ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 01:39:04 PM »
                            ...องค์วงศ์อสัญแดหวา   
เป็นใหญ่ในแคว้นแดนชวา   ร่วมบิดรมารดาเดียวกัน
รุ่งเรืองฤทธาศักดาเดช      ได้ดำรงนคเรศเขตขัณฑ์







พระเชษฐาครองกรุงกุเรปัน   ถัดนั้นครองดาหาธานี
องค์หนึ่งครองกาหลังบุรีรัตน์   องค์หนึ่งครองสิงหัดส่าหรี
เฉลิมโลกโลกาธาตรี      ไม่มีผู้รอต่อฤทธา
ประไหมสุหรีทั้งสี่กรุงนั้น      ล้วนเป็นพงศ์พันธุ์หมันหยา
นับเนื่องอยู่ในวงศ์เทวา      เลิศลบลือกว่าทุกธานี




**องค์สีปัตราของวงศ์อสัญแดหวามีตำแหน่งมเหสี 5 ตำแหน่ง คือ ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหลาหงี ตามลำดับ



เกิดฟ้าฝนตกหนักติดต่อกันนาน 7 วัน 7 คืนจนชาวบ้านไม่ได้ลืมหูลืมตา ไม่ใช่เรื่องธรรมดาต้องเกิดอะไรขึ้นซักอย่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2009, 01:40:17 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 01:43:24 PM »
กรุงกุเรปัน องค์สีปัตหราได้บนบานต่อองค์ปะตาระกาหลา เทวดาบรรพบุรุษของวงศ์อสัญแดหวา
"ขอองค์ปะตาระกาหลาโปรดปรานี   ครั้งนี้ขอให้สมชโลมจิต
ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร      เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต
ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์   ลือสะท้านทศทิศธรณี"

องค์กุเรปันกลัดกลุ้มพระทัย ประมาหนา(โหร)บอกให้สบายพระทัยเถอะ ไม่มีเหตุร้ายหรอก องค์กุเรปันว่าฝนตกมา 7 วัน 7 คืนแล้ว ประไหมสุหรีก็เจ็บท้องมา 7 วัน 7 คืนแล้วเหมือนกัน เป็นห่วงทั้งประไหมสุหรีทั้งประชาชน ตำมะหงงบอกตรวจดวงชะตาแล้วไม่มีเหตุร้ายแน่นอน





ประไหมสุหรีนิหลาอระดาก็เจ็บท้องจะคลอดมา 7 วันแล้ว (ถ้าเป็นคนจริงตายไปแล้วนะเนี่ย) โดยมี มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหลาหงีช่วยกันทำคลอด





”ซึ่งฟ้าร้องฟ้าแลบแปลบปลาบ   ก็เพราะอานุภาพพระโอรส
ประสูติมาเพื่อเป็นใหญ่      ชิงชัยในชวาทั้งหมด
ระตูทั้งหลายมาประณต      อยู่ใต้บทมาลย์บารมี
แต่....”

องค์กุเรปันถามว่าแต่อะไร
“แต่เมื่อจำเริญวัยได้สิบห้า   พระชะตาอับเศร้าหมองศรี
ราหูทับลักขณาเป็นกาลกิณี   จะต้องพรากจากธานีถึงสามครา
จะได้ทุกข์เพราะสตรีเป็นสาเหตุ   ต้องพระเวทย์มะงุมมะงาหรา
สิบสามปีถึงจะกลับคืนมา    ครอบครองพารากุเรปัน”

แม้จะได้โอรสมีบุญญาธิการแต่ก็ต้องมีเรื่องให้หนักใจ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2009, 03:10:59 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 01:49:33 PM »
ในที่สุดประไหมสุหรีก็ประสูติพระโอรสสมความคาดหมาย และฝนก็หยุดตกทันที





มเหสีองค์อื่นขึ้นมาเฝ้าองค์กุเรปัน ทูลด้วยความดีใจว่าสมพระทัยแล้ว องค์กุเรปันถามว่าผู้ชายเหรอ ลิกูหันไปพูดกับโอรสของนาง “เจ้าได้เป็นพี่ชายแล้วนะ กะหรัดตะปาตี” กะหรัดตะปาตีเป็นโอรสองค์กุเรปันแต่เกิดจากลิกู





