                เสียงปี่เจ้าเพียงสดับยับชีวา
อีกรอยรักถักร้อยเป็นสร้อยเกี่ยว     ให้แลเหลียวหวนซึ้งคำนึงหา
อ้ายผาแดงกับนางไอ่ยอดชีวา         เรื่องความกล้าความมุ่งมั่นพระสุธน
อันปางก่อนกาลหลังครั้งอดีต          หนึ่งคมมีดแหวกอกให้มองหม่น
รถเสนยอดรักน้องอับจน                นางเมรีต้องกลจนตัวตาย
อีกชื่อคาวฉาวโฉ่อิสตรี                  นางกากีคนงามนามสลาย
ความอ่อนแอถูกยื้อแย่งได้อับอาย   สะท้านกายสะท้านใจให้ลำเค็ญ
อีกหนึ่งชื่อลือเลื่องให้หม่นหมอง      นางวันทองสองใจที่ได้เห็น
อันขุนช้างขุนแผนแทบตายเป็น       แย่งเนื้อเย็นยุ่งยากพัลวัน
ถึงรุ่นลูกพระไวยที่ใจแข็ง              ชะตากรรมกลั่นแกล้งแสร้งโศกศัลย์
นางสร้อยฟ้าศรีมาลายอดชีวัน         ต่างฟาดฟันกลั้นแกล้งแย่งสามี
อีกเรื่องชายชาติทหารยอดนักรบ     ได้พาลพบสบตามารศรี
ยอดพธูเมืองแปรแม่มาลี                มิ่งมณีกุสุมาเจ้าจอมใจ
ข้าจะเด็ดเจ็บใจไอ้หงสา                 บังอาจพาน้องนางร้างไฉน
สอพินยากล้าย่ำยีดวงใจ                จะตามไปให้เลื่องชื่อลือสิบทิศ
อันอกโอ้อนิจจาหนอความรัก       พึ่งประจักษ์ว่าร้อนแรงเมื่อแผลงฤทธิ์
พระอิเหนาจะรู้ถูกฤๅรู้ผิด              แสนสงสารจอมจิตที่รักองค์
พระสังข์ทองปองใจรจนา             สิเนหาซ่อนรูปอันหนึ่งหงส์
ทรงสง่าใต้รูปเงาะหลอกเผ่าพงศ์    ทัพณรงค์อินทราท้าตีคลี
รอยรูปอินทร์หยาดฟ้ามาอ่าองค์     ร่างระหงยอยศองค์พระทรงศรี
องค์พระลอแห่งแมนสรวงธานี       พระเพื่อนพี่พระแพงน้องงามต้องตา
เป่าปี่อ้อแทนสำเนียงเสียงแจ้ว         หากยินแล้วจงหวนคิดถึงจิตข้า
ทิพย์มณฑาครวญปี่ถึงพี่ยา              ภัสดาทินวงศ์จงเอ็นดู
สงสารแต่แม่ปลาของลูกเอื้อย           แม่ว่ายน้ำเสียจนเหนื่อยลูกเอื้อยรู้
นางเอื้อยคอยร่อนรำกตัญญู            แม่ปลาบู่อยู่ในคูที่ข้างเรือน
โสนน้อยพระวิจิตรเคียงคู่               เหมือนอุ้มชูค้ำจุนเสมอเหมือน
พรหมลิขิตบันดาลหลงอยู่ในเรือน  ตะวันเดือนมิได้เห็นมาเป็นปี
หนึ่งพรรษาฤดูกาลก็แปรเปลี่ยน     ต่างผันเวียนสามฤดูประการนี้
คิมหันต์รากษสชาตรี                      นามนี้ประจักษ์ว่าราหู
วสันต์เข้าพรรษชลรินจากฟ้า          โอรสาพิรุณแสนเจ้าชู้
พอเหมันต์เทพธิดาน่าเอ็นดู             โฉมตรูจินดาเมขลา


