แหะ เพิ่งหัด บางที่ก็ว่ายังไม่ดีพอเลย เอ้าตอน สามไปอ่านต่อเลยจ้า ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ
กลางดึกที่เงียบสงัด มีแต่เสียงหริ่งเรไรร้องระงมและเสียงกองไฟลุกโชนแตกดังเปรี๊ยะ กฤตย์ตื่นขึ้นมาเพราะลำคอที่แห้งผาก มองไปรอบด้านจึงรู้ว่าอยู่ลำพังคนเดียว เขารู้สึกกระหายน้ำมากจึงยันตัวเองลุกขึ้นเดินโซเซไปดื่มน้ำในลำของกระบอกไม้ไผ่ที่แขวนไว้ข้างประตูจนหมด เสียงพูดคุยของคนสองคนลอดผ่านช่องเล็กๆของประตูที่แง้มอยู่ กฤตย์เอียงหูแนบฟัง
เจ้าทำสิ่งใดไป รู้ตัวหรือไม่ สิงหราช นักบวชขาวพูดเตือนสติลูกศิษย์
หลานไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่หลานหมั่นไส้ อยากแกล้งเขาเอาความสนุกเพียงเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิด กฤตย์นิ่งฟัง ทั้งที่ใจอยากจะออกไปพูดให้มันรู้เรื่อง ว่าทำไมจึงแกล้งเขา
แต่ความสนุกของเจ้า เกือบทำให้เขาตาย เชียวนะ
หลานผิดไปแล้ว ท่านลุง คืนนี้หลานจะไปนั่งสำนึกผิดที่ถ้ำทั้งคืน หลานไม่ควรทำแบบนี้ ถ้าเขาเป็นอะไรไป หลานจะขอลงโทษตัวเองไปตลอดชีวิต หลาน
ขอตัวไปดูแลเขาก่อนจะขึ้นไปที่ถ้ำ
กฤตย์รีบกลับไปนอนที่เดิม เขาแกล้งทำเป็นหลับสนิท สิงหราชเข้ามานั่งข้างๆ ใช้มือแตะหน้าผากพร้อมถอนลมหายใจยาวก่อนเดินออกไปจากกระท่อม เขาลืมตามองตาม ความโกรธเคืองพุ่งขึ้นมาในใจจนแทบทะลัก
สิงหราชไปนั่งสำนึกความผิดที่ถ้ำจนฟ้าสาง เมื่อเขาเดินกลับมากระท่อมก็พบว่าที่นอนว่างเปล่า หนุ่มแปลกหน้าหายไป สิงหราชออกตามหาจนทั่วด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย ในใจหวังว่ากฤตย์จะไม่คิดอุตริหนีออกไปเหมือนคราวก่อน แล้วก็ต้องโล่งใจเมื่อเห็นเดินหาบน้ำขึ้นมาจากเขา
เจ้ายังไม่หายดี ไม่ควรออกแรงนะ กฤตย์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเทน้ำใส่ภาชนะ แล้วรีบเดินหาบชะลอมเปล่าไปอย่างรวดเร็ว
นี่ เจ้าไม่ฟังข้าหรือไง เจ้าควรไปนอนพัก กฤตย์ยังคงก้มหน้าก้มตาเดินโดยไม่รับรู้อะไร สิงหราชเริ่มโมโห
เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง สิงหราชตะเบ็งเสียงดังขึ้น กฤตย์หยุดมองตาขวาง ก่อนจะตอบห้วนๆ
ก็ผมบอกแล้วไง ว่าจะทำงานให้ทุกอย่างแลกกับการกลับสู่บ้าน แล้วจะเอาไงกับผมอีก สิงหราชนิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก
เรื่องนั้น ความจริง
. เขาตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าจะเริ่มสารภาพตรงไหนก่อนดี
ผมตอบให้ก็ได้ คุณไม่ได้ตั้งใจอยากจะพาผมกลับไปจริงๆ แค่อยากสนุก อยากเห็นไอ้หน้าเซ่อ ทำอะไรโง่ๆ แค่นั้นใช่ไหม ผมมัน .. โธ่โว้ย กฤตย์พูดเร็วจนแทบไม่หายใจ พร้อมเหวี่ยงหาบชะลอมออกไปด้วยความโมโหสิงหราชถึงกับหน้าซีด
ข้า
