ยินดีต้อนรับสู่บ้านอบอุ่นของคนรัก บอย สพล ชนวีร์

เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #225 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 03:24:29 PM »
หมื่นเวคินพอได้รับคำสั่งก็ออกเดินทางมาพร้อมด้วยหัวหมู่ดินดำและดินแดง หัวหมู่ดินดำถามว่า ท่านหมื่นถ้าพรานสันติอยู่ในป่าอาถรรพ์จริง
ท่านจะบุกเข้าไปตามเลยมะ ไม่อ่ะคราวที่แล้วที่พวกเราเข้าไปและรอดออกมาได้เพราะมีผู้นำ องค์เหนือหัวทรงเป็นผู้นำเสด็จ ดินแดงถามว่า
แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดี ดินดำบ่นว่า พรานสันตินี่ก็แปลกชอบทำตัวลึกลับซับซ้อนบ้านช่องไม่อยู่แต่ชอบอยู่ป่าอาถรรพ์



ระหว่างเดินไปบ่นไปหัวหมู่ดินแดงก็บอกว่า เดี๋ยวหยุดพูดก่อนได้ยินเสียงอะไรมั๊ย...คุ้นมั๊ย  เออวะคุ้นมากเลย  มันจะไม่ให้คุ้นได้ยังไงมัน
มานู่นแล้ว  นกยักษ์ที่บินลาดตระเวนแถวป่าอาถรรพ์ได้กลิ่นสาปมนุษย์จึงตรงมาที่ทั้งสามคนอยู่  สามทหารผู้จงรักภักดีวิ่งกระเจิดกระเจิง
หนีเอาตัวรอดอย่างไม่คิดชีวิต หมื่นเวคินสั่งว่า เฮ้ยพวกเอ็งรอข้าด้วยข้าเป็นเจ้านายต้องให้ข้านำสิ  ไม่เกี่ยวใครนายใครลูกน้องใครช้าก็ถูก
นกยักษ์กินไปสิ



เมื่อหนีกันจนมาพ้นเขตป่าอาถรรพ์แล้วทุกคนก็พากันนั่งพักเหนื่อย หัวหมู่ดินแดงพูดว่า พวกเราคงรอกกันแล้วเนอะท่านหมื่น ไม่มีเสียงตอบ
รับจึงหันไปดูเห้นหมื่นเวคินนอนนิ่งจึงรีบเข้ามาเขย่าตัวแต่ยังนิ่งเลยฟังเสียงหัวใจแล้วร้องว่า ดินดำท่านหมื่นตายแล้ว  ท่านหมื่นผวาลุกขึ้นมา
โวยทันที เฮ้ยข้ายังไม่ตายเฟ้ย  หัวหมู่ดินดำออกความเห็นว่า พวกเราคงต้องกลับกันก่อนไอ้นกยักษ์มันเล่นมาหากินบริเวณตะเข็บป่าอาถรรพ์
ด้านนอกแล้วต่อไปอีกมันนานมันคงมาหากินที่ดินแดนนนทจักรเป็นแน่  ทุกคนเห็นด้วย


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #226 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 03:40:52 PM »
หมื่นเวคินกลับเข้ามาทูลรายงานตามความเป็นจริง พระชนนีตรัสว่า ไม่เป็นไรวันนี้หาไม่พบอีกหน่อยก็ต้องหากันพบเราเองก็ทำความผิดกลับ
นางไว้มากถึงเวลาต้องชดใช้กรรมซะที  ท่านอำมาตย์ทูลว่า หม่อมฉันมีเรื่องนึงอยากจะทูลให้ทราบพระเจ้าค่ะ ตอนนี้หอหลวงถูกจับขังอยู่ใน
คุกหลวงส่วนขององค์ชายวิชิตชัย  อะไรนะนางมีความผิดอะไร  ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบพระเจ้าค่ะ  พระนางจึงรับสั่งว่า เทวีศรีอ้วนไปตามคุณท้าว
ส้มลิ้มมาพบเราเดี๋ยวนี้  เพคะ   ชักจะเหิมเกริมกันใหญ่แล้ว