แล้วจะมาต่อนะ ยังไม่จบหรอก 555+


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2008, 07:53:03 PM »
แต่งเองเหรอคะ   อยากอ่านต่อๆๆๆ

เหมือนรวมมิตรหลายเรื่องเลย
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2008, 08:58:37 PM »
ว้าว บุษบงกช แต่งได้ดีมากๆค่ะ นับถือๆๆๆ เพราะมันแต่งยากนะเนี่ย ตอนที่เราแต่งก็มั่วๆอ่ะ แถมไม่เพราะต่างหาก 555
มาแต่งต่อนะคะ แต่งอะไรก็ได้จ้า อ่านหมด ชอบมากๆ เก่งจริงๆ  :-*

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2008, 10:09:37 PM »
 :-* บอกได้คำเดียวว่า ทึ่งมาก แต่งได้ไงอ่ะน้อง ยิม อายุ แค่ 13
แต่งได้ปรมารจารย์ เทพมาก พี่นับถือหนูมากๆเลยนะเนี่ย
แต่งได้เจ๋งขนาดนี้ สงสัยต้อง เอาไปลงวอลเปอร์ละครพื้นซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย เก่งจริงๆเลย

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 05:21:38 PM »
จะยกยอพระกายาชื่นพระกลิ่น   แห่งเทวินทร์สุดแสนเสน่หา
มณีพิชัยบั่นไผ่เมื่อบุญพา                วาสนาพบพระกลิ่นจรุงฤดี
ไชยเชษฐ์ณรงค์เดชบดินทร์เจ้า        ช่างแสนเศร้าสุวิญชาต้องจากหนี
กรรมบังตาพรากรักจากฤดี              แผลงศรกลายเป็นมาลีพบกุมาร
พิกุลทองโรยจากปากมารดา   อัปสราแม่พิกุลน่าสงสาร
นางอุทัยเทวีก็เปรียบปาน   นวลนงคราญแฝงร่างในคางคก
มีพี่นกเต่างูอยู่คอยเลี้ยง      คอยกล่อมเกลี้ยงในร่างสกปรก
ต้นเรื่องร้ายปลายดีน่าตระหนก        นางคางคกสวามีเป็นราชา
เรื่องเล่าในลำน้ำเมืองพิจิตร   สุดวิศิษฏ์ชาลวันเสน่หา
ตะเภาทองน้องนางที่หมายตา   กษัตรากุมภิลเข้าลักนาง
กุมารน้อยฉกาจเก่งเกินใคร   ทรงชัยนามโกมินทร์ผู้กว้างขวาง
กำไลหยกกงจักรและแพรบาง   ทุกทุกอย่างคือศัสตราประจำองค์
กามนิตยอดชายผู้ขายค้า   กับโสภาวาสิฐฐีที่น่าหลง
ทิพย์เกสรเฝ้ารอพี่ลักษณวงศ์   ที่ลืมองค์หลงยี่สุ่นราชธิดา
ว่าวจุฬาลอยลมพรหมลิขิต   เปลี่ยนชีวิตแห่งนางแก้วหน้าม้า
ให้กลายเป็นนางมณีรัตนา   พระปิ่นทองทรงศักดามาพบพาน
อันตัวข้าเกิดมาพันธุ์พยัคฆ์   วัวน้องรักพระฤๅษีเกิดสงสาร
ชุบชีวิตเป็นบุรุษสุดแสนชาญ   ปราบหมู่มารหลวิชัยแลคาวี
อยู่ภายใต้รูปลักษณ์อันพิเศษ   ซุกซ่อนเดชซ่อนลักษณ์ซ่อนราศี
ท้าวแสนปมแสวงหาหนึ่งนารี   ที่นางมีรักแน่อย่างแท้จริง

เดี๋ยวว่างๆจะแต่งมาให้อีกนะจ้า
ขอบคุณทุกๆความเห็นค่า


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2008, 05:30:44 PM »
:-* บอกได้คำเดียวว่า ทึ่งมาก แต่งได้ไงอ่ะน้อง ยิม อายุ แค่ 13
แต่งได้ปรมารจารย์ เทพมาก พี่นับถือหนูมากๆเลยนะเนี่ย
แต่งได้เจ๋งขนาดนี้ สงสัยต้อง เอาไปลงวอลเปอร์ละครพื้นซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย เก่งจริงๆเลย

13 เหรอ!!!!!!!!!!!!!