”พระโอรสละม้ายคล้ายพระองค์นักนะมังคะ ดำแดงแน่งเนื้อนวลผจง น่ารักรูปทรงส่งศรี” มะเดหวี(มั้ง)ทูล ลิกูเสริมว่า “พอประสูติฝนก็ขาดเม็ดทันทีเลยนะมังคะ” องค์กุเรปันนึกได้ “เออ จริงสิ พี่ก็กำลังตื่นเต้นเลยไม่ทันสังเกตเลยเนี่ย” มะเดหวีว่าตอนประสูติก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ ทุกคนก็ได้ยิน “ไอ้ลูกคนนี้เนี่ย ท่าทางมันจะเอาเรื่องนะ” แล้วก็ทรงนึกได้ว่าจะเหมือนคำทำนาย





**มังคะ = เพคะ  เป็นคำโบราณ  บ้างว่าเป็นรากศัพท์ของคำว่า เพคะ  เรียกจนกระทั่งเพี้ยนเป็น เพคะ 
ปล.อธิบายตามภูมิความรู้ที่มีอยู่แต่ดั้งเดิม ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 03:30:01 PM »
ฝ่ายประไหมสุหรีดาหราวาตีก็มีพระสุบินว่าได้เดินอยู่ในอุทยานดอกไม้ที่งดงามเหมือนสรวงสวรรค์ และก็เห็นดอกไม้สวรรค์ช่อหนึ่ง งดงามนัก





และดอกไม้ช่อนั้นก็ลอยลงมาในพระหัตถ์ ประไหมสุหรีดีพระทัยมาก แต่แล้วก็มีพญาครุฑบินมาโฉบเอาดอกไม้ช่อนั้นไป นางจึงตกพระทัยตื่น





รุ่งเช้าองค์ดาหาก็ให้ทำนายพระสุบิน “เป็นเรื่องดีพระเจ้าค่ะ ที่องค์ประไหมสุหรีทรงพระสุบินว่าได้ถือซึ่งดอกไม้ทิพย์อันมีกลิ่นหอมนั้นทำนายได้ว่าทรงครรภ์ครั้งนี้จะประสูติพระธิดาแน่นอนพระเจ้าค่ะ” ทั้งประไหมสุหรีและมะเดหวีต่างพอใจ แล้วประไหมสุหรีก็ถามเรื่องที่มีครุฑมาโฉบเอาดอกไม้ไป ประมาหนาอ้ำอึ้ง องค์ดาหาถามซ้ำ

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 03:38:30 PM »
”ครุฑนั้นหมายถึงผู้มีบุญญาธิการ ที่ทรงพระสุบินว่าครุฑนั้นได้บินมาโฉบเอาดอกไม้ไปจากพระหัตถ์ หมายความว่าผู้มีบุญจะพรากเอาตัวพระธิดาไปเสียจากกรุงดาหาพระเจ้าค่ะ” ฟังคำทำนายแล้วก็ให้หนักใจกันอีก



**ดินแดนชวานับถือพญาครุฑ ต่างกับสุวรรณภูมิ นับถือ พญานาค



เมืองหมันหยา
ประไหมสุหรีกุเรปัน ประไหมสุหรีดาหา ล้วนเป็นธิดาจากเมืองหมันหยาทั้งสิ้น ที่เมืองหมันหยาเหลือเพียงจินดาส่าหรีน้องของประไหมสุหรีทั้งสองอยู่ครองเมืองกับระตูหมันหยา และพระอัยยิกาพระมารดา
ประไหมสุหรีหมันหยาถามว่าจะเขียนลายผ้าเป็นรูปอะไร พระอัยยิกาตอบว่าเป็นรูปครุฑส่งไปกรุงกุเรปันให้โอรสพี่สาวเจ้า นางถามว่าแน่พระทัยได้ยังไงว่าเป็นโอรส ”เถอะน่า เชื่อแม่เถอะ พี่สาวของเจ้าจะต้องคลอดลูกคนแรกเป็นชายเหมือนกับเจ้านั่นแหละ” ในท้องของประไหมสุหรีหมันหยาก็ยังมีอีกคนนะ นี่ท้องที่ 2 แล้ว “แล้วนี่ดาหยนไปเล่นที่ไหน” พระอัยยิกาถามถึงโอรสองค์โตของประไหมสุหรีหมันหยา