เทวีและศรีอ้วนเข้าไปในตำหนักของอัคนีจึงโดนปัทมาแขวะว่า อุ๊ยตายแม่เทวีศรีอ้วนนึกยังไงข้ามแดนมาถึงนี่เลยยะ  อ๋อถ้าไม่มีรับสั่งก็ไม่ข้าม
มาหรอกย่ะ  รับสั่งของใครอัคนีเดินเข้ามาพอดีจึงถาม ก็พระชนนีมีพระประสงค์จะให้คุณท้างส้มลิ้มเข้าเฝ้าเพคะ คุณท้าวส้มลิ้มหันมาหาคนช่วย
พระมเหสีเพคะพระชนนีมีรับสั่งให้เฝ้าแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่  ไม่เป็นไรคุณท้าวเราจะไปเฝ้าเสด็จแม่ด้วย ปัทมาโมรีจัดผลไม้นำไปถวายพระชนนี



เทวีกับศรีอ้วนกลับมากราบทูลว่า พระมเหสีบอกว่าจะตามมาเฝ้าด้วยพระองค์เองแถมรับสั่งว่าจะจัดผลไม้มาถวายด้วยนะเพคะ คุณท้าวพยอม
ร้องว่า อย่าเสวยเด็ดขาดเลยนะเพคะ  ทำไมล่ะคุณท้าวพยอมรึกลัวว่าจะมียาพิษอัคนีเดินเข้ามาแล้วคำความเคารพ หม่อมฉันไม่ได้มาเยี่ยม
เสด็จแม่ตั้งนานหวังว่าคงสบายดีนะเพคะ  บอกแล้วไงว่าเราไม่ได้เป็นแม่เจ้า งั้นเรียกเสด็จป้าก็ได้หม่อมฉันเอาผลไม้มาถวายเพคะ ไม่เราไม่
ต้องการของๆพวกเจ้า  กลัวจะมียาพิษเหรอเพคะอุ๊ยตายใครจะกล้าทำแบบนั้นได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2009, 03:49:47 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #227 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 04:18:10 PM »

มันก็ไม่แน่หรอกนะเรื่องสกปรกกว่านี้พวกเจ้ายังทำกันมาแล้วอย่งไม่ละอาย เราต้องการพบแค่คุณท้าวส้มลิ้มทำไมต้องแห่กันมาด้วย ไม่ใช่
ความคิดของหม่อมฉันนะเพคะคุณท้าวส้มลิ้มออกตัว  อัคนีจึงทูลว่า แต่มันเป็นความคิดของหม่อมฉันเองได้ยินว่าเสด็จป้าเรียกคุณท้าวส้มลิ้ม
มาที่นี่มีอะไรเหรอเพคะ  พระชนนีเลยรับสั่งว่า ความจริงเราจะถามส้มลิ้มแต่เจ้ามาก็ดีแล้วได้ข่าวว่าหมอหลวงถูกขังเค้าทำอะไรผิดเหรอ



หมอหลวงให้ยาหม่อมฉันผิดหม่อมฉันเกือบตายแค่กักขังก็ลงโทษเบาแล้ว แต่หมอหลวงเป็นคนของเราจะมีการลงทัณฑ์ใดๆต้องให้เราสอบ
สวนก่อน ไม่ใช่เพคะหมอหลวงเป็นคนของเสด็จพี่จุลนีย์ก็เท่ากับเป็นคนของหม่อมฉันด้วยหม่อมฉันมีสิทธิ์ลงโทษได้ถ้าเสด็จป้าคล่องพระทัย
ก็รับสั่งถามเอาจากเสด็จพี่จุลนีย์เอาเองหม่อมฉันทูลลาเพคะ พระชนนีตรัสว่า นังงูพิษไม่รู้แต่ก่อนเมตตาเอ็นดูมันได้ยังไง



องค์ชายวิชิตชัยบอกลูกว่า ไว้ชีวิตมันไปก่อนต่อไปมันอาจจะทำประโยชน์อะไรให้เราก็ได้ นังหมอหลวงมันถูกขังอยู่ในคุกของเราใครที่ไหนจะ
กล้าจะให้จุลนีย์ออกคำสั่งเหรอไม่มีทางเพราะลูกควบคุมทุกอย่างไว้หมดแล้ว  เสด็จพ่อเพคะพอพูดถึงเจ้าพี่จุลนีย์เห็นเมื่อวานทรงบ่นว่าฝันแปลกๆ
เพคะอะไรนะฝันกลางวันเหรอฝันว่ายังไง เจ้าพี่ฝันว่านังปทุมมาเอาหม้อดินใส่ปลิงสี่ตัวมาให้พอทุ่มหม้อทิ้งกลายเเป็นเด็กสี่คนแทนหม่อมฉันถึง
อยากจะกำจัดทุกคนที่รู้เรื่องนี้ซะให้หมด  พรุ่งนี้เช้าพ่อจะให้คุณท้าวส้มลิ้มไปตรวจดูว่าสำเร็จมั๊ยวิชิตชัยบอก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2009, 04:19:05 PM โดย bobenz »

ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #228 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 04:32:41 PM »
ที่เรือนตากับยาย ตาเกินมาเห็นตระกร้าขนมวางอยู่จึงเอามือเปิดฝาตระกร้าก็ฉวยขนขึ้นมาหนึ่งชิ้น นั่นตาแกจะขโมยขนมหลานเหรอ เปล่าฉัน
แค่จะตรวจดูว่ามันเสียแล้วรึยัง แกไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะถ้าฉันมาไม่ทันแกก็กินไปแล้ว ตาจ๋ายายจ๋าหนึ่งมาแล้วจ้า จากนั้นหนึ่งสองสามสี่
ก็วิ่งขึ้นเรือนมากอดยาย อ้อกลับมาแล้วเหรอไปล้างมือกันก่อนเดี๋ยวค่อยมากินข้าวกินปลากัน



ตาบอกว่า เห็นมั๊ยล่ะยายฉันบอกแล้วอีกเดี๋ยวพวกมันก็กลับมา ก็ฉันเป็นห่วงนี้กลัวมามันจะไปหลงป่าเหมือนเมื่อวานไง โอ๊ยไม่ต้องเป็นห่วงเด็ก
พวกนี้มันฉลาดเหมือนข้าหลงก็แค่ครั้งเดียวคราวต่อไปต่อให้หลับตาเดินพวกมันก็ไม่หลงเชื่อฉันสิ



เมื่อกินข้าวกินปลากันเสร็จแล้วยายก็ไปหิ้วตระกร้าขนมมาแล้วบอกว่า อ้าวนี่ขนมมลูก ขนมอะไรเหรอยาย ทุกคนแปลกใจ นี่ขนมจากในวังนะ
เป็นบุญของพวกเอ็งแล้วพระมเหสีทรงพระเมตตาประทานขนมมาให้พวกเอ็งเลยนะ อ้าวเจ้าสี่ลองซักชิ้นนึงลูก


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #229 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 10:15:07 AM »
สี่ทำท่าจะจะกินแต่กับไม่กินยายจึงถามว่า ทำไม่กินล่ะเจ้าสี่  ไม่ใช่สี่ไม่อยากกินหรอกนะแต่ตากับยายเป็นผู้ใหญ่สี่ก็ต้องให้ตากับยายกินก่อน
ตารีบเสริม เห็นมั๊ยล่ะเจ้าสี่มันน่ารักรู้คุณ  แกไม่ต้องมาทำเป็นชมหลานเลยนะถึงยังไงฉันก็ต้องให้หลานกินเพราะพระมเหสีกำชับมา ตาก็บ่นว่า
ข้ารู้น่าข้ารอได้ แต่สี่ก็ยังไม่กินอยู่ดี  อ้าวทำไมอีกล่ะ  ยายถาม สี่บอกว่าเอางี้พวกเรากินพร้อมๆกันเลยดีมั๊ย



ดีเลย พวกพี่ๆที่เหลือออกความเห็นยายจึงว่า เอาเลยใครจะกินก่อนกินหลังก็ตามสบายเลย สี่กุมารกรูกันเข้ามาหยิบขนมไปกันคนละอันก่อน
จะส่งขนมอันหอมหวานเข้าปากก็มีเสียงทักของใครบางคน จ๊ะเอ๋....  เด็กสี่คนตาตั้งปีนหน้าต่างหนีเข้าบ้านทันที เอ๊ะมันกลัวอะไรกันตา ยาย
ดูนั่น และแล้วทั้งตากับยายก็ช็อคหมดสติกันไปทั้งคู่



ส่วนจุลนีย์หลังจากตอนกลางวันฝันแปลกแล้วยามตกกลางคืนก็เกิดนิมิตรแปลกเช่นเดิม โดยสุบินว่าตนเองได้ไปเดินในสวนดอกไม้ที่บ้านของ
ใครก็ไม่รู้ดอกไม้สวยงาม จึงตะโกนเรียกว่า มีใครอยู่ข้างในบ้าง  เรียกให้ตายก็ไม่มีใครตอบรับ


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #230 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 10:39:30 AM »
จากนั้นก็กลับมาที่ตำหนักซึ่งอัคนีก็นั่งรออยู่แล้วตรัสถามว่า เจ้าพี่ไปไหนมาเพคะ เมื่อนางเดินเข้าใกล้ก็ร้องอย่างตกใจ เจ้าพี่ จุลนีย์ก้มลง
สำรวจตัวเองก็พบว่ามีปลิงเกาะติดขามาสี่ตัว ด้วยความรังเกียจจึงขว้างทิ้ง และปลิงก็กลายเป็นเด็กน่ารักสี่คนเหมือนเดิมพร้อมทั้งก้มลง
กราบแทบเท้าพระองค์อย่างนอมน้อม