โอ้  จริงสิ  ตอน 13 เราทำอะไรอยู่นะ

สุดยอดมากเลย 
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2008, 06:48:14 PM »
ตอนนี้ 14 แล้วค่าพี่ๆ เดี๋ยวว่างๆจะแต่งมาให้อ่านอีกนะคะ ตอนนี้กำลังเมามันกลับกลอนตัดพ้อเศร้า
แล้วก็กลอนแนวแบบ พิโรธวาทังนาค่ะ อยู่ในเรื่องแม่อิสรียวินท์ เข้าไปดูที่มุมนักเขียนสิคะ เดี๋ยวจะลงกลอนๆไว้


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2008, 09:24:55 AM »
กลอนจากละคร "วงษ์สวรรค์"

แล้วเหตุการณ์ผ่านไปได้ปรากฎ       
ความรันทดจันทมาศสิ้นวาสนา
นับตั้งแต่เปิดน้ำเต้าอสุรา                 
เซซังมาร้างบาปความอับอาย
ราชครูเปลี่ยนร่างดั่งชายชาติ           
ให้แคล้วคลาดโพยภัยอย่างใจหมาย
วงษ์สวรรค์เข้าใจผิดคิดว่าชาย         
เป็นสหายผูกพันธ์มั่นคงมา

....................................................................

บัดนั้น                                       
ซาไกตีสนิท
ทำใกล้ชิดพระธิดามารศรี               
โดยเข้าใจว่าเป็นชายชาตรี
ที่ดูมีท่วงท่าสง่าครัน                       
อีกทั้งย่ามใบใหญ่สะพายติด
ดูมิดชิดสิ่งใดอยู่ในนั่น                     
จึงขอติดตามไปในไพรวัลย์
สบช่องพลันจะลักเอาของเจ้าไป
....................................................................

กลอนจากละคร วงษ์สวรรค์ ทางช่อง7

ออฟไลน์ ไชยกร

  • *
  • 158
  • 0
  • เพศ: หญิง
    • อีเมล์
Re: กลอนวรรณคดี
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2008, 08:09:54 PM »
มาขอกำลังใจจากพี่ๆบอร์ดนี้นะคะ เร็วๆนี้ ยิมมีโปรแกรมแข่งขันแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ปีที่แล้วเคยไปถึงเหรียญทองระดับภาคเหนือมาแล้ว ปีนี้จะสู้ต่อไปให้ถึงระดับประเทศค่ะ ฝากคำอวยพรหน่อยนะคะ

แล้วก็อีกโปรแกรมหนึ่ง เป็นการแข่งขันแต่งกาพย์ฉบัง 16 ระดับเขต ยินข่าวแว่วมาว่าเข้มมาก ผู้ชนะได้รับรางวัล 1,000 บาท และเป็นตัวแทนสู่ระดับประเทศ ยังไงก็ขอกำลังใจด้วยนะคะพี่ๆชาวบอยคลับ


"ยุคลเดช"
  “ถึงเพลิงผลาญไป่ล้าง ชีวัน ถึงนทีบ่บั่น ชีพด้วย ถึงดาบสักร้อยพัน ฉีกร่าง รานฤๅ ถึงบ่ถึงคราวม้วย ดับได้มีฤๅ”
http://my.dek-d.com/07_70407/writer/view.php?id=564006