ว่าแล้วระเด่นดาหยนก็วิ่งมา “ทูลหม่อมยายเจ้าขา ทรงทำอะไรอยู่เจ้าคะ” พระอัยยิกาตอบว่าเขียนภาพให้น้องของเจ้า ดาหยนสงสัยแล้วหันมากอดพระมารดา “น้องคนนี้รึเปล่าเจ้าคะ”

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 03:43:16 PM »
”ไม่ใช่น้องที่อยู่ในท้องแม่นี่หรอกลูก เป็นน้องอีกคนนึงเป็นลูกของป้าเจ้า อยู่นู่นแน่ะ อยู่กรุงกุเรปันโน่น” ดาหยนสงสัยทำไมต้องเรียกกรุง เรียกเมืองเหมือนเมืองหมันหยาไม่ได้เหรอ พระอัยยิกาตอบไม่ได้หรอกก่อนจะอธิบาย “เมืองหมันหยาของเราน่ะเป็นแค่เมืองเล็กๆ จะไปเทียบกับราชธานีของวงศ์อสัญแดหวาน่ะไม่ได้หรอก” ดาหยนถาม อสัญแดหวาคืออะไร “อสัญแดหวา แปลว่าเทวดา วงศ์อสัญแดหวาก็แปลว่าวงศ์ตระกูลที่มาจากเทวดาไง จ้าวปะตาระกาหลาที่ลูกไหว้ก่อนนอนทุกคืนไง” ดาหยนสงสัยแล้วทูลหม่อมป้าไปอยู่กับวงศ์อสัญแดหวาได้ไง





พระอัยยิกาหัวเราะหลาน ดาหยนล้มลงนอนตักฟังพระอัยยิกาเล่า “แต่ก่อนเนี้ยเมืองหมันหยาของเรามีธงปักอยู่กลางเมือง เสาธงเนี่ยใครจะดึงเท่าไหร่ก็ไม่ขยับเขยื้อน ทวดของเจ้าก็เลยประกาศว่าถ้าใครสามารถถอนเสาธงขึ้นได้ก็จะยกลูกสาวให้ อยู่มาวันหนึ่งก็มีชายหนุ่มสี่คนสามารถถอนเสาธงนี้ขึ้นได้ แต่มารู้ทีหลังว่าชายหนุ่มน่ะเป็นเทวดาแปลงลงมา ทวดของเจ้าก็เลยต้องยอมยกลูกสาวทั้งสี่คนให้ แล้วเทวดาทั้งสี่องค์ก็ไปสร้างเมืองชื่อว่า กรุงกุเรปัน กรุงดาหา กรุงกาหลัง แล้วก็กรุงสิงหัดส่าหรี มีลูกมีหลานสืบต่อกันมาจนถึงรุ่นยายนี่ล่ะ ยายก็มีลูกสาว 3 คน คนโตยายก็ส่งไปแต่งงานกับท้าวกุเรปัน คนที่ 2 ก็ไปแต่งงานกับท้าวดาหา และคนที่3 ก็คือแม่ของเจ้านี่ล่ะ” แต่พอก้มลงมาดูหลานน้อยในตัก “อ้าว หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย”





ม้าเร็วจากกรุงกุเรปัน ส่งสาสน์มาถึงกรุงดาหา องค์ดาหาถามว่าเจ้าพี่กุเรปันเป็นยังไงบ้าง แล้วมีเรื่องอะไร ม้าเร็วถวายพระราชสาสน์ถึงองค์ดาหา

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 03:48:15 PM »
มะเดหวีลงไปรับสาสน์มาถวาย องค์ดาหาทรงเปิดสาสน์อ่านแล้วยิ้ม