จุลนีย์วาตื่นขึ้นมากลาดึกทันทีอัคนีก็ตื่นขึ้นมา เจ้าพี่เป็นอะไรไปเพคะ อัคนีพี่ฝันเห็นปลิงกับเด็กสี่คนนั้นอีกแล้ว  เจ้าพี่อาจจะทรงงานหนัก
และเก็บเอาไปฝันก็ได้นะเพคะ แล้วทำไมพี่ถึงฝันเห็นเด็กสี่คนนั้นในวันเดียวกันด้วยล่ะ เจ้าพี่ฝันเห็นหน้าพวกมัน..พวกเค้าด้วยเหรอเพคะ
ไม่พี่เห็นไม่ชัดแต่ความรู้สึกมันบอกว่าใช่คนเดียวกัน เจ้าพี่นอนต่อเถอะนะเพคะ



กระท่อมหลังนั้นถ้าพี่ได้เห็นอีกครั้งพี่คงจำได้แน่นอน น้องว่าเจ้าพี่นอนก่อนนะเพคะพรุ่งนี้น้องจะให้ทหารไปสืบความมาให้ทรงนอนพักผ่อน
ก่อนเถอะนะเพคะ จุลนีย์จึงก้มลงนอนอีกครั้งด้วยความคิดสงสัยส่วนอัคนีก็คิดกังวล


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #231 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 10:57:57 AM »
เช้าวันรุ่งขึ้นคุณท้าวส้มลิ้มได้รับคำสั่งให้ตามไปดูผลงานที่เรือนตายาย เมื่อไปถึงเห็นตากับยายช่วยกันตัดกิ่งดอกไม้เพื่อขายปกติจึงแปลก
ใจ หลานตายทั้งทียังมีแก่ใจตัดดอกไม้ขายกันอีกเหรอ  เมื่อยืนมองด้วยความสงสัยได้ไม่นานยายก็เหลือบมาเห็นเข้าพอดี ตามานี่เร็วคุณ
ท้าววันนี้เสด็จมารับดอกไม้ด้วยตัวเองเลยเหรอจ๊ะ  เอ่อไม่เอานะยายทีหลังอย่าพูดทำว่าสเด็จอีกฉันไม่ชอบพูดธรรมดาก็ได้ฉันไม่ถือตัว
หรอก จากนั้นก็มองซ้ายแลขวาเออแล้วหลานแกล่ะหายไปไหนหมด



ตาจึงตอบว่าอ้อรอซักครู่นะ  นั่นไงมากันแล้วพึ่งจะตื่นนอนกัน  คุณท้าวส้มลิ้มมองอย่างตะลึง  อ้าวเป็นอะไรไปคุณท้าวพระเนตรแข็งเชียว



อัคนีกริ้วมากเมื่อรู้คำตอบ ไม่ตายเป็นไปได้ยังไงกันทำไมมันถึงไม่ตาย มันจะตายไม่ตายหม่อมฉันก็ไม่รู้แต่ที่รู้มันยังมีลมหายใจอยู่ เป็น
ไปได้ยังขนมของหม่อมฉันทำจากอสรพิษร้ายถ้ากินต้องตายมันไม่ตายแปลว่ามันไม่กิน คุณท้าวบอกว่า มันจะกินไม่กินฉันไม่รับรู้แต่มัน
ยังไม่ตาย อัคนีรำคาญหยุดเดี๋ยวนี้นะหยุดทั้งสองคนนั่นแหละใช้ไม่ได้ไม่ได้เรื่องทั้งคู่เลย


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #232 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 11:16:17 AM »
อัคนีไปบอกกับวิชิตชัยผู้เป็นบิดา องค์ชายวิชิตชัยบ่นว่า เป็นไงล่ะเหลวอีกตามเคยพ่อก็นึกว่าลูกจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วซะอีก ท่านพ่อ
อย่าได้ทรงเยาะเย้ยลุกสิเพคะไอ้เด็กบ้าพวกนี้ทำไมมันถึงได้ตายยากตายเย็นแบบนี้ก็ไม่รู้ บางทีเราใช้อุบายซับซ้อนเกินมันถึงได้พลาดเอา
แบบตื้นๆดูบ้างเผื่อจะได้ผล ท่านพ่อรู้วิธีแล้วใช่มั๊ยเพคะ