. ขอโทษเจ้า ข้าเสียใจจริงๆที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ข้าสัญญาว่าข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน แล้วงานทั้งหมดเจ้าไม่ต้องทำมัน เจ้าควรกลับไปพักอย่างเต็มที่ สิงหราชก้มลงเก็บหาบชะลอมขึ้นมาจากพื้น
ไม่ต้องหรอก ผมจะทำ แต่ไม่ใช่ว่าเพราะหวังว่าคุณจะพาผมกลับบ้าน ผมแค่อยากตอบแทนบุญคุณผู้ช่วยชีวิตผมไว้ แล้วผมจะไปจากที่นี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะไปเพียงลำพัง ผมคงไม่รบกวนคุณหรอก กฤตย์พูดประชดอย่างไม่แยแสต่อความรู้สึกของคนฟัง เขายื้อแย่งหาบชะลอมตักน้ำ
แต่นี่เป็นงานของข้า เจ้าอย่ามายุ่ง สิงหราชเริ่มมีน้ำเสียงแข็งกลับบ้าง ต่างคนต่างอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว
งั้นเราต่างคนต่างทำ คุณก็ทำของคุณ ผมก็ทำของผม กฤตย์ดึงชะลอมออกมาจากหาบใบหนึ่ง เดินลิ่วลงจากเขามุ่งหน้าไปที่น้ำตก
ทั้งสองทำงานของตนเองโดยไม่พูดจากัน จนเวลาเกือบเที่ยงวัน ขณะที่เขากำลังเรียงท่อนฟืนขึ้นเป็นชั้นๆอย่างเป็นระเบียบ สิงหราชเดินมาข้างหลัง กฤตย์แกล้งทำเป็นไม่สนใจ และยุ่งอยู่กับท่อนฟืนที่กองระเกะระกะ เขาไม่อยากที่จะหันกลับไปเผชิญหน้ากันเพราะโทสะยังคุกกรุ่นไม่หาย
เจ้าคนแปลกหน้า พระอาจารย์อยากพบเจ้า กฤตย์แสร้งเป็นไม่ได้ยินสิงหราช เขายังคงตั้งหน้าตั้งหน้าเรียงฟืนต่อราวกับมันเป็นตัวต่อของเล่นที่น่าสนุก
พระอาจารย์อยากคุยอะไรบางอย่างกับเจ้า ถ้าเสร็จแล้ว ไปพบท่านหน่อย สิงหราชย้ำอีกครั้ง ก่อนเดินสะบัดผมดำหยิกยาวที่รวบไว้เหมือนหางม้าออกไป กฤตย์มองตามหลัง
ผู้ทรงศีลอยากพบเรา ก็ดีเหมือนกัน จะได้กราบลาท่านเสีย เขาคิดอยู่ในใจ
เขาค่อยๆคลานไปบนระเบียงไม้ส่วนที่ยื่นมาข้างหน้าของกระท่อม เพิ่งสังเกตได้อย่างละเอียดว่ากระท่อมนี้สร้างจากไม้ทั้งหลัง เป็นทรงเตี้ยๆ มุงด้วยหลังคาจากเหมือนบ้านชาวบ้านตามชนบททั่วไป หากแต่การจัดเรียงไม้เป็นข้างฝาดูเป็นแถวยาวเรียงชิดกันอย่างประณีต หลังคาถูกมุงอย่างแน่นหนาและคงทนต่อทุกสภาพอากาศ
เจ้าค่อยยังชั่วหรือยัง มาณพน้อย กฤตย์สะดุ้งเล็กน้อย ท่านพราหมณ์มานั่งข้างหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเขาไม่ทันเห็น
ดีขึ้นมากแล้วครับ ผมขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ทรงศีล ที่ช่วยชีวิตผมไว้ถึงสองครั้ง ชาตินี้ไม่รู้ว่าผมจะตอบแทนบุญคุณอย่างไรดี
ดี ดีมาก ดีจริงๆ รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยชรา แม้ดวงตาที่ลึกโปนเข้าไปข้างในจนเหมือนน่ากลัว แต่กฤตย์กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด
ผมขอกราบลาท่านเสียตรงนี้ ผมจะขอเดินทางกลับบ้านเลยครับ ถ้าเป็นไปได้วันใดวันหนึ่ง ผมได้เจอท่านอีก ผมจะขออยู่ตอบแทนพระคุณไปช่วยชีวิต แต่เวลานี้ ผมต้องกลับไปดูแลแม่ผมครับ กฤตย์พนมมือกล่าวอำลา ผู้ทรงศีลมองหน้าเขาอย่างพินิจ มีความกังวลใจอยู่ลึกๆ
ความกตัญญูของเจ้า จะพาเจ้าอยู่รอดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆได้ด้วยดี แต่มาณพน้อย ดูก่อน ข้าอยากบอกเจ้าว่า เจ้ายังไม่สามารถกลับบ้านของเจ้าได้ในตอนนี้ ที่ที่เจ้าจากมากับที่นี่มันห่างไกลกันมากนัก
กฤตย์อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะพบคำตอบกลับมาเช่นนี้
เพราะอะไรครับที่ว่าไกลมาก ไกลแค่ไหน ผมต้องเดินทางกี่ปีกี่เดือนครับ แล้วจะเจออะไรบ้าง
อืม ระยะทางมันไม่ได้ไกลนัก แต่มันไกลด้วยระยะเวลา เป็นเวลายาวนานเป็นพันราตรีเชียว พราหมณ์สิกขาพยายามจะอธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ผมไม่เข้าใจ กฤตย์เริ่มจะงงงวย ท่านผู้ทรงศีลพูดเรื่องอะไร ยาวนานเป็นพันราตรี นิทานอาหรับหรือไง
เอาละ ข้าจะไม่อ้อมค้อม มาณพน้อย เจ้าถูกอาถรรพ์ของสุริยะมนตราผลักให้เจ้ามาจากอีกที่หนึ่งที่ไกลถึงพันปี เจ้าอยู่ในสถานที่ที่เดิมทุกอย่าง ต่างกันเพียงทิวาราตรี ทีนี้เจ้าเข้าใจหรือยังว่าทำไมตาถึงบอกว่าเจ้ายังกลับไม่ได้
ไม่จริงครับ ผมไม่เชื่อ ท่านผู้ทรงศีลกำลังจะบอกว่าผมย้อนเวลามาหรือครับ ท่านกำลังพูดเล่นกับผมเล่นใช่ไหม ให้ผมสบายใจ กฤตย์อยากหัวเราะออกมาดังๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ลูกศิษย์เขาเพิ่งจะหลอกเขาไปแล้ว คราวนี้จะมาไม้ไหนอีก
เจ้าคนแปลกหน้า โง่งม เจ้าบอกอยู่ว่าพระอาจารย์เป็นผู้ทรงศีลจะมุสาได้อย่างไร เจ้ากำลังกล่าวคำปรามาสต่อผู้ประพฤติธรรม ระวังจะเป็นบาปกรรม เจ้าลองใช้ปัญญาของเจ้าคิดดูให้ดีสิว่าที่ผ่านมาเจ้าได้พบอะไรที่ไม่เจอมาก่อนหรือไม่ สิงหราชต่อว่าต่อขานเป็นชุดใหญ่ขณะกำลังเดินมานั่งข้างๆ ในมือถือจักสานที่กำลังขึ้นรูป เพราะชะลอมใบเมื่อวานถูกกฤตย์เหวี่ยงจนปากชะลอมหลุดไปด้านหนึ่ง สิงหราชจึงต้องสานขึ้นมาใหม่
กฤตย์นิ่งคิดปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา เกิดแสงสว่างเจิดจ้าประหลาดที่ก้นบ่อโบราณ แล้วเขาก็โผล่ที่กลางป่า ถูกพวกค้าทาสจับตัวแล้วเกือบถูกตัวประหลาดบินได้กิน จริงอย่างที่สิงหราชบอกทุกอย่าง ในโลกของเขาที่เติบโตขึ้นมา ไม่น่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่ได้
กฤตย์เงยหน้าขึ้นมองบุคคลทั้งสองด้วยอยากได้ยินคำตอบที่กระจ่างชัดกว่านี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่พระพราหมณ์บอกเขา นั่นหมายความความเขากำลังถูกกักขังในอดีตกาลที่ไม่มีใครที่เขารู้จักอยู่เลย แล้วเขาจะทำอย่างไรดี อารมณ์แห่งความสิ้นหวังเริ่มประดังเข้ามาเหมือนคลื่นยักษ์มหึมา เกิดความเงียบเชียบขึ้นมาชั่วเวลาหนึ่ง มีแต่เสียงของลมพัดใบไม้ปลิวร่วงลงที่พื้นดิน กฤตย์ฟุบหน้าลงไปอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