กลับมาที่หมันหยา พระอัยยิกาว่า เห็นมั้ยเป็นพระโอรส ระตูหมันหยาว่ายังคิดไม่ออกเลยว่าจะส่งอะไรไปถวายให้สมพระเกียรติ “คราวระเด่นกะหรัดตะปาตีที่ประสูติจากลิกูมเหสีรอง หมันหยาเราได้ส่งข้าทาสชายหญิงอย่างละร้อยไปรับพระขวัญแต่คราวนี้เป็นพระโอรสที่ประสูติจากประไหมสุหรี เป็นองค์รัชทายาทที่จะทรงกรุงกุเรปันต่อไปภาคหน้า” ระตูหมันหยาว่ากรุงกุเรปันใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในราชธานีทั้งสี่ ต่อให้ทรัพย์สินทั้งหมดของหมันหยาก็คงไม่เท่าเศษเสี้ยวกรุงกุเรปันหรอก พระอัยยิกาก็คิดเช่นนั้น กรุงกุเรปันคงไม่ยินดียินร้ายกับข้าวของเงินทองหรอก





ประไหมสุหรีถามว่าแล้วจะส่งอะไรไป ดาหยนหันไปถามพระอัยยิกา “จะส่งอะไรไปกรุงกุเรปันเหรอเจ้าคะ ทูลหม่อมยาย ให้ชายไปด้วยนะเจ้าคะ” พระอัยยิกาเลยเกิดไอเดีย “อยากไปกรุงกุเรปันเหรอลูก” ประไหมสุหรีท้วงไม่อยากให้ส่งดาหยนไป ไม่ทรงรักสงสารหลานหรือ

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 03:51:53 PM »
”ก็เพราะรักแล้วก็อยากเห็นหลานได้ดีนะสิ แม่คิดว่าควรที่จะส่งดาหยนเนี่ยไปอยู่กรุงกุเรปัน” ระตูและประไหมสุหรีมองหน้ากัน “หมันหยาของเราน่ะก็แค่เมืองเล็กๆ ค่ายคูประตูรบก็ไม่ได้มั่นคงอะไรนักหนา สรรพวิชาบรรดามีที่ไหนจะสู้กรุงกุเรปันได้ ถ้าดาหยนไปอยู่ที่นั่นก็จะได้เรียนได้รู้ ได้อยู่ใกล้ชิดองค์สีปัตหรา ประไหมสุหรีกุเรปันก็ใช่ใครอื่น เป็นป้าแท้ๆ ของดาหยน จะซุกซนผิดพลาดอะไรไปบ้างก็คงเมตตาไม่ถือโทษ โบราณท่านว่าไว้ บุญแล้วจึงได้ไปเป็นข้า พระผู้วงศ์เทวากระยาหงัน” พ่อแม่จึงต้องยอมส่งดาหยนไปกรุงกุเรปัน





ถึงเวลาไป ดาหยนกราบลาทูลหม่อมแม่ ทูลหม่อมยาย ระตูหมันหยาบอกขบวนพร้อมแล้ว ดาหยนจึงหันมากราบลาทูลหม่อมพ่อ “ไม่เอาลูก ไม่ร้องไห้ จำไว้นะลูก ลูกผู้ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักหน ไปลูก พ่อจะไปส่ง”





ระตูหมันหยาพาโอรสออกไป ก่อนไปก็กอดทูลหม่อมแม่อีกที “อย่าลืมส่งข่าวมานะคะว่าน้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” แล้วก็ออกไปส่งดาหยนกัน

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ นานะจัง

  • *
  • 7234
  • -3
  • เพศ: หญิง
  • นิศาอรพินท์
    • อีเมล์

ออฟไลน์ Moon

  • **
  • 782
  • 0
  • เพศ: หญิง
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 04:54:40 PM »
สนุกมากๆเลยค่ะ  ชอบเครื่องแต่งตัวของเรื่องนี้จัง สวยมากๆ  ชอบชุดของบุษบาค่ะ  :-*

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 05:41:17 PM »
ว้าวๆ มาแล้ว โหชอบเครดิตจริงๆเลยฟร้อนสวยมาก

เลือกอยู่ตั้งนานแน่ะ  พยายามเลือกที่มันพอจะเข้ากับเรื่อง
แล้วเทพศิลป์เริ่มอ่านไปบ้างยังคะ  เร็วๆ  อยากเห็นคอมเมนต์ :icon_question:


สนุกมากๆเลยค่ะ  ชอบเครื่องแต่งตัวของเรื่องนี้จัง สวยมากๆ  ชอบชุดของบุษบาค่ะ  :-*

เครื่องแต่งตัวเรื่องนี้สวยมากๆ จริงๆ ค่ะ  สวยทุกตัวเลย  โปรดักชั่นอื่นๆ อาจจะยังสู้สามเศียรไม่ได้  แต่เรื่องโลเคชั่นโอเค  ยิ่งเสื้อผ้าเรื่องนี้สวยสุดๆ