ส่วนพระชนนีกำลังยืนเม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดในใจว่า จุลนีย์แม่ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะช่วยลูกให้พ้นจากมนต์มารได้ในเมื่อ
แม่ไม่มีโอกาสเข้าใกล็ลูกได้เลยอีกทั้งพรานสันติก็ตามตัวไม่พบอีกต่างหาก คุณท้าวพยอมทูลว่า พระชนนีเพคะหม่อมฉันซาบซึ้งใจในพระมหา
กรุณาธิคุณไม่ได้เพคะแม้ยามนี้หม่อมฉันตกยากยังพระกรุณาชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี เจ้ามีเรื่องอะไรก็พูดมา ก่อนหน้าที่สามีหม่อมฉันจะเสียเค้าได้
สอนวิธีผูกดวชะทำนายทายทักให้บ้างแม้ไม่แม่นเท่าก็ตาม



ก่อนหน้านี้หม่อมฉันได้กลับไปเอาดวพระชะตาพระมเหสีปทุมมามาตรวจดูเพื่อจะดูว่ามีเคราะห์กรรมอะไรนักหนาถึงได้คลอดลูกออกมาเป็นเอ่อ..
เจ้าจะพูดอะไรก็พูดมาไม่ต้องอ้อมค้อมพูดออกมาเลย เมื่อหม่อมฉันตรวจดวงพระโอรสดูแล้วดวงชะตาเป็นมนุษย์เพคะ เป็นมนุษย์ที่มีบุญญาธิการ
แต่ก็มีกรรมเป็นเครื่องน้อมนำเท่ากัน เจ้าหมายความว่าหลานของเราเป็นคน เพคะและยังมีพระชนม์ชีพอยู่เพคะ


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #233 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 11:39:28 AM »
หลังจากนั้นพระชนนีก็เรียกประชุมขุนนางผู้ภักดี ท่านอำมาตย์ทูลว่าหม่อมฉันพอจะนึกอะไรออกแล้วตอนนั้นหญิงใบ้หิ้วตระกร้าออกมา
หม่อมฉันถามว่าในตระกร้ามีอะไรแต่คุณท้าวส้มลิ้มก็ตอบหลีกเลี่ยงเป็นอื่นพระเจ้าค่ะ คุณท้าวพยอมเสนอว่า หม่อมฉันว่าหน้าจะให้คนที่
มีวิชาแม่นยำกว่าหม่อมฉันทำนายตรวจสอบอีกที พรานสันติตอนอยู่ที่ป่าอาถรรพ์พรานสันติก็ร่วมทำนายฤกษ์กับท่านโหรหลวงด้วยหมื่น
เวคินกราบทูลไปตามตรง



แต่หัวหมู่ดินดำทูลว่า แต่ตอนนี้พรานสันติพำนับอยู่ในป่าอาถรรพ์ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าอาสาจะไปตามจริงมั๊ยทานหมื่นเวคิน หัวหมู่ดินแดง
กล่าวเสริมว่าหม่อมฉันว่าเราพักเรื่องของพรานสันติไว้ก่อนดีกว่าตอนนี้ที่สำคัญกว่าคือตามหาตัวหญิงใบ้คนนั้นให้เจอเสียก่อน อำมาตย์
เห็นด้วย หม่อมฉันคิดว่าหัวหมู่ดินแดงพูดถูกเราต้องตามหาหญิงใบ้ในเจอก่อนที่จะถูกฆ่าปิดปากพระยะค่ะ พระชนนีตรัสว่าพวกท่านจัด
การเรื่องนี้ก็แล้วกัน ส่วนพวกเจ้าคอยระวังการสอดแนมของพวกวิชิตชัยอย่าให้ใครเข้ามาบริเวณตำหนักเราได้เด็ดขาด



ที่ตำหนักวิชิตชัยขุนวังมารายงานว่า ที่ตำหนักพระมเหสีมีการเสริมกำลังเป็นพิเศษมันผิดปกติพระเจ้าค่ะ อีกทั้งมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
และยังมีส่งทหารไปตามหมู่นเพื่อตามหาใครซักคนด้วยนะพระเจ้าค่ะ เมื่อทั้งสามพลัดกันทูลตามลำดับอวุโสแล้ว วิชิตชัยถามว่าตามหาใคร
ไม่ทราบเกล้าพระเจ้าค่ะ คำตอบของขุนวังเล็กทำห้พี่และตัวเองโดนตบหน้าฉาดสองฉาด ไม่ทราบเกล้านี่แนะตอบมาได้ ส่วนขุนวังใหญ่กลาง
ก็ดีแต่พูดว่าผิดปกติสืบเรื่องมาได้แค่ครึ่งๆกลางๆไม่ได้เรื่อง  แม่ครูปราณีเข้ามาทักว่า พวกท่านขุนทำให้ขุ่นพระทัยอีกแล้วเหรอเพคะ