ผม
. ไม่สามารถกลับบ้านผมได้แล้วใช่ไหม โธ่
แม่ครับ
กฤตย์เสียงสั่นเครือเหมือนกำลังอยากจะร้องไห้ออกมา
เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าบอกรึ ว่าเจ้าไม่สามารถกลับบ้านได้ในตอนนี้ พระอาจารย์ของสิงหราชกล่าวย้ำหนักแน่น
กฤตย์เงยหน้าขึ้นมอง เขาเริ่มมีความหวังขึ้นมาลางๆ
จริงหรือครับ งั้นเมื่อไรครับ แล้วผมจะกลับอย่างไร ท่านผู้ทรงศีลช่วยผมได้ไหมครับ
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเพียงผู้เดียว จะช้าหรือเร็ว จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจเพียรของตัวเจ้าเอง ข้าจะช่วยเท่าที่ทำได้ เอาละ จะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้ สุริยะมนตราจะสำแดงเวทมนต์ เปิดทวารแห่งภพออกมา เพราะมีอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ อย่างแรกเมื่อเกิดเหตุอาเพศที่พระอาทิตย์ถูกบังให้มืดมิดในเวลาไม่สมควร อย่างที่สองเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ทรงเวทมนตร์กล้า ร่ายสุริยะมนตรา นักบวชขาวอธิบายยาวยืด กฤตย์ตั้งใจฟังแม้จะรู้สึกเริ่มมึนหัวขึ้นมา
ที่เจ้าประสบมาน่าจะเป็นอย่างแรกมากว่า ดังนั้นถ้าเจ้าจะกลับไป ก็ต้องรอเหตุการณ์เหมือนที่เคยเกิดกับเจ้าตอนมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจยาวนานหลายสิบปีก็เป็นได้
ไม่ เจ้าก็ต้องเป็นผู้ร่ายคาถาเอง สิงหราชช่วยเสริม ยิ่งทำให้กฤตย์เริ่มปวดขมับด้านขวาเพิ่มขึ้นมา
ผมสงสัย แล้วทำไม ท่านผู้ทรงศีลถึงไม่ช่วยร่ายพระคาถา อะไรนะ สุริยะมนตรา เพื่อพาผมกลับไปละครับ
เพราะข้ามิอาจล่วงรู้สภาพที่เจ้าจากมา ไม่รู้ว่าอยู่ ณ ภพใด จึงไม่สามารถพาเจ้ากลับไปที่เดิมได้ เจ้าเข้าใจไหมว่าเจ้าต้องเป็นคนร่ายเวทย์เอง พระอาจารย์พยายามอธิบายสิ่งที่ยากเย็นเหลือเกินแก่เขา ราวกับสอนเขาหัดอ่านเขียนหนังสือ
แล้วผมจะทำได้หรือครับ ผมไม่ได้เรื่องสักอย่าง อ่อนแอ ต้องให้แม่คอยดูแล ผม.. ไม่น่าจะทำอะไรเป็น
ทำไมเจ้าตัดพ้อตัวเองเสียก่อนละ เด็กน้อยก่อนวิ่งได้ ต้องหัดลุกขึ้นก่อนเสมอ พระอาจารย์คงเห็นอะไรบางอย่างในตัวเจ้า ถึงได้คิดว่าเจ้าน่าจะทำได้ ถ้าเจ้ารักแม่เจ้า อยากกลับไป เจ้าก็ต้องทำให้ได้ สิงหราชพูดให้กำลังใจพร้อมตบบ่าเบา กฤตย์ปวดร้าวทั้งหัว ไข้เริ่มกลับ เขาใช้มือบีบขมับ พร้อมส่ายหัวเล็กน้อย
ข้าว่าเจ้าควรไปนอกพัก เจ้าต้องนอนแล้วตอนนี้ ข้าจะพาเจ้าไป ชายหนุ่มทั้งสองกราบลาพระอาจารย์ กฤตย์กลับมานอนพักในกระท่อม สักพักก็เริ่มหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาที่สิงหราชปลุกปล้ำให้ดื่มจนหมด