เมืองดาหา
ประไหมสุหรีก็พระครรภ์แก่ มะเดหวีแกะอุบะมาถวาย 2 มเหสีนี้เค้ารักกันดีเนอะ มะเดหวีถามพระอาการ ประไหมสุหรีก็บ่นปวดหลังปวดเอว อุดอู้อยู่แต่ในห้อง จะลงไปเดินดูดอกไม้ก็ไม่ได้ ทูลกระหม่อมทรงห้าม มะเดหวีบอกไม่ออกก็ดีใกล้ประสูติ เกิดเจ็บท้องขึ้นมา ประไหมสุหรีกังวลเรื่องคำทำนายของประมาหนา มะเดหวีบอกไม่เห็นต้องกังวลเลยมีลูกสาวก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนพรากไป แล้วยิ่งเป็นผู้มีบุญญาธิการก็ยิ่งน่ายินดี





เมืองหมันหยา
ประไหมสุหรีก็เจ็บท้องใกล้คลอด แต่พระอัยยิกาบอกให้ทนก่อนอย่าเพิ่งคลอด ให้คลอดตอนรุ่งอรุณตามฤกษ์ยามที่ดี (โอย ปวดแทน กุเรปันเจ็บ 7 วัน 7 คืนไม่คลอด หมันหยาจะคลอดก็ยังไม่ให้คลอด) นางกำนัลก็บอกให้เบ่งๆ พระอัยยิกาเอ็ดว่า ก็บอกว่าอย่าเพิ่งคลอด





ระตูหมันหยาก็นั่งรอกระวนกระวายอยู่หน้าห้อง พระอัยยิกาเดินออกมาก็ถามว่าเจ็บท้องนานแล้วทำไมยังไม่คลอด “ดีแล้วล่ะ ให้พ้นยามนี้ไปซะก่อน รอให้พระอาทิตย์ขึ้นก็ค่อยช่วยกันข่มท้องอีกที”

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 05:44:24 PM »
ระตูหมันหยาถามทำไมต้องรอ “รอฤกษ์ดีน่ะสิ เด็กถ้าตกฟากยามนี้ ถ้าเกิดเป็นชายก็จะขี้โรคแล้วก็อายุสั้นแล้วถ้าเป็นหญิงก็จะอาภัพ แต่ถ้าเกิดตอนใกล้รุ่งสางได้อรุณล่ะก็ถ้าเป็นชายก็จะแข็งแรงกล้าหาญแล้วก็อายุยืนและถ้าเป็นหญิงก็จะมีเสน่ห์แล้วก็น่ารัก” ระตูหมันหยาเห็นด้วย พระอัยยิการีบกลับเข้าไปในห้อง ระตูหมันหยาจึงนั่ง...รอต่อไป! สู้ๆ!! :icon_question:





เวลาผ่านไปจนได้ฤกษ์ยามดี เสียงเด็กร้องออกมา พระอัยยิกาออกมาบอกว่าได้ลูกผู้หญิง ระตูหมันหยาดีใจรีบตามเข้าไป





ตะวันขึ้น ประไหมสุหรีดาหาก็เจ็บพระครรภ์จะคลอดเหมือนกัน คลอดจะไม่ไหวแล้ว บาหยัน (พี่เลี้ยง) ก็ช่วยเบ่งจนจะหมดลมแล้ว มะเดหวีให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 05:50:08 PM »
มะเดหวีบอกให้ไปเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามาบ้าง เมื่อเปิดหน้าต่าง สายลมก็พัดพากลิ่นหอมของหมู่มวลดอกไม้บานสะพรั่งเข้ามา





มะเดหวีว่ากลิ่นอะไรหอมเหลือเกิน ประไหมสุหรีได้กลิ่นหอมก็จำได้ว่าเป็นกลิ่นดอกไม้ในความฝัน และความเจ็บทั้งหมดก็หายเป็นปลิดทิ้ง