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #234 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 12:37:24 PM »
ก็ใช่น่ะสิใช้ให้ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง  แม่ครูปราณ๊จึงทูลว่า นี่เจ้าฟ้อนเพคะหลานชายหม่อมฉันที่ไปชุบตัวมาใหม่ตอนนี้มันพร้อมจะทำงาน
ถวายการรับใช้พระองค์แล้ว อื่มเอาล่ะเจ้าฟ้อนเรามีงานแรกจะให้เจ้าทำ จงไปสืบมาสิว่าพวกอำมาตย์บันทูนคิดจะทำอะไรกันอยู่ ส่วนพวก
เจ้าทั้งสามเรามีงานให้แก้ตัวใหม่ จงไปฆ่าไอ้เด็กสี่คนนั้นซะ  รับด้วยเกล้าพระเจ้าค่ะ



ยามเย็นของวันนั้นยายนั่งบ่นตาว่า ไอ้พวกนั้นมันเป็นอะไรนะถึงได้กลับบ้านมืดค่ำทุกวันเลยเพราะว่าแกให้ท้ายมันถึงได้เป็นแบบนี้ เค้าเรียก
ว่าสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต เพราะว่าแบบนี้ยังไงแกคอยดูนะวันนึงฉันจะแอบสะกดรอยตามพวกมันไปดูสิว่าแม่ปทุมอะไนนั่นหน้าตาเป็นยังไง
ไอ้พวกสี่คนถึงได้ติดอกติดใจกันนักหนา



สามขุนวังเมื่อได้รับพระบัญชาจากองค์ชายวิชิตชัยก็เที่ยวออกตามหาเด็กทันทีจนตกค่ำ พี่ใหญ่น้องเล็กมันหายไปไหนกันหมดแล้วมันจะผ่านมา
ทางนี้มั๊ยเนี้ยรอมันจนยุงกินเลือดจะหมดตัวอยู่แล้ว อย่าบ่นไปเลยน้องรองเมื่อกี้เราไปดูที่บ้านมันมาแล้วไม่มีใครอยู่และแถวนี้เป็นทางผ่านเพื่อ
กลับบ้านมันยังไงมันก็ต้องมา  เพียงครู่เดียวกลุ่มพี่น้องสี่กุมารก็พากันเดินมาทางนี้เพื่อจะกลับบ้าน


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #235 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 01:01:00 PM »
เมื่อเห็นเป้าหมายขุนวังก็ตัดเชือกจนตะข่ายตกลงมาคลุมร่างเด็กน้อยทั้งสี่ไว้ แล้วพวกตัวเองก็เดินกันออกมา เป็นยังไงล่ะไอ้เด็กพวกนี้
ขนาดแม่ครูปราณียังทำไม่สำเร็จแต่พวกเรากลับทำสำเร็จ ปล่อยพวกเรานะไอ้ผู้หญ่รังแกเด็ก ผู้ใหญ่หัวล้านอีกต่างหาก  อย่าร้องไปเลย
พี่หนึ่งน้องสี่ไอ้พวกนี้มันไม่ปราณีพวกเราหรอกเพราะพวกมันเป็นผู้ใหญ่ใจร้ายสองบอกทุกคน ไอ้พวกนี้พูดจาเหมือนผู้ใหญ่น้องเล็กน้อง
กลางเอามันไป จะให้เอามันไปยังไงอย่าบอกนะว่าให้แบกมันไปแบกไม่ไหวนะขุนวังกลางบ่น



สงสารเนอสี่กุมารคนพาลแกล้ง                        ถือว่าแรงมากกว่ามาผลักไส
ทั้งทุบตีอย่างนักเลงไม่เกรงใจ                         มัดเจ้าไว้ลากระหว่างกลางพนา
ปากร้องเรียกยายตาขอให้ช่วย                        ทั้งน้าปทุมด้วยได้ยินมั๊ยอยู่ไหนน้า
หลานตัวน้อยเจียนตายวายชีวา                        เขาจะฆ่าเสียให้ได้ใครช่วยที