กรุงกุเรปัน
องค์กุเรปันมาพบมเหสีทั้งหลายที่รออยู่ในพลับพลา ประไหมสุหรีขอทายว่าหมันหยาส่งอะไรมาเป็นของกำนัลโอรส “พี่ว่าคราวนี้น้องทายไม่ถูกหรอก” ประไหมสุหรีสงสัย “อะไรมังคะ ขอแปลกพิสดารมากนักหรือมังคะ”

**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 05:54:22 PM »
”จะว่าแปลกก็แปลก ไม่แปลกมันก็ไม่แปลกนะ” แล้วก็หันไปสั่งบาหยันเฒ่า ”ออกไปอุ้มของที่ตำมะหงง (อำมาตย์) เค้านำมาถวายที่หน้าตำหนักสิ ถ้าอุ้มไม่ไหวนะ จูงมาก็ได้” ประไหมสุหรียิ่งสงสัยของอะไรใหญ่ถึงต้องลากต้องจูง “ตอนนี้มันก็ยังไม่ใหญ่ไม่โตหรอกนะ แต่ต่อไปต้องโตแน่ๆ” ลิกูทายว่าต้นไม้เหรอ องค์กุเรปันหัวเราะบอกอย่าทายเลย ทายก็ไม่ถูก คอยดูดีกว่า





แล้วของกำนัลก็เดินมาเองโดยไม่ต้องอุ้มต้องจูง ประไหมสุหรีเห็นแล้วถามว่าใคร ดาหยนแนะนำตัวน่ารัก ประไหมสุหรีเอ็นดูเรียกเข้ามาขอกอดหน่อย น่ารักจริง





องค์กุเรปันลำดับญาติให้ดาหยนฟังจะได้ไม่งง พระราชาเรียก องค์สีปัตหรา มีมเหสี “ประไหมสุหรีใช่มั้ยพระเจ้าค่ะ” ช่าย นอกจากประไหมสุหรีมเหสีเอกแล้วก็มีมเหสีรอง มะเดหวี มะโต ลิกู เหมาหลาหงี กราบป้าๆ เค้าสิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2009, 05:58:56 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**

ออฟไลน์ กาฬฯ

  • *
  • 6333
  • -4
  • เพศ: หญิง
  • ஐ~ เผ่าพันธุ์นาคีซ่อนพิษไว้เสมอ ~ஐ
Re: เล่าเรื่อง ❉อิเหนา❉
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 05:58:14 PM »
ดาหยนไหว้ทุกคน (ชวาจะไหว้โดยกางข้อศอกออก) ก่อนจะหันมาทางนางบาหยัน “แล้วทูลหม่อมป้าพระองค์นั้นล่ะตำแหน่งอะไร” นางบาหยันตกใจ องค์กุเรปันหัวเราะ แนะนำว่าตำแหน่งพระบาหยันเป็นพระพี่เลี้ยงของประไหมสุหรี “มิน่า ตอนแรกชายก็นึกว่าสงสัยทูลหม่อมลุงคงจะไม่โปรดถึงให้นั่งกับพื้น” ทุกคนหัวเราะ





เมืองหมันหยา
ประไหมสุหรีก็บ่นถึงดาหยน ป่านนี้เป็นไงบ้างไม่รู้ ระตูหมันหยาบอกไม่ต้องห่วงหรอกคงเหมือนอยู่ที่นี่ ที่นู่นก็ญาติๆ กันทั้งนั้น ดาหยนก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ประไหมสุหรีก็ยังอดห่วงไม่ได้ ก่อนจะวางพระธิดาลงในเปล





ฝ่ายดาหยนก็สนุก ไกวเปลให้น้องพระโอรสกรุงกุเรปัน ไกวไปไกวมาก็หลับตามน้อง (เด็กที่เล่นเป็นดาหยนตอนเด็กน่ารักถูกใจกาฬจริงๆ :icon_evil:)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2009, 05:59:33 PM โดย กาฬรหัสย์ »
**จักรวาลนี้กว้างไกลแลไพศาลนัก เราเป็นเพียงละอองธุลีอันน้อยนิดล่องลอย ยากที่จะเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งให้จบครบสิ้น
สิ่งที่เรามิเคยเห็น ใช่ว่าจะมิมี แลสิ่งที่มิเคยได้ประสบ ก็ใช่ว่าจะมิเคยเกิดขึ้น**