ฝ่ายยายกับตารออยู่ที่เรือนก็เป็นห่วง นี่มันก็นานแล้วนา  ฉันว่าพวกมันไม่หน้าจะหลงทางซ้ำอีกแล้วนา  ตาเด็กมันก็คือเด็กวันยัค่ำนั่นแหละ
อ้าวงั้นฉันก็คงต้องเป็นคนออกไปตามพวกมันอีกตามเคย  แกน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะตา


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #236 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 01:24:47 PM »
เมื่อมาได้ไกลพอสมควรสามขุนวังจับเอาสี่กุมารมัดรวมกันไว้กับต้นไม้ใหญ่ ไอ้ผู้ใหญ่รังแกเด็ก  เด็กทั้งสี่ร้องเป็นเสียงเดียวกัน ขุนวัง
กลางถามว่าหนอยเล่นเอาฉันเหนื่อยแทบตายจัดการมันเลยมั๊ยพี่ใหญ่ อ้าวจัดการมันได้เลย เมื่อขุนวังใหญ่สั่งทุกคนก็ชักดาบรอทันที
สี่กุมารมองผ่านหลังพวกขุนวังทั้งสามไปจากนั้นก็พากันเป็นลม พวกขุนวังชอบใจ น้องรองน้องสามมันกลัวพวกเราจนเป็นลมไปเลย



สงสัยพวกเราคงน่ากลัวนะขุนวังกลางกล่าว ใช่ทั้งน่ากลัวและมีมีอำนาจขุนวังเล็กเสริม ฮี่ๆๆๆ  เสียงหัวเราะประหลาดทำให้ทั้งสามเย็น
วาบทันที ผะ...ผี แล้วขุนวังใหญ่กับกลางก็วิ่งไปคนละทิศละทาง เหลือแต่ขุนวังเล็กที่ก้าวขาไม่ออก อ้าวกลัวจนก้าวขาไม่ออกเลยเหรอ
เหน่งเล็กทำไมถึงชอบรังแกเด็กนักนะ อ้าวเดี๋ยวข้าช่วย แล้วก็ถูกจับโยนขึ้นฟ้าไป



จากนั้นน้าผีก็ตามหาอีกสองคน ขุนวังกลางที่วิ่งหนีเตลิดไปได้ยินเสียงพี่ใหญ่ของตนเอง น้องกลางอยู่ต้องไหนนี่พี่เองนะ  พี่ใหญ่น้องอยู่นี่
ใต้นไม้ใหญ่เจอรึยัง อ้อเจอแล้วโล้นเตียงโล่งเลยนะเหน่งกลางทำไมชอบรังแกเด็กนักนะ และแล้วก็มีชะตากรรมเหมือนน้องชาย


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #237 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 01:50:37 PM »
ส่วนขุนวังใหญ่อย่านึกนะว่าจะหนีพ้นเมื่อน้าผีห้อยตัวลงมายังกับไอ้แมงมุมแล้วกระโดดเกาะหลังขุนวังใหญ่ วิ่งทั่วป่าจนเป็นลม



ส่วนสี่กุมารเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าเชือกหลวมก็เลยแก้มัดออกมาได้ยินเสียงเรียกให้ช่วย ไอ้หนูช่วยฉันลงไปจากต้นไม้หน่อย อ้าวแล้วขึ้น
ไปได้ยังไงสองร้องถาม อย่าถามเลยเอาเป็นว่าช่วยฉันลงไปหน่อยนะ ไม่มีทางช่วยให้ลงมาฆ่าพวกเรางั้นเหรอสามว่า สมน้ำหน้ากะลา
หัวเจาะสี่เยาะแล้วทุกคนก็เยาะเย้ยตาม โธ่ไม่ช่วยยังมาเยาะเย้ยอีก



น้าผีเดินตามาที่เด็กๆแล้วทักว่า ฟื้นกันแล้วเหรอไอ้หนู  สี่กุมารตกใจกลัวน้าผีจริงบอกว่า อย่าได้กลัวข้าเลยไอ้หนู เป็นผีจะไม่ให้กลัวได้ไง
สองหันไปบอกว่า บางทีเค้าอาจจะไม่มีเจตนาจะทำร้ายเราก็ได้นะ  คุณมาช่วยพวกเราเหรอสามถาม  ใช่แล้ว  งั้นผีดีๆก็มีสิผีที่ชอบช่วยเหลือ
คนแบบน้าไง อ้าวเจ้านี่นับญาติเลยแฮะน้าก็น้ามีก็เหมือนกับคนนั่นแหละมีทั้งที่ดีและไม่ดีสุดแต่จะเลือกคบไปกลับกันได้แล้วตายายเป็นห่วง
แย่แล้ว  ทุกคนก็หันมาปรึกษากันไปกันเถอะไป


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #238 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 02:05:51 PM »
น้าผีเดินนำเด็กมาจนใกล้ถึงบ้าน น้าส่งพวกเอ็งได้แค่นี้ตาของพวกเจ้าออกมาตามแล้ว น้าผีไม่ไปเยี่ยมตากับพวกเราเหรอจ๊ะตาต้องดีใจแน่เลย
น้าว่ามันจะตรงกันข้ามสิเจ้าสี่  งั้นหนึ่งกราบลาน้าตรงนี้นะจ๊ะ สองด้วยจ้า สามก็ด้วย สี่สัญญาต่อไปจะไม่กลัวผีอีกแล้ว  ดินมาพักใหญ่ตาก็หยุด
ตะโกนเรียกหลาน เจ้าหนึ่งเจ้าสองเจ้าสามเจ้าสี่  สี่กุมารวิ่งมาหาตา ไปไหนกันมาเห็นทีต่อไปนี้ต้อห้ามมาเที่ยวป่าซะแล้วล่ะมั้ง



ทางด้านเจ้าฟ้อนก็เริ่มงานแรกหลังจากลอกคราบมาแล้วด้วยการออกตามหานางใบ้และก็เจอที่ตลาดจึงสะกดรายตามไป



นางใบ้เมื่อเดินไปได้พักนึงก็รู้สึกเหมือนมีใครติดตามก็เร่งฝีเท้าหนี แต่ฟ้องมีฤทธิ์เหนือคนธรรมดากระโดดทีเดียวมาดักหน้าและก็ลงมือสังหาร
หญิงใบ้ตายภายในครั้งเดียว


ออฟไลน์ bobenz

  • *
  • 5780
  • -1
Re: เล่าเรื่อง^0^สี่ยอดกุมาร
« ตอบกลับ #239 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 11:00:25 AM »
เมื่องานชิ้นแรกสำเร็จก็กลับมารายงานองค์ชายวิชิตชัยเจ้านาย วิชิตชัยพอพระทัยตรัสว่า แม่ครูเจ้าทำยังไงเจ้าฟ้อนมันถึงได้โหดเยมผิดเป็น
คนละคนไปเลย  อ้อไม่มีอะไรมากหรอกเพคะเจ้าฟ้อนมันก็มีสายโลหิตเดียวกับหม่อมฉันอยู่แล้ว แค่ถ่ายเลือดของหม่อมฉันเข้าไปเท่านั้น
วิชิตชัยหัวเราะชอบใจฟ้อนทูลว่า ต่อไปไม่ว่าพระองค์ต้องการประสงคสิ่งใดหม่อมฉันจะจัดการให้แค่บอกมาคำเดียวเท่านั้น



วิชิตชัยตรัสตอบไปว่า ใจเย็นๆเจ้าหมื่นฟ้อนไม่ต้องห่วงเพราะเรายังมีนอีกมากมายที่จะเป็นบททดสอบความสามารถเจ้าอยู่แล้ว ทีนี้ก็เหลือ
แต่เจ้าขุนวังสามคนนั้นที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะไว้วางใจได้ซะที  แม่ครูปราณีบอกว่า พวกนั้นพระองค์ก็เก็บไว้ใช้ในอีกระดับนึงเพราะหม่อมฉันไม่
สามารถที่จะถ่ายเลือดให้ได้เพราะมันคนละสายกัน



ส่วนพวกขุนวังทั้งสามเมื่อไม่มีใครช่วยก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง ขุนวังใหญ่และขุนวังกลางมาเป็นกำลังใจให้ขุนวังเล็กลงจากต้นไม้ ลงมาเร็ว
พี่ช่วยรองรับด้านล่างไว้แล้ว  พี่ใหญ่พี่กลางช่วยน้องเล็กด้วย  สุดท้ายก็ตกลงมากระแทกพวกพี่ๆ  ขุนวังใหญ่บ่นว่า โอ๊ยเจ็บไปหมดทั้งตัว
กระดูกหักหมดแล้ว  พี่ใหญ่อย่าบ่นได้มั๊ยน้องเล็กถูกทับต้องเป็นคนบ่นสิ  ขุนวังกลางบอกว่า อย่าพึ่งบ่นเรามาหาวิธีกราบทูลองค์ชายวิชิตชัย
เพื่อไม่ให้กริ้วเถอะไม่รู้ไอ้ผีนรกมันหลุดมาจากขุมไหน